***วัตถุมงคลหลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย ดอยมังกร-ครูบาวงค์ และเกจิอาจารย์ทั่วไทย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย siwa1968, 24 สิงหาคม 2010.

  1. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    ครูบาศรีวิชัยรุ่น1 วัดพระธาตุจอมคีรี อ.ป่าแดด เชียงราย บูชา 950 บาท
    ปิดครับมีผู้บูชาแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1550.jpg
      DSCF1550.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184.1 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCF1551.jpg
      DSCF1551.jpg
      ขนาดไฟล์:
      192.6 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010
  2. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    • กระจกไว้ดูหน้า ปัญญาไว้ดูใจ
    • กลองจะดังต้องดี ศิษย์จะดีก็ต้องครู
    • กลิ่นหอมที่รุนแรง ดึงดูดภุมรินที่น่าเกลียด
    • กับเพื่อนทำให้จน กับตนทำให้รวย
    • แกล้งโง่ให้ถูกเวลาเป็นยอดฉลาด
    • การสู้เพื่อพ่ายแพ้ไร้ค่า
    • การแต่งงาน คือจุดสิ้นสุดของความรัก
    • การเสียสละ คือผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ

    • ของกินไม่กินก็พูด ของเก่าไม่เล่าก็ลืม
    • ข่าวร้ายมักไปไกล ข่าวลือมักเหลวไหล
    • ขี้จ่ายทนจน ขี้บ่นทนฟัง
    • ขี้โกงทนฉ้อ ขี้ขอทนอาย
    • ข้อความที่เป็นจริงไร้การแต่งเติม
    • ขลาดนักเสียการ กล้านักเสียกาย
    • เข้านอนท้องหิว ดีกว่าตื่นแล้วเจอหนี้

    • คนโง่ไม่รู้สุภาษิต คนฉลาดสร้างตัวแม้ไร้เงิน
    • คนโง่ถามปัญหาหนึ่งนาที คนฉลาดคิดทั้งที่ตอบไม่ได้
    • คนโง่สะสมเงิน คนฉลาดใช้ให้คุ้มค่า
    • คนดีมีน้อย คนถ่อยมีมาก
    • คนชอบเขาว่าเราดี คนชังเขาว่าเราชั่ว
    • คนฉลาดต้องรู้ว่าตนเองโง่
    • คนฉลาดไม่พูดมาก คนโง่พูดเป็นฉากๆ
    • คนใจแคบกังวลทุกเรื่อง คนใจกว้างยอมรับไปทั่ว

    • งาช้างที่ไหนจะงอกจากปากหนูนา
    • งาช้างมั่นคงไม่หดคืน วาจามั่นใจไม่กลิ้งกลอก
    • ง่ายตอนที่คิด พอทำกับมาติด
    • เงินทองร้อยล้าน ยังน้อยกว่าน้ำใจร้อยดวง
    • งูพิษที่เลวร้ายมีค่ามากกว่าเพื่อนเลวที่หักหลัง
    • เงินหมดยกให้พี่หา เงินมียกให้น้องใช้
    • โง่แล้วอย่าอวดดี จะเสียทีเพราะคนอื่น
    • เงาย่อมไม่มีคน

    • จงเข้มงวดกับตนเอง แต่ให้ผ่อนปรนกับคนอื่น
    • จงคิดถึงคนอยู่ให้มาก จงลืมคนจากให้พ้น
    • จงอดทนรอให้ใบหม่อนกลายเป็นผีเสื้อ
    • จงเอาใจใส่เขาเหมือนอยู่ในใจเรา
    • จงเรียนให้ชัด จงดูให้เห็น จงทำให้จริง
    • จงรู้ว่าตัวเราเป็นใคร และเป็นตัวของตัวเอง
    • จะช้าเพื่ออยู่ต่อ หรือจะรีบเพื่อลาจาก
    • จอดเรือให้ดูท่า จะนั่งให้ดูพื้น

    • ฉลาดหรือโง่วัดกันที่วาจา
    • ฉลาดต้นปี ไม่สู้ฉลาดตอนปลายปี
    • ฉากแรกที่มีรัก เป็นบทจบของสติปัญญา
    • เฉพาะคนที่ขี้เกียจ ถึงจะเชื่อเรื่องโชคชะตา
    • เฉพาะคนที่ไม่ลดละ ผู้นำรออยู่ข้างหน้า
    • ฉิบหายตอนต้น ดีกว่าเสียหายตอนปลาย
    • เฉพาะคนสู้ชีวิต จึงสมควรมีชีวิตอยู่
    • ฉันคือผู้แพ้ นั่นแหละเธอจึงชนะ
     
  3. KRITA

    KRITA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,060
    ค่าพลัง:
    +7,264
    ยังอยู่ไหมครับ ถ้าอยู่ขอบูชานะครับ 5องค์
     
  4. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    พระอุปคุต (พระบัวเข็ม)
    อรหันต์เรืองฤทธิ์ ผู้พิชิตพญามาร
    ค้าขายดี และชนะอุปสรรค

    ความจริงพระอุปคุตเถระ ท่านไม่ใช่เป็นพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาลท่านเกิดขึ้นหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 200 กว่าปี ในยุคของ พระเจ้าอโศกมหาราช
    พระอุปคุตเป็นพระที่เรืองฤทธิ์ คล้ายๆกับ พระโมคคัลลาน์ ในสมัยพระพุทธกาล
    ชวประวัติของท่านมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย โดยเฉพาะตอนที่ท่านมาปราบพญามารีที่จะมารังควาญการฉลองพระบรมสารีริกธาตุของพระเจ้าอโศก


