กุมารทอง

ขนมที่เราถวายกุมารทอง เอาไปถวายทำสังฆทานพระได้หรือเปล่า เผื่อกุมารจะได้บุญตรงจุดนี้ แล้วกุมารทองวัดสามง่ามเปนสายเทพหรือพราย

 

อนุโมทนาครับ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ

แนะนำเอาขนมที่ให้กุมารแล้ว นำไปมอบให้กับเด็กใกล้บ้านหรือเด็กที่ไหนก็ได้ครับ น้องกุมารก็ได้บุญเหมือนกัน ตอนให้ก่อนปล่อยหลุดจากมือก็บอกสักหน่อยว่า "บุญกุศลที่ได้กระทำนี้ขอมอบให้กับน้องกุมาร ขอให้น้องกุมาร.................."

การถวายอาหารหรือเครื่องสังฆทาน จะเรียงลำดับตามความศรัทธา พุทธศาสนิกชนถือว่าพระสงฆ์เป็นสาวกของพระพุทธองค์จึงมีบุญบารมีสูงกว่าคนทั่วไป ในการถวายของเราจะถวายของให้กับพระสงฆ์เป็นอันดับแรก ไม่ควรนำของเหลือหรือของที่ให้แล้วนำไปถวายแด่พระสงฆ์อีก ถึงเจตนาของเราไม่ได้คิดว่าของที่จะถวายแด่พระสงฆ์เป็นของเหลือหรือของใช้แล้วก็ตาม ผลของกรรมที่ได้รับถ้าได้เกิดมาใหม่เป็นคนอีก สิ่งของเครื่องใช้ทั้งหลายของเรา เราจะได้เป็นของมือสอง ไม่ได้ใช้เป็นคนแรก

อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณครับ สาธุๆ

 

เอาของเดนไปถวายพระ คนถวายก็จะได้ตามนั้น

 

คิดคล้ายๆกันเลยค่ะ แต่ไม่ถึงกับเรียกว่าของเดนนะค่ะ

มันคล้ายกับของที่ใช้แล้วเอาไปให้พระใช้ต่อ มันยังไงไม่รู้ค่ะ บอกไม่ถูก


ตามคอมเม้น ที่ 1 นะค่ะ แบบนั้นดีเรยค่ะ เพราะ ได้บุญในสิ่งที่ควรค่ะ

เด็กก็คือเด็กเวลาได้ของก็ยิ้มแก้มปริเรย

เวลาได้แบ่งเพื่อนก็เท่ากับมอบมิตรไมตรีด้วยค่ะ สมควรให้เด็กจะดีกว่านะค่ะ

ถ้าจะดีกว่านี้เราว่าน่าจะเป็นของเล่นหรือเสื้อผ้า ดีกว่านะ อย่าเป็นขนมเลย

มันดูแปลกๆไงชอบกล อ่ะ

ส่วนสายไหน ก็คงจะไม่ทราบนะค่ะ ส่วนใหญ่วัดนี้ น่าจะเทพมากกว่านะค่ะ

ก็เอามาเลี้ยงเเล้วเป็นยังไงบ้างละค่ะ ลองสังเกตดูเอา

ส่วนใหญ่ เทพจะสงบเสงี่ยม เรียบร้อย ส่วน พราย ออกแนว ขี้แกล้ง ดึงนู้นนี้ แกล้งทำต่างๆนาๆ

ปล. ฟังหูไว้หูนะค่ะ ความนี้คือ มีความเป็นไปได้ตามที่ผู้คนต่างๆได้กล่าวมา อาจจะเท็จ หรือจริงก็เป็นได้ อย่าปักใจเชื่อมากนะค่ะ อิอิ

 

