กรรมกับการเผยแพร่ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rungdao, 6 กันยายน 2012.

  1. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,732
    ปัจจุบันมีการเขียน, โพสต์ (post) กระจายโดยการส่งต่อ (forward) ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, บทความ, ข่าวสารต่างๆ ,รูปภาพนิ่ง หรือกระทั่งภาพเคลื่อนไหว(video clip) กันมากในโลกไซเบอร์หรืออินเตอร์เน็ต ทุกวันนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จัก E-mail, Facebook, Twitter, You Tube, หรือแม้แต่web page ต่างๆ ที่มีชื่อเสียง อาทิ พันธุ์ทิพย์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เทคโนโลยีดังกล่าวมีคุณอนันต์ ในขณะเดียวกันหากใช้ผิดวิธี ก็มีโทษมหันต์ เพราะเป็นช่องทางให้มนุษย์ยุคปัจจุบัน ทำกรรมดี,กรรมชั่ว ครั้งละมากๆ ได้อย่างง่ายดาย ดังข่าวคราวต่างๆที่เราได้รับทางทีวี, หนังสือพิมพ์ ที่มีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการหลวกลวง ,การใส่ร้าย , โจมตี, ลงข้อความ หรือแพร่คลิป อันเป็นความจริงหรือเท็จ ที่มีผลทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย หรือใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง, วิพากษ์วิจารณ์ด่าทอ ขณะเดียวกันผู้อ่านก็สามารถเขียน

    กรรม 3

    การเขียน, โพสต์ หรือการกระจายข่าวส่งต่อโดยการ Forward เป็นการทำกรรมครบถ้วนทั้ง 3ทาง กล่าวคือ

    1. เป็นมโนกรรม กรรมทางใจ เพราะก่อนเขียน หรือส่งต่อ หรือกดlike ได้มีการคิดไตร่ตรองหรือมีอารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นแล้ว ในกรณีเป็น อกุศลมโนกรรม เช่น โกรธ ไม่พอใจ สะใจ สนุก หรือยินดียินร้ายกับเรื่องราว หรือกรณีเป็นกุศลมโนกรรม ก็ได้แก่ จิตเมตตา, กรุณา เป็นต้น

    2. เป็นกายกรรม กรรมทางกาย คือใช้มือในการเขียนหรือส่งต่อ หรือกด like แสดงความเห็นด้วยหรือชื่นชอบ,สนับสนุน ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้กรรมเกิดขึ้น สมบูรณ์ตามความมุ่งหมายของมโนกรรม

    3. เป็นวจีกรรม กรรมทางวาจา การเขียนให้คนอื่นอ่าน หรือการส่งต่อข่าวสารให้คนอื่นได้รับรู้ จัดเป็นวจีกรรม แม้จะมิได้พูดออกมา เป็นเสียงให้ได้ยินโดยตรง แต่คนอื่นก็ได้ยินในสิ่งที่เราคิด หรือคำพูดในใจเราผ่านตัวหนังสือ เช่นเดียวกับการเขียนจดหมาย

    ความหนักเบาของกรรม
    ความหนักเบาของกรรมที่เรากระทำด้วยการเขียน หรือส่งต่อ จะเป็นกรรมหนักเบาแค่ไหนขึ้นกับ

    1. เจตนา หากผู้เขียน ,โพสต์, ส่งต่อ กระทำด้วยอกุศล เจตนาที่รุนแรง เช่น โลภะ โทสะ โมหะ ที่รุนแรงกรรมย่อมหนัก เช่น เขียนด่าทอด้วยความโกรธที่รุนแรง อาฆาต พยาบาท หรือเจตนาส่งข้อความหรือรูปภาพ หรือคลิปที่มีเจตนาที่จะทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย, อับอาย (แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง) ด้วยแรงโทสะมาก,สะใจมาก กรรมก็ยิ่งหนัก ยิ่งถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นความจริงหรือเป็นเรื่องเท็จ กรรมก็ยิ่งหนักขึ้น เพราะเป็นการผิดศีล ตรงกันข้ามหากการกระทำ เขียน ,โพสต์, ส่งต่อ, ที่มากด้วยกุศลเจตนา ,มากด้วยความเมตตา ,กรุณา เช่น ต้องการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก อาทิ ต้องการตามหาคนสูญหาย บริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ฉุกเฉิน, ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่นการดูแลสุขภาพ, การระวังภัยต่างๆ ย่อมได้บุญมาก

