หลวงพ่อฤาษีลิงดำแนะนำการเลือกคบมิตร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นักบุญแห่งสุวรรณภูมิ, 28 พฤษภาคม 2008.

  1. นักบุญแห่งสุวรรณภูมิ

    นักบุญแห่งสุวรรณภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +5
    [​IMG]

    อบายมุข คือเหตุแห่งความสลายตัว
    ท่านบอกว่า อบายมุข คือเหตุแห่งความฉิบหายมี 4 อย่าง คำว่าฉิบหายนี่ภาษาบาลีถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานะ อะไรก็ตามที่ต้องสลายตัวท่านเรียกว่าฉิบหายทั้งหมด

    อบายมุข 4 อย่างนี้จะต้องหลีกเหลี่ยงนะลูกนะ คือว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับมัน ถ้าเข้าไปยุ่งกับมัน มันก็ยุ่ง
    1 ความเป็นนักเลงหญิง ถ้าผู้ชายเจ้าชู้หรือว่าหญิงเป็นนักเลงชาย ชอบเจ้าชู้นี่ไม่เป็นเรื่อง พัง
    2 การเป็นนักเลงสุรานักดื่มสุราเมายาฝิ่น กินกัญชาเฮโรอินอะไรพวกนี้ไม่เป็นเรื่อง
    3 การเป็นนักเลงการพนัน
    4 การคบมิตรชั่วเป็นมิตร
    การคบคนชั่วเป็นมิตรก็คบบุคคลที่เป็นราษฎรนี่ เพียงคนเลวๆ เข้ามาเราก็พัง เป็นอันว่าเหตุ 4 ประการนี้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าใครปฏิบัติตามนี่ละก็ไม่มีความสุข มันมีแต่ความทุกข์ ทรัพย์สินมีเท่าไรก็บรรลัยเป็นทุนหมดไม่ได้ อย่าลืมว่าอบายมุข 4 อย่างไม่ดีนะจำไว้ด้วย จำได้ไหม ท่านมาพูดตอนนี้อีกทีหนึ่งพ่อขอข้ามมาเลยว่า
    คนเทียมมิตร มิตรที่ไม่ควรคบหา <O:p</O:p
    มิตรปฏิรูปคือ คนเทียมมิตร แหม เรื่องการคบมิตรนี่สำคัญมาก ที่พระพุทธจ้าท่านกล่าวว่า อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑ ตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตมังฯ
    ก็หมายความว่าอย่าคบคนชั่วและบูชาแต่บุคคลที่ควรบูชา จัดว่าเป็นอุดม เป็นอันว่าดูสิว่ามิตรปฏิรูปท่านว่าอย่างไรนะ
    คือคนที่เทียมมิตรมีอยู่ 4 จำพวก
    1 คนปอกลอก ไอ้คนปอกลอกนี่ดีแต่ใช้เงินของเรา กินเอาแต่เสียไม่จ่ายนี่คนปอกลอกประเภทนี้ก็จำไว้ว่าไม่ใช่มิตรแท้ ไม่ควรจะคบ
    2 คนดีแต่พูด เวลาคนอื่นเขาทำก็ติโน่นตินี่ เวลาตัวเองทำระยำอัปรีย์ไม่พูดหรอก พูดแต่ชอบจะด่าเขา ไอ้ คนจะด่าคนเหตุผลมันง่ายๆ เหมือนกับคนชกมวยไอ้คนดูบอกไม่ศอกไม่เข่า ตาคนนั้นมันงงเต็มที นี่คนดีแต่พูดแต่ไม่ทำดีนี่อย่าคบ
    3 คนหัวประจบสอพลอ คนชอบประจบนี่ ดีก็ตามชั่วก็ตามดีซะเรื่อยอันนี้ก็ไม่ควรคบ
    4 คนชักชวนไปในทางฉิบหาย เห็นมั้ย ชักชวนไปในทางฉิบหายนี่ก็ไม่ควรคบ ท่านบอกไอ้คนประเภทนี้มันไม่ใช่มิตรแท้ มันเป็นศัตรู คือต้องถือว่าเป็นศัตรูที่ทำลายความสุข ถ้าฐานะของเราทรงตัวอยู่ไม่ช้าเราก็พังถ้าเราขืนคนประเภทนี้นะ
    ทีนี้ดูบาลีของท่านของท่านต่อไป ท่านขยายความว่าลักษณะของคนที่ชอบปอกลอก มิตรปอกลอก ท่านบอกว่าลักษณะมาเป็นอย่างมาเป็นอย่างนี้
