ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    2 ต.ค. 53


    ตื่นเถิด

    อักษร....ชอ-------อักษร....ลอ--------บ้านคนใกล้
    ควรแจ้งไป---------ก่อนที่ภัย-----------มันจะเกิด
    อย่านิ่งเงียบ--------ปิดบังไว้-----------จะเลยเถิด
    ถ้ามันเกิด----------รับไม่ไหว-----------ภัยใกล้ตัว




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันนี้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่อีกแล้ว สูงกว่าเดิม เก่ากว่าเดิมนิดหน่อย

    วันก่อนเดินเห็นคนถูกไฟไหม้ทั้งตัว มาขอทาน ทำให้นึกถึง อยากมีถังดับเพลิงติดในห้องสักใบ กับออกซิเจนกระป๋อง เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ชัยนาท-พายุถล่มบ้าน 65 หลังพังยับ ต้นไม้โค่น ไฟดับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ลมพายุถล่มจังหวัดชัยนาทบ้านเรือนเสียหาย 65 หลัง ต้นไม้หักโค่น ไฟฟ้าดับชาวบ้านเดือดร้อน จังหวัดเร่งช่วย

    วันนี้ (2 ต.ค.53) นายปรีชา ทองคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท ออกสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์พายุฝนถล่มอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีบ้านเรือนในเขตอำเภอเมือง 3 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลหาดท่าเสา ตำบลท่าชัย และตำบลเขาท่าพระ รวมบ้านเรือนเสียหายในลักษณะหลังคาสังกะสีเปิดทั้งหลัง และบางส่วน กระเบื้องแตก จำนวน 65 หลัง ที่หนักที่สุดเฉพาะที่หมู่ 8 บ้านมะพลับดก ตำบลหาดท่าเสา มีบ้านเรือนเสียหายจำนวน 35 หลัง มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะ 2 ราย เนื่องจากบ้านพังทั้งหลังลงทับผู้ที่อยู่ในบ้าน มี 1 ราย นำตัวส่งโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร (นางทองสุข กันภัย อายุ 38 ปี)

    นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นเป็นจำนวนมาก ทั้งขวางถนน และ ทับบ้านเรือน ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ตัดต้นไม้ออกหมดแล้ว บางหมู่บ้านมีต้นไม้หักโค่นทับสายไฟทำให้มีไฟฟ้าดับแจ้งไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัยนาทเข้าแก้ไขแล้ว หัวหน้า ปภ.จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ในวันนี้เวลาประมาณ 14.00 น. นายจำลอง โพธิ์สุข ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท จะเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด พร้อมให้กำลังใจ และรับทราบความต้องการของประชาชนในพื้นที่ทั้ง 3 ตำบล

    นายวิเชียร เอี่ยมสมบูรณ์ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่พังทั้งหลัง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า บ้านของตนเป็นบ้านยกพื้นใต้ถุนสูง มุงหลังคากระเบื้อง ก่อสร้างมาได้ประมาณ 2 เดือนยังไม่เสร็จ (สร้างกันเอง) ข้างฝาตั้งใจจะใช้ไม้ จึงใช้สังกะสีปิดทำข้างฝาชั่วคราว เมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณ 4 ทุ่ม ฝนตกอย่างหนัก ลมแรงมาก ตนเองรวมทั้งภรรยา คือนางทองสุข กันภัย อายุ 38 ปี ลูกชาย (อายุ 17 ปี) และลูกสะใภ้ อยู่ในบ้านกันทั้งหมด แต่ตนเองอยู่ใต้ถุนบ้านกับภรรยา เห็นท่าไม่ดีจึงเรียกลูกและสะใภ้ลงมาข้างล่าง

    ทันใดนั้นพายุโหมกระหน่ำอย่างแรงเสาบ้านหัก พังถล่มลงมาทับทุกคนใต้ถุนบ้าน โชคดีที่ทุกคนอยู่ในช่องที่ไม้ไม่ลงมาทับ แต่ภรรยา ถูกไม้ฟาดหัวแตกเย็บไป 5 เข็ม ส่วนลูกชายหัวแตกเล็กน้อย และพากันค่อย ๆ คลานออกจากซากบ้าน ใต้ถุนบ้านมีรถจักรยายนตร์ 2 คัน ทีวี ตู้กับข้าว รถไถนา บนบ้านมีที่นอน หมอนมุ้งเสียหายหมด ได้ไปอาศัยบ้านน้องชายที่อยู่ติดกันนอนเมื่อคืน วันนี้ทาง ปภ.จังหวัดได้นำเต็นท์มาตั้งให้อยู่ชั่วคราว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    เชียงราย-เตรียมรื้อถอนบ้านในพื่นที่ดินทรุดตัวบนดอยแม่สลอง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่แผ่นดินทรุดตัว บริเวณบ้านสันติคีรี หมู่ 1 ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย ระบุสาเหตุเพราะเกิดรอยแยกใต้พื้นดิน แก้ไขได้เพียงอย่างเดียว คือ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก และห้ามเข้าพื้นที่ดังกล่าว

    ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินทรุดตัวเมื่อวานนี้ บริเวณบ้านสันติคีรี หมู่ 1 ตำบลแม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ที่ดินทรุดตัวลงไปประมาณ 70 เซนติเมตร และแยกออกห่างกัน 20-30 เซนติเมตร ระยะทางยาว 300 เมตร โดยจุดดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ 8 หลังคาเรือน และโรงแรม 1 แห่ง

    ล่าสุดวันนี้ (1 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณี ได้เข้าพื้นที่ตรวจจุดแผ่นดินทรุดและแยกตัว พบว่าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นสาเหตุเพราะเกิดรอยแยกใต้พื้นดินที่ลึกลงไปจากหน้าดินผิดปกติ ประมาณ 100-200 เมตร ซึ่งอาจเป็นเพราะมีฝนตกหนักทำให้น้ำกัดเซาะใต้ผิวดินจนเกิดการทรุดตัว ทั้งนี้พบว่าในพื้นที่ ต.แม่สลองนอก เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายจุด เพราะพื้นที่เป็นภูเขาและไหล่เขา แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้

    ส่วนการดำเนินการแก้ไขขณะนี้ทำได้เพียงอย่างเดียว คือรื้อบ้านเรือนประชาชนออกจากจุดดังกล่าว เพราะถือว่าไม่ปลอดภัย ซึ่งทางจังหวัดได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารจังหวัดทหารบกเชียงราย มาช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายทรัพย์สิน และรื้อถอนบ้านแล้ว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    เพชรบุรี-ฝนตกหนักน้ำท่วมเมือง

    [​IMG]

    ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเพชรบุรีเป็นอัมพาต หลังฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ห้ามใช้ทางรอดต่างระดับตามจุดตัดถนนเพชรเกษม เพราะน้ำท่วมสูงรถผ่านไม่ได้ ขณะที่ป้องกันจังหวัดเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

    โดยจุดที่น้ำท่วมหนัก คือบริเวณหน้าโรงเรียนพรหมานุสรณ์ โรงพยาบาลเพชรรัตน์ หน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ วิทยาลัยอาชีวศึกษา หน้าศาลากลางจังหวัด และถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี มีน้ำท่วมขังสูงเกินขอบฟุตบาท และไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ต้องเร่งตักน้ำออกจากตัวบ้าน รวมถึงนำกระสอบทรายมากั้นไว้เพื่อป้องกันน้ำ นอกจากนี้ยังมีน้ำจำนวนมากที่ไหลจากเขาวังลงมาสมทบกับน้ำฝนที่ท่วมขังอยู่ตามพื้นผิวถนน ทำให้น้ำท่วมมากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเทศบาลได้เร่งระบายน้ำออกลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้น้ำท่วมหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา คาดว่าน้ำจะท่วมขังบนถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งวันหากฝนยังไม่หยุดตก ส่วนในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นท่วมถนนทุกสายภายในมหาวิทยาลัย

