สายพระป่าพระกรรมฐานพระทั่วไปเครื่องรางของขลัง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย wasan112, 29 มกราคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ

    IMG_25680202_095016.jpg IMG_25680202_095030.jpg เหรียญหลวงปู่ทิมปี 16 ออกวัดยายร้า
    เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2025
  2. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ


    รูปหละงตะกรุดหลวงพ่อมุม
    เปิดให้บูชา 499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาท
    IMG_25680202_102410.jpg IMG_25680202_102359.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2025
  3. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    หลวงปู่ศุขพิมพ์รัศมี
    เปิดให้บูชา 2499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    มีจารเก่าด้นหลังครับ
    IMG_25680202_094709.jpg IMG_25680202_094724.jpg
     
  4. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้ว7ครับ



    เหรียญแตงโมหลวงพ่อเกษม ปี17
    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_20250202_092203.jpg IMG_20250202_092208.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2025
  5. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ


    IMG_25680202_193513.jpg IMG_25680202_193503.jpg หรียญ หลวงปู่มั่น หลัง หลวงปู่เสาร์
    รายละเอียด เหรียญ หลวงปู่มั่น หลัง หลวงปู่เสาร์
    เหรียญหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น ออกธรรมมงคล (พระอาจารย์วิริยังค์) กรุงเทพฯ เป็นเหรียญหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น แบบสุดท้ายที่ทำขึ้นมาปีพ.ศ. 2510 งานผูกพัธสีมาของวัดธรรมมงคล พร้อมกับเหรียญรูปเหมือนของท่าน เป็นงานพิธีใหญ่มีครูบาอาจารย์มาร่วมงานมากมายอาทิ หลวงปู่ดุลย์,หลวงปุ่หลอด,อาจารย์วัน,ฯลฯ เป็นเหรียญเนื้อทองแดง สภาพพอสวยครับ
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2025
  6. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    รูปหล่อหลวงพ่อโสธรปี10ก้นกลึงกริ่งดังฟังชัด
    เปิดให้บูชา 999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_25680206_123828.jpg IMG_25680206_123842.jpg IMG_25680206_123842.jpg IMG_25680206_123853.jpg
     
  7. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ

    พระผงประจำวันเกิด หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี สร้างเมื่อปี 2519 วัตถุประสงค์เพื่อนำมาแจกโดยเฉพาะในปี 2520 ด้านหน้าเป็นพระประธานประทับในใบโพธิ์ เป็นพระประจำวันพฤหัส ด้านหลังเป็นยันต์ตรีนิสิงเห มี 2 เนื้อ เนื้อผงใบลานสร้างจำนวน 10412 องค์ เนื้อผงเกสร สร้างจำนวน 2000 องค์ สำหรับองค์นี้ เป็นเนื้อผงเกสร พิมพ์ติดชัด สภาพสวยไม่ผ่านการใช้
    เปิดให้บูชา 5999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับองค์นี้เจ้าของเดิมเลี่ยมกรอบทองมาแกะทองออกเนื่องจากกรอบมีการใช้จนสึกสภาพพระสวยสมบูรณ์ครับ
    IMG_25680211_110953.jpg IMG_25680211_111005.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2025
  8. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ

    IMG_25680211_114650.jpg IMG_25680211_114659.jpg IMG_25680211_112917.jpg เตารีดหลวงปู่ปี05บล๊อกคางขีด
    เปิดให้บูชา 9999 บาทครับ
    IMG_25680211_112836.jpg IMG_25680211_112849.jpg IMG_25680211_112905.jpg IMG_25680211_112929.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2025
  9. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    อธิบาย
    พระชัยวัฒน์จีนตั๊กม้อ เนื้อโลหะผสมทองม้าฬ่อ วัดกวงซิ่ว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ปี 2537 จำนวนสร้างราว 49,999 องค์ ตอกโค๊ตใต้ฐาน ปลุกเสก 2 พิธีใหญ่ 2 แผ่นดินไทย-จีน ทางวัดกวงซิ่ว เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์ไทย–จีน แห่งประเทศไทย จัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ รุ่น “ตั๊กม้อ” ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนพระกริ่งจีนองค์แรกที่มีอายุ 1,930 ปี โดยมีพิธีทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

    โดยมีพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ณ อุโบสถ วัดกวงซิ่ว (สำนักสงฆ์ตั๊กม้อ) เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 4-5 กันยายน 2537 โดยมีพระพุทธิรังสี วัดโสธร เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย พระเถระชาวไทย ชาวธิเบต ชาวฮั่น ชาวมองโกเลีย และพระเถระชาวจีนกว่า 500 รูป ทำพิธีตลอด 7 วัน 7 คืน

    หลวงพ่อเปิ่น เมตตาอธิษฐานจิตที่วัดบางพระ และพุทธาภิเษกครั้งที่สอง ณ อุโบสถ วัดสุทัศน์เทพวราราม ในวันที่ 11 ธันวาคม 2537
    เปิดให้บูชา 1499บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_25680211_115159.jpg IMG_25680211_115208.jpg IMG_25680211_115216.jpg IMG_25680211_115225.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2025
  10. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ


    IMG_25680211_183143.jpg IMG_25680211_183159.jpg เหรียญหน้าเณร ปี 16 หลวงพ่อเกษม เขมโก วัดเขาบ่อแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จำนวนการสร้าง 1200 เหรียญ โดยหลวงพ่อได้ใช้วิธีการปลุกเสกเช่นเดียวกับเหรียญกองพันเชียงใหม่ #โดยเป่ามนต์ไปที่เหรียญโดยตรง การออกแบบเหรียญด้านหน้า ได้ใช้รูปหน้าท่านตอนเป็นสามเณร เช่นเดียวกับเหรียญคะตึกรุ่น 3 ปี 16 ส่วนด้านหลัง ได้ใช้อักขระเช่น และ ตัว "นะ" เช่นเดียวกับเหรียญระฆัง อันลือชื่อ สามารถใช้แทน เหรียญหน้าเณรและเหรียญระฆัง ได้เลย เนื้อทองแดงปีหนึ่งกว่า แท้แท้ รับประกันพระแท้ และหายากครับ
    ด้านหน้า = ออกแบบตามพิมพ์เหรียญหน้าเณร รุ่น3 วัดคะตึก
    ด้านหลัง = ออกแบบตามเหรียญระฆัง ปี 16
    เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับหายากมากครับพร้อมตลับเงินครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2025
  11. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    เหรียญเงินหลวงพ่อเกษมปี26เหรียญเล็ก
    เปิดให้บูชา 1499 บาทครับ
    IMG_25680212_093145.jpg IMG_25680212_093145.jpg IMG_25680212_093155.jpg
     
  12. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ

    เหรียญพระอาจารย์ไฟบูรณ์เนื้อเงินปี37
    เปิดให้บูชา 2499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_25680212_093115.jpg IMG_25680212_093133.jpg
    IMG_25680212_102405.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2025
  13. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    IMG_25680212_093213.jpg IMG_25680212_093227.jpg #พระสมเด็จสรงน้ำหลังอุเนื้อพิเศษก้นครก หลวงพ่อเกษมเขมโก
    1 ใน 1000 องค์ พระสมเด็จสรงน้ำหลังอุ ปี 2530 เนื้อพิเศษ ก้นครก สร้างเพียง หนึ่งพันองค์ (ล้อพิมพ์สมเด็จหลังอุ ท่านเจ้าคุณนร ธมวิตถโก ปี2513 ) เป็นอีกพิมพ์ของพระสมเด็จ ที่สร้างและปลุกเสกโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก เนื้อก้นครกมีมวลสารที่หายากๆทั้งนั้นครับ ทั้งข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อ เศษพระผงมงคลเกษมทั้งสองรุ่นที่ชำรุดและเกษาของท่าน รวมถึง เศษพระผงสมเด็จบางขุนพรมที่แตกหัก นำมาบดละเอียดแล้วจึงนำ ก้านธูปภาวนาที่หลวงพ่อใช้ภาวนา ทุกวันพระนำมาโขลกละเอียดผสมลงไปในเนื้อมวลสาร จนเป็นชนวนหลักในการจัดสร้าง
    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
  14. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    เหรียญหลวงพ่อเกษม 2องค์
    เปิดให้บูชา 999 บาทค่าจัดส่ง50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ


