ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ~:*พนมวัน*:~

    ~:*พนมวัน*:~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,214
    ที่โบลิเวีย สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงจนทำให้สัตว์น้ำนับล้านตายค่ะ

    1 Million Fish Dead in Bolivian Ecological Disaster



    [​IMG]
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 120px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 90px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 120px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 90px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"></INS></INS>Over 1 million fish and thousands of alligators, turtles, dolphins and other river wildlife are floating dead in numerous Bolivian rivers in the three eastern/southern departments of Santa Cruz, Beni and Tarija.

    The extreme cold front that hit Bolivia in mid-July caused water temperatures to dip below the minimum temperatures river life can tolerate. As a consequence, rivers, lakes, lagoons and fisheries are brimming with decomposing fish and other creatures.

    Unprecedented: Nothing like this has ever been seen in this magnitude in Bolivia. Inhabitants of riverside communities report the smell is nauseating and can be detected as far as a kilometer away from river banks.

    River communities, whose livelihoods depend on fishing, fear they'll run out of food and will have nothing to sell. Authorities are concerned there will be a shortage of fish in markets and are more concerned by possible threats to public health, especially in communities that also use river water for bathing and drinking, but also fear contaminated or decaying fish may end up in market stalls.


    They've begun a campaign to ensure market vendors and the public know how to tell the difference between fresh and unhealthy fish.

    In university fish ponds and commercial fisheries the losses are also catastrophic.



    [​IMG]



    http://www.boliviabella.com/1-million-fish-dead-in-bolivian-ecological-disaster.html
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเตือนตรงกัน ว่า ให้สร้างบุญ สร้างกุศลกันให้มากเข้าไว้ครับ

    อีกไม่นาน ก็จะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ

    หากเราดูจากข่าวต่างประเทศ

    ความรุนแรงของภัยพิบัติก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ


    ของไทยเรา ได้มีโอกาสดูข่าวในพระราชสำนักที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานโดยให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการกรมอุตุนิยมวิทยา เข้าเฝ้า ถวายรายงานเรื่องพายุ ก็น่าจะมีเหตุที่ไม่ธรรมดาครับ

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  3. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    อ้างอิงข้อความเดิมของคุณเกษม

    BIBLE CODE 2010 (5770)- SEPTEMBER- IRAN - MAJOR EARTHQUAKE

    ครั้งต่อไป

    วันที่เกิด - วันที่ 3 กันยายน 2010 เิกิดเล็กประมาณ 7.4 ริกเตอร์ บริเวณเกิิด - ฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ

    วันที่เกิด - วันที่ 10-11 กันยายน 2010 บริเวณเกิิด - เกิดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิค และทำให้เกิดคลื่นซึนามิยักษ์สูงหลายร้อยฟุต พัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกา

    ดิฉันได้มาตรวจสอบดู พบว่าตรงกับที่ ดร.ก้องภพได้คาดการณ์เรื่องแผ่นดินไหวไว้
    วันที่ 9 กันยา 2510 18UPC +/- 2ชั่วโมง 01.00น 7.5-8.5 ริกเตอร์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน'เหนือ-อีสาน-ตะวันออก'น้ำท่วมฉับพลัน!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศเช้าวันนี้(2 ส.ค.)ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-ฝนตกหนักบางแห่ง"เหนือ-อีสาน-ตะวันออก"ระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นแรง....

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันจันทร์ที่ 2 ส.ค.เมื่อเวลา 04.00 น.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้

    สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ยุคเสื่อม...

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สลดเณรตุ๊ดกริ๊ดลั่นห้าง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวพุทธสลดใจ กลุ่มพระตุ๊ดเณรแต๋วเดินช็อปปิ้งกลางห้างดังเชียงใหม่ สะพายย่ามสีหวานแหวว ทาปากแดง

    แถมยังยืนกรี๊ดสนั่นหน้าบูธมินิคอนเสิร์ต ไม่สนใจสายตาพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวเห็นเข้าถ่ายภาพร้องเรียน"ข่าวสด" ผอ.สำนักพระพุทธฯ เชียงใหม่ชี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะห้างถือเป็นโลกวัชชะ ยิ่งเป็นช่วงเข้าพรรษา พระเณรต้องอยู่ทำวัตรในวัด ฝากเตือนเจ้าอาวาสช่วยสอดส่องดูแล อบรมตักเตือนให้พระเณรลูกวัดสำรวมด้วย

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนและได้รับภาพถ่ายจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ว่า

    ขณะนี้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ได้มีกลุ่มพระสงฆ์สามเณรเกือบ 10 รูป พากันสะพายย่ามสีหวานแหววเดินช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรดังกล่าวส่วนมากจะเป็นพวกพระตุ๊ดเณรแต๋ว พากันเดินชมสินค้า ทดสอบสินค้า ไม่สนใจสายตาประชาชน โดยนักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพส่งมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้ช่วยเผยแพร่ความไม่เหมาะสมด้วย

    โดยประชาชนที่ร้องเรียนได้แจ้งว่าภาพที่บันทึกพระตุ๊ดเณรแต๋วดังกล่าวเป็นภาพจากห้างสรรพสินค้าแอร์พอร์ต พลาซ่า อ.เมือง เชียงใหม่

    โดยได้บันทึกภาพพระตุ๊ดเณรแต๋วกำลังยืนดูบูธกิจกรรมของหน่วยงานเอกชนแห่งหนึ่งที่จัดการแสดงการเต้นและการร้องเพลง ปรากฏว่าพระและเณรกลุ่มดังกล่าวก็ส่งเสียงร้องกรี๊ดดังสนั่น เณรบางรูปทาแป้งจนหน้าขาว ทาปากสีแดง สร้างความงุนงงให้กับประชาชนที่เดินช็อปปิ้งอยู่ในห้างดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

    นายจำลอง กิตติศรี ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีพระตุ๊ดเณรแต๋ว ออกมาเดินตามห้างและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า

    ในช่วงนี้ก็อยากฝากเตือนไปยังเจ้าอาวาสแต่ละวัดให้ช่วยกันสอดส่องดูแล และตักเตือนอบรม รวมทั้งการแสดงอาการสำรวมต่างๆ ให้กับพระลูกวัดสามเณรในวัดของแต่ละท่าน ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา พระสงฆ์สามเณรควรจะอยู่ทำวัตรในวัด ไม่ควรออกมาในสถานที่เช่นห้างสรรพสินค้าทั่วไป ถือว่าเป็นสถานที่โลกวัชชะ

    "พระสงฆ์สามเณรที่มีพฤติกรรมในลักษณะไม่เหมาะสมเบี่ยงเบน พวกนี้มักจะทำให้พุทธศาสนาเสียหาย หากเจ้าหน้าที่พบเห็นจะเข้าไปตักเตือนและจำส่งยังต้นสังกัดเพื่อให้ทางต้นสังกัดได้ตักเตือนและคาดโทษ ก็อยากฝากเตือนไปยังพระตุ๊ดเณรแต๋วทั้งหลายด้วย ควรจะควบ คุมสติอารมณ์ เมื่อเราอยู่ในผ้าเหลือง ครองผ้าเหลือง เรื่องนี้เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประชุมคณะสงฆ์และได้กำชับให้คณะสงฆ์ดำเนินการกวดขันอบรมตักเตือนพระลูกวัดของแต่ละวัดแล้ว และหากยังมีพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกระทำผิดกฎระเบียบสงฆ์ ทางสำนักพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ก็จะเข้าไปดำเนินการทันที" นายจำลองกล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากพระตุ๊ดเณรแต๋วแล้ว ในช่วงเช้าวันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ยังได้ดำเนินการจับกุมพระสงฆ์ที่ทำการบิณฑบาตแบบเวียนเทียน (หลายรอบ) โดยทางเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ดำเนินการเข้าจับกุมพระสงฆ์ที่ทำการบิณฑบาตหลายๆ รอบวันนี้จำนวน 2 รูป บริเวณตลาดต้นพยอม ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ นำตัวส่งวัดต้นสังกัดให้ดำเนินการลงโทษตามระเบียบสงฆ์ไปแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวบ้านสุดทนโวยพระเวียนเทียนของบิณฑบาต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พุทธศาสนิกชนเชียงใหม่สุดทน แจ้งเทศกิจปราบพระฉาว เวียนเทียนขายของบิณฑบาต เจอจะๆ 2 รูป แต่ทำได้แค่ตักเตือน ชาวบ้านแฉส่วนใหญ่เป็นพระแก่วอนเร่งแก้ไข...

    เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2553 นายเดชา ภู่พลับ หัวหน้ากลุ่มงานเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ นำกำลังไปตรวจสอบร้านค้า และแผงลอยช่วงเช้าบริเวณหน้าตลาดสดต้นพะยอม ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังรับร้องเรียนจากประชาชน และ พระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาตจำนวนมากว่า มีแผงลอยบางส่วนร่วมกับพระสงฆ์บางรูปเดินวนเวียนบิณฑบาตรแล้วนำสิ่งของและอาหารมาขายให้แผงลอยมานานยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไข

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ พบพระสงฆ์สูงอายุจำนวน 2 รูป เดินวนเวียนบิณฑบาตแล้วนำสิ่งของและอาหารที่ได้ใส่กระสอบหรือภาชนะให้กับแผงลอยขายอาหารเช้าบริเวณดังกล่าว จากนั้น พ่อค้าแม่ค้าจะนำไปจัดชุดขายใหม่วนเวียนกันไปจนประชาชนใส่บาตรไม่มีพระสงฆ์ จึงจะกลับวัดจึงได้ตักเตือน เบื้องต้นทราบว่า เป็นพระสงฆ์ที่มาจากวัดใกล้ตลาดและจะมาทุกๆ เช้า

    ด้านพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อดีตพระวินยาธิการ หรือ ตำรวจพระ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้มีมานานมาก โดยผู้มีอำนาจในการตรวจสอบดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมต้องเป็นเจ้าคณะตำบลในพื้นที่ซึ่งพระสงฆ์รูปนั้นไปก่อพฤติกรรมไม่เหมาะสมขึ้น

    แต่จะให้ตำรวจหรือเทศกิจดำเนินการไม่ได้จะทำได้แค่เตือนเท่านั้น เรื่องนี้จะต้องมีการประชุมพูดคุยกันในคณะสงฆ์ตั้งแต่เจ้าคณะตำบลจนถึงเจ้าคณะจังหวัดเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติศรัทธาขึ้นมา
    นายวัลลพ นามวงศ์พรหม ประธานอนุกรรมการฝ่ายศิลปกรรมท้องถิ่น สภาวัฒนธรรมเชียงใหม่ กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นที่ทราบกันมานานแล้วมีอยู่หลายแห่งในตลาดเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบพบว่าพระสงฆ์ที่ประพฤติตัวเช่นนี้ส่วนมากจะเป็นพระบวชเมื่ออายุมากหรือบวชตอนแก่แล้วเรียกว่า "ตุ๊ปู่" หรือ "ตุ๊ลุง" จึงไม่ได้มีการศึกษาพระธรรมวินัยอย่างท่องแท้ และได้ร่วมกับคนที่รู้จัก โดยอาจจะเป็นญาติมาก่อพฤติกรรมหรืออีกกลุ่มหนึ่งอาจจะเป็นพระปลอมมาเช่าบ้านหรือพักใกล้ตลาดและจะออกมาแต่งกายเลียนแบบพระออกมาบิณฑบาต

    ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถึงแม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่หากเป็นพระสงฆ์จริงพฤติกรรมเช่นนี้ เรียกว่าโลกวัชชะ หรือ โลกติเตือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้มีน้อยมาก ส่วนมากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะขอพึ่งทางตำรวจและเทศกิจช่วยในการว่ากล่าวตักเตือน และหากเป็นพระจริงจะต้องมีการประสานไปยังเจ้าคณะตำบลให้ดำเนินการโดยจะมีการเตือนเบื้องต้นจนถึงให้มีการจับสึกออกไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ใครมีรายละเอียดบ้างว่าในหลวงท่านว่าอย่างไรบ้าง เช่น ให้ป้องกันน้ำท่วม ให้เตรียมตัวป้องกันน้ำหมด (แล้ง) หรือ ให้ป้องกันพายุ หรือ ให้ดูเขื่อน ว่าแข็งแรงดีหรือเปล่า อะไรเงี๊ยะ?
     
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    1 ส.ค. 53


    ม้าสีน้ำตาลขาว (จะต้องเดินทางไกล)

    เที่ยวที่แล้วได้รับสัญญาณมาว่าจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่คิดไว้ (ในภาพ
    ตัวเองถือไวโอลีน) ตัวเองอยากจะทำเรื่องเจาะน้ำบาดาลให้เสร็จ แต่เงินรวม
    ยังไม่ครบแสนหนึ่งหมื่นบาท ขาดอยู่สามหมื่นบาท บ่ายนี้เจอหลานจิ๊บที่ร้าน
    อาหารเจก็ยังบอกกับหลานจิ๊บว่าที่นัดกันไว้ช่วง 12 สิงหาฯ อาจจะไม่ได้ขึ้น
    ไปที่ฐานผาแบ่นเพื่อที่จะทำเรื่องน้ำ แต่ผมก็ได้บอกกับหลานจิ๊บว่าเช้านี้ผม
    ได้รับสัญญาณมาว่าจะต้องเดินทางไกลแต่ก็ยังหาเงินส่วนที่ขาดไม่ได้ และ
    ยังได้บอกว่าทางคนเจาะคิดหนึ่งแสนแถมปั้มน้ำให้หนึ่งตัว

    เย็นนี้พี่สาวก็ให้ยืมเงินสองหมื่นบาท ถ้าสามหมื่นก็ต้องคอยอีกสองเดือน
    ผมบอกว่าถ้าอีกสองเดือนก็ไม่ต้องยืมเพราะแนวร่วมจะช่วยสองหมื่นบาท
    ผมคงต้องหาอีกประมาณหนึ่งหมื่นเป็นค่าน้ำมันรถ ที่พัก อาหาร ค่าขอ
    อนุญาตการเจาะ ซื้อฝาครอบโอ่ง 12ใบและเงินที่ค้างค่าของที่เจ้าของที่
    ออกให้ไปก่อนหน้านี้



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "คนที่จะมา กำจัดซ้าย พิฆาตขวา"

    [​IMG]

    'หมอนิด'เตือนนายกฯระวังถูกมือมืดปองร้าย

    "หมอนิด"เตือนนายกฯ ระวังถูกปองร้าย บอกดวงไม่ดีถึงปีหน้า ชี้ปรับครม.ดึงคนดวงไม่ดีมาร่วมงาน ส่งผลเศรษฐกิจตกต่ำ แนะนิมนต์พระอริยสงฆ์ทำบุญทำเนียบ

    นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือหมอนิด กล่าวถึงกรณีที่หมอดูฮวงจุ้ยได้ตรวจฮวงจุ้ยของทำเนียบรัฐบาล และมีการระบุว่าหากไม่จัดทำบุญ อาจเกิดความวุ่นวาย เพราะพระพรหมที่สถิตอยู่บนยอดตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ได้อยู่ปกป้องรักษาทำเนียบรัฐบาลแล้ว และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตนั้นว่า นายกฯจะถูกปองร้ายจากภัยมืดต้องระวัง หรือไม่จะเจออุปสรรคในการบริหารประเทศ เศรษฐกิจตกต่ำไม่สามารถฟื้นตัวได้ หุ้นตก แม้แต่การปรับคณะรัฐมนตรีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะไม่มีใครที่ดวงดีเข้ามาช่วยงาน เพราะส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็เข้ามาโดยมีใบสั่ง บริหารประเทศไม่ราบรื่น

    "ต้องระวังบุคคลคนๆ หนึ่ง ที่จะมาจำกัดซ้าย พิฆาตขวา คนๆนี้น่ากลัว ทำทุกอย่างเพื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สมองดีมากแต่น่ากลัว ทำทุกอย่าง ถ้าหากคนนี้เข้าหาผู้บังคับบัญชา ผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะปี 54 ปี 55 ดวงคนนี้ดีมาก ที่เป็นนักการเมืองคนสำคัญ ที่บงการการเมืองในซีกรัฐบาล และกำลังพ้นจากบ้านเลขที่ 111 แต่ขณะที่ดวงอภิสิทธิ์ไม่ดีถึงปีหน้า เพราะประเทศชาติยังวุ่นวาย การก่อวินาศกรรมยังมีอยู่ รวมถึงภัยธรรมชาติ ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศดวงดีกว่าอภิสิทธ์ แต่ว่าไม่สามารถกลับประเทศได้ ต้องจากนี้ไป 3 ปี ขณะนี้ประเทศไทยถึงจุดเปลี่ยน นอกเหนือจากที่ทำเนียบทำบุญ 5 ศาสนาแล้ว ยังต้องนิมนต์พระอริยสงฆ์ที่มีบุญมีบารมีมาทำพิธี คนไทยทุกคนต้องร่วมกันภาวนาจะทำให้หนักเป็นเบาได้" หมอนิดกล่าว

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 มิถุนายน 2553 15:05

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com

    หมายเหตุ

    "คนที่จะมากำจัดซ้ายพิฆาตขวา" หมอนิดบอกเอาไว้ในหนังสือ"ผ่าดวงเมืองปี 2553-2555 ว่าเป็นคน "ชอบการโอบกอด" โหรเก่งกาจ จงใจพระ บอกว่าคนคนนี้มีดวงจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน คุณดำรง พุฒตาล ทำนายว่าคนคนนี้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในอนาคต -เกษม-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • news_img_336918_1.jpg
      news_img_336918_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.6 KB
      เปิดดู:
      85
    • 214634.jpg
      214634.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.7 KB
      เปิดดู:
      78
    • 73187318.jpg
      73187318.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.5 KB
      เปิดดู:
      1,066
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เหยื่อน้ำท่วมปากีสถานเพิ่มเป็น 1,100 คน-อหิวาฯเริ่มระบาด

    [​IMG]

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในปากีสถานมีกว่า 1,100 คน คาดเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขห่วงอหิวาตกโรคเริ่มระบาด

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ประชาชนกว่า 1 ล้าน 5 แสนคนได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักในฤดูมรสุมที่กำลังทำให้เกิดน้ำท่วมและดิน ถล่มในจังหวัดไคเบอร์ ปัคตุนควา ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน นอกจากนี้ บ้านเรือนประชาชนกว่า 3,700 หลังถูกกระแสน้ำพัดพาไป และพื้นที่การเกษตรจำนวนมากได้รับความเสียหาย ด้านรัฐมนตรีข่าวสารกล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ คร่าชีวิตประชาชนในพื้นที่ต่างๆ แล้วกว่า 1,100 คน และส่งผลกระทบต่อประชาชน 1 ล้าน 5 แสนคน

    เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับความสูญเสียที่เกิดจากน้ำท่วมมา จากทุกจังหวัดที่ประสบภัย พร้อมกล่าวแสดงความกังวลว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก
    ขณะที่ผู้ประสบภัยหลายร้อยคนอพยพเข้าพักอาศัยในโรงเรียนต่างๆ ในเปชวาร์และมูซาฟฟาราบัด

    ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ประสบภัย เนื่องจากโรคที่เกิดจากน้ำเริ่มแพร่ระบาดแล้ว โดยเฉพาะอหิวาตกโรค

