ความสุขเป็นของไม่แน่นอน...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 27 ตุลาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    [​IMG]

    คุณพระพุทธเจ้า

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธสสะ (3จบ)<O:p</O:p


    พุทโธ อัปปมาโณ ธัมโม อัปปมาโณ สังโฆ อัปปมาโณติ <O:p

    <O:p
    ณ โอกาสบัดนี้ อาตมภาพจะแสดงพระสัทธรรมเทศนาใน คุณพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นเครื่องสดับสติปัญญาของบรรดาสาธุชน พุทธบริษัทซึ่งตั้งใจมาบำเพ็ญกุศลประจำปักษ์ คือวันพระขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งตรงกับ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2523<O:p
    การที่บรรดาพุทธบริษัททุกท่านตั้งใจมาบำเพ็ญกุศลในศาสนาขององค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามากล่าวโดยทั่วไปก็คือว่าทุกท่านต้องการความสุข เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนบรรดาท่านพุทธบริษัทให้มีความสุข แต่ว่าความสุขที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนี่จัดตามความเป็นจริงแล้ว เป็น 3 ลำดับด้วยกันคือ<O:p
    ข้อที่ 1 องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำให้บุคคลมีความสุขในการประกอบชีวิต มีจิตใจในฐานะความเป็นมนุษย์อยู่ อันนี้องค์สมเด็จพระบรมครูทรงสอนในขั้นปฏิบัติ คือเรียกว่า ฆราวาสควรจะประพฤติตนอย่างไรจึงจะมีความสุขจึงจะมีความเจริญในฐานะความเป็นอยู่ ข้อนี้องค์สมเด็จพระบรมครูก็ทรงสอน<O:p
    ใน ขั้นต่อมา องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาทรงสอนในขั้นของบุคคลอยู่ในขั้น เนยยะ<O:p
    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระธรรมเทศนาสอนกับบุคคลประเภทนี้ในขั้น ทาน ในขั้น ศีล <O:p</O:p
    ในขั้น ภาวนาเบื้องต้น ซึ่งองค์สมเด็จพระทศพลสอนบุคคลพวกนี้จะทรงได้แค่ฌานสมาบัติในขั้นโลกียวิสัยเป็นเบื้องสูง<O:p</O:p
    ต่อมาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอน เป็น ขั้นที่ 3<O:p</O:p
    คือให้ความสุขแก่ประชาชนในข้อนี้ องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาทรงแนะนำให้บรรดาท่านพุทธบริษัท ปฏิบัติตนถึงความเป็นพระอริยเจ้า อย่างน้อยก็พระโสดาบันขึ้นไปจนกระทั่งเข้าถึงขั้นอรหัตผล<O:p

    ความสุขที่ไม่แน่นอน<O:p</O:p

    ทั้งนี้เพราะว่าองค์สมเด็จพระทศพลทรงพิจารณาแล้วว่าความสุขใด ๆ ก็ดี คือความสุขในความเป็นมนุษย์ก็ดี ความสุขในความเป็นเทวดาก็ดี หรือเป็นพรหมก็ดี เป็นความสุขที่ไม่แน่นอน องค์สมเด็จพระชินวรตรัสตามความเป็นจริงว่า<O:p</O:p
    ความสุขของมนุษย์เวลานี้ เช้ามีความสุข บ่ายก็มีความทุกข์ บางคราวเช้ามีความทุกข์ บ่ายมีความสุข วันนี้เราได้รับคำสรรเสริญ พรุ่งนี้เราได้รับการนินทา วันนี้ร่างกายของเรามีความสมบูรณ์แบบด้วยประการทั้งปวง มีกำลังวังชาดีทุกอย่าง แต่วันพรุ่งนี้อาจจะมีการป่วยไข้ไม่สบาย วันนี้เราทรงชีวิตอยู่ได้ แต่วันพรุ่งนี้อาจจะตายก็ได้<O:p</O:p
    คนที่เรารักหรือคนที่เขารักเรา วันนี้เขารักเราแต่วันพรุ่งนี้เขาอาจจะเกลียดเราก็ได้ คนที่เรามีความเมตตาปรานีสงเคราะห์ให้มีความดี สงเคราะห์ให้มีความสุข ต่อไปในวันหน้าเขาอาจจะกลายเป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณคน ทำลายบุคคลผู้สร้างความดีให้กับเขาให้มีความทุกข์หรือประหัตประหารก็ได้<O:p</O:p
    อันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาเห็นว่า ความทรงชีวิตเป็นมนุษย์ไม่มีความสุขจริง ฉะนั้นจึงแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิงให้เดินขึ้นไปก้าวที่สอง ไปหาความสุขแบบเบา ๆ ซึ่งดีกว่าความเป็นมนุษย์ ก็คือให้สร้างคนเป็นเทวดาหรือว่าเป็นพรหม โดยนิยมพระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่าท่านจงให้ทาน คำว่าทานที่ท่านกล่าวว่า ทานัง สัคคโส ปาณัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2008
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...