สายตรวจ สืบศักดิ์ นอนวัด สงบจิต

สายตรวจ 'สืบศักดิ์' นอนวัด สงบจิต

​

กลิ่นหอมหวานของขนมโบราณโชยกลิ่นมาจากลานพิธีกวนข้าวทิพย์ บรรดาอุบาสก-อุบาสิกานุ่งขาวห่มขาวนับสิบคน เร่งศรัทธาเพิ่มบุญด้วยการออกแรงช่วยกันกวนข้าวทิพย์ในกระทะใบบัวอย่างขะมักเขม้น ขณะที่ผู้ถือศีลอีกนับพันๆ<SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";google_ad_slot = "8122705396";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

คนกำลังรอเวลาพระครูไพศาลสาครกิจ เจ้าอาวาสวัดเกตุมดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ออกนั่งเทศนาธรรมและนำทำสมาธิตอน 2 ทุ่มครึ่งทุกวัน ตลอดการปาริวาสกรรม 10 วัน 10 คืน

ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ รอง สว.ธร.กก.1 บก.ตปพ.(191) ช่วยราชการงานสายตรวจ 2 หรือที่ใครๆ รู้จักกันดีในชื่อ "โจ้ หลังเท้าบันลือโลก" ฉายาที่หลายคนรู้จักเขาในนามนักตะกร้อทีมชาติไทยลีลาฉกาจ เป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาสร้างบุญด้วยการเข้าร่วมปาริวาสกรรม ชำระจิตใจให้สงบ เพื่อสั่งสมบุญกุศลในครั้งนี้ด้วย

"สิ่งที่ช่วยเราอยู่ได้คือบุญ คนเรามีบุญดั้งเดิม แต่หากเราไม่เสริมบุญ บุญที่สะสมมาก็จะหมดไป" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ในชุดนุ่งขาวห่มขาวเปรยถึงคำสอนของเจ้าอาวาส ที่ชักนำให้มาเดินบนเส้นทางสายปฏิบัติธรรมมา 3 ปีแล้ว

ปีนี้เช่นกันโจ้ หลังเท้า ขออนุญาตต้นสังกัดลาพักร้อนมาปฏิบัติธรรมนอนวัดเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน โดยจะมีวัตรปฏิบัติเหมือนกันทุกๆ วัน คือ เริ่มต้นราว 2 ทุ่ม มีการฟังเทศน์ ฟังธรรม และนั่งสมาธิ สงบจิตใจไปจนถึง 5 ทุ่ม ก่อนจะแยกย้ายกันไปหลับนอนในเต็นท์ที่กางอยู่เรียงรายรอบวัด ก่อนจะเข้านอนผู้มาปาริวาสกรรมจะต้องจุดธูป 11 ดอก อธิษฐานถอนที่ (ขอที่) พอถึงเวลาตี 3 ก็ต้องตื่นมาสวดมนต์ทำสมาธิ 3 รอบจนถึงตี 5 พอ 6 โมงเย็นจึงแยกย้ายกลับไปปฏิบัติภารกิจ พอตกเย็นค่อยมารวมตัวกันอีกครั้ง

"มาปฏิบัติธรรมมันไม่วุ่นวายดี มีความสุข และฝึกความอดทนด้วย เพราะต้องนั่งสมาธิและสวดมนต์นานๆ" รองสารวัตรโจ้บอกด้วยรอยยิ้มอิ่มบุญ

ภายในวัดเกตุมดีแห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิแล้ว ยังเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยนิยมนับถือ อาทิ หลวงปู่ทวด, สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี, พระสังกัจจายน์ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ รวมถึงท้าวเวสสุวรรณ เทพคุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ ร.ต.ท.สืบศักดิ์นับถือ ทุกครั้งที่ผ่านวัดมักจะแวะเวียนมาขอพรจากท้าวเวสสุวรรณอยู่เนืองนิตย์

"ผมนับถือปู่เวสฯ ตอนที่ผมไปสอบผู้ประกาศผมขอพรจากปู่เวสฯ และนำท้าวเวสสุวรรณองค์เล็กๆ ติดตัวไปสอบด้วย ผลออกมาผมก็สอบผ่าน หากมองทางความเชื่อก็มองว่าเรามีบุญ แต่ในทางโลกก็เป็นเครื่องสร้างความมั่นใจ"

ความศรัทธาต่อพุทธศาสนา ทำบุญ และทำความดีมาตลอดชีวิต ส่งผลให้ ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพียง 19 ปีก็ติดทีมชาติไทยแล้ว และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นใบเบิกทางให้เขาก้าวไปสู่อาชีพที่ใฝ่ฝัน นั่นคือตำรวจ และอาชีพที่ไม่เคยใฝ่ฝัน นั่นคือ ดารา !?!

"ผมรอเข้าตำรวจมานานนะ ตำรวจเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก เคยจะเข้าเรียนในโควตานักกีฬา แต่ไม่มีโควตาตะกร้อ จึงไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจตามปกติ แต่ไม่ติด พอดีช่วงนั้นผมมีแววจะติดทีมชาติแล้ว เลยคิดว่าสักวันคงใช้ความสามารถตรงนี้เข้ามาเป็นตำรวจได้"

แล้วฝันก็เป็นจริง...เมื่อปี 2545 โจ้ได้รับสิทธิ์โควตาพิเศษประดับยศ ส.ต.ท. กองกำกับการสายตรวจรถยนต์ (191) ดูแลงานป้องกันปราบปรามทั่ว กทม. อีก 5 ปีต่อมาจึงเลื่อนขั้นขึ้นเป็น ร.ต.ต.และเมื่อเทียบ

