"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 9 พฤษภาคม 2007.

  1. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    แล้วถ้ามีคนอำหละครับ

    ถ้าแกล้งหลับ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ก็ป่นปี้หมดสิครับ
     
  2. พุทธโกมุท

    พุทธโกมุท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ขอบคุณมากครับคุณมิกซ์ อันที่จริงยังคิดอยู่ว่า หลวงพ่อท่านหมายความว่าให้เร่งปฎิบัติแล้วท่านจะสอน หรืออย่าหวังสูงเลย เอ็งไม่มีทางได้หรอก (tm-love) หวังว่าเป็นอย่างแรกนะ


    เมื่อคืนที่ผ่านมา 16/12/07

    ได้ทำสมาธิอธิษฐานว่าตั้งใจฝึก วาโยกสิณ โดยจับลมจากพัดลมที่มากระทบตัว ขอให้หลวงพ่อฤาษีท่านช่วยหากปฏิบัติไม่ถูกวิธี จากนั้นก็นอนทำสมาธิไป พอทำได้ระดับหนึ่งก็หลับฝันไปเรื่อยเปื่อย เกี่ยวกับการไปหาที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่เป็นถ้ำแห่งหนึ่ง มีพระพุทธรูปอยู่ในนั้นโดยรอบ ถ้ำมีลักษณะตื้น แต่กว้างพระที่ดูแลสถานที่ท่านให้ไปเตรียมอุปกรณ์การฝึก ซึ่งเป็นสีน้ำมีจานสีพู่กัน และแก้วล้างพู่กัน ของคนอื่นไปหยิบเอาตามปกติ ส่วนเราไปเลือกเอาแบบที่มีสีเดียว แล้วน้ำล้างพู่กันก็มีสีคล้ำ ขณะหยิบได้ยินเสียงหลวงพ่อว่า "อย่ายึดติดในตำรา" หลังจากนั้นจำรายละเอียดไม่ได้ ตื่นมาอีกครั้งตี 3

    นึกทบทวนเรื่องราวที่ฝันแล้วตีความเอาว่า เรามุ่งปฏิบัติโดยยึดสิ่งที่อ่านมามาก ขอสารภาพตามตรงว่าแม้สิ่งที่พี่คณานันท์พยายามถ่ายทอด เรื่องการปฏิบัติอรูปฌาณ เรายังลังเล คือรู้สึกว่าเมื่อถึงฌาณ 4 ไม่ควรได้ยินเสียงภายนอก ถึงแม้ว่าลมหายใจจะเกือบไม่มีแล้วก็ตาม แต่ที่พี่คณานันท์สอนนั้นได้ยินเสียงโดยตลอด อีกทั้งภาพพระที่นึกก็ไม่ได้มีการดูรูปพระมาก่อน ด้วยความรู้สึกที่คิดว่าไม่ตรงตำรานี้ทำให้ไม่ได้ไปปฏิบัติต่อมากนัก หลังจากนึกได้ดังนี้จึงตั้งใจปฏิบัติต่อ ตามที่พี่คนานันท์แนะนำ

    คราวนี้ไม่นอนสมาธิเพราะเกรงจะหลับ จับภาพพระ (ซึ่งไม่ค่อยชัดนัก) ระยะหนึ่งเมื่อลมหายใจไม่มีแล้ว ก็เพิกภาพตั้งใจนึกถึงอากาสานัญจา คราวนี้ตั้งใจทำโดยไม่สงสัย สามารถรู้สึกได้ว่าแม้เรายังได้ยินเสียงภายนอก แต่เราสามารถรู้สึกถึงความเวิ้งว้างไม่มีขอบเขตได้จริง ซึ่งแตกต่างอย่ามากจากฌาณ 4 ปกติ เมื่อพิจารณาอารมณ์โดยละเอียดแล้วก็เปลี่ยนเป็น วิญญานัณจา อากิญจัญญา และเนวะสัญญา ตามลำดับ ซึ่งสามารถทรงอารมณ์และพิจารณาได้ดี โดยใช้เวลาไม่นาน เมื่อครบแล้วจึงล้มตัวนอน

    ขอบคุณพี่คณานันท์ที่ช่วยสอน และขอขมาอย่างสูงที่ไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติมาแต่แรกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2007
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โปรดในนิมิต ****

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์...มาบอกถึง
    การปฏิบัติที่ถูกวิธี...ตามคำสอนพระพุทธเจ้าที่แท้จริง
    บอกถึงสถานที่ ....
    โลกุตตระธรรม มาโปรดแล้ว.... ต่อไป ท่านต้องตามหาเอง
    เมื่อท่านเจอ...ท่านจะรู้เองว่าข้าพเจ้าพูดในความจริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เหตุที่ยังไม่บรรลุ ****