    IMG_20250216_133008 (1).jpg IMG_20250216_133014 (1).jpg เหรียญหล่อรูปไข่ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง รุ่นสอง ปี ๒๕๓๙ รุ่นสร้างหอพระไตรปิฎก เนื้อนวะโลหะ
    [ รายละเอียด ]
    เหรียญหล่อรูปไข่ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง รุ่นสอง ปี ๒๕๓๙ รุ่นสร้างหอพระไตรปิฎก เนื้อนวะโลหะ ตอกโค้ดด้านหลังเหรียญ รุ่นนี้คือรุ่นไข่ ๒ บางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรุ่น ๓ เพราะปี ๒๕๓๔ ที่สร้างรุ่นจอบ ๒ ทางวัดไม่ได้สร้างรูปไข่ออกมา มาสร้างไข่ ๒ ตอนปี ๒๕๓๙ เป็นรุ่่นสร้างหอพระไตรปิฎก พร้อมกับพิมพ์เสมา หรือ พื้นที่เรียกว่าก้นแมงดาครับ เพราะฉนั้น รุ่นนี้จึงเป็นพิมพ์รูปไข่ รุ่น ๒ นั้นเอง ใน พ.ศ. ๒๕๓๙ สร้างเหรียญหล่อรูปไข่และเหรียญหล่อรูปเสมา (ย้อนยุค) รุ่นสร้างหอพระไตรปิฎก ประกอบไปด้วย ๑. เหรียญหล่อรูปไข่ ด้านหลังตัวหนังสือที่ระฤก ๒๔๗๘ ๒. เหรียญหล่อรูปไข่ ด้านหลังเจดีย์ ๓. เหรียญหล่อรูปเสมา ด้านหลังตัวหนังสือที่ระฤก ๒๔๗๘ มีเนื้อทองคำ เงิน นวะ ทองแดง สตางค์ นวะแก่ทอง ทองเหลือง จำนวนการสร้างทุกเนื้อรวมกันประมาณ ๘,๔๐๐ เหรียญ - เนื้อทองคำสร้างตามจำนวนการสั่งจอง ตอกโค๊ตด้านหลังเป็นเลข ๒ หลักยันต์ ด้านหน้าทุกเหรียญมีหมายเลขกำกับ เนื้อทองคำเท่าที่พบเห็นด้านหลังเป็นพิมพ์ตัวหนังสือที่ระฤก ๒๔๗๘ - ส่วนเนื้อสตางค์ และเนื้อนวะแก่ทอง ตอกโค๊ตไว้ที่ด้านหน้าเหรียญ เนื้อนวะแก่ทองนี้เป็นเนื้อที่เหลือจากการหล่อพระบูชา จัดเป็นเหรียญหล่อที่มีพุทธคุณสูงโดยเฉพาะในด้านคงกระพันชาตรี เป็นที่ยอมรับในวงการพระเครื่องมาอย่างยาวนานและเป็นเหรียญหล่อที่มีค่านิยมสูงสุดเหรียญหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งรุ่นแรกราคาไปไกลและหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน หากต้องการพึ่งพาพุทธคุณใช้รุ่นหลังแทนได้ในราคาไม่แพงมาก เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพงนับว่าเป็นเหรียญหล่อยอดนิยมที่มีค่านิยมสูงสุดในวงการเคียงคู่กับเหรียญจอบเล็กจอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลานมาช้านาน หลวงพ่อไปล่ท่านเป็นสุดยอดเกจิ เวลาปลุกเสกพระท่านชอบประเภทบินเดี่ยว เสกเดี่ยวด้วยเพราะมั่นใจในพุทธาคมอันแก่กล้า และ ก็ไม่เคยผิดหวัง เพราะ ประสบการณ์เหลือล้นเกินบรรยาย จนทำให้เหรียญหล่อของท่านขึ้นอันดับ1ของวงการมาโดยตลอด เหรียญรุ่นแรกของท่านไม่ว่าจะเป็นพิมพ์จอบ พิมพ์ไข่ ค่านิยมสวยๆองค์ละหลายๆล้านบาทครับ และหาของแท้ยากยิ่งในปัจจุบัน ออกจากวัดกำแพงโดยตรงในปี ๒๕๓๙ จะเห็นได้ว่าการสร้างเหรียญหล่อของวัดกำแพงนั้น ค่อนข้างเคร่งครัด ไม่ได้เน้นการโฆษณา หรือ เน้นแบบโปรโมท แต่เป็นการสร้างโดยเจตนาบริสุทธิ์และ พิธีกรรมที่เข้มขลังจริงๆ และจะเห็นไ้ด้ว่าตั้งแต่เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อไปล่ ที่ออกจากวัดในปีพศ ๒๔๗๘ ในสมัยหลวงพ่อไปล่ยังมีชีวิตแล้วก็ไม่เคยมีเหรียญรุ่น ๒ ออกมาอีกเลยจวบจนปี ๒๕๓๔ที่มีเหรียญจอบใหญ่ออกมา และ ในปี ๒๕๓๙ ที่มีการออกเหรียญรูปไข่ และ เหรียญทรงเสมา รุ่น ๒ ของหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพงออกมา พิธีการสร้างเป็นแบบปลุกเสกหมู่ ทำพิธีถูกต้อง และ ทำพิธีที่วัดกำแพง มีการอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพงมารับรู้และรับทราบในพิธีกรรมครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีการผสมชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งเหรียญเก่าๆรุ่นแรกในสมัยหลวงพ่อไปล่ยังมีชีวิต ผสมลงไปเป็นมวลสารอีกด้วย เนื้อหาที่ออกที่แนะนำให้จับตามองและน่าสะสม ที่ออกจากวัดในรุ่น2นี้จะเป็นเหรียญหล่อโบราณที่มีเนื้อหาดีมากด้วย เพราะคงจะมีมวลสารชนวนโลหะดีๆผสมอยู่มาก เนื้อจึงเข้มดำ สวยงาม ของหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ที่นับว่าเป็นเหรียญดีล้ำค่า ชนวนมวลสาร พิธีดีเยี่ยม และน่าใช้ไม่แพ้รุ่นแรก และ ใช้แทนกันได้อย่างสนิทใจ หายากน่าเก็บน่าใช้อีกละคราฟ ************************************************************************************************************************************************** เหนียวจนดัง "มีเหรียญหลวงพ่อไปล่วัดกำแพง ถึงไหนถึงกัน" แม้ก้อนหินข้างทาง ยังเสกให้ขลังได้ ทหารพกไปออกรบ ไม่โดนกระสุน แม้นัดเดียว หลวงพ่อไปล่ ฉันทสโร วัดกำแพง เมื่อครั้งที่ "หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง" และ "หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง" ยังมีชีวิตอยู่ เป็นที่ล่วงรู้ถึงกิตติศัพท์ของท่านทั้งสองว่า "สุดยอด" สมัยนั้นใครมีเหรียญวัดหนัง จะไม่กล้าแหยมกับคนที่แขวนเหรียญวัดกำแพง เจอกันครั้งใดก็กินกันไม่ลง เพราะ "เหนียว" ทั้งคู่ ประสบการณ์ของเหรียญทั้งสองวัดเด่นชัดในเรื่องคงกระพันชาตรี เป็นที่นิยมของนักเลงจริงในยุคนั้น เล่าขานกันว่า ขนาดโดนรุม ๑๐ ต่อ ๑ ยังรอดมาได้ ทั้งมีด ไม้ กระบอง ลูกซองปืนพก ไม่มีเลือดตกยางออกให้ได้เห็นแม้แต่น้อย ด้วยพุทธคุณอันลือลั่น และประสบการณ์อันลือเลื่องจึงทำให้เหรียญของท่านทั้งสองเป็นที่หมายปองของนักเลงพระ ส่งผลให้ราคาค่านิยมสูงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งปัจจุบันต้องพูดกันที่ "หลักแสน" ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเพราะว่ารูปแบบของเหรียญทั้งสองสำนักคงความเป็นเอกลักษณ์ที่งดงามด้านศิลปะที่คนรุ่นใหม่ไม่อาจเลียนแบบได้ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ชื่อเสียงอาจจะดังกว่าหลวงพ่อไปล่ เพราะเหรียญของท่านติดอันดับ "ท็อปไฟว์" ชุดเบญจภาคีเหรียญ แต่เรื่องเวทวิทยาคมต้องบอกว่า "ข่ม" กันไม่ลง ชาวบางขุนเทียนและคนฝั่งธนบุรียกนิ้วให้ว่า "ไม่ธรรมดา" ทั้งคู่ โดยเหรียญของหลวงพ่อไปล่นั้นมีคำขวัญว่า "มีเหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ใครจะมาฆ่าแกงก็ไม่ต้องกลัว ถึงไหนถึงกัน คงกระพันชาตรีดีนักแล" พระเทพสิทธินายก (หลวงพ่อเลียบ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เทเวศร์ และวัดเลา ซึ่งเป็นศิษย์อุปัชฌาย์องค์เดียวกัน เคยกำชับพวกนักเลงว่า อย่าไปเล่นกับท่านวัดกำแพงนะ ท่านเป็นคนจริง อย่าไปทำแหยให้ท่านเห็นเป็นอันขาด อาจจะหมดลายไปเลยทีเดียว ชื่อเสียงของท่านโด่งดังถึงขั้นถูกบรรจุเป็นคำขวัญของเขตบางขุนเทียนคือ "หลวงพ่อไปล่วัดกำแพง แหล่งเกษตรกรรม วัฒนธรรมมอญบางกระดี่ พื้นที่ทะเลกรุงเทพฯ" "หลวงพ่อไปล่" เกิดวันอังคาร เดือน ๖ ปีวอก พ.ศ. ๒๔๐๓ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหมู่ที่ ๖ ต.บางบอนใต้ อ.บางขุนเทียน จ.ธนบุรี เป็นบุตร นายเหลือ นางทอง นามสกุล "ทองเหลือ" ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่ออายุ ๘ ขวบ ได้ไปศึกษาหนังสือไทยและขอมกับหลวงพ่อทัต วัดสิงห์ ท่านเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญ ทรหดอดทน มีเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านบางบอนใต้เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่ กัดปลา ข้องอ้อย เป็นต้น เวลาวัดมีงานมักจะนัดตีกันเป็นประจำ ตัวท่านถูกพรรคพวกยกย่องให้เป็นลูกพี่ ทำให้บิดามารดาเกรงว่าจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล จึงขอร้องให้บวชพระให้สักหนึ่งพรรษา ท่านก็ไม่ขัดโดยเข้าอุปสมบทที่วัด กำแพง มี หลวงพ่อทัต วัดสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพ่วง วัดกก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "ฉันทสโร" หลังบวชแล้วท่านได้สนใจศึกษาทางธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง หลังจากบวชแล้ว "หลวงพ่อไปล่ ฉันทสโร" อยู่จำพรรษาที่วัดกำแพง กรุงเทพฯ ศึกษาพระธรรมวินัย ท่องบทสวดมนต์จนจบทุกบททุกคัมภีร์ จดจำได้แม่นยำ และเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ครบหนึ่งพรรษาแล้วเลยไม่ยอมสึก พอพรรษาที่ 2 ก็พยายามจนท่องพระปาฏิโมกข์ได้ และขอถ่ายทอดวิชาด้านกรรมฐานและวิปัสสนาธุระกับพระอุปัชฌายะและคู่สวดซึ่งล้วนแต่เชี่ยวชาญทางนี้ ด้านพุทธาคมได้เรียนวิชาเมตตามหานิยม เช่น ผง ๑๐๘ ขี้ผึ้งสีปากจากหลวงพ่อพ่วง วัดกก เรียนทางคงกระพันชาตรี ทำผ้าประเจียดแดงกับหลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง นอก จากนี้ ยังได้ไปขอเรียนวิชาไสย ศาสตร์เวทมนตร์ เช่น วิชาผูกหุ่นพยนต์จากหลวงพ่อคง อาจารย์รุกขมูลธุดงค์ จนมีวิชากล้าแข็ง แม้ท่านเก่งขนาดไหนแต่ไม่เคยคุยโอ้อวด ชอบดำรงตนแบบสมถะ ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ กวาดกุฏิเอง ของส่วนตัวทำเอง ไม่เคยใช้ให้ใครทำ ขยันในการทำวัตรสวดมนต์เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยชอบความมีระเบียบเรียบร้อย หลวงพ่อเลียบ วัดเลา" เคยสนับสนุนให้ท่านได้สมณศักดิ์เป็นพระครู ท่านกลับพูดเป็นคำคมว่า ฉันไม่อยากเป็น"ครูพระ"หรอก สอนตัวเองก็พอใจแล้ว เพราะการเป็น"พระครู" หมายถึงต้องเป็นครูสอนพระ นั่นเพราะท่านไม่ได้หวังเป็นใหญ่เป็นโตอะไร ไม่สนใจเรื่องยศช้างขุนนางพระตามคำกล่าวของคนโบราณ ส่วนตำแหน่งสมภารท่านก็ไม่เคยสนใจ แต่ขัดชาวบ้านไม่ได้ก็จำเป็นต้องรับ ใครมีลูกหลานส่วนใหญ่จะมาให้ท่านบวช เพราะเลื่อมใสศรัทธาในจริยาวัตรและอยากได้ของขลังของดีจากท่าน ปี พ.