ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บึ้มศาลาริมทาง เจ็บ 9 ราย ป่วนใต้รายวัน

    [​IMG]

    โจรใต้แฝงตัวใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดศาลาที่พักริมทางกลางเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทหาร อาสาสมัครและชาวบ้านบาดเจ็บ 9 ราย โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว.....

    เมื่อวันที่ 19 ก.ค.เวลา 17.15 น.ร.ต.ท.นพดล ดิเรกวัฒนสาร ร้อยเวร สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ ที่บริเวณศาลาที่พักริมทาง ซึ่งตั้งอยู่สามแยกอนุสาวรีย์นกสันติภาพ ถนนเอเซีย 18 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร อส.และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 9 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

    จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดที่บริเวณพงหญ้ารกทึบ ด้านหลังของศาลาที่พักริมทางลึก 2 ฟุต กว้าง 5 ฟุต และมีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ได้นำตัวส่ง รพ.สุไหงโก-ลก ไปก่อนหน้าแล้ว โดยถูกสะเก็ดตามบริเวณลำตัว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 6 นายและชาวบ้าน 3 ราย

    จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ท.วสันต์ หัวหน้าชุด สังกัดร้อย ร.1922 ฉก.นราธิวาส 36 ได้นำกำลังทหารและ อส.อ.สุไหงโก-ลก รวม 6 นาย ขี่รถ จยย.3 คัน มาที่ศาลาที่พักริมทางจุดเกิดเหตุ เพื่อรอกำลังภาคประชาชน ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณถนนหน้าศาลาที่เกิดเหตุ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย กำลังนั่งอยู่นั้น ได้มีคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้ในพงหญ้ารกทึบริมทางด้าน หลังของศาลาที่พัก จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดกระเด็นไปคนละทิศละทาง และยังส่งผลทำให้ชาวบ้านที่กำลังซื้อของอยู่ที่บริเวณหน้าร้านบาบูเบเกอร์รี่ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บไปด้วย 3 คน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ปลากดคังตายเกลื่อน จี้ตรวจเขื่อนกิ่วลมลำปาง

    [​IMG]

    นักท่องเที่ยวล่องแพเขื่อนกิ่วลม ตะลึงพบปลาคังตายเกลื่อนลอยออกจากกระชังที่เลี้ยงไว้ในเขื่อนกิ่วลมจำนวน หลายหมื่นตัว ฝ่ายประมง จ.ลำปาง จะเข้าตรวจสอบสาเหตุการตายของปลาอีกครั้ง....

    เมื่อวันที่ 19 ก.ค.เวลา 14.00 น.นางสา ลิ้มทอง อายุ 58 ปี เจ้าของเลี้ยงปลาในกระชังในเขื่อนกิ่วลม ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง จำนวน 50 กระชัง เปิดเผยว่า ปลากดหรือ ปลาคัง ที่เลี้ยงไว้ในกระชังเกิดการตายขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุรวมทั้งหมด 50 กระชัง จำนวนปลาที่ตายเกือบ 20,000 ตัว โดยปลาทั้งหมดได้ลอยหงายท้องขาวเกลื่อนไปทั่วบริเวณเขื่อนกิ่วลม

    ต่อมาจึงได้แจ้งให้นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผอ.โครงการเขื่อนกิ่วลม กิ่วคอหมา ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรุดมาตรวจสอบดูเหตุเบื้องต้นและพบว่าปลากดหรือปลาคังที่เลี้ยงไว้ใน กระชังจำนวน 50 กระชัง ลอยออกมาตายทั้งในกระชังและนอกกระชังตามที่รับแจ้งจริง ซึ่งสาเหตุนั้นในเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งจะต้องสอบถามเจ้าของกระชังปลาว่าเกิดอะไรขึ้น

    ซึ่งนางสา ลิ้มทอง ผู้เป็นเจ้าของกระชังปลาแต่ผู้เดียว กล่าวว่า ก็ไม่ทราบสาเหตุการตายของปลา ซึ่งตั้งแต่เลี้ยงปลาในกระชังในเขื่อนกิ่วลมมากว่า 15 ปี ไม่เคยพบเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน ซึ่งถือว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียหายในครั้งนี้ให้กับตนเองซึ่ง ปลาในกระชังที่ตายค่าเสียหายประมาณ 10 กว่าล้านบาท

    สำหรับระดับน้ำใน เขื่อนกิ่วลมในปัจจุบันนี้มีน้ำทั้งหมดประมาณ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่ถือว่าเป็นระดับที่อันตรายกับปลาอย่างที่เจ้าของกระชังคาดคิด เพราะระดับน้ำในระดับนี้ถือว่าเป็นเกณฑ์ปกติ ไม่เป็นอันตรายกับปลาที่เลี้ยงและปลาที่อาศัยอยู่เขื่อนกิ่วลมแต่อย่างใด และเป็นที่สังเกตุว่าปลาธรรมชาติทีอาศัยอยู่ในเขื่อนกิ่วลม ไม่ได้รับผลกระทบ หรือตาย แต่อย่างใด ก็มีแต่ปลาในกระชังเท่านั้นที่ตายเป็นจำนวนมาก จึงวินิจฉัยว่าระดับน้ำในเขื่อนไม่เป็นอันตรายกับปลาซึ่งตามปกติแล้วปลาที่ เลี้ยงในกระชังเป็นปลาที่อ่อนแอ ไม่ได้ว่ายน้ำเหมือนปลาธรรมชาติ โดยทั่วไป เมื่อเจอน้ำเย็นจากฝนตก อาจจะเป็นสาเหตุให้ปลาน็อกได้

    โดยนายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผอ.โครงการเขื่อนกิ่วลม กิ่วคอหมา กล่าวอีกว่า สาเหตุการตายของปลาคังในครั้งนี้อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งคือ ในขณะนี้มีฝนตกซุกมาหลายวันทำให้ระดับน้ำฝนในลำห้วยต่าง ๆ ไหลลงสู่เขื่อนกิ่วลมจำนวนมาก ซึ่งปกติแล้วน้ำในเขื่อนจะมีความอุ่น เมื่อนำเย็นลงมาปนอาจทำให้ปลาช๊อกตายได้ทันที เนื่องจากปรับสภาพไม่ทัน แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็ได้แจ้งให้ทางประมง จ.ลำปาง ได้รับทราบในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งทางกรมประมงจะได้มาตรวจสอบสาเหตุการตายของปลาในวันที่ 20 ก.ค. 53 นี้

    ทางด้านของเจ้าของกระชังปลา กล่าวว่า ปลาคังหรือปลากดคังที่ลอยตายในครั้งนี้เป็น ปลาขนาดใหญ่แต่ละตัวจะมีน้ำหนักประมาณ4-5 กก. ในจำนวนปลา 50 กระชังนั้น คาดตายรวมกันทั้งหมดน่าจะไม่น้อยกว่า 20,000 ตัวเป็นอย่างต่ำ ที่มีชีวิตอยู่ก็มีท่าทีว่าอ่อนแอ และจะมีการตายเพิ่มอย่างแน่นอน หลังจากพบปลาตายแล้วจึงช่วยกันเก็บปลาออกจากเขื่อนกิ่วลมได้เป็นบางส่วนและ นำมาขายให้กับชาวบ้านในราคาถูก แต่เนื่องจากชาวบ้านหวาดกลัวเป็นปลาที่มีเชื้อโรค จึงไม่มีใครกล้าซื้อกินแม้จะขายในราคาถูก กิโลกรัมละ 10 บาทต่อตัว ซึ่งปกติแล้วปลากดคังจะขายได้ราคากิโลกรัมละ 35- 40 บาท เป็นอย่างต่ำ จึงวานให้ผู้เกี่ยวข้องรุดให้ช่วยเหลือด้วย เนื่องจากได้ลงทุนกู้เงินมาเลี้ยงปลาเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งปกติก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำมาก่อนแล้วเมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ก็ แทบหมดตัว

    ส่วนนักท่องเที่ยวที่เหมาแพ ล่องแพ ในเขื่อนกิ่วลมจำนวนหลายร้อยคน ขณะที่ล่องแพอยู่กลางลำน้ำเขื่อนต่างพากันตกตะลึงเมื่อเห็นปลาจำนวนมากลอย เกลื่อนเต็มท้องน้ำ บางคนก็เก็บปลาเอาไว้เพื่อปรุงอาหาร แต่บางคนก็ไม่เอาเนื่องจากหวั่นว่าจะเป็นปลาที่มีโรคติดต่อ

    นายชัย ประเสริฐ เนตรอนงค์ ผอ.เขื่อนกิ่วลม กล่าวว่า สำหรับนางสา เจ้าของกระชังปลา จำนวน 50 กระชัง เป็นผู้ได้รับอนุญาตจากทางเขื่อนกิ่วลมอย่างถูกต้องมากว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งความเสียหายในครั้งนี้ตนเองจะได้รายงานให้ทางจังหวัดและผู้เกี่ยวข้อง ให้ทราบต่อไป