    กำเนิดพระอุปคุต

    เรื่องราวความเป็นมาของท่าน จามที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์อโศกอวทาน มีกล่าวไว้ว่า
    พระอุปคุตเถระท่านถือกำเนิดมาในตระกูลของพ่อค้า ที่เมืองมถุราซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา
    ท่านมีพี่ชาย 2 คน ส่วนท่านนั้นเป็นคนสุดท้อง
    มูลเหตุที่ทำให้พระอุปคุตได้บวชนั้น ก็สืบเนื่องมาจากบิดาของท่านได้เคยให้สัญญาไว้กับพระเถระรูปหนึ่ง คือพระสาณวาสี ว่าถ้าตนมีลูกชายก็จะให้บวชในพระพุทธศาสนา
    ทีนี้พอมีลูกชายคนแรกก็ไม่ยอมให้บวช ด้วยอ้างว่าจะต้องเอาไส้ดูแลทรัพย์สินในเหย้าเรือน เอาไว้ถ้ามีลูกชายคนที่ 2 เมื่อไร แล้วจะยอมให้บวช แต่พอมีลูกชายคนที่ 2 เข้าจริง ๆ ก็หาเรื่องบิดเบือนอีก ว่ามีความจำเป็นต้องเอาไว้สำหรับวิ่งเต้นเก็บหนี้สินตามหัวเมือง ขอให้รอไว้มีลูกชายคนที่ 3 แล้วจะต้องบวชให้อย่างแน่นอน

    พอลูกชายคนที่ 3 ซึ่งมีชื่อว่า “อุปคุต” เกิดมาก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระเถระ พระเถระท่านเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา ท่านจึงนิ่งไว้ก่อน และก็ไม่ได้ไปทวงถามถึงสัญญานั้น จนกระทั่งอุปคุตโตเป็นหนุ่ม

    ตอนนั้นอุปคุตได้มาช่วยบิดาขายเครื่องหอมอยู่ที่ร้านในตลาด ตั้งแต่อุปคุตมาอยู่ที่ร้าน ก็ปรากฎว่าเครื่องหอมขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนมาซื้อหากันไม่ขาดสาย นี่เป็นธรรมดาของผู้มีบุญไปอยู่ที่ไหน ทรัพย์สินก็จะหลั่งไหลมาด้วยอำนาจแห่งบุญ

    เพราะฉะนั้นจึงเชื่อกันว่า ผู้ที่ค้าขาย หากได้บูชาพระอุปคุตเป็นประจำทุกกเช้าตอนเปิดร้าน ก็จะทำให้ค้าขายดีมีคนมาซื้อหาไม่ขาดสายทรัพย์สินก็จะหลังไหลมาเทมา กิจการเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป
    วันหนึ่งพระสาณวาสีเถระได้แวะเข้าไปในร้านที่อุปคุตขายของและได้กล่าวธรรมกถาให้อุปคุตฟัง ปรากฏ

    ว่าอุปคุตฟังแล้วเกิดสังเวช ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ในพระพุทธศาสนา
    เมื่อพระสาณวาสีเถระเห็นว่าอุปคุตได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วจึงได้เไปทวงสัญญาเอากับนายพาณิชย์ผู้เป็นพ่อของอุปคุต
    “ไหนวาจะถวายลูกชายคนที่ 3 แก่อาตมา เพื่อให้บวชยังไงล่ะ”
    พอนายพาณิชถูกทวงถามเช่นนั้นก็อับจนปัญญา ไม่อาจหาวิธีพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงได้อีก จึงตัดสินใจอนุญาตให้อุปคุตออกบวชได้

    กิตติศัพท์ขจรขจาย

    เมื่ออกบวชแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ตั้งใจเจริญกรรมฐานจนได้บรรลุพระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนาและต่อมาท่านพระอุปคุตก็ได้เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากที่สุดในยุคนั้น โดยในคัมภีร์ได้กล่าวว่า ท่านมีพระอรหันต์ผู้เป็นศิษย์อยู่ถึง 18,000 รูป
    ส่วนสำนักของท่าน ตั้งอยู่ ณ วัดนตภัติการาม ภูเขาอุรุมนท์

    ศรัทธาของพระเจ้าอโศก

    กิตติศัพท์ด้านความรู้ความสามารถของท่านได้แพร่สะพัดไป จนทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์จึงตั้งพระทัยจะเสด็จไปอาราธนาท่านพระอุปคุตให้มาโปรดยังกรุงปาฏลีบุตร

    แต่วิสัยของพระอรหันต์ผุ้ยิ่งด้วยอภิญญาเฉกเช่นท่านพระอุปคุตนั้น เพียงแค่พระเจ้าอโศกทรงดำริเท่านั้น ท่านก็ทราบแล้วจึงได้รีบลงเรือเดินทางมาสู่กรุงปาฏลีบุตรในทันที ฝ่ายพระเจ้าอโศกเมื่อทรงทราบว่าท่านพระอุปคุตได้เดินทางมาแล้ว จึงได้โปรดให้ตั้งพิธีต้อนรับ และเสด็จมารับท่านพระอุปคุตด้วยพระองค์เองทีเดียวอันเป็นตำนานที่ปรากฎอยู่ใน คัมภีร์อโศอวทาน

    อีกตำนานหนึ่ง

    ส่วนใน คัมภีร์ปฐมสมโพธิ ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ของ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีเนื้อความแตกต่างกันออกไปดังนี้

    ในคัมภีร์ปฐมสมโพธิได้กล่าวถึงพระเจ้าอโศกว่า แต่เดิมนั้นพระเจ้าอโศกทรงนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน แต่พอมาได้ฟังธรรมจากสามเณรนิโครธ ก็เกิดพระศรัทธาปสาทะในพุทธศาสนาอย่างมาก จนถึงขนาดทรงนำหลักธรรมวินัยของพระพุทธเจ้ามาเป็นนโยบายในการปกครองไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบธรรมาธิปไตย คือการถือเอาธรรมะเป็นใหญ่

    และในสมัยต่อมา พระเจ้าอโศกก็ได้โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป โดยพุทธที่โปรดให้สร้างขึ้นนั้น ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็เห็นจะได้แก่ มหาวิหารที่ชื่อว่า “อโศการาม”
    ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแคว้นมคธ ส่วนพระสถูปเจดีย์นั้นก็โปรดให้สร้างขึ้นถึง 84,000 องค์ และเมื่อพระสถูปเจดีย์ได้สร้างสำเร็จสมพระราชประสงค์แล้ว พระเจ้าอโศกก็จึงได้ตรัสถามพระภิกขุทั้งหลายว่า จะสามารถหาพระบรมสารีริกธาตุแต่ที่ใดมาบรรจุในพระสถูปให้ถ้วนทั่วทั้ง 84,000 องค์ พระภิกษุทั้งหลายถวายพระพรว่า
    “พวกอาตมาภาพเคยได้สดับสืบ ๆ กันมาว่า การกระทำพิธีฝังพระบรมสารีริกธาตุ(ธาตุ
    นิธานกรรม) นั้นมีอยู่ แต่มิทราบว่าสถานที่กระทำพิธีฝังพระบรมสารีริกธาตินั้นอยู่ที่ไหน”
    เมื่อพระเจ้าอโศกทรงทราบเช่นนั้นจึงรับสั่งให้รื้อทำลายพระสถูปเจดีย์ในเมืองราชคฤห์ เพื่อค้นหาพระบรมสารีริกธาตุ แต่ก็ไม่ทรงพบ จึงทรงรับสั่งให้ก่อขึ้นไว้เป็นปกติดังเดิม

