พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

3587.พระขุนแผนทรงพลหลังรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อสมบุญ รุ่นบูชาคุณหลวงพ่อมุ่ย วัดลำพันบอง สุพรรณบุรี ปี2556 เจิมสีผึ้งหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ให้บูชา 600 บาท

​

พระขุนแผนหลังรูปเหมือนรุ่นแรก พิมพ์ทรงพลใหญ่ หลวงพ่อสมบุญ ปิยธัมโม วัดลำพันบอง สุพรรณบุรี ปี2556 รุ่นบูชาคุณหลวงพ่อมุ่ย หรือ รุ่นเมียเยอะ ในท้องที่รู้กันดีว่าประสบการณ์มีมากมาย
รุ่นนี้ได้ผสมมวลสารสำคัญคือ ดินพระกรุวัดบ้านกร่าง ที่ได้มาจากพระขุนแผน ภายในวัดบ้านกร่าง และพระขุนแผนบ้านกร่าง พระขุนแผน รุ่นปลัดทวี รวมทั้งพระขุนแผนจากวัดทั่วประเทศอีกหลายร้อยรุ่นลงไปเป็นมวลสารหลักในการกดพิมพ์พระฯ และเจิมสีผึ้งหลวงพ่อมุ่ย
หลวงพ่อสมบุญท่านปลุกเสกเดี่ยวอยู่ 7 คืนจนปรากฎนิมิตขึ้นมาซึ่งท่านได้พูดกับลูกศิษย์ว่าขุนแผนเมียเยอะซึ่งผู้ที่ได้ไปล้วนแล้วแต่เจอประสบการณ์ด้านนี้แทบทั้งสิ้น รวมไปถึงเรื่องเมตตามหานิยมอีกด้วย หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมโม วัดลำพันบอง พระเกจิที่แรงที่สุดขลังที่สุด ประสบการณ์มากที่สุดองค์หนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี

 

3588.เหรียญห่วงเชื่อมย้อนยุค ลป.ทิม อิสริโก รุ่นแต้เม้ง ปี2551 เนื้อทองแดงผิวไฟ ปิดรายการครับ

​

เป็นเหรียญห่วงเชื่อมหลังเรียบที่จัดสร้างไปในชุด
ชินบัญชร แต้เม้ง (๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑)ตามดำริของท่านอาจารย์เชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ที่อยากให้ทำเหรียญห่วงเชื่อมย้อนยุค ทำขึ้นเพื่อแจกแก่ผู้ที่มาร่วมพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม บนชั้น๒ศาลาภาวนาภิรัต โดยถวายวัดไว้ราว ๓,๐๐๐กว่าเหรียญ หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดเข้าพิธีแต้เม้ง-ไฟเย็น ที่ลือลั่น หลายคนเห็นเหรียญแล้วชอบ (เพราะเหรียญห่วงเชื่อมของเดิมที่หลวงปู่ทิมเสก หายากและราคาแพงมากแล้ว)แต่อยากให้มียันต์หลวงปู่ทิมทางศิษยานุศิษย์มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จึงนำเหรียญห่วงเชื่อมหลังเรียบส่วนหนึ่ง มาให้ศิษย์ที่สามารถจารอักขระขอมได้ จารอักขระเลขยันต์อย่างสวยงาม และจะนำเข้าพิธีสมโภชน์ พุทธาภิเษก-เทวาภิเษกในเย็นวันเสาร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๒ พร้อมพระบรมรูปเจ้าตากลอยองค์ เพราะเชื่อว่า หลวงปู่ทิม ท่านต้องลงมาเสกรูปท่านและบรมรูปเจ้าตาก ในพิธี ตามที่ท่านรับปากไว้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ขอให้บอกท่าน ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนท่านจะลงมาช่วย ...ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่นที่บอกกล่าวเชิญท่าน วัตถุมงคลเหล่านั้นต่างมีประสบการณ์แทบทั้งสิ้น
เหรียญห่วงเชื่อมรุ่นแต้เม้ง ได้ปลุกเสกเดี่ยวถึง ๓ องค์
องค์แรกหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด สุดยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรต่ำปลุกเสกในราชาฤกษ์ เวลา ๕ นาฬิกา ๓๙ นาที ของวันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ... ท่านปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ เต็มบารมีของท่าน ซึ่งการปลุกเสกของหลวงปู่ผาด ท่านสงบนิ่ง, ละวาง ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม

องค์ที่ ๒ หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่ทิม ซึ่งดังเงียบๆแบบเสือซ่อนเล็บ ปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑ เวลาเดียวกับที่พระเจ้าตากสินสั่งทุบหม้อข้าวหม้อแกง ทรงช้างคีรีบัญชร นำทัพเข้าตีเมืองจันทร์จนแตก ยึดเมืองได้เมื่อยาม ๓ ของวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๓๑๐ เมื่อ ๒๔๐ ปีมาแล้ว

องค์ที่ ๓ องค์สุดท้าย ท่านเจ้าหรีด วัดปาโมกข์ ก่อนพิธีท่านให้นำรูปหลวงปู่ทิม อิสริโกซึ่งท่านนับถือเป็นครูบาอาจารย์ พร้อมบาตรน้ำมนต์มาวางไว้บนธรรมมาสทิศตะวันออกตรงข้ามกับท่าน ที่นั่งหันหน้าลงทิศใต้ สั่งให้คุณ ชินพร จุดธูปเทียนบูชาพระ และจุดเทียนน้ำมนต์ ท่านจะเชิญหลวงปู่ทิมลงมาปลุกเสก ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อธิษฐานขณะจุดเทียนที่ปากบาตรน้ำมนต์ว่า ถ้าหลวงปู่ทิมลงมาปลุกเสกในพิธี ตามที่เคยสัญญาไว้เมื่อ ๓๔ ปีที่แล้ว ขอให้มีสิ่งอัศจรรย์บ่งชี้ให้เห็นด้วย แล้วนั่งอยู่หน้าธรรมมาสเปล่าตลอดพิธี พร้อมดูในบาตรน้ำมนต์ หยดน้ำตาเทียนในบาตรเป็นเทียนขี้ผึ้งแท้ ไหม้ไปกว่าครึ่งก็ไม่มีหยดน้ำตาเทียน ผู้ที่อยู่ในพิธีต่างมามุงดูกันเกือบหมดแล้วต่างนึกแปลกใจไปตามๆกัน บางคนเอานิ้วจับเปลวไฟต่างก็ไม่รู้สึกร้อน เอานิ้วมือขยี้จะดับก็ดับไม่ได้ ไฟยังติดอยู่ จนเมื่อเสร็จพิธีคุณชินพร เอามือจับไฟยังเย็นอยู่ เมื่ออธิษฐานว่าพิธีเสร็จแล้ว...ไฟจึงดับลง ! ส่วนท่านเจ้าหรีด ก็ปลุกเสกในท่ามกลางการรายล้อมไปด้วยคณะศิษย์ และผู้เฒ่าทางพรหมศาสตร์สายเขาอ้ออีก ๔ ท่านซึ่งนำโดย อาจารย์ มงคล อายุ ๘๒ ปี อาจารย์ใหญ่ฝ่ายพรหมศาตร์ บอกเมื่อเสร็จพิธีว่า พิธีนี้ ยอดเยี่ยม ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าทุกครั้งที่เคยไปร่วมมา วัตถุมงคลชุดนี้บูชาไว้เถิดจะโด่งดังไม่แพ้ของเก่า เพราะเบื้องบนและหลวงปู่ทิม อิสริโก ลงมาช่วยกันทำให้

 

3589.เหรียญหลวงพ่อปลัดบุญ วัดกุฎโง้ง บล็อค ด.ยาว(นิยม) หลวงปู่ทิมปลุกเสก พร้อมเลี่ยมกรอบเงินลงยาแท้ ปิดรายการครับ