    พระอาจารย์ต่างๆ ... เป็นผู้ผู้นำขั้นต้นให้กับท่านแล้ว
    ข้าพเจ้า....นำพาเพียงขั้นกลางสู่ "โลกุตตระธรรม"
    ขั้นปลาย... ท่านต้อง "ปฏิบัติสัจจะ" เองจึงบรรลุมรรคผลนิพพาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีประสบการณ์เรื่องผีอำมาเล่า เกิดขึ้นกับตัวเองประมาณ 5 ปีได้แล้วมั้งเกิดตอนตั้งทองได้เดือนกว่าๆ ตอนนั้นเวลาประมาณหัวค่ำได้นอนดูทีวี สามีนอนอยู่ข้างๆ อยู่ๆก็รู้สึกขยับตัวไม่ได้ตัวแข็งไปหมดแต่สติยังมีนะ รู้สึกตัวตลอดพยายามเรียกสามี ร้องช่วยด้วยๆๆ แต่ไม่มีเสียง เห็นสามีนอนดูทีวีไม่มองเราเลย คิดอยู่ในใจว่าฉันเป็นอะไรเนี่ยกลัวมากเลยนะ มีความรู้สึกว่ามีบางอย่างมาสัมผัสตัวเราด้วย จำไม่ได้ว่าสวดมนต์อะไรไปบ้างนึกอะไรได้ก็สวดไป อัดอัดไปหมดสักพักอยู่ๆก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะสามีมาแตะที่แขนเรารู้สึกตัวว่าหลุดจากถูกอำทันที เราต่อว่าสามีทำไมไม่ช่วยเราร้องเรียกตั้งนานไม่มองเราเลย สามีเค้าบอกว่าก็เห็นเรานอนเฉยๆ เงียบๆนึกว่านอนดูทีวี เราเลยเล่าให้ฟังว่าถูกผีอำ (แขวนพระอยู่ด้วยนะ พระนางพญาแม่ให้มา) สามีเลยให้แขวนสิงห์ของหลวงพ่อมุ่ย(วัดเสาธงทอง จ.สุพรรณ) เพิ่มอีกองค์ ต่อมาซัก1-2สัปดาห์มั้ง เราปวดท้องมากมีเลือดออกมามากด้วย พอไปรพ.หมอบอกว่าแท้งลูก เราเสียใจมากเลย ท้องนี้เป็นครั้งที่2แล้ว ครั้งแรกก็แท้ง (แต่ตอนนี้มีลูกแล้ว 2 คน 1ช 1ญ) ตั้งแต่เกิดเหตุผีอำนี้เรารู้สึกว่ายังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก และเราเป็นคนที่ไม่มีสัมผัสที่6 ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยพอมาเจอกับตัวเองนี่บอกตามตรงความคิดเปลี่ยนไปเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์จากเพื่อนเล่าสู่กันฟังนะคะ
     
  6. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    ขอบคุณอาจารย์ที่ให้เกียรติ....ครับ [​IMG]

    แต่ถ้าจะเจอที่สวนลุมฯ คงยากหน่อย เพราะไม่ค่อยชอบบรรยากาศเมืองกรุง น่ะ ครับ

    แต่ถ้าจะไปเจ๊อะตามงานกุศลเช่น หล่อพระ ถวายกฐิน ผ้าป่า ตามวัดที่อยู่ห่างไกล คงจะพอมีหวัง น่ะ เพราะไปบ่อยเกือบทุกงาน

    แล้วอีกที่หนึ่งก็คือ ตามถ้ำต่างๆที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม หรือสถานที่ลึกลับ มีภพภูมิ ชุมนุมกันอยู่เยอะๆ....อ่ะ[​IMG]

    นี่กะว่าเกิดฉุกละหุกหนีภัยพิบัติไม่ทัน ก็กะจะขอไปหลบตามมิติเร้นลับก่อน ช่วงนี้เลยต้องไปตีซี้เผื่อหาช่องทางไว้น่ะ ครับ:d

    เรื่องมีบุรพกรรมกันแต่ปางก่อนก็คงจะจริง ม่ายงั้นคงไม่ได้กิน "หมูเจอร์กี้" ที่ได้กรุณาส่งมาให้ น่ะ ครับ....อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(^)

    ก็ขออนุโมทนา....กับ อาจารย์ที่ได้เป็นผู้ผลักดันให้มีการสัมนาเรื่องภัยพิบัติด้วย น่ะ ครับ หวังอย่างยิ่งว่า บุญกุศลคงหนุนส่งให้ได้อยู่รอดไปเจอกันในยุค "อารยชน ครองเมือง" น่ะ ครับ [​IMG]

     
  7. Rattanaporn

    Rattanaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +13,348
    ฝันมาหลายวันแล้วแต่ไม่ได้เล่าให้ฟังค่ะ....