    และมีคำเตือนจากสำนักงานบำรุงทาง จังหวัดเพชรบุรี ให้งดใช้ทางรอดต่างระดับ บริเวณจุดตัดถนนเพชรเกษมช่วงผ่านจังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1.50 ม. รถทุกชนิดไม่สามารถลอดผ่านได้ คาดตลอดวันยังไม่สามารถใช้จุดตัดถนนเพชรเกษมได้เนื่องจากไมสามารถสูบน้ำได้ทัน หลายพื้นที่มีไฟฟ้าดับ เช่น อำเภอเขาย้อย ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี ต่างเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์น้ำหลากและท่วมฉับพลันแล้ว

    ส่วนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เกิดฝนตกหนักในเขต อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงช่วงเช้าวันนี้ นอกจากนี้ยังมีลมพายุพัดเข้ามาในพื้นที่ ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด และ ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ต้นจามจุรีอายุหลายสิบปีที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมถนนเพชรเกษมหักโค่นลงมาขวางบนถนนเพชรเกษม โดยเฉพาะช่วงหลักกิโลเมตรที่ 280-285 เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลไร่ใหม่ ได้เร่งตัดกิ่งไม้ให้เหลือเป็นกิ่งเล็กๆ และเร่งขนย้ายออกจากถนนเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณน้ำในคลองเพิ่มมากขึ้น และไหลเชี่ยว

    อย่างไรก็ตามขณะนี้ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี ได้เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2010
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ประเทศชาติบ้านเมือง ****

    กรรม...ปรากฏชัดขึ้น
    แต่ สัจจะปลดนิสัย....ยังเงียบ
    ทุกท่านต้องช่วยตัวเอง...ตัวใครตัวมัน กรรมใครกรรมมัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะทำความดีช่วยชาติ ****

    สัจจะวันละข้อ วันละ ๑ ชั่วโมง
    ตั้งใจทำความดี ลดนิสัยตนเอง วันละ ๑ ชั่วโมง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    2 ต.ค. 53


    7 ก.ย. 53 เมฆดำ พายุหมุน ไฟไหม้

    28 ก.ย. 53 ข่าว 3 มิติ ช่อง 3
    ไฟไหม้ตลาดช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินท์ เสียหายร่วม 30 ล้าน





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ราชบุรีโดนเหมือนกัน

    เหอๆ ผมอยู่แต่ในบ้านไม่ค่อยได้ไปไหนเลย
    วันแรกๆก็นึกดีใจว่า จังหวัดตัวเองคงไม่โดน
    ที่ไหนได้ ก็โดนเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สหรัฐเล็งเตือนภัยก่อการร้ายในยุโรป </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกประกาศในวงกว้าง

    เตือนพลเมืองอเมริกันให้หลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะในยุโรป หลังสืบทราบเบาะแสภัยคุกคามก่อการร้ายครั้งใหม่ จากกลุ่มอัล-กออิดะห์ ซึ่งการประกาศดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการท่องเที่ยวในยุโรป

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศในยุโรป เผยที่กรุงวอชิงตัน ในวันเสาร์ ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ อาจออกประกาศคำเตือนด้านการท่องเที่ยว อย่างเร็วที่สุดในวันอาทิตย์ โดยจะเป็นการชี้แนะชาวอเมริกันให้พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป รวมทั้งศูนย์การคมนาคม และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ เนื่องจากมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการก่อการร้าย

    นายพี เจ โครว์ลีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้

    โดยกล่าวเพียงว่า ทางการสหรัฐเฝ้าจับตาภัยคุกคามจากกลุ่มอัล-กออิดะห์ที่มีต่อผลประโยชน์สหรัฐอยู่ตลอดเวลา และจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสม เพื่อปกป้องชาวอเมริกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ยุโรป กล่าวว่า คำเตือนของสหรัฐหากออกประกาศคาดว่า จะไม่ระบุชัดเจน ว่าจะเป็นประเทศ หรือสถานที่ใด ที่เชื่อว่าจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย

    รายงานของสื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า หลายหน่วยงานด้านข่าวกรองของชาติตะวันตก

    สืบทราบเบาะแสแผนการโจมตีของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ในอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยทีมนักรบสงครามศักดิ์สิทธิ์ อาวุธครบมือ มีแผนบุกยึดสถานที่ และสังหารตัวประกันชาวตะวันตกในรูปแบบคล้ายกันกับการบุกยึดโรงแรม 2 แห่ง ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งกลุ่มคนร้ายเสียชีวิต 10 ศพ ประชาชน 166 ศพ และได้รับบาดเจ็บกว่า 300 คน.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    สั่งรื้อใหม่!! ปรับโฉมทำเนียบ ฮวงจุ้ย ยังไม่ลงตัว
    รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้ (3ต.ค.)เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเตรียมถอนต้นปาล์มยะวา 13 ต้น และต้นไทรอังกฤษ 33 ต้นตามคำสั่งของผู้ใหญ่จากรัฐบาล เพื่อปรับสภาพ ภูมิทัศน์ หน้าตึกไทยคู่ฟ้าใหม่ โดยจะมีการถอนต้นไม้ทั้ง 2 ชนิด ตามคำแนะนำของอาจารย์หม่า วรธนัท อัศกุลโกวิท หมอดูฮวงจุ้ย ที่พูดถึงความไม่เป็นศิริมงคลของสถานที่ที่ปลูก

    ก่อนหน้านี้ต้นปาล์มที่ถูกปลูกโดยรอบสวนหย่อม ด้านหน้าของทุกอาคาร โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้าและตึกบัญชาการ ยังมีเหตุผลของการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำรัฐบาล โดยเฉพาะตรงจุดที่นายกรัฐมนตรี หรือ รองนายกรัฐมนตรี ยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และจุดเดินเท้า ที่สามารถบังสายตาบุคคลภายนอกได้ รวมถึงช่วงโค้งของทางขึ้นอาคารของ ทั้ง 2 อาคาร ที่ใช้เข้า-ออกเป็นประจำ
    นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ต้องรื้อถอนเพราะมีคนทักว่าบดบังทัศนียภาพของตึก เมื่อมีคนทักมากเข้าเราก็ต้องทำ เหมือนกับจิ้งจกทัก ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของฮวงจุ้ย เพราะตนไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news


    [​IMG]
    โจ๋ฝรั่งเศสซวย เจอคุก 3 เดือน หลังโพสท์ด่าตำรวจในเฟซบุค
    สำนักข่าวข่าวจากเอเอฟพี รายงานว่า ศาลฝรั่งเศสได้ตัดสินจำคุกวัยรุ่นวัย19ปี รายหนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากโพสต์ข้อความสบประมาท ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจบนเว็บไซต์เฟซบุค หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจรถ และถูกบังคับให้เดินทางต่อด้วยเท้าเปล่า พร้อมทั้งปรับเป็นเงิน 1,200 ยูโร หรือราว 50,000 บาทเป็นค่าเสียหายให้กับเจ้าหน้าที่
    ทั้งนี้ อัยการศาลในเมืองเบรสต์ บริตานี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสเผยว่า หนุ่มรายนี้ โพสต์ข้อความสบประมาทโดยเลือกโจมตีเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น ของโฟ ในบริตานี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส แต่เจ้าหน้าที่ไปพบข้อความดังกล่าว ที่ออนไลน์อยู่นานถึง 3 เดือนเข้า จึงติดตามตัวมาดำเนินคดี
    หลังจากการตัดสินดังกล่าว กลุ่มอินเทอร์เน็ตไร้พรมแดน(Internet sans Frontieres) ซึ่งรณรงค์ด้านเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต ได้ประณามถึงความรุนแรงของบทลงโทษเด็กหนุ่มรายนี้ว่ารุนแรงเกินกว่าเหตุ อ
    รายงานข่าวยังระบุว่า การตัดสินดังกล่าวถือได้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีผู้ถูกลงโทษจำคุก ด้วยการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    มีคำสั่งให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน รวมถึงปรับเป็นเงิน 1,200 ยูโร หรือราว 50,000 บาทเป็นค่าเสียหายให้กับเจ้าหน้าที่
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD vAlign=top width=110 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=left> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD><TD vAlign=top align=left>
    วันที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:47:29 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ <!--[อ่านล่าสุด คน]-->
    <CENTER>
    </CENTER>
    เปิดโรดแมป "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"ถ้าไม่ทำวันนี้ไทยไม่ใช่ "Winner" แต่จะเป็น "Loser"

