วิธีทำให้สมาธิดีเยี่ยมและเกิดปัญญา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย finalpay, 31 พฤษภาคม 2010.

  1. finalpay

    finalpay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +272
    [​IMG]


    1. อย่างแรกที่คุณต้องมีคือ ศีล 5 นั้นต้องบริสุทธิ์ เพราะศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิ
    2. เดินจงกรม ก่อนเสมอ ที่จะนั่งสมาธิ พระพุทธเจ้าสอนให้เดินจงกรมก่อน สมาธิจึงจะดี ถ้าไม่เดินจงกรมก่อน สมาธิไม่ดี ปัญญาไม่เกิด
    เดินจงกรม 50 นาที นั่งวิปัสนากรรมฐาน 50 นาที แบบนี้กำลังดีเลย
    3. การนั่งวิปัสนากรรมฐาน

    ยกตัวอย่างการนั่งวิปัสนากรรมฐานโดยภาวนาว่าพองหนอ ยุบหนอ

    วิปัสนากรรมฐานนั้นเอารูปและนามเป็นอารมณ์ หรือขันธ์ 5

    ได้แก่

    1.รูป ท้องที่พอง ยุบ นี้เป็นรูป
    2.เวทนา เวลาหายใจเข้าแล้วรู้สึกสบาย นี้เป็นสุขเวทนา รู้สึกไม่สบายนี้เป็น ทุกข์เวทนา รู้สึกเฉยๆๆนี้เป็นอุเบกขาเวทนา
    3.สัญญา จำได้ว่าท้องพอง ท้องยุบนี้เป็นสัญญา
    4.สังขาร แต่งให้พองสั้น พองยาว พองมาก พองน้อย นี้เป็นสัขขาร
    5. วิญญาณ ใจที่รู้นี้เป็นวิญญาณ


    ถามว่า กิเลสเกิดที่ไหน เวลาหายใจเข้าแล้วรู้สึกสบายนี้โลภะเกิด เวลารู้สึกไม่สบายนี้โทสะเกิด เวลารู้สึกเฉยๆนี้โมหะเกิด
    ทำอย่างไรจึงจะระงับกิเลสได้ก็ต้องกำหนดรู้ ทันอารมณ์ปัจจุบัน เช่น ภาวนาว่าพองหนอแล้วท้องยังไม่พองนี้ก็ถือว่าไม่ทันปัจจุบัน หรือท้องพองก่อนแล้วมาภาวนาที่หลัง
    นี้ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ต้องไปพร้อมๆๆกันกิเลสจึงจะขาด

    การกำหนดรู้นั้นต้องประกอบไปด้วยองค์ 3 ได้แก่

    1.อาตาปี ความเพียร
    2.สติ ความระลึกรู้
    3.สัมปชัญญะ รู้ตามความเป็นจริง รู้ทันอารมณ์ปัจจุบัน


    ถามว่าตรงไหนเป็นศีล

    ขณะที่กำหนดรู้ทันอารมณ์ปัจจุบันนี้เป็นศีลในองค์มรรค ทำไมจึงเป็นเพราะขณะกำหนดพองหนอ-ยุบหนอนี้ กายกรรม 3 วจีกรรม 4 ของเราบริสุทธิ์

    ตรงไหนเป็นสมาธิ

    ขณะที่กำหนดรู้ทัน ตั้งสติมั่นอยู่ที่อารมณ์กรรมฐานนี้เป็นสมาธิแล้ว

    ตรงไหนเป็นปัญญา

    รู้รูป รู้นาม รู้สภาวะธรรมที่กำหนดนี้เป็นปัญญา

    มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง

    กลางอยู่ที่ไหน กลางอยู่ที่การกำหนดรู้ทันอารมณ์ปัจจุบัน กลางอยู่ที่ปัจจุบันคือทันกัน

    ขันธ์ 5 เกิดที่ไหนกิเลสเกิดที่นั้น เมื่อสติกำหนดรู้ทันแล้วนั้นคือ มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง กลางอยู่ที่ขันธ์ 5

    ขั้นธ์ 5 เป็นสนามรบของกิเลสเมื่อใดไม่กำหนด เผลอกิเลสมันเข้า เมื่อใดที่เรามีสติกิเลสเข้าไม่ได้