"รู้สึกดีนะ ตำรวจเป็นงานที่ได้ช่วยคน ผมเคยออกตรวจไปเจอรถเสียบนสะพาน เห็นผู้หญิงอุ้มเด็กตัวเล็กๆ ยืนขอความช่วยเหลืออยู่ หากเป็นคนทั่วๆ ไปอาจไม่กล้าเข้าไปช่วย แต่ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงไปช่วยเหลือเขา" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ยังตั้งปณิธานด้วยว่า จะทำงานให้เต็มที่สมกับเงินภาษีของประชาชน เฉกเช่นเดียวกับการเป็นนักกีฬา ที่ได้เงินสนับสนุนจากภาษีของประชาชนก็อยากสร้างผลงานให้ได้เต็มที่

นอกจากนี้ "โจ้ หลังเท้า" ยังใช้ความสามารถด้านการเล่นตะกร้อที่ฝึกฝนมาตลอดชีวิต ช่วยเหลืองานตำรวจด้วยการทำงานมวลชน ออกไปอบรมเด็กนักเรียนที่สนใจในกีฬาตะกร้ออีกด้วย เขาบอกว่า งานของเขาจะเริ่มจากการป้องกันปราบปราม การสร้างเยาวชนให้รักการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็น่าจะเป็นการป้องปรามได้ ป้องกันไม่ให้เยาวชนหลงผิดได้อีกทาง

"นี่ เด็กๆ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กำลังซ้อมเล่นตะกร้อท่าเบสิฏอยู่" โจ้ให้ดูภาพตอนไปอบรมนักเรียนในกล้องดิจิทัล

ด้วยความที่เป็นคนมีชื่อเสียง เวลาออกปฏิบัติหน้าที่สายตรวจก็ยังมีคนจดจำใบหน้าที่หลอเหลาคมเข้มของเขาได้ แถมแอบภูมิใจลึกๆ ที่เคยถูก ร.ต.ท.สืบศักดิ์จับอีกต่างหาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอน บช.น.ระดมกำลังสายตรวจ สุนัขตำรวจ บก.น.6 ตำรวจปราบจลาจล ฯลฯ เข้าตรวจค้นในวิทยาลัยช่างกล รองสารวัตรโจ้รออยู่ด้านนอก สังเกตเห็นเด็กช่างท่าทางมีพิรุธ ขอตรวจค้นเป้เจอเสื้อผ้าซกมกรวมอยู่กับถุงเท้า แล้วก็มีดปลายแหลมเล่มใหญ่ เด็กอ้างว่าเอาไว้ตัดขวดพลาสติกกินน้ำ เพราะในโรงเรียนไม่มีแก้วน้ำ เลยสั่งให้ลูกน้องคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

"ตอนหลังลูกน้องมาเล่าให้ฟังว่า เด็กช่างภูมิใจมากที่ สืบศักดิ์ ผันสืบ จับมัน" รองสารวัตรโจ้เล่าไปขำไป

นอกจากจะสวมบทบาทนักกีฬาและผู้พิทักสันติราษฎร์แล้ว ร.ต.ท.สืบศักดิ์ยังสวมบทบาทในโลกมายา ด้วยการประเดิมการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต โดยแสดงเป็นตัวเขาเองจากเรื่อง "เกิดมาลุย" ใช้ลีลาจอมเตะหลังเท้า ซัดดาวร้ายเสียจนแตกกระเจิง ต่อมายังได้ชิมลางละครเรื่อง "ใจสู้มุ่งสู่ฝัน" สวมบทบาทนักตะกร้อทีมชาติไทย มีลูกตบไม้ตายคือ ลูกตบซันแบ็กที่รุนแรงเป็นที่กล่าวขวัญในวงการกีฬาเซปักตะกร้อ

ตบท้ายการแสดงเบาๆ ด้วยการเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอเพลง "จากวันนี้ไป ให้ใจนำทาง" ของนักร้องลูกทุ่งหน้าหวาน "ฝน ธนสุนทร" ที่เขาแสดงได้สมบทบาทจนมีหลายคนแอบน้ำตาซึมไปกับภาพและเสียงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า "ผมอยู่กับกีฬาตั้งแต่เด็ก เป็นงานที่มีความชำนาญ แต่ก็มีโอกาสมาเจองานด้านอื่นๆ นับเป็นโอกาสที่ดี แต่ผมก็ไม่คาดหวังอะไรมาก แค่ทำให้ดีที่สุด ทำแล้วสนุกดี แต่ไม่ถนัด โชคดีที่ชีวิตได้ทำอะไรเยอะๆ ต้องบอกว่าทุกอย่างได้มาจากกีฬาอย่างเดียว ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และหน้าที่การงานที่เป็นความมั่นคงของชีวิต" รองสารวัตรหนุ่มหน้าคมสะท้อนด้านดีของการเล่นกีฬา ก่อนขอตัวไปสู่โลกแห่งธรรม !


ที่มา คมชัดลึก
<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

 

รุ่นพี่ผมเองครับ

ผมนั่งดูรุ่นพี่คนนี้เล่นตระกร้อมาตั้งแต่เขาเป็นเพียงนักกีฬาโรงเรียนธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน โรงเรียนคาทอลิคซะด้วย แต่ปัญญานำหน้าศรัทธา ความมีเหตุผลของศาสนาพุทธ บวกกับบุญเก่าของพี่เขา เลยทำให้เจริญทั้งทางโลกทางธรรมเช่นนี้ สาธุ ครับ

เป็นเรื่องล้มเหลวของศาสนาคริสต์ที่ได้สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และองค์กรณ์ต่างๆมากมาย เพื่อหวังผลทางศาสนา แต่สุดท้ายก็มีคนเปลี่ยนไปเป็นศาสนาคริสที่เน้นแต่ศรัทธาปรัมปราได้ในสัดส่วนที่น้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