เอาว่าพูดในมุมที่พอจะพูดได้
และคุณรักพระพุทธ สามารถพิสูจน์เองได้ด้วยตัวเอง
แล้วกันนะครับ..กุมารทองวัดสามง่ามไม่ใช่สายพรายครับ..
ลักษณะกระแสพลังที่อยู่ในกุมารทองเป็นลักษณะพลังงาน ๒ สาย
ที่ไหลมารวมกันส่วนตัวเรียกว่า ลักษณะพลังงานเชื่อมสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กับเชื่อมระบบครับ.ในความหมายก็คือผู้ที่จะทำการบรรจุพลังงาน
อย่างนี้ในกุมารทองได้ นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่่เชื่อมต่ออยู่ภายใต้
ครูบาร์อาจารย์อยู่ตลอดเวลาแล้ว.ยังจะต้องมีความสามารถในการ
รู้เรื่องราวเกี่ยวกับบทพระคาถาต่างๆเฉพาะทางเป็นอย่างดี.
ที่สำคัญระดับจิตใจค่อนข้างสูงและเป็นผู้มีเมตตาอย่างดีด้วยครับ
..ซึ่งถ้าหากรู้ในส่วนของบทพระคาถาอย่างเดียวแต่จิตใจไม่สูง
และไม่มีเมตตาอย่างที่ผู้ปลุกเสกในกรณีผู้บรรจุพลังงานใน
กุมารทองวัดสามง่ามนี้ถึงจะเป็นกุมารทองสายพรายครับ.
กุมารทองสายพรายมีหลักสังเกตุง่ายๆ
ให้พยายามสังเกตุลักษณะนิสัยเราร่วมด้วยนะครับ
ซึ่งอ่านแล้วเราจะต้องไม่พยายามเข้าข้างตัวเองนะครับ..
แม้ว่าเราจะอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว
ตัวพลังงานในวัตถุจะมีกำลังมากขึ้นสว่างขึ้น แต่ว่าจะไม่มีการสลับเปลี่ยน
และเปลี่ยนแปลงเหมือนๆพลังงานในรูปแทนตัวคุณ.ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนกัน
ไปเรื่อยๆ พอพลังเดิมออกไป พลังงานกลุ่มใหม่ที่มีความดีเท่าเดิมก็จะเข้า
มาแทนที่เองอัตโนมัติ ในลักษณะพลังงานอย่างน้อยเท่าเดิม
หรือมีมากกว่าได้ มีฤิทธิ์มากกว่าได้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่ครอบครองวัตถุนั้นๆเป็นหลัก
.ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับลักษณะพลังงาน
ในมีอยู่ในรูปแทนตรงนี้ถ้าสายตาเราดีหน่อย
และพอสังเกตุลักษณะพลังงานได้จะเข้าใจที่พูดได้เป็นอย่างดีครับ..
ถ้าช่วงไหนๆก็ตามที่ร่างกายเราเกิดความอ่อนแอขึ้นมา
หรือว่าเราห่างความดี ทำความดีไม่ต่อเนื่อง
สักแต่ว่าพอทำๆไป ทำบ้างไม่ทำบ้าง
หรือทำไปงั้นๆหละ พอได้เล่าให้คนอื่นๆฟังได้บ้าง
เราได้เข้าวัดหรือทำอะไรมาบ้างอย่างนี้หรือว่า
ห่างเหินการปฏิบัติไม่ว่าจะเหตุอะไรก็ตาม พวกสายพราย
พวกนี้มันจะชอบมาแทรกความคิดเราแบบเนียนๆ ในลักษณะที่จะโน้มคิด
ให้เราคิดว่าตัวเราเองสามารถมีอะไรได้เหนือกว่าคนอื่นๆ.
ขนาดทำบุญบ้างไม่ทำบุญบ้างนะครับ.
จะฝึกปฎิบัติอะไรก็ตามมันจะหลอกให้เราคิดว่าเรื่องแบบนี้ง่ายๆ