ศ.๒๔๗๘ คณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันบำเพ็ญกุศลฉลองอายุให้ท่าน ในงานนี้ได้ออกเหรียญรูปท่านเต็มองค์ห่มลดไหล่สมาธิ เป็นเหรียญหล่อทำรูปคล้ายจอบ ด้านหลังเหรียญมีอักษรไทยว่า "ที่ระฤก ๒๔๗๘" วันเทเหรียญปรากฏว่า สายสิญจน์ ในพิธีตกลงมาถูกเทียนชัยจี้อยู่จนหมดเวลาพิธี ปรากฏว่าสายสิญจน์ไม่ไหม้เป็นที่น่าตื่นเต้น เพราะขณะนั้นท่านนั่งปรกบริกรรมด้วยจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ ท่านชอบเสกเดี่ยว ไม่ค่อยไปร่วมพิธีกับใคร โดยกล่าวเป็นนัยว่า การไปรวมกันไม่รู้ว่าใครจะแน่ สู้เดี่ยวไม่ได้ และเหตุที่สร้างเหรียญรูปจอบ ก็เพราะจอบเป็นสัญลักษณ์เครื่องมือสำคัญในการเพาะปลูก ชาวสวนชาวนาต้องพึ่งจอบ ซึ่งเหรียญรุ่นนี้มีประสบ การณ์มาก ใครที่รับแจกไปห้อยคอสมัยนั้นรับประกันเรื่องความเหนียว มีดหรือปืนไม่ระคายผิวหนัง ถึงขนาดที่ว่าแมลงวันไม่ได้กินเลือด วัตถุมงคลของ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง กรุงเทพฯ นอกจากเหรียญจอบยอดนิยมแล้ว ยังมีเหรียญรูปไข่ สร้างเนื้อสัมฤทธิ์ และทองเหลืองฝาบาตร ที่ต้องทำเป็นเหรียญหล่อท่านบอกว่าพิธีเข้มข้นกว่าเหรียญปั๊มมาก และเหรียญรุ่นนี้ก็มีประสบการณ์ดังมาก คำขวัญของเหรียญมีว่า "มีเหรียญหลวงพ่อไปล่วัดกำแพงใครจะมาฆ่าแกงก็ไม่ต้องกลัว ถึงไหนถึงกันคงกระพันชาตรีดีนักแล" ต่อมาในงานล้างป่าช้าวัดกำแพง ท่านได้ออกเหรียญเป็นรูปพระพุทธ เนื้อโลหะทองเหลือง เรียกว่า "รุ่นล้างป่าช้า" ใช้ได้ผล มีคนนิยมมากเช่นกัน การแจกเหรียญของท่านไม่กะเกณฑ์ในเรื่องเงินทอง ใครจะทำบุญก็ทำ ใครจะมาขอฟรีท่านก็แจกให้ หลวงพ่อไปล่ท่านมีกระแสจิตกล้าแข็ง คราวหนึ่งเจ้าคุณพระพุทธพยากรณ์ (เจริญ อุปวิกาโส) วัดอัปสรสวรรค์ (วัดหมู) ศิษย์เอกองค์หนึ่งของพระภาวนาโกศลเถร (หลวงปู่เอี่ยม) วัดหนัง ได้มานิมนต์ให้ไปนั่งปรกในงานหล่อพระ ท่านบอกว่าให้บอกเวลามาว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไหร่ แล้วท่านก็นั่งทำสมาธิอยู่ที่กุฏิ โดยไม่ต้องเดินทางมาถึงวัด พอถึงเวลาปลุกเสก พระอาจารย์ที่นิมนต์มาจะเห็นร่างหลวงพ่อไปล่ปรากฏนั่งสมาธิอยู่ในพิธีด้วย เรื่องนี้เป็นที่โจษจันกันทั่วไป ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ลูกศิษย์คนหนึ่งถูกเกณฑ์ไปร่วมรบได้มาขอของดีจากท่านเพื่อเอาไปคุ้มครองตัว ท่านได้เสกก้อนหินข้างทางรถไฟให้หนึ่งก้อน ศิษย์คนนั้นเห็นแล้วจะไม่เอาก็เกรงท่านจะว่า จึงนำหินก้อนนั้นถักลวดแขวนคอติดตัวไปสนามรบ ปรากฏว่าไม่เคยมีอันตรายและไม่เคยป่วยไข้ ปืนในสนามรบยิงมาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกเลย หลวงพ่อไปล่ มรณภาพด้วยอาการอันสงบเมื่ออายุ ๗๙ พรรษา ๕๙ มีคนเล่าว่าแม้จะมรณภาพไปแล้ว หนังก็ยังเหนียว พวกสัปเหร่อเอามีดตบแต่งศพก็เฉือนไม่เข้า ต้องจุดธูปจุดเทียนบอกกล่าวขอขมา แม้กระนั้นก็ยังเฉือนไม่เข้า และศพก็แห้งไปเฉยๆ ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น ทั้งนี้ เพราะท่านรักษาศีลบริสุทธิ์นั่นเอง ในวันเผาศพมีผู้คนไปร่วมงานกันมากมายหลายจังหวัด ทั้ง คนใหญ่คนโต คนธรรมดาสามัญหลายชั้นวรรณะ และท่านได้แสดงอภินิหารให้เป็นที่ประจักษ์ โดยพวกศิษย์ได้นำพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ดอกไม้เพลิงมาจุด ปรากฏว่าด้านหมดเนื่องจากท่านไม่ชอบเสียงอึกทึกครึกโครม แต่พองานเลิกได้นำมาจุดใหม่ เกิดดังสนั่นหวั่นไหว กลายเป็นเรื่องเล่าขานมาจนทุกวันนี้ แม้แต่กระดูกขี้เถ้าก็ถูกยื้อแย่งกันอุตลุดจนไม่มีเหลือ ก็เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ สำหรับคาถาที่ หลวงพ่อไปล่ท่านภาวนาเป็นประจำคือ "คาถากำแพงแก้ว ๗ ประการ" ท่องว่า"พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สัตตะระตะมะปะการัง อัมมหากัง สะระณังคัจฉามิ สุสุละละโสโส นะโมพุทธายะ พุทโธพระบังธัมโมพระบัง สังโฆพระบัง" ให้ภาวนาก่อนนอนทุกคืน คุ้มภัยอันตรายได้ดี พวกศัตรูทำอะไรไม่ได้ วัตถุมงคลหลวงพ่อไปล่ที่ได้รับความนิยม เหรียญหล่อ'หลวงพ่อไปล่'แพงสุดอันดับ๒ของวงการ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ได้สร้างเหรียญหล่อโบราณที่วงการนิยมกันอย่างกว้างขวาง โดยแบ่งออกเป็น ๔ แบบ คือ ๑.เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ มี ๒ แบบ คือ ๑.เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ เนื้อฝาบาตร หรือเนื้อทองเหลือง พิมพ์มาตรฐาน และ ๒.เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ เนื้อสัมฤทธิ์ พิมพ์ชาวบ้าน ลักษณะเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อไปล่ นั่งขัดสมาธิราบ บนฐานชั้นเดียว รูปทรงจอบ มีเส้นโค้งนูน โดยรอบเหรียญ ๒ เส้น ปรากฏรายละเอียดบนใบหน้าพอประมาณ ครองจีวรเห็นรัดประคดชัดเจน ด้านบนเหรียญ มีหูหล่อในตัว ด้านหลังมีอักษรไทยนูนสูง เขียนว่า “ที่ระฤก ๒๔๗๘” หล่อด้วยเนื้อทองเหลือง (ฝาบาตร) เนื้อสัมฤทธิ์ และเนื้อขันลงหิน ๒.เหรียญหล่อพิมพ์รูปไข่ มี ๒ เนื้อ คือเนื้อสัมฤทธิ์ และเนื้อทองเหลือง หรือเนื้อฝาบาตร ลักษณะเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อไปล่ นั่งขัดสมาธิราบ บนฐานเขียง เห็นผ้าสังฆาฏิและรัดปะคดชัดเจน เป็นเหรียญรูปไข่ มีหูหล่อในตัว ด้านหลังมีอักษรไทยเขียนว่า “ที่ระฤก ๒๔๗๘” มีเรื่องเล่ากันว่า ในวันทำพิธีเททองหล่อเหรียญรุ่นนี้ ปรากฏว่า สายสิญจน์ในพิธีตกลงมาถูกเทียนชัย แต่สายสิญจน์ไม่ไหม้ เป็นที่มหัศจรรย์มาก โดยขณะนั้นท่านกำลังนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกด้วยจิตอันเป็นสมาธิแน่วแน่ ๓.เหรียญหล่อพิมพ์ห้าเหลี่ยม วงการเรียกว่า “รุ่นล้างป่าช้า” สร้างในวาระที่ท่านบูรณปฏิสังขรณ์ป่าช้าวัดกำแพง ซึ่งชำรุดเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธ ประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานบัว ๒ ชั้น อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีหูหล่อในตัว ด้านหลังมีอักษรขอม แปลเป็นภาษาไทยว่า “สุคโต” และมีตัว “อุ” ด้านบน หล่อด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ ๔.เหรียญหล่อพิมพ์เสมา เนื้อสัมฤทธิ์ (มีน้อยมาก) ลักษณะเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อไปล่ อยู่ในกรอบรูปเสมา มีห่วงหล่อในตัว ด้านหลังมีทั้งแบบหลังเรียบ และแบบหลังมีอักษรไทย เนื้อสัมฤทธิ์ เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ และ เหรียญหล่อพิมพ์รูปไข่ สร้างในปีเดียวกัน คือ พ.ศ.๒๔๗๘ ในวาระที่ท่านมีอายุครบ ๗๕ ปี โดยทำพิธีหล่อหลายครั้ง ตามความต้องการของลูกศิษย์ที่มาให้ช่างหล่อให้ เล่ากันว่า ช่างหล่อพระเป็นน้องชายแท้ๆ ของหลวงพ่อ หากมีลูกศิษย์นำเนื้อโลหะอะไรมาให้หล่อ ช่างก็จะหล่อให้ตามความประสงค์ และหลวงพ่อจะปลุกเสกให้เป็นคราวๆ ไป (ข้อมูลจากคุณบัณฑิต กรกนก) ส่วน เหรียญหล่อพิมพ์เสมา และ เหรียญหล่อพิมพ์ ๕ เหลี่ยม ไม่แน่ชัดว่า สร้างในปีใด การแจกเหรียญนั้น บางท่านเล่าว่า เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ ท่านไว้แจกผู้ชาย เหรียญหล่อพิมพ์รูปไข่ไว้แจกสตรี ส่วนเหรียญพิมพ์เสมา เนื้อสัมฤทธิ์ สำหรับแจกเด็ก พระพุทธคุณ เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ ทุกรุ่นทุกพิมพ์ขึ้นชื่อในเรื่องมหาอุด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม จนเป็นที่เลื่องลือทั่วไป และเป็นเหรียญหล่อโบราณที่ได้รับความนิยมสูง มีสนนราคาเช่าหาอยู่ที่หลักแสนปลายขึ้นไปจนถึงหลักล้าน โดยได้รับการจัดอันดับ เหรียญแพง ที่ ๒ รองจาก พระหล่อโบราณรูปเหมือน และ เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่-พิมพ์จอบเล็ก หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร
    เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2025
  16. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    เขี้ยวเสือหลวงพ่อสาย ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย(วัดมงคลโคธาวาส) เขี้ยวตัวนี้แกะจากเขี้ยวเสือซึ่งจะพบเจอและหายากมากๆ เพราะส่วนมากจะพบเจอที่แกะจากเขี้ยวหมีและกระดูกเป็นส่วนมาก แทบไม่มีให้เห็นในวงการ เขี้ยวเสือตัวนี้มีขนาดเล็กน่ารัก ใกล้เคียงเสือหลวงพ่อปาน มีความสวยและสมบูรณ์มากๆ ง่ายต่อการพิจรณาเป็นอย่างยิ่ง พร้อมตลับเพชรใบงาม