    ด้านรัฐบาลสหรัฐได้ส่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำ เรือหลายลำ สะพานชั่วคราว หน่วยบริการน้ำ และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในปากีสถานแล้ว พร้อมให้คำมั่นว่าจะให้เงินช่วยเหลืออีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ เริ่มหลั่งไหลเข้าไปยังปากีสถานอย่างต่อเนื่อง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 2 สิงหาคม 2553

    ยูเอ็น-สหรัฐส่งปัจจัยช่วยเหยื่อน้ำท่วมในปากีสถาน

    [​IMG]

    ยูเอ็นและสหรัฐเร่งส่งปัจจัยช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมในปากีสถาน ขณะยอดตายพุ่งแตะ 1,025 ราย คาดเสียชีวิตพุ่งถึง 3,000 คน

    สหประชาชาติและสหรัฐเร่งส่งปัจจัยช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถาน หลังจากที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และส่งผลกระทบต่อประชาชนเกือบ 1 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 1,025 รายแล้ว และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะสูงถึง 3,000 คน

    นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยจะให้งบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือปากีสถาน 10 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ สหรัฐได้เร่งส่งเฮลิคอปเตอร์ เรือ สะพาน เครื่องกรองน้ำ และอาหารไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว

    ส่วนองค์การอาหารโลกได้เริ่มลำเลียงอาหารช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในปากีสถานแล้ว ขณะที่ปัจจัยด้านอาหารในประเทศลดน้อยลง และคาดว่า จะมีฝนตกลงมาอีกในเร็วๆนี้ ซึ่งคาดว่า จะทำให้สถานการณ์เลวร้ามากกว่าเดิม

    หน.โฆษกของสำนักงานช่วยเหลือเอดีในปากีสถาน กล่าวว่า บ้านเรือนและสะพานในพื้นที่ต่างๆพังทลายลงมาพร้อมสายฝน ขณะที่เสาไฟฟ้าก็โค่นล้ม ประชาชนจำนวนมากถูกกระแสน้ำพัดพาไป

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 2 สิงหาคม 2553

    <!-- Tags Keyword -->ปากีสถานลดธงครึ่งเสาไว้อาลัย 152 ผู้เสียชีวิตเครื่องบินตก

    [​IMG]

    นายกฯปากีสถานสั่งลดธงชาติครึ่งเสาทั่วประเทศ หลังเครื่องบินตก มีผู้เสียชีวิต 152 คน เมื่อวานนี้(28 ก.ค.)

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปากีสถานไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งร้ายแรงที่สุด เป็นเวลา 1วันในวันนี้ และนายยูซุฟ ราซา จิลานี่ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน สั่งให้ลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศ

    วานนี้(28ก.ค.)เครื่องบินแอร์บัสแบบเอ-321 เที่ยวบินที่ ED-202 ของสายการบินเอกชน "แอร์บลู" ของปากีสถาน ประสบอุบัติเหตุตกที่ภูเขานอกกรุงอิสลามาบัด ขณะกำลังร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติเบนาซีร์ บุตโตในกรุงอิสลามาบัด ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 152 คน เสียชีวิตทั้งลำ ผู้เสียชีวิตรวมถึงชาวอเมริกัน 2 คน และนักธุรกิจชาวออสเตรียพร้อมลูกๆ อีก 7 คน เครื่องบินดังกล่าวบินจากเมืองการาจีทางภาคใต้ของปากีสถาน ไปยังกรุงอิสลามาบัด

    ด้านนายคามาร์ ซามาน ไครา รัฐมนตรีสารนิเทศปากีสถาน ปฏิเสธข่าวที่ว่าพบกล่องดำแล้ว จึงยังไม่ทราบสาเหตุของเครื่องบินตก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพแล้ว 115 ศพ แต่ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกเผาจนดำ ทำให้ต้องใช้การตรวจดีเอ็นเอ จึงจะสามารถระบุได้ว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใคร

    ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานยังไม่ได้โทษใคร และไม่ได้คาดเดาสาเหตุการตกของเครื่องบิน แต่ไม่คิดว่าเป็นการก่อการร้าย และได้เริ่มสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตกแล้ว โดยยังไม่ได้ตัดประเด็นการก่อการร้ายและก่อวินาศกรรมทิ้ง

    ด้านโฆษกสายการบินแอร์บลู แถลงแสดงความเสียใจ และระบุว่า เครื่องบินลำที่ตกไม่มีประวัติว่าเคยมีปัญหาทางเทคนิค และเป็นเครื่องบินที่ค่อนข้างใหม่ ที่ใช้งานมาเพียง 10 ปี มีชั่วโมงบิน 34,000 ชั่วโมง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 29 กรกฎาคม 2553

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com

    หมีขาวร้อนพุ่ง 40 องศา เกรงไฟป่าเลวร้ายอีก

    [​IMG]

    ในสัปดาห์หน้าอุณหภูมิรัสเซียจะพุ่งสูง 40 องศา รัฐบาลเกรง อาจเพิ่มความเลวร้ายให้กับปัญหาไฟป่าซึ่งกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่า อุณหภูมิภาคกลางและภาคใต้ของรัสเซียจะพุ่งสูงแตะ 40 องศาเซลเซียสในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเพิ่มความเลวร้ายให้กับปัญหาไฟป่ารุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

    รัฐบาลรัสเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมไฟป่าในพื้นที่ป่าแห่งชาติ จาก 319,000 เอเคอร์ เหลือ 282,000 เอเคอร์ แต่เพลิงไหม้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยากต่อการเข้าควบคุมเพลิง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ส.ค.) ไฟป่าจำนวน 438 จุดยังคงลุกไหม้ ประชาชนนับพันไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 28 คน

    ทั้งนี้ รัสเซียต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินจำนวนมาก และทหารอีกหลายร้อยนาย ในการเร่งปฏิบัติภารกิจควบคุมไฟป่าครั้งนี้

    ด้านประธานาธิบดี ดมิทรี เมดเวเดฟ ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวนับเป็นหายนะทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในรัสเซียทุก ๆ 30 หรือ 40 ปี

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2553

    'โอบามา' ฟุ้ง สงครามอัฟกันเพียงพอบรรลุผล

    [​IMG]

    ประธานาธิบดี บารัค โอบามา คุยในรายการ "ซันเดย์ มอร์นิ่ง" ระบุ สงครามในอัฟกานิสถานเป็นเรื่องยากมาก แต่เพียงพอที่จะบรรลุผลสำเร็จ ขณะที่กองกำลังเนเธอร์แลนด์สิ้นสุดการปฏิบัติภารกิจ เตรียมถอดทหารแล้ว...

    สำนักข่าวเอพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ระบุถึงเป้าหมายสำหรับสงครามในอัฟกานิสถานว่า แม้จะเป็นเรื่องยากมาก แต่ก็เพียงพอที่จะบรรลุผลสำเร็จแล้ว

    โอบามา เผยผ่านรายการคุยยามเช้า "ซันเดย์ มอร์นิ่ง" ของสถานี "ซีบีเอส" ว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่พยายามเปลี่ยนอัฟกานิสถานให้เป็น "ประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สัน" และจะไม่ให้อัฟกานิสถานเป็นสวรรค์ของกลุ่มกบฏก่อการร้าย

    มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. กองกำลังทหารเนเธอร์แลนด์สิ้นสุดการปฏิบัติภารกิจ และเตรียมถอดกำลังออกจากอัฟกานิสถาน จากการช่วยต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองกำลังนานาชาติร่วมส่งทหารไปปฏิบัติภารกิจยังอัฟกานิสถาน มาเป็นระยะเวลานาน 9 ปี

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • news_img_345922_1.jpg
      news_img_345922_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37 KB
      เปิดดู:
      1,403
    • 632.jpg
      632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.1 KB
      เปิดดู:
      992
    • news_img_345486_1.jpg
      news_img_345486_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      1,037
    • 633.jpg
      633.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.3 KB
      เปิดดู:
      1,001
    • 634.jpg
      634.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      1,014
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]


    “เลขาธิการ กปร.เผย”ในหลวง”รับสั่งทุกหน่วยแก้ปัญหาน้ำแบบบูรณาการ เตรียมรับมือขาดแคลนน้ำในอนาคต


    วันนี้ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมเกรียติ แสนวิเศษ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ(กปร) เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสเรื่องการบริหารจัดการน้ำโดยทรงมีพระราชประสงค์ให้ทุกหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเรื่องน้ำทั้งประเทศ ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เพื่อเตรียมวางแผนร่วมกันรับมือปัญหาน้ำที่จะขาดแคลนมากขึ้น โดยให้มุ่งเน้นการบริหารน้ำและบริหารแหล่งน้ำที่มีอยู่ให้มีการจัดการที่ ร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะขณะนี้น้ำสำรองของประเทศมีอย่างจำกัด หากทุกหน่วยงานไม่มองภาพรวมว่าจะประหยัดน้ำกันอย่างไรในอนาคตจะเกิดปัญหา หนักมากขึ้น ทั้งน้ำที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และน้ำเพื่อการเกษตร ต้องมองหาจุดที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งมากไป นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานเรื่องการสร้างประตูกันลำน้ำเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในพื้นที่ได้ ทั้งหน้าแล้งและระบายออกแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ปล่อยน้ำทิ้งออกทะเลหรือลงสู่แม่น้ำโขง โดยสูญเปล่า รวมทั้งการสร้างแหล่งน้ำชุมชน ฝายชะลอน้ำให้เกิดความชุ่มชื้นและให้สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

    นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงว่ากระทรวงเกษตรฯเตรียมทำโครงการ หนึ่งแหล่งน้ำหนึ่งจังหวัด เพื่อให้การจัดหาแหล่งน้ำเป็นไปอย่างทั่วถึงและตรงตามความต้องการของชุมชน ทั้งประเทศ โดยได้สั่งการให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดไปทำงานบูรณาการกับหน่วยงาน ของกระทรวงเกษตรทั้งหมดในแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมกันจัดหาพื้นที่สร้างแหล่ง น้ำในแต่ละจังหวัด ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรระดับจังหวัด โดยให้แต่ละจังหวัดทำแผนเบื้องต้นในการปฏิบัติการตามโครงการดังกล่าว กลับมาที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงฯภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ โดยจะมีคณะอนุกรรมการบูรณาการแผนฯที่มีนายจักรี สุจริตธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานพิจารณาเพื่อนำสู่คณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริหาร จัดการน้ำเพื่อการเกษตร ที่มีปลัดกระทรวงเป็นประธาน พิจารณาเสนอเข้าที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงเพื่อประเมินผลความสำเร็จร่วมกัน เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถเริ่มขับเคลื่อนได้ภายในงบประมาณปี 2554 นี้ โดยอย่างช้าต้นปี 2554 จะต้องมีการเริ่มโครงการได้ทันที

    “โครงการนี้จะเป็นบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตและกระตุ้นเศษรฐกิจในพื้นที่ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยจะนำร่อง 2 เขต 9 จังหวัดที่มีความพร้อม ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี จันทรบุรี และตราด ซึ่งการจัดหาแหล่งน้ำในจังหวัดเหล่านี้อาจจะไม่ใหญ่มากแต่เน้นในเรื่องการ ขยายระบบการกระจายน้ำในพื้นที่ชลประทานอย่างมีประสิทธิภาพและใช้น้ำได้เต็ม ศักยภาพ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะต้องมีการรายงานความคืบหน้าทุกหนึ่งเดือน เมื่อครบ 6 เดือนจะมีการประเมินผลของโครงการอีกครั้งว่าจะต้องมีการปรับปรุงอย่างไร”นาย ธีระ กล่าว

    รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวต่อว่าขณะนี้ชาวนาสามารถเริ่มปลูกข้าวนาปีได้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายในบางพื้นที่เพราะมีฝนตกลงอย่างต่อ เนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางมีฝนตกหนักมากว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมทั้งปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศเริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นโดย เฉพาะเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำเข้ามาจากพายุโกเซิน อีก 400 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อดูจากการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศนานาชาติเชื่อว่า ปรากฎการลานีญา จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม และฝนตกมากกว่าค่าปกติ ทำให้มั่นใจว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากและสามารถส่งน้ำสนับสนุนการทำ นาได้ในทุกพื้นที่

    นายธีระ กล่าวอีกว่าทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯจะเตรียมจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ฉบับที่ 11 โดยจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งจากการเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เกษตรกรต้องการให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเกษตร โดยแหล่งน้ำ ที่ดินทำกิน การใช้ที่ดินทำกินอย่างต่อเนื่อง การคุ้มครองที่ดินเพื่อการเกษตร การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตร โดยการตั้งกองทุนสวัสดิการชาวนาขึ้นมาโดยเร็ว รวมทั้งการออกกฎหมายสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้สภาเกษตรกร สามารถทำหน้าที่ดูแลปกป้องเกษตรกรได้เต็มที่


    รับสั่งให้แก้ปัญหานํ้าแบบบูรณาการ รัฐบาลผุดโครงการ 1จังหวัด1แหล่งนํ้า

    วันเสาร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2553 เวลา 10:09 น



    พระราชทานฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้ง"ในหลวง" ทรงห่วงพสกนิกร “สุเมธ” นำคณะผู้บริหารสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานสรุปสถานการณ์น้ำ ด้าน “เลขาฯ กปร.” เผย รับสั่งทุกหน่วยแก้ปัญหาน้ำแบบ บูรณาการ เตรียมรับมือการขาดแคลนน้ำในอนาคต “ธีระ” ผุดโครงการหนึ่งแหล่งน้ำหนึ่งจังหวัด เพิ่มประสิทธิภาพบริหารแหล่งน้ำ เร่งเดินหน้าปี 54 นำร่อง 9 จังหวัด

    เมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 30 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร นำคณะผู้บริหารสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 12 คน เฝ้าฯกราบบังคมทูลรายงานสรุปสถานการณ์น้ำประเทศไทยปี พ.ศ. 2552 และเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี พ.ศ. 2553 การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การคาดการณ์สภาพอากาศประเทศไทย ปีพ.ศ. 2553 การปรับปรุงสถานีโทรมาตร ตรวจวัดสภาพอากาศอัตโนมัติและระบบโทรมาตร เพื่อสนับสนุนการจัดการปัญหาภัยแล้ง และผลการประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ครั้งที่ 3 กับรับพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันฯ

    ในการนี้ รายงานสรุปสถานการณ์น้ำในประเทศไทยนั้น รวมรวบข้อมูลโดยการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการและหน่วย งานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 และระบบดังกล่าวสามารถ ใช้งานได้จริงในปี พ.ศ. 2545 ปัจจุบันได้ขยายผลการดำเนินงานเพิ่มเติม โดยการ พัฒนาระบบคลังข้อมูล สภาพอากาศประเทศไทย เพื่อให้ได้ข้อมูลสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ของประเทศ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ จำเป็นในการนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการ ในปีที่ผ่านมานั้นพบว่า มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,403 มิลลิเมตร ซึ่ง ขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 2 ในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. พ.ศ. 2552 มีปริมาณน้ำฝนมาก และต่ำลงในช่วงปลายปี เนื่องจากอิทธิพลของเอลนินโญ่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรม ชาติอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดภัยแล้ง น้ำท่วม และรูปแบบของฝน และอุณหภูมิที่มีการผันแปรในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก อีกทั้ง ฝนที่ตกหนักจากพายุเพียงหนึ่งครั้ง ถูกพายุไต้ฝุ่นกฤษณา เป็นเหตุให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพลสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 311 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนในปีนี้ นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน มิ.ย. พ.ศ. 2553 พบว่ามีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 381 มิลลิเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 22 เนื่องจาก อิทธิพลของเอลนินโญ่ต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงพสกนิกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ซึ่งได้พระราชทานฝนหลวงพิเศษ เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว โดยการติดตั้งสถานีโทรมาตร ตรวจวัดสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝน และวัดระดับน้ำเสริมระบบโทรมาตรเดิมบริเวณเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก และเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี รวมทั้งพัฒนาระบบรายงานสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงพระราชทานใน 4 เขื่อนดังกล่าว และต่อเชื่อมข้อมูลในระบบโทรมาตรเดิม ในพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

    โดยแสดงผลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถืออีกทางหนึ่งด้วย ด้วยสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่พบว่าเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ่ และลานิน ญ่าซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิน้ำในมหา สมุทรแปซิฟิกผิดปกติไปจากค่าเฉลี่ย คือ หากอุณหภูมิในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณ ใกล้ประเทศฟิลิปปินส์สูงกว่าปกติก็จะเป็นปรากฏการณ์ลานินญ่า ประเทศไทยก็จะมีฝนตกหนัก ในทางตรงกันข้าม หากอุณหภูมิบริเวณนั้นต่ำกว่าปกติ ก็จะเป็นปรากฏการณ์เอลนินโญ่ ประเทศไทยก็จะมีฝนน้อย

    สำหรับการปรับปรุงสถานีโทรมาตร ตรวจวัดสภาพอากาศอัตโนมัติได้ดำเนินการ ปรับปรุงแล้ว 439 สถานีทั่วประเทศ ใน จำนวนนี้มีสถานีโทรมาตรในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา 31 สถานี แล้วยังติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วลม 110 ชุด ในสถานีโทรมาตรดังกล่าว เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลจัดทำแผนที่ลมติดตามการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อไป ส่วนผลการประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริครั้งที่ 3 ซึ่งมีชุมชนทั่วประเทศร่วมกันประกวดได้พบ 6 แบบอย่างความสำเร็จของชุมชนที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้จนเกิดผล สำเร็จ ได้แก่ การจัดผังน้ำ และระบบส่งน้ำชุมชน การจัดทำฝายชะลอน้ำรูปแบบต่าง ๆ การรักษาแหล่งน้ำด้วยการทำการเกษตรอินทรีย์ การจัดการน้ำของชุมชนบริเวณป่าต้นน้ำด้วยการปลูกหญ้าแฝก การรักษาป่าต้นน้ำด้วยภูมิปัญญาและประเพณีตามวิถีชุมชน รวมทั้งการจัดการป่าต้นน้ำเพื่อประโยชน์สูงสุด

    ทางด้านนายเฉลิมเกีรยติ แสนวิเศษ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ (กปร.) เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสเรื่องการบริหารจัดการน้ำโดยทรงมีพระราชประสงค์ให้ทุกหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเรื่องน้ำทั้งประเทศ ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เพื่อเตรียมวางแผนร่วมกันรับมือปัญหาน้ำที่จะขาดแคลนมากขึ้น โดยให้มุ่งเน้นการบริหารน้ำและบริหารแหล่งน้ำที่มีอยู่ให้มีการจัดการที่ ร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะขณะนี้น้ำสำรองของประเทศมีอย่างจำกัด หากทุกหน่วยงานไม่มองภาพรวมว่าจะประหยัดน้ำกันอย่างไร ในอนาคตจะเกิดปัญหาหนักมากขึ้น ทั้งน้ำที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และน้ำเพื่อการเกษตร ต้องมองหาจุดที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งมากไป

    นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานเรื่องการสร้างประตูกันลำน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ได้ ทั้งหน้าแล้งและระบายออกแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ปล่อยน้ำทิ้งออกทะเลหรือลงสู่แม่น้ำโขงโดยสูญเปล่า รวมทั้งการสร้างแหล่งน้ำชุมชน ฝายชะลอน้ำให้เกิดความชุ่มชื้นและให้สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

    นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงว่า กระทรวงเกษตรฯเตรียมทำโครงการหนึ่งแหล่งน้ำหนึ่งจังหวัด เพื่อให้การจัดหาแหล่งน้ำเป็นไปอย่างทั่วถึงและตรงตามความต้องการของชุมชน ทั้งประเทศ โดยได้สั่งการให้ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดไปทำงานบูรณาการ กับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมดในแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมกันจัดหาพื้นที่สร้างแหล่งน้ำในแต่ละจังหวัด ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรระดับจังหวัด โดยให้แต่ละจังหวัดทำแผนเบื้องต้นในการปฏิบัติการตามโครงการดังกล่าวกลับมา ที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงฯภายในวันที่ 20 ส.ค. โดยวางเป้าให้โครงการดังกล่าวสามารถเริ่มขับเคลื่อนได้ภายในงบประมาณปี 2554 นี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2554 จะต้องมีการเริ่มโครงการได้ทันที โดยจะนำร่อง 2 เขต 9 จังหวัดที่มีความพร้อม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ซึ่งการจัดหาแหล่งน้ำในจังหวัดเหล่านี้อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่เน้นในเรื่องการขยายระบบการกระจายน้ำในพื้นที่ชลประทานอย่างมี ประสิทธิภาพและใช้น้ำได้เต็มศักยภาพ

    รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนา สามารถเริ่มปลูกข้าวนาปีได้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายในบางพื้นที่เพราะมีฝนตกลงอย่างต่อ เนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางมีฝนตกหนักมากกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน มา รวมทั้งปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศเริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นโดย เฉพาะเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำเข้า มาจากพายุโกนเซิน อีก 400 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อดูจากการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศนานาชาติเชื่อว่าปรากฏการณ์ลานินญ่า จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น ในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม และฝนตกมากกว่าค่าปกติ ทำให้มั่นใจว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากและสามารถส่งน้ำสนับสนุนการทำ นาได้ในทุกพื้นที่.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ดวงประธานาธิปดีโอบามาและดวงนายกอภิสิทธิ์ที่คล้ายคลึงกัน

    [​IMG]

    หมอดูอินเดียเตือนโอบามา จะมีเคราะห์หนัก

    นายราช กุมาร ชาร์มา หมอดูชื่อดังชาวอินเดียจากเมืองมุมไบ ทำนายว่า นายโอบามา จะเป็นผู้คว้าชัยในการเลือกตั้งวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้อย่างขาดลอยถึง 10% เพราะดูจากปัจจัยแวดล้อม ประกอบกับการโคจรของดวงดาวที่ชี้ชัดว่า นายแมคเคน จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้

    อย่างไรก็ตาม หมอดูแดนภารตะรายนี้ยังได้ทิ้งท้ายเกี่ยวกับดวงชะตาของนายโอบามาเอาไว้อย่างน่าสะพรึงกลัวว่า เขาจะมีเคราะห์หนักในช่วงปี 2010-2011 เนื่องจากดาวอาทิตย์ที่อ่อนกำลังได้เคลื่อนเข้าสู่ราศีของนายโอบามา ซึ่งหมายความว่านายโอบามาอาจมีอันตรายถึงชีวิต และมีโอกาสรอดเพียง 25% เท่านั้น

    ที่มา http://www.ryt9.com/s/iq02/462645

    'หมอนิด'เตือนนายกอภิสิทธิ์ ระวังถูกมือมืดปองร้าย

    "หมอนิด"เตือนนายกฯ ระวังถูกปองร้าย บอกดวงไม่ดีถึงปีหน้า ชี้ปรับครม.ดึงคนดวงไม่ดีมาร่วมงาน ส่งผลเศรษฐกิจตกต่ำ แนะนิมนต์พระอริยสงฆ์ทำบุญทำเนียบ

    นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือหมอนิด กล่าวถึงกรณีที่หมอดูฮวงจุ้ยได้ตรวจฮวงจุ้ยของทำเนียบรัฐบาล และมีการระบุว่าหากไม่จัดทำบุญ อาจเกิดความวุ่นวาย เพราะพระพรหมที่สถิตอยู่บนยอดตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ได้อยู่ปกป้องรักษาทำเนียบรัฐบาลแล้ว และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตนั้นว่า นายกฯจะถูกปองร้ายจากภัยมืดต้องระวัง หรือไม่จะเจออุปสรรคในการบริหารประเทศ เศรษฐกิจตกต่ำไม่สามารถฟื้นตัวได้ หุ้นตก แม้แต่การปรับคณะรัฐมนตรีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะไม่มีใครที่ดวงดีเข้ามาช่วยงาน เพราะส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็เข้ามาโดยมีใบสั่ง บริหารประเทศไม่ราบรื่น

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" bordercolor="#669933" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#669933"><td width="130" nowrap="nowrap">วัน-เวลา</td> <td width="40" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่ เกิด</td> <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td valign="top">2553-08-02 13:42:44</td> <td valign="top">4.3</td> <td valign="top">18.51</td> <td valign="top">104.60</td> <td valign="top">ประเทศลาว</td> <td valign="top"> - ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.บุ่งคล้า จ.หนองคาย ประมาณ 70 กม.</td></tr></tbody></table>
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    พี้นมหา สมุทรบริเวณออสเตรเลียสูงขี้น 13 ฟุตต่อวัน !

    <!-- start node-forum.tpl.php --> รายงานข่าวจากประเทศออสเตรเลีย แจ้งว่าขณะนี้ระดับพี้นมหาสมุทรใต้ทะเลปรับตัวสูงขี้นอย่างรวดเร็ว ขนาด 12 ฟุตต่อวันตั้งแต่ช่วงมีนาคม ถีง ช่วงเมษายน คศ 2010 ที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มสูงขี้นเรื่อยๆ ซี่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง รายละเอียดของข่าวสามารถอ่านต่อได้จากลิงค์ข้างล่าง



    OCEAN FLOOR RISING BY 13 FEET PER DAY IN AUSTRALIA

    [​IMG]

    his is very disturbing. More and more things are happening that really shouldn’t. Is the 2012 events we are waiting for, starting already? The National Oceanic and Atmospheric Administration has a Tsunami station in event mode activated for Station 55023 – STB Coral Sea located at 14.803 S 153.585 E (14°48’9″ S 153°35’6″ E). The tsunami station has been in event mode since the large quakes occurred in the area for several days now. This is triggered by the buoys’ anomalies of water column height above the sea floor. If you do a data search for 2010 March 20th to 2010 April 13th you get this- Over 100 meters or 328 feet less distance from buoy to sea floor in 24 days! That’s 13 feet per day since the quakes. As you will see from the waves on the line graph it matches the tide lines perfectly

    [​IMG]

    Coral Sea tide chart So Station buoy 55023 is still on the surface. Its not the lunar cycles, checked that as well. There also has been a very odd sea surface temperature in the same location See link CSIRO web page [link] Note the area in blue on the map on the left then see the unusually cold surface temperatures on the surface in the map on the right. Seismic activity has also offers a good insight as to what may be occurring.


    [​IMG]


    Note the long time periods of S waves on this seismic station is the upward thrust of the ocean floor by 13 feet per day? Does anyone know what’s going on in this area? Is 2012 events already on it`s way?
    It is also now speculated that the Indo Australian Plate is moving north-west, colliding with and subducting beneath the Eurasian Plate and this movement is allegedly causing the Indo Australian Plate to tip so that the western half of Australia will sink while the eastern seaboard will rise. However, the rate of movement of the Plate is so slow that it seems unlikely that that subduction is causing the rapid sea level rises recorded in the Coral Sea before the two NOAA buoys were taken off line, or at least their readings no longer made public.
    What`s the conclusion?


    [​IMG]


    In my view and many others one theory is, that it is more likely that at least parts of Lemuria are beginning to rise with totally uncertain consequences for Australia and especially the east coast. In any event the seismic activity around Vanuatu and along the western boundary of the Pacific Ring of Fire in the southern hemisphere indicates that the east coast of Australia and especially the Queenslanc coast needs to be on alert for possible tsunamis when generated there. Anyway big changes are going on here on earth, that`s for sure.


    Disappearing islands of India


    By Green Living Tips | Published 12/26/2006
    Chances are you've never heard of the Indian islands of Lohachara and Suparibhanga. Chances are you won't hear much more about them after the initial press flurry has died down.
    Once home to around 10,000 people, Lohachara island has slipped beneath the ocean and it's neighbor, Suparibhanga island, met the same fate a while back.

    [​IMG]

    ส่วนอันนี้น้ำทะเลขึ้นสูง เกาะหายไปเลย
    อันนี้ข่าวเก่า ปี 2006 - เอามาเปรียบเทียบกันเผื่อได้ไอเดียอะไรใหม่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  14. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ด่วน! น้ำท่วมฉับพลันเกาะช้าง


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องในจังหวัดตราด ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่เกาะช้าง จังตราด เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ระดับน้ำสูง 50 ซม. นอกจากนี้ยังได้เกิดดินโคลนถล่ม ลงมาปิดเส้นทาง ถนนบางจุด ซึ่งขณะนี้ จนท.ได้เร่งช่วยเหลือ และ รีบรื้อสิ่งกีดขวางที่ไหลลงมาปิดทับเส้นทางต่างๆ
    นายศรัณ จิรังศรี นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เกาะช้าง อ.เกาะ ช้าง กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างมากในขณะนี้ ทำให้เกิดดินสไลด์จากภูเขาบริเวณถนนสายมาบค้างคาว-บ้านบางเบ้า หลายจุดโดยเฉพาะบริเวณโรงแรมริสา คาบาน่า เป็นระยะทางยาวและมีความสูง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทางเทศบาลได้ประสานไปยังกำนัน ต.เกาะช้างให้นำเครื่องจักรไปช่วยแก้ไข ขณะที่สำนักงานทางหลวงชนบท จ.ตราด ได้ประสานไปแล้วแต่ยังอยู่ระหว่ารงการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือ คาดว่าอีกไม่นาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้


    สนับสนุนเนื้อหา [​IMG]
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การใช้อภิญญากับเวทมนต์ มีวิธีใช้ต่างกันอย่างไร?