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 420.jpg
      420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.2 KB
      เปิดดู:
      2,217
    • 63.jpg
      63.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      1,802
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  2. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ปีปัจจุบัน ภาวะสิ่งแวดล้อมผันผวน กระทบ คน สัตว์ พืช ภาพรวม ดังที่แลเห็น

    เป็นธรรมดาสังขารโลก ผ่านการตรากตรำมา หลายหน้าประวัติศาสตร์ ย่อมเสื่อมทรุด ป่วยไข้ ไม่เที่ยง
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้จับกระแสคลื่นได้ โรคหวัดกำลังมาละลอกใหม่แล้วครับ

    อย่าลืมรักษาสุขภาพกันทุกๆท่านให้เเข็งแรงเข้าไว้ครับ

    ระมัดระวังรักษาป้องกันไม่ให้ป่วยกันนะครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตรัง-สมิทธอบรมรับมือธรณีพิบัติภัยพื้นที่ภาคใต้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สมิทธ ธรรมสโรช ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ และ อบจ.ตรัง จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก เพื่อรับมือและป้องกันความสูญเสียจากธรณีพิบัติภัยในภาคใต้

    เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 ที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลนครตรัง นายสมิทธ ธรรมสาโรช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก หรือ Eart Science ให้กับบุคลาการทางการศึกษาของจังหวัดตรัง จำนวนกว่า 100 คน ซึ่งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาตรัง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง จัดขึ้น​

    เนื่องจากเห็นว่าในปัจจุบันเรื่องของภัยพิบัติ ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์โดยตรง จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือ หรือป้องกันการสูญเสียจากธรณีพิบัติภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ซึ่งที่จังหวัดตรัง ขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น การเกิดสึนามิ การเกิดรอยแยกของแผ่นดิน การเกิดหลุมยุบหรือ Silk Hole ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน เป็นต้น​

    โดย นายสมิทธิ ธรรมสาโรช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวต่อผู้เข้ารับการอบรมว่า แม้จังหวัดตรังจะโชคดีกว่าจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก เมื่อครั้งเกิดภัยสึนามิ เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นเกาะแก่งป้องกันภัยต่าง ๆ ได้ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ภัยพิบัติอื่น ๆ หลายรูปแบบเกิดขึ้น​

    ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมป้องกันรับมือปัญหา โดยเฉพาะบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องนำความรู้ที่ได้รับตลอดทั้ง 3 วัน คือ วันที่ 19-21 กรกฎาคมนี้ ไปเผยแพร่สู่นักเรียน นักศึกษา ทั้งในและนอกระบบ ในการร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก และสภาวะโลกร้อน​

    นอกจากนั้น ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยังได้แสดงความเป็นห่วงการเกิดภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ ว่า เริ่มเกิดถี่ขึ้น ในขณะที่ระบบเตือนภัยภายในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งมักใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ส่วนระบบเตือนภัยที่มีอยู่ ก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงอยากฝากภาครัฐให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    เชียงราย-เตือน 18 อำเภอระวังน้ำท่วม

    [​IMG]

    ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เชียงราย เตือนประชาชนใน 18 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากซ้ำซาก ขณะที่ปริมาณน้ำตามลำน้ำต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นจากฝนตกหนัก

    นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ป้องกันและบรรเทาสารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าขณะนี้จังหวัดเชียงรายแจ้งให้ที่ว่าการอำเภอทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้แจ้งเตือนประชาชนระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และจัดเวรยามเฝ้าสังเกตระดับน้ำตามแม่น้ำ รวมไปถึงปริมาณน้ำฝน หากเกินมาตราฐานสามารถแจ้งเตือนประชาชนได้ทันที เนื่องจากช่วงนี้มีพายุโซนร้อน และในทุกพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจึงต้องเตรียมความพร้อมไว้​

    และจากการตระเวนสำรวจระดับน้ำในแม่น้ำกก ซึ่งไหลผ่านอำเภอเมืองเชียงราย พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วรวมไปแม่น้ำหลายสาย ส่วนอำเภอที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือ อ.เมืองเชียงราย อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.เทิง อ.พญาเม็งราย เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกปีหากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    กำแพงเพชร-ฝนตกปลากระชังตายจำนวนมาก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังประสบปัญหาปลาทับทิมตายซ้ำซาก ประมงเผยเป็นเพราะฝนตกน้ำขุ่นทำให้ปลาปรับตัวไม่ทัน เครียดไม่ยอมกินอาหาร น็อคน้ำตายนับพันตัว

    นายมานพ พาติกะบุตร ประมงอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังว่า มีปลาทับทิมตายไม่ทราบสาเหตุจำนวนมาก จากการเดินทางไปดูพบที่บริเวณกระชังปลา คลองส่งน้ำวังบัว ม.12 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีเกษตรกรกำลังใช้สวิงช้อนปลาทับทิมตั้งแต่ตัวเล็กไปจนถึงตัวขนาดที่ขายได้แล้วที่ตายลอยเกลื่อนกระชังมากองรวมไว้จำนวนมาก​

    จากการสอบถามเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง กล่าวว่า บริเวณนี้มีเกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชัง 8 ราย รวมทั้งหมด 30 กระชัง ปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้เริ่มตายก่อนช่วงฝนตก ตอนแรกก็ตายไม่มากวันละ10 -20 ตัว แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ฝนตกลงมาทำให้น้ำขุ่น ปลาทับทิมลอยตายจำนวนมากจนน่าตกใจนับพันๆตัว จึงรีบแจ้งให้ประมงเข้ามาตรวจสอบ​

    โดยนำเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพน้ำ วัดค่าพีเอช และค่าออกซิเจนในน้ำบริเวณดังกล่าว พบว่าค่าอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ที่ปลาตายน่าจะมาจากการปรับตัวไม่ทัน เพราะช่วงฝนตกสภาวะน้ำจะเปลี่ยนแปลงทำให้น้ำขุ่น ปลาเครียดไม่ยอมกินอาหาร ส่งผลให้น็อคน้ำตายได้ ในส่วนของเชื้อโรคต้องเก็บตัวอย่างปลาที่ตายไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะถ้าตรวจสอบอย่างละเอียดอาจจะมีในส่วนของปรสิตปลาเข้ามาด้วย เพราะสภาพน้ำขุ่นมาก ​

    เบื้องต้นทางประมงอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้ทำหนังสือประเมินความเสียหายเพื่อประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเสนอให้ทางอำเภอและจังหวัดให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาตามขั้นตอนต่อไป​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    สธ.เผย 10 จังหวัดไข้เลือดออกระบาดหนัก

    [​IMG]

    กระทรวงสาธารณสุข ระบุขณะนี้ไข้เลือดออกระบาดหนักมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมมากที่สุดของประเทศใน 10 จังหวัด ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพียง 1 สัปดาห์ ตายอีก 3 คน

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงว่า ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ โรคไข้เลือดออก ซึ่งพบว่าสายพันธุ์ที่หนึ่ง เป็นเชื้อเดงกี่ มีการระบาดสูงที่สุดในทั่วประเทศขณะนี้ พบเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมาถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ปีนี้มีผู้ป่วยสูงถึง 36,087 คน ขณะที่ยอดผู้ชีวิตล่าสุดเพียง 1 สัปดาห์ เสียชีวิตเพื่ออีก 3 คน คือ จังหวัดยะลา, ตาก, นครพนม ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนถึง 36 คนแล้ว

    นายจุรินทร์ ระบุว่า มี 10 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากที่สุด ก็คือ สงขลา, จันทบุรี, ปัตตานี, นราธิวาส, ระยอง, พัทลุง, ตาก, ยะลา

