ชวนวิเคราะห์ หลักอนุตตรธรรม มีผลต่อพระพุทธศาสนาในระยะยาวอย่างไร

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย วงบุญพิเศษ, 5 ธันวาคม 2010.

  1. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    อนุตตรธรรมเป็นลัทธิใหม่ที่ชักชวนคนให้สร้างสันติภาพโลกโดยการรวมทุกศาสนาเป็นหนึ่งเดียวกัน มีการเผยแพร่ที่โด่งคังมากในประเทศไต้หวันกว่า 30 ปีแล้ว เผยแพร่ในไทยกว่า20 ปี มีศูนย์ธรรมหรือพวกเขาเรียกว่า พุทธสถานใหญ่ซึ่งแต่ละแห่งใช้ทุนสร้างกว่า20ล้านบาท ในไทย 5 แห่ง คือที่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น แพร่ สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี และพุทธสถานย่อยครบทุกจังหวัดในไทยแล้ว มีการประทับทรงบอกเรื่องราวการกำเนิดโลกและการรแตกดับในเชิงพุทธศาสนา สอนคุณธรรมแบบขงจื้อ ที่รู้มากเพราะป้าผมเข้าไปศึกษาและศรัทธามากจนหมดความเลื่อมใสในศาสนาพุทธ โดยที่ป้าเชื่อมากคือ เรื่องการเกิดสึนามิ ซึ่งมีการประทับทรงที่ จ.พังงาบอกล่วงหน้าโดยป้าอยู่ในเหตุการณ์

    ความเชื่อที่สอนอยู่ในลัทธิอนุตรธรรม

    1. รับธรรมะโดยการเปิดจุดทวาร เพื่อที่จะไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
    2. คาถา 5 คำและการไหว้โดยทำมือเป็นเหมือนดอกบัว เมื่อผู้รับธรรมะเสียชีวิตแล้วต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นรหัสผ่านเข้าสวรรค์และจะไม่ต้องกับมาเกิดอีก
    3. ผู้ที่ไม่รับประทานอาหารเจตลอดชีวิตจะไม่สามารถบรรลุธรรมได้
    4. ผู้รับธรรมะแล้วบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับบุญด้วย
    5. การเชิญบุคคลอื่นมารับธรรมะ เป็นบุญใหญ่ ผู้ชักชวนมาจะได้รับการเลื่อนขั้นและเป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงลัทธินี้
    6. ผู้ที่มารับธรรมะทุกคนต้องทำบุญบริจาค 200 บาทขึ้นไป
    7. หลังจากรับธรรมะแล้วจะมีการเผาชื่อผู้รับธรรม เพื่อลบรายชื่อผู้รับธรรมะออกจากนรกไปสู่นิพพาน
    8. การทรงเจ้าสามารถเชิญ จี้กง เจ้าแม่กวนอิม กวนอู นาจา เทพ 8 เซียน พระกษิติครรภ์ วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร อีกทั้งยังเคยปรากฎว่า พระพุทธเจ้าโคดม และ พระอานนท์ ก็เคยเข้าร่างทรง โดยทรงมาพูดเรื่องธรรมะล้วนๆ
    9. การเข้ารับวิถีธรรมเท่านั้นถึงจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้
    10. สำหรับวิถีอนุตตรธรรมนั้น เป็นการรับธรรมก่อนบำเพ็ญทีหลัง ส่วนศาสนาบำเพ็ญตนก่อน จึงค่อยรับธรรมะ คนในอดีตไม่ได้รับธรรมะง่าย ๆ เขาจะต้องบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรมก่อนแล้วจึงค่อยรับธรรมทีหลัง
    11. อนุตตรธรรมเป็นรากของทุกศาสนา
    12. การตัดสินว่า "อนุตตรธรรม" ควรอุบัติขึ้น เมื่อไหร่และถ่ายทอดลงสู่ผู้ใดเป็นพระวินิจฉัย ของพระองค์ธรรมมารดา
    13.ฯลฯ

