เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

รออ่านครับพี่พี แต่สงสัยได้อ่านวันนี้วันเดียวครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับบ้านยาวเลย อิอิ

 

รูปหล่อ ๕ นิ้ว หลวงปู่บุญศรี

เนื่องจากมีคนเสาะหาพระเครื่องรางหลวงปู่กัน ที่จริงคงหากันมาระยะหนึ่งแล้ว และหน้าที่ผมก็เหมือนกับเรื่องหลวงพ่อทรง คือมาแนะนำท่านให้มาแนวทาง ตามความเป็นจริงที่ผมทราบ ที่ไม่ทราบก็จะบอกว่าไม่ทราบ ผมเคยคิดว่าจะยังไม่เขียนเรื่องวัตถุมงคล เพราะเป็นเรื่องสุดท้ายของหลวงปู่ แต่กระแส มาแรง แล้วก็ขอประทานโทษ ที่พวกท่านเอารูปมาโชว์นี่ ก็โดนๆกันมา...แหะๆ ผมมาเปิดเผย ผมคงถูกด่าอีกตามเคย จากพวกค้าขายวัตถุมงคล แต่ไหนๆก็ไหนๆ และเป็นครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือด้วย เอาก็เอา...แหะๆ

ในบรรดารูปหล่อใหญ่ที่ผมเห็นมาในเน็ท มีรุ่นเดียวที่ทัน หลวงปู่ ขนาด ๓ นิ้ว รุ่นปลอดภัย ที่ผมเล่าไปแล้ว นอกนั้นไม่มีที่ทันน่ะครับ ถึงมีก็คงไม่เปิดเผย แบบแอบไปหล่อกันมา เอง ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่มีใครทราบ และยืนยันว่าไม่มีทางที่หลวงปู่จะเสกให้ ถ้าท่านรู้ ถ้าหล่อเอาไป ให้ท่านเสก ท่านเห็น อย่างดีเงียบ อย่างไม่ดี อาจจะโดนต่อว่า ท่านถือเป็นเคล็ด และ สัจจะของท่านเลยว่า ไม่หล่อรูปบูชาขนาดใหญ่ ผมคิดว่าเกี่ยวกับเคล็ดอย่างใดอย่างหนึ่งที่คนโบราณ เรียนวิชามาบางอย่าง บวชมานานแบบหลวงปู่ จะไม่หล่อรูปขนาดใหญ่ของตัวเอง แต่ถ้าแบบห้อยคอล่ะ หล่อมากี่ถุงก็ได้ ท่านเมตตาเสกให้แน่นอน อาจจะเกี่ยวข้องกับที่คนโบราณ คิดว่าอายุจะสั้นก็ได้ครับ


รูปหล่อที่น่าเก็บที่สุด คือ ดังในรูป ผมมี ๓ องค์ หล่อโดย สำนักแม่ชีประทุม ผมจัดให้เป็นรุ่นแรกแบบเป็นทางการ ในวันหล่อรูปเท่าองค์จริง ซึ่งเททองโดยสมเด็จ เกี่ยว วัดสระเกษ มีการปลุกเสกรูปหล่อนี้ด้วย โดย หลวงพ่อ หวล วัดพุทไธสววรค์ เล่าแค่นี้ก่อน ปริมาณ น่าจะหลักร้อยองค์ จะเท่าไหร่ ต้องไปถามป้าอิ้ด ช่างที่ปั้น และหล่อ เป็นหญิงชรา ซึ่งพอมาปั้นรูปหลวงปู่ เลยไปจำศีลอยู่ที่สำนักด้วย ผมได้พูดคุยกับท่าน เพราะท่านไม่เคยเห็นหลวงปู่มาก่อน ปั้นจากรูปถ่าย ก็ไม่เหมือนซ่ะทีเดียว แต่มีเค้า ระพิม ประพราย พอใช้ได้