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <CENTER>สรุปรวมสถานที่ปลอดภัย</CENTER><CENTER>โดยคุณ คณานันท์ ทวีโภค (หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ)</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    </CENTER><CENTER></CENTER>ก่อนอื่น ต้องขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบก่อนว่า
    • การที่ท่านจะเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้นั้น ได้ถูกกำหนดมาโดยอำนาจของกฏแห่งกรรม
    • การที่สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสมกับท่าน แต่ก็อาจไม่เหมาะสมกับผู้อื่น
    • แต่ละสถานที่ก็ยอม มีกฏ มีข้อวัตร มีแนวทางการปฏิบัติ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นท่านก็ควรที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวท่าน แต่แรก หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เหล่านั้น
    • ถ้าท่านถูกกำหนดมาให้รอดก็ย่อมมีที่ ที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว ขอให้ท่านอธิษฐาน ด้วยใจมั่นที่จะพบสถานที่แห่งนั้น และรู้ได้ด้วยตัวเอง
    สถานที่ที่เตรียมไว้เป็นที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์ในการเกิดภัยพิบัตินี้ แบ่งออกได้เป็น
    1. สถานที่ส่วนบุคคล ที่ถูกเตรียมไว้เป็นเซฟเฮาส์ ของท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย ที่เหล่านี้เป็นที่ส่วนตัว ไม่เปิดรับบุคคลภายนอก และในบางแห่งก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย (เนื่องจากอาจจะไม่มีบารมี พระ บารมีธรรมคุ้มครอง)
    2. สถานที่ส่วนบุคคล ที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ในภาวะปรกติ แต่ท่านเจ้าของ ท่านได้ทราบ ในเรื่องภัยพิบัติ และมีใจอันเป็นกุศลที่ปรับสถานที่รองรับ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูป รีสอร์ท บ้าง โฮมสเตย์บ้าง ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีญาณมีฌาน และมีจิตเมตตา และบารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองอยู่
    3. สถานที่เปิด เช่นวัด หรือธรรมสถาน ต่างๆ ขอแยกออกเป็น สองประเภท -ประเภทที่พระหรือท่านผู้ดูแลสถานที่นั้น ท่านได้ทราบว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและได้จัดเตรียมสถานที่ไว้บ้างแล้ว ( ที่เหล่านี้ เป็นจุดที่พวกเราจะเข้าไปช่วยได้อย่างค่อนข้างเต็มที่) -ประเภทที่ท่านผู้ดูแลสถานที่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่แรก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านก็ได้ ให้การช่วยเหลือด้วยเมตตา ไปตามสถานการณ์ ที่แนะนำให้เราไปอยู่ ไปช่วยก็คือ ประเภทที่หนึ่งครับ เพราะง่ายกว่า สะดวกกว่าในการชี้แจงกับท่านเจ้าของสถานที่
    4. สถานที่เปิด เช่น โรงเรียน ศูนย์ราชการ สนามกีฬา และค่ายทหาร ที่เมื่อถึงเวลา ถ้าจุดใด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหายก็จะถูกปรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์ครับ ที่ประเภทนี้ ยังอันตรายเนื่องจากไม่มีบารมีพระคุ้มครองอยู่เต็มที่ และ ผู้ที่มาอยู่รวมกันก็ไม่มีศีล มีธรรม ในการอยู่ร่วมกัน อาจมีปัญหาในภายหลังตามมา
    ดังนั้นจุดที่ผมอยากจะเน้นก็คือ จุดที่เป็น วัด และ สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำคัญ ซึ่งจุดสังเกตุว่าที่ใดในที่เหล่านั้นเป็นที่ปลอดภัยก็คือ (จากที่พระท่านบอกมาในสมาธิ)
    • เป็นที่ตั้ง ที่สถิตย์ของ พระธาตุ พระบรมธาตุ หรือรอยพระบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง
    • มีพระอริยสงฆ์ หรือพระสุปฏิปันโน ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ แผ่บารมีคุ้มครองอยู่
    • ในข้อแรกนั้น ท่านมีข้อแม้ว่า หากไม่มีพระอริยเจ้าอยู่ ก็ขอให้มีพระที่ท่านเป็นสัมมาทิษฐิ มีความเคารพในพระรัตนไตร เป็นปรกติ ดูแลสถานที่นั้น ที่นั้นจึงจะปลอดภัย
    สำหรับ รายชื่อสถานที่เหล่านี้ ให้ดูในหนังสือรวมพระบรมธาตุ ของกลุ่มรักษ์พระธาตุ และหนังสือตามรอยพระบาทของหลวงพี่ชัยวัฒน์ แห่งวัดท่าซุงที่ท่านได้รวบรวมไว้จนถึงเล่มสามแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ มีรอยพระบาท หลายรอยที่พึ่งปรากฏขึ้น ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ (ที่พระท่านบอก ก็คือ การประทับรอยพระบาทนั้น พระพุทธเจ้าท่านต้องอธิฐานจิตกำกับด้วยทุกครั้งไป และการประทับรอยพระบาท ที่นั้นต้องมีเหตุมีปัจจัยที่สมควรแก่การ)
    • เป็นสถานที่ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่ สำหรับในเรื่องนี้ มีเรื่องราวยืนยันในหลายเหตุการณ์ในช่วงของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา เช่น
    ในฐานทัพ เรือทับละมุ จ.พังงา มีทหารเรือที่รอดตาย เพราะกอดอยู่ที่เท้าของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร และปรากฏว่าน้ำทะเลแหวกออกเป็นที่อัศจรรย์และทหารผู้นั้นรอดตายได้เห็นกับตา มีนายทหารอีกท่านที่อยู่บนหลังคาของบ้านพัก เห็นเป็นพยานด้วยอีกท่านหนึ่ง บริเวณวัด โบสถ์และมัสยิด หลายแห่งใน อินโดนีเซีย และศรีลังกา น้ำทะเลได้แหวกออกเช่นกัน โดยคนที่มาอาศัยใน สถานที่ทางศาสนาเหล่านี้ล้วนรอดชีวิต กันอย่างน่าอัศจรรย์ จากกรณีเหล่านี้จึงขอให้ท่าน ทั้งหลายได้เน้น สถานที่หลบภัยที่เป็นพุทธสถาน ธรรมสถานเป้นหลัก และตัวเลือกแรกๆ จากนั้นให้ท่านพิจารณาดูว่าสถานที่ที่ท่านได้เล็งอยู่นั้น สัปปายะเหมาะสมกับตัวท่านแค่ไหนอย่างไร โดยให้พิจารณาจาก
    • สถานที่นั้นปฏิบัติธรรมในสายที่ท่านนับถือหรือไม่ มีวาสนาบารมีผูกพันกับสถานที่แห่งนั้นหรือไม่ สังเกตุได้ว่าเมื่อไปถึงที่แห่งนั้นแล้ว ใจของท่านเย็น เบาสบาย มีความสุข คล้ายกับได้กลับมายังบ้านที่ได้จากกันมานาน
    • สถานที่นั้นมีข้อวัตรปฏิบัติ ที่ท่านปฏิบัติตามได้หรือไม่ หนักเกินกำลังแค่ไหน ท่านสามารถปรับตัว ปรับใจได้หรือไม่ ถ้าที่นั้น ต้องตื่นตีสาม ตีสี่ทุกวันไหวหรือไม่
    • สถานที่นั้น มีการทานเจ หรือทานปรกติ ตรงกับท่านหรือไม่
    • สถานที่นั้นมีที่พักที่อาศัยต้อนรับท่านได้หรือไม่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีเครื่องนุ่งห่ม เพียงพอหรือไม่
    หลังจากพิจารณาได้เรียบร้อยแล้ว ก็พึงจัด พึงเตรียม ช่วยสถานที่เหล่านั้นในการรองรับผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำความคุ้นเคย กับท่านเจ้าของหรือท่านที่ดูแลสถานที่นั้นๆ มีจุดใดที่ช่วย ที่ส่งเสริมให้ที่นั้นครบถ้วนบริบูรณ์ได้ก็จงพึงทำ แต่อย่างไรก็ตามวัตรปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับทุกๆสถานที่นั้นควรมีก็ได้แก่
    • มีความเคารพในพระรัตนไตรเป็นปรกติ
    • ศีลห้าเป็นปรกติ
    • เมตตาพรหมวิหารสี่เป็นปรกติ
    • สังคหวัตถุสี่การให้ การสงเคราะห์ ความช่วยเหลือกันมีน้ำจิตน้ำใจกันเป็นปรกติ
    • การส่งเสริมความดีของกันและกันเป็นปรกติ
    • ความไม่เพ่งโทษต่อกันเป็นปรกติ
    • การเจริญสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานเป็นปรกติ
    เมื่อทุกสถานที่ทำได้ดังนี้ ย่อมปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวงและอยู่กันอย่างสงบสุขร่มเย็นตราบจนปลอดภัย สถานที่ที่ได้รวบรวมไว้นี้ อาจยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากมี สถานที่ปลอดภัยอีกเป็นจำนวนมาก

    kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3293475", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    ****************************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  6. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    19 ก.ค. 53


    เทพกับมาร-------ก็มาจาก-----------ที่เดียวกัน
    ต่างทำงาน-------เข้ารับใช้----------องค์เหนือหัว
    ถ้าของแท้--------ปล่อยเขาทำ-------อย่าเกรงกลัว
    เป็นของมั่ว-------ปล่อยเขาว่า--------เดี๋ยวเจอดี




    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ;aa59
    คอยติดตามชม อติกานต์ หนุนภักดี (จิ๊บ พิธีกรช่องยูบีซี)
    จะออกรายการ วู๊ดดี้ เกิดมาคุย ทางทีวีช่อง 9 ทุกคืนวันอาทิตย์
    เวลา 22.31น. เกี่ยวกับคำสั่งฟ้าเรื่องภัยพิบัติ เร็วๆนี้
    ======================================

    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  7. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    http://tvonline.happymass.com/#