    ในฝันตัวเองวิ่งอยู่เลียบ ๆ ทะเล...แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีจานบินมนุษย์ต่างดาว
    บินมาดักหน้า...แล้วจอดนิ่งอยู่...หันหัวจานบินมาทางเราด้วยเหมือนกะ
    ว่ากำลังจ้องมองเราอยู่..(คล้าย ๆ ว่าเห็นคนขับจานบินด้วย...อืมม์...
    จานบินลำนั้นเป็นสีเทาค่ะ...คล้าย ๆ สีเหล็กพ่นเป็นสีเทาอะไรทำนองนี้
    แหล่ะค่ะ...(โอ...เหมือนสีปูนสีเมนต์ค่ะ..เทา ๆ )....จากนั้นคุณ*9*ก็
    สะดุ้งตกใจตื่น...
     
  8. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ฝันมาหลายวันแล้วแต่ไม่ได้เล่าให้ฟังค่ะ....

    ในฝันตัวเองวิ่งอยู่เลียบ ๆ ทะเล...แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีจานบินมนุษย์ต่างดาว
    บินมาดักหน้า...แล้วจอดนิ่งอยู่...หันหัวจานบินมาทางเราด้วยเหมือนกะ
    ว่ากำลังจ้องมองเราอยู่..(คล้าย ๆ ว่าเห็นคนขับจานบินด้วย...อืมม์...
    จานบินลำนั้นเป็นสีเทาค่ะ...คล้าย ๆ สีเหล็กพ่นเป็นสีเทาอะไรทำนองนี้
    แหล่ะค่ะ...(โอ...เหมือนสีปูนสีเมนต์ค่ะ..เทา ๆ )....จากนั้นคุณ*9*ก็
    สะดุ้งตกใจตื่น...

    ว๊าว คุณเก้าเป็นคนในระบบแน่ๆแล้ว เจอกันจะได้ชิน เดี๋ยววันหลังเขามารับจะได้ไม่ตกใจนะคะ
     