    ที่หน้ากลัวคือการบอกว่าจะหมดยุคพระพุทธเจ้าสมณโคดมแล้ว พุทธบุตรเริ่มเสื่อมจากพระวินัย ให้เลิกการปฎิบัติแบบเดิม ใกล้ถึงยุคพระศรีอาริยเมตไตยเต็มที

    นอกจากไต้หวัน ไทย ยังมี จีน อเมริกา อังกฤา โปรตุเกต มาเลเซีย สิงค์โปร กัมพูชา ออสเตรเรีย

    โดยมีหวกนักเรียนนักศึกษาในไทยสนใจเป็นอย่างมาก อาจารย์ก็มาก

    ทั่งประเทศมีสาวกนับล้านนแล้ว(ดูจากรูปต่างๆของป้าที่ให้ดู)


    น่ากลัวจัง
    ลองหาข้อมูลเพิ่มใน Google ดู มีมากมากเลย
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เข้ามาอ่านค่ะ...................
     
  3. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    ลูกโคย่อมตามหลังพ่อโค
    ลูกพระพุทธเจ้าโคดมย่อมเจริญรอยเท้าเข้าสู่คอกธรรมวินัย
    ผู้อยู่นอกคอกโคย่อมตกเป็นเหยื่อสัตว์โลกชนิดอื่นที่อยู่นอกคอกโค

    คําสอนของพระบรมศาสดาทุกพระองค์จะไม่หักล้างกันเอง
    ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุจะสงบระงับได้ก็เพราะเหตุแห่งธรรมนั้นดับก่อน

    การล้างบาปโดยไม่ระงับเสียซึ่งเหตุและจะระงับผลโดยไม่เสวยผลเป็นไม่มี

    1. รับธรรมะโดยการเปิดจุดทวาร เพื่อที่จะไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
    2. คาถา 5 คำและการไหว้โดยทำมือเป็นเหมือนดอกบัว เมื่อผู้รับธรรมะเสียชีวิตแล้วต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นรหัสผ่านเข้าสวรรค์และจะไม่ต้องกับมาเกิดอีก
    3. ผู้ที่ไม่รับประทานอาหารเจตลอดชีวิตจะไม่สามารถบรรลุธรรมได้
    4. ผู้รับธรรมะแล้วบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับบุญด้วย
    5. การเชิญบุคคลอื่นมารับธรรมะ เป็นบุญใหญ่ ผู้ชักชวนมาจะได้รับการเลื่อนขั้นและเป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงลัทธินี้
    6. ผู้ที่มารับธรรมะทุกคนต้องทำบุญบริจาค 200 บาทขึ้นไป
    7. หลังจากรับธรรมะแล้วจะมีการเผาชื่อผู้รับธรรม เพื่อลบรายชื่อผู้รับธรรมะออกจากนรกไปสู่นิพพาน
    8. การทรงเจ้าสามารถเชิญ จี้กง เจ้าแม่กวนอิม กวนอู นาจา เทพ 8 เซียน พระกษิติครรภ์ วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร อีกทั้งยังเคยปรากฎว่า พระพุทธเจ้าโคดม และ พระอานนท์ ก็เคยเข้าร่างทรง โดยทรงมาพูดเรื่องธรรมะล้วนๆ
    9. การเข้ารับวิถีธรรมเท่านั้นถึงจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้
    10. สำหรับวิถีอนุตตรธรรมนั้น เป็นการรับธรรมก่อนบำเพ็ญทีหลัง ส่วนศาสนาบำเพ็ญตนก่อน จึงค่อยรับธรรมะ คนในอดีตไม่ได้รับธรรมะง่าย ๆ เขาจะต้องบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรมก่อนแล้วจึงค่อยรับธรรมทีหลัง
    11. อนุตตรธรรมเป็นรากของทุกศาสนา
    12. การตัดสินว่า "อนุตตรธรรม" ควรอุบัติขึ้น เมื่อไหร่และถ่ายทอดลงสู่ผู้ใดเป็นพระวินิจฉัย ของพระองค์ธรรมมารดา
    13.ฯลฯ

    ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่คําสอนไม่ใช่สิ่งทีอยู่ในคอกโคไม่ใช่รั้วล้อมคอกโคแต่เป็นสิ่งนอกคอกรั้วโคทั้งนั้น
    กระทู้ห้องพุทธภูมิขิไม่ให้ออกความเห็นก็จะเงียบทั้งที่ไม่ควรเงียบกระทู้นี้ให้วิเคราห์ก็จะวิเคราห์ดังนี้
    1.ไม่ใช่พุทธพจน์
    2.ไม่ใช่หลักธรรมไม่ใช่คําสอนไม่ใช่มรรคา
    3.เบี่ยงแบนคําสอน
    4.เอานรกสวรรค์ นิพพานยัดไส้


    ไม่มีเจตนาและอกุศลในการพาดพิงคําสอนนี้และเจ้าของกระทู้ วิเคราห์ในส่วนที่เกี่ยวกับพุทธศาสน์เท่านั้นในส่วนของธรรมศาสตร์ยังไม่เคยอ่านแบบชัดเจนอ่านแค่จากในห้องพุธภูมิ

    วิเคราห์แล้วก็จงเดิมพันนรก และ มรรคผลนิพพานของเราทั้ง 2 เป็นเดิมพันกันดู ถึงลมหายใจปัจจุบันนี้ถ้ากล้าวิเคราห์ก็ไม่เกรงนรกแล้วหล่ะครับ เจ้าลัทธิใหญ่ผู้บัญญัติมรรคะแห่งนิพพานนี้มีกําลังดั่งราชสีห์นอกคอกโคที่จะรอขยํากล้าจะเดิมพันกับลูกโคตัวน้อยนี้โดยเอามรรคผลนิพพานและสมบัติทั้ง 3 เป็นประกันกันมั้ยหล่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2010
  4. sassyblue

    sassyblue Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +52
    บางข้อก็ไม่ใช้ข้อเท็จจริง คนที่เป็นคนบอกท่านว่า อนุตตรธรรมเป็นแบบนั้น เพราะเขายังไม่เข้าใจเหตุหลักๆที่ต้องเปฯแบบนั้นจริงๆ ทุกอย่างที่กล่าวมาอ่านเผินๆ ดูเหมือน ผิดมากแต่เราจะมาพิจารณาการวิเคราะห์จากปากคนที่กลั่นกลองออกมาแล้วอีกทีไม่ได้ เพราะ ความจริงก็จะถูกบิดเบื่อน จากผู้ที่เข้าใจไม่ท่องแท้


    1. รับธรรมะโดยการเปิดจุดทวาร เพื่อที่จะไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
    :ไม่ใช้เพื่อไม่ต้องเวียนว่ายจตายเกิดการเปิดจุดญานทวารเปรียบได้กับมีทางสิบทางแต่แม่ใจดีบอกทางกลับบ้านให้ลูกทางเดียวเพื่อลัดให้ลูกกลับบ้านเร็วขึ้นเป็นเพียงการบอกทางเท่านั้นที่เหลือลูกต้องเดินเองลูกยังไม่เดินอีกนั้นคงเป็นเรื่องของลูกแล้วที่จะต้องเวียนว่ายต่อไปในสิ่งที่ลูกๆอยู่ที่ไม่ใช้บ้าน

    2. คาถา 5 คำและการไหว้โดยทำมือเป็นเหมือนดอกบัว เมื่อผู้รับธรรมะเสียชีวิตแล้วต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นรหัสผ่านเข้าสวรรค์และจะไม่ต้องกับมาเกิดอีก
    :ข้อนี้ก็เหมือนข้อแรก การทำมือมีความหมายทางธรรมะดียิ่งนัก เปรียบกับทารก เมื่อตายไปทำชั่วก็ตกนรกอยู่ดีถึงแม้จะทำมือเป็น