    ดูทีวีย้อนหลัง ทีวีไทยพีบีเอส รายการเปิดปม เรื่องทะเลเดือดที่ระนอง
    วันที่19/07/53 เวลา 21.00น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2010
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หนังแนวอภิญญา(อิทธิฤทธิ์)มาอีกแล้วครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    The Sorcerer's Apprentice
    ศึกอภินิหารพ่อมดถล่มโลก

    วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์, ผู้อำนวยการสร้าง เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์, และผู้กำกับ จอห์น เทอเทิลโทบ ผู้สร้าง National Treasure ทั้ง 2 ภาค ภูมิใจเสนอ The Sorcerer's Apprentice ศึกอภินิหารพ่อมดถล่มโลก ภาพยนตร์มหากาพย์แอ็คชั่นแฟนตาซีสุดล้ำ เรื่องราวของพ่อมดมหาเวทย์ และลูกศิษย์ดวงซวยที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ระหว่างธรรมะและอธรรม

    เรื่องย่อ

    บัลธาซ่า เบลค (นิโคลัส เคจ) เป็นปรมจารย์แห่งพ่อมดที่อยู่ในแมนฮัตตันยุคปัจจุบัน พยายามที่จะปกป้องเมืองนี้จากคู่อริตลอดกาลของเขา แม็กซิม ฮอวัต (อัลเฟรด โมลินา) บัลธาซ่าไม่สามารถรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว เขาจึงเลือก เดฟ สตัทเลอร์ (เจย์ บารูเชล) ชายหนุ่มที่ดูบ้าน ๆ แต่แฝงไปด้วยศักยภาพที่จะสามารถมาเป็นผู้ช่วยของเขาได้ เขาจึงถ่ายทอดทั้งศาสตร์และศิลป์ของการใช้เวทมนต์ต่าง ๆ กับลูกศิษย์ที่ดูไม่ค่อยจะเต็มใจของเขา คู่หูคู่แปลกต้องมาร่วมมือกันยับยั้งพลังชั่วร้ายแห่งความมืด เดฟจะต้องใช้ความกล้าหาญทั้งหมดที่มีเพื่อเอาชีวิตรอดจากการฝึก, ปกป้องเมือง, และชนะใจหญิงสาวที่เขาหมายปองให้ได้ เมื่อเขากำลังจะได้เป็น ศิษย์เอกของจอมมหาเวทย์

    กำหนดฉาย : 22 กรกฏาคม 2553

    ที่มา http://movie.kapook.com/view13399.html

    [​IMG]

    [​IMG]

    The Last Airbender
    มหาศึก 4 ธาตุ จอมราชันย์ (UIP)

    เรื่องย่อ

    ภาพยนตร์แอ็คชั่น แฟนตาซีจากแอนิเมชั่นสุดฮอตที่วัยรุ่นทั่วโลกชื่นชอบ The Last Airbender มหาศึก 4 ธาตุ จอมราชันย์

    ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ สี่ชาติที่ผูกพันกันด้วยพรหมลิขิต เมื่อชาติไฟเปิดศึกอันโหดเหี้ยมกับชาติอื่น ๆ หนึ่งศตวรรษผ่านพ้นไป ไร้หวังที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางที่เต็มไปด้วยการทำลายล้างกัน แอง ซึ่งถือกำเนิดในชนชาติแห่งลม(โนอาห์ ริงเกอร์) ที่ติดอยู่ตรงกลางระหว่างการศึกและความกล้า พบว่าเขาคือร่างอวตารที่มีพลังในการควบคุมธาตุทั้งสี่ แองร่วมมือกับคาตาระ เจ้าแห่งน้ำ (นิโคล่า เพลท์ซ) และซ็อกก้าเจ้าแห่งดิน (แจ็คสัน แร็ธโบน) พี่ชายของเธอ เพื่อกู้สมดุลในโลกที่ถูกแบ่งแยกด้วยสงคราม

    The Last Airbender สร้างจากการ์ตูนที่สร้างฉายทางทีวีของนิคเคโลเดี้ยนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงเรื่อง The Last Airbender นี้ คือบทแรกเริ่มในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของแอง

    กำหนดฉาย : 29 กรกฏาคม 2553

    ที่มา http://movie.kapook.com/view13579.html

    หมายเหตุ

    ผมไม่ได้ต้องการมาโปรโมทภาพยนต์ให้กับใครนะครับ เพียงแต่อยากให้ท่านที่สนใจเรื่องฤทธิ์อภิญญา ได้ทราบว่าฤทธิ์อภิญญานั้น มีทั้งที่เป็นฝ่ายดี(ฝ่ายพระ) มีทั้งที่เป็นฝ่ายชั่ว(ฝ่ายมาร) และเป็นเรื่องจริงที่มีมาช้านานแล้ว แต่เพิ่งจะมาเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางในยุคปัจจุบันนี้ ในรูปแบบของการใช้พลังจิตในมิติต่างๆ อย่างมากมาย แต่คนส่วนมากมักมองว่าเป็นเรื่องของมายากลเท่านั้น

    ยุคนี้คงเป็นยุคอภิญญาสาธารณะแล้วจริงๆ จึงมีคนสามารถแสดงฤทธิ์แปลกๆ ออกมาให้เห็นกันอย่างมากมาย มีการใช้ฤทธิ์ไปในทางที่ดี และใช้ไปในทางที่ชั่วร้าย แต่ไม่ว่าท่านจะมีฤทธิ์อภิญญามากมายสักเพียงไหน ก็ไม่สามารถหนีพ้นกฏแห่งกรรมไปได้ จึงขอเตือนให้ท่านที่ได้ฤทธิ์อภิญญาแล้ว ขอให้ใช้ไปในทางที่ดี ช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้มากที่สุด อย่าได้ใช้ไปในทางที่ชั่วร้าย มิฉะนั้นแล้วตัวท่านอาจจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนกับพระเทวทัต ในอเวจีมหานรกก็เป็นได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  9. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    ช็อค! พบหลุมยุบล่าสุด กลืนบ้านไปแล้วหลายหลัง



    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่เอลซาลวาดอร์เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่กลืนบ้านเรือนประชาชนไปหลายหลัง หลังจากที่เกิดฝนตกหนัก โดยเหตุเกิดที่เมืองลาส คานาส นอกกรุงซาน ซาลวาดอร์ ของเอลซาลวาดอร์ เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนราว 450 หลังคาเรือน ออกจากพื้นที่โดยเร่งด่วน หลังจากฝนที่ตกหนักทำให้เกิดหลุมยุบตัวขนาดใหญ่ขึ้นที่ใจกลางเขตที่อยู่อาศัย และได้กลืนบ้านเรือนไปแล้วหลายหลัง สร้างความหวั่นวิตกให้กับชาวบ้านที่เร่งเก็บข้าวของหนีตายออกจากบ้าน เพราะกลัวว่าหลุมยุบจะขยายตัวส่งผลให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นพื้นที่อันตราย

    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ห่วงสถานการณ์ภัยธรรมชาติ เดินหน้า “ทดลอง วิจัย เติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล” แก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม


    กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
    กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติ เดินหน้าศึกษาแนวทางแก้ปัญหา ภัยแล้ง และน้ำท่วม โดยการเติมน้ำลงสู่ชั้นน้ำบาดาลพื้นที่แอ่งเจ้าพระยาตอนบน จังหวัดพิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยธรรมชาติ และสถานการณ์การใช้น้ำอย่างใกล้ชิดทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ



    นายโชติ ตราชู อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้ง ในปี 2553 รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่าง พบว่าระดับน้ำบาดาลในชั้นน้ำบาดาลได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนลดน้อยลงในฤดูฝน และปริมาณ น้ำผิวดินที่ไหลซึมลงสู่ชั้นน้ำบาดาลน้อยลง โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดพิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก ที่มักประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก และปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งของทุกปี ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจและวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ซึ่งระดับน้ำบาดาลที่ลดลงจะมีผลต่อการนำน้ำมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วง ฤดูแล้ง ทำให้มีการทรุดบ่อเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ใช้น้ำบาดาล โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรประชาชนจะเสียค่าใช้จ่ายในการเพิ่มขนาดเครื่องสูบ น้ำ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระดับน้ำที่ลดต่ำลง 1 เมตร จะทำให้เสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 3.50 บาท ต่อ ชั่วโมง รวมถึงอาจมีผลให้ชั้นน้ำบาดาลแห้งลง ขาดศักยภาพในการพัฒนานำน้ำขึ้นไปใช้เพื่อการเกษตรและหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้น ของผิวดิน อันจะนำไปสู่ การเสียสมดุลทางระบบนิเวศวิทยา


    กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงได้ศึกษาทดลองการเติมน้ำลงสู่ชั้นน้ำบาดาลผ่าน ระบบสระน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร โดยสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลด้านธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คัดเลือกพื้นที่เหมาะสมเพื่อเป็นพื้นที่นำร่องทดลองระบบเติมน้ำลงชั้นน้ำ บาดาล โดยการเติมน้ำผิวดินในช่วงฤดูน้ำหลากเข้ากักเก็บสู่ชั้นน้ำบาดาล และสูบขึ้นมาใช้ในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นการลดความสูญเสียของพื้นที่เกษตรกรรม อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
    ขณะนี้ การดำเนินโครงการแล้วเสร็จไป ร้อยละ 80 และอยู่ระหว่างการทดลองระบบเติมน้ำระยะเวลา 6 เดือน การติดตามผลกระทบของการเติมน้ำทั้งปริมาณและคุณภาพ และประเมินความเหมาะสมด้านเศรษฐศาสตร์ คาดว่าจะได้ทราบผลการศึกษาในเดือนตุลาคม 2553


    นายโชติ ได้กล่าวย้ำว่า “อยากฝากให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของประเทศที่มีการพัฒนานำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ การใช้น้ำบาดาลอย่างรู้คุณค่า และบูรณาการการใช้น้ำผิวดินและน้ำบาดาลร่วมกันจะสนับสนุนให้เกิดระบบการ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความสูญเสียที่เกิดจาก ภัยธรรมชาติได้อย่างถาวรในอนาคต”


    ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 กรกฎาคม 2553 15:37:24 น.
     