ถ้าอย่างเราจะฝึกคงไม่ยาก ทั้งๆที่ชาตินี้ฝึกจริงๆก็ไม่ถึงระดับ
ที่จะใช้งาน ได้แต่ระดับพื้นฐาน พอเอาไว้โม้หลานฟังได้..
.และมันจะชอบโน้มให้ใจเราไม่เป็นกลาง
เช่น ให้เราคิดว่าการฝึกแบบนี้ดีที่สุด เราชอบที่สุด อย่างอื่นไม่ดี
พูดง่ายๆว่ามันเริ่มแยกแยะ ตัดสิน แบ่งข้างตั้งแต่เรายังไม่เริ่มฝึก..
.และที่สำคัญที่น่ากลัวก็คือ มันชอบ
โน้มให้เราคิดว่าถ้าเราจะทำอะไรไม่ดีซักอย่างแล้วเราสามารถจะทำ
ได้ดีกว่าบุคคลที่เค้าทำไม่ดีกับเราก่อน. และนานเข้าพอเราพอเริ่ม
ทำอะไร หรือพอสัมผัสอะไรได้หน่อย มันจะชอบโน้มให้เรายึดว่าสิ่ง
ที่เรามี สิ่งที่เราทำได้ ดีที่สุดตรงทางที่สุด และชอบโน้มให้เราหาข้อ
อ้างเพื่อมาเน้น มาเสริม ความเข้าใจของเรา โดยเฉพาะชอบอ้าง
แต่ระดับสูงสุด..ทั้งๆที่ตัวเราเองแม้แต่เทวดายังไม่เคยเห็น ยังไม่มี
มาคบเราเป็นเพื่อน เวลาที่เราพูดเรื่องนามธรรม ความคิดเราจะไม่
เกินระดับภูมิพวกนี้ คือจะพูดถึงแต่เรื่องผีทั่วๆไป กลุ่มไม่ค่อยมีฤิทธิ์
แต่เทพ พรหม เทวดา หรือระดับครูบาร์อาจารย์ตลอดพระพุทธฯ
ท่านต่างๆจะทำให้เราห่างเหิน.
เพราะมันจะชอบให้เราคิดว่า เราเก่งกว่า
บารมีมากกว่า และที่สำคัญนะครับนะครับ มันชอบจะโน้ม
ให้เรานึกคิด รำคาญ บุคคลที่ใกล้ชิดสนิมกับเรา ไม่ว่า บิดา มารดา
ญาติสนิท เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งบุคคลใกล้ตัวว่าเป็นเสมือน
ตัวขวางการปฏิบัติของเรา และถ้าหากว่าเรามีเรื่องอะไรกับใคร
มันจะชอบโน้มใช้แต่วิธีการที่ค่อนข้างรุนแรง ประมาณนี้ครับ.
ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยปกติของภูมิพวกนี้ ที่ชอบมาแอบแทรกในจิตเราแบบแยบยลครับ.
ถ้าเรามีวัตถุประเภทใดๆก็ตามไว้ในครอบครอง
แล้วเราเริ่มมีลักษณะนิสัยอย่างที่ว่ามานี้.เป็นไปได้
ก็ควรนำไปไว้ในที่ๆเหมาะสมเพื่อให้จิตเราห่างๆจากกระแสพวกนี้ไว้ครับ..
ถ้าอ่านดูแล้ว คล้ายๆเราบ้าง ไม่ต้องกังวล เป็นเรื่องปกติ
ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะกำลังสติเราอาจจะยังไม่พอ.
มันเลยเผลอไปร่วมคิดปรุงแต่ได้.
แก้ด้วยการอาศัยการสร้างสติทางธรรมให้มากๆและเดินปัญญาควบคู่
กันไป.ตลอดจนสร้างความดีเพื่อมาหนุน แม้ว่าพวกนี้มันจะชอบ
มาขวางตอนที่เราสร้างความดีก็ตาม ต้องเข็มแข็งไว้..
ความเข้าใจตรงนี้เราถึงจะเดินมาถูก.ความเข้าใจในเรื่องนามธรรม
อานิสงค์ตรงนี้เราถึงจะมีเพียงพอที่จะเข้าใจเรื่องนามธรรมได้.
ไม่งั้นมันจะโน้มเราให้ไปในเรื่องความสามารถพิเศษ แบบรู้เอง เห็นเองแต่ใน