    แต่มีเรื่องน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นตอนที่ไปขุดค้นหาพระบรมสารีริกธาตุที่รามคาม ปรากฎได้เกิดเหตุชนิดที่ใคร ๆ ก็คิดไม่ถึง คือหมู่นาคไม่ยอมให้รื้อทำลายพระเจดีย์ โดยบันดาลทำให้จอบเสียม สิ่ว ขวาน แตกหัก เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ ไม่สามารถขุดรื้อได้ดังใจปรารถนา

    ในเมื่อการค้นหาพระบรมสารีริกธาตุไม่พบดังพระราชประสงค์ พระองค์จึงเสด็จนิวัติสู่กรุงราชคฤห์อีกครั้งหนึ่ง รับสั่งให้พุทธบริษัททั้ง 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เข้าร่วมประชุม แล้วจึงตรัสถามว่า
    “ใครเคยได้ยินมาบ้างว่ามีการกระทำพิธีฝังพระบรมสารีริกธาตุไว้ ณ ที่ ไหน”
    ในที่ประชุมนั้น ปรากฎว่ามีพระมหาเถระผู้เฒ่ารูปหนึ่งอายุ 120 ปี บอกว่าสมัยที่มีอายุได้ 7 ขวบนั้น พระมหาเถระผู้เป็นบิดาได้เคยพาท่านไปบูชาสถูปศิลาองค์หนึ่ง และสั่งย้ำว่า จงจำสถานที่นี้เอาไว้ให้ดี แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ที่นั่นจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหรือไม่

    เมื่อพระเจ้าอโศกได้ทรงสดับเช่นนั้น ก็ดำริว่า ที่นั้นชะรอยจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเป็นแน่แท้ จึงมีรับสั่งให้พระมหาเถระนำเสด็จไปยังสถานที่แห่งนั้น เมื่อขุดลงไปก็ปรากฎว่าได้พบพระบรมสารีริกธาตุจริง ๆ ทำให้พระเจ้าอโศกทรงปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อกลับมาถึงเมืองปาฏลีบุตรแล้ว ก็ได้ทรงกระทำสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุโดยวิธีอเนกประการ หลังจากทรงทำพิธีสักการะบูชาเสร็จ พระองค์ก็ทรงแจกพระบรมสารีริกธาตุไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ทั้ง 84,000 แห่ง ทั่วชมพูทวีป

    เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์ทั้งหลายทุก ๆ พระนครเสร็จแล้ว ต่อจากนั้นจึงทรงรับสั่งให้ก่อสร้างพระมหาสถูปองค์ใหญ่ขึ้นใหม่องค์หนึ่ง มีความสูงประมาณครึ่งโยชน์ ประดับประดาด้วยแก้วต่าง ๆ และแสงแห่งแก้วเหล่านั้นก็สว่างรุ่งเรืองประดุจเขาไกรลาศ ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ใกล้กับกรุงปาฏลีบุตรนั่นเอง ครั้นสร้างเสร็จแล้ว จึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เหลืออยู่ 1 ส่วน บรรจุไว้ในพระมหาสถูปองค์นั้น

    เรื่องนี้ต้องพระอุปคุต

    ในกาลต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราชมีพระราชประสงค์ที่จะทำาการฉลองพระสถูปเจดีย์ เป็นเวลา 7 ปี 7 เดือน 7 วัน จึงนำความไปปรึกษากับหมู่สงฆ์ ซึ่งมีพระโมคคัลลีบุตรเถระเป็นประธาน พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย ได้เล็งญาณดูแล้วเห็นว่าในการทำพิธีฉลองครั้งนี้จะมีพญามารมาทำลายพิธี จึงได้ทำการเฟ้นหาพระเถระผู้มีฤทธิ์ที่จะมาทำการป้องกันภัยอันจะพึงเกิดขึ้นในครั้งนี้

    แต่ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดที่สามารถจะทำการนี้ได้ จะเห็นมีอยู่ก็แต่ ท่านอุปคุต ซึ่งไปเนรมิตปราสาทแก้ว 7 ประการ จำพรรษาอยู่ในท้องมหาสมุทร เพื่อหลบหนีความวุ่นวายโดยท่านไปนั่งเข้าฌาณสมาบัติอยู่บนรัตนบัลลังค์ในท่ามกลางปราสาทแก้วนั้น โดยไม่ได้ฉันภัตตาหารมาเป็นเวลานาน พระอุปคุตนี้แหละ หากได้นิมนต์มาก็จะสามารถปราบพญามารได้ จึงตกลงใจที่จะไปนิมนต์พระอุปคุตมา สำหรับการไปนิมนต์ครั้งนั้นก็ได้มอบหมายให้พระภิกษุผู้มีฤทธิ์ ได้อภิญญาสมาบัติ 2 รูป เป็นผู้ไปนิมนต์

    เมื่อไปถึงที่อยู่ของท่านอุปคุต และได้แจ้งความประสงค์ให้ท่านทราบ ท่านก็ไม่ได้แสดงความขัดข้องแต่ประการใด บอกให้พระภิกษุที่ไปนิมนต์กลับมาก่อน แล้วท่านจะตามมาทีหลัง แต่ที่ไหนได้ …พอพระภิกษุที่ไปนิมนต์กลับมาถึง ก็เห็นท่านอุปคุตมาถึงก่อนแล้ว….นี่แสดงให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์อันน่าอัศจรรย์ของท่านพระอุปคุต