    3. ผู้ที่ไม่รับประทานอาหารเจตลอดชีวิตจะไม่สามารถบรรลุธรรมได้
    :อนุตตรธรรมไม่ได้สอนให้ห้ามเนื้ออย่างไม่มีเหตุผลผู้ใดบรรลุธรรมขั้นที่เข้าใจถึงการไม่ควรกินเนื้อได้เขาจะละไปเอง เปรียบกับคุณจะไปนอกโลกคุณต้องผ่านชั้นบรรยากาศ คุณมาถึงดาวอังคารแล้วไม่มีทางที่คุณไม่เคยผ่านชั้นบรรยากาศอย่างแน่นอน ดาวอังคารเปรียบกับผู้สำเร็จธรรม ชั้นบรรยากาศเปรียบกับความคิดที่เข้าใจถึงการควรละเนื้อและได้ละแล้ว ถ้าคุณคิดว่าการกินไม่เกี่ยวแต่คุณคิดดีได้ไม่้เกี่ยวกันแสดงว่าคุณยังเดินทางไม่ถึงชั้นบรรยากาศจึงยังไม่เข้าใจหลักการแนวคิดของการละเนื้อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดี คุณอาาจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ หรือต่างๆที่ไม่จำเป็นที่ต้องผ่านชั้นบรรยากาศคือเข้าใจหลักธรรมพื้นๆที่พอจะสำเร็จได้ ส่วนพระโพธิสัตว์ท่านผ่านชั้นบรรยากาศแล้ว

    4. ผู้รับธรรมะแล้วบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับบุญด้วย
    :อันนี้เปรียบกับซื่อกับข้าวไปฝากพ่อแม่ เขามีสิทธิรับจากคนที่เขาให้ความดีด้วย ธรรมชาติให้โอกาสเขาได้รับข้าวจากคนที่เขาเคยทำดีด้วยหากเขาไม่ไ้ดรับเลยก็สมควรนั้นแสดงว่าเขาไม่เคยทำดีไห้ใครเลย

    5. การเชิญบุคคลอื่นมารับธรรมะ เป็นบุญใหญ่ ผู้ชักชวนมาจะได้รับการเลื่อนขั้นและเป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงลัทธินี้ :
    เปรียบได้กับผู้ที่เป็นผู้นำที่ดีที่สุดจะถูกประชาชนเลือกให้ดำเนินการในสิ่งที่ใหญ่ไปอีกเพราะบริหารงานได้ดีในธรรมมะนี้ไม่เป็นจริงในเรื่องของพาคนมาแล้วเลือนขั้น แต่ต้องสอบเช่น จะเป็นผู้บรรยายธรรมก็จะมาฝึกศึกษาธรรมมะด้วยกันใครมีความคิดมากก็ได้ถูกเชิญมาบรรยายธรรมให้เยาวชน หรือคนทั่วไปฟัง


    6. ผู้ที่มารับธรรมะทุกคนต้องทำบุญบริจาค 200 บาทขึ้นไป
    :เนื่องจากการรับธรรมะสมัยก่อนจะเรียกตามกำลังศรัทธาสิบบาทยี่สิบบาท ก็มีอาหาร สามมื้อครบ เนื่องจากข้าวยากหมากแพงเงินที่ได้มาเมือ่หักล้างกับผลไม้ข้าวสามมือ หนังสือธรรมมะที่แจกตอนกลับบ้านแล้ว หายกันหมด เขาจึงต้องกำหนดไม่งั้น จะไม่ีมีทุนพอเพื่อจัดกิจกรรม เปรียบกับการเข้าค่ายพุทธบุตตามวัดทั่วไปที่ทาง รร เรียกเก็บเมื่อเข้าค่าย

