รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์อย่างลึกลับถึง ๔๒ ปี... จู่ๆโผล่ออกมาทุกคนอายุเท่าเดิม!!

รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์ ๔๒ ปี
จู่ๆโผล่ออกมาทุกคนอายุเท่าเดิม



...เรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลพากันปิดปากเงียบ ที่ขบวนรถด่วนขบวนหนึ่งพร้อมกับผู้โดยสารหายลึกลับอย่างไร้ร่องรอย ขณะเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งเมื่อปีพ.ศ.๒๔๙๒ แล้วจู่ๆโผล่ออกมาอีกในสภาพเดิมทุกอย่าง เมื่อต้นปีนี้คือ พ.ศ.๒๕๓๕...

...ที่ประหลาดยิ่งขึ้น ผู้โดยสารจำนวน ๑๒๐ คน และพนักงานประจำรถ ๓ คน มีอายุเท่ากับวันที่หายเข้าไปในอุโมงค์ไม่มีใครแก่อายุมากขึ้นสักวันเดียว รูปร่างเหมือนเดิมทุกอย่าง และพวกเขายังเชื่อว่า ทุกวันนี้ยังเป็น พ.ศ. ๒๔๙๒ อยู่...

...รัฐบาลอิตาลีเก็บเรื่องนี้เงียบที่จะพูดถึงขบวนรถด่วนหมายเลข เอฟ ๖๒๖
และยังไม่ยอมพูดถึงว่าเอาขบวนรถนั้นไปไว้ที่ไหนด้วย ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังคอยจับตาผู้โดยสารทุกคนเว้นแต่มี ๒ คนที่เป็นชาวต่างประเทศหลบหนีการสอบสวนไป ส่วนพนักงานประจำรถ ๓ คน รัฐบาลได้เก็บตัวไว้ในสถานที่หนึ่ง
ไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณชน...

...ข่าวการหายไปของขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ หายลึกลับไป ๔๒ ปี และโผล่กลับมาอีกนั้น แม้ว่าทางการ พยายามปิดข่าว แต่หนังสือพิมพ์อิตาลีเกือบทุกฉบับสามารถที่จะติดตามมาเสนอได้ พยานทีได้รับทราบเหตุการณ์ครั้งนี้เผย ตั้งแต่เริ่มต้นที่ขบวนรถด่วนนี้มีด้วยกัน ๑๓ โบกี้ หายเข้าไปในอุโมงค์รถไฟที่มีความยาว ๑ ใน ๔ ไมล์อย่างลึกลับไม่ยอมโผล่ออกไปอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงปิดอุโมงค์ทำการค้นหา ซึ่งมีทั้งตำรวจและ นักวิทยาศาสตร์ โดยได้ค้นทุกตารางนิ้ว แต่ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อยว่ามันหายไปได้อย่างไร รางถึงกับรื้อออกแล้วนำมาวางใหม่ เมื่อค้นหากันไม่พบทำให้หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวได้ทำการโจรกรรมโขมยรถด่วนนี้ไป ตามรายงานของ นสพ.อุโมงค์ได้เปิดอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี ๒๔๙๓ ตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะมีขบวนรถไฟผ่านไปมาเป็นพันขบวนก็ไม่มีอุบัติเหตุอันแปลกประหลาดลี้ลับนั้นเกิดขึ้นอีกเลย...

...แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ก็มีคนพยายามค้นหาขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ แต่ก็พบว่ามีแต่ความว่างเปล่า บางคนถึงกับสรุปว่า รถขบวนนี้ถูกหุ้มห่อด้วยกาลเวลาและเดินทางไปสู่อนาคตอันไกลพ้น...

...เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ เรืออินเซอร่า ซึ่งเป็นเรือคุ้มครองเรือประจัญบานของกองทัพเรือสหรัฐจู่ๆก็หายอย่างลึกลับจากอู่เรือที่ฟิลาเดลเฟียในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่แล้วจู่ๆก็ไปปรากฏตัวที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ด ซึ่งทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้...