    คน 4 เหล่านี้ท่านบอกให้ลักษณะว่า
    ลักษณะของคนปอกลอก
    คนปอกลอก มีลักษณะ 4 คือ <O:p</O:p
    คนดีแต่พูด ท่านบอกว่ามีลักษณะ 4 เหมือนกัน ลูกจำไว้ให้ดีนะ เพราะลุกจะต้องมีชีวิตต่อไป และบอกลูกหลานเหลนบอกกันต่อๆ ไปว่าคนประเภทนี้อย่าไปคบคนที่ไม่ควรคบ
    1 เก็บเอาของที่ล่วงแล้วมาปราศัย เอ๊ะ...อย่างนี้พ่อนี่ หมายความว่ายกย่องในความดี ที่เราทำไว้ในที่ไหนๆ แกบอก แกจำได้ ดีไม่ดี แกเสริมยิ่งกว่าเก่า ถ้าเป็นคนบ้ายอก็พังกันไปใหญ่เลย
    • คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว อะไรก็ตามขอให้มันเป็นประโยชน์แก่เขาบ้าง เขาชอบ ถ้าเราจะหยิบยืมเขาบ้าง จะขอเขาบ้างเค้ากลับไม่ให้ คนประเภทนี้สมเด็จพระสมัมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าอย่าคบ นี่จำไว้ให้ดีนะ พระพุทะเจ้าไม่ได้บอกอย่าคบคนทุกอย่าง ให้เลือกคบ
    • เขาเสียให้เราน้อยแต่ได้มากเขาเอา คนประเภทนี้อย่าคบ ถ้าขืนคบก็มีความหายนะ
    • เมื่อมีภัยแก่ตัวก็รีบทำกิจของเพื่อน หมายความว่า ถ้าอันตรายจะพึงเกิดแก่ตัวเขานี่ เขาต้องการให้เราช่วยเหลือ แหม...ขยันทุกอย่าง ทำโน่นทำนี่ให้ แต่ว่าถึงเวลาสบายพวกไม่มองดูเพื่อนหรอก นี่อย่างนี้เขาเรียกคนปอกลอก
    • คบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว นี่หมายความว่าเขามองดูเพื่อนเขาคบกับเรานี่ ว่าประโยชน์มีแก่เขา เขาจึงจะคบ ถ้าเขาไม่ได้ประโยชน์มีแก่เขา เขาจึงคบ ถ้าเขาไม่ได้ ประโยชน์เขาเสียเปรียบ เขาไม่คบ นี่เป็นอย่างนี้นะ นี่เรียกว่าคนปลอกลอก
    คบคนดีแต่พูด<O:p
    2 อ้างเอาสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อ้างเอาสิ่งที่ยังมาไม่ถึงมาพูด หมายความว่าก่อนที่เราจะทำดีไว้อย่างไร แกมาพ<INS cite=mailto:iLLUSiON dateTime=2008-03-22T00:43></INS>ดให้ฟัง และแกก็ส่งเสริม และต่อไปคาดการณ์ข้างหน้าจะต้องดีกว่านั้นท่าทางแบบนี้ เดี๋ยวนี้พ่อเลยไม่คบ
    คนประเภทหัวประจบ<O:p
    ต่อไป ท่านบอกว่าคนประเภทที่ 3 ท่านบอกว่า คนหัวประจบ มีลักษณะ 4 เหมือนกัน จำไว้ให้ดีนะ ท่านบอกว่า
    1. จะทำชั่วก็บอกว่าดีๆๆ และก็คล้อยตามมา ทำชั่วก็คล้อยตาม ดีทำอะไรก็ดีนี่ หัวประจบนี่ดีทุกอย่าง
    2. จะทำดีก็คล้อยตาม เขาถามว่าทำดี ดีครับๆๆ ท่านทำดีแน่ ทำชั่วก็ดีครับๆ ไม่ยอม
    3 สงเคราะห์ด้วยสิ่งที่หามีประโยชน์ไม่ได้ ก็หมายความว่าสิ่งที่จะนำมาให้เราอาจจะเป้นของไม่มีค่า แต่ว่า แหม...บอกว่าคิดถึงพยายามหาของดียิ่งกว่านี้แต่มันหาไม่ได้ หาได้แค่นี้ ตั้งใจมาให้
    4 ออกปากเวลาเราต้องการจะพึ่ง แกบอกไม่ไหวหรอก บอกพึ่งอะไรกันเล่าไม่ไหวไม่มี หมด ทั้งๆ ที่เห็นว่ามี แกก็บอกว่าไม่มี พ่อเคยคบพบพระผู้ห่มผ้าเหลืองนี่ แหม...ไม่อยากจะพูด มีจริยาขัดคอ