  9. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    เห็นหลายท่านกล่าวถึงเรื่องผีอำเลยขอนำเสนอข้อมูลให้ทราบกันครับ ผีอำหรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Sleep paralysis นั้นจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในขณะที่คนเรานอนหลับอยู่ ซึ่งจะขออธิบายกันก่อนว่า การนอนหลับของคนเรานั้นมี 2 ช่วง คือ
    1. ช่วงที่ตาไม่กระตุก (Non-rapid eye movement sleep ; non-REM sleep)
    2. ช่วงที่ตากระตุก (rapid eye movement sleep ; REM sleep)
    เมื่อคนเราเริ่มหลับนั้น การหลับจะเริ่มด้วยช่วงตาไม่กระตุกก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นแบบตากระตุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นตาไม่กระตุกใหม่ สลับกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ โดยช่วงที่หลับแบบตาไม่กระตุกจะสั้นลงๆ และช่วง ที่หลับแบบตากระตุกจะยาวขึ้นๆ เมื่อใกล้ตื่น โดยเฉลี่ยช่วงตาไม่กระตุก รวมทั้งหมดจะประมาณร้อยละ 75-80 ของเวลาหลับทั้งหมด ส่วนช่วงตากระตุก รวมทั้งหมดจะประมาณร้อยละ 20-25 และการหลับช่วง สุดท้ายก่อนจะตื่นขึ้นตามธรรมชาตินั้น จะเป็นการหลับแบบตากระตุก
    การนอนหลับช่วงตาไม่กระตุกแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ตามลักษณะของคลื่นไฟฟ้าสมอง คือ
    ระยะที่ 1 เป็นระยะที่คลื่นไฟฟ้าสมองเริ่มช้าลง เป็นระยะที่ปลุกให้ตื่นได้ง่าย
    ระยะที่ 2 เป็นระยะที่คลื่นไฟฟ้าสมองช้าลงอีก เป็นระยะที่ปลุกให้ตื่นได้ยากขึ้น หรือหลับลึกขึ้นนั่นเอง
    ระยะที่ 3 เป็นระยะที่คลื่นไฟฟ้าสมองช้าลงและใหญ่ขึ้นอย่างมาก และพบคลื่นสมองไฟฟ้าแบบนี้อย่างน้อยร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของคลื่นไฟฟ้าสมองที่บันทึกได้ ระยะนี้กินเวลาเพียงไม่กี่นาที ก็จะเข้าระยะที่ 4
    ระยะที่ 4 เป็นระยะที่คลื่นไฟฟ้าสมองช้าลงและใหญ่มากจะพบได้เกินร้อยละ 50 และระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 20-40 นาที
    ระยะที่ 3-4 นี้เองที่เป็นระยะที่คนหลับลึก หลับสนิท ตาทั้งสองข้างจะหยุดการเคลื่อนไหว การหายใจเปลี่ยนเป็นแบบสม่ำเสมอ และหายใจช้าลงๆ หัวใจ (ชีพจร) จะเต้นช้าลงๆ ความดันโลหิตจะลดลงๆ กล้ามเนื้อจะอ่อนตัวลง แต่ไม่ถึงขั้นอัมพาต
    การหลับที่เข้าสู่ระยะ 3-4 นี้ เป็นระยะที่ปลุกให้ตื่นได้ยากคนที่หลับอยู่ในระยะนี้ ถ้าถูกปลุกอย่างรุนแรงจนตื่นจะมีอาการสับสนเลอะเลือน ละเมอ หรือจำในสิ่งที่ตนเองทำไป ไม่ได้เลย อย่างเช่น การเดินละเมอ ปัสสาวะรดที่นอน หรือขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขณะหลับ เป็นต้น ประมาณกันว่าในคืนหนึ่งๆ คนเราจะมีการพลิกตัว ขยับตัวหรือเปลี่ยนท่าทางการ นอนอย่างน้อย 8-9 ครั้ง เมื่อลักษณะการหลับเปลี่ยนจากแบบหนึ่งไปเป็นอีกแบบหนึ่ง (จากแบบตาไม่กระตุกเป็นแบบตากระตุก)
    ส่วนการนอนหลับช่วงตากระตุกนั้น เป็นการหลับที่คลื่นไฟฟ้าสมองมีลักษณะเหมือนกับในขณะที่ตื่นอยู่ การหลับช่วงนี้เป็นการหลับที่ประกอบด้วยการกระตุก (การเคลื่อนไหว เร็วๆ) ของตาทั้ง 2 ข้างเป็นพักๆ ภายใต้หนังตาที่หลับอยู่ ช่วงนี้การหายใจจะไม่สม่ำเสมอ และช้าลงกว่าแบบตาไม่กระตุก มีการหายใจทางท้อง (ก็คือการหายใจโดยใช้กระบังลมนั่น เอง) เป็นสำคัญ กล้ามเนื้อทั่วร่างกายจะอ่อนตัวลงมากเหมือนเป็นอัมพาต ยกเว้นกล้ามเนื้อตาที่ยังทำงานให้ตากระตุกเป็นพักๆ
    ในขณะที่นอนหลับช่วงตากระตุกนี้ เป็นช่วงที่ปลุกให้ตื่นได้ง่าย หรือบางคนก็อาจจะตื่นเอง และมักจะจดจำความฝันต่างๆ ในช่วงก่อนตื่นได้ (เพราะฝันในช่วงที่หลับแบบ ตากระตุก) และนี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่ตื่นในช่วงนี้เกิดอาการขยับแขนขาหรือส่งเสียงร้องไม่ได้ จึงเรียกกันว่า ผีอำ และทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมผีอำจึงมักเกิดช่วงใกล้ตื่น เพราะตรงกับช่วงตากระตุกนี่เองครับ ทำให้ กล้ามเนื้อยังอ่อนแรงอยู่ในขณะที่เราเริ่มมีความรู้สึกตัวกลับคืนมา และการที่ขยับตัวไม่ได้เลยทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนถูกของหนักทับที่หน้าอกดังที่คนที่เคยเป็นผีอำเล่าต่อๆ กันมานั่นเองครับ
    บางคนอาจสงสัยว่าทำไมบางคนจึงเกิดผีอำ บางคนไม่เกิดผีอำล่ะ ก็เคยมีคนรายงานไว้ถึงปัจจัยที่ส่งเสริมการเกิดผีอำครับ ได้แก่
    • การนอนหลับในท่านอนหงาย
    • การที่นอนหลับไม่เป็นเวลาหรืออดหลับอดนอน
    • มีความเครียด
    • มีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมหรือการดำเนินชีวิตอย่างกะทันหัน
    • อุปกรณ์ที่ช่วยในการนอนหลับหรือยาที่รักษาโรคซนสมาธิสั้น หรือยากลุ่ม antihistamines เช่น chlorpheniramine ที่เราใช้ลดน้ำมูกจากโรคหวัดนี่เองครับ
    โดยปกติแล้วผีอำไม่ถือเป็นโรค ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาครับ เวลาโดนผีอำให้นอนเฉยๆ สักพักอาการจะหายไปเอง หรือป้องกันการเกิดผีอำโดยหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผีอำดังกล่าวข้างต้น เช่น นอนหลับให้เป็นเวลา รู้จักผ่อนคลายความเครียด เป็นต้น แต่สำหรับคนที่มีอาการบ่อยๆ ก็มีวิธีการที่พอจะช่วยได้ คือ การผ่อนคลายความเครียด โดยก่อนนอนสัก 1-2 ชั่วโมง อย่าไปทำอะไรที่มันตื่นเต้น (เช่น ดูโทรทัศน์ เล่นเกมส์) ก่อนนอนอาจจะอาบน้ำอุ่น หรือดื่มนมอุ่นๆ โดยเฉพาะนมถั่วเหลือง จะทำให้หลับสบายขึ้น หรืออาจจะใช้วิธีสะกดจิตเข้าช่วย โดยการโปรแกรมจิตใหม่ก็ช่วยได้ กรณีที่มีอาการมากๆ เราอาจใช้ยาได้ โดยใช้ยาพวกยาคลายเครียด หรือยาต้านเศร้า เช่น imipramine ซึ่งจะทำให้หลับสนิทขึ้นโดยไม่ต้องฝันมากนักครับ
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ blueberryy [​IMG]
    สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ มีเรื่องมากมายที่อยากจะบอกเล่า แต่ ครั้งนี้ขอเล่าประสบการณ์ที่ผมยังคาใจ
    จากสมัยเด็ก ผมเป็นคนกลัวผีเอามากๆ กลัวความมืดด้วย จนมาถึงจุดเปลี่ยน ที่เหมือนกับย้อมจิตของตัวเองให้ผิดไปจากมนุษย์ ไร้ความรู้สึก เย็นชา ไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็เหมือนกับว่า รู้สึกตัว รับรู้อะไรมากกว่าปรกติ อารมณ์หยุดนิ่ง พูดตรงๆว่า มันเหมือนอยู่คนเดียวบนโลกเลย ที่แปลกคือ เวลาที่เจ็บป่วย แต่กับไม่มีผลกระทบใดๆเลย เช่น เป็นแผลเหวอะหวะที่แขน แต่ก็คิดว่า ไม่ได้เจ็บอะไร มันก็ไม่เจ็บเลย คราใดที่ปวดท้องหนัก(เป็นโรคกระเพราะ) มันจะทรมานมาก แต่แค่คิดว่า ไม่เป็นอะไร มันก็จะหายไปประมาณไม่กี่วินาทีมันก็ปวดอีก ก็คิดตลอด มันก็ปวดๆหายๆ แต่พักหลังๆรู้สึกว่า ตัดความรู้สึกออกไปได้หมด ความรู้สึกจากร่างกาย ช่วงนั้นรู้สึกดี ดีตรงที่มันไม่รู้สึกวุ่นวายอะไรเลย เรียบง่าย ไม่มีสุขหรือทุกข์ เหมือนกับไร้ตัวตน

