เปรียบเทียบผลบุญ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 13 เมษายน 2010.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    เวลามสูตร..
    <!-- Main -->
    เวลา มสูตร : เปรียบเทียบผลบุญชนิดต่างๆ

    ที่มา : พระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

    เนื่องจาก เวลามสูตรนี้ เป็นพระสูตรที่มีเนื้อหาบางตอนที่เข้าใจได้ค่อนข้างยาก ผู้ดำเนินการจึงได้ทำการสรุป โดยนำเอาเนื้อหาที่สำคัญมาจัดเรียงแยกเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายในการทำความเข้าใจ ดังนี้

    พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ณ พระวิหารเชตวัน ใกล้พระนครสาวัตถี แคว้นโกศล ถึงผลบุญที่เกิดขึ้น จากการทำบุญประเภทต่างๆ ตั้งแต่การให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา (คำว่าบุญนั้น คือการชำระจิตให้ผ่องใสจากกิเลส มีหลายวิธี ไม่ใช่เฉพาะการให้ทานเท่านั้น) ว่าอย่างไหนให้บุญมาก/น้อย แตกต่างกันอย่างไร มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

    พระพุทธเจ้าตรัส ว่า : บุคคลให้ทานอันเศร้าหมอง หรือประณีตก็ตาม (ในที่นี้หมายถึงการให้ของที่มีราคาถูกมีสภาพไม่น่าดู หรือของที่มีราคาแพงประณีตสวยงาม เพราะในตอนนั้นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ประสบภัยพิบัติหลายอย่าง ทำให้ฐานะยากจนลง ไม่สามารถทำบุญด้วยอาหารชั้นดีได้อย่างเมื่อก่อน ทำได้แค่เพียงปลายข้าวกับน้ำผักดองเท่านั้น ) แต่ให้ทานนั้นโดยความเคารพ ทำความนบนอบให้ ให้ด้วยมือตนเอง ให้ของที่ไม่เหลือ เชื่อกรรมและผลของกรรม ย่อมได้ผลบุญมาก

    และได้ทรงแจกแจงรายละเอียดของผลบุญจากการทำบุญ ชนิดต่างๆ ไว้ดังนี้

    - การให้ทานโสดาบันท่านเดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานแก่ปุถุชนจำนวนมาก
    - การให้ทานโสดาบัน 100 ท่าน ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานโสดาบันท่านเดียว
    - การให้ทานสกทาคามีบุคคลท่านเดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานโสดาบัน 100 ท่าน
    - การให้ทานสกทาคามีบุคคล 100 ท่าน ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานสกทาคามีบุคคลท่านเดียว
    - การให้ทานอนาคามีบุคคลท่านเดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานสกทาคามีบุคคล 100 ท่าน
    - การให้ทานอนาคามีบุคคล 100 ท่าน ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานอนาคามีบุคคลท่านเดียว
    - การให้ทานพระอรหันต์ท่านเดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานอนาคามีบุคคล 100 ท่าน
    - การให้ทานพระอรหันต์ 100 ท่าน ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานพระอรหันต์ท่านเดียว
    - การให้ทานพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์เดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานพระอรหันต์ 100 ท่าน
    - การให้ทานพระปัจเจกพุทธเจ้า 100 พระองค์ ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์เดียว
    - การให้ทานพระสัพพัญญูพุทธเจ้าพระองค์เดียว ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานพระปัจเจกพุทธเจ้า 100 พระองค์
    - การให้ทานภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข (สังฆทาน - การให้ทานโดยไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นภิกษุรูปนั้นรูปนี้) ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    - การสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4 (ให้โดยไม่เจาะจงผู้รับว่าต้องเป็นภิกษุรูปนั้นรูปนี้) ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
    - การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ได้ผลบุญมากกว่า การสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4
    - การรักษาศีล 5 ได้ผลบุญมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ
    - การเจริญเมตตาจิต (เป็นการทำสมาธิรูปแบบหนึ่ง) แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ได้ผลบุญมากกว่าการรักษาศีล 5
    - การเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงลัดนิ้วมือ (การเจริญอนิจจสัญญาคือการพิจารณาถึงความไม่เที่ยง ซึ่งเป็นการเจริญวิปัสสนาอย่างหนึ่ง เพียงลัดนิ้วมือคือเพียงเท่าเวลาที่ดีดนิ้วมือ 1 ครั้ง) ได้ผลบุญมากกว่าการเจริญเมตตาจิตแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม

    หมาย เหตุ

    พระพุทธเจ้ามี 2 ประเภทคือ
    1.) พระปัจเจกพุทธเจ้า - ตรัสรู้สัจธรรมได้เองโดยไม่ได้ฟังคำสอนจากใคร แต่สอนผู้อื่นให้รู้ตามไม่ได้ จะอุบัติขึ้นในช่วงที่โลกว่างเปล่าจากศาสนา
    2.) พระสัพพัญญูพุทธเจ้า - ตรัสรู้สัจธรรมได้เองโดยไม่ได้ฟังคำสอนจากใคร และสามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ด้วย เช่น พระพุทธเจ้าที่เรารู้จักกันทั่วไป

    ข้อสังเกต

    - การเจริญวิปัสสนาจะได้บุญมากกว่าอย่างอื่น เพราะเป็นการฟอกจิตให้หมดจดจากกิเลสได้มากที่สุด ซึ่งถ้าทำได้ถึงขั้นสูงก็จะทำลายกิเลสได้อย่างถาวร และเมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ก็จะเป็นบุญขั้นสูงที่สุด

    - การทำสมาธิจะได้บุญรองลงมา เพราะเป็นการกั้นจิตจากนิวรณ์ได้ตราบเท่าที่สมาธิยังอยู่ (ดูเรื่องนิวรณ์ 5 และวิธีแก้ไข ในหมวดสมถกรรมฐาน (สมาธิ) ประกอบ)

    - การรักษาศีลจะได้บุญรองจากการทำสมาธิ เพราะเป็นการขัดเกลาจิตจากกิเลสขั้นหยาบ คือการล่วงละเมิดทางกายและทางวาจา

    - การมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ คือการหันมานับถือพระพุทธศาสนา ให้ผลบุญมากเพราะเป็นการหันมารับเอาความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาจิตด้วยวิธีการทั้งปวง

    - การให้ทานแก่สงฆ์ (สังฆทาน) จะได้บุญมากกว่าการให้ทานแบบเจาะจงตัวผู้รับ เพราะใจเปิดกว้างกว่า (ต้องไม่เจาะจงตัวผู้รับด้วยใจที่แท้จริงถึงจะได้บุญมาก)

    - การให้ทานแบบเจาะจงตัวผู้รับนั้น จะให้ผลบุญลดหลั่นกันไปตามขั้นของความบริสุทธิ์ของจิตของผู้รับ (ดูเรื่องอริยบุคคล 8 ประเภท ในหมวดวิปัสสนา ( ปัญญา) ประกอบ

    ผู้ รวบรวม
    ธัมมโชติ
    29 พฤศจิกายน 2543

    -----------------------------------------------------------
    นำมาจาก
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mummy&month=06-2005&date=28&group=1&gblog=54
     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับท่านที่ได้นำพระธรรมมาเผยแพร่ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  3. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    เพิ่มให้นะครับ
    พระอริยบุคคล 8 ประเภท
    ๑.พระโสดาบันปฏิมรรค
    ๒.พระโสดาบันปฏิผล
    ๓.พระสกิทาคามีมรรค
    ๔.พระสกิทาคามีผล
    ู๕.พระอนาคามีมรรค
    ๖.พระอนาคามีผล
    ๗.พระอรหันตมรรค
    ๘.พระอรหันตผล
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    - การสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4 (ให้โดยไม่เจาะจงผู้รับว่าต้องเป็นภิกษุรูปนั้นรูปนี้) ได้ผลบุญมากกว่าให้ทานภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
    - การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ได้ผลบุญมากกว่า การสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4

    - การรักษาศีล 5 ได้ผลบุญมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ
    - การเจริญเมตตาจิต (เป็นการทำสมาธิรูปแบบหนึ่ง) แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ได้ผลบุญมากกว่าการรักษาศีล 5
    - การเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงลัดนิ้วมือ (การเจริญอนิจจสัญญาคือการพิจารณาถึงความไม่เที่ยง ซึ่งเป็นการเจริญวิปัสสนาอย่างหนึ่ง เพียงลัดนิ้วมือคือเพียงเท่าเวลาที่ดีดนิ้วมือ 1 ครั้ง) ได้ผลบุญมากกว่าการเจริญเมตตาจิตแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม

    อนุโมทนาบุญนะคะ แม้ทราบดังนี้แล้ว เราก็ยังต้องบำเพ็ญบุญกุศลให้ถึงพร้อมในทุกๆด้าน.
     

แชร์หน้านี้

Loading...