    ดังนั้นขันธ์ 5 เป็นทางสายกลาง

    มรรค 8 คือศีล สมาธิ ปัญญา กับ กิเลสแย่งกันอยู่ตรงนี้


    บางคนเข้าใจว่า พองหนอ-ยุบหนอไม่ใช่วิปัสนาถูกต้อง

    ถ้าเป็นวิปัสนา วัว ควายก็มีท้องพอง ท้องยุบ มันก็ทำกรรมฐานอยู่นะซิ

    แล้วจะทำอย่างไรพองหนอ-ยุบหนอจึงจะเป็นวิปัสนา

    ดังนั้นเราจะต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า วิปัสนาคืออะไร

    วิแปลว่าแจ้ง ปัสนาแปลว่าเห็น

    เห็นอะไร 1.เห็นรูปเห็นนาม 2.เห็นปัจจุบัน 3.เห็นพระไตรลักษณ์ 4.มรรคผลนิพพาน

    วิปัสนานั้นมีอะไรเป็นอารมณ์ ตอบมี ขันธ์ 5 คือรูปกับนามเป็นอารมณ์

    ที่เรากำหนดก็มีรูป - มีนามเป็นอารมณ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น

    ดังนั้นเราต้องลงมือกำหนดรู้ ทันอารมณ์ปัจจุบันกิเลสจึงจะขาดไปถึง 7 ชาติ
    พร้อมด้วยองค์ 3 จึงจะเป็นวิปัสนากรรมฐาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • adsd.jpg
      adsd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32 KB
      เปิดดู:
      5,361
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2010
  2. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    อนุโมทนาครับ

    เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ

    ได้รับปัญญาจากบทความนี้แล้ว อนุโมทนาครับ
     
  3. วันมงคล

    วันมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,303
    อนุโมทนาสาธุ
    จงเตือนตน รูตนอยู่เสมอ
    มีสติ มีวินัย มีระเบียบ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7937.JPG
      IMG_7937.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      225
  4. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    อนุโมทนาด้วยครับ มีประโยชน์สำหรับผู้ปฎิบัติมาก

    ผมขอสอบถามนิดครับ

    ปัญญาเกิดขึ้นเองยังไง ?
    ปัญญาเกิดจากความตั้งใจแล้วเป็นยังไงครับ ?

    ขอบคุณมากครับท่าน
     
  5. acspclubs

    acspclubs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +579
    สิ่งสำคัญคือ ศีล 5 ที่บริสุทธิ์ครับ

    อันนี้แน่นอน

    รองลงมาก็ จิตที่สงบ นิ่ง ไม่คิดฟุ้งซ่าน

    ประมาณนี้อ่าครับ ^^

    อนุโมทนา
     
  6. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    Anumothana Sathu
     
  7. หยก พัทยา

    หยก พัทยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +158
    อนุโมทนา สาธุครับ
    มีศีลบริสุทธิ์ สมาธิที่สงบ ย่อมเกิดปัญญาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Dumberdure

    Dumberdure Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +59
    เห็นด้วยครับ จะนำไปเป็นหลักปฏิบัติครับ
     
  9. เย็นจิต

    เย็นจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +709
    อธิบายได้ชัดมากเลยคับ .... เคยได้สนทนากับคนคริสต์ เห็นว่าการปฏิบัติธรรม และการพิจารณาจิต อารมณ์ เป็นเรื่องขำๆ คิดในใจก็สงสารเขาเหมือนกันที่ไม่มีปัญญาเห็นภัยของชีวิตบนภพมนุษย์ นึกว่าการใช้ชีวิตในตอนนี้เป็นเรื่องสุขสบาย ... อย่างที่ทราบแล้วว่าได้เกิดในเขตศาสนาพุทธนี้เป็นบุญที่สุดแล้ว แต่ถ้าให้ยิ่งๆขึ้นไปต้องปฏิบัติธรรม ตามแนวที่องค์พระสุตตได้แสดงไว้ดีแล้ว ... ขออนุโมทนาแด่ทุกท่านที่ได้ดำเนินชีวิตตามแนวทางของพระศาสดาของพระศาสนาได้ดีแล้ว ... สาธุ
     
  10. สุยโส

    สุยโส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2010
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +1,723
    <TABLE class=tborder id=post3363689 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 31-05-2010, 07:12 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#4 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ธรรมมนุษย์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3363689", true); </SCRIPT>

    สมาชิก ​



    วันที่สมัคร: Jan 2010
    ข้อความ: 45
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 111
    ได้รับอนุโมทนา 124 ครั้ง ใน 34 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_3363689 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อนุโมทนาด้วยครับ มีประโยชน์สำหรับผู้ปฎิบัติมาก