  11. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    กว่า 500 คนตายแล้วในเบลเยี่ยม จากผลกระทบของเคลื่นความร้อน




    [​IMG]


    มีผู้เสียชีวิตแล้ว 520 คนในประเทศเบลเยี่ยม หลังจากถูกคลื่นความร้อนปกคลุมมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
    ในระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 4 กรกฏาคม ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งไปอยู่ที่ 520 คน จากทั่วประเทศเบลเยี่ยม Bianca Cox เจ้าหน้าที่ประสานงานทางวิทยาศาสตร์ ที่สถาบันวิทยาศาสตร์สาธารณสุขในเบลเยี่ยมกล่าว
    ยังไม่มีความชัดเจนถึงสาเหตุการตายของคนเหล่านั้น แต่นักวิจัยคาดการณ์ว่าจะเป็นผลกระทบจากคลื่นความร้อน และภาวะที่โอโซนอยู่ในระดับต่ำ Cox กล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNN
    ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป โดยมีหลายสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ทั้งปัญหาจากหัวใจ ระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
    นอกจากนี้คลื่นความร้อนยังได้ส่งผลทำให้พื้นผลทางการเกษตรจำนวนมากยืนต้นตาย ได้ความความเสียหายจำนวนมาก

    กว่า 500 คนตายแล้วในเบลเยี่ยม จากผลกระทบของเคลื่นความร้อน | นสพ.ประชาชาติอิสลามออนไลน์
     
  12. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    ภาคเหนือพบโรคใหม่ "ลีเจียนแนร์" รงว่าหวัดหมู


    .:
    เนชั่น


    นายอิ่นใจ วงศ์รัตนเสถียร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ เผยสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ในประเทศไทยว่า ขณะนี้พบการแพร่ระบาดของโรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires' disease) เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงมากกว่าไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยผู้ติดเชื้ออาจเสียชีวิตได้ในเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ ที่สำคัญที่ทำให้กรมอนามัยให้ความสำคัญต่อโรคนี้ คือยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้ยาตัวใดรักษา ทั้งนี้โรคดังกล่าวเกิดจากเชื้อลีจิโอเนลลาที่มากับชาวต่างชาติ แพร่ระบาดผ่านแอร์คอนดิชั่น ระบบจ่ายน้ำร้อน-เย็น โดยเฉพาะตามโรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานที่ทำงานต่างๆ รวมถึงละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายจาก Cooling Tower สปา หรือสระน้ำ น้ำพุประดับและสปิงเกอร์ในสวน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการเป็นไข้คล้ายไข้หวัดใหญ่ คอแห้ง ไอแห้ง ปวดศีรษะ ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ อาจมีอาการท้องเสียและอาเจียนตามมา ก่อนจะป่วยด้วยโรคปอดอักเสบ ซึ่งผู้ที่มีอาการหนักอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
    สำหรับกลุ่มเสี่ยงได้แก่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยจะเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง ผู้ที่มีภูมิคุ้นกันอ่อนแอ อันเกิดจากมะเร็ง หรือเอชไอวี ผู้ที่ดื่มจัดหรือสูบบุหรี่จัด ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะเทียม โดยติดเชื้อได้ทั้งทางปากและลมหายใจ ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว บุคคลากรในวงการท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงจะมีโอกาสติดเชื้อได้มากที่สุด ซึ่งจากการวิจัยพบว่าพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้กำลังมีการแพร่ระบาดของโรคลี เจียนแนร์ โดยพบผู้ป่วยแล้วจำนวนหนึ่ง ล่าสุดศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการโรงแรมในภาคเหนือเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมกำชับให้ตรวจสอบทำความสะอาดระบบแอร์ ระบบจ่ายน้ำและระบบอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงทุกๆ 6 เดือนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เห็นว่าเขื่อนจีน รับน้ำไว้มหาศาล รัฐบาลจีนบอกว่ารับมือได้ แต่จำนวนน้ำมันมหาศาลมาก (คราวก่อนน้อยกว่านี้ตายไป 4,000 คน)

    พายุจันทู ก็เข้าจีนอีก

    ถ้าเขื่อนรับน้ำไม่ได้ สนุกแน่งานนี้
    :'(

    Tropical cyclone CHANTHU-10

    <table width="100%"><tbody><tr><td valign="top">
    [​IMG]
    Click for an interactive map

    Legend: areas affected by winds of 39mph (green), 58mph (orange) and 74mph (red); shaded area is uncertainty cone of forecasted cyclone path.​
    Current storm status

    Analysis based on advisory number 12 for CHANTHU-10, published on 7/21/2010 00:00 UTC

    • The storm is: active
    • Current postion: 113, 18.29
    • Basin: NWPacific
    • Current strength: Tropical Storm
    • Current maximum sustained wind speed: 28 m/s, 54 kt

    Report created on 7/21/2010 4:53:34 AM.
    </td></tr></tbody></table> Summary impact analysis

    Affected Population
    Up to 1.58 million people can be affected by wind speeds of hurricane strength or above. In addition, 0.22 million people are living in coastal areas below 5m and can therefore be affected by storm surge.
    Affected Country (provinces) (population)
    China (Guangdong) (69623060).
    Affected Cities
    <table style="border-collapse: collapse; border: 1px solid navy;"><tbody><tr><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Estimated arrival time (UTC)</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Wind speed (km/h)</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Distance (km)</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Name</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Province</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">Country</th><th style="border-style: solid; border-width: 1px;" bgcolor="#7194b4">City Class (1 to 6)</th></tr><tr bgcolor="white"><td align="right">7/22/2010 08:15</td><td align="right">98</td><td align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
  15. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    โล่งอกฝนตกทำน้ำในเขื่อนเพิ่มผลิตไฟได้

    <table class="A14" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"><table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"> กฟผ.โล่งอกฝนตกทำน้ำในเขื่อนเพิ่มสามารถผลิตไฟฟ้าและแบ่งให้ภาคเกษตรได้คล่องตัว


    วันนี้( 20 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

    เปิดเผยว่า ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่งผลดีทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขื่อนหลักของกฟผ. ที่เคยวิกฤตการขาดแคลนน้ำ 3 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และเขื่อนอุบุรัตน์ จ.ขอนแก่น ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อน 3 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกันกว่า 30% ของความจุอย่าง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่น้ำเริ่มไหลเข้าเขื่อนแล้ว

    ทั้งนี้คาดว่านับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปเขื่อนต่างๆ จะเริ่มกักเก็บน้ำสะสมไว้ใช้ในปีต่อไปได้ และ ถ้าฝนยังตกในระดับนี้ไปเรื่อยๆ คาดว่าน้ำในเขื่อนจะสะสมได้เพิ่มขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการเกษตรและการผลิตกระแสไฟฟ้า

    สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนของกฟผ.

    ประกอบ ด้วย เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 4,002.49 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 29.73% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้เพียง 202 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิตต์มีปริมาณน้ำ 3,252.61ล้านลบ.ม. คิดเป็น 34.20% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ 402.61 ล้านลบ.ม. ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำ 656.27 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 26.99% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ 74.60 ล้านลบ.ม.