    3. ต่อหน้าสรรเสริญ แหม...ยกมือไหว้หมอบราบคาบแก้วด้วยเหตุนานประการ
    4. ลับหน้านินทา ลูกเคยเจอะไหมล่ะเจอะมาเยอะแล้วใช่ไหม สบายใจไหมล่ะ คนประเภทนี้ น่ะ จำไว้ให้ดีนะคนอย่างนี้ แต่ว่า การที่ไม่คบนี่ไม่ใช่หมายความว่าเห็นหน้าแล้วก็หน้าบึ้ง เห็นหน้าแล้วก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เจอะหน้าเขาๆ แก่กว่าเราก็ไหว้ เราก็ยิ้มให้ ก้มหัวให้ แต่ว่าเขาชวนไปทำอะไรอย่าไปร่วมด้วย
    ลักษณะที่ 4 คนที่ชักชวนไปทางฉิบหาย มีลักษณะ 4
    1. ชวนให้ดื่มน้ำเมา ไอ้น้ำเมาก็รู้อยู่ แล้วว่ามันไม่ดีนะ พ่อไม่ต้องอธิบายรู้อยู่แล้ว<O:p</O:p
    2. ชักชวนให้เที่ยวกลางคืน บ้าเรามีนอน จะไปทำไม
    3. ชักชวนให้มัวเมาในกาละเล่น หมายถึงว่าการดูมหรสพ<O:p</O:p
    4. ชักชวนให้มัวเมาในการเล่นการพนัน
    มิตรแท้ ที่เราพึ่งได้<O:p
    มิตรแท้ ท่านบอกว่า 4 จำพวกเหมือนกัน
    1. มิตรอุปการะ
    2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
    3. มิตรแนะประโยชน์
    4. แหม...อย่างนี้ใช้ได้ แจ๋วแหว๋วเลยนะ
    5. มิตรมีแต่ความรักใคร่
    พ่อจะขอรวบรัด เพราะเหลือเวลาอีก 4 นาที ท่านบอกว่า มิตรที่มีอุปการะมาก
    มีลักษณะ 4 คือ
    1.ปกป้องเพื่อนฝูงผู้ประมาทแล้ว
    2.ป้องกันสินทรัพย์สินของเพื่อนฝูงผู้ประมาทแล้ว
    3.เมื่อมีภัย เป็นที่พึงที่พำนักได้
    4.เมื่อมีธุระ ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออก นี่จำให้ดีนะ ทวนได้เพราะเป็นเทปบันทึกเสียง
    แล้วก็ มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
    มีลักษณะ 4 ลักษณะ
    1.ขยายความลับของตนแก่เพื่อน
    2.ปิดความลับของเพื่อนไม่ให้แพร่งพราย
    3.ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ
    4.แม้แต่ชีวิตก็อาจสละแทนกันได้
    นี่มิตรที่ดีควรคบ
    ท่านบอกว่ามิตรที่แนะประโยชน์<O:p
    ท่านบอกว่ามีลักษณะ 4 คือ
    1.ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว
    2.แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี
    3.ให้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง หมายว่าทางดี
    4.บอกทางสวรรค์
    นี่เป็นมิตรทั้ง 4 ประเภทที่ดีควรคบ แหม น่ารัก ท่านบอกว่า มิตรที่มีความรักใคร่
    มีลักษณะ 4 คือ
    • เวลาเราทุกข์เขาพร้อมทุกข์ร่วมกับเรา ไม่ใช่นั่งเฉยๆ นะ ช่วยทุกอย่าง อะไรมันจะเกิดขึ้นแม้ชีวิตจะหาไม่ก็พร้อม
    • เวลาสุขก็สุขด้วย
    • โต้เถียงคนพูดติเตียนเพื่อน
    • รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน หมายความว่าเขายกย่องเพื่อน หมายความว่า ความว่าเขายอกย่องเพื่อนก็รับรอง ใช่ๆ เขาติค้าน