​

พระชุดวัดกุฎโง้ง ถือเป็นพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ปลุกเสกนานที่สุดเกือบ 2 ปี โดยได้จัดสร้างเตรียมการล่วงหน้าเพื่อการทำบุญในงานผูกพัทธสีมาในปี 2519 และได้นำเข้าไปขอบารมีหลวงปู่ทิมปลุกเสกอยู่ในกุฏิของท่าน ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2517 จนถึงหลวงปู่ทิมมรณะภาพในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2518 พระเครื่องชุดนี้ได้ผ่านพิธีปลุกเสกร่วมกับพระเครื่องรุ่นหลักๆและโด่งดังของหลวงปู่ทิมมากมาย อาทิ พระสมเด็จชินบัญชรหลังยันต์แดง เหรียญเจริญพร พิธีปลุกเสกพระกริ่งชินบัญชร พระปรกใบมะขาม(องค์จ้อย) พระปิดตามหาอุตตโม (ยันต์ยุ่ง) รวมไปถึงพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมท่านเสก ทั้งของวัดละหารไร่เอง และวัดอื่นๆ อีกนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงฆ์ จากการที่หลวงปู่ทิม ท่านได้ไหว้พระ สวดมนต์ ในกุฏิของท่านตั้งแต่ ตีสอง ยันฟ้าสาง ทุกวันนับเป็นปีๆ

คุณชินพรบอกว่า
พระเครื่องวัดกุฏโง้งทั้งหมดอยู่ในกุฏิหลวงปู่ทิม ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๕๑๗ จนถึงหลวงปู่ทิมมรณภาพ
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ เพียงแค่ตอนหลังหลวงปู่ให้เอาพระวัดกุฏโง้งออกมาไว้ในกุฏิข้างๆ
เพราะจะเอาพระรุ่น ๘ รอบเข้ามาเสก คุณชินพรบอกว่าพระวัดกุฏโง้งนี่แหละดีที่สุด
หลวงปู่ทิมเสกนานที่สุดถึง ๒ ปี

 

3590.ของดี 2 คณาจารย์กับมวลสารอันขึ้นชื่อ
1.พระสมเด็จปรกโพธิ์พิมพ์ซ้อนหลวงปู่เจือ รุ่นเจ้าสัวมหาเศรษฐีบารมีหลวงปู่เจือ เนื้อผงยาจินดามณี ปี 2552หมายเลข 171 กล่องเดิม
2.พระผงเม็ดยาขวัญถุงเนื้อชานหมาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ปี 2541

***ให้บูชา ชุดละ 550 บาท (ได้รับพระ 2 รายการครับ)

​

 

3591.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นอริยทรัพย์ หลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาสวิปัสสนา ปี 2560 พร้อมใบคาถาเดิม ให้บูชา 500 บาท

​

หลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาสวิปัสสนา เกจิอาจารย์ผู้มากด้วยครูอาจารย์จัดสร้างพระหลวงปู่ทวดรุ่นอริยทรัพย์ขึ้นในปี 2560 เพื่อนำปัจจัยไปสร้างพุทธมณฑลอยุธยา โดยจัดสร้างเป็นรูปหลวงปู่ทวดและใช้สูตรการจัดสร้างเดิมแบบหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497
ความพิเศษของพระรุ่นนี้คือเมื่อสร้างเสร็จได้มีการนำไปแช่น้ำว่าน 108 จนครบคาบก่อนอธิษฐานจิตปลุกเสก

 

3592.ชุดสมเด็จผง12นักษัตร ปี2532 รุ่นสร้างศาลา หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ปิดรายการครับ

​

พระสมเด็จ 12 นักษัตร รุ่นสร้างศาลา ที่จัดสร้างในปี พ.ศ. 2532 นอกจากมวลสารหลักคือ ผง 12 นักษัตร จะมีผงเก่าของครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเริ่มเก็บไว้และเกศาของหลวงพ่อเริ่มผสมอยู่ในเนื้อพระ

"พระสมเด็จ 12 นักษัตร หลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ"
ในช่วงที่หลวงปู่เริ่มยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้เรียนวิชาทำผง 12 นักษัตร จากหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี จนกลายเป็นที่มาของ 'พระสมเด็จ 12 นักษัตร' หลวงปู่เริ่ม จัดสร้างในปีพ.ศ. 2529 ทั้งหมด 3 แบบ คือ แบบธรรมดา แบบฝังตะกรุด 1 ดอก และฝังตะกรุด 2 ดอก โดยสร้างแบบละ 5,000 องค์ ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระสมเด็จ 3 ชั้น สีดำ ด้านหลังเป็นชื่อหลวงพ่อเริ่ม ตรงกลางเป็นยันต์นะโภคทรัพย์ และด้านล่างเป็นชื่อวัดจุกกะเฌอ
พระสมเด็จ 12 นักษัตร สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกของหลวงพ่อเริ่ม เพื่อมอบให้ลูกศิษย์ที่มาร่วมในงานมุทิตาจิต หลวงพ่อเริ่ม เคยบอกเล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟัง ว่า ในสมัยก่อนนั้น หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี เป็นพระมอญที่มีชื่อเสียงในการสร้างพระผง 12 นักษัตร เปี่ยมด้วยพุทธคุณเข้มขลังไม่ด้อยไปกว่าผงสมเด็จวัดระฆัง ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)
หลวงปู่เริ่มได้ไปขอเรียนวิชาสร้างผง 12 นักษัตร ด้วยคำว่า เนื้อ 12 นักษัตร เป็นผงที่สร้างยากต้องมีความมานะพยายามสูง กว่าจะรวบรวมวัตถุมงคลให้ครบตามตำราล้วนยากเย็น อาทิ กระดูกม้าขาว กระดูกไก่ดำ ซึ่งกระดูกออกเป็นสีชมพู เมื่อได้มวลสารครบถ้วนตามตำราแล้ว ต้องบดผงเข้าด้วยกันแล้วปั้นเป็นแท่งดินสอเตรียมไว้ เมื่อเข้าพรรษาให้เริ่มลงอักขระเลขยันต์ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของพรรษา ทำจนครบ 3 พรรษา หลวงปู่เริ่มยังเล่าอีกว่า ลูกศิษย์หลวงปู่เทียนที่เรียนวิชานี้มีเพียงสองท่านเท่านั้นที่สร้างผงนี้ได้สำเร็จถูกต้องตามตำราโบราณ ซึ่งตลอดชีวิตสมณเพศกว่า 59 พรรษา ท่านทำผงนี้ได้สำเร็จถึง 2 ครั้ง ท่านลบแล้วถมจนผงลอดกระดานทุกครั้ง

​

 

3593.สมเด็จฯ ยันต์ตรีนิสิงเห พิมพ์ใหญ่ วัดวิหารขาว ปี๑๒ หลวงปู่โต๊ะ ปิดรายการครับ

​

​

สมเด็จ ประทับยันต์ ตรี ปี ๒๕๑๒ เนื้อเกสร หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง (หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก)

พระสมเด็จฯ ยันต์ตรีนิสิงเห เป็นวัตถุมงคลชุดพิเศษที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแพ เขมังกะโร วัดพิกุลทอง ได้เป็นประธานจัดสร้างให้พระครูอดุลย์วิหารธรรม(ชั้น อุตตะโร) ศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อแพอย่างมาก ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดวิหารขาว อ.ท่าช้าง สิงห์บุรี โดยมีการสร้างหลายรายการ ได้แก่ สมเด็จตรีนิสิงเห พิมพ์ ๑ ๒ และ ๓ (ต่างกันที่ยันต์ด้านหลัง) พระกริ่งเนื้อผงศิลปะลพบุรีประยุกต์ พระสมเด็จพิมพ์ ๗ ชั้นหลังยันต์พุฒซ้อน พระซุ้มเรือนแก้ว ฯลฯ. มีพิธีพุทธาภิเษกสองวาระ ที่พระอุโบสถวัดพิกุลทอง และ อุโบสถวัดวิหารขาว

กดพิมพ์ด้วยบล็อกมือ ด้านหลังส่วนมากบล็อกยันต์จะเขยื้อนเนื่องจากการกดเน้น กดพิมพ์โดยพระเณรภายในวัด

โขลกผงด้วยครกตำข้าว เวลากดพิมพ์พระให้ภาวนาว่า"มะอะอุ" ด้านหลังจะเป็นยันต์ตรีของหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งพระครูชั้นได้ไปขอยันต์จากหลวงปู่โต๊ะมาประทับด้านหลังพระ พระสมเด็จรุ่นนี้ปลุกเสกโดยหลวงปู่โต๊ะเป็นประธาน มีหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว หลวงพ่อสวั่น วัดวัดเทพมงคล และเกจิอื่นๆ และได้บรรจุกรุใต้ฐานชุกชีพระประธานในพระอุโบสถร่วมกับพิมพ์พระโบราณของหลวงพ่อแพรวมทั้งบล็อคพิมพ์ ราวปี 2537