    7. หลังจากรับธรรมะแล้วจะมีการเผาชื่อผู้รับธรรม เพื่อลบรายชื่อผู้รับธรรมะออกจากนรกไปสู่นิพพาน
    :- - ไปสู่สวรรค์ชั้นที่มีการบันทึกชือเราเท่านั้นเพื่อเก็บรายชื่อผู้บำเพ็ญเมื่อตายไปเชือ่กันว่าเราจะไปประตูแห่งสวรรค์ และตรวจดูบาปบุญและแรงการบำเพ็บใครชั่วจะติดคุกสวรรค์แทนการลงนรก เปรียบกับโลกเรามีนโยบายใหม่ๆเสมอทางเทวโลกก็มีนโยบายการปกครองรุปแบบใหม่เพื่อให้คนอยู่ภายใต้การปกครองของทางชาวสวรรค์ดีกว่าไปนรกที่ไร้การเตือนและสั่งสอน เขาพยายามดึงคนมารับธรรมเยอะที่สุดถึงแม้ว่าจะเลวให้มาติดคุกสวรรค์ก็ยังดีเพื่อที่จะสั่งสอนอบรบใกล่ชิดขึ้นดีกว่าไปอยู่ห่างไกลไร้ปราณีเช่นนรกเหมือนกับ พ่อแม่เราไม่อยากให้เราไปเรียน รร ไกลๆและระบบการสอนไม่ดี

    8. การทรงเจ้าสามารถเชิญ จี้กง เจ้าแม่กวนอิม กวนอู นาจา เทพ 8 เซียน พระกษิติครรภ์ วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร อีกทั้งยังเคยปรากฎว่า พระพุทธเจ้าโคดม และ พระอานนท์ ก็เคยเข้าร่างทรง โดยทรงมาพูดเรื่องธรรมะล้วนๆ
    :ทุกอย่างที่ดูเป็นศัลยศาสตร์สามารถอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้ทั้งนั้นเรื่องแบบนี้ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจข้าพเจ้าฟังแต่คำสอนของแต่ละพระองค์ว่าดีก็พอ ที่เหลือเขาก็เชื่อกันว่าเป็นแต่ละพระองค์มาจริงๆ เพราะมีหลักฐานมากมายบงบอกว่าท่านรู้เช่น เขารู้สิ่งที่เราคิดอยู่ ซึ่งข้าพเจ้ารู้เองกับตัว พี่ข้าพเจ้าคิดและไม่เชื่อเมื่อพระอาจารย์จี้กงลงมาให้พระโอวาท พี่จึงคิดว่า ถ้าเป็นพระองค์จริงก่อนท่านไปให้โยนผลไม้มาให้ เขาก็โยนมาจริงๆ ให้คนอีกสองคน และให้ตัวพี่เอง ..เรื่องแบบนี้แล้วแต่จะพิจารณาต่อไปถ้าอยากรู้ คุณจงไปเข้าสามวันกับคุณยายคุณดูแล้วพิสูจณ์อะไรก็ได้แล้วคุณจะรู้เองงว่าจริง..ข้าพเจ้าก็เป็นแค่ เด็กคนหนึ่งที่เพิ่งได้เรียนรู้หลักธรรมอันสูงส่งนี้

    9. การเข้ารับวิถีธรรมเท่านั้นถึงจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้
    :ไม่ควรใช้คำว่าเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะปฎิธรรมศาสไหนก็บรรลูได้ทั้งนั้น คริส พุทธ อิสลาม บรรลุได้หมด เพราะธรรมมะไม่แบ่งแยก เพียงแต่อนุตตรธรรมเป็นการที่แม่บอกทางลัดกลับบ้านอย่างที่เปรียบเทียบให้ฟังแล้วข้างต้นคือบอกจุดบำเพ็ญธรรมเวลานั่งสมาธิ...

    10. สำหรับวิถีอนุตตรธรรมนั้น เป็นการรับธรรมก่อนบำเพ็ญทีหลัง ส่วนศาสนาบำเพ็ญตนก่อน จึงค่อยรับธรรมะ คนในอดีตไม่ได้รับธรรมะง่าย ๆ เขาจะต้องบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรมก่อนแล้วจึงค่อยรับธรรมทีหลัง
    :เนื่องด้วยยุคนี้เป็นยุคปลายกัปนโยบายทางสวรรค์ได้เปรียนแปลงให้เร่งรีบบอกหนทางการบำเพ็ญแก่ มนุษย์ เพื่อให้มนุษย์บรรลุเร็วขึ้น คุณคงตระหนักดี ไม่ว่าจะมาทางลัดทางอ้อม ถ้าคุณถึงจุดหมายมันก็มีค่าเท่ากัน ที่เขาให้โอกาศเราขนาดนี้เนื่องจากปัจจุบันกำเนิดพระโพธิสัตว์ขึ้นมากมายที่ส่งสานเข้าข้างมนุษย์เสมอเช่น เจ้าแม่กวนอิมนี่เอง....

