หลวงพ่อพระราชพรหมยานอธิบายกรรมฐานเรื่องธัมมานุสสติกรรมฐาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 23 พฤศจิกายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    <TABLE width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ธัมมานุสสติกรรมฐาน <HR SIZE=1></TD></TR><TR><TD vAlign=top>ธัมมานุสสติกรรมฐาน แปลว่า ตั้งอารมณ์เป็นการงาน เป็นงานในการระลึกนึกถึงคุณพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=190>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>คำว่าเป็นอารมณ์ หมายถึง ให้เอาจิตใจจดจ่ออยู่ในคุณของพระธรรมเป็นปกติ ไม่เอาจิตไปนึกคิดอารมณ์อื่นนอกเหนือไปจากพระธรรม อาการที่คิดถึงคุณของพระธรรมนี้มีอารมณ์การคิดไว้มากมายเช่นเดียวกับการคิดถึงคุณพระพุทธเจ้า เพราะพระธรรมมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใดๆ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง พระองค์ก็มีความเคารพในพระธรรม เพราะพระธรรมเป็นหลักความประพฤติดี ประพฤติชอบประจำโลก การที่พระพุทธเจ้า พระองค์จะทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณได้ ก็เพราะอาศัยพระธรรมเป็นหลักปฏิบัติ ฉะนั้น ในพระพุทธศาสนานี้จึงนิยมยกย่องพระธรรมว่า เป็นสรณะที่พึ่งอันประเสริฐสรณะหนึ่ง </TD></TR></TBODY></TABLE>การระลึกถึงคุณพระธรรมนี้ ท่านอาจจะเลือกเอาคำสั่งสอนตอนใดตอนหนึ่งที่ท่านชอบในบรรดาคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์มาเป็นอารมณ์ระลึกได้ตามชอบใจ แต่ท่านโบราณาจารย์ ท่านประพันธ์บทสรรเสริญพระธรรมไว้ ๖ ข้อ จะขอนำมากล่าวไว้พอเป็นแนวปฏิบัติ

    ระลึกตามบทพระธรรมคุณ ๖ อย่าง

    ๑. สวาขาโต ภควตา ธัมโม พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว ข้อนี้ หมายถึงเอาการคำนึงถึงคุณพระธรรมแบบรวมๆ ว่า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดรวม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อลงเหลือสาม คือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ได้แก่ ศีลที่บริสุทธิ์อย่างยอดเยี่ยม สมาธิที่ตั้งมั่นอย่างยิ่ง คือ สมาบัติแปด อธิปัญญา ได้แก่การเจริญวิปัสสนาญาณ ได้มรรคผล คือ พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหัตตผล คุณธรรมทั้งหมดนี้ ประเสริษฐยอดเยี่ยม ไม่มีสิ่งอื่นใดเสมอเหมือน เพราะสามารถกำจัดความทุกข์ความเดือนร้อนได้ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และมรณะไปแล้ว คุณธรรมที่เบากว่านั้น เช่น ทาน การให้ ศีล รักษาวาจาใจให้สงบจากเวร สมาธิ รักษาใจให้สงบจากอกุศล และ ปัญญา คือการฝึกวิปัสสนาญาณเบื้องต้น

    ในข้อนี้ท่านสอนให้ระลึกนึกถึงคุณของพระธรรม ตามที่กล่าวมาโดยย่ออย่างนี้ หรือท่านจดจำพระสูตร คือคำสอนที่ยกตัวบุคคล แล้วจะคิดตามนั้น หรือท่านจะคิดตาม พระธรรมข้อใดก็ได้ตามชอบใจ เป็นการระลึกถึงคุณพระธรรมตามข้อนี้เหมือนกัน เพราะบทสวากขาโตนี้ท่านกล่าวรวมๆ เข้าไว้

    ๒. สันทิฏฐิโก แปลว่า ผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง หมายความว่าผลของการปฏิบัติธรรมนี้ ไม่ใช่จะปฏิบัติกันไปตามเรื่อง ผลของการปฏิบัติธรรมนี้เป็นความสุขใจ ท่านปฏิบัติจริง จะได้รับผลจริงในชาตินี้