หลังปลุกเสกเสร็จ ผมบูชามา ๓ องค์ จ่ายเงินเอง จำได้ว่า องค์ล่ะ ๑๕๐๐ บาท ที่จริงถ้าถามผม ผมว่าไม่ต้องเสกก็ได้ เรื่องเป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังไปเรื่อยๆตามความเชื่อของผม



รูปหล่อของผมเอง ผมเอาของวัตถุมงคลมาฝังที่ฐาน จะเล่าละเอียดอีกที แต่มีที่สำคัญคือ สีผึ้ง ใส่เส้นเกษาของท่าน และ สำลี ชุบโลหิตของท่าน ที่ผมเก็บมาจากโรงพยาบาลใส่ไว้ ผมจะเล่าละเอียดในตอนหลัง

ส่วนของที่สำนักคงไม่มีการฝัง และถ้าจะบูชา แนะนำให้บูชารุ่นนี้ หรือ รุ่นที่มาจากสำนัก เพราะเงินทำบุญเต็มๆ ไม่เข้ากระเป๋าใครเป็นการส่วนตัว หลวงปู่ท่านเมตตาสำนักนี้มาก การหล่อรูปท่าน ผมมั่นใจว่าท่านรับรู้ เมื่อท่านรับรู้หล่อมาแล้ว ใช้ได้แน่นอน

ผมไม่มีอะไรกับทางสำนัก ผมไม่รู้จักคุณแม่ปทุมเป็นการส่วนตัวด้วย เพราะตอนผมมาเจอหลวงปู่ คุณแม่ปทุม ท่านล่ะสังขารไปแล้ว แต่หลังจากผมมาเจอหลวงปู่ มาคิดว่า คนที่รู้จักหลวงปู่ว่ามีดี เสาะ ดั้นด้น มาหา หลายครั้งจนเจอ วัดกระจิ้ดเดียว หลวงตาก็แก่ๆ เงียบๆ ไม่ดังอะไร ถ้าท่านคุณแม่ปทุมเห็นอะไรในหลวงตาองค์นี้ คุณแม่ปทุมท่านนี้ต้องไม่ธรรมดา จะธรรมดาไปไม่ได้เลย ต้องเป็นระดับสูงแบบสุดๆด้วย และท่าน แล้วยังเป็นศิษย์ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดท่าซุงที่ผมนับถือเป็นอย่างสูงด้วย ทำให้ผมมีความเลื่อมใส คุณแม่ปทุม แบบไม่ต้องมีใครมาโฆษณาให้ฟัง

ส่วนรูปหล่อนี้จะราคาเท่าไหร่ เหลือกี่องค์ จะหล่อออกมาใหม่อีกหรือไม่ ผมไม่ทราบครับ เพราะไม่ได้คุยกับป้าอิ้ดนานแล้ว ป้าอิ้ดท่านนี้เป็นคนตรง ผมก็มารู้จักเมื่อไปวัดหลวงปู่บุญศรี และนับถือท่านเรื่อยมา

ใครอยากได้รูปหล่อหลวงปู่ อย่าไปหาแบบที่ทันท่าน และท่านเสก เพราะไม่มี แนะนำว่าให้เอารุ่นนี้ เงินทองก็บำรุงสำนักแม่ชี เล็กๆ สำนักหนึ่ง ให้ปฏิบัติธรรม บำรุงพระศาสนาต่อไปได้อีกครับ

 

ขอบพระคุณมากครับพี่พี

 

กราบเรียนขอคำถามน่ะครับ

ท่านถามว่าอะไรครับ?????? ....แหะๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
เข้มข้นมากขึ้นเมื่อมาถึงประเด็นเรื่องวัตถุมงคลครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี กับท่านแม่ชีประทุมครับ และโมทนากับคุณพีเสาวภาครับ ที่บอกว่ายังมีของดีของหลวงปู่อยู่ที่สำนักแม่ชีประทุมอีก ผมจะได้ลองสอบถามกับป้าอี๊ดดูครับ แต่ไม่ทราบว่ารุ่นนี้มีแร่โครตเศษรฐีผสมอยู่หรือเปล่าครับ และอยากถามคุณพี เสาวภา ด้วยครับว่าหลวงปู่บุญศรีกล่าวถึงแร่โครตเศรษฐีว่าอย่างไรครับ

 

๑) แต่ไม่ทราบว่ารุ่นนี้มีแร่โครตเศษรฐีผสมอยู่หรือเปล่าครับ ???