    ก่อนอื่นเรามารู้ประวัติเล็กน้อยของคณาจารย์ยุคต้นๆของสาย วัดบางเหี้ย หรือวัดมงคลโคธาวาส กันก่อน...หลวงพ่อถัน เป็นเจ้าอาวาสก่อนหลวงพ่อปาน โดยมีหลวงพ่อปาน กับหลวงพ่ออิ่มดูแลการสอนกัมมัฎฐาน หลวงพ่อเรือนดูแลอุบาสก อุบาสิกา และแม่ชีต่อมาหลวงพ่อปานเป็นอุปปัชฌาย์ โดยมีพระรุ่นน้องร่วมยุคคือ พระครูสุทธิรัตน์(หลวงพ่อทอง) เป็นพระกรรมวาจารย์ และหลวงพ่อเรือน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีรูปถ่ายอ้างอิงอยู่ที่วัด ประวัติลำดับเจ้าอาวาสของวัด มีจำนวน ๗ รูป คือ

    รูปที่๑ หลวงพ่อถันรูปที่๒ พระครูพิพัฒนิโรธกิจ (หลวงพ่อปาน) รูปที่๓ หลวงพ่อเรือน รูปที่๔ พระครูสุทธิรัตน์ (หลวงพ่อทอง) พ.ศ.๒๔๕๔ - ๒๔๗๒ รูปที่๕ พระปลัดแวว พ.ศ.๒๔๗๓-๒๔๗๗ รูปที่๖ พระครูมงคลสาธุวัฒน์ (ชื่นธมฺมโชติ)พ.ศ.๒๔๗๗-๒๕๒๐ รูปที่๗ พระอธิการบรรจง เสตวณโณ อายุ๔๖ ปี พรรษา๒๖ ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ พ.ศ๒๕๒๐ ครั้นพอหลวงพ่อปาน ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส มีหลวงพ่อเรือนเป็นรองเจ้าอาวาส นอกจากหลวงพ่อเรือน ที่เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งลูกศิษย์ของหลวงพ่อปานแล้ว ยังมีหลวงพ่ออีกท่านหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน คือหลวงพ่อสาย ที่คนพื้นที่มักเรียกว่าหลวงตาสายศิษย์หลวงพ่อปาน…หลวงพ่อสาย พุทธเสฎโฐ วัดบางเหี้ย ศิษย์หลวงพ่อปาน ท่านก็สร้างเสือ ปลุกเสกเขี้ยวเสือตามแต่ผุ้คนจะนำมาถวาย ชาวคลองด่านจะหาเขี้ยวเสือแล้วนำไปให้ ช่างแสวง(ตาแหวง) คลองนางหงษ์ หริอช่างไสว(ตาไหว) ประตูน้ำชลหารพิจิตร แกะเป็นรูปเสือแล้วนำมาถวายให้ จะสร้างมากหน่อยในสมัยหลวงพ่อชื่น เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อชื่น เป็นเจ้าอาวาสลำดับที่ ๖ สมัยปี พ.ศ. ๒๔๗๗ - ๒๕๒๐