    ลองกำลังฤทธิ์

    ก่อนที่จะถึงกำหนดการฉลองพระสถูปเจดีย์ พระเจ้าอโศกต้องการจะดูตัวว่าพระเถระไหนหนอที่จะมาทำหน้าที่ป้องกันภัยจากพญามาร พอประธานสงฆ์ชี้ให้ดูว่ารูปนี้ไง ที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่ป้องกันภัยจากพญามาร พระเจ้าอโศกก็ชักไม่ค่อยเชื่อใจ เพราะรูปร่างของพระอุปคุตนั้นผอมมาก จะทำการป้องภัยจากพญามารผู้มีฤทธิ์มากได้อย่างไร ในเมื่อไม่เชื่อก็ต้องทดสอบ

    วิธีการทดสอบของพระเจ้าอโศกก็คือ ในตอนเช้า ขณะที่ท่านอุปคุตเข้าไปบิณฑบาตรในพระราชนิเวศน์ พอออกมาก็ให้ปล่อยช้างตกมันเพื่อจะทดลองกำลังฤทธิ์ของท่านพระอุปคุตว่า จะสู้กับช้างของพระองค์ได้หรือไม่ เพราะถ้าหากต่อสู้กับช้างไม่ได้แล้ว ไฉนเลยจะต่อสู้กับพญามารได้

    และแล้ว พระเจ้าอโศกก็ได้เห็นประจักษ์ เมื่อช้างตกมันได้วิ่งไปหมายจะบดขยี้ท่านพระอุปคุต…แต่ช้างนั้นต้องพลันชะงักงันหยุดนิ่ง ไม่ไหวติง ร่างกายด้วยอำนาจฤทธิ์ของท่านอุปคุต

    พระเจ้าอโศกเห็นดังนั้นจึงได้เข้าไปขอขมาต่อท่านพระอุปคุตที่ได้ทำการลองดี ท่านอุปคุตก็ได้คลายฤทธิ์ ทำให้ช้างนั้นสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และกลับไปสู่โรงช้างอันเป็นที่อยู่ของตน เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้พระเจ้าอโศกมีความมั่นใจในฤทธานุภาพของท่านพระอุปคุตว่าจะสามารถป้องกันภัยจากพญามารได้

    ทรมานเสียให้เข็ด

    และแล้ววันสำคัญก็มาถึง นั่นคือวันที่จัดให้มีการฉลองพระมหาสถูปเจดีย์พระเจ้าอโศกพร้อมด้วยข้าราชบริพาร และประชาขนได้พร้อมใจกันจัดเครื่องบูชาอย่างมโหฬาร ตามริมฝั่งแม่น้ำคงคามีการจุดประทีปเป็นอเนกอนันต์นับไม่ถ้วน จนทำให้บริเวณนั้นโชติช่วง มองดูแล้วสว่างไสวคล้ายเวลากลางวัน ขณะที่ทุกคนกำลังปีติอยู่กับการบูชาพระมหาเจดีย์ นั้น เหตุการณ์ที่ใครๆ ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น คือได้เกิดลมพายุใหญ่พัดมาชนิดที่ไม่มีเค้ามาก่อนเลย

    ท่านพระอุปคุตเห็นดังนั้น ก็จึงได้ใช้ฌาณอภิญญาตรวจดูเหตุที่ทำให้เกิดพายุใหญ่ ก็จึงได้ทราบว่าที่แท้เป็นเพราะอำนาจแห่งพญามารที่หวังจะมาทำลายพิธีนี่เอง ในเมื่อรู้ชัดเช่นนั้นแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ไม่รอรี รีบใช้ฤทธิ์ปัดเป่าให้พายุใหญ่ของพญามารอันตรธานหายไปในบัดดล

    เมื่อพญามารเห็นว่าใช้พายุใหญ่เพื่อทำลายพิธีไม่ได้ผล ก็รู้สึกโกรธแค้น จึงใช้วิธีการอย่างอื่น ๆ แต่ท่านพระอุปคุตก็สามารถจะเอาชนะได้ทุกอย่าง จนผลที่สุด พญามารก็ได้ถูกพระอุปคุตปราบ โดยวิธีเนรมิตซากสุนัขเน่าซึ่งมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง และเต็มไปด้วยหมู่หนอนมองดูแล้วน่าขยะแขยง แล้วเอาผูกติดไว้ที่คอของพญามาร ผูกไม่ผูกเปล่า พระอุปคุตยังได้อธิษฐานจิตลงไปอีกว่า “ไม่ว่าเทพยดา พรหมหรือใครก็ตาม ถ้าจะแก้ก็ขอให้แก้ไม่ออก”

    พญามารพยายามจะแก้เอาซากสุนัขนั้นออกจากคอของตนแต่ก็จนปัญญา ไม่สามารถจะแก้ออกได้ จึงจำใจต้องไปไหว้วอนท้าวจาตุมหาราชให้ช่วยแก้ให้ แต่ท้าวจาตุมหาราชก็ไม่สามารถจะช่วยได้ พญามารจึงขึ้นไปขอร้องเทพยดาในชั้นสูง ๆขึ้นไปอีก จนถึงชั้นพรหม แต่ก็ได้ผลอย่างเดิมคือไม่มีใครช่วยได้ จะทำยังไงดีละที่นี้

    ก็ต้องกลับไปอ้อนวอนขอร้องท่านพระอุปคุตให้ช่วยแก้ให้ เพราะมีท่านอุปคุตเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถจะช่วยแก้ให้ได้ แต่ก่อนจะแก้ให้ ท่านพระอุปคุตก็ได้สั่งให้พญามารไปทีภูเขา แล้วจึงตามไปแก้ให้ เมื่อแก้ให้แล้ว ท่านพระอุปคุตพิจารณาเห็นว่า ถ้าขืนปล่อยไปตอนนี้ พญามารอาจจะไปรังควาญการทำพิธีของพระเจ้าอโศกอีก ก็จึงได้มัดพญามารไว้ที่ภูเขา บอกว่ารอให้พิธีฉลองพระสถูปเจดีย์ของพระเจ้าอโศกผ่านพ้นไปเสียก่อน แล้วจึงจะมาแก้มัดให้ พญามารจึงเป็นอันต้องถูกผูกมัดติดกับภูเขาเป็นการประจานด้วยโทษฐานเป็นผู้มีใจบาปคอยขัดขวางและทำลายการทำความดีของผู ้อื่น