    ความสุขที่หาได้จากสังคหวัตถุ<O:p
    ต่อไปเป็นความสุขทึ่เราจะพึงหาได้จากความคฤหัสถ์ ก็ได้แก่ สังคหวัตถุ เพราะเวลาเหลืออีกนิดหนึ่ง จงทำไว้เป็นปกติเราจะมีความสุข ที่พูดมานี้ที่ละควรละนะลูกนะ ที่ปฏิบัติควรปฏิบัติ ที่พระพุทธเจ้าบอกไม่ อย่าทำเลย ก็อย่าทำนะ ถ้าขืนทำมีทุกข์ ท่านเรียกว่า สังคหวัตถุ การเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
    1. ทาน การให้สิ่งของแก่ผู้อื่น เพราะผู้ให้เป็นปัจจัยของบุคคลผู้รับ
    2. ปิยะวาจา ใช้วาจาอ่อนหวาน พูดแต่วาจาที่ชาวบ้านชอบ
    3. อัตถจริยา ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์คือ ช่วยเกื้อกูลให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่น
    4. สมานัตตา ความเป็นมิตรเสมอ ทำตนเป็นมิตร เสมอกับคนอื่นไม่เสมอตัว
    ประเทศไทยจะคงความเป็นเอกราช<O:p
    ต่อไป
    รวมความว่าพ่อก็ขอนำธรรมะมาต่อท้ายเพราะที่พูดมานี้เพื่อเป็นการแก้ว่าทำไมจึงได้กลัวการทำสงครามกันนัก กลัวตายกันมากหรือไง อะไรเพียงแค่ญวนไม่ทันจะรบ ก็กลัวตายแล้วสงครามเรากับญวนจะได้รบกันหรือเปล่า พ่อคิดว่าเรากับญวนคงไม่ได้รบกันจริงจัง ถ้าบังเอิญจะรบกันก็แค่รบกันเล่นๆ พ่อขอยืนยันว่าประเทศไทยจะเป็นเอกราชต่อไป ประเทศไทยจะมีภัยอยู่บ้างก็ไม่มากนัก แต่ว่าบางขณะมันก็ทำท่าจะริบหรี่ น่าดูอยู่เหมือนกัน แต่ว่าหายระยะเวลาริบหรี่ไปแล้วความผ่องใสจะปรากฏ อารมณ์ของคนจะผ่องใส คล้ายแก้วที่ขัดดีแล้ว มีความใสทั้งนี้เพราะอะไร เพราะความดีของบุคคลทั้งหลายที่ทรงความดี ในประเทศไทยมีมาก
    แต่ก็จงอย่าลืมว่าเจ้าคนที่หน้าเก่าๆ ที่เข้ามาเป็นเจ้านายของเรา วางไว้ซะบ้างเลือกคนใหม่เสียบ้างนะ คนอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด แม้ประเทศไทยก็ยังไม่สิ้นคนดีฉันนั้น
    ต่อไปก็เอาเรื่องของคนๆ หนึ่ง ท่านผู้หนึ่งที่มีความสำคัญที่มากู้ชาติไทยมาได้ด้วยมือเปล่าเหมือนกัน นั้นก็คือ พระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งมีพระสหายสำคัญอีกคน 2 ท่านได้แก่ สมเด็จพะพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก กับ สมเด็จพระราชวังบวร
    เอาล่ะตอนนี้ก็จบกันเสียทีนะ จำให้ดีนะว่าท่านที่เราพูดถึงท่านตายไปหมดแล้ว เราต้องตาย แต่ความดีของท่านทั้งหลายที่สร้างประเทศไทยให้เราอยู่น่ะ เราจะลืมไม่ได้ อย่าทำตนที่เรียกว่าอย่าตายก่อนรบ ถ้าจะตายก็ต้องรบกันตายไม่ใช่อยู่ๆ ก็มายอมตายเฉยๆ อย่างนี้ไม่เป็นประโยชน์ มันเป็นที่น่าตำหนิกันมาก
    เอาล่ะบรรดาท่านลูกรักเวลาเลยไปแล้วพ่อก็ขอยุติแต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูลผล จงมีแด่ลุกรักทุกคน ขึ้นชื่อว่าความชนะทั้งทางโลกและทางธรรมจงมีแก่จิตใจของลูกทุกขณะเวลา จนกว่านะสิ้นชีพตักษัย สวัสดี