อันนี้ไม่ทราบครับ ต้องไปกราบเรียนถามป้าอิ้ด

๒) หลวงปู่บุญศรีกล่าวถึงแร่โครตเศรษฐีว่าอย่างไรครับ ???

ท่านบอกว่า " ดี " ครับ

 

กราบ กาบ กราบ หลวงปู่บุญศรี
กราบ กาบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี ครับ

วันนี้อยู่ไทยแต่ขอสวัสดีปีใหม่พี่ๆไว้ก่อน กลัวจะไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตตอนปีใหม่ เพราะไปต่างประเทศ

สวัสดีปีใหม่พี่ๆทุกๆคนครับ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บารมีของ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี หลวงปู่กุ่ม หลวงปู่อั๊บ จงดลบันดาลให้ปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ เป็นปีแห่งความสำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ ของพี่ๆทุกคนนะครับ ไม่เจ็บ ไม่จน ไม่มีโรคภัย ครับพี่

 

เจ้าคารม เหมือนกัน............ อย่าเจ็บ อย่าจน มีกิน มีใช้ กันตลอดปีน่ะจ้ะ

 

พระภิกษุรูปอื่นๆ กับหลวงปู่พระครูบุญศรี

ถ้าเป็นแฟนพันธ์แท้ ของ พี เสาวภา อย่างที่ผมได้เกริ่น มีบุคคลสองประเภทที่ดูพระดีๆออก กลุ่มแรกคือ หมอ ครับ เพราะคนกลุ่มนี้ จัดว่าสติปัญญาความฉลาด ระดับ ท็อบของกลุ่มชนในประเทศ เหนือกว่า วิศวะ และ นักกฏหมายอีก และนอกจากนั้นคนพวกยังอยู่ กับคนเจ็บ คนตาย คนป่วย คนมีทุกข์ อยู่ทุกวัน เห็น วัฎจักรของการเกิด แก่ เจ็บ ตายยิ่งกว่าอาชีพไหนๆ ให้สัปเหร่อ ก็ยังไม่คุ้นกับ คนเกิด กับคนป่วย แต่คุณหมอท่านเจอครบ ซ้ำสติปัญญายังส่ง เมื่อมาในแนว โลกกุตตระแล้ว ไปได้ดี และไปได้ไกล อาจจะด้วยอานิสสงฆ์ที่ สงเคราะห์ คนป่วย คนมีทุกข์มา ทำให้ปฏิบัติบารมีด้านนี้ไปได้ดีกว่าคนธรรมดา

ส่วนคนอีกประเภท ก็พระด้วยกันครับ เหมือนตำรวจดูตำรวจด้วยกันออก หรือ เหมือนทหารดูทหารด้วยกันออกว่า เป็นตำรวจ หรือ ทหาร วินัยเข้มหรือไม่

พระที่รู้จักหลวงปู่บุญศรี ทุกองค์ที่ผมเจอมา จะพูดคุย และมีความเคารพ หลวงปู่บูญศรีทุกท่าน บางองค์พูดคุยกับหลวงปู่ พูดคำ ยกมือไหว้ครั้ง มีความเคารพนบนอบมาก ขนาดว่าบางองค์ ผมพอจะรู้ว่าเป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหาเพียบ ( เช่นหลวงพ่อทางวัดหัวหิน...ไม่บอกชื่อ หาเอาเอง...แหะๆ )