    จากร้าย กลายดี



    เมื่องานฉลองพระสถูปเจดีย์ผ่านพ้นไป ท่านพระอุปคุตก็ได้ไปยังภูเขาเพื่อจะไปปลดปล่อยพญามารตามสัญญา เมื่อไปถึง แทนที่พระอุปคุตจะแสดงตัวให้พญามารได้เห็น ท่านก็กลับซ่อนเร้นอยู่ทางเบื้องหลัง เพื่อว่าจะฟังว่าพญามารจะว่ากล่าวอย่าไรบ้าง

    พญามารเมื่อละพยศหมดความดุร้ายแล้ว ก็ได้หวนระลึกไปถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ในวันที่พระองค์จะตรัสรู้นั้น ตนได้เคยไปรังควาญต่าง ๆ นานา แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่เคยโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย พญามารรู้สึกสำนึกถึงโทษที่ตัวได้กระทำ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเลื่อมใสในคุณของพระพุทธเจ้า จึงได้เปล่งวาจาอุทานออกมาว่า
    “ถ้าหากข้าพเจ้ามีกุศลที่ได้เคยสร้างสมไว้แล้ว ดังที่พระผู้มี่พระภาคเจ้าทรงบำเพ็ญบุญมารมีไว้เพื่อการตรัสรู้ในอนาคตกาลฉันใด ก็ขอให้ข้าพเจ้าจงได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกนี้ฉันนั้น เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ และกระทำประโยชน์โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวงในสากลโลก”

    เมื่อพญามารได้เปล่งวาจาปรารถนาพุทธภูมิจบลง ท่านพระอุปคุตก็ได้แสดงกายให้ปรากฎแล้วเดินเข้าไปแก้มัดให้ในทันที ต่อจากนั้นท่านก็ได้ให้โอวาทแก่พญามาร ให้ละจิตอันเป็นบาปเสียอย่าได้กระทำกรรมอันหยาบช้าต่อไปอีกเลย และนับตั้งแต่นั้นมา พญามารก็มีจิตอ่อนน้อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่มีความดุร้ายเหมือนดังแต่ก่อน นี่เป็นเพราะฤทธานุภาพของท่านพระอุปคุตโดยแท้ จึงทำให้พญามารได้ละพยศหมดความดุร้าย และกลับใจมาปรารถนาพุทธภูมิ

    บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมในสมัยที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พญามารจึงไม่ได้สำนึก ทำไมมาได้สำนึกในสมัยของพระอุปคุต เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ว่า พระอุปคุตกับพญามารเคยเป็นคู่ปรับกันมาและพระพุทธเจ้าก็เคยพยากรณ์ไว้แล้วว่า หลังจากพระองค์ดับขันธ์ไปแล้วจะมีพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์รูปหนึ่ง เป็นผู้มาปราบพญามารตนนี้

    ตรงนี้แหละ จึงเชื่อกันว่า อุปสรรคใด ๆ จะไม่ยิ่งไปกว่าพญามาร เมื่อพระอุปคุตสามารถปราบพญามารได้ มารอื่น ๆ ย่อมไม่มีฤทธิ์เหนือพญามาร ผู้ที่ต้องการชนะอุปสรรคหรือชนะมารที่มาผจญชีวิต หรือธุรกิจการค้าขายของตน ก็มักบูชาพระอุปคุตอยู่เป็นประจำ
     
  5. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    ตกลงครับโอนเงินแล้วแจ้งที่อยู่มาด้วยครับ
     
  6. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    สี่หูห้าตาพญาอินทร์อัมรินทร์แปลงกายขนาดบูชา
    รุ่นแรก หา **ยากแต๊ ยาก ว่า** แปลว่าหาโคตรยาก ยังอยู่ครับ
    ราคาก็พอสมยากแต่ก็ไม่ยากเกินไป
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาพะเยา ชื่อบ/ช ปริศนา บัวเทศ เลขที่ 209-2-51303-6
    พญาวานร 4 หู ห้า ตา
    ครูบาชัยวงศ์ ลำพูน ผู้ล่วงลับ ให้โชคลาภสุดๆ
    กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีชายหน่มกำพร้าผู้หนึ่ง ฐานะยากจนขัดสนมากแต่ก็ยังมีทำดินทำกินเพียงน้อยนิดไว้สำหรับปลูกข้าว มีอยู่ปีหนึ่งเหมือนว่าฝนฟ้าจะไม่เป็นใจกับชาบหนุ่มมากนัก ต้นข้าวที่ปลูกไว้ แห้งตายมากพอสมควร แต่ก็ยังมีเหลืออยู่บ้าง มีพระอินทร์บนสวรรค์อีกท่านหนึ่งซึ่งมองเห็นชีวิตความเป็นอยู่ ของชายหนุ่มผู้นี้ พระอิทร์ผู้มีศักดิ์คิดลงมาอยากจะช่วยเหลือชายหนุ่มกำพร้า ให้พ้นจากความทุกข์ยาก จึงแปลงร่างมาปรากฎเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ซึ่งมี หู 4 หู มีตาอีก 5 ดวง ซึ่งในโลกมนุษย์ไม่มีสัตว์ประเภทแบบนี้เลยก็ว่าได้ และวัตว์ประหลาดตัวนี้ได้มาทำลายต้นข้าวที่ยังเหลืออีกส่วน บังเอิญชายหนุ่มซึ่งได้มาพบเห็นต้นข้าวของตนที่ถูกทำลาย จึงเกิดความโมโหขึ้นมาทันที คิดจะฆ่าสัตว์ตัวนี้ แต่ก็ไม่มีอาวุธใดและพยายามหาวิธีจะกำจัดให้พ้นๆ ไป แต่ก็ไม่รู้จะทำวิธีการใดอีก ระยะเวลาผ่านไปจนกระทั่ง ชายหนุ่มจับสัตว์ประหลาดนั้นได้จึงพามายังที่พักเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ และได้ผูกติดกับต้นเสา พอตกเย็นใกล้ถึงหัวค่ำ ชายหนุ่มก็ได้นำอาหารที่มีอยู่ตามประสาคนจน พอมีพอกินและให้สัตว์ประหลาดตัวนั้น มันไม่ยอมกินอาหารแต่อย่างใดแต่มันทำตัวดูเหมือนว่ากำลังหนาวจัดคงต้องการความอบอุ่นมาก ชายหนุ่มจึงหาฟืนมาก่อไฟให้มัน จนระยะเวลาผ่านไป ชายหนุ่มรู้สึกง่วงนอนมากจึงคิดจะกลับไปนอนพักผ่อน พอหันกลับมาอีกทีเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังจับถ่านไฟแดงร้อดจัดกินเข้าไปอย่างไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใด จนกระทั่งชายหนุ่มเผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็สว่างพอดีและยังรู้สึก งง อยู่มากที่ได้พบสัตว์ประหลาดตัวนี้ แต่ยังพบความแปลกประหลาดมากไปกว่านั้นอีก ที่ชายหนุ่มนั้นต้องตกตลึงมาก คือสัตว์ตัวนั้นกินถ่านไฟซึ่งไม่เคยพบเจอมาก่อนและยังขับถ่ายออกมาเป็น ทองคำแท้ อีกด้วย ชายหนุ่มกำพร้ายจึงร่ำรวยมาเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงกลับมาทบทวนความคิดอีกครั้ง.....เออ!!!!....ดีนะที่เราไม่ได้ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนั้น มิเช่นนั้นเราคงไม่มีทรัพย์สมบัติมากมายอย่างนี้ แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มกำพร้าผู้นี้ยังมีความเมตตาอยู่บ้างถึงแม้ต้นข้าวที่ถูกทำร้ายจนเกิดความเสียหายจนโมโหมาก แต่ก็ยังคิดจะละเว้นชีวิตให้สัตว์ตัวนั้น