    ชื่อ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" กลับมาอีกครั้ง เมื่อการเมืองเริ่มเตรียมตัวจับขั้วกันใหม่ ถ้าหาก "ประชาธิปัตย์" ถูกยุบพรรคปลายเดือนพ.ย. ศกนี้ ดร.สมคิด มีดีอะไร ทำไมจึงถูกคาดหมายว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้ ต้องอ่านวิสัยทัศน์ต่อไปนี้

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>ที่ผ่านมาระหว่างเว้นวรรค 5 ปี "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ มักจะปรากฏตัวบนเวทีต่าง ๆ โดยเฉพาะเวทีระดับผู้ปฏิบัติงานเพื่อต้องการสร้างแรง "ขับเคลื่อน" ปลุกกระแสให้คนตื่นตัว ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร และต้องรับมืออย่างไรบ้าง


    ล่าสุดในงานสัมมนา "Asia Rising : Thai Enterpreur′s Roadmap to New Investment Opportunities and Growth in the New Landscape" ดร.สมคิดได้ปาฐกถาพิเศษโดยเล่าว่า เมื่อสักประมาณ 30 ปีมาแล้ว มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียนโดยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้บอกเล่าให้คนทั้งโลกได้รับรู้และติดตามความหัศจรรย์ของประเทศเล็ก ๆ ในเอเชีย โดยกล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จของญี่ปุ่นที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับทั้งโลก

    "ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่นอร์ทเวสตัน ผมบอกอาจารย์ว่า สนใจเรื่องนี้มาก แต่ผมขอศึกษาเรื่องแต่ในประเด็นการตลาด เชื่อว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในการสำเร็จของญี่ปุ่น ต่อมาได้กลายเป็นหนังสือ The New Competition Lesson From Japan...การแข่งขันใหม่ บทเรียนจากญี่ปุ่น

    ผมเชื่อว่าในไม่ช้าความสำเร็จของญี่ปุ่นจะเป็นต้นแบบทำให้ประเทศในเอเชียขับเคลื่อนตามญี่ปุ่น จากนั้นก็มี 4 เสือแห่งเอเชีย ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ ทะยานตามขึ้นมา จากนั้นไม่นานในอาเซียนมีไทย อินโดนีเซีย มาเลเซียตามมา"

    ความสำเร็จ 3 ระลอกนี้ทำได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถสั่นสะเทือนโลกได้ โลกยังสนใจอเมริกา ยุโรป จนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานี้คลื่นระลอก 4 ที่นำโดยจีน อินเดียเกิดขึ้น


    ดร.สมคิดตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประการ ว่า ในการทะยานระลอกที่ 4 โดยจีนและอินเดีย เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับพลังการขับเคลื่อนของ 4 เสือแห่งเอเชียและอาเซียนซึ่งยังไม่ชะลอตัวลง ฉะนั้นคลื่นทั้ง 4 นี้ทำให้เกิด "ยุคสมัยแห่งเอเชียแท้จริง" ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และสั่นสะเทือนโลกทั้งโลก ไม่ว่าเชิงเศรษฐกิจหรือภูมิรัฐศาสตร์

    ในขณะที่เอเชียกำลังทะยานขึ้น มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน คือการเชื่อมโยงของประเทศภายในเอเชีย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงที่น่าประหลาดใจ โดยปกติประเทศใหญ่จะเป็นฮับหรือเป็น "ดุมล้อ" ประเทศเล็กจะเป็น "ซี่ล้อ" มาเสริม แต่ในเอเชียกลายเป็นว่าอาเซียนเป็นดุมล้อ ประเทศใหญ่ ๆ เป็นซี่ล้อเสียบเข้ามา

    เมื่อมีการเชื่อมโยง การขับเคลื่อนเชิงนโยบายต่างประเทศในประเทศเอเชีย ทั้งเชิงเศรษฐกิจ มุมมองทางการเมืองเพื่อถ่วงดุลอำนาจในเอเชียกันเอง ภายใต้การขับเคลื่อนนี้เป็นนัยที่เราควรศึกษา ทั้งเชิงนโยบายประเทศ การบริหารเศรษฐกิจ การบริหารธุรกิจ

    ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ดร.สมคิดกล่าวว่า ตรงนี้น่าสนใจ จีนเป็นเป้าใหญ่ที่คนมองดูอยู่ เรารู้ว่าจีนเป็นประเทศที่ถ่อมตน จีนรู้ว่าความสำเร็จนั้นอันตราย ฉะนั้นผู้ใหญ่ของจีนพยายามบอกผู้บริหารประเทศให้บอกชาวโลกว่า จีนยังพัฒนาอีกเยอะ เราขอพัฒนาเงียบ ๆ แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่ผ่านมามันเป็นประกายเจิดจ้ามากจนเก็บงำไม่อยู่

    ดังนั้นการก้าวทะยานของจีนนั้นเป็นการทะยานโดยสันติ โดยใช้กลยุทธ์ "อำนาจที่อ่อนหยุ่น" หรือซอฟต์พาวเวอร์ ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และจีนประกาศว่า เป้าหมายของจีนคือ อยู่ที่การทำให้คุณภาพคนจีนดีขึ้นและเท่าเทียมให้มากขึ้น แต่การจะทำได้ต้องทำภายในจีนให้มีเสถียรภาพและภายนอกรอบ ๆ จีนต้องมีสันติภาพ

    "ภายนอก" จะมีสันติภาพได้ จีนประกาศชัดเจนว่า หัวใจสำคัญคือ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามสร้างมิตร โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านสำคัญต้องดูแลกัน สร้างความเข้าใจกัน ประเทศที่ห่างไกลในการพัฒนาจะเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ ส่วนเวทีพหุภาคีเป็นแหล่งที่จีนจะสื่อความกับโลกได้ นั่นคือ เหตุผลจีนเข้า WTO

    ในประเด็นของประเทศเพื่อนบ้านที่จีนให้ความสำคัญมาก หากดูในเอกสารจีนเขาพูดชัดเจนว่า ทางเหนือเข้มแข็งเกินไป ตะวันตกวุ่นวายเกินไป ตะวันออกดุร้ายเกินไป ทางใต้สันติ ฉะนั้นจีนจึงมองมาทางใต้ คือ "อาเซียน" ที่สำคัญไม่ใช่เพราะมีประชากร 500 ล้านคน และมีพรมแดนติดกัน แต่อาเซียนครอบคลุมหลายประเทศ มีเส้นทางลำเลียงผ่านช่องแคบมะละกาออกสู่ทะเลจีนตะวันออก

    การที่จีนเติบโตแรง บริโภคน้ำมันอันดับสองของโลก หรือ 20% ของน้ำมันโลก นำเข้ากว่า 51% ของน้ำมันโลก และวัตถุดิบนานาประการที่นำเข้าไปจีน หากตรงนี้ไม่สงบ จีนลำบาก จีนจะเติบโตไม่ได้ เพราะภายในประเทศมีปัญหาแน่นอน เนื่องจากจีนมีคนจนจำนวนมาก

    ดร.สมคิดมองว่า การทะยานของจีน การมีอำนาจของจีน ทำให้ญี่ปุ่นค่อนข้างอึดอัดพอสมควร ญี่ปุ่นเคยโดมิเนตเอเชีย และญี่ปุ่นกับจีนมีภูมิหลังกันเยอะ พยายามถ่วงดุลดึงอินเดีย ดึงอเมริกา ออสเตรเลียเข้ามา เพื่อถ่วงดุลกับจีน ขณะเดียวกันญี่ปุ่นต้องการค้ากับจีน และต้องการถ่วงดุลอำนาจจีนด้วย

    ไม่เพียงญี่ปุน ทางอเมริกาต้องการถ่วงดุล แต่เมื่อจีนมาแรงก็เริ่มหันกลับมา เงินลงทุนอเมริกาที่ลงในอาเซียนมากกว่าลงทุนในจีน 3 เท่า ที่อเมริกาเข้ามาเพราะเกิดจากการผลักดันของนักธุรกิจ นักวิชาการ ที่มองว่าหากอเมริกาไม่เข้ามาในภูมิภาคนี้ ดุลอำนาจจะเปลี่ยนแปลง มีการแต่งตั้งทูตประจำอาเซียน มีการประชุมทูตร่วมกัน มีการประชุมในกลุ่มกระทรวงกลาโหม และที่สำคัญที่สุดเริ่มอุ้มอินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ เพื่อเป็นตัวถ่วงดุลกับอำนาจจีนที่กำลังเข้ามา ใช้คำว่า "ไชน่าแฟ็กเตอร์" เป็นตัวปิดล้อม