    เรื่องที่สอง คือเรื่องความฝัน ตอนช่วงวัยรุ่น พึ่งเข้าใจคำว่า เวลานอนหลับโดนผีอำเป็นอย่างไร แน่นๆ ขยับไม่ได้ ทรมาน พยายามตะโกนเรียกพ่อ แต่ก็ไม่มีเสียงออกมา เหมือนจะทำอย่างไรก็โดนขัดขวางทกอย่าง แต่หลังจากเกิดจุดเปลี่ยนอย่างด้านบนที่กล่าวมา มันกลับไปคนละเรื่อง จากที่โดนผีอำตอนนอนหลับ เพราะเราจะสติแตก เวลาฝันเห็นสิ่งที่เรากลัว เช่นโรงศพ เราจะช๊อคมาก สติจะกระเจิงหมด เสี้ยววินาที ก็เหมือนกับโดนผีอำ แต่หลังจากจุดเปลี่ยนที่ว่า เราคิดว่าเรากำหนดความฝันได้สมทุกอย่าง เช่น พอฝันว่าเห็นโลงศพ ก็จะทำให้โลงนั้นหายไปทันที ถ้าฝันว่าตายก็คิดว่าไม่ตาย ก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้ ฝันว่าต้องการจะไปไหน ก็เหมือนกับหายไปที่นั่นในพริบตา และอื่นๆอีกมาก ก็จะว่าไปก็สนุกดี กำหนดได้ทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง แต่ส่วนมากเราจะฝันไปในแนวทำลายล้าง คือเหมือนกับเราเป็นความชั่วร้าย ที่ไม่ยอมสิ่งใด พยายามเอาตัวรอดที่สุด จนที่สุดปัจจุบัน ก็ยังนอนแล้วโดนผีอำ แต่เราเหมือนกับว่าเราฝืนได้ เริ่มจากพยายามลืมตา ตอนแรกๆก็เหมือนกับหนังตามันหนักมาก ลืมเท่าไรก็จะปิดอย่างเดียว แต่หลังๆเราลืมได้เต็มตา ขยับแขนขาได้จนเหมือนกับหลุดจากมัน แม้กระทั่งในฝันเราก็ พยายามคิดทำลาย ที่สำคัญ ในความฝันทุกฝันมันเหมือนจริงมาก มีความรู้สึก มีอารมณ์ เป็นมากกว่า 3 มิติ ฝันของเรามันคืออะไรกันแน่ มีความเป็นมา และเป็นไปอย่างไร