    ผมขอสอบถามนิดครับ​



    ปัญญาเกิดขึ้นเองยังไง ?
    ปัญญาเกิดจากความตั้งใจแล้วเป็นยังไงครับ ?​



    ขอบคุณมากครับท่าน<!-- google_ad_section_end -->



    ตอบ สติมาปัญญาก็เกิดครับ เมื่อปัญญาเกิดจากความตั้งใจ ก็จะทำให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ครับ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE> ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2010
  11. wholesome

    wholesome เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +303
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ขอบคุณที่เมตตา ช่วยชี้ทางสว่าง เพื่อการพยายามในทางชอบต่อไปค่ะ
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ขออนุญาต รำพันครับ

    ปัญญาเกิดขึ้นเองยังไง ?
    เกิด ขึ้นจากการอบรม จิต ด้วยการประพฤติ ในวิธี สมถะวิธี วิปัสนาวิธี
    หลังจากมีความตั้งใจ อบรม ใน2 วิธีการนี้

    ปัญญาก็คือความรู้อย่างนึง
    ความรู้ก็คือความคิดอย่างนึง
    ความคิดก็คืออารมณ์อน่างนึง

    ความรู้ ที่เข้าใจว่า นี่จิตสงบเป็นอย่างนี้ นี่จิตฟุ้งซ่านเป็นอย่างนี้ นี่ก็เรียกว่าปัญญา

    ความรู้ที่เป็นคำตอบ ในสิ่งที่เคยสงสัยมานาน กลับมาได้คำตอบเองโดย ไม่ได้ตั้งใจหา แต่มารู้เอง จากการอบรมจิต จากทั้ง สอง วิธีการ คือ สมถะวิธี และวิปัสนาวิธี นี่ก็เรียกปัญญาอย่างหนึ่ง

    ความรู้ที่เกิดขึ้นมา จากขณะฝึก สมถะวิธีและวิปัสนาวิธี เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ตรงนี้เรียกว่า ปัญญาที่เกิดขึ้นเอง
    เรียกอีกอย่างว่า วิตก ในองค์ปฐมฌาน ในขณะแห่ง การเจริญสัมมาสติสัมมาสมาธิ


    สำหรับการเข้าไปยึดถึอ ความรู้ที่ได้มานี้ เช่นรู้แล้วยึด ก็เรียกว่า เป็นปัญญามิจฉาทิฐิ

    สำหรับความรู้ที่ได้มานี้ รู้แล้วปล่อยวางไป อันนี้เรียกว่าเป็น ปัญญาสัมมาทิฐิ


    ปัญญาถึงที่สุด จะเรียกได้ ว่า ปัญญาอันไพบูลล์ หรือจะเรียก อธิปัญญา

    หรือปัญญารู้แจ้งแทงตลอด ก็ได้


    ปัญญาเกิดจากความตั้งใจแล้วเป็นยังไงครับ ?

    ปัญญา ที่เกิดขึ้นจาก ความตั้งใจ จะเรียกว่า ปัญญาที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจก้ได้ แต่ต้องดูรูปประโยคในการใช้ ในการสนทนา
    เพราะว่า หากไม่มีความตั้งใจแล้ว จะไม่เกิดปัญญาที่มาโดยไม่ตั้งใจจึงต้องอาศัยการตั้งใจมาก่อน ตั้งใจฝึก ตั้งใจอบรม ตามกระบวนการวิธี

    หากจะเรียกอีกอย่าง การอ่านหนังสือแล้วมีความเข้าใจ ก้เรียกว่า เป็นปัญญาที่เกิดจากความตั้งใจ รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน

    ตั้งใจอ่านก็เลยรู้และเข้าใจ จึงเรียกได้ว่าเป็นปัญญา ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ
    ปัญญาตัวนี้ จัดเป็นเรื่องที่อยู่ในโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2010
  13. somkiatdhana

    somkiatdhana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +619
    วิธีทำจิตให้สงบ มีสมาธิสมบูรณ์ ก่อให้เกิดปัญญา คือ 1.รักษาศีลให้บริสุทธิ์ เพราะเป็นฐานของจิต 2. นั่งสมาธิเจริญสมถะ วิปัสสนา โดยกำหนดรู้ถึงลมหายใจเข้า -ลมหายใจออก ๆ ....... จนจิตสงบ เข้าฌานที่ 1 , 2 , 3 , 4 ได้ ( วิธีนี้พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติเป็นวิหารธรรมทั้งก่อนและหลังตรัสรู้แล้ว ) 3. หลังจากปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 แล้ว ปัญญาความรู้แจ้งเห็นสัจจความจริงจะเกิดเห็นอริยสัจ 4 ( ทุกข์ สมุหัย นิโรธ มรรค ) , รู้ว่าทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มิใช้เรา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ไช่ตัวตนของเรา เปรียบเหมือนน้ำในแก้วน้ำที่เมื่อสิ่งสกปรกในน้ำตกตะกอนแล้ว น้ำในแก้วจะใสสะอาดมองตะกอนได้ครับ