    </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์</center></td></tr></tbody></table>
     
  16. ปรสุ

    ปรสุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +838

    รูปแรกเป็นดวงดาวในวันที่ 2 พค. 2537 ตำแหน่งดาวถูกต้องตามปฏิทินดาราศาสตร์

    รูปที่สอง ก็ยังเป็นตำแหน่งดาวในวันที่ 9 พค. 2537 ถูกต้องตามปฏิทินดาราศาสตร์อยู่

    รูปที่สาม ตำแหน่งดาวก็ตรงกับปฏิทินดาราศาสตร์ ในวันที่ 20 เมย.2537

    รูปที่สี่ก็เช่นกันกับรูปที่สามตำแหน่งดาวก็ตรงกับปฏิทินดาราศาสตร์ ในวันที่ 24 เมย.2537 มีที่เพิ่มคือมีดาว 2 อยู่2ตำแหน่งคือที่ กรกฎกับกันย์ ตามปฏิทินดาว 2 จะอยู่ที่ ราศีกันย์

    โดยสรุปน่าจะหมายถึงดวงของประมาณวันที่ 20 เมย.- 9 พค.2537
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  17. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7174 ข่าวสดรายวัน


    เลยป่วน"ไข้เลือดออก"รีเทิร์น



    เลย - นายวิวรรธน์ ก่อวิริยกมล สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยถึงข้อมูลจากงานระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 พ.ค. พบผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้ว 326 คน มากที่สุดที่อำเภอเมืองเลย 167 คน รองลงมาคืออำเภอปากชม 29 คน และช่วงนี้ฝนกำลังตก ทำให้มีน้ำขังซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ทำให้มียุงเยอะกว่าปกติ

    สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ปกครองได้ช่วยดูแลบุตร-หลาน ไม่ให้ถูกยุงกัด เพราะถ้ายุงที่มีเชื้อไวรัสกัดแล้วเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทำให้เริ่มมีไข้ อ่อนเพลีย มีจุดเลือดออกตามตัว อาเจียน ถ้ารุนแรงอาจถ่ายเป็นเลือด จะทำให้ขาดน้ำแล้วเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงขอเตือนมายังประชาชนให้ช่วยกันป้องกัน โดยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำทุกประเภท ทุกวันศุกร์หรือทุก 7 วัน ปิดฝาโอ่งน้ำกิน/น้ำใช้ให้มิดชิด หรือใช้ทรายกำจัดลูกน้ำใส่ กางมุ้งเวลานอนทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อป้องกันยุงกัด จัดบ้านเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับทึบ มีแสงสว่างเพียงพอ ดูแลรอบบ้านอย่าให้รก

    รัสเซียช็อก"ลา"ถูกมัดจับลอยฟ้า-ร้องโหยหวน



    [​IMG]เอเอฟพีรายงานวันที่ 20 ก.ค. ว่า ชาวรัสเซียที่ไปเที่ยวชายหาดทะเลอาซอฟ ในช่วงหน้าร้อน ต่างตกตะลึงกับการเล่นพิเรนทร์ของกลุ่มคนที่จับลาตัวหนึ่งมัดลอยไปกับชูชีพ ลาส่งเสียงร้องโหยหวน เด็กๆ ต่างร้องไห้ระงมด้วยความสะเทือนใจและเวทนาสงสารเจ้าลา

    จากการสอบสวนของตำรวจ ลาตัวดังกล่าวเป็นเหยื่อของการโฆษณาดึงดูดนักท่องเที่ยวของบรรดาผู้ประกอบกิจการบันเทิงแถวชายหาดส่วนตัว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค. และมีผู้บันทึกภาพได้ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบ เรียกเสียงประณามคนทำอย่างกว้างขวาง จากนั้นมีข่าวออกอากาศทางโทรทัศน์แห่งชาติในวันอังคารที่ 20 ก.ค. <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    โฆษกหญิงของกรมตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ หมู่บ้านคอสแส็ก เมืองโกลูบิตสกายา แคว้นคราสโนดาร์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ในช่วงเกิดเหตุที่ลาส่งเสียงร้องโหยหวนและเด็กๆ ต่างก็ร้องไห้ กลับไม่มีใครมีสมองที่จะโทร.แจ้งตำรวจ มัวแต่บันทึกภาพและโทร.ไปหาหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่น <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้านหนังสือพิมพ์ทามาน รายงานว่า ช่วงเกิดเหตุ เด็กๆ บนชายหาดต่างถามพ่อแม่ว่า "ทำไมเขาถึงต้องมัดลาให้ลอยไปกับร่มชูชีพ" จากนั้นลาก็ลงพื้นอย่างน่าสังเวชใจ เพราะถูกลากไปกับทะเลไกลหลายเมตร กว่าจะมีคนไปลากขึ้นมาบนหาดในสภาพเป็นตายเท่ากัน

    เอเลน่า ไอออฟเลวา บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทามาน กล่าวว่า เหตุการณ์นี้สะเทือนขวัญมาก แม้แต่ในประเทศที่มีการทารุณสัตว์อย่างกว้างขวาง และยังช็อกชาวบ้านไปตามๆ กัน เพราะไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้มาก่อนเลย ส่วนทางโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นยืนยันว่า ผู้กระทำการนี้เป็นกลุ่มเจ้าของร้านบันเทิงแถวชายหาด ตำรวจจะดำเนินคดีต่อไป หากศาลตัดสินว่า มีความผิด โทษสูงสุดในข้อหาทารุณกรรมสัตว์คือจำคุก 2 ปี

    "เจ้าพระยา"ปนเปื้อน สารพัดสารเคมีอันตราย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม "กรีนพีซ" ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในคลองเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พบสารพิษปริมาณสูงปนเปื้อน พร้อมเรียกร้องให้รัฐออกมาตรการควบคุมและตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    กรีนพีซระบุว่า รายงาน "การตรวจสอบสารเคมีอันตรายในน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อมและการปนเปื้อนของสารเคมีในคลองบริเวณใกล้เคียงซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ประเทศไทย พ.ศ.2553" เป็นผลวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำและตะกอนดินที่เก็บโดยหน่วยศึกษาและเฝ้าระวังมลพิษทางน้ำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งพบโลหะหนัก และสารเคมีอันตรายที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ปนเปื้อนอยู่ในน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมรวมถึงในน้ำและตะกอนดินในคลองที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา สารเคมีบางชนิดที่พบนั้นมีปริมาณสูงกว่ามาตรฐานน้ำผิวดินในประเทศไทย ทั้งยังพบสารเคมีที่ยังไม่ถูกบรรจุอยู่ในมาตรฐานของไทยอีกด้วย

    ตัวอย่างน้ำทิ้งจากโรงงานฟอกย้อมปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีอันตรายหลายชนิด เช่น พบสารโนนิลฟีนอล ซึ่งเป็นสารที่คงทนในสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในสิ่งมีชีวิต และสาร 2-เนฟทาลีนาทมีน ที่ได้จากการสลายตัวของสีย้อมผ้าบางชนิดและเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ในน้ำทิ้งที่ปล่อยจากโรงงานสามชัยพิมพ์ผ้า และพบสารไตร-ไอโซ-บิวทิลฟอสเฟต ซึ่งเป็นสารพิษที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในน้ำทิ้งจากโรงงานฟอกและย้อมผ้านำบุญ

    "ผลสำรวจที่ออกมาเป็นอีกหนึ่งของสัญญาณเตือนถึงอันตรายที่แฝงอยู่ในมลพิษอุตสาหกรรม เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบและที่สำคัญคือยากที่จะกำจัดสารเคมีเหล่านี้ให้หมดไปจากแหล่งน้ำ ซึ่งบางชนิดเป็นสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์" นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

    นอกจากนี้ ตัวอย่างน้ำที่กรีนพีซเก็บจากคลองสำโรง พบสารโนนิลฟีนอลและไตร-ไอโซ-บิวทิลฟอสเฟต รวมถึงโลหะหนักอย่างทองแดง ตะกั่ว แมงกานีส นิกเกิล และสังกะสี มีค่าเกินมาตรฐานแหล่งน้ำผิวดินของไทยประมาณ 3-8 เท่า และตัวอย่างตะกอนดินพบปนเปื้อนโครเมียม ทองแดง นิกเกิล ตะกั่ว และสังกะสีในระดับสูง โดยสังกะสีมีค่าสูงกว่าค่าความเข้มข้นพื้นฐานมากถึง 30 เท่า

    ส่วนตัวอย่างน้ำที่เก็บจากคลองบางนางเกร็งพบปนเปื้อนสารโนนิลฟีนอลและไตร-ไอโซ-บิวทิลฟอสเฟต (TiBP) เช่นกัน และยังพบทองแดงและนิกเกิลสูงกว่าค่ามาตรฐานน้ำผิวดินของไทยถึง 2 เท่า นอกจากนี้ตัวอย่างตะกอนดินจากคลองบางนางเกร็งยังปนเปื้อนโครเมียม ทองแดง สังกะสี และนิกเกิลสูงที่สุดในตัวอย่างตะกอนดินทั้งหมดที่เก็บในการศึกษาครั้งนี้ โดยค่าสังกะสีและนิกเกิลมีค่าสูงกว่าค่าความเข้มข้นพื้นฐานปกติถึง 30 และ 80 เท่า ตามลำดับ

