ขอความรู้เกี่ยวกับขันธ์ ๕ ครับ

มนุษย์เราประกอบด้วย ขันธ์ ๕ อันได้แก่

รูป ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ
เวทนา ระบบรับหรือรู้สึกสิ่งที่สัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
สัญญา จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ
สังขาร ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ
วิญญาณ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ หลังจากแยกแยะแล้ว

อยากทราบว่าเมื่อเราตายจากความเป็นมนุษย์ไปแล้ว รูป จะสลายไป
แล้ว เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จะสลายไปด้วยหรือไม่ครับ
อทิสสมานกาย ถือเป็น รูป ด้วยมั๊ยครับ วิญญาณของคนที่เพิ่งตาย
จะยังคงไว้ซึ่งขันธ์ทั้ง ๕ อยู่บ้างมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

 

ลองไปค้นดู ในส่วน ของ พระไตรปิฎก

ในส่วนของเล่ม ที่ เขียนว่า
ปฏิสัมภิทามรรค มีอยู่ ๔ เล่ม

หากมีโอกาสไปวัด ก็ลองไปขอทางวัด นั่งอ่านดูครับ
จะมีอธิบาย อย่างละเอียด


ส่วนหาก อยากทราบได้ด้วย ตัวเอง ต้องฝึกสมถะอย่างเข้มข้น
เมื่อถึงโอกาส ที่ จิต แยก ออกจากกาย
หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า วิญญาณแยกออกจากร่าง

เมื่อถึงตรงนั้น เราจะเข้าใจได้มากขึ้นด้วยตัวเองเลยว่า
อะไร คือ ขันธ์ 5 ที่เราควรทำความรู้จัก

 

เมื่อตายแล้ว ย่อมไปเกิดในภพใหม่
ย่อมมีรูป คือภพที่อาศัย ใหม่
แต่ขันธ์๕ จะลดลง ตามภพที่ไป
ยิ่งภพสูงถึงพรหม ขันธ์จะเหลือ1 - 2 ขันธ์

 

จิตนี้สำคัญนัก ตายด้วยความยึดถือเรื่องใด ก็ทรงความยึดถือในเรื่องนั้นไว้

คิดแล้วเป็นเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง คิดวนซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นเอง

สุดแล้วแต่บุญแต่กรรม แล้วแต่วาสนาของตน

ผู้ใดโชคดีได้ผู้ร้องเรียกเตือนสติให้ระลึกได้

ก็อาจกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อสู้กับกิเลสต่อไปได้

คนตายสอนคนเป็นเสมอ แต่บางทีคนเป็นไม่รู้เรื่องเลย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามัวเมาหลงเพลิดเพลินอยู่แต่ในโลกของความคิดความปรุงแต่งอยู่เลย

ความเพลินนี้แหละเป็นเครื่องร้อยรัดไว้...

 

ขันธ์ ๕ ท่านแบ่งเป็น ๒ ส่วน

๑. รูปธรรม คือ รูป
๒. นามธรรม คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

"นามธรรม" ทั้งหลายล้วนออกมาจาก "จิต" เมื่อรูปกายแตกทำลายตายไป "นามธรรม"เหล่านั้นล้วนย้อนกลับไปอยู่ใน"จิต" เหมือนเดิม
แล้ว "จิต" นั้นก็ไปตามกรรมที่ได้กระทำไว้ในอดีต ไปเสวยในภพภูมิใหม่

ทำบาปเยอะ ก็ไปเสวยภพภูมิอันลำบาก เช่น เป็น สัตว์ในนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ฯลฯ
ทำบุญไว้มาก ก็ไปเสวยภพภูมิอันสวยงามเสวยแต่สุข เช่น เป็น มนุษย์ เทพ เทวดา พรหม

"อทิสสมานกาย" ก็หมายถึง "รูป" ที่ "จิต" ไปเสวยในภพภูมิต่างๆ
จะเป็น "รูป" แบบใดก็แล้วแต่ "บุญบาป" ที่ตนกระทำไว้นั่นเอง

 

ถ้าเรา แยกจิต แยกกาย เราจะรู้ว่า แม้เราครองร่างนี้อยู่ แต่จิตมันจ้าออก มันจะมีความรู้สึก จ้าออก
ทีนี้ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนแล้วแต่ไม่อิงกับกายนี้ แต่ คำว่า รูป ยังมีความหมายนอกเหนือจากกายทั่วๆไป เป็นการปรุงสภาพขึ้นมาก็ได้
อาทิสมานกาย เป็น รูปละเอียด ที่พ้นจาก กายหยาบนี้
ส่วน คนตายแล้ว ก็มีครบทั้ง 5 นั้นแหละ ยังคงมีอยู่

เรื่องนี้ เราสามารถเห็นตัวเองได้ หากศึกษาจน เห็น จิตเป็นจิต เห็นกายเป็นกาย