    ๓. อกาลิโก แปลว่า ไม่เลืิอกกาลไม่เลือกสมัย หมายถึง ผลของการปฏิบัติธรรมนี้ ได้รับผลทุกขณะที่ปฏิบัติ ไม่จำกัดกาลเวลา ว่าจะต้องเป็นเวลานั้น เวลานี้ ตัวอย่างเช่น ผู้ปฏิบัติธรรมในด้านพรหมวิหาร ท่านที่ทรงพรหมวิหาร ย่อมประทานความรักให้แก่คนและสัตว์ไม่เลือกหน้า ท่านไม่ถือโกรธใคร พบคนควรไหว้ท่านก็ไหว้ คนควรให้ ท่านก็ให้ ท่านมีหน้ายิ้มตลอดเวลา ท่านลองคิดดูว่า ถ้าท่านพบคนอย่างนี้เข้า ท่านควรจะรักเคารพหรือท่านควรจะคิดประทุษร้าย ขอให้ท่านคิดเอาเอง ผลของการปฏิบัติธรรมได้ผลไม่จำกัดกาลเวลาอย่างนี้ และในสมัยนี้มีคนพูดกันมานานว่า เวลาล่วงมาขณะนี้ พระอริยะไม่มีแล้ว ท่านอย่าเชื่อเขาเลย ขอให้ปฏิบัติจริง ปฏิบัติตรงตามคำสั่งสอนเถอะ และปฏิบัติพอดี อย่า่เกียจคร้านเกินไป และอย่าขยันเกินไป รับรองว่าท่านต้องการคุณธรรมขนาดไหน ก็มีหวังได้ทุึกขนาด และไม่จำกัดกาลเวลา

    ๔. เอหิปัสสิโก แปลว่า ควรเรียกให้มาดู ข้อนี้ท่านกล้าท้าทายว่า การปฏิบัติธรรมนั้น ของท่านกล้ายืนยันผล ขอให้ทำถูก ทำตรง ทำพอดีเถอะ ท่านรับรองผลว่าต้องได้รับผลแน่นอน ขออย่างเดียว ขอให้เอาจริงเท่านั้น อย่าทำแบบสุกเอาเผากิน คนไม่จริงพระธรรมท่านก็ไม่จริงด้วย ถ้าผู้ปฏิบัติจริง ผลของพระธรรมท่านก็ให้จริง ขอให้จริงต่อจริงพบกันเถอะ แล้วจะได้รับผลสมความมุ่งหมาย

    ๕. โอปนยิโก แปลว่า ควรน้อมเข้ามา ท่านหมายความว่า ผู้หวังผล คือความสุขทางใจ สุขทั้งในชาตินี้ และชาติต่อๆ ไปแล้ว เชิญเข้ามาฝึกได้ ไม่จำกัดกาลเวลา ไม่จำกัดเพศ และวัย ไม่จำกัดเชื้อชาติ สัญชาติ และศาสนา ถ้าเข้ามาจริง ปฏิบัติจริง ท่านรับรองว่าต้องได้ผลจริง

    ๖. ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า อันวิญญูพึงรู้เฉพาะตน คำว่า วิญญู หมายถึงท่านผู้รู้ คือผู้ปฏิบัติที่ได้รับผลแล้ว ท่านผู้นั้นจะรู้ผลเองว่า การปฏิบัติพระธรรมนี้ มีผล คือความสุขอันประณีต และมีความเยือกเย็นใจเป็นพิเศษ มีความสุขประณีตกว่าความสุขอันเกิดขึ้นจากโลกวิสัยหลายพันล้านเท่า
    จากหนังสือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    ที่มา http://www.geocities.com/4465/samadhi/4032.htm

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    ขออนุโมทนาด้วยคนนะครับ สาธุ ๆ ๆ


    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  3. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,442
    อนุโมทนาครับถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณพร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ มหาสาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...