    11. อนุตตรธรรมเป็นรากของทุกศาสนา
    :ใช้ เป็นรากฐาน เราเป็นหนึ่งทุกศาสนาไม่แบ่งแยกไม่มีใครต่างกันเปรียบกับพี่น้องห้าคนนัดลงมาเกิดเพื่อสั่งสอนคน อีกคนไปอเมกา อีกคนไปไทย ต่างก็แยกจากกัน ยุคนั้นไม่มีการติดต่อสือสารใครจะมารู้ว่าที่จริงแล้วคำสอนต่างๆที่ห้าศาสนามีนั้นมาจากพี่น้องห้าคนซึ่งมาจากบ้านเดียวกัลแหล่งเดียวกัน แต่พวกเขาลืมเมื่อมาเกิด พี่น้องเปรียบกับศาสดาทั้งห้าหลักๆของโลก เช่นพระพุืธเจ้า ฯลฯ

    12. การตัดสินว่า "อนุตตรธรรม" ควรอุบัติขึ้น เมื่อไหร่และถ่ายทอดลงสู่ผู้ใดเป็นพระวินิจฉัย ของพระองค์ธรรมมารดา
    :อนุตตรธรรมมารดาคือ ธรรมชาติ ทุกอย่างเช่น
    เราตบคน คนตบกลับนั้นเป็นการตัดสินของอนุตตรธรรมมารดา หรือ ธรรมชาตินั้นเอง เพียงแต่เขาเรียกธรรมชาติว่า อนุตตรธรรมมารดา เท่านั้นเอง เนื่องด้วยเหตผลมากมายจะอิบายเดี๋ยวจะมากไป เอาเป็นว่าใครไม่ศึกษาสิ่งๆหนึ่งจริงจังไม่มีสิธกล่าวหาสิ่งนั้นว่าไม่ดี


    13.ฯลฯ
    :สรุป อนุตตรธรรมคือ ธรรมชาติ ธรรมชาติแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ วิทยาศาตร์ และ ศัลยศาสตร์ วิท คือ ธรรมชาติที่มนุษย์เข้าใจด้วยการทดลองแล้ว ศัลยคือธรรมชาติที่มนุษย์ยังไม่เข้าใจและบางเรื่องอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดของมนุษย์เอง ดังนั้นเรื่องทุกเรื่องมีเหตุและผลของมันไม่มีเรื่องไหนที่เกิดขึ้นแล้ว ธรรมชาติอธิบายให้ไม่ได้เพียงแต่เราไม่เข้าใจภาษาของธรรมชาติดีพอ เช่นอะตอมชนกันมันจะสื่อว่าเราสามารถชนกันเกิดธาตุใหม่ได้นะแต่คนเราดูไม่ออกเองว่ามานหมายความว่าอย่างไรและยังมีเรื่องของธรรมชาติอีกหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจว่ามันจะสื่อให้เราทรายอะไร แต่ผู้ที่รู้หมดแล้วคือ พระพุทธเจ้าของเรานั้นเอง ท่านทรงรู้ทั้งจักรวาลการเกิดแตกดับ ทั้งหลักวิทยาศาตร์มากมาน และศัลยศาสตร์<หรือสิ่งที่เรายังไม่รู้เหตผล> ท่านรู้หมดแล้ว เพราะฉนั้นการรับธรรมมะก็เหมือนกับว่าคุณไม่จำเป็นต้องไปอ้อมแบบพระพุทธเจ้าเช่นไม่ต้องไปกัดลิ้น ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องทำอะไรหลายๆอย่างที่มันอ้อม ไม่ต้องนั้งสมาธิผิดจุด เพราะบัดนี้ พระพุทธเจ้าท่านทรงเมตตาให้พวกเรารับรู้ทางลัดที่เมื่อปฎิบัติแล้ววไม่ผิดหวัง:cool::cool::cool::z6
     