ผมเคยตามหลวงปู่บุญศรีไปในการบวชลูกศิษย์ครั้งหนึ่ง มีพระครูวิชาญเป็นพระอุปปัชาย์ ยังหนุ่มอยู่ อยู่วัดสระเศรษฐี พระครูท่านมีความเกรงอกเกรงใจหลวงปู่เป็นอย่างมาก กริยานอบน้อมเป็นพิเศษเมื่อพูดคุยกับหลวงปู่ วัดของท่านพระครูวิชาญนี้ค่อนข้างใหญ่โต และมีลูกศิษย์ของท่านเองเพียบ เรียกว่ามาทีเป็นคันรถบัส

เมื่อระยะทางไม่ไกล บางทีผมก็แอบเเว็บไปคุยกับท่าน เพราะสังเกตุว่าถ้าหลวงปู่พาลูกศิษย์มาบวชกับท่าน ท่านคงมีดี ในการสนทนาครั้งหนึ่ง ท่านพระครูบอกว่า จะต้องไปล่ะ มีประชุมพระสังฆาธิการที่ อำเภอ ( ที่จริงหลวงปู่ก็ต้องไปด้วย ) ผมเลยกราบเรียนถามท่านว่า อ้างไม่เห็นหลวงปู่ท่านว่าอะไร เพราะถ้ามี ท่านอาจจะวานขับรถไปส่ง ท่านพระครูสุเทพก็บอกว่า ถ้าท่านไป

อันนี้พอจะหมายความได้ว่า หลวงปู่ไม่ไป นานๆอาจจะไปสักที และไม่มีใครมายุ่งกับท่าน แบบมาสั่ง มาเจ้ากี้ เจ้าการ สาเหตุก็เพราะอาจจะอาวุโสของหลวงปู่ ที่มีมากกกว่าพระทั่วไปแม้จะเป็นเจ้าคุณ เจ้าคณะ มาก็ตาม



ในรูปจะเห็นว่า หลวงปู่นั่งหัวแถวตามเคย ผมยาว สีดำสนิท ดูยังหนุ่ม กระฉับกระเฉง ในขณะองค์ที่นั่งต่อๆกันมา หัวขาวแล้ว และ บางองค์ดูแก่งั้กเลย เรียกว่าดูขัดตามาก

บางองค์ผมไปหา เช่นท่านที่เป็นเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง แถว ตาคลี ไม่บอกชื่อวัดอีกเหมือนกัน ยังหนุ่มอยู่ แต่หลังๆได้ข่าวว่า ท่านขอลาออกจากเจ้าอาวาสแล้วออกธุดงค์ ท่านนี้กำลังสมาธิสูง ทำเครื่องรางของขลังหลายแบบ และพวกลูกศิษย์ ก็ชอบไปขอ เอาเครื่องรางหรือ พระเครื่องที่ได้มา เอามาให้ท่านพิจารณา ท่านก็จะบอกไว่ดีอย่างไร แนวไหน

ผมและพวกไปหาก็พูดคุยกับท่าน ท่านรู้จักหลวงปู่พระครูบุญศรีดี เพราะเคยไปหา ตอนพวกเราไป ก็มีคนเอาพระให้ท่านพิจารณา พอเสร็จผมอยากรู้มั่ง ผมเลยควักพระกริ่งแพโบถส์น้ำ ซึ่งพึ่งหล่อเสร็จและปลุกเสกเสร็จมาใหม่ ให้ท่านดู ท่านยื่นมือมารับแล้วท่านถามว่าของใคร พอผมบอกว่าของหลวงปู่ พระครูบุญศรี

ท่านชักมือกลับ ผมเห็นท่าทางแปลกๆ ถามว่าทำไมหรือครับ

ท่านบอกว่า ไม่อยากเจ็บตัว ผมก็ไม่เข้าใจ พยายามจะตื้อท่านแต่ท่านนั่งนิ่งอย่างเดียว หยิบไปดูยังไม่หยิบเลยครับ

เรื่องทำนองนี้ยังมีอีก ผมนึกออกจะใส่มาเรื่อยๆ

 