Cr .คุณอาสังวรทิมทอง

คุณพ่อยิ้มทิมเทพย์ผู้ให้ข้อมูลทั้งสองท่านนี้บวชเณรอยู่ และได้มีส่วนในการตำผงและกดพิมพ์พระ โดยมีพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม. มาเป็นองค์ประธานทั้งสองวาระ รวมทั้งพระเกจิชื่อดังอีกหลายท่านร่วมพิธี (ตามภาพ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากศิษย์ท่านพระอาจารย์ชั้น วัดวิหารขาว และ มีภาพในหนังสือทำเนียบวัตถุมงคลหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง)
โดยหลวงพ่อแพเป็นสหธรรมมิกใกล้ชิด(เพื่อนสนิท) ได้นิมต์ หลวงปู่โต๊ะ(พระครูวิริยะกิตติ)ในตอนนั้น วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯหลวงปู่โต๊ะ ได้มาพุทธาภิเษกถึง2ครั้ง ได้ถวายผงของหลวงปู่โต๊ะมาผสม ในพระชุดนี้ อนึ่งพระหลวงปู่โต๊ะราคาแพง หลักล้าน หลักแสน องค์นี้สมเด็จ 2อาจารย์ #ใช้ยันต์ตรีนิสิงเหของหลวงปู่โต๊ะ ถือเป็นยันต์ประจำองค์หลวงปู่ค่ะ

หลวงพ่อแพวัด พิกุลทอง ได้กล่าวว่า "หลวงปู่โต๊ะพลังจิตแรงกล้าเป็นวสีเข้าออกตามใจนึก"

เรื่องมีอยู่ว่าหลวงพ่อแพท่านตามดูจิตหลวงปู่โต๊ะในงานพุทธาพิเศก พระเครื่องรุ่นนึง ...ท่านเล่าว่าพอหลวงปู่โต๊ะเข้าสมาธิก็เห็นมือที่จับสายสิญญ์มีแสงสี"ม่วง"จากมือหลวงปู่วิ่งไปตามสายสิญญ์สู่กองวัตถุมงคลเป็นรัศมีสีม่วงสว่างไสวจนหลวงปู่โต๊ะคลายจิตจากสมาธิแสงจึงจะหายไปหลวงพ่อแพเล่าว่าพลังจิต

หลวงปู่โต๊ะองค์เดียวเท่ากับเกจิอาจารย์องค์อื่นรวมกันสิบองค์ดังนั้นเวลามีพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อแพทุกครั้งท่านจะนิมนต์หลวงปู่โต๊ะมาด้วยทุกครั้ง(พลังจิตสีม่วงหมายถึงพลังงานที่ประกอบด้วยบุญญฤทธิ์และอิทธิฤทธิถ้าเป็นพลังจิตสีขาวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพระสายปฏิบัติสายหลวงปู่มั่นจะเป็นบุญญฤทธิ

 

3594.พระผงเตารีด พิมพ์ใหญ่ สีเหลือง พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อ.เเม่เเตง จ.เชียงใหม่ ด้านหลังฝังข้าวสารดำและเกศา ให้บูชา 699 บาท

​

มวลสารในการจัดสร้างประกอบด้วยเกศาองค์หลวงพ่อ ไม้ทานาคาจากประเทศพม่า ว่านต่างๆ มากกว่า 108 ชนิด ข้าวสารดำ ของอาถรรพ์ทนสิทธิ์ และผงวิเศษอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งรวบรวมจากทั่วประเทศ ก่อนกดพิมพ์ นิมนต์พระสงฆ์และสามเณรในจังหวัดอุดรธานี เจริญสมาธิภาวนา และอธิษฐานจิตมวลสารกว่าร้อยรูป เป็นเวลา 1 คืนเต็ม และกดพิมพ์ ณ วัดป่าเหวไฮ
จัดสร้างไว้ 2 พิมพ์ คือพิมพ์เล็ก (เมตตา) และพิมพ์ใหญ่ (พิเศษ) เท่าที่พบเห็นมีหลากหลายสี ได้แก่ สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีดำ

 

3595.ล็อคเก็ตพระแก้วองค์บดินทร์ ๙ เกศา จัดสร้าง จำนวน 400 องค์ ให้บูชา 600 บาท พี่sunmkจองครับ

​

มวลสารที่ฝัง
พระพุทธองค์บดินทร์ พิมพ์เล็ก (อ.อนันต์ จัดสร้าง) ชุดถวายวัดป่าพุทธมงคล สุดยอดทั้งพิธีที่ปลุกเสกอย่างยาวนาน หลวงปู่ดู่ หลวงปู่แหวนเสก พิธีใหญ่ (แค่พระพุทธมงคลองค์บดินทร์ที่ฝังก็คุ้มละครับ)
อุดด้วยมวลสารผงพุทธคุณมากมาย ข้าวก้นบาตร ไหมเจ็ดสี(หลวงปู่มหาศิลา) ด้ายมงคลหลวงปู่เกษม พลอยเสก หลวงปู่อ่อนสา ผ้าห่มพระพุทธเมตตา พระพุทธองค์ดำ เป็นต้น

๙ เกศา พ่อแม่ครูบาจารย์
๑.ลป.บุญ ขันตโร วัดแสงน้อยอ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
๒.ลป.สี สิริญาโณ จ.อุบลราชธานี
๓.ลป.แสง ญาณวโร
๔.ลป.มงคล เขาดาร์สปวง จ.สุรินทร์
๕.พระครูเกษมธรรมานุวัตร วัดเกษมสำราญ จ.อุบล
๖.ลป.มีชัย วัดปราการชัย จ.สุรินทร์
๗.ลป.มา ญาณวโร วัดป่าสันติวิเวก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
๘.ลป.พรมมา เขมจาโร สวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี
๙.ลป.แสน ปสันโน วัดหนองจิก จ.ศรีสะเกษ
----------------------------------------------------

ล็อคเก็ตพระแก้วองค์บดินทร์ ๙ เกศา
ได้นำเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก เหรียญพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ทับหลังท้าวเวสสุวรรณ “รุ่นแรก” พิธีใหญ่ ณ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 11 เมษายน 2565

วาระที่ 1 คือ 15.39 น.
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นองค์ประธานในพิธีจุดเทียนชัยมหามงคล
มีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต ดังนี้
1.ญาท่านสุดใจ นิสฺโสโก วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง
2.ญาท่านรอด อาภสฺสโร วักโคกกรม พระเถระคณาจารย์ชื่อดังจังหวัดสุรินทร์
3.ญาท่านหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกพลาราม พระเถระคณาจารย์ชื่อดังจังหวัดสกลนคร
4.ญาท่านประเสริฐ สิริคุตฺโต วัดป่าเวฬุวันอรัญวาสี พระเถระคณาจารย์ชื่อดังจังหวัดอุบลราชธานี
5.ญาท่านสายทอง สิริธมฺโม วัดดอนเกลือ พระเถระคณาจารย์ชื่อดังจังหวัดร้อยเอ็ด

วาระที่ 2 คือ 17.09 น.
มีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต ดังนี้
1.พระราชธรรมโกศล (ญาท่านสวัสดิ์ ทสฺสนิโย) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ธ. พระเถระคณาจารยจังหวัดอุบลราชธานี
2.ญาท่านขุน อนุตฺตโร วัดใหม่ทองสว่าง พระเถระคณาจารย์จังหวัดอุบลราชธานี
3.ญาท่านบัวสอน โอภาโส วัดหลวง พระเถระคณาจารย์จังหวัดอุบลราชธานี
4.ญาท่านรอด ธมฺมทินฺโน วัดกุดคูน พระเถระคณาจารย์จังหวัดอุบลราชธานี
-----------------------------------------------