    "ยังไม่พอ...ดึงอินเดียเข้ามา ซึ่งอินเดียมีความเจริญมาก อยากมีบทบาทในเวทีต่างประเทศ เข้ามาในอาเซียนบวก 6 ซึ่งเราต้องศึกษาให้เข้าใจและศึกษาและใช้ประโยชน์จากมัน ดูอย่างอินโดนีเซียเข้าใกล้อเมริกามากไม่ได้ มุสลิมมีปัญหาได้ แต่เขาเล่มเกมเป็น มีสัญญาร่วมกันทางด้านเศรษฐกิจ ดูแลความมั่นคง ผู้ก่อการร้าย งบฯการพัฒนาวิจัย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อเมริกาส่งให้เต็มที่ แถมประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากำลังมาเยือนอินโดนีเซีย"

    ขณะที่เวียดนามเคยรบกับสหรัฐอเมริกา วันนี้มองไปที่จีน ใช้ปัจจัยจีนให้เป็นประโยชน์ แต่รับไมตรีอเมริกา กระชับสัมพันธ์อินเดีย ซึ่งเป็นสหายเก่ารัสเซีย ทุกหมากที่เขาเดินเป็นการปกป้องเวียดนาม ใช้เวทีแชร์แมนของอาเซียน ในฐานะประธานอาเซียนเป็นกำลังเสริมเวียดนาม วันนี้เวียดนามได้รับเต็ม ๆ


    ประเด็นอยู่ที่ "เมืองไทย" เราต้องใช้เวลาให้มากกว่านี้ในการดำเนินโยบายต่างประเทศ ไม่ใช่ใช้เวลาในการทะเลาะ คุณต้องคิดให้ได้ว่า คุณกำลังจะเล่นไพ่อะไรในระหว่างไพ่ 3 ใบ "อเมริกา ญี่ปุ่น จีน" ประเทศนั้นจะมีความหมายในสายตาเขา ไม่ใช่แค่มิตรสนิทที่อยู่ใกล้ ๆ...ไม่ใช่ อยู่ที่ว่าคุณจะทำให้เขาเห็นความสำคัญในสายตาเขาได้อย่างไร

    จีนต้องการเมืองไทยมาก เพราะเขาต้องการลงมาอาเซียน ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ต่างมีภูมิหลังกันมาก่อน ฉะนั้นนี่คือเหตุผลที่จีนวางโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน ถนนทุกสายกำลังเชื่อมโยงจีนไปสิงคโปร์ผ่านประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง R3A, R3B จากคุนหมิงมาไทย หรือ R8-R9-R12 จากพม่าออกดานังผ่านไทย โครงข่ายรถไฟ โครงข่ายการค้าทางน้ำ ซึ่งทางการจีนเรียกว่า "เส้นไข่มุก" จีนวาดภาพว่า การค้าขนส่งจากทะเลอันดามันเข้าสู่พม่า ทะลุเข้าไทยได้กี่สายที่ไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา นี่คือสิ่งที่จีนต้องการ

    นโยบายของจีนที่บอกว่า ถึงเวลาที่คนจีนต้องก้าวเดินออกไป นักธุรกิจก้าวเดินออกไป เป้าหมายคือ ประเทศไทย จีนอยากเป็นมิตรกับไทย โอกาสนี้อย่าให้เสียไป เขาประกาศให้มีกองทุนพัฒนาร่วมกัน 10 พันล้านดอลลาร์ กองทุนเงินกู้เพื่อพัฒนาร่วมกันอีก 15 พันล้านดอลลาร์

    ไทยมีความสัมพันธ์ล้ำลึก ทั้งสายเลือด ประวัติศาสตร์ หากไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่รู้จะว่าอย่างไร !!!

    ขณะที่สหรัฐอเมริกากับเราเริ่มห่างออกไป อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์นั้น ไทยต้องหาประเด็น ต้องเปิดเกมเชิงรุก ญี่ปุ่นมีผลประโยชน์มหาศาลอยู่ในไทย ไม่ทิ้งเราแน่ แต่จะทำอย่างไรให้เขาสนใจเรา ถ้าสังเกตจีนสนใจจีเอ็มเอส ลุ่มน้ำโขง 4-5 ประเทศ อเมริกาก็สนใจแต่ตัดจีนออกไป

    ขณะเดียวกันไทยเราเชื่อมกับญี่ปุ่นที่จะพัฒนาจีเอ็มเอส ฉะนั้นน่าจะใช้ประเด็นนี้เดินเครื่องทางการเมือง ใช้ประเด็นนี้ Raise Profile ของเราในตลาดโลกให้สูงขึ้น ในแง่การต่างประเทศต้องรู้จักใช้ประเด็นเหล่านั้นในการเล่นเกมระดับโลก อินโดนีเซียเล่นเป็น เขมรเล่นเป็น ไทยเคยเล่นเป็น แต่วันนี้ไทยเรานิยมมาเล่นกีฬาสีมากกว่านโยบายต่างประเทศ

    ส่วนนัยทางเศรษฐกิจ ดร.สมคิดกล่าวว่า มีตัวเลขง่าย ๆ ให้ดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปี 2009 ส่งออกจากไทย 60.8% อยู่ในเอเชีย สหรัฐอเมริกา 10.9% อียู 10.5% นั่นคือ เอเชียคือตลาดใหญ่มากของไทยในอนาคต

    จากการขอส่งเสริมการลงทุนปีที่ผ่านมาจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ประมาณ 50% เป็นการลงทุนจากกลุ่มประเทศในเอเชีย ทางโกลด์แมน แซกส์ บอกว่า ใน 10-20 ปีข้างหน้าชนชั้นกลางจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 พันล้านคน ในจีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่ง 4 ประเทศนี้คนจนมาก แต่อีก 10 ปีจะขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง อำนาจซื้อมากขึ้นจะอยู่ที่เอเชีย นั่นหมายถึงเขาต้องการอาหารที่ดี ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องการบ้าน รถยนต์ สิ่งบริการทั้งหลาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไทยมีพร้อมที่จะสนอง


    แต่สิ่งสำคัญคืออะไร..สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาฟรี ๆ เราต้องมีการสร้าง สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสำคัญมาก ถ้าหากนอร์ทเวสต์กับนอร์ทเซาท์คอร์ริดอร์ตัดกัน แถบนี้ทั้งแถบที่จะมีการพัฒนามหาศาล เพราะฉะนั้น..."ทำซะ"

    ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคน เทคโนโลยี..สำคัญมาก หากคนเราไม่มีความรู้ ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีวิศวกร ไม่มีนักวิจัย มีแต่เอ็มบีเอ จะเอาอะไรไปแข่งกับเขา คุณธนินท์ (เจียรวนนท์) บอกว่า สินค้าเกษตรมีแนวโน้มจะแพงขึ้น ผมว่า อีกหน่อยจะแพงกว่านี้อีก เพราะ 1.การเติบโตของจีนมหาศาลมาก การบริโภคน้ำมันระดับนี้จะทำให้การผลิตเอทานอลมากมาย 2.บวกกับภาวะโลกร้อน 2 ปัจจัยนี้รับรองเลยว่าต้องแพงขึ้น

    แต่ผลผลิตเราต่ำมาก อย่างข้าวเป็นที่โหล่ 400 กว่า ก.ก./ไร่ เวียดนาม 800 กว่า ก.ก./ไร่ เหตุเพราะเขาลงทุนในชลประทาน แต่ของเรากลับข้างกัน 70% พึ่งพาเทวดา 30% พึ่งพาชลประทาน คนอื่นเขาลงทุนงานวิจัยเพื่อให้มีมูลค่าสูงขึ้น แต่ไทยเราไม่สนใจการพัฒนา ผลคืออีสานไม่สามารถสร้างผลผลิตที่มีพรีเมี่ยม แทนที่เราจะได้ประโยชน์เรากลับเสียโอกาส

    "ผมบอกว่า โอกาสไม่ได้มาฟรี ๆ เราต้องสร้างขึ้นมา ตัวอย่างการเคลื่อนย้ายการผลิตรองเท้าไนกี้ไปเวียดนาม การเคลื่อนย้ายฐานอิเล็กทรอนิกส์จากไทยไปมาเลเซีย ผมกำลังบอกว่า การทะยานของเอเชียมันจะมีการไปและกลับ หากคุณทำไม่ดี มีแต่จะไป..."