ขอเรียนสอบถาม รูปที่นำมาลงคนขายบอกว่าเป็นของหลวงปู่บุญศรีครับ ไม่ทราบว่าคุณพี่พี เคยเห็นหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ

 

อ้อ........................แหะๆ

 

แหะๆ....ถ้าเขาลงขาย ไม่ควรนำมาถามเปิดเผยน่ะครับ คนตอบซวยอย่างเดียว

คุณจะซื้อเขาก็ให้เขารับรองมาน่ะครับ ส่วนผมไม่เคยเห็นทั้งสามรายการครับ

แต่ถ้าไม่มี ไม่เหมือน แล้วมาถามผมแล้วว่ามี หรือ ไม่ ถ้าผมไม่เคยเห็น ผมก็จะตอบว่าไม่เคยเห็น แต่คำว่าไม่เคยเห็นไม่ได้หมายความว่าไม่มี อาจจะเป็นของส่วนตัว หรือ เขาทำมา แล้วไปขอท่านลงให้ เสกให้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมจะไม่มีทางทราบได้เลย

ที่ผมร่ายมายาวอยากจะสรุปว่า ท่านไปซื้อของใครมา ก็ให้เขารับรองมาด้วย ท่านซื้อของเขามาแล้ว ก็แสดงว่าท่านเชื่อคำรับรองของเขา ไม่ใช่ว่าท่านซื้อมาแล้ว แต่เอามาให้ผมรับรองว่าแท้ ว่าใช่หรือไม่ ถ้าผมไม่เคยเห็นขึ้นมา ของดีก็อาจจะกลายเป็นของเสีย ไปได้

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่พี และพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่าน
ขอให้มีโชคดี สุขสมหวัง สุขภาพแข็งแรงทุกท่านนะคะ

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

วันนี้อยู่เชียงราย มาเที่ยวแม่ฟ้าหลวง ได้แต่มองตึกเรียนของน้องตั้น เพราะน้องตั้นไม่อยู่ อิอิ....ขอให้น้องตั้นเที่ยวให้สนุกนะคะ

 

วิ่งหาความหนาวน่ะครับ

ส่วนผมน่ะรีบหนี...แหะๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวปู่บุญศรีครับ

 

หลวงปู่ได้รับพระราชทานพัดยศ


มาเล่าประวัติพระเดชพระคุณหลวงปู่ ต่ออีกสักหน่อยน่ะครับ เพื่อวันข้างหน้าจะได้รวบรวมไว้ในที่เดียว ตามรูปเป็นใบแต่งตั้งพระเดชพระคุณหลวงปู่ ได้รับพระราชทาน พัดยศ พระครู ชั้นประทวน เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๗ เป็นยศเดียวที่มี และมาได้ตอนแก่มากๆแล้ว เพราะฉนั้นจะเห็นรูปถ่ายที่หลวงปู่มีพัดยศอยู่หลายรูปที่ลูกศิษย์ไปอัดมาถวายท่าน มีหลายเวอร์ชั่น ผมจะนำมาลงต่อไปเรื่อยๆ และหลังจากการนี้มีการสร้างเหรียญรุ่นสำคัญ เรียกว่ารุ่นพัดยศ จะว่ากันทีหลัง

แต่มีประเด็นนิดที่ผมจะบรรยายให้ชัดเจน ในใบแต่งตั้งหลวงปู่ ลงอายุหลวงปู่ไว้ ๗๗ ปี ๕๔ พรรษา ซึ่งถ้าตามนั้น หลวงปู่จะชาตะ ในปี ๒๔๖๐ และบวชตอนอายุ ๒๓ พรรษา

ในใบสุทธิ จะลง หลวงปู่ ชาตะ ในปี ๒๔๖๐ และ บอกเวลาบวช ไว้เลยว่า บวชเมื่อเวลา ๑๐.๒๕ น.วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๘๓ แต่บอกว่าตอนอายุ ๒๑ ปี