มวลสารผงที่อุดด้านหลังประกอบด้วย 3 ส่วน
มวลสารส่วนที่ 1
พระเอกพล วัดปทุมมาลัย ที่ได้รวบรวมไว้เป็นมหาอนันตัง ในการสร้างพระของอาจารย์แต่ละรุ่น
เกศา น้ำมัน ๙ กลิ่น ผ้าจีวร
ผงปฐวีธาตุ โกเมน ชานหมากเก่า ไม้กุกไก่ ผงรุ่นต่างๆ ขององค์หลวงปู่สี สิริญาโญ
ผงพระแก้วช่วยไทย (ได้รับเมตตา จาก อ.อำพล เจน)
มวลสารเก่าของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
ผงหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
ผงหลวงปู่มีชัย หลวงปู่บุญ บ้านแสงน้อย
ผงหลวงปู่หงษ์ พรพมปัญโญ หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง
หลวงปู่ผาด จังหวัดบุรีรัมย์
ผงมวลสารมงคล๒๐จังหวัด

มวลสารส่วนที่ 2
สุยอดมวลสารที่ (ผู้ใหญ่สายบุญเมตตามา) เป็นสุดยอดมวลสาร
พระผงพระศักดิ์สิทธิ์ที่มอบให้
ผงปถมังโบราณใต้ฐานพระประธานหลวงพ่อศิลาแดงวัดคงคา,ผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์,ผงโสฬสมหาพรหม,หัวเชื้อผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ วัดสะแก,ผงพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,ผงพระสมเด็จก้นกรุของสมเด็จโต,ผงพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น1-3,ผงพระพุทโธแม่ชีบุญเรือน,ผงยาวาสนาจินดามณีหลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา,ผงยาวาสนาจินดามณีหลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว,ผงยาวาสนาจินดามณีสายเขาอ้อ,ผงยาจินดามณี วัดโพธิ์ผักไห่,กระเบื้องหลังคาโบสถ์หลังเดิม วัดโสธร,กระเบื้องหลังคาโบสถ์หลังเดิม วัดคงคา,ว่านจำปาศักดิ์จากพระหลวงพ่อทวด วัดคงคา, ผงพระชินราชท่าเรือและพระนางตรา นครศรีธรรมราชปี2497, ผงพระสมเด็จ กรุเก่าเจ้ากรม(วังหน้า)จำนวนมาก,ผงพระสมเด็จวัดเกศไชโยและกรุบางขุนพรหมปี พ.ศ.2500,ผงรัตนมาลา วัดประดู่ทรงธรรม,ผงปูนเก่าพระประธาน วัดปราสาทอายุ260ปี,ผงกรุวัดชิโนรส,ผงนะฤาชามหานิยม,ผงพระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูล,ผงสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง,ผงพระธาตุปัจเจกพุทธเจ้าเขา300ยอด,ผงบุษบกพระแก้วมรกต,ผงพระคำข้าวพระหางหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ,ผงพระกรุวัดคู้สลอด,ผงพระปิดตาหลวงปู่แก้ว วัดปากทะเล,ผงพระหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง,ผงพระหลวงพ่อสด ราชบุรี รุ่น นวกะ 53,ผงพระวัดพลับ(ราชสิทธาราม คณะ5),ผงพระหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม,ผงปถมัง พระอาจารย์คง โตสังสิ อาจารย์ของขุนแผน,ผงดินถ้ำวัวแดง,ผงปถมังหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม,ผงปถมัง ผงพระสิวลี ผงพระอุปคุตของอาจารย์ปฐม อาจสาคร,ผงพระกรุพระธาตุนาดูนและผงพระธาตุ จ.มหาสารคามอายุ1,500ปีจำนวนหลายองค์และยังมีผงพระอีกมากมายนับพันชนิดที่นำมาเป็นมวลสาร
แผ่นทองคำเปลวผสมรวมในผงพระ

-แผ่นทองที่ปิดองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธร

-แผ่นทองที่ปิดพระพุทธบาท4รอย เชียงใหม่

-แผ่นทองปิดองค์หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ สระบุรี

-แผ่นทองปิดองค์สมเด็จโตวัดอินทรวิหาร

-แผ่นทองปิดองค์จำลองพระร่วงทองคำ วัดมหรรพาราม

-แผ่นทองปิดองค์หลวงพ่อทวด วัดคงคา

-แผ่นทองปิดองค์สมเด็จโต วัดคงคา

มวลสารจากดินแดนพุทธภูมิ

1.ดินจากสถานที่ประสูติ(ลุมพินีวัน)

2.ดินจากสถานที่ตรัสรู้(มหาโพธิ์เจดีย์พุทธคยา)

3.ดินจากสถานที่ปฐมเทศนา(พระธัมเมกขะสถูป อิสิปตนมฤคทายวัน)

4.ดินจากสถานที่ปรินิพพาน(มหาปรินิพพานสถูป กุสินารา)

5.ดินจากวัดเชตวันมหาวิหาร

6.ดินกากยายักษ์จากไทยอัญเชิญไปขอพระบารมีจากพระพุทธองค์ในทุกสังเวชนียสถานที่ได้ไปกราบ

7.ดินจากบ้านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี

8.ดินจากบ้านบิดาองคุลีมาล(อหิงสกะ)

9.ดินโคนต้นอานันทโพธิ์วัดเชตวันมหาวิหาร

10.ใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณพุทธคยา

11.ใบโพธิ์จากต้นอานันทโพธิ์วัดเชตวันมหาวิหาร

12.น้ำจากสระโบกขรณี...สระที่พระนางสิริมหามายาไปสรงน้ำก่อนและหลังประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ(ลุมพินีวัน)

13.ผ้าห่มองค์พระพุทธเมตตาซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในมหาโพธิ์เจดีย์พุทธคยา

14.ผ้าห่มพระพุทธปรินิพพาน(กุสินารา)

15.ดอกไม้บูชามหาโพธิ์เจดีย์พุทธคยา

16.ดอกไม้บูชาวางที่ฝ่าพระหัตถ์พระพุทธปรินิพพานภายในมหาปรินิพพานสถูป สุสินารา

มวลสารส่วนที่ 3
มวลสารที่ใช้สร้างพระผงพระพุทธเหนือพรหม รุ่นชัยมงคล
(จากภูผา ถึงทะเล คุณเอี้ยง)

มวลสารสถาปนาองค์พระประกอบด้วย -เกศาพ่อแม่ครูอาจารย์ เช่น เกศาหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เกศาหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ เกศาหลวงปู่เจริญ ญาณวุฑโฒ เกศาพระเทพมงคลโมลี(บุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เกศาหลวงปู่อุดม ญาณรโต เกศาหลวงพ่อนิพนธ์ อภิปสนฺโน เกศาหลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล เกศาหลวงปู่พันธ์ วัดป่าน้ำภู เกศาหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร เกศาหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง เกศาครูบาประเสริฐ ปวโร วัดหนองปลามัน

-ผงมวลสารหลักเป็นผงพระแตกหัก พระผงชำรุด มากมาย ที่ค่อนข้างเยอะ เช่น พระผงพระพุทธสิหิงค์หลังหนุมาน กรมสื่อสารทหารอากาศเชียงใหม่ รุ่นนี้ทั้งผงและพิธีเสก ครูบาอาจารย์ที่เสกเยอะมาก และผงพระหลวงปู่บุดดา ถาวโร ผงพระหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค และพระผงอื่นๆอีกมากมาย

-ผงสร้างพระผงวัดป่าอาจารย์มั่น ปี 59 ผงไม้ไผ่ตันวัดป่าสมบูรณ์ธรรม ผงวัดโพธิ์เมือง 3,000 ชนิด ผงคุณโกศล 7,000 ชนิด ผงอาจารย์ปรมะ 6,000 ชนิด ทรายเงิน,ทอง,นิล ผงอิฐพระธาตุพนมองค์เดิม แป้งเสก-หลวงปู่ลุน วัดโนนแพง หลวงปู่บุดดา ถาวโร หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก หลวงลุงดำ วัดสะแก หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ หลวงพ่อทอง วัดไร่กล้วย หลวงปู่ฮก วัดมาบลำปิด หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินฯ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง หลวงปู่หุน วัดบางผึ้ง,

ทรายเสกหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ผงหยกหลวงปู่ฟัก พลอยเสกหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป พลอยเสกหลวงปู่อ่อนสา ผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ ผงจักรพรรดิหลวงตาม้า ทรายเสกหลวงปู่เสถียร คุณาวโร ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงปัถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ผงอาการ 32 ผงยอดศีล ผงมหาโสฬส ผงนะ 108 ผงยันต์ 108 ผงรัตนมาลา ผงยันต์เกราะเพชร ผงหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ผงทั้งห้าสมเด็จโต วัดระฆัง ผงหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ผง 12 นักกษัตริย์หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ผงหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช ผงมหาเสน่ห์หลวงพ่อสงวน ผงอิทธิเจหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ผงสร้างพระผงมหามงคลวัดป่าเมืองหาย ปูนเสกคุณแม่บุญเรือน ผงสร้างพระนาคปรกวัดสันติธรรมเชียงดาว ผงไม้เทพทาโร หลวงปู่พิศดู ผงธูปหลวงปู่หนูเพชร ผงมวลสารว่านชานหมาก สข๑พ่อท่านคล้าย ดินกากยายักษ์เสกพ่อท่านอิ้น ผงสร้างพระวัดอรัญญวิเวก ผงตะไบทองล้นรูปหล่อเท่าองค์จริงหลวงปู่เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก และอื่นๆอีกมากมาย

-มวลสารหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อธิษฐานจิต เช่นผงสร้างพระ ผงไม้เทพทาโร ผงไม้สักทอง พลอยเสก หินเสก แก้วเสก

 

จอง3595

 

รับทราบครับพี่ ขอบคุณมากครับ

 

3596.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์ มนต์พระสังข์ หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน เนื้อทองแดงปี 2549 ให้บูชา 550 บาท

​

​

หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน เกจิอาจารย์เมืองอ่างทองเข้าตำราวิชามนต์พระสังข์เรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภ จัดสร้างเหรียญรูปไข่ปี 49 ขึ้นโดยท่านได้จารแผ่นจารไว้รอสร้างถึง 3 ปี นอกจากนี้ท่านยังเสกด้วยมนต์พระสังข์ทุกค่ำเช้าอีกเป็นเวลาถึง 3 เดือน ดังนั้นพุทธคุณของเหรียญรุ่นนี้จึงเน้นด้านเรียกลาภ โภคทรัพย์ เป็นสำคัญ

 

3597.พระสมเด็จปรกโพธิ์หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง เนื้อผงโพธิ์ใต้แม่ ปี25 ให้บูชา 850 บาท

​

 

..........

 

3598.พระรอดละโว้ เนื้อผงเขียว วัดกำแพง ลพบุรี ปี 2482 ปิดรายการครับ

​

พระรอดละโว้ วัดกำแพง ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นพระที่จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2482 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้มาสร้างศาลาการเปรียญวัดกำแพงที่ยังไม่แล้วเสร็จ พระสุทธิพงศ์มุนี (พระมหาพงศ์ พุทธสโร) ซึ่งพื้นเพเป็นคนลพบุรี จึงปรึกษาพระอธิการทองดำ เจ้าอาวาสวัดกำแพงและคณะทายกทายิกาว่าจะจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึก
เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว พระสุทธิพงศ์มุนีจึงได้เสาะหาตำราของบูรพาจารย์รุ่นเก่าๆ เกี่ยวกับพิธีกรรมในการสร้างวัตถุมงคล
จนไปพบตำราการสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์จากวัดสามปลื้ม วัดที่ท่านเคยได้จำพรรษาอยู่นั้นเอง
ท่านจึงได้กราบทูลขอความอนุเคราะห์ในด้านชนวนโลหะและพิธีการสร้างจาก สมเด็จสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ
สมเด็จฯ ท่านจึงได้มอบหมายให้ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) วัดสุทัศน์ฯ มาเป็นประธานและที่ปรึกษาแทนพระองค์ท่าน
รายการพระเครื่องที่จัดสร้าง
1. พระรอดละโว้เนื้อโลหะ เฉพาะเนื้อโลหะ มี 4 พิมพ์ คือ
- พิมพ์ต้อ
- พิมพ์ชะลูด
- พิมพ์ต้อไม่มีรัศมี
- พิมพ์ประกบสองหน้ารัศมี มีรูปหลวงพ่อทั้งสองหน้า เป็นพิมพ์ที่หายากมากที่สุด
ว่ากันว่า ใน 1 บาตรพระจะมีพระพิมพ์นี้อยู่แค่ 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นของ ธงชัย แป้นวงศ์ (ตี๋สั้น) และอีกองค์เป็นของ ดร.ไสว พงษ์เก่า
2. พระรอดละโว้เนื้อผง จะมีทั้งหมด 7 สีประจำวัน ตามคติโบราณของไทย ซึ่งจะต่างกับปัจจุบันเล็กน้อย ดังนี้
- วันอาทิตย์ สีส้มหรือสีแดง
- วันจันทร์ สีขาวหรือสีนวล
- วันอังคาร สีชมพู
- วันพุธ สีเขียว
- วันพฤหัสบดี สีเหลือง
- วันศุกร์ สีน้ำเงินหรือสีฟ้า
- วันเสาร์ สีดำหรือสีม่วงแก่
และมีสีดำและขาวเพิ่มขึ้นมาอีกสองสี รวมเป็นทั้งหมด 9 สีด้วยกัน หลังจากประกอบพิธีเสร็จ
3. ผ้ายันต์ธง 4 แบบ เช่น ผ้ายันต์ปลาตะเพียนคู่ ผ้ายันต์พระฉิมพลี ธงแม่โพสพ ธงกำจัดโรคภัย
4. แหวนเกราะเพชร (แหวนมงคล 7 ราศี) แหวนนี้จะมีทำสำหรับประจำวันต่างๆ ครบ 7 วัน เนื้อโลหะผสมออกทองแดง ด้านในหล่อเป็นยันต์นูน
พิธีการสร้าง ณ วัดสุทัศน์ฯ กทม. เนื่องจากทางวัดกำแพงเครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม จึงได้ทำพิธีการเททองหล่อขึ้นที่วัดสุทัศน์ฯ โดยมีท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) เป็นผู้ดำเนินการให้ รวมไปถึงพระรอดละโว้เนื้อผงก็ทำการกดพิมพ์ด้วยมือที่วัดสุทัศน์ฯ เช่นกัน เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ส่งไปปลุกเสกที่วัดกำแพง ลพบุรี
พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดกำแพง จังหวัดลพบุรี ในวันอังคารขึ้น 11 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 19 มีนาคม 2482 โดยมีท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ฯ เป็นเจ้าพิธี จัดพิธีถูกต้องตามตำราของวัดสุทัศน์ฯ ทุกประการ
เป็นพิธีใหญ่ที่สุดที่เคยจัดมาของจังหวัดลพบุรีในสมัยนั้นเลยทีเดียว
รายนามคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก
1. ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทํศน์ฯ กทม.
2. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม.
3. เจ้าคุณธรรมทานาจารย์ วัดระฆัง กทม.
4. พระครูปาโมกข์มุนี วัดป่าโมกข์ อ่างทอง
5. เจ้าคุณสังฆภารวาหมุนี (เนียม) วัดเสาธงทอง ลพบุรี
6. พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทธสโร) วัดหนองโพ นครสวรรค์
7. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
ทั้งนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลพบุรีและถิ่นใกล้เคียงอีกเข้าร่วมในพิธีด้วยหลายท่าน
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการพุทธาภิเษกแล้ว ทางวัดกำแพงยังได้นำพระรอดละโว้ เฉพาะเนื้อผงเท่านั้น ไปที่วัดหนองโพ เพื่อให้หลวงพ่อเดิมปลุกเสกให้อีกครั้งหนึ่ง และได้มีการแบ่งถวายให้ที่วัดหนองโพส่วนหนึ่ง ซึ่งก็มีคนที่ได้รับพระผงพิมพ์นี้จากมือหลวงพ่อเดิมด้วย จนคนสมัยนั้นเรียกว่า พระผงหลวงพ่อเดิม แล้วเลยเถิดไปเรียกพระรอดเนื้อโลหะด้วยว่า พระรอดหลวงพ่อเดิม เพราะเห็นว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน

 

รับครับ

 

รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ

 