    “พระครูมงคลสาธุวัฒน์ (ชื่นธมฺมโชติ)” หลวงพ่อสายปลุกเสกลงเหล็กจารเอง เพราะท่านก็เป็นหนึ่งในศิษย์เอกของหลวงพ่อปาน คนพื้นที่จะเรียกกันว่า เสือหลวงตาสาย คนพื้นที่ก็เคารพท่านมาก แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจเสือของท่าน เพราะแต่ละบ้านมีเสือหลวงปานกัน จะเล่นหากันมากเหมือนกันก็เฉพาะแต่คนย่านบางปู เพราะคนย่านนั้นแขวนเสือที่หลวงพ่อสายปลุกเสก เกิดประสบการณ์โดนยิงหลังเสื้อทะลุ แต้ก็ไม่ระคายผิวแต่ก็ช้ำ กระสุนไม่เข้าแต่ช้ำจากแรงกระแทกปะทะ ของกระสุนจนเสือหลวงพ่อสายโด่งดังข้ามไปถึงบางปู และจากประวัติ ที่ผม
    ”วัต ท่าพระจันทร์®” ได้เคยพูดคุยสอบถามจากคนเก่าแก่พื้นที่ได้ความว่า หลวงพ่อสายน่าจะมีอายุอยู่ถึงราวๆปี พ.ศ.๒๕๑๐