มาที่หลวงปู่ หลวงปู่บอกว่าใบสุทธิมาทำทีหลัง มาทำตอนท่านย้ายไปหลายวัดแล้ว ผมเข้าใจว่าอันเก่าหายไป เมื่อท่านเป็นพระระดับจะเป็นพระอธิการ คงต้องมีใบสุทธิ ในตอนนั้นคงเป็นเวลาหลายพรรษาผ่านไป การทำใบสุทธิก็คงทำตามความสดวกจากความจำ แม้จะว่า หลวงปู่บวช ตอน ๒๔๘๓ แต่ยังลงว่าหลวงปู่อายุ ๒๑ ปีในขณะที่บวช

และอย่างที่วันเกิด ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๔๖๐ ผมเปิดปฏิทินร้อยปีดู จะเป็นวัน พุธ แรม ๑๒ ค่ำ แต่ในใบสุทธิเองลง วันเกิดว่า ๑ฯ๒ เป็นวันที่ ๑ ที่เป็นวันอาทิตย์ เดือน ๒ อันนี้เป็นวันเกิดจริงของหลวงปู่พระครูบุญศรีคือวันอาทิตย์

ที่ผมพยายามจะสรุปคือ ความถูกต้องของเอกสารมีข้อแย้งกันหลายที่ ไม่น่าจะถูกต้องทั้งหมด หรือทำตอนท่านบวชจริงๆ ทำให้หลวงปู่ไม่มีความสนใจจะเก็บไว้ จนขนาดครูจะเอาไปเผาทิ้งกับขยะ แต่เผาไม่ไหม้ ( เป็นเรื่องของเทวดา ) ตามที่ผมเล่าไปแล้ว ส่วนเรื่องพระอุปัชฌาย์ น่าจะถูกต้อง เพราะพระเดชพระคุณ พระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ หรือ ท่านพระครูอุทิศธรรมวินัย ท่านเซ็น ลายเซ็นของท่านไว้ด้วยลายมือสวยงาม ไว้ ๔ แห่ง และในตำแหน่งพระอุปัชฌาย์และเจ้าคณะ อำเภอเมืองอุทัยธานี

ตกลงผมเขียนไปเป็นข้อคิด.......ของความถูกต้องของเอกสารก็แล้วกัน

มาที่อีกประเด็น เพราะมีคนถามผมอีกเรื่องพระเดชพระคุณ หลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก

ตามประวัติ ที่ผมพอจำได้จาก การเล่าของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดท่าซุง พระเดชพระคุณหลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก ท่านเป็นสหายกันมา ตั้งแต่เป็นทหารเรือ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยพูดไว้ว่า ( ถ้าผมไม่แก่จนจำผิด และอ่านจากที่ไหนมาสักที่ )

ปล่องเหลี่ยม งูดิน พิณสามสาย

อันนี้ผมจำได้แค่คร่าวๆ ว่างูดิน หมายถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงคือหมายความว่า ท่านทำงานด้านแพทย์ หรือ อยู่กรมแพทย์ ทหารเรือ งูเป็นสัญลักษณ์ของแพทย์

ส่วนพระเดชพระคุณ หลวงปู่ฤาษีลิง เล็ก ผมจำไม่ได้ว่า สัญลักษณ์อะไรแน่ หรือหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ได้พูดชัด ถ้าเป็น พิณสามสาย ก็ ทำงานด้าน ดนตรี หรือ กรมดุริยางค์นั่นเอง อันนี้น่าจะเป็นหลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก ( เพราะตัวเล็ก )...แหะๆ สรุปเดาเอาดื้อๆน่ะแหละ

ส่วน ปล่องเหลี่ยมหมายถึงปล่องของโรงงานช่างแสง หรือ น่าจะเป็นกรมช่าง ของทหารเรือ อาจจะเป็นหลวงปู่ ฤาษีลิงขาว

ที่เล่ากันมาก็เพียงแต่ให้ทราบว่า การที่พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาเล่าใหฟัง ก็แสดงให้เห็นว่า ท่านทั้งสามองค์ ปึ้กกันขนาดไหน ตั้งแต่หนุ่มๆ