3599.พระสมเด็จนะโม ๙ หลวงปู่ผล วัดเทียนดัด ฉลองอายุ 8 รอบ 96 ปี. พ.ศ. 2534 เนื้อผงมวลสารผสมเส้นเกศา ฝังตะกรุดเงิน 1 ดอก (พิเศษ ตะกรุดจารมือทุกดอก) ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่ผล วัดเทียนดัด เกจิผู้ปลุกศรัทธาท่ามกลางชาวคริสต์
เกจิสักยันต์ทางคงกระพัน..."เต่า"คลานไหว้สังขารหน้าโลงศพ

เมื่อเอ่ยถึงวัดเทียนดัด อ.สามพราน จ.นครปฐม นักเลงจริงยุคเก่าและนักเลงพระทุกยุคต้องยกนิ้วให้ พระครูอาทรพิทยคุณ หรือ"หลวงปู่ผล ธัมมโชติ"ยอดแห่งเกจิอาจารย์ในด้านเวทมนตร์-อาคมขลัง สหธรรมิกรุ่นเดียวกับ"หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม" แม้ชื่อเสียงจะไม่ขจรขจายเท่าหลวงพ่อเงิน แต่คนนครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี แม้กระทั่งชานเมืองกรุงต่างหมายมุ่งที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของพระเครื่องของท่าน ซึ่งมีพุทธคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
หลวงพ่อผลท่านมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ก่อนปี 2500 เรื่องวิทยาคมของท่านไม่เป็นรองใครในยุคนั้น ก่อนบวชก็ได้ศึกษาวิชาขอม และวิชาอาคมต่างๆจากโยมพ่อและอาจารย์หลายท่าน สมัยที่ยังหนุ่มๆท่านไปมาหาสู่หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เพื่อสนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนวิชาต่างๆ บางครั้งหลวงพ่อเงินไปเรียนวิชาเพิ่มเติมจากอาจารย์ใด ก็มักชวนหลวงพ่อผลไปด้วยเสมอ
เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นผู้รู้ในวิชาโหราศาสตร์กับวิชาไสยศาสตร์มีวิชาอาคมขลังรูปหนึ่ง โดยสมัยที่กำลังเชี่ยวชาญวิชาได้เป็นหมอสักยันต์ทางอยู่ยงคงกระพัน มีลูกศิษย์มากมาย สักไปสักมาจนทางราชการขอร้องให้เลิกสัก ท่านจึงเลิกและหันมาทุ่มเทให้กับการพัฒนาวัด
ในสมัยนั้นพวกเสือโจรเยอะมาก ได้มีกลุ่มเสือโจรระแวกบางกระทึก และวัดเทียนดัด ได้รวมกลุ่มกันเพื่อที่จะเข้าปล้น บ้านคหบดี แถววัดเทียนดัด แต่ยังไม่ทันปล้น ก็เกิดฝนตกหนัก พวกโจรกลุ่มนั้นได้เข้ามาหลบฝนในวัดเทียนดัด ขณะนั้นเอง พวกโจรกำลังประชุมเรื่องแผนปล้น หลวงพ่อผลก็เดินมาได้ยินพอดี จึงได้ขอร้องบอกให้พวกโจรกลุ่มนั้นให้เลิกปล้นกลับตัวเป็นคนดีซะเถอะ เพราะจะทำให้เขาเดือดร้อนมันเป็นบาปกรรม และให้ล้มเลิกความตั้งใจเสีย และหลวงพ่อก็ได้สอนธรรมให้กับพวกโจรกลุ่มนั้น จนพวกโจรกลุ่มนั้นได้กลับใจ
วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านทำพิธีปลุกเสกล้วนแต่มีพุทธานุภาพสูง ใครได้ไว้กับตัวก็จะมีแต่สิริมงคลและแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ท่านเคยปลุกเสกเหรียญหลวงพ่อผัน วัดเทียนดัด (พระพี่ชาย) ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรกปี 2497 เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์มากและราคาสูง แถมหายากมาก
หลวงปู่ผลได้สร้างพระสมเด็จองค์ใหญ่ที่สุดไว้ในวัดเทียนดัด รายการทีวี"ตามไปดู"ของ "หมอซ้ง"สมัยนั้น ได้เข้ามาถ่ายทำนำไปออกอากาศว่ามีพระสมเด็จที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหลวงปู่ผลได้ทำพิธีปลุกเสกด้วยตัวท่านเอง จึงทำให้พระสมเด็จองค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์และมีอภินิหารต่างๆปรากฎให้เห็นบ่อยๆ
จากประวัติของท่านที่บันทึกไว้ใน"หนังสือ อนุสรณ์ 101 ปี หลวงพ่อผล วัดเทียนดัด" ท่านเกิดในตระกูล"แสงโสภา"ที่บ้านต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 ปีพ.ศ.2433 (ปีขาล ปีเดียวกับหลวงพ่อเงิน) เป็นบุตรของนายใหญ่ ชาวอยุธยา และนางทองสุข ชาวนครปฐม ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องรวม 10 คน เป็นผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 7 คนคือ 1. นางใย 2. นางยวง 3. นางพวง 4. นายพัน 5. นางเป๋า 6. นางอิน 7. นางแดง 8. นางวิน 9. นายผัน แสงโสภา (หลวงปู่ปลัดผัน) 10. นายผล (หลวงปู่ผล)
เยาว์วัยพออ่านเขียนหนังสือได้ เมื่ออายุครบเกณฑ์ก็ไปเป็นทหาร หลังปลดประจำการแล้วไดัอุปสมบทที่วัดเทียนดัด โดยมีพระอธิการแสง วัดนางสาว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคง วัดนางสาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดใจ วัดเชิงเลน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"ธัมมโชติ" ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเทียนดัด ต่อมาได้ไปศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดมหาธาตุ โดยอาศัยพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี
เมื่อสอบได้นักธรรมขั้นตรีแล้วก็ได้มาเป็นครูสอนปริยัติธรรมที่วัดเทียนดัด และวัดต่างๆหลายวัด เพราะสมัยนั้นหาครูผู้สอนยากมาก โดยได้ไปๆมาๆที่วัดระฆังเสมอ เพราะต้องการเรียนวิชาต่างๆ โดยเฉพาะการเรียนวิปัสสนากรรมฐานที่ท่านสนใจอย่างมากและท่านมีความรู้ด้านนี้พอสมควร
ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังได้เรียนวิชาถ่ายภาพ วิชาเขียนภาพ วิชาเครื่องยนต์ ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์เวทมนต์ คาถาจากอาจารย์ต่างๆ แล้วได้นำหลักการทำพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) วัดระฆังมาทำเป็นครั้งแรกช่วงปี พ.ศ.2471-2472 กับพระปลัดผัน พระพี่ชายของท่าน