    [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->กัณหปักษ์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201265", true); </SCRIPT> สมาชิก

    การใช้อภิญญา กับเวทมนต์ ต่างกันอย่างไรคะ คือสงสัยค่ะ ว่าจอมขมังเวทย์ กับผู้สำเร็จอภิญญา มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้ววิธีใช้แตกต่างกันมั้ยคะ ข้อถามในกรณีที่อาจไม่ใช่ไสยศาสตร์ ข้อความคิดเห็นส่วนตัวด้วยก็ดีค่ะ

    15-05-2008, 05:33 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ตามหาคุณธรรม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201448", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ครูบาอาจารย์ของผมท่านกล่าวว่า คาถาเป็นเพียงตัวน้อมนำจิตครับ ขอเพียงแค่จิตมีสมาธิอย่างเดียว จะทำอะไรก็ทำได้ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิตครับผม

    ยกตัวอย่างเช่น คาถาสะเดาะกลอน ตามสูตรโบราณเขาต้องท่องอิติปิโสถอยหลัง จากนั้นให้เป่าลงไปที่กลอนประตู จะสามารถสะเดาะกลอนได้ แต่หากผู้ใดที่ฝึกกรรมฐานหรือมีกำลังจิตดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องท่องอิติปิโสถอยหลังก็ได้ครับ เพียงเข้าสมาธิ แล้วอธิษฐานให้กลอนมันสะเดาะออก แค่นั้นก็เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นคาถาจะศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ขึ้นอยู่กับศรัทธาและสมาธิของผู้สวดหรือผู้ใช้ครับ<!-- google_ad_section_end -->

    15-05-2008, 06:27 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ศนิวาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201695", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ไสยศาสตร์ ใช้เวทย์มนต์คาถาอาคมและแรงครูหนุนจึงจะสำเร็จ โดยใช้กำลังสมาธิแค่อุปจารสมาธิบวกกับความศรัทธา

    อภิญญา ใช้กำลังของฌาณสมาบัติ ใช้กสิณและกำลังสมาธิล้วนๆ ถึงฌาณ ๔ ชำนาญวสีเข้าฌาณออกฌาณอย่างเฉียบพลัน อธิษฐานจิตให้บังเกิดผลตามต้องการ ดังนั้นอานุภาพและผลสำเร็จจึงแตกต่างกัน

    ในบางครั้งเข้าฌาณไม่ทันเพราะจิตติดนิวรณ์ก่อน ก็เปลี่ยนไปใช้เวทย์มนต์และแรงครูแทน ดังนั้นครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนจึงฝึกจิตทั้งสองแบบ เมื่อถึงระยะหนึ่งก็ทิ้งไสยศาสตร์ทำวิปัสสนาล้วนๆ เพื่อความหลุดพ้น<!-- google_ad_section_end -->

    15-05-2008, 07:33 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นาๆจิตตัง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1202045", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ว่ากันตามเข้าใจนะ.....สัพเพเหระ.....หรือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ผิดพลาดหรือล่วงเกินไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และโปรดใช้วิจารณญาณ.ในการพิจารณา

    อภิญญา ก็เป็นเรื่องของการฝึกจิตเป็นหลักหรือจะเกี่ยวข้องกับ การฝึกกสิณฯหรือผู้ที่มีวาสนา บุญญาธิการมาแต่หนหลัง..อดีตชาติ...ซึ่งก็จะต้องมีสมาธิที่สูงฯตั้งแต่อัปปนาสมาธิหรือฌานขึ้นไป สามารถยั้งตัว...ในสมาธิหรือคล่องในฌานให้เป็นวสีนึกเข้าก็เข้านึกจะออกก็ออกได้...

    ส่วนที่จะสามารถใช้ฤทธิ์ใช้เดชได้นั้น ก็ต้องเข้าฌาน ๔ ได้จนคล่อง (ความสามารถก็จะ...ตามแต่ของกำลังสมาธินั้นๆ)แล้วพึงอธิษฐานตามแต่..ต้องประสงค์ ! ก็มักจะเป็นไปตามนั้น ถ้าสมาธิ..จิต ฝึกได้ในระดับนี้จริงๆ และผู้ที่ใช้ฤทธิ์ใช้เดชฯ ได้จริงๆ ตามที่ศึกษามานั้น ก็จะต้องสำเร็จกสิณได้ครบทุกกองคือฝึกจนถึงระดับของฌาน ๔ (หรือสูงยิ่งขึ้นไป...หรือเป็นอรูป) เข้าฌานสลับฌาน...สลับกองกสิณฯ.....จึงจะสามารถใช้งานได้ผลดีจริง

    ส่วนเวทย์มนต์ ฯ ใช้การบริกรรมน้อมนำจิตแลใจ เพื่อให้เป็นไปตามแต่เหตุพึงประสงค์! โดยมากแล้วก็จะมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางโลก....ยังไม่น้อมนำไปสู่การหลุดพ้นทางโลก ก็ใช้สมาธิแลให้เข้าถึงฌานเหมือนกัน เพื่อนำประโยชน์ของสมาธิไปใช้งาน...! ตามพึงประสงค์ ซึ่งก็ต้องพยายามฝึกให้เข้าถึงหรือเพื่อได้อภิญญาเหมือนกัน (อภิญญาเป็นของที่อยู่สูงหรือเหนือกว่า...ซึ่งโดยมากก็ฝึกเพื่อน้อมให้ไปสู่การบรรลุอภิญญานั้นเอง)

    แต่เวทมนต์ ฯ มักจะมีความอยากจะให้มี ให้เป็น หวังประโยชน์ฯ อยู่ !ทำให้การฝึก..ฝน นั้นสู้การฝึกกสิณฯ..ตามแนวกรรมฐาน ๔๐ ไม่ได้เลย (บางผู้บางคนก็ใช้การฝึกกสิณตามกรรมฐาน ๔๐ประยุกต์หรือควบคู่ไปด้วย ทำให้ผลที่ได้....ก็สูงตาม...ไปด้วยแล เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ ฯ)ส่วนกรณีที่เป็นหรือเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์นั้น..ก็จะลดหลั่นระดับลงไปอีก เพราะจะฝึกจนเทียบขั้นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ได้ ยิ่งมุ่งประเด็นไปในทางมิจฉาทิฏฐิ มุ่งร้าย ก่อกรรม ทำเวรแก่ผู้อื่นด้วยแล้ว(คนที่ประสบหรือโดนเกี่ยวกับ..สิ่งเหล่านี้ โดยมากมักจะมีกรรมมีเวร หรือไปสร้างเวรไว้แต่อดีตชาติ จึงทำให้มีเชื้อ...ทำให้สามารถดึงดูด เป็นพิษเป็นภัยแก่ตนเองได้) ก็จะเป็นผลของสมาธิที่ไม่บริสุทธิ์ ผลที่ได้ก็จะมีแต่โทษแต่ภัย และโดนผลของวิบากกรรมเล่นงานเอา

    บ้างบางทีก็มีการเข้าสิงเข้าทรง อัญเชิญเทพ เทวดา คุณครู ครูบา อาจารย์ พ่อปู่ ฤาษี ฯมาช่วยมาเสริม เติมแต่ง....ในฤทธิ์วิธีต่างๆ ตามแต่วิชชาที่ร่ำที่เรียนมา หรืออ้อนวอน ขอ บนบาน ศาลกล่าว ให้ท่านมาช่วยสงเคราะห์ให้....ซึ่งบางทีผลที่เกิดก็มาจากปัจจัยเสริม..ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น! เป็นผู้ดลบันดาลให้แทบทั้งหมดเลยทีเดียว (แต่โดยมากก็มักจะแอบอ้าง..เสริมเติมแต่ง ทั้งอมนุษย์หรือผู้กระทำเสียมากกว่า)วิธีใช้พอเล่าสู่กันฟังได้ดังนี้

    อภิญญาต้องฝึกจนถึงระดับสมาธิของฌาน ๔ ขึ้นไป จึงจะพึงอธิษฐานฤทธิ์วิธี....บังเกิดผล ซึ่งผลที่เกิด ที่ได้ ก็เป็นไปตามกำลังของสมาธินั้นๆ ตามแต่......กำลังของผู้ฝึกสมาธิเอง (เป็นปัจจัตตัง)

    ส่วนของเวทย์มนต์ฯ คาถา ก็มักจะเป็นไปตามกำลังของสมาธิ ของผู้ที่ใช้เวทย์มนต์ คาถาฯ นั้นๆโดยมากมักจะเป็นไปในด้าน...น้อมนำเพื่อเป็นกำลังใจเสียมากกว่าเพราะผลของสมาธิที่ฝึกฯหรือที่ได้นั้นมักจะไม่บริสุทธิ์? และบางส่วนยังเป็นการบริกรรมภาวนาฯ หรือ ขอถึง อ้อนวอน ฯ ยังไม่เป็นการเข้าถึงสมาธิ ในระดับของฌานหรือฌานที่สูงขึ้น ฯ...ในระดับที่สามารถใช้งานได้แต่อย่างใด ผลที่เกิดก็ยังไม่ค่อยมีผลนัก ยกเว้นผู้ที่ฝึกจนถึงระดับของฌาน สมาธิที่ลึกยิ่งเข้าไปก็ยังพอมีผลบ้าง!(แต่ก็มีเป็นส่วนน้อย) เท่าที่พอ...สังเกตุ ศึกษา ค้นคว้า ผลที่เกิดที่ได้นั้น มักมาจากปัจจัยภายนอกเสียมากกว่า (อมนุษย์หรือภูมิของเทพ เทวา.....ฯ ดลบันดาลให้...มี ให้เป็น หรือบังเกิดขึ้น )ซึ่งก็ส่งผลหรือมาจากผลของ.....กฏแห่งกรรม เข้ามาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น

    ส่วนคำว่าจอมขมังเวทย์นั้นเป็นคำนิยมยกย่อง...ของผู้คน ให้แก่ผู้ที่ดูขึงดูขลังในด้านวิชชา...หรือไสยศาสตร์อย่างนี้เป็นต้น ส่วนจะได้จริงหรือเก่งจริงแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...ก็ว่ากันตามเข้าใจหรือที่มองเห็น !(ส่วนในหนังในภาพยนตร์ก็ว่ากันไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง.....ตามถนัดชอบพอ) ซึ่งก็มีทั้งผู้ดีและผู้ร้ายสามารถที่จะเป็นจอมขมังเวทย์ได้หมด......แม้กระทั่งข้าพเจ้าสมัยยังบวชเป็นพระ ยังโดนล้อหรือไม่ล้อ..ก็ไม่รู้!ว่าเป็น หลวงพี่ " จอมขมังเวทย์ " ก็เพียงแค่จารอักขระเลขยันต์ ลงตะกรุด...ว่าคาถาเพื่อสมาธิ! ซึ่งก็ฝึกมาตั้งแต่ตอนยังไม่บวช...........ก็ว่ากันไป ! ซึ่งตอนนี้ก็ปล่อยวาง...!