    2. ความพยายาม หากกระทำการเขียน, โพสต์, ส่งต่อ ด้วยการใช้ความพยายาม ใช้เวลาทำมาก ทำบ่อยๆ บุญหรือบาปก็มากก็หนักตามความพยายามในการกระทำ

    3. บุคคลที่ได้รับผลกระทบ หากการเขียน, โพสต์, ส่งต่อ ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่มีคุณต่อเราหรือต่อส่วนรวมมาก บุญหรือบาปย่อมหนักกว่ากระทำต่อบุคคลทั่วไป ผู้ที่มีคุณต่อเราหรือต่อส่วนรวมมากได้แก่ พระพุทธเจ้า, พระอริยะสงฆ์, พระมหากษัตริย์, บิดามารดา, ผู้นำทางสังคม ,ทางชุมชน หรือองค์กร ซึ่งสร้างคุณประโยชน์ต่อผู้คนจำนวนมาก อนึ่ง ข่าวสารที่กระจายออกไปอาจไม่มีผลต่อความหนักเบาของกรรมโดยตรง แต่ย่อมส่งผลต่อปริมาณหรือจำนวนครั้งของวิบากกรรม ที่ผู้เขียน, โพสต์ ,ส่งต่อ จะได้รับ เช่นการส่งข่าวสารที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย(ไม่ว่าเรื่องนั้นจะจริงหรือไม่จริง) จากผู้คนจำนวนมากช่วงที่กรรมส่งผล

    ยึดหลักปิยวาจา

    ปิยวาจา เป็นหนึ่งใน สังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็นธรรมที่ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งได้แก่ ทาน(การให้), ปิยวาจา(พูดดี) , อัตถจริยา(การทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นตลอดจนส่งเสริมจริยธรรม), สมานัตตา(ประพฤติตนเสมอต้นเสมอปลายเหมาะแก่ฐานะ) การเขียน ,โพสต์,ส่งต่อ ข้อความ, ข่าวสาร ,ภาพ หรือคลิป เกี่ยวข้องกับปิยวาจาโดยตรง หลักของปิยวาจาคือการพูดดี มีอยู่ 5ประการคือ

    1. พูดเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเท็จ
    2. พูดด้วยคำไพเราะ ไม่ใช้คำหยาบ
    3. พูดด้วยความเมตตา
    4. พูดถูกกาละเทศะ
    5. พูดเพื่อสานประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อแตกความสามัคคีหรือแตกกัน
    จะเห็นว่าหลักปิยวาจา นอกจากที่จะต้องพูดความจริงแล้ว สิ่งที่พูดต้องไพเราะ มีความเมตตา ถูกกาลและสานประโยชน์ ดังนั้นการกระทำด้วยการเขียน,โพสต์ ,ส่งต่อ หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงแต่ใช้คำหยาบ, กระทำด้วยการขาดความเมตตา แต่ทำด้วยแรงพยาบาท, โกรธ ,กระทำไม่ถูกกาลเทศะ หรือกระทำให้แตกความสามัคคี ต่อส่วนรวม หรือทำให้คนแตกกัน ย่อมไม่จัดเป็นปิยวาจา ตรงกันข้าม กลับเป็นการสร้างอกุศลกรรม หรือกรรมชั่วให้ติดตัวไปรับวิบากในอนาคต