...เมื่อรัฐบาลปิดข่าว หนังสืออิตาลีก็พยายามที่จะขุดค้นออกมา ในที่สุดหนังสือพิมพ์โรมเดลี่ที่ขายดีมากสามารถไปคว้าเอาเทปมาริโอ ฟรานซินี ช่างเครื่องรถไฟขบวนนี้มาตีแผ่ได้ ซึ่งมีดังนี้...
"ขณะที่ขบวนรถเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์นั้น ไม่นานนักก็มีหมอกสีขาวหนาลอยฟ่อง สมองรู้สึกปั่นป่วนไปหมด จากนั้นก็หมดสติไม่รู้สึกตัว มาได้สติอีกครั้งหนึ่งเมื่อขบวนรถได้ออกจากอุโมงค์แล้ว เราคิดว่าเวลาคงจะห่างกันไม่ถึงนาทีดี แต่ที่ไหนได้ เมื่อขบวนรถเรากลับมาถึงสถานีโบล้อคน่าถึงได้ทราบว่า ได้ห่างกันถึง ๔๒ ปี นี่คือสิ่งเดียวที่เรารู้ "
...ผู้โดยสารอื่นๆก็ให้การคล้ายคลึงกันว่า มีหมอกลงจัดเมื่อเวลาเข้าอุโมงค์แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย...

...ผู้โดยสารขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ๒ คน ที่หลบการให้การคือ อดอล์ฟ โรเนอร์ เป็นชาวเยอรมันกับมาร์ติน บาร์ตเลตต์ ชาวแอฟริกาใต้ สำหรับโรเนอร์มีนักข่าวอิตาลีได้โทรศัพท์ไปหลอกถาม โดยอ้างว่าเป็นผู้โดยสารรถด่วนนั้นด้วยกัน...

...โรเนอร์ได้เล่าว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมาก ตอนที่เขาหายไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นเขาอายุ ๓๐ ปีมีลูกชายอายุ ๑๐ ขวบ " เดี๋ยวนี้ลูกชายผมอายุ ๕๒ ปีแล้ว อ้วนและเป็นโรคหัวใจ ส่วนภรรยาผมก็ย่างเข้า๗๐ ปีแล้ว กำลังเป็นโรคเบาหวาน ส่วนผมกลับอายุเพียง ๓๐ ปี เท่านั้น เท่ากับเมื่อปี ๒๔๙๒" ...
...เรื่องราวเหล่านี้เป็นความลึกลับของโลกที่อธิบายได้ยาก ซับซ้อน น่าอัศจรรย์ใจ ต่อผู้ที่ได้รับฟังเป็นอย่างยิ่ง...
...และเรื่องนี้นับว่าเป็นปริศนาอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ชวนติดตาม สืบเสาะ ค้นหาที่มาความเป็นมาเป็นไป...


ที่มา : นานาสาระ $ โหราศาสตร์: รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์ ๔๒ ปี​

 

สุดยอดเลยครับ อยากอ่านอีก

 

"ผมชอบวิทยาศาสตร์ ผมหลงไหลในวิทยาศาสตร์ เพราะมันทำให้ผมมีความสุข ยิ่งได้เห็นอะไรแปลกๆใหม่ ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มันกระตุ้นให้รู้สึกว่าอยากมีชีวิตอยู่เรื่อยๆ
ไม่ต้องมานั่งทุกข์ นั่งโศก เรื่องสังคม คน เศรษฐกิจ ความรัก "

อเล็กซ์ คิตเลอร์

 

ผ่านมา 64 ปี...ป่านนี้พยานคงจะชรากันหมดละสินะ น่าจะมีคนแบบแกรอยตามหาแหล่งที่ซ่อนตัวของผู้โดยสารเหล่านั้นเน๊าะ เอาไปทำเป็นสารคดีหรือหนังก็ได้ อยากดูอ่ะ นักข่าวก็นะ ทำไมไม่สัมภาษณ์ให้เคลียร์กว่านี้ จะทิ้งไว้เป็นปริศนาทำไม เซิร์ชหาในยูทู้ปก็ไม่เจออีกนะ เจอแต่หนังโบราณ ghost train 555

 

หาใน google เจอเวปเดียว น่าจะไม่จริง

 

มีต่อไหมครับ

 

555 โม้ล่ะ อุโมงค์กาลเวลา รึ

 

จริงครับ ผมคนนึงครับอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ซึ่งลงข่าวหน้าหนึ่งมาแล้ว ซึ่งผมกำลังเรียนปวช. ต้นอยู่เลย แต่จำไม่ได้ว่าเป็น เดลิฯหรือเปล่า

 

เณรคำก็คงเช่นเดียวกัน บินหายไปอย่างไ้ร้ร่องรอย

 

เคยอ่านในหนังสือ เค้าบอกว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง คือ ประตูมิติจะเปิด-ปิดในช่วงเวลาสั้นๆ ในสถานที่ใดที่หนึ่งก็ได้ แบบสุ่ม ซึ่งมีการวิจัยและติดตามผลมานานแล้วแต่สาเหตุของการเปิด-ปิด ประตูมิตินี้ยังคงเป็นปริศนา ที่ต้องค้นคว้าต่อไป

เคยอ่านเจอว่า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกไปวิ่งเล่นแถวบ้านแล้วเจอกับหมอกควันประหลาดสีขาว พอเธอกลับมาที่บ้านของตนเองพบว่ามันผุพังเหลือแต่ซากเก่าๆ คนแถวๆนั้นไม่มีใครจำเธอได้ นอกจากเพื่อนของเธอในวัยเด็กคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นคุณปู่อายุราว80ปี....