    โดยประมาณ.คราวนี้เรารู้ประวัติอย่างย่อๆ และวิธีการศึกษา ของต้นตำหรับการสร้างเสือกันต่อไป... ตามคำโบราณท่านว่าไว้ว่าพระเกจิที่สร้างเสือได้ต้องมีตบะและบารมีชั้นสูง ไม่งั้นผู้ที่สร้างจะสติฟั้นเฟือน (เป็นบ้า) เมื่อหลวงพ่อปานอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดอรุณราชวรารามนั่นเอง โดยมีท่านเจ้าคุณศรีศากยมุนีเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน รวมถึงไสยศาสตร์ ท่านได้รับการถ่ายทอดจากคณาจารย์หลายองค์จนเชี่ยวชาญ ภายหลังได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดบางเหี้ยนอก ปัจจุบัน เรียกว่าวัดมงคลโคธาวาส โดยมีพระที่เป็นสหายสนิทตามมาด้วยองค์หนึ่งชื่อ หลวงพ่อเรือน หลังออกพรรษาท่านและพระเรือนเริ่มออกธุดงค์ไปสถานที่ต่างๆ หลวงพ่อปานและหลวงพ่อเรือนได้ดั้นด้นไปจนถึง"วัดอ่างศิลา" อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี และได้ฝากตัวเป็นสานุศิษย์ของ"หลวงพ่อแตง"

    เจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา โดยศึกษาด้านวิปัสนาธุระ ไสยเวทย์มนต์ต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญและสร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อปานเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะ " เขี้ยวซึ่งแกะเป็นรูปเสือนั่ง " เมื่อมีความเชี่ยวชาญแล้วจึงได้อำลาพระอาจารย์ "หลวงพ่อแตง" มาพำนักอยู่ที่วัดบ้านเกิดตนเองพร้อมด้วยพระอาจารย์เรือน เพื่อนสหาย ณ วัดบางเหี้ย (ปัจจุบันคือวัดมงคลโคธาวาส) และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสโดยมีหลวงพ่อเรือนเป็นรองเจ้าอาวาส ซึ่งทั้งสองรูปได้ปกครองพระลูกวัดทั้งด้านการศึกษาและการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดมาตลอด

    และในระหว่างที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อเรือนได้ธุดงค์ไปนั้นยังมีพระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ดั้นด้นไปเรียนคือ หลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้ง จังหวัดระยอง (ซึ่งได้พบกันในระหว่างธุดงค์) ได้ชวนกันไปเรียนวิทยาคมการปลุกเสกเสือ จากหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลาเป็นปรมาจารย์เจ้าตำหรับในการสร้างเขี้ยวเสือแกะที่มีฤทธิ์และโด่งดังมากๆท่านหนึ่งพร้อมกันขณะที่เรียนอยู่นั้น เมื่อเรียนจนถึงขั้น ก็ต้องมีการทดลองพิสูจน์ดู โดยเอาเสือใส่บาตร ให้เอาไม้พาดไว้ ปลุกเสกจนเสือออกมาจากบาตร หายเข้าป่าไป ถ้าใครภาวนาเรียกเสือกลับมาได้ก็จะให้เรียนต่อไป ถ้าเรียกกลับมาไม่ได้ ก็จะไม่ให้เรียน หลวงพ่อปานวัดบางเหี้ย ปลุกเสกเสือออกจากบาตรเข้าป่าไปได้ และเรียกกลับมาได้ ส่วนหลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้ง ปลุกเสกเสือออกมาได้เข้าป่าไปเช่นกัน แต่เรียกเท่าไรๆ ก็ไม่กลับ ก็เป็นอันว่าหลวงพ่อปานเรียนต่อจนสำเร็จองค์เดียว หลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้งก็ต้องพักจากการเรียนเสือ (เหตุเพราะตบะทางมหาอำนาจยังไม่กล้าเกร่ง แต่โดดเด่นทางเมตตา) หลวงพ่อแตงท่านก็จึงให้หันมาเรียน สร้าง และปลุกเสกแพะ จนสำเร็จ เมื่อได้วิทยาคมนี้

    ต่อมาก็มาเป็นอาจารย์ของหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จังหวัดระยอง หลวงพ่ออ่ำนี่มีชื่อเสียงมากในการสร้างแพะ จนได้สมญาว่า หลวงพ่ออ่ำแพะดัง และหลวงพ่อวัดกระบกต้นผึ้งนี้ ก็ยังเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ผู้โด่งดังมากในปัจจุบันนี้เช่นกัน หมายเหตุ หลวงพ่อเรือน พระที่เป็นสหายสนิทของหลวงพ่อปานในครั้งที่ออกธุดงค์ไปด้วยนั้น ก็ได้มีสวนรู้เห็นและได้เรียนวิชากับหลวงพ่อแตงด้วย แต่ก็เรียนแค่เพียงน้อยนิด ไม่ถึงกับจบหรือแตกฉาน อาจเพราะเกรงใจหรือเคารพพระสหายที่เป็นรุ่นพี่ที่ไปด้วยอย่างหลวงพ่อปานจึงทำให้ไม่ได้เรียนจนจบ แต่กระนั้นหลวงพ่อเรือนก็เรียนจบวิชาสร้างเสือปลุกเสกเสือจนได้ ด้วยการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อปานอีกที ดังนั้นหลวงพ่อเรือนจึงเป็นทั้งศิษย์ของหลวงพ่อแตง และยังเป็นทั้งศิษย์ และเป็นทั้งเพื่อนของหลวงพ่อปาน อีกด้วยนั่นแล นะเพื่อนเอย เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษา และจดจำ วัต ท่าพระจันทร์ (กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)
    เปิดให้บูชา 7999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ ขนาดสูง 2.2 ซม. ฐาน 1.2 ซม.จารเดิมสวยสมบูรณ์ครับ
    IMG_20250216_133207 (1).jpg IMG_20250216_133213 (1).jpg IMG_20250216_133222 (1).jpg IMG_20250216_133231 (1).jpg IMG_20250216_133239 (1).jpg
     
  17. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    IMG_20250216_133148 (1).jpg IMG_20250216_133143 (1).jpg พระสมเด็จวัดเกศไชโย
    เปิดให้บูชา 9999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
  18. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    เขี้ยวเสือเล็ก
    เปิดให้บูชา 2999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_20250216_133300 (1).jpg IMG_20250216_133311 (1).jpg IMG_20250216_133316 (1).jpg
     
  19. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ

    เหรียญมทบ.หลวงพ่อเกษมพร้อมเลี่ยมเงินเก่า
    เปิดให้บูชา 6999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    แท้เดิมๆครับ Screenshot_20250217_094844 (1).jpg Screenshot_20250217_094839 (1).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2025
  20. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,546
    ค่าพลัง:
    +162
    ปิดแล้วครับ


    สร้อยงาสะเด็นเก่า
    เปิดให้บูชา 3999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    สวยสมบูรณ์ครับ
    Screenshot_20250217_094835 (1).jpg Screenshot_20250217_094830 (1).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2025

แชร์หน้านี้

Loading...