    นิทานเรื่องนี้ อ้างอิงมาจากเรื่องเล่าของ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) อยากให้ทุกคนมั่นรักษาศีล ภาวนาให้มากๆ และมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถ้าคนเรายึดถือสิ่งเหล่านี้ได้ชีวิตเราจะพบแต่ความสุขตลอดกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1552.jpg
      DSCF1552.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.9 KB
      เปิดดู:
      72
    • DSCF1554.jpg
      DSCF1554.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.4 KB
      เปิดดู:
      47
    • DSCF1542.jpg
      DSCF1542.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.9 KB
      เปิดดู:
      47
    • DSCF1544.jpg
      DSCF1544.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • DSCF1545.jpg
      DSCF1545.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • DSCF1546.jpg
      DSCF1546.jpg
      ขนาดไฟล์:
      174.3 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF1547.jpg
      DSCF1547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.6 KB
      เปิดดู:
      44
    • DSCF1548.jpg
      DSCF1548.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.5 KB
      เปิดดู:
      46
    • DSCF1549.jpg
      DSCF1549.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF1553.jpg
      DSCF1553.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.5 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  7. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    ช่วงนี้พระสายสระบุรี ต้องถือว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อย้อยมาแรงขึ้นเรื่อยๆ
    เพราะหลวงพ่อท่านเป็นเกจิแห่งลุ่มน้ำป่าสักอีกองค์หนึ่งที่สังขารไม่เน่าเปื่อยแม้จะมรณภาพมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว
    เหรียญไข่ใหญ่ให้ลาภ คุ้มภัย ไม่แพง 850 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1574.jpg
      DSCF1574.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.9 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCF1572.jpg
      DSCF1572.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.5 KB
      เปิดดู:
      56
  8. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    หลวงปู่แหวนชุด 3 องค์ บูชา 750 บาท
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาพะเยา ชื่อบ/ช ปริศนา บัวเทศ เลขที่ 209-2-51303-6<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1590.jpg
      DSCF1590.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF1591.jpg
      DSCF1591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.4 KB
      เปิดดู:
      61
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  9. KRITA

    KRITA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,060
    ค่าพลัง:
    +7,264
    โอนเงินแล้ว แจ้งทางพีเอ็มนะครับ
     
  10. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอปิดนอกเว๊บครับ
    เหรียญห้าเสือหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส สวยๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1555.jpg
      DSCF1555.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCF1557.jpg
      DSCF1557.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.3 KB
      เปิดดู:
      55
    • DSCF1552.jpg
      DSCF1552.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.1 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCF1554.jpg
      DSCF1554.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.6 KB
      เปิดดู:
      45
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  11. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    ชุดเหรียญเชียงใหม่ 13 เหรียญๆ ละ 150 ให้บูชายกชุด
    ปิดแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  12. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    พระผง 500 อรหันต์หลวงปู่ครูบาวงค์กรอบเงิน 899 บาท