    นายพลาย กล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้ชี้ชัดว่ารัฐต้องการการลงมือแก้ไขปกป้องแหล่งน้ำโดยด่วน ทั้งยังแสดงให้เห็นว่ากรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมควบคุมมลพิษไม่สามารถปกป้องแหล่งน้ำของเราจากการปนเปื้อนสารพิษได้

    ทั้งนี้ การปฏิบัตินโยบายด้านการจัดการสารเคมียังไม่ครอบคลุมและไม่สามารถควบคุมการใช้และปลดปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อมได้อย่างเพียงพอ

    ปลาน้ำลึก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>โฉมหน้าแสนประหลาดของปลาน้ำลึกที่นักวิจัยสถาบันสมอง ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย บันทึกไว้ได้ด้วยกล้องไฮเทคจากระดับความลึกกว่า 1,000 เมตร ที่แนวปะการังออสเปรย์ในทะเลคอรัล การศึกษาดวงตาและสมองของมันช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจสมองและตาของมนุษย์ได้ดีขึ้น (เอเอฟพี)






    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ชี้เสือเต้นไม่แก้น้ำท่วม-แล้ง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานโครงการประวัติศาสตร์นิเวศน์วัฒนธรรม เพื่อการฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่นลุ่มน้ำภาคเหนือและเครือข่ายลุ่มน้ำโขง กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแจ้งว่าจะยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เนื่องจากเกิดกระแสต่อต้านจากประชาชนอย่างหนักนั้น ตนคิดว่าเป็นการเลี่ยงบาลีเท่านั้น เพราะต่อมาพล.ต.สนั่น ยังเปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบนและตอนล่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว

    ผู้ประสานงานลุ่มน้ำภาคเหนือกล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นหรืออ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-ใหญ่ ใดๆ ก็ตาม ล้วนไม่ใช่โครงการที่เป็นทางออกของการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมของลุ่มน้ำยม เพราะจากการศึกษาของคณะทำงานลุ่มน้ำภาคเหนือพบว่า เวลานี้วิกฤติลุ่มน้ำในภาคเหนือรวมทั้งลุ่มน้ำยมคือ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ จากน้ำมือของคนและโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่ไม่ได้มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เพราะคิดแต่ขุด ถม และสร้างสิ่งก่อสร้าง ไม่ได้คิดเรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟู

    “รัฐบาลต้องกลับไปคิดเรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำทั่วประเทศทั้ง 25 แห่ง ได้แล้ว และที่สำคัญต้องมีระบบการปฏิรูปเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยเน้นภาคประชาชนเป็นหลักที่รัฐบาลจะต้องรับฟัง ไม่ใช่การรับฟังแต่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว ไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐและประชาชนหลายๆ จุดในประเทศ จะกระทบถึงแผนการสร้างความปรองดองของรัฐบาลในอนาคตด้วย ขอให้รัฐบาลทบทวนให้ดี” นายสมเกียรติกล่าว


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จีนเตือนภัยน้ำท่วมหนัก คร่าชีวิตชาวบ้านเกิน 700 ราย

    [​IMG]

    อุทกภัยที่ผ่านมา ทำชาวบ้านจีนเสียชีวิตแล้วกว่า 700 ราย รัฐบาลจีนประกาศพายุไต้ฝุ่นอาจทวีความรุนแรงขึ้น เตือนระวังภัยเหตุน้ำท่วมดินถล่มทั่วประเทศ...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า รัฐบาลจีนประกาศเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเหตุน้ำท่วมดินถล่มทั่ว ประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ภายหลังเหตุน้ำท่วมดินถล่มเฉพาะปีนี้ คร่าชีวิตประชาชนแล้วกว่า 700 ราย มีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ความสูญเสียถือว่ามากที่สุดในรอบ 10 ปี

    ทั้งประกาศเตือนสถานการณ์ฝนตกหนัก และพายุไต้ฝุ่นปีนี้อาจรุนแรงมากขึ้น ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงถึงระดับอันตราย โดยเฉพาะแม่น้ำแยงซี ซึ่งเมื่อปี 2541 ระดับน้ำเอ่อล้นฝั่ง คร่าชีวิตชาวบ้านมากกว่า 4,150 คน ได้รับผลกระทบถึง 18 ล้านคน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    จีนน้ำท่วม-ดินถล่ม-ปล่อยน้ำเขื่อนสามผา

    [​IMG]

    หน่วยกู้ภัยจีนเร่งค้นหาเหยื่อโคลนถล่ม ที่มณฑลส่านซีและเสฉวน ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมดินถล่ม พุ่งเป็น 37 ศพ ขณะเขื่อนสามผา เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีระดับน้ำสูงเป็นประวัติการณ์...

    สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อ 20 ก.ค.ว่า หน่วยกู้ภัยจีนเร่งขุดค้นหาเหยื่อโคลนถล่มราว 30 คนที่มณฑลส่านซี และเสฉวน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม และดินถล่มในส่านซี พุ่งขึ้นเป็น 37 ศพ สูญหายอีก 97 คน และ ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุในช่วงฤดูร้อนทั้งหมดที่ภาคกลางของจีนอยู่ที่ 146 ศพ สูญหาย 40 คน

    ขณะที่เขื่อนสามผา เขื่อนใหญ่ท่ีสุดในโลก ที่เมืองยี่ชาง มณฑลเหอเป่ย มีระดับน้ำสูงเป็นประวัติการณ์เพราะฝนตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำเอ่อท่วมบริเวณเขื่อน จนต้องปล่อยน้ำออกทางประตูระบายน้ำอย่างเร่งด่วน

    ส่วนที่อินเดีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนจากอุบัติเหตุเรือล่มในแม่น้ำรามคงคาในเมืองโมราดาบัด รัฐอุตตระประเทศ

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ละตินอเมริกาหนาวจัด คน-ปศุสัตว์ล้มตายระนาว

    [​IMG]

    ภูมิภาคละตินอเมริกาเผชิญอากาศเย็นจัด อุณหภูมิลดต่ำ - 14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านทนสภาพอากาศไม่ไหวเสียชีวิตกว่า 33 ราย ปศุสัตว์ล้มตายกว่า 1,000 ตัว...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า ภูมิภาคละตินอเมริกา เผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติ คร่าชีวิตผู้คนและปศุสัตว์จำนวนมาก เฉพาะอาร์เจนตินา ชาวบ้านเสียชีวิตมากกว่า 33 ราย เหตุเพราะอุณหภูมิลดต่ำถึงระดับ -14 องศาเซลเซียส เหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจรจัดตามท้องถนนกลางกรุงบูเอโนส ไอเรสต์ ​

    ส่วนปารากวัย ยอดผู้เสียชีวิตจากความหนาวเย็น 9 ราย และอีก 3 ราย เสียชีวิตเพราะสูดควันพิษจากการเผาถ่านหินสร้างความอบอุ่น ปศุสัตว์หนาวตายมากกว่า 1,000 ตัว แม้แต่เขตร้อนชื้นเช่นในโบลิเวียจากเคยอุณหภูมิช่วงฤดูหนาวสูงกว่า 20 องศาเซลเซียส แต่ปีนี้อุณหภูมิลดต่ำลงเกือบถึงจุดเยือกแข็ง ส่วนชิลีมีรายงานหิมะตกหนักบางพื้นที่ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต​

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    เอเชีย 27 ชาติ ร่างแผนรองรับพิบัติภัยธรรมชาติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    การประชุมความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย 27 ชาติ รวมถึงอาเซียนและชาติมหาอำนาจจีนกับสหรัฐฯ นอกจากประเด็นการเมืองเรื่องเกาหลีเหนือ และการเลือกตั้งทั่วไปของพม่าแล้ว ยังร่วมกันร่างแผนปฏิบัติการช่วยเหลือพิบัติภัยธรรมชาติ ที่มักเกิดในภูมิภาคนี้บ่อยครั้ง...