    ข้อแนะนำในการเขียน, โพสต์, ส่งต่อ ในโลกอินเตอร์เน็ท

    เนื่องจากการเขียน, โพสต์, ส่งต่อข้อมูล, ข่าวสาร, ภาพ, คลิป เป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อสังคมจำนวนมาก บางครั้งการเขียนหรือโพสต์ครั้งเดียว มีการส่งต่อหรือมีผู้รับข่าวสารอ่านข้อมูล ดูคลิป เป็นพัน หมื่น แสน หรือล้านๆครั้ง ดังนั้นวิบากกรรมก็จะกลับสู่ผู้กระทำในปริมาณที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการสร้างบุญหรือบาปครั้งละมากๆ บางครั้งหนักหรือมากกว่าที่ผู้กระทำจะคาดคิด ดังนั้นก่อนกระทำจึงควรใช้วิจรณญาณ และคิดให้ถี่ถ้วนว่าจะเกิดผลดี,ผลเสียอย่างไรต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือสังคมโดยรวม เพราะกรรมนั้นย่อมย้อนมาสู่ผู้กระทำอย่างแน่นอน ทั้งบุญและบาป เพียงแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้น เชื่อว่าวันหนึ่งๆ พวกเราได้รับข้อมูลข่าวสาร ทางอินเตอร์เน็ทมากมาย โดยเฉพาะ อีเมล จึงขอให้คำแนะนำดังนี้คือ
     
  2. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,732
    (ต่อ)

    1. การส่งต่อ ให้พิจรณาข่าวสารที่ได้รับก่อนว่า เรื่องนั้นจริงหรือไม่, น่าเชื่อถือหรือไม่, เป็นประโยชน์ต่อผู้รับหรือไม่, สานประโยชน์หรือไม่, มีผู้ใดได้รับผลกระทบในด้านเสียหรือไม่ หากคำตอบคือ "ไม่แน่ใจ" ข้อใดข้อหนึ่ง ไม่ควรส่งต่อ
    2. ส่งต่อแต่เรื่องดีๆ เพื่อเป็นบุญหรือกุศลกรรมแก่ผู้ส่ง เช่น ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้รับ เช่น ประโยชน์ต่อการทำงาน, การดำเนินชีวิตและสุขภาพ, เรื่องคุณธรรม, จริยธรรม, และศาสนา, หรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม ผู้ที่กำลังรอความช่วยเหลือ
    3. อย่าส่งต่อแบบตะพืดตะพือ เอาสนุกเข้าว่าโดยไม่สนใจว่า ใครจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องที่ไม่ดีของบุคคลสาธารณะที่เป็นที่สนใจของสังคม ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าหากเราถูกกระทำเช่นนั้นบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร และระวังวิบากกรรมจะกลับสู่เราในอนาคต
    4. อย่าส่งต่อหรือกด like เพราะตรงกับความรู้สึกของเรา หรือตรงกับที่เราคิด โดยเฉพาะเรื่องการเมือง, ศาสนา, การขัดแย้งทางความคิดในสังคม, ชุมชน ,องค์กร เพราะเรื่องความคิดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ละคนตัดสินจากประสบการณ์, ข้อมูลที่ได้รับ หรือที่ตนเองมีอยู่ ซึ่งอาจไม่รอบด้าน, วิธีคิดและทัศนคติที่แต่ละคนสั่งสมมา อย่าลืมว่าความคิด เป็นสมมุติบัญญัติ ไม่มีจริง เป็นมายา ฉะนั้นปล่อยวางเสียบ้าง มิฉะนั้นจิตจะสร้างกรรมไม่รู้จักจบสิ้น เป็นการผูกกรรมสืบต่อภพชาติ ยกตัวอย่าง ผู้ที่มีความคิดขัดแย้งทางการเมือง ทะเลาะกัน ฆ่ากัน เขาทะเลาะกันมาหลายยุคหลายสมัย, หลายภพหลายชาติแล้ว หากยังไม่หยุด จิตจะผูกกรรมต่อเนื่องไปทะเลาะกันชาติหน้าต่อ ฉะนั้นหากได้รับข้อมูลประเภทนี้แล้วส่งต่อ ผู้ที่ส่งต่อข้อมูล ก็เท่ากับเป็นผู้ที่สนับสนุน ร่วมกันผูกกรรมกับเขากันต่อไป ลองคิดดูว่า เวลาเรารับข้อมูลขัดแย้งทางการเมือง ที่ผ่านมา จิตใจเราตอนนั้นปลอดโปล่งโล่งเบาสบายมีความสุข หรือเต็มไปด้วย โทสะ, โมหะ, เคียดแค้นชิงชัง, มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความทุกข์ใช่ไหม และเราก็รับวิบากทันทีคือเครียด, สุขภาพไม่ดีคือโรคภัยไข้เจ็บตามมา แล้วถ้าเรายังส่งข้อต่อมูลไปให้คนอื่นอีก ก็ยิ่งสร้างกรรมมากขึ้น ไปทำให้คนอื่นเครียดอีก ทุกข์อีก หากเราส่งต่อไปอีกร้อยคน พันคน วิบากกรรมจะย้อนกลับมาหาเราขนาดไหน บางคนเป็นคนขี้โกรธ, เครียดง่าย อาจเป็นวิบากกรรมเก่าที่ทำให้คนอื่นโกรธ, เครียด วิบากจึงย้อนกลับมาหา ทำให้เป็นคนขี้โกรธ, เครียดง่าย และสิ่งที่ตามมาคือ โรคภัยไข้เจ็บ หากใครที่มีปัญหาจากโรคภัยที่เกิดจากความเครียด(ซึ่งมีมากมาย) ลองปล่อยวางความคิด ลดอัตตาตัวตนลง โรคภัยไข้เจ็บอาจดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง แต่หากยังกระทำกรรมเช่นนี้ต่อ ก็ยิ่งสร้างกรรมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นกรรมหนักที่เรามองข้ามและนึกไม่ถึงจริงๆ