    อีกนิด ผมเป็นคนไม่ค่อยได้ทำบุญ ไม่ค่อยได้เข้าวัด จนถึงแทบจะไม่นับถือศาสนาเลย นับถือแค่จิตใจของตนเองแค่นั้น ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่

    ปล. ที่ได้กล่าวมา อาจจะยาวไปหน่อย หากท่านใดอ่านจนจบ พอจะชี้แนะได้บ้างก็ต้องขอ กล่าว คำขอบคุณ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ยินดีต้อนรับคุณบลูแบร์รี่*...สู่เวบพลังจิตค่ะ...

    ความฝันของคุณดูน่ากลัว..ลึกลับ..คงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตอบ
    ปัญหานี้แล้วล่ะค่ะ....

    ส่วนในเรื่องของการสั่งจิตว่าไม่เจ็บ..(ในกรณีที่เราเกิดบาดเจ็บอะไรขึ้น
    มานั้น..บางครั้งคุณ*9*ก็เป็นเหมือนกันค่ะ...)...คือกำหนดว่ามันไม่
    เจ็บ...มันก็แค่แผลเท่านั้นเอง...แล้วมันก็ไม่เจ็บนะคะ..(จริงอย่างที่คุณ
    พูดค่ะ...อันนี้เห็นด้วยจากประสบการณ์ของตัวเองค่ะ)..

    ส่วนในเรื่องโดนผีอำนั้น ..คุณ*9*ก็แกล้งทำเป็นหลับไม่รู้ไม่ชี้แล้วค่ะ
    ตอนนี้...ปล่อยให้ผีอำไป...(แกล้งหลับจนหลับไปจริง ๆ เลยค่ะ...)


    ธรรมรักษานะค่ะ..คุณบลูแบร์รี่*





    ---------------------------------------------------------------------

    ขออนุญาตตอบครับ

    ที่ได้อ่านดู น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งครับ อันตรายทั้งกับตัวคุณเองและผู้อื่น การไม่มีศาสนา ไม่นับถือสิ่งใดนอกจากจิตตัวเองนั้น ไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจใดๆเลย

    ความรู้สึกอยากทำลายล้างนั้น หากขอถามว่า ทำลายไปเพื่ออะไร หากเราเป็นผู้ถูกทำลายเราจะรู้สึกอย่างไร การเบียดเบียนกันมันดีตรงไหน แล้วรู้ไหมว่าผลที่สุดตนเองจะไปจบในที่ใด

    ความไร้ความรู้สึกเป็นมนุษย์ผู้มี มนุษยธรรม มีเมตตา มีพรหมวิหารสี่นั้น ก็เหมือนตนเองอยู่ในนรกที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มเปล่าๆ

    หากกุศลในอดีตกาลของคุณยังพอมีอยู่ก็ ขอให้กลับใจสู่ทางบุญทางกุศล กลับจิตสู่ความเป็นสัมมาทิษฐิเสียเถิด โลกนี้ โลกหน้ามีจริง กรรมและกฏของกรรมมีจริง

    ท่านที่อนุโมทนานั้นก่อนที่จะกดโมทนา กรุณาอ่านและทำความเข้าใจ ในเนื้อหาของกระทู้นั้นๆก่อนด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่ากดไปทุกกระทู้ที่อ่าน หรือโมทนากับเขาจริงๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2007
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    คุณ blueberry

    คุณจะศรัทธาพุทธศาสนาหรือไม่ก็ได้ แต่ด้วยทิฏฐิของเราผู้ใฝ่ศึกษาในพุทธศาสนา ขอแสดงความเห็นในกรณีของคุณดังนี้

    การที่คุณแยกเวทนาให้ขาดจากอารมณ์ และวิญญาณ(การรับรู้) ได้ ก็เพราะเคยภาวนาดูเวทนามาก่อน

    การที่คุณแยกกายให้ขาดออกจากการเผารนนำมาซึ่งกิเลสมากมายทางผัสสะ ก็เพราะเคยภาวนาดูกายมาก่อน