    การประชุมความมั่นคงกลุ่มใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย หรือ เออาร์เอฟ ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนามในวันศุกร์ 23 ก.ค.นี้ นอกจากประเด็นการเมืองเรื่องเกาหลีเหนือและการเลือกตั้งทั่วไปของพม่าแล้ว สมาชิกกลุ่มที่ประชุมเออาร์เอฟ 27 ชาติ รวมทั้งกลุ่มอาเซียนและมหาอำนาจจีนกับสหรัฐฯ ได้ร่วมกันร่างแผนปฏิบัติการเพิ่มความร่วมมือช่วยเหลือพิบัติภัยธรรมชาติ ที่เกิดแก่ชาติในภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

    นายไมเคิล อันเนียร์ หัวหน้าฝ่ายภัยพิบัติเอเชียแปซิฟิกของหน่วยงานกาชาดสากลและสภาเสี้ยววงเดือนแดง ระบุแผนปฏิบัติการดังกล่าวช่วยให้กระบวนการความช่วยเหลือชาติผู้ประสบภัยพิบัติดำเนินการได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือระหว่างฝ่ายทหารกับพลเรือน เพื่อตอบสนองสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กลุ่มชาติอาเซียนถูกติงถึงความล่าช้าในภารกิจตอบสนองพิบัติภัยในภูมิภาค ซึ่งติดปัญหาความร่วมมือระหว่างพลเรือนกับทหาร เช่นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพม่าเมื่อครั้งเผชิญภัยพายุไซโคลนนาร์กีซพัดถล่ม เมื่อปี 2551 ความช่วยเหลือจากต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการอย่างทันท่วงที ส่วนเหตุไต้ฝุ่นโกนเซินเมื่อเร็วๆนี้ พัดถล่มคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ 76 ราย จีน 2 ราย และเวียดนาม 1 ราย ขณะที่ภูมิภาคนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว อยู่ในแนวพายุและการปะทุของภูเขาไฟหลายลูก ทั้งเสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรงจากภาวะน้ำทะเลสูงขึ้นอันเกิดจากปัญหาโลกร้อน และการสร้างปัญหาทำลายสภาพแวดล้อมโดยมนุษย์

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ช็อก! พ่อแม่ผิวสีเมืองผู้ดีให้กำเนิดลูกผิวขาว

    [​IMG]


    สุดช็อก คู่สามีภรรยาผิวสีชาวเมืองผู้ดีให้กำเนิดลูกน้อยเป็นทารกผิวขาวทั้งที่ยืนยันคนในตระกูลไม่เคยแต่งงานกับคนผิวขาวมาก่อน...

    หนังสือพิมพ์เดอะซัน แท็บลอยด์จอมแฉของอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ครอบครัวผิวสีชาวอังกฤษให้กำเนิดลูกน้อยเป็นทารกผิวขาว นัยน์ตาสีฟ้า และมีเส้นผมสีบลอนด์ ทั้งที่ผู้เป็นบิดาและมารดาต่างยืนยันว่าคนในตระกูลของตนไม่เคยมีใครแต่งงานกับคนผิวขาวแม้แต่น้อย และนับเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตะลึงให้วงการแพทย์ไม่น้อย

    เบน และ แอนเจล่า ไอเย็กโบโร่ สองสามีภรรยาชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย ซึ่งเป็นคนผิวสีทั้งคู่ ได้ให้กำเนิดหนูน้อย เอ็นมาจิ ลูกสาวซึ่งเป็นลูกคนที่สามของครอบครัว แต่บุตรสาวของพวกเขารายนี้กลับมีสีผิวที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก ทารกน้อยเอ็นมาจิมีผิวขาว นัยน์ตาสีฟ้า และผมบลอนด์ เหมือนกับคนขาวทั่วไป

    ด้าน เบน ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ไม่เคยมีคนในตระกูลของตนคนใดแต่งงานกับคนผิวขาว ดังนั้นลักษณะของการมีผิวขาวจึงไม่น่าจะปรากฏเข้ามาในตระกูลของพวกเขาได้

    "แม้ว่าผมจะค่อนข้างตกใจว่า เอ็นมาจิ ใช่ลูกผมจริงหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าเธอคือลูกของผม และเธอคือปาฏิหาริย์จากพระเจ้า เป็นความสวยงามจากพระเจ้า ตามความหมายของคำว่า เอ็นมาจิ ในภาษาบ้านเกิดของผมในไนจีเรีย" เบนผู้เป็นบิดา กล่าว

    อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ไบรอัน สไปค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ยืนยันว่ากรณีของหนูน้อยเอ็นมาจิถือเป็นเรื่องที่น่าพิศวง แต่หนูน้อยรายนี้ไม่น่าจะใช่เด็กเผือกแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เธอมีสีผิวเป็นสีขาว แตกต่างจากพ่อแม่น่าจะมาจากยีนผิวขาวที่หายไปในหลายช่วงคน ก่อนที่จะกลับมาปรากฏอีกครั้งในตอนนี้มากกว่า

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 631.jpg
      631.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.3 KB
      เปิดดู:
      1,307
    • 632.jpg
      632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.2 KB
      เปิดดู:
      1,686
    • 633.jpg
      633.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.9 KB
      เปิดดู:
      1,304
    • 634.jpg
      634.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.8 KB
      เปิดดู:
      1,253
    • 635.jpg
      635.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.2 KB
      เปิดดู:
      1,234
    • 636.jpg
      636.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.5 KB
      เปิดดู:
      1,250
    • 637.jpg
      637.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      1,226
    • 638.jpg
      638.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      1,208
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** วันที่ภัยมาถึงตัว ****

    น้ำในจีนมากขึ้น
    ถ้าแม่โขงทะลัก ให้หนีขึ้นเขาสูง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    18.ก.ค.53 น้ำมันรั่วนอกชายฝั่งจีน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    สถานี โทรทัศน์ CCTV0uo เผยท่อส่งน้ำมันระเบิดไฟลุกไหม้ที่ท่าเรือเมืองต้าเหลียน ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเล กระจายไม่ต่ำกว่า 50กิโลเมตร

    วานนี้(18 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนว่า เหตุท่อส่งน้ำมัน 2 ท่อระเบิดที่ท่าเรือเมืองต้าเหลียน ,มณฑลเหลียวหนิง

    ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อ คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลนอกชายฝั่ง

    โดยคราบน้ำมันลอยกระจายเป็นบริเวณกว้างไม่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตร ทำให้ท้องทะเลกลายเป็นสีดำ

    นอกจากนั้น ควันไฟจากการลุกไหม้ของน้ำมันดิบ ภายหลังการระเบิด ยังทำให้ยังเกิดก๊าซพิษลอยปนเปื้อนในอากาศอีกด้วย

    เมื่อวานนี้ (เสาร์) เรือประมาณ 20 ลำของคนงานชายฝั่งต้องเร่งกำจัดคราบน้ำมัน เพื่อไม่ให้กระจายไปไกลกว่านี้ ขณะเดียวกัน

    เรือลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ชายฝั่งประจำมณฑล ยังได้เข้าสกัดเรือประมง และเรือลำอื่น ๆ ไม่ให้เข้ามาภายในเขตอันตราย

    เนื่องจากอากาศเต็มไปด้วยก๊าซพิษ ทั้งนี้ การระเบิดของท่อน้ำมัน ซึ่งส่งลำเลียงน้ำมันดิบจากเรือ ไปยังถังเก็บดังกล่าว

    ทำให้เกิดเพลิงไหม้อยู่นานกว่า 15 ชั่วโมง ทางการต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนเข้าควบคุมเพลิงจนสงบ

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ลำหนึ่ง ที่เข้าจอดเทียบท่า ได้แล่นออกไปอย่างปลอดภัย

    ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ


    ปักกิ่ง 19 ก.ค. - สื่อของทางการจีน รายงานว่า เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการทำความสะอาดท้องทะเลภายหลังจากท่อส่งน้ำมัน

    ระเบิดและไฟลุกไหม้ ทำให้น้ำมันดิบรั่วไหล 1,500 ตันในทะเลเหลือง เรือดักเก็บคราบน้ำมันและเรืออื่น ๆ

    หลายสิบลำเริ่มปฏิบัติการทำความสะอาดเก็บคราบน้ำมันจากทะเลทางชายฝั่งตะวัน ออกเฉียงเหนือที่เมืองต้าเหลียน

    หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วเมื่อคืนวันศุกร์ เจ้าหน้าที่คาดว่าจะต้องใช้เวลาทำความสะอาดทะเลนาน 10 วัน

    เหตุท่อส่งน้ำมันสองแห่งระเบิดที่โรงเก็บน้ำมันของบริษัทซีเอ็นพีซี บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีนที่มณฑลเหลียวหนิง

    ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ตลอดสุดสัปดาห์ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ. - สำนักข่าวไทย

    จีน 19 ก.ค. - บริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดของจีนกำลังหาทางจำกัดมลภาวะทางทะเล และผลกระทบจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบ 2 ท่อระเบิด

    ที่เมืองท่าต้าเหลียนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลามากว่า 15 ชั่วโมง ดับเพลิงไหม้ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ค่ำวันศุกร์

    เมื่อท่อส่งน้ำมันจากเรือไปยังถังเก็บเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ท่อส่งน้ำมันอีกท่อที่อยู่ใกล้เคียงระเบิด แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    น้ำมันปนเปื้อนทะเลกินวงกว้าง 50 ตารางกิโลเมตร นอกชายฝั่งเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง เจ้าหน้าที่ของบรรษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีน

    หรือ CNPC ได้ปิดวาล์วท่อส่งน้ำมันและไม่มีน้ำมันรั่วไหลแล้ว ขณะนี้สามารถจำกัดพื้นที่ที่น้ำมันรั่วได้แล้ว

    แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีน้ำมันรั่วลงทะเลไปแล้วปริมาณเท่าใด และกำลังสอบสวนสาเหตุของท่อน้ำมันระเบิดอยู่

    ที่มา -
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...