    Karma No.90 [ Dhammathai.org ]
     
  3. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    อนุโมทนา สาธุ ๆ ๆ ครับ

    ขอขอบคุณที่นำมาลงไว้เป็นธรรมทาน เห็นสาระประโยชน์อย่างยิ่งแล้ว
     
  4. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,732
    โลกเราเปลี่ยนแปลง สังคมเปลี่ยนไป แต่ กรรม และผลของกรรม ยังอยู่คู่โลก และไม่มีใครใหญ่เกินกรรมค่ะ นำมาลงเพื่อ การหยุดคิดสักนิด ก่อนจะทำอะไรลงไป ...
    เมื่อก่อนตัวดิฉันเองก็ไม่คิดหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ต้องระวังแล้ว อย่าลืมว่า บุญ,บาป หรือ กรรม ก็ออนไลน์ได้เหมือนกัน และง่ายดายด้วย ... สาธุค่ะ
     
  5. จอมโลกธาตุ

    จอมโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +2,063
    ขอบคุณมากกับข้อความดี ๆ สมัยนี้ข้อความจากพวกลัทธิที่ไม่หวังดีและทำลายพุทธศาสนามีมากเผยแพร่ความบิดเบือนมากหลายเช่น ลัทธิอนุตตรธรรม ใครอยากรู้จักว่าเป็นไงลองแวะดูได้ที่นี่
    http://palungjit.org/threads/อนุตตรธรรม-กับความจริงที่จำเป็นต้องรู้.354445/

    เจริญ เจริญ สาธุ
     
  6. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    เยี่ยมครับ ว่าจะเขียนเตือนๆกันอยู่ ยังไม่มีเวลาสักที
    สรรพ ทานัง ธรรมทานัง ชินาติ การให้ทานชนะการให้ทั้งปวง แต่ช้าก่อน
    ถ้าผิด หรือมีความเห็นที่ผิด ดันเห็นด้วย ส่งต่อ พิมพ์ต่อ ก็โทษหนักกว่าไม่ให้เสียอีก ทำคนเป็นมิจฉาทิฐิ จะทำอะไรคิดให้ดีครับ อย่า FW ซี้ซั้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...