หลวงปู่ผลมีอุปนิสัยใจคอเยือกเย็น มีเมตตาธรรมแก่คนทั่วไป ท่านยังเป็นที่คุ้นเคยและเคารพนับถือของพระผู้ใหญ่หลายรูป นอกจากมีวิชาอาคมขลังแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่ตั้งใจบริหารวัดจนเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีอาคาร กุฏิ ศาลาบำเพ็ญกุศล เมรุ ถังน้ำบาดาลคอนกรีต ห้องสมุด โรงเรียนปริยัติธรรม อีกทั้งซ่อมอุโบสถและศาลาการเปรียญที่ชำรุดทรุดโทรม ศาลาเอนกประสงค์ ที่สำคัญ ท่านชอบบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือคนยากจน และผู้ประสบภัยต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วมที่ไหน ท่านก็บริจาคเงินช่วยเหลือทันที
ในปีพ.ศ. 2528 ท่านจัดพิธีหล่อรูปพระพุทธปางลีลา โดยไดัทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาทรงเป็นประธานเททองและยกช่อฟ้าอุโบสถ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2528 ต่อมาในปี พ.ศ.2530 ท่านได้เป็นประธานสร้างเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา และให้เป็นเจดีย์องค์สำคัญประจำจังหวัด เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา เจดีย์มีความสูง 38 เมตร กว้าง 12 เมตร ด้านข้าง 4 ด้าน กว้างด้านละ 4 เมตร องค์เจดีย์ปูโมเสกทั้งองค์ พื้นปูหินอ่อน รวมค่าก่อสร้าง 4,000,000 บาทเศษ ครั้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2532 เป็นวันกำหนดฤกษ์ยกฉัตรเจดีย์ ท่านอาพาธไม่สามารถมาได้ ทำได้เพียงการจับสายสิญจน์อยู่ที่กุฏิ โดยมอบให้พระเทพวรเวที รองเจ้าคณะภาค วัดไร่ขิง มาเป็นประธานแทน
ผ่านมาได้ 3 วัน ท่านก็มรณภาพลงเมือวันพฤหัสบดีที่ 14 ม.ค. 2532 เวลา 04.00 น ที่โรงพยาบาลบางไผ่ กรุงเทพฯ สิริอายุ 99 ปี ทางวัดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่ศาลาการเปรียญเป็นเวลา 100 คืน ได้รับเงินจากผู้บริจาค 500,000 บาทเศษ (คณะกรรมการได้นำเงินสร้างพุทธเจดีย์ศรีปฐมบรมธาตุ 200,000 บาท เพื่ออุทิศถวายให้ท่าน
มีเหตุการณ์อัศจรรย์คือ หลังจากหลวงปู่ผลมรณภาพไปแค่ไม่กี่วัน เต่าที่ท่านได้สลักชื่อและปล่อยไปนานแล้วได้คลานกลับขึ้นมาจากน้ำมาอยู่บริเวณโลงที่บรรจุสังขารของท่านประมาณ15วันก่อนจะคลานกลับลงน้ำไปตามเดิม ประหนึ่งว่ามันมาเคารพสักการะสังขารหลวงปู่ผล
หลวงปู่ผลได้สร้างพระบูชา พระเครื่อง และเหรียญต่างๆไว้หลายชนิดหลายรุ่น เริ่มจากประมาณปี พ.ศ.2471- 2472 ได้สร้างพระสมเด็จดำ และสมเด็จลูกประคำ 108 โดยนำสูตรการทำสมเด็จนี้มาจากวัดระฆังที่ท่านเคยไปจำพรรษา โดยใช้มวลสารวัตถุสำคัญๆมากมายหลายอย่างมาสร้าง เช่น ผงใบโพธิ์ 108 วัด (ตามตำราสมุดข่อยที่วัดเทียนดัด), ผงว่าน 108 อย่าง, ผงพระหักๆที่ชำรุดใช้ไม่ได้หลายร้อยองค์, ผงแร่ต่างๆที่สำคัญ, ผงปูนพระเกศของหลวงพ่อวัดไร่ขิง และผงปูนพระใหญ่ที่สำคัญหลายวัด, ผงวัตถุที่สมเด็จโตเคยใช้ทำผสมพระ เช่นผงพลู 2 หาง, ไคลโบสถ์, ไคลเจดีย์, ไคลเสมา, ผงพุทธคุณ ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงปถมังของอาจารย์ต่างๆ, ผงดินสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย, น้ำพุทธมนต์ของเกจิอาจารย์ต่างๆ และของท่านเอง
จากนั้นในปี พ.ศ.2500 เป็นต้นมาได้สร้างพระสมเด็จชานหมาก เหรียญ ผ้ายันต์ พระกริ่งธัมมโชติ (รุ่นแรก) และพระกริ่งโปร่งฟ้า พระชัยวัฒน์รัตนมงคล ครั้นเมื่ออายุ 92 ปี ท่านได้สร้างลูกประคำ 108 และชนิด 9 เม็ด และพระสมเด็จลายเซ็น มีรูปเจดีย์อยู่ด้านหลัง
เกี่ยวกับเรื่องการสร้างความขลังแก่พระเครื่องมงคล หลวงปู่ผลท่านได้เปิดเผยให้ฟังว่า ท่านได้ตำราดีจากตำนานที่เป็นใบลานที่ผูกไว้เป็นเกณฑ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาษาขอม แต่ท่านก็อ่านออก เขียนได้ทั้งนนั้น ส่วนคาถาต่างๆ ที่คนโบราณเขียนไว้นั้น มีอยู่ทุกชนิด ทั้งคาถาเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี ตลอดจนอื่นๆอีกที่มีทั้งให้คุณและให้โทษ แต่หลวงปู่ท่านเลือกเอาแต่วิชาที่ให้คุณเท่านั้น เพราะท่านถือความมีเมตตาเป็นใหญ่
"พระกริ่งโปร่งฟ้าชินบัญชร " เป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอย่างหนึ่งของหลวงปู่ผล สร้างขึ้นในโอกาสฉลองอายุครบ 89 ปี ในปีพ.ศ.2521 ท่านได้ลงจารแผ่นทองแดงด้วยตนเอง แล้วอาราธนาพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยที่ทรงวิทยาคมมาช่วยจารและนั่งปรกปลุกเสกเพื่อให้เกิดความเข้มขลังยิ่งขึ้น อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชร,หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ,หลวงพ่อผ่อง วัดสามปลื้ม,หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม,หลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร,หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช,หลวงพ่ออุตตมะ วัดวิเวการาม กาญจนบุรี,พระอาจารย์ธรรมรังสี วัดเทียนดัด ฯลฯ
พระกริ่งโปร่งฟ้าฯได้สวดคาถาชินบัญชร คาถาทิพย์มนต์ อิติปิโส 1019 จบ คาถาบารมี 30 ทัศ และมนต์บทสำคัญๆอีกมากบท โดยมีอุปเท่ห์ในการใช้ว่า ผู้ใดมีพระกริ่งโปร่งฟ้าไว้บูชา ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความรัก อาชีพ หรือปัญหาอุปสรรคใดๆ จะสำเร็จลุล่วงปลอดโปร่ง ไม่พบกับปัญหาติดขัดใดๆเลยสมดังชื่อของพระกริ่ง
สำหรับประสบการณ์ทางด้านวัตถุมงคลนั้นมีให้เห็นจนเป็นที่ศรัทธาของชาวเทียนดัดและคนในละแวกนั้น แม้กระทั่งคนที่นับถือศาสนาคริสต์ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ต่างก็ให้ความเคารพรักหลวงพ่อผลไม่ต่างจากชาวพุทธเลย เพราะท่านเป็นผู้เมตตา และเมื่อใดมีคนมาขอบูชาวัตถุมงคลท่าน ท่านก็จะสอนธรรมมะเสริมให้อีก
ท่านบอกว่า วัตถุมงคลของท่านสร้างเพื่อ
1.ทำให้คนเข้าวัด พระจะได้มีโอกาสสั่งสอน
2.แขวนพระแล้วจะได้มีจิตระลึกไม่ให้ทำความชั่ว
3.เพื่อคุ้มภัย (ถ้าเชื่อว่าคุ้มได้เพราะมั่นใจ)
4.จะได้นำปัจจัยมาพัฒนาวัดให้เจริญๆ
สำหรับลูกศิษย์สายตรงแล้ว เชื่อเต็มร้อยว่า พระเครื่องทุกชนิดของหลวงปู่ผลช่วยให้สัมฤทธิผลด้านดี