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาพะเยา ชื่อบ/ช ปริศนา บัวเทศ เลขที่ 209-2-51303-6
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1607.jpg
      DSCF1607.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • DSCF1609.jpg
      DSCF1609.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.1 KB
      เปิดดู:
      54
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  13. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    รวมตะกรุดเมืองเหนือ**ตะกรุดครูบาวังบ้านเด่น ครูบาชุ่มวังมุย****
    ปลัดสวยมีจารเต็มตัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1562.jpg
      DSCF1562.jpg
      ขนาดไฟล์:
      186.9 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCF1557.jpg
      DSCF1557.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      50
    • DSCF1559.jpg
      DSCF1559.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.8 KB
      เปิดดู:
      50
    • DSCF1560.jpg
      DSCF1560.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.9 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  14. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    สมเด็จข้าวสารหิน +สมเด็จผสมมวลสารสมเด็จเก่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1546.jpg
      DSCF1546.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.6 KB
      เปิดดู:
      46
    • DSCF1547.jpg
      DSCF1547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.3 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF1548.jpg
      DSCF1548.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.3 KB
      เปิดดู:
      81
    • DSCF1549.jpg
      DSCF1549.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.6 KB
      เปิดดู:
      53
  15. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    เกษาเจ็ดนครครูบาพรหมา พระบาทตากผ้าบูชา 500 บาท หายากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1565_resize.jpg
      DSCF1565_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSCF1566.jpg
      DSCF1566.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.2 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCF1568.jpg
      DSCF1568.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.8 KB
      เปิดดู:
      57
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  16. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    เหรียญคอน้ำเต้าหลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1548.JPG
      DSCF1548.JPG
      ขนาดไฟล์:
      189.8 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF1549.JPG
      DSCF1549.JPG
      ขนาดไฟล์:
      220.3 KB
      เปิดดู:
      68
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2010
  17. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    นิทานชาดก : หนอนท้าสู้กับช้าง
    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ปรารภภิกษุรูปหนึ่ง ผู้ปราบความจองหองของชายด้วน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ บ้านพักริมทางปลายแดนแห่งหนึ่งระหว่างอังครัฐกับมคธรัฐ จะมีพ่อค้าทั้งสองเมืองแวะมาพักร้อนก่อนเดินทางไปค้าขายต่ออยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งมีพ่อค้ากลุ่มหนึ่งแวะมาพักเช่นเคย แต่ครั้งนี้ได้นำสุรามาดื่มด้วยพักค้างคืนแล้วจึงออกเดินทางในตอนเช้ามืด
    เมื่อพวกพ่อค้าไปแล้วไม่นาน มีหนอนกินอุจจาระตัวหนึ่งได้กลิ่นอุจจาระจึงมาที่นั้น เห็นสุราที่เขาทิ้งไว้ตรงนั้น มันก็กินด้วยความหิวกระหายแล้วเกิดอาการเมาสุรา ไต่ขึ้นไปบนกองอุจจาระๆ ก็ยุบลง มันจึงร้องขึ้นด้วยความลำพองใจว่า
    “อะฮ้า ในโลกนี้ไม่มีใครใหญ่เกินเรา แม้แต่แผ่นดินก็ยังทนทานน้ำหนักเราไม่ได้”
    ขณะนั้นเองได้มีช้างตกมันตัวหนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นพอดี พอได้กลิ่นอุจจาระจึงปลีกตัวเดินห่างออกไป เจ้าหนอนเห็นช้างเดินตรงมาถึงแล้วก็หลบไปทางอื่นก็ยิ่งลำพองใจคิดว่าช้างกลัวตนเอง จึงร้องเรียกช้างขึ้นว่า
    “ท่านเป็นช้างผู้กล้าหาญมิใช่เหรอ ท่านอย่างพึ่งหนีไป กลับมาสู้กันก่อน เราคือผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่นี้”
    ช้างพอได้ยินเสียงหนอนเรียกท่าสู้ด้วย จึงเดินกลับไปหาพร้อมตวาดขึ้นว่า …
    “เจ้าหนอนตัวเหม็น เราไม่จำเป็นต้องออกแรงฆ่าเจ้าด้วยเท้าด้วยงาดอก เพียงแค่ขี้ของเราจึงจะคู่ควร”
    ว่าแล้วก็ถ่ายอุจจาระก่อนโตตกลงไปทับหนอนตายคาที่พร้อมกับปัสสาวะรดแล้วก็แผดเสียงร้องเข้าป่าไป


    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ฤทธิ์ สุราทำให้คนใจใหญ่หยิ่งผยอง ไม่เกรงกลัวใคร และมักนำความฉิบหายมาให้มากกว่าผลดี
     
  18. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    นิทานชาดก : แพะรับบาป
    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภมตกภัต ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า…
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสี สมัยพระเจ้าพรหมทัต มีพราหมณ์ทิศาปาโมกข์ผู้หนึ่ง คิดจะทำมตกภัต (อุทิศคนตาย) จึงให้ลูกศิษย์จับแพะตัวหนึ่งไปอาบน้ำและประดับดอกไม้ แพะพอถูกลูกศิษย์จูงไปที่ท่าน้ำ ก็ทราบถึงวาระสุดท้ายชีวิตของตนมาถึงแล้วอันเนื่องจากกรรมเก่า จึงเกิดความโสมนัส ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง และคิดเวทนาสงสารพราหมณ์ที่จะได้รับความทุกข์โศก จึงร้องไห้ออกมา แพะแสดงอาการเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ออกมา ทำให้พวกลูกศิษย์แปลกใจ เมื่อนำแพะกลับมาถึงสำนักแล้ว จึงบอกเรื่องนี้แก่พราหมณ์ พราหมณ์จึงถามแพะถึงอาการนั้น
    แพะจึงบอกพราหมณ์ว่า ” อดีตชาติเคยเป็นพราหมณ์เหมือนกัน เพราะได้ฆ่าแพะตัวหนึ่งทำมตกภัต จึงเป็นเหตุให้ถูกฆ่าตัดศีรษะถึง ๔๙๙ ชาติ นี่เป็นชาติที่ ๕๐๐ พอดี จึงหัวเราะดีใจที่จะสิ้นกรรมในวันนี้ และร้องไห้ เพราะสงสารท่านที่จะเป็นเช่นกับเรา ”
    พราหมณ์ ได้ฟังแล้วเกิดความสลดใจ จึงยกเลิกไม่ฆ่าแพะ และสั่งให้ลูกศิษย์ทำการอารักขาแพะเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้แพะเกิดอันตราย แพะจึงบอกพราหมณ์ว่า ” การอารักขาของท่านมีประมาณน้อย ส่วนบาปกรรมของเรามีกำลังมาก อะไรก็ห้ามไม่ได้ ”
    แพะพอเขาปล่อย ก็ชะเง้อคอจะกินใบไม้ใกล้แผ่นหินแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นเอง ฟ้าได้ผ่าลงที่แผ่นหิน สะเก็ดหินชิ้นหนึ่งได้ปลิวไปตัดคอแพะที่กำลังชะเง้อคออยู่พอดี แพะล้มลงสิ้นใจตายทันที
    รุกขเทวดาที่อยู่ในที่นั้น ได้กล่าวสอนว่า ” มนุษย์ผู้กลัวตกนรก พึงพากันงดจากปาณาติบาต ตั้งอยู่ในเบญจศีลเถิด ” และกล่าวเป็นคาถาว่า
    ” ถ้าสัตว์ทั้งหลาย พึงรู้อย่างนี้ว่า ชาติภพนี้เป็นทุกข์
    สัตว์ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะว่าผู้ฆ่าสัตว์ ย่อมเศร้าโศก ”
     
  19. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    หลวงพ่อแกง ปสาโท พระเกจิอาจารย์วัดน้ำปึง
    คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
    บุญนำ เกิดแก้ว

    อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นเมืองแห่งความสงบร่มเย็น ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุข

    ณ ที่แห่งนี้ "หลวงพ่อแกง ปสาโท" หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า "หลวงพ่อแกง" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านทั่วไป

    ปัจจุบันสิริอายุ 74 พรรษา 51 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้ำปึง หมู่ที่ 1 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล นันทะกา ในปีพ.ศ.2475 ณ บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.หาดล้า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