    นอกจากนี้ต้องดูตัวอย่างบริษัทเอกชน เช่น บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เกมของเขาคือ มีฐานผลิตในอินโดนีเซีย เวียดนาม นอกเหนือจากไทย เกมของเขาไปเทกโอเวอร์บริษัทในอเมริกา เพื่อใช้แบรนด์และผลิตสินค้าเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดโลก เขาเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นสมัยใหม่ในการค้าการขาย บริษัทใหญ่ ๆ ต้องเปลี่ยนแปลงมุมมอง ความคิด เพื่อก้าวไปสู่การค้าในเอเชีย

    ส่วนบริษัทเล็ก ตอนนี้ค่าเงินแข็ง เอสเอ็มอีร้องว่า จะย่ำแย่ ซึ่งเอสเอ็มอีน่าเป็นห่วงมากเพราะอ่อนแอ กลุ่มพวกนี้ต้องสร้างเขาขึ้นมา แต่ต้องคนละมาตรฐานกับบริษัทใหญ่ ทางการต้องทำหน้าที่สร้างเขา ขณะนี้แบงก์ไม่กล้าปล่อยกู้เอสเอ็มอี ฉะนั้นรัฐต้องมองจุดนี้ ในแง่มาตรการการเงินการคลังซึ่งมีสองด้าน


    1.สร้างการเติบโต เสถียรภาพ 2.อีกด้านการสร้างประเทศ ถ้าทำอย่างญี่ปุ่นเขาเริ่มสร้างเอสเอ็มอีเริ่มตั้งแต่เล็กจนเป็นยักษ์ เมืองไทยมีครบตั้งแต่ สสว. เอสเอ็มอีแบงก์มีเต็มไปหมด แต่เมืองไทยทำตัวเป็นม้าลำปาง ต่างคนต่างวิ่ง แทนที่เชื่อมโยง มีคนกุมโชคชะตา ชี้นิ้วว่าจะไปทางไหน สิ่งนี้ต้องแก้ไข


    ในแง่การพัฒนาอุตสาหกรรมเราบิดเบี้ยว เราไม่ลงทุนเลย 5-6 ปีมาแล้ว เรามีทุนสำรองระหว่างประเทศแค่ 60,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ ตอนนี้ 150,000 ล้านดอลลาร์ แต่คนไม่ลงทุน ตรงนี้ต้องแก้ให้ได้ ต้องส่งเสริมเขาไปลงทุนแทนที่จะลงทุนซื้อหุ้น ต้องลงทุนในการค้าการขาย สร้างเน็ตเวิร์กกิ้งอย่างน้อยที่สุดในอาเซียน นับวันเงินยิ่งเข้ามาในอาเซียน ต้องคิดทั้งระบบ ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เงินมีปัญหา

    เมื่อเอเชียทะยานขึ้น ผมเชื่อว่าความแตกต่างในการพัฒนาประเทศในเอเชียจะถ่างมากขึ้น ประเทศที่ฉลาด ว่องไว จะทะยานขี่คลื่นนี้ไปได้ มันจะมีผู้ได้และผู้เสีย ถ้าคุณไม่เดินหน้าจริง ๆ การบริหารต้องจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่บริหารแบบไม่บริหาร

    วันนี้ไม่ว่าจะวัดในเรื่องอะไร อันดับของไทยตกหมด อาทิ ขีดความสามารถในการแข่งขัน ล่าสุดไทยหล่นจาก 36 มาอยู่ที่ 38 อินโดนีเซียกระโดดจาก 54 มาที่ 44 เวียดนามจาก 75 มา 59 คุณภาพการศึกษาเวียดนามอันดับ 61 ไทย 66 เรื่องความสามารถกำลังในการผลิตนวัตกรรมใหม่ ๆเวียดนาม 32 อินโดนีเซีย 30 มาเลเซีย 25 ไทย 56 เรื่องจริยธรรมไทยมาที่โหล่ 71 เวียดนาม 61 สิงคโปร์ 1 มาเลเซีย 44 อินโดนีเซีย 65 ความเชื่อมั่นของพับลิกต่อนักการเมือง สิงคโปร์ 1 มาเลเซีย 35 อินโดนีเซีย 51 เวียดนาม 32 ไทย 83

    ดังนั้นเมื่อเอเชียทะยาน ประเทศที่จะได้ประโยชน์ 1.คุณต้องมี Respect จากต่างประเทศ นานาชาติต้องให้เกียรติคุณ ประเทศที่ไม่มีเอกภาพ ไม่มีใครเขาแคร์ ฉะนั้นหยุดเล่นกีฬาสี 2. "การสร้าง" จำเป็นมาก ไม่มีอะไรได้มาฟรี ฉะนั้นต้องสร้างเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ทำวันนี้เราไม่ใช่ "Winner" เราจะเป็น "Loser" เป็นคนที่ถูกละทิ้งในอนาคต

    "ผมคิดว่าเราต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้" !!!

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมประกาศเตือนฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในภาคกลาง ตะวันออก และใต้ ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงระวังน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากระยะ 1-2 วันนี้
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนหนักในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในระยะ 1-2 วันนี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นํ้าท่วมราชบุรีจมหลายพันไร่-ดินถล่มปิดทางระนอง-ภูเก็ต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นํ้าป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีท่วม 2 ตำบล ราชบุรี กว่า100หลังท่วม พื้นที่เกษตรหลายพันไร่จม ที่ระนองฝนตกหนักดินถล่มปิดทางระนอง-ภูเก็ต
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    หลังจากฝนตกหนักตลอดคืน วันนี้(3 ต.ค.) เกิดนํ้าป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ในเขต อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวมทั้งนาข้าวที่กำลังออกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 2, 3, 4 , 5 ตําบลอ่างทอง อําเภอเมืองราชบุรี อาศัยอยู่ริมคลองอ่างทอง น้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 40 หลัง


    นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรที่ปลูกผัก ถั่ว และแตงกวาเสียหายทั้งหมด

    ชาวบ้านได้ช่วยกันนําเศษกิ่งไม้รวมทั้งผักตบชวาที่ไหลมาติดตามคอสะพานออกเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ส่วนบริเวณหมู่ 2 และ 3 ตําบลทุ่งหลวง อําเภอปากท่อ นํ้าป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและสร้างท่วมนาข้าวหลายพันไร่ และพื้นที่เกษตรอื่นๆ อีกจํานวนมาก บางจุดนํ้าท่วมอยู่ในระดับศีรษะ ขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้ ผู้ใหญ่บ้าน กํานัน และฝ่ายปกครองสํารวจความเสียหายทั้งหมดเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งสั่งการให้นายอําเภอทุกอําเภอได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมกับนำเครื่องมืออุปกรณ์ในการขนย้ายประชาชน เพื่อรับมือกับสภาวะน้ำท่วม และขณะนี้ก็ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง


    ฝนตกหนักดินถล่มปิดเส้นทางระนอง-ภูเก็ต


    ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักพื้นที่จ.ระนอง และเกิดดินภูเขาถล่มปิดเส้นทางจราจรสายระนอง-ภูเก็ต บริเวณบ้านบางกล้วยนอก อ.สุขสำราญ ทำให้การจราจรเส้นทางสายดังกล่าวเป็นอัมพาตนานนับชั่วโมง ทางหน่วยกู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายต้นไม้และดินภูเขาที่ถล่ม ทับเส้นทางออกจากเส้นทาง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่งโมง

    ล่าสุด เมื่อเวลา 19.30 น. สามารถเปิดใช้เส้นทางดังกล่าวได้เป็นปกติ แต่ยังมีเสาไฟฟ้าบางเสาที่เกิดการโน้มเอียงจะล้มทับลงมาบนถนนสร้างความหวาด เสียวแก่ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว

    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ทำเป็นสัจจะ ****

    ไม่อคติ วันละ ๑ ชั่วโมง
    ไม่โกรธ ไม่เกลียด วันละ ๑ ชั่วโมง
    ถือเป็นสัจจะ ทำได้ไหม ?