 

3600.พระสมเด็จ พุทธจักรสีมา วัดใหม่บ้านดอน จ.นครราชสีมา ปี2511 พิธีใหญ่ ให้บูชา 800 บาท

​

พระสมเด็จพุทธชัยสีมา เนื้อผงผสมว่าน 108 ซึ่งหลวงพ่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2511 หลวงพ่อพระครูอาคมฯ ท่านสร้างพระรุ่นแรก เท่าที่สืบได้เป็นหลักฐานแน่ชัดคือ ในปีพ.ศ. 2511 เป็นพระสมเด็จที่มีมวลสารดีเยี่ยมและพิธีดียอด กล่าวกันว่าในละแวกนั้น วัดใหม่บ้านดอนเป็นวัดแรกที่มีพิธีพุทธาภิเษกแรกในปี 2511 และยังได้จัดพิธีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันรวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 20 พิธีใหญ่

มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
1.ผงใบลานเผาแท้ ๆ ที่ได้มาจากพระคัมภีร์จารึกพุทธาคมโบราณ ผงจากคัมภีร์สมุดข่อย ผงผ้ายันต์เก่า หนังสือตำราศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคณะศรัทธานำมาถวายเป็นจำนวนมาก
2.พระเครื่องสมัยโบราณ เช่น พระสมเด็จวัดระฆังฯ ของแท้ที่ชำรุด แตกหัก พระนางพญาวัดนางพญา พิษณุโลก พระรอดลำพูน พระกำแพง พระทุ่งเศรษฐี ตลอดจนพระเครื่องในกรุเก่าตามหัวเมืองโบราณต่าง ๆ เช่น พระกรุกำแพงเพชร พระกรุสุโขทัย พระกรุวัดท่ามะปรางค์ และ พระกรุสุพรรณบุรี เป็นต้น
3.ผงอักขระไตรมาส ผงวิเศษ 5 ประการ อันประกอบด้วย ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช และผงพุทธคุณ ซึ่งหลวงพ่อพระครูอาคมฯ ได้ทำการเขียน ลบ และปลุกเสกตลอดไตรมาส
4.ผงวิเศษจากกำแพงเมืองกาญจนบุรี
5.ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งในประเทศอินเดีย คือ สถานประสูติ สถานตรัสรู้ สถานแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร และสถานปรินิพพาน ซึ่งคุณโอภาส เศรษฐชัยมงคล ได้เดินทางไปนมัสการและนำกลับมาถวาย
6 ดินจากพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของชาวลาว ไม่ต่างจากพระธาตุพนมบ้านเรา ดินพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ดินพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ดินพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ดินอนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ดินและผงพระก้นกรุวัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ดินจากสถานที่ทำสังคายนาครั้งรัชกาลที่ 1 ดินโป่งอาถรรพณ์ต่าง ๆ และดินปลวก ซึ่งบางแห่งหลวงพ่อก็เดินทางไปนำมาด้วยองค์ท่านเอง บางแห่งคณะศรัทธาสานุศิษย์ก็นำมาถวาย
7.ผงเกสรดอกไม้ 108 ชนิด อาทิ เกสรบัวขาบ เกสรบัวขาว เกสรบัวเขียว เกสรบัวเหลือง พุทธรักษาทั้งห้า ยอดรัก ยอดสวาท ยอดกาหลง ดอกบัวแห้งในพิธีเทศน์มหาชาติแต่ละปี ดอกไม้แห้งจากที่บูชาอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารี ดอกไม้แห้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ดอกไม้แห้งศาลเจ้าพ่อช้างเผือก อันเป็นที่เคารพอย่างยิ่งของชาวโคราช
8.เถ้าธูปจากกระถางบูชาพระประธานในอุโบสถจำนวน 108 วัด
9.เทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษกของวัดใหม่บ้านดอน และวัดต่าง ๆ หลายสิบวัด
10.ผงว่าน 108 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากกาญจนบุรี เช่น ว่านพญาเสือโคร่ง ว่านพญางู ว่านสบู่เลือด ว่านกระบือชนเสือ ว่านหอกหัก ว่านดาบหัก ว่านสามพันตึง ว่านเพชร น้อย ว่านเพชรใหญ่ ว่านลิงดำ ว่านหนุมานนั่งแท่น ว่านทรหด ว่านเฒ่าหนังแห้ง เป็นต้น
วัตถุมงคลทั้งหมดทางวัดได้จัดทำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ดังตำรับตำราบังคับถูกถ้วนดีทุกประการ

ได้รับการบรรจุพุทธคุณอย่างดีเยี่ยมจากพระเถรานุเถระรวมแล้วหลายร้อยองค์ นับแต่ปี พ.ศ.2511 เป็นต้นมา อาทิ หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์, หลวงปู่อ่อน วัดป่านิโครธาราม, หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต, หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง, พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่เสาร์ วัดกุดเวียน, หลวงปู่นิล วัดครบุรี หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ, หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน และ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นต้น

 

3601. เหรียญองค์บรมครูอ.ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ เนื้อทองแดง ลงจารหน้าหลัง ให้บูชา 750 บาท

​

ด้านหน้า เป็น ยันต์ องค์ บรมครู ตามตำราเดิมของ สายวัดมะขามเฒ่า จ. ชัยนาท
ด้านหลังเหรียญ ยันต์พุทธม้วน 3 ชั้น ชั้นที่หนึ่งพุทธคุณ ชั้นที่สองธรรมคุณ
ชั้นที่สามสังฆคุณ ล้วนแต่มีความหมาย ล้อมด้วย อิ ทั้ง 4 ทิศ พุทธคุณดีทุกด้าน และยังประกอบด้วย ยันต์โสฬสมงคล แปลว่า ๑๖ ชั้นฟ้า มีความหมายถึงภูมิชั้น รูปภูมิอันเป็นถิ่นที่อยู่ของพระพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น เพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองสู่ผู้บูชา.

ปลุกเสก ณ วัดมณีชลขัณฑ์ จังหวัดลพบุรี
วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕
โดยมีครูบาอาจารย์ ร่วมปลุกเสก
๑. หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร วัดโพรงอากาศ ฉะเชิงเทรา
๒. หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ปราจีนบุรี
๓. พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฺฒโน วัดมณีชลขันฑ์ ลพบุรี ปลุกเสกเดี่ยว ด้วย
*** พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ๙ รูป
ภาคเช้า -ปลุกเสกเดียวโดยพระอาจารย์ติ๋ว ๑ วาระ (ทั้ง 3 วาระ )
-*ปลุกเสกโดยหลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ปราจีนบุรี และหลวงพ่อติ๋ว ฐิตวัฑฺฒโน วัดมณีชลขันฑ์ ลพบุรี ๑วาระ
ภาคบ่าย -พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ๙ รูป
-ปลุกเสกโดยหลวงพ่อสมชาย พุทธสโร วัดโพรงอากาศ ฉะเชิงเทราและหลวงพ่อติ๋ว ฐิตวัฑฺฒโน วัดมณีชลขันฑ์ ลพบุรี ๑ วาระ อีกครั้ง

 

3602.ชุดวัตถุมงคลครูบาอาจารย์ศักดิ์ศิทธิ์
พระสมเด็จ หลังยันต์ครู หลวงพ่อสุข วัดบันไดทอง จ.เพชรบุรี ปี 2516
สมเด็จ อชร. หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2517 เมตตา มหาลาภ ระงับภัย มั่นคง วัดอินทร์ประชาราษฏร์

***ให้บูชา ชุดละ 999 บาท (ได้รับพระ 2 รายการ)

​

สมเด็จรุ่นนี้หลวงพ่อสุข ได้ผสมมวลสารพระสมเด็จกรุเก่าจำนวนมาก นำมาผสมในมวลสารพระสมเด็จเพื่อเพิ่มพุทธานุภาพทางพุทธคุณทางแคล้วคลาด
หลวงพ่อสุข วัดบันไดทอง ท่านเป็นพระคณาจารย์อีกรูปหนึ่ง เป็นผู้มีเมตตาสูง ท่านเป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อหนึ่ง วัดห้วยโรง เพชรบุรี ท่านมีวิทยาคมไม่แพ้เกจิอาจารย์เมืองเพชรฯรูปอื่นๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกับท่าน เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศานิกชนชาวเมืองเพชรฯ เป็นอันมาก วัตถุมงคลของท่านสร้างไว้ ซึ่งมีเหรียญ, พระปรกใบมะขาม, พระสมเด็จ และลูกอม ดีทางเมตตาและป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ โดยเฉพาะคงกระพันชาตรีมหาอุด ท่านเป็นพระเกจิที่ดังมาในช่วงเวลาเดียวกันกับลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ

​

พระสมเด็จ รุ่นนี้ ได้รวบรวมสุดยอดมวลสารที่น่าสนใจมากๆ คือ ได้มีการผสมเศษชิ้นส่วนของสมเด็จบางขุนพรหม ลงไปเป็นส่วนผสมรวมกับผงพุทธคุณ108 ผงวิเศษ ทั้ง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห เป็นมวลสาร ของการจัดสร้างครั้งนี้ด้วย
โดยได้ให้บูชา ที่วัดอินทร์ประชาราษฏ์ ( อชร.) โดยได้ผสมผงไม้พญางิ้วดำ ที่ปลุกเสกโดย สุดยอดเกจิ แห่งยุคนั้น คือ หลวงพ่อเกษม เขมโก และ หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่ ออกเมื่อปี 2517