    ส่วนผู้สำเร็จอภิญญานั้นโดยมากมักจะเป็นพระภิกษุสงฆ์...ฆราวาสก็มี แต่ก็น้อยมากฯ เพราะการฝึก ต้องเข้าถึงจริงๆ..ไม่ได้ขอถึงหรืออ้อนวอนเพื่อถึงแล้วจะถึงได้..... ต้องปฏิบัติจริง ทำจริง ! ก็เป็นคนละเรื่องกับจอมขมังเวทย์ แต่......จอมขมังเวทย์ก็ต้องฝึกสมาธิแลจิตเพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์วิธีต่างๆ...ก็ต้องมาเดินแนวสมาธิของการฝึกอภิญญาหรือประยุกต์ผสมผสานเพื่อให้ได้ ซึ่งผลของสมาธิ...เป็นการเบี่ยงเบนหรือเอาผลนั้นไปใช้ผิดวิธี วัตถุประสงค์ ทำให้แลดูหรือแยกกันไม่ค่อยออกไป

    15-05-2008, 09:04 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1206564", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ฤทธิ์ที่เกิดจากการใช้คาถาอาคมเรียกว่า "วิชชามัยฤทธิ์" น่ะครับ ผู้ที่เชี่ยวชาญในฤทธิ์ประเภทนี้ก็คือ เหล่าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งหลาย

    ส่วนฤทธิ์ที่ควบคุมธาตุทั้ง 4 ในกรณีที่ใช้ในการ เหาะ เดินบนอากาศ ดำดิน ทะลุกำแพง ฯลฯ ฤทธิ์จำพวกนี้ เรียกว่า "อธิษฐานฤทธิ์" ครับ

    ถ้าสนใจรายละเอียดสามารถอ่านได้จากหนังสือ "ทิพย์อำนาจ" ของพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) น่ะครับ รู้สึกว่าท่านจะจำแนกอธิบายเรื่องฤทธิ์ออกมา 10 ประเภทตามลักษณะหรือวิธีการใช้ฤทธิ์น่ะครับ

    หรือหนังสือ "พระไตรปิฎกฉบับพิเศษ ธรรมธาตุ ธรรมชาติแห่งสรรพสิ่ง" ของ ไชย ณ พล อัครศุภเศรษฐ์ ก็ได้น่ะครับ ในหนังสือเล่มนี้มีคำอธิบายและมีเรื่องราวที่น่าสนใจทีเดียวครับ<!-- google_ad_section_end -->

    16-05-2008, 03:00 PM

    ที่มา http://palungjit.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตราด-ฝนตกหนัก โคลนถล่มที่เกาะช้าง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตราด-ฝนตกหนักน้ำท่วม โคลนถล่มที่เกาะช้าง การจราจรเป็นอัมพาต

    เกิดฝนตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ เกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายบ้านหาดทรายขาว-บ้านบางเบ้า หลายสิบจุด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20 ซม.- 1 เมตรเศษ​

    โดยที่บริเวณบ้านไก่แบ้ ม.4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม.รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ นอกจากนี้น้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนในบริเวณดังกล่าวอีกกว่า 10 หลังคาเรือน ส่วนที่บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส บ้านไบลาน ต.เกาะช้างใต้ น้ำไหลบ่าจากภูเขาเข้าท่วมถนนระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากกำแพงโรงแรมและอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ปิดขวางทางน้ำ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้​

    นายศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์ นายอำเภอเกาะช้าง สั่งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเกาะช้าง นำรถยนต์ขนาดใหญ่ไปช่วยชักลากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และขนประชาชนข้ามฟาก​

    ขณะเดียวกันได้รับรายงานว่าเกิดเหตุดินสไลด์ลงจากภูเขาปิดทับเส้นทางไปบ้านบางเบ้าอีกจำนวนหลายจุดด้วย และขณะนี้ฝนยังตกอย่างต่อเนื่องและระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นายอำเภอเกาะช้างสั่งให้ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครกู้ภัยคอยเฝ้าระวังให้ความช่วยเหลือประชาชนหากน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไปด้วย​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    มหาสารคาม-ทุกข์ซ้ำชาวไร่อ้อยถูกหนอนเพลี้ยไฟระบาดกว่า 3,000 ไร่

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชาวไร่อ้อยทุกข์หนักจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบให้เพลี้ยหอยอ้อยระบาด เสียหายแล้ว กว่า 3,000 ไร่ ขณะที่เกษตรจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ทุกระดับเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่าใกล้ชิด และเร่งหาทางช่วยเหลือเป็นการด่วน

    ที่ห้องประชุมพิรุณ 2 สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม นายวิบูลย์ วงศ์มาศา เกษตรจังหวัดมหาสารคาม สั่งการให้หัวหน้ากลุ่มฝ่ายนักวิชาการ ระดับจังหวัดและอำเภอ เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืชที่ส่อเค้าระบาดรุนแรงกว่าทุกปี อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งยาวนานกว่าทุกปี โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคและแมลงศัตรูอ้อย ซึ่งนอกจากจะพบการระบาดของโรคใบขาวอ้อยแล้ว ล่าสุดยังพบการระบาดของเพลี้ยหอยอ้อยที่อำเภอบรบือ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบระดับจังหวัดและอำเภอลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์ เบื้องต้นพบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว 3,060 ไร่ ในพื้นที่ 7 ตำบล 26 หมู่บ้าน มีชาวไร่อ้อยเดือดร้อน 381 ราย นอกจากนี้ยังได้เตรียมเสนอคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ อำเภอ และจังหวัดให้ความช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่เดือดร้อน ครั้งนี้ กว่า 4 ล้านบาท​

    เพลี้ยหอยอ้อยชนิดนี้เป็นพวกเพลี้ยหอยเกราะ ซึ่งเพศเมีย 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 140-340 ฟอง ไข่ที่ออกจากท้องแม่จะเรียงติดกันคล้ายลูกปัดหรือรวมกันเป็นกลุ่มอยู่ใต้ท้องแม่ ระยะไข่ 7–10 วัน จึงฟักเป็นตัวอ่อน เปลือกไข่ที่ฟักออกไปแล้วจะมีสีขาวและมีรอยอีกด้านหนึ่งเห็นได้ชัดเจน ตัวอ่อนเคลื่อนที่รวดเร็ว และสามารถเคลื่อนย้ายไปหาแหล่งที่เหมาะสม เพื่อเป็นที่อาศัย โดยเคลื่อนย้ายขึ้นไปตามปล้องอ้อยที่สูง ๆ ที่อาศัยที่เหมาะสมของตัวอ่อน คือ บริเวณใต้ปล้องอ้อยที่ยังคงมีกาบใบอ้อยปกคลุมอยู่ ตัวอ่อนทำหน้าที่แพร่กระจายไปสู่จแหล่งปลูกอ้อยอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แพร่กระจายโดยลมพัดพาไป เมื่อตัวอ่อนหาที่อาศัยเหมาะสมได้แล้ว ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 46 ชม. จึงใช้ปากเจาะไชเข้าสู่ลำต้นอ้อยเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยง หากระบาดรุนแรง มีผลทำให้ผลผลิตของอ้อยลดลง 2-4 ตันต่อไร่​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com

    เกาะบาหลีวิกฤติ พิษสุนัขบ้าระบาด เสียชีวิต 78 ศพ

    [​IMG]

    เกาะบาหลีวิกฤติเจอโรคพิษสุนัขบ้าระบาดหนักตายแล้ว 78 ศพ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตมีมากกว่านี้ แต่ไม่มีรายงานเป็นทางการ ...

    สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ว่า โรคพิษสุนัขบ้าระบาดอย่างหนักบนเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรราว 3 ล้านคน โดยใน 2 ปีหลังมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการแล้ว 78 คน รวมทั้งสตรีวัย 40 ปีเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตมีมากกว่านี้แต่ไม่มีรายงานเป็นทางการ

    ส่วนรัฐบาลอินโดฯ ยอมรับว่ารับมือไม่ไหวจนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก พร้อมทั้งระบุว่าแค่ 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายงานผู้ถูกสุนัขบ้ากัดแล้วกว่า 30,000 คน รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาด้วยการการฆ่าสุนัขทิ้งแล้วราว 2 แสนตัว แม้จะถูกโจมตีอย่างหนักที่ไม่เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามคำแนะนำ ขององค์การอนามัยโลก โดยอ้างว่าวัคซีนขาดแคลน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  17. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    Flood Maps

    เว็บสำหรับ จำลองว่า ถ้าน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทย หรือ ทั่วโลกจะเป็นอย่างไร

    ลองเพิ่ม ลด ระดับน้ำ เอาเองครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไฟป่ารัสเซียลามเพิ่มนับร้อยจุด-เหยื่อน้ำท่วมปากีฯพุ่ง

    [​IMG]

    ความคืบหน้าเหตุไฟป่าที่ประเทศรัสเซีย ผลพวงจากคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงในรอบ 130 ปีนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของกระทรวงพลังงานเมื่อ 2 ส.ค. ระบุไฟยังลุกลามต่อเนื่องทั่วภาคตะวันตกของประเทศ ล่าสุดพบว่าเกิดไฟป่าเพิ่มกว่า 320 จุด ขณะที่เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 34 ศพ...