พระเดชพระคุณ หลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก มีชื่อว่า เรือตรี น้อม ไม่ได้ชื่อ เล็ก คำว่าเล็กมาจาก ฉายาของท่าน คือ ลิงเล็ก และ หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เคยเอ่ยถึงชื่อเล่นของหลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก ซึ่งต้องมี อายุและวัยต้องใกล้เคียงกับหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งชาตะในปี ๒๔๖๐ ทำให้ท่านเป็นทหารพร้อมๆกันและมาบวชพร้อมกัน และเมื่อครบ ยี่สิบปี ต้องไปอยู่ป่า ห้ามออกมาตามคำสั่งของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เพราะฉนั้น ก็ไม่มียศอะไรตามพระศาสนา ตามประวัติ ไม่ได้เป็นพระครูหรือมีพัดยศ เพราะไม่รู้จะไปหาตัวท่านที่ไหน ท่านคงไม่สนใจยศถา แต่คงมุ่งโลกุตตระธรรมแต่เพียงอย่างเดียว และพวกท่านบวชกันโดย

ท่านพระครูรัตราภิรมย์ วัดบ้านแพน อยุธยา ( พระอุปัชฌาย์เดียวกัน ที่จริงมาบวชกันสี่องค์ แต่อีกองค์ ผมลืม ...แหะๆ )

แต่หลวงปู่พระครูบุญศรี มียศเป็นพระครู ไม่เคยเป็นทหาร อายุแก่กว่าหลวงปู่ฤาษีลิงเล็กร่วม หนึ่งรอบ และบวชโดย พระครู อุทิศธรรมวินัย ที่อุทัยธานี

ทั้งสองท่านไม่มีความเหมือนกันเลยครับ คนล่ะเรื่อง คนล่ะจังหวัด หนังคนล่ะม้วน

มีแต่คำว่าเล็ก ( ชื่อเล่นๆของหลวงปู่ จริงๆ ตามคำบอกเล่าน่ะชื่อ ตี้ ) และ ใบสุทธิที่บอกว่า ชาตะ ๒๔๖๐ และเป็นอาจารย์ของคุณแม่ปทุม ทุกเรื่องก็ถูกเอาไปผูกเป็น ฤาษีลิงเล็ก อันนี้อาจจะเป็นศรัทธา อยากจะให้เป็น อยากจะให้มีหลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก มาให้ศิษย์วัดท่าซุงมากราบไหว้ เมื่อไม่มี พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้ว อันนี้เข้าใจครับ

แต่ทั้งสองท่าน ไม่ใช่คนๆเดียวกัน ไม่มีความเหมือนกันเลยครับ

เราต้องว่าตามหลักฐาน และประการสำคัญ หลวงปู่พระครูบุญศรีท่านก็ ปฏิเสธมาตลอดว่าท่านไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด แต่ด้วยอุปนิสัย กี่คณะมา ก็มาถามว่าท่านเป็นฤาษีลิงเล็กใช่หรือไม่ โดนบ่อยๆเข้า ตามนิสัยท่านคือ ความนิ่ง เฉยซ่ะ ไม่มีประการใดจะต้องพูดอีก เพราะพูดไปหลายทีแล้ว ก็เลยถือ อุเบกขาซ่ะตามหลักธรรม

และให้สังเกตุว่า พวกที่อยากจะให้หลวงปู่เป็นฤาษีลิงเล็ก จะเป็นพวกค้าขาย จะได้เอาชื่อ ฤาษีลิงเล็ก มาเป็นยี่ห้อ แต่ไม่เคยค้นคว้าประวัติมาเลย ไม่มีหลักฐานอ้างอิง ทำพระมา ทำกล่องมา เขียนว่า ฤาษีลิงเล็กก็ขายได้แล้ว เล่นง่ายๆแบบนี้แหละจ้า

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บครับ