กลุ่มที่พวกนี้แทรกๆไว้หมด พิสูจน์เป็นรูปธรรมให้คนจับต้อง
ไม่ได้อะไรทั้งหลายแหล่นั้นหละครับ....
..อย่างพระในรูปแทนของคุณรักพระพุทธ
จะเน้นในลักษณะที่จะเป็นเชื่อมสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ ลองจับพระดู แล้วใช้สมาธิเล็กน้อย
จะมีความรู้สึกตึ๊ดๆ ขึ้นบริเวณกลางกระโหลกช่วงที่ตรง
กับบริเวณใบหูโน้มมาข้างหน้าศรีษะเล็กน้อย...
ส่วนกุมารทองวัดสามง่าม จะมีกระแสพลังงานที่ขึ้นตรง
มาจากส่วนเหนือบริเวณท้ายทอยเขามาร่วมกับพลังงาน
ส่วนกลางกระโหลกร่วมด้วยครับ..
ปล.ค่อยๆอ่านนะครับ เพื่อว่าจะพอเข้าใจ..
ฝากข้อคิดไว้ให้อ่านเล่นๆนะครับ...
ไม่ได้บอกคุณ รักพระพุทธนะครับเป็นแบบทั่วๆไป
เพื่อว่าบางคนมาอ่านจะพอยังกลับตัวได้
ถ้าเราไม่มีมีเงินใครจะมายืมเงินเราครับ
ถ้าเราไม่มีบุญบารมีมากพอดวงจิตดวงวิญญานที่ไหนเค้าจะขอส่วนบุญเราครับ
ถ้าเราไม่มีศีลไม่มีหิริโอตัปปะเทวดาที่ไหนจะนับเราเป็นเพื่อนครับ
ถ้าเราไม่ศีลไม่มีหิริโอตัปปะไม่มีสมาธิไม่มีความสามารถทางจิตเทพ
ที่ไหนจะนับเราเป็นเพื่อนครับ
ถ้าเราไม่ศีลไม่หิริโอตัปปนะไม่มีสมาธิไม่มีความสามารถทางจิต
ไม่มีเมตตาที่ออกจากจิตแบบไม่แบ่งแยก เลือกข้าง พรหมที่ไหน
จะมานับเราเป็นเพื่อนครับ..
ถ้าจิตเราไม่มีฤิทธิ์ไม่มีความสามารถจริงๆพวก
อสูรกายที่ไหนเค้าจะมาหาเราเพื่อทดสอบความสามารถเราครับ
ถ้าเราไม่นับถือเคารพพระรัตนตรัยจากใจจริง ครูบาร์อาจารย์
พระพุทธฯที่ไหนจะมาคอยส่งเสริมเราครับ..
อยากรู้ว่าเราดีแค่ไหน ให้ดูว่าระดับไหนที่เค้านับเราเป็นเพื่อนครับ
ไม่ใช่ว่าฝึกนั่น ฝึกโน่นฝึกนี้ แล้วคนโน้นบอกนั่นบอกนี้
ก็คิดเอาเองว่าตัวเองดี อย่างนั้นอย่างนี้ อย่างนี้เสร็จทุกราย
เราจะฝึกปฏิบัติอะไรก็ตามให้ดูว่า ฝึกแล้วเราดีขึ้นไหม อัตตา
ในตัวเองมันน้อยลงไหม ไม่ใช่ว่าฝึกแล้วรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้น
ดีกว่าคนอื่นๆ ของฉันวิธีฉันดีที่สุด ขี้อิจฉาคนที่เค้าเก่งกว่าเรา
อย่างนี้มันนิสัย พวกภูมิอะไรคงไม่ต้องบอกนะครับ..
ขอบคุณมากครับ สำหรับพื้นที่ตรงนี้..

 

เคยสงสัยเรื่องกุมารทอง วันนี้ได้คำตอบค่อนข้างละเอียดเลยครับ ขอบคุณคุณ Nopphakan มากครับ

 

ของถวายแล้วให้ไว้ใต้ต้นไม้ ถ้าอยากถวายพระทำไมไม่เอาไปตักบาตรแล้วอุทิศให้ล่ะ

กุมารทองวัดสามง่ามเรารู้สึกได้ว่าจะเป็นสายธรรมชาตินะ ไม่ถึงกับเทพแต่ไม่ใช่พราย

 

เลี้ยงน้องกุมารไว้7 องค์สายเทพค่ะ
น่ารักมาก… ไม่ดื้อไม่ซนเลยค่ะ