    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<O:p

    (พระมหาวีระ ถาวโร ) วัดจันทาราม จ. อุทัยธานี<O:p</O:p
    ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 26 ฉบับที่ 294 กันยายน 2549<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lp085.jpg
      lp085.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.5 KB
      เปิดดู:
      3,548
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุโมทนาครับ ทำเป็นกระทู้แนะนำแล้วครับ

    เพิ่มเติมให้ครับ

    หลักธรรมแห่งการคบมิตร วันที่ August 10, 2007 | หมวด ศาสนา | จำนวนคนอ่านข้อความนี้แล้ว 83 คน | ผลการให้คะแนน [​IMG]
    <!-- Optionally show the description -->พระพุทธองค์ได้นำพาสงฆ์สาวกเสด็จออกประกาศธรรม และก็ได้เดินผ่านร้านขายปลาร้านหนึ่งพระศาสดาทรงหยุดเดิน และได้ชี้พระหัตถ์ไปยังเต่าตัวหนึ่งที่คลานอยู่บนพื้น และได้มีพระกระแสรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้หนึ่งหยิบมันขึ้นมา เมื่อสงฆ์สาวกได้ยินก็รีบปฏิบัติตาม ครู่ต่อมาพระศาสดาทรงรับสั่งให้ปล่อยเต่าตัวนั้นลงพื้น และรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้นั้นลองดมที่มือของตนเอง จากนั้นพระองค์ก็ได้ตรัสถามว่า


    <!-- Page Title Below --><!-- Article Tools box below (Rating, bookmark, save for later, etc.) --><!-- <form name="rate_form" method="post" action="http://thailabor.com/jobs_thailand/index.php?act=proc&type=rate-article"><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tr> <td> <table width="100%" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0"> <tr> <td align="center"><input type="radio" name="rate" value="1" id="1"></td> <td align="center"><input type="radio" name="rate" value="2" id="2"></td> <td align="center"><input type="radio" name="rate" value="3" id="3"></td> <td align="center"><input type="radio" name="rate" value="4" id="4"></td> <td align="center"><input type="radio" name="rate" value="5" id="5"></td> </tr> <tr> <td align="center"><label for="1">1</label></td> <td align="center"><label for="2">2</label></td> <td align="center"><label for="3">3</label></td> <td align="center"><label for="4">4</label></td> <td align="center"><label for="5">5</label></td> </tr> </table> </td> <td valign="middle"><input type="submit" name="rate_button" value="ให้คะแนน" ></td> </tr> <tr> <td> <input type="hidden" name="article_id" value="2105"> </td> </tr></table></form>
    <center>
    </center>
    --><!-- Page List Below --><!-- Actual Article Below --><!-- Screenshot printed below if it exists --><!--[​IMG]
    --><!-- Actual Article Below -->
    [​IMG]


    ในวันหนึ่ง

    พระพุทธองค์ได้นำพาสงฆ์สาวกเสด็จออกประกาศธรรม และก็ได้เดินผ่านร้านขายปลาร้านหนึ่งพระศาสดาทรงหยุดเดิน และได้ชี้พระหัตถ์ไปยังเต่าตัวหนึ่งที่คลานอยู่บนพื้น และได้มีพระกระแสรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้หนึ่งหยิบมันขึ้นมา เมื่อสงฆ์สาวกได้ยินก็รีบปฏิบัติตาม ครู่ต่อมาพระศาสดาทรงรับสั่งให้ปล่อยเต่าตัวนั้นลงพื้น และรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้นั้นลองดมที่มือของตนเอง จากนั้นพระองค์ก็ได้ตรัสถามว่า