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    สมิทธ แนะย้ายหมู่บ้านสันติคีรี หลังเกิดรอยแยกเป็นทางยาวกลางหมู่บ้าน

    สนับสนุนเนื้อหา [​IMG]

    4 ต.ค. 53 06.11 น.

    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช แนะควรย้ายหมู่บ้านสันติคีรีบนดอยแม่สลอง ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ดินถล่มทับทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากตั้งอยู่บนรอยเลื่อนแม่จัน ที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวผสมกับดินถล่มจากฝนตกหนักได้
    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุพื้นที่แผ่นดินทรุดตัวบริเวณใจกลางของหมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งทำให้เกิดรอยแยกแตกออกจากกันเป็นทางยาวกว่า 300 เมตร ส่งผลทำให้มีบ้านเรือนที่อยู่ตรงรอยแยก-ดินทรุดตัว พังเสียหายไป 10 หลังคาเรือน ว่าเกิดจากการเลื่อนไหลของดินที่ไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ เพราะก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังโชคดี เพราะบริเวณนี้ เป็นแนวรอยเลื่อนแม่จัน ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวสูงมาก ซึ่งในช่วงนั้น หากมีแผ่นดินไหวด้วย ยิ่งจะทำให้เกิดความเสียหายหนักขึ้น อาจจะถึงกับดินโคลนถล่มทับทั้งหมู่บ้าน ส่วนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือการย้ายหมู่บ้านออกจากบริเวณดังกล่าว

    ประธานกรรมการมูลนิธิเตือน ภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวด้วยว่ายังมีพื้นที่อื่นที่เสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ได้แก่ ในพื้นที่ อ.ท่าปลา อ.ลับแล ใน จ.อุตรดิตถ์ ที่อยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ส่วนใน จ.พิษณุโลก และ จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งหากฝนตกหนักดินอาจจะถล่มลงมาได้เช่นกัน
     
  13. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เว็บไซต์ มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปลี่ยนชื่อโดเมนใหม่ เป็น มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (paipibut.org)

    เนื้อหาเว็บมีการเปลี่ยนแปลง อัพเดทหลายอย่างครับ

    ตอนนี้น่าติดตามมากเลย
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    กรุงเทพฯอุณหภูมิอาจลดเหลือแค่ 16 องศา
    4 ตค. รายงานข่าวแจ้งว่า กรมอุตุฯ เผยฤดูหนาวปีนี้จะมีอากาศเย็นขึ้นหลายองศา เชื่ออุณหภูมิต่ำสุดทุบสถิติปี 52 ทั่วประเทศ ส่วนผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญาจะส่งผลให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนสูงขึ้นกว่าปกติ
    นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากการเฝ้าติดตามปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา พบว่าสถานการณ์อุณหภูมิน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก บ่งบอกถึงการพัฒนาของปรากฏการณ์ลานีญา โดยคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2554 ทำให้ตลอดช่วงฤดูหนาวปีนี้ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนสูงกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้

    ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา จากปัจจัยจากปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้มีฝนตกชุกและความชื้นสูงอาจทำให้ฤดูหนาวในปีนี้มีความหนาวเย็นกว่าปกติ รวมทั้งยังมีความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้ปีนี้อากาศหนาวมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเชื่อว่ากรุงเทพฯจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    วางแผนลวงไปฆ่า ก่อนเผาอำพรางคดี ชี้โทษสูงสุดประหารชีวิต
    4 ตค. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 แถลงผลการจับกุม 2 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่า น.ส.ธิติยาพันธ์ หรือแอ้ พุ่มอรุณ อายุ 22 ปี อย่างโหดเหี้ยม โดยนำศพไปเผาทิ้งพร้อมรถยนต์เพื่ออำพรางคดี ภายในซอยโชคอนันต์ 1 จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งมีผู้ไปพบศพตอนรุ่งเช้าของวันที่ 1 ต.ค.
    ทั้งนี้ คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุคือ พระกิตติพงษ์ ยะอนันต์หรือพระพงษ์ อายุ 28 ปี เลขานุการเจ้าอาวาสวัดหัวไทร กับพระศุภกิจ เกตุแก้ว อายุ 25 ปี พระลูกวัด เจ้าหน้าที่นำตัวไปให้เจ้าอาวาสวัดหัวไทรสึกและนำตัวไปเค้นสอบสวนเพิ่มเติมที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในเขตอ.บางคล้า ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยมีคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือนายเอก ไม่ทราบนามสกุล อยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะที่ นายสมัคร หรือจ้อน คงรัตน์ เพื่อนของนายศุภกิจหรือพระกิจ คนขับรถดูเส้นทางก่อนลงมือให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงถูกกันไว้เป็นพยาน
    ต่อมา ตำรวจนำตัว นายศุภกิจ เกตุแก้ว และนายกิตติพงษ์ ยะอนันต์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดที่เผาศพและรถยนต์ของผู้ตายเพื่ออำพรางคดี โดยนายศุภกิจ นายกิตติพงษ์และนายเอกเผยว่าร่วมกันวางแผนฆ่านางสาวธิติยาพันธ์ ก่อนจะลงมือในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งขณะนำตัวสองผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีประชาชนเกือบ 1,000 คน แห่กันไปบริเวณที่เกิดเหตุ ต่างร้องตะโกนสาปแช่งต่างๆนานา และบางคนร้องให้นำตัวไปประหารชีวิต พร้อมด่าทอด้วยข้อความหยาบคายและทำให้เสื่อมเสียวงการศาสนา ตำรวจใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่สภ.บางคล้า
    นายศุภกิจ เกตุแก้วหรือพระกิจ ผู้ต้องหาให้การว่า รู้จัก น.ส.ธิติยาพันธ์ มานานหลายปี เพราะผู้ตายมีบ้านพักอยู่หน้าวัด โดยเคยคบกันมาแบบลึกซึ้ง ภายหลังเริ่มมีปัญหาหลังจากที่ผู้ตายถูกวางยาและเข้าใจว่าตนเองเป็นคนทำ หลังจากนั้นก็ถูกลอบวางเพลิงกุฏิ ถูกโทรศัพท์ข่มขู่จะฆ่าทิ้ง ต่อมาสืบได้ว่า นางสาวธิติยาพันธ์ ผู้ตายเป็นคนว่าจ้างให้มีคนทำ จึงวางแผนลวงไปฆ่าทิ้ง ส่วน นายกิตติพงษ์ ยะอนันต์หรือพระพงษ์ รับสารภาพว่า ร่วมกันกับพระศุภกิจและนายเอก ทำการฆ่าเผา นางสาวธิติยาพันธ์จริง
    ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นอำพรางศพ เพื่อปกปิดความผิด สำหรับชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาด่างพร้อย แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนที่มาอาศัยผ้าเหลืองบังหน้า ซึ่งจะทำคดีนี้ให้เป็นตัวอย่าง โดยมีการลงโทษสูงสุดถึงขั้นประการชีวิต
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ตอนนี้ ถ้าเตรียมได้เอง เตรียมไปก่อนเลยครับ ต้องรู้จักช่วยเหลือตนเองให้มากครับ

    ผมได้ฟังเรื่อง บ้านขุนสมุทรจีน แล้วน่าเป็นห่วงจริงๆ ไม่มีวี่แวว ในการสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลเลย ขณะที่ประเทศอื่นทำกันหมดแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลไหน ในประเทศไทย ก็ยังไม่เห็นความสำคัญ

    ดร.สมิทธ ก็แยกออกมาทำ มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แล้ว เรามีหน้าที่รับรู้ และเตรียมการครับ

    สิ่งที่เราทำได้แค่ พึ่งตนเอง หรือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ครับ

    เราไม่สามารถเตรียมการ ในโครงการใหญ่ๆ ได้ แต่เราเตรียมการ เตรียมกาย เตรียมใจ เพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดได้ครับ
     
  16. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    4 ต.ค. 53


    ไข่ไก่ ?