  5. สหสาร

    สหสาร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ข้าพเจ้าก็เคยฟังการบรรยายของอนุตรธรรมมาบ้างเหมือนกัน

    แต่แปลกใจตรงที่ผู้บรรยายมักบอกเสมอว่า

    แค่เรางดทานเนื้อสัตว์(ศีลข้อ1)เราก็สามารถบรรลุธรรมได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิ

    ก็เลยเกิดความคัดค้านในใจเพราะมันขัดกับหลักธรรมที่ได้ศึกษามา

    เลยคิดว่า ถ้าเราไม่ฝึกสมาธิ สติก็ไม่มา ปัญญาก็ไม่เกิด เมื่อปัญญาไม่เกิดจะบรรลุธรรมได้อย่างไร เพราะผู้ที่บรรลุธรรมต่างเท่าที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาและได้ฟังมาจากครูบาอาจารย์ล้วนแต่มีรากฐานมากจากการฝึกสมาธิทั้งสิ้น ......

    รักษาศิลข้อ1 แต่ไม่ฝึกสมาธิ แล้วจะบรรลุธรรมได้อย่างไร...

    แต่ที่หนักไปกว่านั้นเขาได้พูดขึ้นมาเป็นการส่วนตัวกับแม่ของข้าพเจ้าอีกว่า

    พระสมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เขานั่งสมาธิกันไปอย่างนั้นแหละนั่งไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร(สงสัยผู้พูดจะมีองฌาญหยั่งรู้วาระจิต)

    ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงธรรมบทเรื่องที่พระเกิดมาเป็นปลาทองปากเหม็นทันที

    สงสัยว่า ทำไม ต้องกล่าวพาดพิงผู้อื่นเพียงเพื่อต้องการความมั่งคั่งของตัวเองด้วย..ให้คำตอบได้ไหม

    ข้าพเจ้าก็เห็นด้วยกับการไม่กินเนื้อสัตว์ซึ่งปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าก็พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ (กินเจเขี่ย) แต่ไม่เห็นด้วยจริงๆที่ท่านได้กล่าวพูดพาดพิงที่พึ่งของข้าพเจ้าในฐานนะชาวพุทธ
     
  6. ภวโลกร้อน

    ภวโลกร้อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,272
    เราก้อเคยเข้าไป..รับธรรมมะ..สิ่งที่เราสงสัยอันดับแรกคือ..
    คาถา 5 คำและการไหว้โดยทำมือเป็นเหมือนดอกบัว เมื่อผู้รับธรรมะเสียชีวิตแล้วต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นรหัสผ่านเข้าสวรรค์และจะไม่ต้องกับมาเกิดอีก
    มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ..ถ้าคนเราทำชั่วมาเกือบทั้งชีวิต
    แล้วอยากขึ้นสวรรค์ก็เพียงแค่มารับธรรมะ..จะได้ไม่กลับมาเกิดอีก..ซึ่งขัดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า..ไม่มีสิ่งใดจะเหนือกฎแห่งกรรมไปได้..
    ผู้ที่มารับธรรมะทุกคนต้องทำบุญบริจาค 200 บาทขึ้นไป
    ทำไมต้อง200ขึ้นไปหากคนจน..อยากขึ้นสวรรค์บ้าง
    คงไม่มีสิทธิ์..จากการที่เข้ารับฟังก็เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น..ถ้าการจะ
    รับธรรมะแบบนี้แล้วได้สวรรค์นิพพาน..เราก็ไม่ต้องมานั่งสมาธิปฎิบัติตามแนวพระพุทธเจ้าให้เหนื่อยน่ะสิ..วันหลังจะกลับมาเล่าว่าเราไปเจออะไรมา..เราจึงไม่happyกับลัทธินี้...
     