    “บัดนี้เจ้าได้กลิ่นอะไรฤๅ? ” “กลิ่นคาวที่เหม็นมากพระพุทธเจ้าข้า ”
    “เป็นที่แน่นอนที่สุด! เต่าที่เคยอยู่ในถังปลาก็ต้องเปื้อนด้วยกลิ่นคาวของปลา และใครก็ตามที่จับเต่าตัวนั้นขึ้นมา กลิ่นคาวก็จะติดมือของเขาผู้นั้นมาด้วย เหตุผลเดียวกันมิตรสหายที่เจ้าคบหาก็มีผลกระทบต่อเจ้าเช่นกัน สหายบางคนทำให้เจ้าประเสริฐ แต่ก็มีที่ทำให้เจ้าตกต่ำ ดังนั้นการคบมิตรสหายจึงต้องระวังและรอบคอบ”

    มีภาษิตคำโบราณที่กล่าวว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ” ในบทบันทึกจริยาของท่านขงจื้อได้กล่าวไว้ว่า “คบหากับสุภาพชน ดั่งท่องไปในแดนไม้ดอก นานไปไม่ต้องดมก็หอม คบหากับคนพาล ดั่งเดินยำไปในบ่อปลานานไปไม่ต้องดมก็เหม็น” ด้วยเหตุนี้ จะคบค้าสมาคมกับใครจึงต้องระวัง ท่านเจิ่งจื่อกล่าวไว้ว่า “สุภาพชนอาศัยความสุภาพคบมิตร อาศัยมิตรเสริมเพิ่มการุณย์ธรรม ” มิตรสหายที่เราคบหาอยู่ร่วมให้กำลังใจ ร่วมหนุนนำร่วมเพื่อเสริมคุณธรรมความสุขุมในหนทางธรรมบำเพ็ญแก่เราหรือไม่? เช่นนี้จะไม่ระวังรอบคอบได้หรือ?

    พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง

    มนุษย์นั้น ด้วยเหตุที่ดำรงชีพอยู่ในสังคมอันมีวิวัฒนาการถึงขีดสุด จึงมีเหตุบางประการที่ควรทิ้งกลับเก็บ ที่ควรเก็บกลับทิ้งไป ดังนั้นสิ่งที่ครอบครองอยู่บางครั้งไม่เพียงแต่ไม่ก่อเกิดประโยชน์กลับทำให้มัวหมอง สภาพแวดล้อมช่วยสรรสร้างผู้คน ขึ้นสามารถสรรสร้างโอกาสได้ ดังนั้นชะตาชีวิตของทุกๆคนล้วนอยู่ในกำมือของตนเอง

    ที่มา สังคมธรรมะออนไลน์
    http://thailabor.com/jobs_thailand/index.php?article=2105
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2008
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    จริงครับ ถ้าเราเลือกคบมิตรผิด เรามีสิทธิ์จะเลวตามเขาไปด้วย
     
  4. atomdekst

    atomdekst Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +79
    เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี
    หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้
    เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตฒ์
    หายากฝากผีไข้ ยากแท้ จักหา

    - โคลงโลกนิติ -
     
  5. nu778i

    nu778i สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +16
    ...ขึ้นชื่อว่าความชนะทั้งทางโลกและทางธรรมจงมีแก่จิตใจของลูกทุกขณะเวลา จนกว่านะสิ้นชีพตักษัย ...
    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  6. pum_anatta

    pum_anatta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +805
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    กำลังออกห่างจากคนพาลอยู่ค่ะ
    (โดนเพื่อนกระแนะกระแหนอีกแล้ววว แต่เฉยไว้ๆ)
    ขอขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆในการเลือกคบเพื่อนนะคะ
    ในเวปพลังจิตนี้มีเพื่อนดีๆทั้งเลย ^_^
     
  7. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุครับ
    ความจริงในตัวผมก็มีส่วนเลวอยู่เยอะแล้ว..ถ้าหลงไปคบคนที่เลวในสันดานเข้าไปอีกมีหวังจมปลักในทางเสื่อมอันมืดบอด ไม่ต้องเห็นแสงทองแสงธรรมแน่
     

แชร์หน้านี้

Loading...