    นางเยเลนา เชอร์โนวา โฆษกกระทรวงพลังงานรัสเซีย เผยว่า เหตุดังกล่าวสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ป่าและทุ่งหญ้าไปแล้วกว่า 474,000 ไร่ มีหมู่บ้านกว่า 77 แห่งได้รับผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณรอบๆเมืองโวโรเนซ ทางตอนใต้ของกรุงมอสโก มีบ้านเรือนถูกเผาราบเป็นหน้ากลองกว่า 300 หลัง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ชุมชนได้บ้างแล้ว หลังดับไฟไปกว่า 210 จุด เหลืออีกกว่า 110 จุด ซึ่งกำลังลุกลามไปทางทิศตะวันออก ใกล้เขตนิชนีโนฟ-โกรอด มอร์โดเวีย และตาตาร์สถาน

    ขณะเดียวกัน เกิดเหตุไฟป่ากว่า 350 จุด ที่รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เผาทำลายพื้นที่ธรรมชาติไปแล้วประมาณ 220,000 ไร่ เจ้าหน้าที่รายงานว่า สถานการณ์ยังคงรุนแรง ไฟไม่มีท่าทีจะดับได้ในเร็วๆนี้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ

    [​IMG]

    สำหรับความคืบหน้าเหตุอุทกภัยในประเทศปากีสถาน ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี คร่าชีวิตชาวบ้านเพิ่มเป็น 1,300 รายแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ไม่มีน้ำและอาหาร แม้กระทั่งเต็นท์ไว้นอนหลับพักผ่อน แถมในบางพื้นที่ยังมีชาวบ้านกว่า 100,000 รายป่วยเป็นอหิวาตกโรคแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลชี้แจงว่าอยู่ระหว่างเร่งส่งความช่วยเหลือ แต่อาจล่าช้าเพราะเหตุครั้งนี้มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 2.5 ล้านคน ส่วนกรณีโรคระบาดนั้นจะรีบอพยพผู้ป่วยออกจากพื้นที่โดยเร็ว

    ด้านนายบัน กี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ส่งสารถึงรัฐบาลปากีสถานแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุดังกล่าว พร้อมอนุมัติเงินช่วยเหลือจากกองทุนฉุกเฉิน กว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 320 ล้านบาททันที ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจส่งเงินเข้าช่วยเหลือปากีสถานราว 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนรัฐบาลจีนก็ส่งเงินช่วยประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์เช่นกัน

    ส่วนเหตุน้ำท่วมที่ประเทศจีน เจ้าหน้าที่รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 928 ศพ สูญหายกว่า 477 คน บ้านเรือนถูกทำลายกว่า 875,000 หลัง ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายกว่า 33 ล้านไร่ ความเสียหายคิดเป็นเงินมูลค่ากว่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 636.jpg
      636.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.7 KB
      เปิดดู:
      1,394
    • 637.jpg
      637.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      1,538
  19. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    มีข่าวสารจากจิตจักรวาลมาฝากค่ะ

    เตือนภัย! พายุถล่มกทม.ปี 2012
    ถ่ายทอดคลื่นความคิดเป็นข่าวสารจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล : วันที่ 1 สิงหาคม 2553


    ขณะนี้ท่านจะสังเกตได้ว่า โลกของเรากำลังเกิดอาการวิกฤติอยู่ 2 ประการ คือ
    1.วิกฤติด้านจิตสำนึกของมนุษย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์ด้านลบขับเคลื่อนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น และบกพร่อง
    ในการใช้สติปัญญามากขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง และการประพฤติผิดศีลธรรมของผู้คนในสังคม
    มีมากขึ้นและกระจายทั่ว เริ่มจากครอบครัวไปสู่ระดับประเทศและระดับโลก เหตุเพราะมนุษย์โลกฝักใฝ่ในธรรมน้อยลง แต่ใส่ใจใฝ่หาวัตถุเท็คโนโลยีและโภคทรัพย์ทั้งปวงกันมากขึ้น ก็ด้วยอำนาจฤทธิ์ของกิเลสตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อนนั่นเอง
    มนุษย์จึงใฝ่หาความรวยมากกว่าความรัก....
    ใฝ่หาความสุขมากกว่าความสงบ....

    2.วิกฤติด้านดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ท่านทั้งหลายจะได้ฟังข่าวสารด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกภาคพื้นทวีปทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก แผ่นดินถล่ม อุทกภัย ไซโคลน-ทอร์นาโด และภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น สิ่งที่ท่านจะต้องสังเกตก็คือ ภัยพิบัติเหล่านี้
    มันจะเกิดขึ้นไปทั่วทุกที่ ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นมันจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็ตาม
    นอกจากนั้นภัยพิบัติเหล่านี้มันมักจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆตลอดมา...และจะเป็นเช่นนี้อีกทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปด้วย
    ที่สำคัญคือ โปรดระวัง!!! เหตุร้ายมันจะเกิดคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวของท่านเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว

    โดยเฉพาะในปี ค.ศ.2012 อันเป็นปีที่ภาพยนตร์ฝรั่งที่เข้ามาฉายในเมืองไทย ได้สร้างกระแส "โลกแตกฟีเวอร์" เอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา
    จนทำให้ผู้คนคิดไปว่า โลกจะแตกในปี ค.ศ.2012 ทั้งๆที่มันเป็นแค่เพียงภาพยนตร์อันเกิดจากจินตนาการของผู้สร้างให้เป็นกระแสเท่านั้นเอง เรา "ในนามของจิตจักรวาล" ขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะปีไหนๆดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะไม่มีคำว่า แตก แน่นอน หากจะมีก็คือ
    มนุษย์นี่แหละที่จะ สติแตก!หากไม่มีการเตรียมตนเองและจิตวิญญาณของตนเพื่อการผจญภัยไว้เสียแต่บัดนี้....
    เตรียมอย่างไร...โอกาสต่อไปโปรดติดตาม.... ซึ่งในปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) สิ่งที่ท่านจะต้องระวังไว้เกี่ยวกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นใกล้ตัวของท่าน คือ ข่าวสาร (มิใช่คำพยากรณ์) ต่อไปนี้

    สถานที่จะเกิด:
    1.กรุงเทพมหานครด้านตะวันออก
    2.สมุทรปราการ ด้านก้นอ่าวไทย
    3.ปากแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานแขวน และธนบุรีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
    4.มีนบุรีบางส่วน

    ชนิดของภัยพิบัติที่จะเกิด:
    1.พายุหมุนพัดถล่ม 1-3 ลูก ภายในวันเดียว
    2.อุทกภัยที่หนักสุดในรอบ 50 ปี

    ความเสียหายที่คาดหมาย:
    1.ตึกสูงใหญ่ถล่ม บ้านปลิว ป้ายขนาดใหญ่พัง เสาไฟฟ้าล้ม
    2.สะพานแขวนบางแห่งจะขาด หรือสะพานลอยฟ้าจะหักพังลงมา
    3.น้ำท่วมกรุงเทพฯและชานเมือง อ่าวไทยน้ำทะเลหนุนสูง
    4.ตึกบางแห่งจะถูกฟ้าผ่าจนพัง และบางแห่งไฟไหม้
    5.มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนไม่น้อย บ้างก็ไร้ที่อยู่อาศัย
    6.ไฟฟ้าดับทั่วกรุง

    ช่วงเวลาที่คาดหมายว่าจะเกิดภัยนี้:
    1.ระหว่างเดือน เมษายน - มิถุนายน 2012
    2.เริ่มเกิดเหตุตั้งแต่ ตี 2- ตี 4 โดยจะเริ่มรุนแรงประมาณ 6-9 โมงเช้า และให้ระวังตั้งแต่บ่ายโมงจนพลบค่ำ

    หมายเหตุ:
    เหตุการณ์นี้อาจเบาลง เลื่อนกำหนด หรือไม่เกิดขึ้น หากท่านทั้งหลายหันมาใส่ใจปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน ตามคำแนะนำของ "จิตจักรวาล" กันให้มากๆตั้งแต่บัดนี้ ทุกท่านก็ทำได้....ไม่ยากเลย... คือ

    1.รักให้ได้ (แม้เขาจะไม่น่ารักเลยก็ตาม)
    2.ให้ให้เป็น (แบ่งปัน-เสียสละ-ให้ทาน-ให้อภัยแม้กับคนที่ไม่สมควรจะให้อภัย)
    3.ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น (ทั้งกาย-วาจา-ใจ)
    4.ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต (ไม่ตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น)

    เราอ่านดูแล้วปฏิบัติตามได้ไม่ยากเลย รักให้ได้ ใหให้เป็น ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น ใช้สติในการดำเนินชีวิต ถ้าคนไทยรักกันมากขึ้นกว่านี้ ให้อภัยกันให้ได้โดยไม่มีเงื่อนไง เชื่อว่าพัทยาคนไม่ไร้ซึ่งฝรั่งแบบวันนี้ อิ อิ เกี่ยวกันไหมนี่
     
  20. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    สาธุ ขอให้ทุกคนทำได้(รวมทั้งตัวเองและครอบครัว) ทั้ง 4 ข้อเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...