  7. M7m5

    M7m5 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก การจะถึงนิพพาน หากเล่าให้กันฟังแล้วยาว อย่าแอบอ้างส่งเดช ต้องพิจารณาด้วยปัญญา พระพุทธเจ้า ท่าน ทรงเสด็จดับขันธ์ปริพนิพพาน คือ คนเราจะต้องดับขันธ์ก่อนจึงจะพบเข้ากับนิพพาน ขันธ์นั้นมีดังนี้ คือ ขันธ์ 5 มีอยู่ว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ รวม 5อย่าง ขันธ์นั้นสำคัญอย่างไรเราถึงต้องดับมัน อันนี้เรามาดูว่าการทำงานของขันธ์นั้นมีอยุ่อย่างไร คือ 1.ใช้รูปเป็นตัวรับ รูปรับแล้ว ส่งมาที่ เวทนา รู้ได้ว่าอะไรคืออะไร ส่งต่อมายังสัญญา คือ ความจำได้หมายรู้ ส่งต่อมาอีกที่ สังขาร เกิดการปรุงแต่งฉับพลัน ส่งมาที่ วิญญาณ คือ ความรู้สึก นึกคิด จนเกิดความอยาก ส่งผลให้เกิดตัณหาคือความอยาก แต่กระบวนการทำงานของขันธ์นั้นรวดเร็วมากประสานกันอย่างฉับพลันจนคนเราไม่รู้ตัว เกิดตัณหาเช่น อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากดม อยากสัมผัส สารพัด ฉะนั้น เราต้องหาทางดับขันธ์ อย่าให้เกิด แต่การที่จะเกิดในขั้นแรก คือรูป โดยรูปกาย อาศัยช่องทางทั้ง 6 คืออายตนะ6 คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นตัวรับเข้ามา เช่นตาเห็นความสวยงามเกิดรัก ชอบ เห็นน่าเกลียดก็ชัง ไม่ชอบ หูได้ยินเสียงดนตรีไพเราะก็อยากฟัง จมูกอยากดมกลิ่นหอม กายอยากสัมผัสของนุ่ม ใจรักลำเอียง นี่เอาแค่คร่าวๆมันเป็นอย่างนี้ เราต้องจัดการกับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ มีทางไหมตอบว่ามี คือ ใช้ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเครื่องกำจัด โอ้ยมีอีกมากมาย เพราะ พระพุทธเจ้าท่านแยกไว้ให้เราศึกษาแล้ว โดยท่านยังแฟร์อีกนะใจกว้างด้วย ท่านบอกว่าไม่ต้องมาเชื่อเราลองปฏิบัติดูก่อนแล้วจะเห็น แต่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องนะครับ นี่ขอยกตัวอย่างแซมเปิ้ลแค่นี้ก่อน ครับ ๆไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะมาเผาชื่อเสียง จูงมือจูงแขนกันไปขึ้นสวรรค์ได้เหมือนพากันไปดูหนัง ตานยไปแล้วมันจะจำคาถาได้ไหม นิพพานนั้นถึงตอนที่ยังเป็นๆนีละครับ แค่ใช้ปัญยาของท่านตรองดูแล้วเราจะไม่งมงายกับลัทธิอุบาทว์ที่สอนให้งมงาย ลองไปเปิดพจนานุกรมดูสิครับ งมงายแปลว่าอะไร อ้างโดยไม่มีเหตุ มีผล นึกเดาเอาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ อ้างว่ามีมาช้านาน หาหลักฐานอะไรก็ไม่ได้ เยอะแยะมากที่จะกล่าวให้หมดในนี้ได้ ขอทุกท่านจงเดินให้ถูกทางครับ สาธุ
     
  8. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    อ่านแล้วขำ แอ๊บแบ้ว จริงๆ55555
     
  9. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    เบื้องลึกเบื้องหลังของลัทธินี้เชิญอ่านได้จากกระทู้นี้ครับ

    http://palungjit.org/forums/อนุตตรธรรม-กับความจริงที่จำเป็นต้องรู้-354445.html

    แล้วทุกท่านจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลัทธินอกรีตนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...