    เห็นไข่ไก่-----------ถูกเหมาแผง--------ในตลาด
    เพื่อนต่างชาติ-------อิสลาม------------ซื้อเอาไว้
    จะให้แปล-----------ความหมาย--------ว่าอย่างไร?
    ให้อ่านไว้-----------เพื่อเตือนใจ--------ให้ระวัง

    ความหมายหนึ่ง-------นั้นก็คือ-----------ไข่จะแพง
    ถ้ารุนแรง-------------สัตว์จะตาย--------มากมายหลาย
    ทั้งสัตว์ปีก------------สัตว์สี่เท้า---------อีกมากมาย
    ระวังไว้---------------คอยป้องกัน-------ให้ดีดี

    อีกความหมาย--------นั้นก็คือ------------โรคระบาด
    จะพิฆาต-------------เพื่อนร่วมชาติ-------ให้อาสัญ
    ถ้ารู้ก่อน--------------ก็ให้รีบ-------------เร่งป้องกัน
    ชีวิตยัง--------------มีความหมาย---------ไว้ใช้เอย




    นอ สอ พอ

    นอสอพอ-------สองฉบับ-------ที่ซ้ำกัน
    ท่านก็ยัง--------ถืออ่าน--------ไม่รู้จบ
    ขอได้ส่ง--------คืนกลับ--------ให้ได้ครบ
    จะได้พบ--------เล่มใหม่--------ได้อ่านกัน

    ความหมาย มีกลุ่มคนที่คิดจะเข้าร่วมกับฐานผาแบ่นแล้วเปลี่ยนใจ

    ยังคิดจะกลับเข้ามา



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    <hr/>



    [​IMG]



    ในปี พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า

    “ป่าชายเลนมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย แต่ปัจจุบันป่าชายเลนของประเทศไทยเรากำลังถูกบุกรุกและถูกทำลายลงไปโดยผู้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจึงควรหาทางป้องกันอนุรักษ์และขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นโกงกางเป็นไม้ชายเลนที่แปลกและขยายพันธุ์ได้ค่อนข้างยากเพราะต้องอาศัยระบบน้ำขึ้นน้ำลงในการเติบโตด้วย จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคือกรมป่าไม้ กรมประมง กรมชลประทานและกรมอุทกศาสตร์ ร่วมกันหาพื้นที่ๆเหมาะสมในการทดลองขยายพันธุ์โกงกางและปลูกสร้างป่าชายเลนกันต่อไป”

    และนี่ก็คือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ที่ทรงมีสายพระเนตรยาวไกล…ทรงรู้ถึงความสำคัญของป่าชายเลน ซึ่งถือได้ว่า เป็นแนวกำแพงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเพชร สามารถป้องกันสึนามิได้ถึงรุ่นลูกหลานโดยที่รัฐบาลไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาซักบาท บางทีถ้าติดตั้งระบบเตือนภัยไฮเทคและฟื้นฟูธุรกิจแล้ว อย่าลืมหันมามอง “เกราะ”พิเศษของขวัญจากธรรมชาติที่ละเลยมานาน​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แผ่นดินไหว3.7ริกเตอร์ อ.แม่สาย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเกิดแผ่นดินไหว 3.7 ริกเตอร์ รู้สึกได้ที่ อ.แม่สาย

    เมื่อเวลา 06.22 น. วันนี้ 4 ต.ค. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่า ตรวจพบเกิดแผ่นดินไหว มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า ระหว่าง ละติจูด 21.22 องศาเหนือ และลองจิจูด 99.13 องศาตะวันออก ห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 100 กม. วัดความสั่นสะเทือนตามมาตราริกเตอร์ได้ขนาด 3.7 ริกเตอร์

    ในเบื้องต้น ประชาชนชาว อ.แม่สาย รู้สึกได้ถึงความสั่นทะเทือนครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยตามตัวอาคารสูง แต่ไม่มีความรุนแรง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานถึงความเสียหายอันเกิดจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เมืองกาญจน์อ่วมน้ำป่าตะนาวศรีทะลักท่วม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>น้ำป่าเทือกเขาตะนาวศรี ทะลักเข้าท่วมเมืองกาญจน์ หลายพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก


    วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ได้เกิดฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าไหลจากเทือกเขาตะนาวศรี เข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ราษฎร 5 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 6-7 พันไร่ โดยทางนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ขณะที่ชาวบ้านจำนวน 10 หลังคาเรือน ติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ ต้องขอเรือท้องแบนอพยพผู้คนออกมา

    ส่วนที่อ.ด่านมะขามเตี้ย ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าที่ไหลลงมาจากอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มี 4 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน

    พืชผลทางด้านการเกษตรประมาณ 2,700ไร่ ได้รับความเสียหาย ประชาชนกว่า 900 คน ได้รับความเดือดร้อน ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำกัดเซาะ เสียหายกว่า 30 สาย ถนนสายหนองไผ่-แก้มอ้น รถยนต์สี่ล้อไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งศูนย์อุทกภัยภาค 7 ได้รายงานด้วยว่าจะมีน้ำป่าไหลบ่าเข้ามาสมทบในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีและองค์การบริหารส่วนตำบลหนอไผ่ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ขณะที่ ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค มี 4 หมู่บ้าน ได้ผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ถนนบางสายรถผ่านไม่ได้ ส่วนที่ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เรือบรรทุกข้าวสาร 750 ตัน ชนตลาดน้ำวัดท่าการ้อง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เรือบรรทุกข้าวสาร 750 ตัน พุ่งชนตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะไถลไปชนตลาดน้ำวัดท่าการ้อง จ.พระนครศรีอยุธยา และจมลง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ขณะที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากหนีตาย อลหม่าน

    เวลา 10.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2553 พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา

    รับแจ้งจาก พระครูสุทธิปัญญาโสภณ หรือพระอาจารย์เบิ้ม เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าเกิดเหตุเรือบรรทุกข้าวสาร ที่เป็นเรือลำเลียง ชนตลาดน้ำกรุงเก่า หรือตลาดน้ำวัดท่าการ้อง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ที่ตั้งอยู่ท่าน้ำหน้าวัดในล้ำน้ำเจ้าพระยาที่กระแสน้ำกำไหลไหลเชี่ยวแรง เพราะมีภาวะน้ำเหนือหลาก เบื้องต้นค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวต้องแตกตื่นหนีตายจากเรือและแพที่อยู่ริมน้ำขึงมาบนฝั่งหน้าวัดอย่างอลหม่าน และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นางวารุณี อ่อนศรี อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวจาก ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บาดเจ็บถูกน้ำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแผลฟกซ้ำ ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว


    หลังรับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ สุภาพร พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานกู้ชีพและกู้ภัยจำนวนมากเข้าให้การช่วยเหลือ

    ขณะที่ พ.จ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ใกล้เคียงได้นำเรือและอุปกรณ์มาช่วยเสริมอย่างเร่งด่วน
    รายงานข่าวแจ้งว่า พ่อค้าแม่ค้า ที่ขายของอยู่ในตลาดน้ำวัดท่าการ้อง เร่งขนอุปกรณ์ขายของจากเรือและแพของตลาดน้ำวัดท่าการ้อง ขึ้นไปไว้บนตลิ่ง หลังจากเกิดเหตุเรือลำเลียงชื่อ ยูอี 46 ซึ่งบรรทุกข้าวสารน้ำหนัก 750 ตัน รวม 30,000 กระสอบ จากบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เดินทางจะไปส่งของที่ท่าเรือเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งได้พุ่งชนกับตอหม้อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากตลาดน้ำไปทางทิศเหนือหรือต้นน้ำ 1 กม. จนเสียการบังคับและถูกกระแสน้ำพัดมาพุ่งชนแพปลาและตลาดน้ำของวัดท่าการ้อง ทำให้แพเรือและของที่ขายในแพได้รับความเสียหาย จากนั้นก่อนเรือบรรทุกข้าวสารลำดังกล่าวจะจมดิ่งลงสู้ก้นแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดธรรมาราม อ.พระนครศรีอยุธยา

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายสังข์เวียน คุ้มแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.3 ต.เกยชัย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ คนขับเรือ กล่าวว่า ตนเองขับเรือโยงโชคนพดารา หมายเลข 141300907