    แต่เมื่อถึงขั้นดูจิต ท่านกลับหลงไปกับนิมิต เผลอไปย้อนดูอดีตหน้าหลังมากมายแล้วไม่ปล่อยวาง เห็นกรรมที่เคยทำ และเห็นกรรมที่คนอื่นเคยทำกับท่าน จนไม่อาจระงับสติได้ เพราะคนแวดล้อมต่างเคยเป็นมิตรและศัตรู จนไม่อาจระบายความคับแค้นใดๆ จนกลายเป็นพยาบาท และคลาดการบรรลุไปเสียก่อนสิ้นอายุขัย

    ชาตินี้จึงเดินมาถึงจุดเดิมได้โดยวาสนาที่ทำมามากต่อมาก ผนวกกับการใกล้เวลาแห่งการจากไปของเหล่าสัตว์มากมาย วาสนาเดิมจึงถูกเร้าขึ้นมาเพื่อเตือนตนอีกครั้ง

    การที่คุณปราศจากครูช่วยชี้แนะ หรือ ไม่คิดเชื่อฟังใครนั้น ก็เพราะกรรมเก่าที่ไม่เชื่อฟังคำทัดทานของเหล่ากลัยาณมิตร และครูผู้สอน ทั้งยังอาจไปปรามาสว่าร้ายท่านเหล่านั้น(ถ้าเป็นแผลในปากบ่อย หรือสะสม ก็ชัดในข้อนี้)

    สิ่งที่ท่านต้องทำต่อ และจะง่ายดาย แต่ต้องทิ้ง หรือ ข้ามให้ได้ คือ การทำจิตานุสติปัฏฐาน หรือ การทำสมาธิสมถะโดยใช้อานาปานสติ(เหมาะแก่โทษะจริต) เพื่อตามลมหายใจเพียงชั่วครู่ ท่านจะคลายเข้าฐาน แล้วใช้นิมิตแห่งลมตามต่อได้เอง แต่ดูให้ดีหากหายใจแรงเร็วเมื่อไหร่ให้ค่อยถอน หรือ อาจตามรู้ดูไปอย่างเป็นกลาง

    ไม่ว่าจะทำอย่างไรท่านต้องตามรู้อย่างเป็นกลางให้ได้ อย่าไปตีค่า อยากดู อยากเป็น ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น ไม่อยากมี ให้ได้ คือ เป็นกลางให้ได้

    เชื่อว่า ท่านจะพบอาการของจิตได้รวดเร็ว และจะรับรู้ว่า มันไม่อาจกำกับเรา หรือเราไม่อาจกำกับมัน ได้ในไม่ช้า

    ไม่ว่าอะไรจะเกิด จะรู้สึกอะไร ขอให้นึกเสียว่า ธรรมดา -- อย่างนี้ก็มี -- เช่นนั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2007
  12. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    การที่มีพระรัตนตรัยเป็นหลักในการเดินทางสู่เส้นทางแห่งธรรมนั้นสำคัญยิ่งครับ ขอให้คุณ BLUEBERRYY โชคดีได้พบแสงแห่งธรรมเพื่อเดินบนเส้นทางธรรมได้ตลอดลอดฝั่งด้วยครับ ผมเอาใจช่วย อย่าลืม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สำคัญสุดๆครับ
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ฝันว่า แผ่นดินไหวแรงมาก ได้ยินเสียงครืนๆ ดังมากเลย ทุกคนแจ้งข่าวกันให้หนี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2007
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เผชิญหน้ากับ tsunami

    คือศรีภรรยาอยากไปเที่ยวฮอลลิเดย์ช่วงหยุดสามวันเลือกตั้ง แล้วก็เลือกที่จะไปชะอำ !

    บรึ๋ย ทำไงได้ละท่านผู้ชม

    บอกข่าวพยากรณ์ไปแล้วด้วยนะ แต่น้องหญิงเขาอยากไปอยู่ดี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดละนะ

    ใกล้เคียงแล้วนะหนุมาน ถ้าแจวเรือสามวามารับได้ก็มานะ

    :)
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โปรดมนุษย์ ****

    *** ในความฝัน...
    โลกุตตระ เป็นห่วงมนุษย์เรื่อง น้ำท่วมจะท่วมใหญ่
    วันที่ ๒๙ มกราคม ****
    ...(เพียงแค่ฝัน)....

    จากนั้น
    ข้าพเจ้าได้สังเกตติดตาม
    การเดินทางของน้ำแข็ง
    จากแหล่งน้ำในจักรวาล คือทางช้างเผือกมาลงสู่โลก
    ตั้งแต่ประมาณ ปี๔๒ เกิดเป็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกเป็นระยะๆ
    ตามกระแสลมจักรวาล
    ปัจจุบัน น้ำในโลกได้เพิ่มมากขึ้น
    แต่ยังไม่สิ้นสุด น้ำกำลังมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนครบ ๑๖ ส่วนที่ขาดหายไป
    ต้องใช้เวลาเป็นสิบกว่าปี โลกจึงจะสมบูรณ์ดั่งอดีต