ถ้าเราสามารถควบคุมการเปิดปิดของประตูมิติเวลาได้ล่ะก็ การเดินทางไปในอดีตหรืออนาคตด้วยไทม์แมชชีนคงไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝันอีกต่อไป

 

น่าแปลกอยู่อย่างนึงเขาไม่มีญาติออกตามหากันเลยหรือคนหายตั้งเยอะ..แปลก!!!!!!

 

เป็นไปได้ในเรื่องมิติเรื่องเวลา ตัวอย่างที่ลองทำดูได้คือเมื่อเข้าสมาธิจิตดิ่งลงสู่ภวังคจิตเมื่อออกจากสมาธิ จะพบว่าเวลาผ่านไปนานมาก ทั้งที่เวลาในสมาธิสั้นนิดเดียว เวลาเป็นมิติหนึ่งในแต่ละภพภูมิ ที่ยาวสั้นไม่เท่ากัน

 

ขอเลือกที่จะไม่เชื่อ ไม่มีทั้งเหตุและผล พยานยืนยัน หรือรูปภาพอะไรเลย ( มีแค่รูปอุโมงค์
แล้วรูปขบวนรถไฟที่เพิ่งออกมาล่ะ ??? ) ผู้โดยสารตั้ง 120 คน + พนักงานประจำรถอีก 3 คน หากเป็นเรื่องจริงจะเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย และก็ไม่มีเหตุผลอีกเหมือนกันที่ อิตาลี จะต้องปกปิด ????

 

ขอตั้งข้อสังเกตสักหน่อยนึง

เรื่องประหลาดพิศดารเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 50ปีขึ้นไป จนถึงหลักร้อยปี
ข้อสังเกตที่ว่า ก็คือ สื่อมวลชนหรือหนังสือพิมพ์ซึ่งมีมานานในสังคมตะวันตก มีการแข่งขันกันสูง การนำเสนอข่าวที่แปลกประหลาด จะช่วยทำให้ยอดขายนสพ.ดีขึ้นกระมัง

อีกประการหนึ่ง การสื่อสารโทรคมนาคมในยุคก่อน ยังไม่ดีนัก การเดินทางก็ไม่สะดวก การที่นักข่าวจะออกไปทำข่าว สืบเสาะหาความจริง ก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสงสัย ว่าจะเป็นไปภายใต้จรรยาบรรณของการทำข่าวมากน้อยเพียงใด

ในยุคสมัยปัจจุบัน ข่าวประหลาดพิศดารเหล่านี้ ไม่มีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆเลย เพราะมันอาจเป็นเรื่องที่ขายไม่ได้อีกต่อไป ยุคสมัยนี้ผู้คนให้ความสนใจกันแต่เรื่องคิวอี เรื่องชัตดาวน์ เรื่องเพดานหนี้กันมากกว่า

 

เห็นด้วยกับข้อความนี้ค่ะ ตอนนั่งสมาธิรู้สึกได้ว่า เรานั่งได้แป๊บเดียวเองนี่นา(ความรู้สึกเหมือนนั่งแค่ 15 นาที) ก่อนนั่งจะดูว่ากี่โมงๆ พอลืมตาดูนาฬิกาอีกที ไม่อยากจะเชื่อ! ใช้เวลาไปชั่วโมงนึงแล้วอ่ะ

 

ตอนเป็นเด็กก็เคยอ่านเรื่องนี้ จากหนังสือในห้องสมุดแต่จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว แต่หนังสือเล่มนั้นจะรวมเรื่องลึกลับต่างๆทั่วโลกไว้ เคยคิดจะเอามาลงเหมือนกันแต่ไม่มีที่อ้างอิงเลยไม่ได้ลง(ผมอ่านประมาณ 30 ปีที่แล้ว)

 

อยากนำไปทำเปนหนัง

 

เค้าออกมาพิสูจแล้วครับ ไม่ใช่เรื่องจริงจะเชื่ออะไรใช้สติซักนิด

 

น่าแปลก เหลือเชื่อค่ะ

 

อยู่ในมิติที่ 11 ครับ