    ลากเรือบรรทุกข้าวสารที่เป็นเรือลำเลียงจำนวน 4 ลำ ออกจาก บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ไปส่งที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี โดยระหว่างการลากเรือโยงกันมา 4 ลำ เมื่อมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกระแสน้ำแรงมาก เรือลำที่ 3 สะบัด จนเสียการควบคุม และท้ายเรือฟาดกับตอม่อของสะพาน ทำให้เรือส่ายไปมาและบังคับไม่อยู่ เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงตะโกนบอกให้ตัดเชือกผูกเรือที่โยงติดกันออก และให้คนที่อยู่ในเรือพ่วงลากจูงทั้งหมดกระโดดหนีน้ำ เพราะเรือกำลังจะล่ม และพยายามบังคับเรือไม่ให้ฟาดเข้ากับแพปลาตลาดน้ำวัดท่าการ้อง แต่เอาไม่อยู่ จึงฟาดเข้ากับแพปลาอย่างแรง กระทั่งเรือบรรทุกข้าวสารค่อยๆ จมลง


    นายชัชวาลย์ ศาสตร์สาระ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/5 ม.3 ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขายน้ำผลไม้ในตลาดน้ำวัดท่าการ้อง กล่าวว่า

    ขณะตนเองขายของอยู่ได้ยินเสียงคนบนฝั่งของวัด และคนที่อยู่ในแพตะโกนให้วิ่งหนีขึ้นจากแพ เนื่องจากท้ายเรือบรรทุกข้าวสารพัดเข้าหาตลิ่ง และคาดว่าน่าจะกระแทกเข้ากับแพ แต่ด้วยความเป็นห่วงของที่ขายอยู่จะจมน้ำจึงเร่งเก็บและวิ่งหนี
    นางฉวีวรรณ แสงพระจันทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 ม.4 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขายก๋วยเตี๋ยวเรือ กล่าวว่า ได้ยินเสียงคนที่อยู่ในแพเอะอะ โวยวาย และบางคนตะโกนให้คนที่อยู่ในแพทั้งหมด รีบขึ้นจากแพตลาดน้ำ เพราะท้ายเรือบรรทุกข้าวสารกำลังจะพุ่งชน จึงรีบวิ่งหนีแต่ไม่ทันทัน และถูกท้ายเรือกระแทกตกน้ำ

    อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทางคดีอาญา กับนายสังข์เวียน คุ้มแก้ว

    คือ ประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ส่วนทางคดีแพ่งต้องให้ผู้เสียหายแท้จริงเจาจรรับรับชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากไม่มีการชดใช้ก็สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้อีกเช่นกัน
    ด้านพระครูสุทธิปัญญาโสภณ กล่าว่า แพและเรือในตลาดน้ำมีการลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างมากและกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหายที่แท้จริง

    ขณะที่ นาวาโท รชต ผกาฟุ้ง เจ้าท่า จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มีการวางทุนเตือนอันตรายและออกประกาศชาวเรือ ให้หยุดเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่เกิดเหตุไปก่อน จนกว่าจะมีการกู้เรือที่จมได้สำเร็จ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เพชรบุรี ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จังหวัดเพชรบุรีเกิดน้ำท่วมหนักจนต้องประกาศเป็นจังหวัดที่ประสพภัยพิบัติ ส่งทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 13 ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน

    นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ประกาศเป็นพื้นที่ประสพภัยพิบัติ 8 อำเภอ สำหรับอำเภอเขาย้อยบริเวณถนนเพชรเกษม ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 132-136 ทั้งขาเข้ากรุงเทพและล่องใต้ มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 20 ซม. เป็นช่วงๆช่วงละ 200-500 เมตร ทำให้การจราจรติดขัดแต่สามารถไปได้ทั้งไปและกลับ สาเหตุน้ำท่วมเกิดจากการที่ปริมาณน้ำจำนวนมากจากจังหวัดราชบุรี ไม่สามารถไหลผ่านถนนเพชรเกษมช่วงดังกล่าวได้เนื่องจากมีการก่อกำแพงกัน และเจาะช่องระบายน้ำไว้เล็ก น้ำไม่สามารถไหลข้ามถนนได้ โดยเฉพาะเมื่อคืนระดับน้ำสูงมากทั้งรถเล็กรถใหญ่ไม่สามารถไปได้ ชาวบ้านอำเภอเขาย้อย บอกว่าตั้งแต่เช้ายังไม่ได้รับประทานข้าว เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้และยังไม่มีหน่วยงานไดออกมาให้ความช่วยเหลือ

    ส่วนที่อำเภอท่ายางที่ได้รับน้ำมาจากเขื่อนเพชร ขณะนี้ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ที่ 13 นำโดย พันเอก กฤษณ์ จันทรนิยม พร้อมกำลังทหาร และเรือท้องแบน 2 ลำ ออกให้ความช่วยเหลือขนของหนีน้ำ แลนำอาหารพร้อมนำดื่มไปแจกตั้งแต่เช้าที่บ้านท่าแลง อำเภอท่ายาง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คุณประโยชน์ของเรือท้องแบนเมื่อเกิดอุทกภัย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ส่งเรือท้องแบนช่วย 2 หมื่นชีวิตบนดอยวาวี-ใช้เดินทางติดต่อพื้นราบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>15 กันยายน 2553 15:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เชียงราย - เจ้าหน้าที่ส่งเรือท้องแบนช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านชุมชนบนดอยวาวีกว่า 20,000 ชีวิต ได้ใช้สัญจรติดต่อกับพื้นราบชั่วคราวแล้ว หลังเส้นทางคมนาคมหลักถูกตัดขาด

    วันนี้ (15 ก.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจ ทหาร ฯลฯ ต่างพยายามเข้าไปอำนวยความสะดวกในการเดินทางของชาวบ้าน ระหว่างพื้นราบกับดอยวาวี ต.วาวี อ.แม่สรวย อย่างต่อเนื่อง หลังจากถนนสายหลักขึ้นสู่ดอยวาวีบริเวณหมู่บ้านทุ่งพร้าว ต.วาวี ถูกน้ำป่ากัดเซาะจนพังทลายกว้างกว่า 70 เมตร ลึกประมาณ 20 เมตร ซึ่งแม้จะมีเส้นทางอ้อมไปยังหมู่บ้านแสนเจริญหรือทางไปดอยช้าง แต่ก็ต้องอ้อมไกลและลัดเลาะไปตามไหล่เขา

    ล่าสุด ฝ่ายปกครองได้นำเรือท้องแบนขนาดใหญ่ไปให้บริการกับประชาชนที่ต้องการข้ามฟากไปมาโดยไม่ต้องเดินทางอ้อมไกล เนื่องจากบนดอยวาวีมีประชากรกว่า 20,000 คน จำเป็นต้องใช้เส้นทางสัญจรไปมาตลอดเวลา เพื่อรอให้ทางกรมทางหลวงชนบททำการซ่อมแซมทางเบี่ยงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

    ขณะที่ทั้งสองฟากของถนนได้มีรถยนต์และจักรยานยนต์โดยสารคอยรับและส่งประชาชนที่นั่งเรือข้ามฟากตลอดทั้งวัน

    นายเอนก ณัฐโฆษิต หัวหน้าสำนักทางหลวงชนบท จ.เชียงราย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทได้วางแผนที่จะทำทางเบี่ยงใกล้กับจุดที่ถนนทรุด โดยขณะนี้ได้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ ทั้งจาก จ.เชียงราย และพะเยา ไปสนับสนุน งานแรกคือการขุดสันเขาและวางท่อกลมชั่วคราว เพื่อจะได้ถมดินบดอัดให้ใช้สัญจรผ่านไปมาได้ชั่วคราว เบื้องต้นตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ก.ย.นี้เพื่อเปิดให้ใช้งานต่อไป

    แต่เนื่องจากพื้นที่มีสภาพฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความลำบาก แม้ในวันนี้ตลอดช่วงเช้าก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้เพราะยังมีฝนตกลงมาเป็นระยะ จึงทำให้เกิดความล่าช้าถนนจะใช้การได้อาจเลื่อนไปอีก 1-2 วัน แต่เจ้าหน้าที่จะได้พยายามเร่งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดต่อไป

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000129725
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...