    สาธุ สาธู สาธุ อนุโมทามิ ครับ
    ---------------------------------------------
    พุทธวจน พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล สนทนาธรรม ค่ำวันเสาร์




    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มิถุนายน 2010
  14. liquidpaper

    liquidpaper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,423
    ขอบคุณที่มาบอกกันค่ะ... (rose)
     
  15. ผู้ตามหา

    ผู้ตามหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +818
    ขออนุโมทนาด้วยครับ

    ได้รับประโยชน์มากครับกับความรู้นี้
     
  16. kanid

    kanid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,596
    ได้รับความรู้และสามารถนำไปปฏิบัติได้
    [​IMG]
    โมทนาบุญค่ะ
     
  17. tins007

    tins007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +38
    เวทนา เวลาหายใจเข้าแล้วรู้สึกสบาย นี้เป็นสุขเวทนา รู้สึกไม่สบายนี้เป็น ทุกข์เวทนา รู้สึกเฉยๆๆนี้เป็นอุเบกขาเวทนา

    ผมไม่เข้าใจครับ ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องการอะไรกันแน่ครับถึงจะพ้นทุกข์ ระลึกได้แล้วก็ทำตามแบบว่าจะสุขดีใจก็ระลึกได้ว่ามีสุขเวทนา เมื่อทุกข์ก็รู้ว่าทุก เมื่อเฉยๆก็เป็นอุเบกขา แล้วตกลงว่าเราต้องการอะไรหรอครับ ตอนแรกผมคิดว่าต้องการพ้นทุกข์โดยการไม่เอาทุกข์ แต่มันก็ยังมีสุขก็คือความต้องการ เมื่อได้ตามต้องการก็เป็นสุข ก็แสดงว่าไม่ใช่สุขแท้จริง ตกลงแล้วว่าต้องการอะไรครับผมเพิ่งมาศึกษาช่วยชี้แนะด้วยครับ
     
  18. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    "ที่ๆ จะไป อยากได้ก็ไปไม่ถึง ไม่อยากได้ก็ไปไม่ถึง"

    ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบครับ คำตอบสำหรับคำถามนั้น ปูพื้นฐานให้แน่นเสียก่อน แล้วจะเข้าใจได้ครับ ถ้าพื้นฐานยังไม่แน่น ก็ยังจะงงอยู่

    ตอนนี้ ดูให้เห็นเสียก่อน ว่าเวลาผัสสะมากระทบเรา จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ย่อมจะเกิดเวทนาขึ้นเสมอ เวทนาก็มีทั้ง สุข ทุกข์ และอุเบกขา แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว เวทนาที่เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง ดับไป เสมอๆ ไม่มีเวทนาใดเลย ที่คงอยู่ได้ตลอดกาล

    ดูแบบนี้ไปแล้ว เดี๋ยวจะสังเกตได้ว่า ลักษณะของจิตใจตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปครับ เมื่อถึงตรงนั้นแล้ว มาว่ากันต่ออีกที :)
     
  19. tins007

    tins007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +38
    "ไม่มีเวทนาใดเลย ที่คงอยู่ได้ตลอดกาล"

    คำนี้สอนผมให้กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับผมคงต้องหัดระลึกทุกอย่าง หัดสมาธิจนนิ่ง หัดสัมผัสที่มากระทบ แล้วต้องหัดให้รู้ให้จิตตามทันอยู่เสมอ ผมคงจะเข้าใจคำว่า ไม่มีเวทนาใดๆ ขอบพระคุณมากครับ แต่ช่วงนี้ผมสู้กับความคิด กับอารมณ์ จนปวดหัวเลย มันไวจริงๆ มันไม่ยอมผมสะด้วย 5555
     
  20. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    ลองทดลองด้วยตัวเองดูนะครับ การสู้กับอารมณ์เนี่ย
    ถ้าสู้ไม่ไหว มันไม่ฟัง ก็ปล่อยมันไปเลย มันจะคิดอะไร รุนแรงยังไง ปล่อยให้มันคิดไป แต่เรากำหนดสติให้มั่น ตามรู้ไปตลอด มันจะคิดอะไรก็ รู้ๆๆๆๆๆ ไปตลอด แล้วดูสิว่า ที่สุดของความคิดนั้น เป็นอย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...