    ชีวิตในวัยเยาว์ ท่านได้เติบโตท่ามกลางท้องทุ่งนาป่าดอย ช่วยบิดามารดาทำนา เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส โอบอ้อมอารี เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา ไม่ชอบการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

    ท่านได้เข้ารับการศึกษา ตอนอายุ 10 ขวบ ที่โรงเรียนบ้านน้ำปึง จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

    ครั้นเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อทดแทนคุณบุพการี เมื่อปีพ.ศ.2497 ณ พัทธสีมาวัดน้ำปึง หมู่ที่ 4 ต.หาดล้า อ.ท่าปลา (ที่ตั้งเดิม) โดยมีพระครูบุญสิริวิศาล เจ้าคณะอำเภอท่าปลา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเที่ยง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสุวิทย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า "ปสาโท" แปลว่า ความเลื่อมใส

    หลังจากเข้าพิธีอุปสมบท ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดน้ำปึง ด้วยความวิริยะอุตสาหะในการท่องหนังสือเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน จนได้หมด พร้อมทั้งปฏิบัติกิจวัตรอยู่ในกรอบวินัยบวรพระพุทธศาสนา จนเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านยิ่ง

    พ.ศ.2521 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำปึง

    ท่านยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมด้วยตัวเอง โดยการศึกษาจากสมุดข่อยหรือปับสาโบราณ ซึ่งเป็นภาษาล้านนาของเก่าและจากตำรามหายันต์

    ต่อมา พ.ศ.2515 อ.ท่าปลา ต้องมีการอพยพครั้งใหญ่ เนื่องจากมีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จำต้องย้ายวัดน้ำปึงมาอยู่ หมู่ที่ 1 ต.จริม (ปัจจุบัน)

    พ.ศ.2536 วัดน้ำปึง ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างศาสนสถาน หลวงพ่อแกงและศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธาของวัดน้ำปึง จึงช่วยกันสร้างถาวรวัตถุต่างๆ

    พ.ศ.2539 สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อใช้ประกอบพิธีทางพระศาสนา ใช้งบประมาณ 894,449 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จากการสร้างวัตถุมงคล เป็นพระสมเด็จรุ่นแรก

    ปีเดียวกัน สร้างกุฏิคอนกรีต เพื่อเป็นที่พักของพระภิกษุสงฆ์ โดยใช้งบประมาณ 1,100,000 บาท เป็นเงินจากการสร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญรุ่นสร้างกุฏิ จำนวน 30,000 เหรียญ เหรียญละ 69 บาท

    พ.ศ.2540 สร้างหอระฆังและกุฏิไม้ ใช้เงิน 250,000 บาท เป็นเงินจากทอดผ้าป่าและทอดกฐิน รวมทั้งการถวายปัจจัยของหลวงพ่อเอง ปีเดียวกันสร้างพระอุโบสถ เป็นเงิน 2,360,000 บาท เป็นเงินทอดผ้าป่า กฐิน และเงินจากการถวายปัจจัยของหลวงพ่อ

    พ.ศ.2543 สร้างศาลาธรรมสังเวช เป็นเงิน 95,000 บาท เป็นเงินจากการทอดผ้าป่า-กฐิน และการถวายปัจจัยของหลวงพ่อเอง

    พ.ศ.2544 สร้างวิหาร เมรุ ซุ้มประตูวัด กำแพงวัด โดยใช้งบจากเงินทอดผ้าป่า-กฐิน และเงินจากการถวายปัจจัย

    นอกจากนี้ หลวงพ่อแกงยังได้สร้างอาคารโรงเรียนนิคมสงเคราะห์ 5 ตึกผู้ป่วยพิเศษ 3 ห้อง โรงพยาบาลท่าปลา ซึ่งเป็นห้องพัก ประกอบด้วย ห้องน้ำในตัว เตียงคนไข้ อุปกรณ์รักษา ใช้งบประมาณกว่า 481,223 บาท เหตุที่หลวงพ่อแกงสร้างโรพยาบาล เนื่องจากในพื้นที่ชุมชนมีพระภิกษุมารักษาอาการอาพาธบ่อย

    หลวงพ่อแกง ได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอท่าปลา จัดทำธงเพื่อร่วมต่อต้านยาเสพติดตามโครงการของรัฐบาล ที่ต้องการปราบปรามยาเสติด แจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปติดไว้หน้าบ้าน

    พ.ศ.2546 หลวงพ่อแกง ได้ตั้งมูลนิธิหลวงพ่อแกง ปสาโท เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วไป โดยการนำดอกเบี้ยออกมาใช้ ส่วนเงินต้นไม่สามารถเบิกออกมาใช้ได้

    การสร้างวัตถุมงคล พ.ศ.2537 สร้างพระสมเด็จรุ่นแรก และสร้างเหรียญรูปไข่ พิมพ์หยดน้ำ พระกริ่ง สีผึ้งเมตตา และด้ายมงคลผูกข้อมือ ตะกรุด เป็นต้น

    หลวงพ่อแกง เคยปรารภว่า "ของดีก็ต้องอยู่กับคนดีมีศีลธรรม คนไม่ดีนำเอาไปไม่มีประโยชน์อะไร"

    ทุกวันนี้ คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อแกงจากทั่วสารทิศ ต่างให้ความเคารพนับถือท่านยิ่งนัก ดังจะเห็นได้จากความมุ่งมั่น สร้างความเจริญให้กับวัดน้ำปึง และอ.ท่าปลา ให้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

    ถือได้ว่า หลวงพ่อแกงเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่ง ที่มุ่งมั่นให้พระพุทธศาสนาสืบทอดยาวนานตลอดไป<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บูชาองค์ละ 350 ส่งให้ด่วน เหมา 2 องค์ 650
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1562.JPG
      DSCF1562.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.3 KB
      เปิดดู:
      48
    • DSCF1563.JPG
      DSCF1563.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148.4 KB
      เปิดดู:
      51
  20. siwa1968

    siwa1968 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +540
    พระเกจิสายอ่างทองบูชาทั้งหมดราคาเดียว 450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1611.jpg
      DSCF1611.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • DSCF1612.jpg
      DSCF1612.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.6 KB
      เปิดดู:
      50

แชร์หน้านี้

Loading...