    สำหรับผู้ที่เชื่อ ขอให้เตรียมแผนการอพยพเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง
    เพื่อหนีน้ำจากหิมาลัยและประเทศจีน มาตามแม่น้ำโขง ในวันที่น้ำมา
    จะทะลักเข้าประเทศไทย บริเวณเชียงแสน เชียงของ
    และ การเตรียมรับภัยสึนามิ จากการเปลี่ยนแปลงปรับตัวของโลก
    เมื่อเปลือกโลกใต้มหาสมุทรผืนใหญ่ขยับปรับตัว
    จะเกิดคลื่นพัดสู่ภาคใต้ของประเทศไทย

    มนุษย์ทุกคนควรที่จะหันหน้าเข้าหาสัจจะธรรม
    คือ ปฏิบัติสัจจะธรรม
    ทำ... "ใจ ปาก การกระทำ" ให้ตรงกัน....
    จึงต้องมี "สัจจะ" นำชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อพาให้รอดพ้นภัยพ้นกรรมที่กำลังมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    กั้นไม่ให้ไปต่อ...เตือนว่าทะเลข้างหน้ามีภัย
    จานบินที่ฝันเห็น....คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โลกุตตระธรรม มาเตือน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เอาเบอร์มาก็ได้ พวกเราได้ข่าวอะไรจะแจ้งไปให้ทราบ เพราะพวกเราผลัดเวรกันเฝ้าแผ่นดินไหวจ้า
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ไม่เป็นไรครับ คือ คะเนอยู่แล้วว่าต้องไปเจอ ตามนิมิต ตอนแรกคิดว่าบ้านเกิดภรรยา ดูไปดูมาไม่ใช่ คงเป็นชะอำ ก็นะ มันประจวบเหมาะพอดีกับการทำนายเรื่องวันที่ 23 เนอะ

    เหลืออีกอย่างเดียวคือสถานที่ ถ้าเป็นสถานที่ๆ มีคนมานั่งทำกิจกรรมอะไรกันอยู่ไม่รู้รวมๆกัน แล้วเราเดินเข้าไปถึง น้ำก็จะมาพัดไปทันที นั้นคือนิมิตกึ่ง แดจาวู ที่ตัวเองมักมีมาให้เห็นบ่อยๆ

    ในนิมิตนี้เราจะจมหายไปเลยนะ แต่อยู่ดีก็ภาวนาพุทโธขึ้นมา คงใกล้ตาย หลังจากนั้นก็พบกับเสียงนางฟ้ากระมัง มาบรรยายกรรมดี และชั่วของเรา สรุปลงด้วยข้อที่ว่ามีเด่นๆอยู่บ้าง ก็เลยให้รอด พาไปขึ้นฟั่ง แล้วก็ทำหน้าที่ต่อ

    ก็ว่ากันไปตามกรรมนะ ฝืนไม่ได้ ทิ้งเขาก็ไม่ได้ มันจะผิดซ้ำชาติที่แล้วๆมา
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เรือโนอาร์ ****

    เรือสามวา
    ก็...สัจจะ นั่นเอง
    เรือใคร เรือมัน เป็นเรือประจำตัว
    เล่าปังลำ น้องหญิงลำ
    หากเล่าปัง ลำใหญ่... ก็อาจช่วยคนอื่นได้ด้วย

    หนุมาน ผู้นำสาร...ได้ยื่นเรือให้ทุกคนแล้ว
    ใครรับไว้ ก็โชคดี
    ใช้ชีวิตตามสัจจะธรรม ไม่ไปขวางกับโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    แหม คิดว่า หนุมาน จะไม่พูด สภาวะธรรมกับเขาบ้างเสียอีก เห็นเน้นแต่สัจจะ

    ชอบนะ สัจจะ คือ เรือ

    สัจจะที่เรากล่าวว่าจะดูและภรรยาไม่ทิ้ง ก็คือ เรือที่ร่องไป

    ชาติก่อนคงทิ้งเธอไว้มาก เอาแต่งาน จริงๆชาตินี้งานก็ค่อนข้างมาก่อนอีกนะ

    ชาตินี้เขาก็เริ่มจะเบื่อเราแล้ว

    แต่งานนี้คือที่สุด ถ้าจะต้องตายเพราะงานนี้ ก็ขอรักษาสัจจะ ดีกว่า

    รักษาอธิษฐานของกันและกัน ต้องเสมอกัน

    เพราะต้องมีปัจจัยที่สมควร เรือมันถึงจะใหญ่ สัจจะมันถึงจะโต
     

แชร์หน้านี้

Loading...