ความเสื่อมแห่งพระธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 10 มิถุนายน 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    [๑๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อม
    สูญแห่งสัทธรรม ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ

    ภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนพระสูตรที่ทรงจำไว้ไม่ดี ด้วยบทและพยัญชนะที่ตั้งไว้ไม่ดี แม้อรรถแห่งบทและพยัญชนะที่ตั้งไว้
    ไม่ดี ย่อมเป็นเนื้อความมีนัยไม่ดี นี้เป็นธรรมข้อที่ ๑ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือน เสื่อมสูญแห่งสัทธรรม

    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายเป็นผู้ว่ายาก ประกอบด้วยธรรมกระทำให้เป็นผู้ว่ายาก เป็นผู้ไม่อดทน รับคำพร่ำสอนโดยไม่เคารพ นี้เป็นธรรมข้อที่ ๒ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม

    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายที่เป็นพหูสูต มีการเล่าเรียนมาก
    ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ย่อมไม่บอกพระสูตรแก่ผู้อื่นโดยเคารพ เมื่อภิกษุเหล่านั้น ล่วงลับไปพระสูตรย่อมขาดเค้ามูล ไม่มีหลัก นี้เป็นธรรมข้อที่ ๓ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม

    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายผู้เถระ เป็นผู้มักมาก มีความ
    ประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในการล่วงละเมิด ทอดธุระในทางวิเวก ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุเพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ประชุมชนรุ่นหลังย่อมถือเอาภิกษุเหล่านั้นเป็นตัวอย่าง ประชุมชนเหล่านั้นก็เป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในการล่วงละเมิด ทอดธุระในทางวิเวก ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึง
    ธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้งนี้เป็นธรรมข้อที่ ๔ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อมสูญแห่งสัทธรรม

    อีกประการหนึ่ง สงฆ์เป็นผู้แตกกัน เมื่อสงฆ์แตกกันแล้ว ย่อมมีการด่ากันและกันบริภาษกันและกัน แช่งกันและกัน ทอดทิ้งกันและกัน ในเหตุการณ์เช่นนั้น คนผู้ไม่เลื่อมใสย่อมไม่เลื่อมใส และคนบางพวกที่เลื่อมใสแล้วย่อมเหินห่าง นี้เป็นธรรมข้อที่ ๕ ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อมสูญแห่ง
    สัทธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความลบเลือนเสื่อมสูญแห่ง
    สัทธรรม ฯ

    อ้างอิงจาก พระไตรปิฎก เล่ม 14

    ลองอ่านดูแล้ว ลองคิดว่า ควรทำตัวกันอย่างไรต่อไป ก่อนอื่นอ่านตรงนี้ก่อน


    [๑๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล ๕ จำพวกย่อมเป็นถ้อยคำชั่ว เมื่อเทียบบุคคลกับบุคคล บุคคล ๕ จำพวกเป็นไฉน
    คือ ถ้อยคำปรารภศรัทธาเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา ๑
    ถ้อยคำปรารภศีลเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล ๑
    ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อย ๑
    ถ้อยคำปรารภจาคะเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ตระหนี่ ๑
    ถ้อยคำปรารภปัญญาเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา ๑ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภศรัทธาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธาเพราะผู้ไม่มีศรัทธา เมื่อพูดเรื่องศรัทธา ย่อมขัดข้อง โกรธพยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ไม่มีศรัทธานั้น ย่อมไม่เห็นศรัทธาสัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีศรัทธาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำ
    ปรารภศรัทธาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภ
    ศีลจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล เพราะผู้ทุศีล เมื่อพูดเรื่องศีลย่อมขัดข้อง โกรธ พยาบาทกระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ทุศีลนั้นย่อม
    ไม่เห็นศีลสัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติและปราโมทย์ที่มีศีลสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น
    ถ้อยคำปรารภศีลจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็นถ้อยคำ
    ชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อยเพราะผู้ได้สดับน้อย เมื่อพูดเรื่องพาหุสัจจะ ย่อมขัดข้อง โกรธ
    พยาบาทกระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ได้สดับน้อยนั้น ย่อมไม่เห็นสุตสัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีสุตสัมปทาเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อย

    เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภจาคะจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ตระหนี่เพราะผู้ตระหนี่ เมื่อพูดเรื่องจาคะ ย่อมขัดข้อง โกรธ พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ตระหนี่นั้นย่อมไม่เห็นจาคสัมปทาในตนและย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มี
    จาคสัมปทานั้นเป็นเหตุฉะนั้น ถ้อยคำปรารภจาคะ จึงเป็นถ้อยคำชั่วของผู้ตระหนี่

    เพราะเหตุไรถ้อยคำปรารภปัญญาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา เพราะผู้ทรามปัญญา เมื่อพูดเรื่องปัญญาย่อมขัดข้อง โกรธ พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้น
    เพราะเหตุไร เพราะผู้ทรามปัญญานั้นย่อมไม่เห็นปัญญาสัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีปัญญาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้นถ้อยคำปรารภปัญญาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา
    ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล ๕ จำพวกนี้แล ย่อมเป็นถ้อยคำชั่ว เมื่อเทียบบุคคลกับบุคคล ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ นิวรณ์ คุณยกเหตุมาด้วยสิ
    จะได้ทราบความเ็ป็นมาที่ผม ตำหนิแบบนั้น

    และ คุณควร อ่านพระสูตร ที่ผมยกมา ไม่ใช่ ไปยกสิ่งที่ผมตำหนิ หญิงประมาทมา
    เพียงคำบางคำ
     
  4. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    คุณ นิวรณ์ คือ คุณ เอกวีร์ ??

    จะใครก็ช่าง..ยังมีใจถึงซึ่งพระนิพพานกันนะครับ (^^)
     
  5. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    .
     
  6. อวิปลาส

    อวิปลาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +353


    อ้าว....?

    what.....

    ฮ่วย...พี่น้อง....


    pity_pig
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    [​IMG]
    สัพเพธัมมาอนัตตา
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ นิวรณ์ ยิ่งคุณยกมาแบบนี้ แสดงถึงอะไรรู้ไหม

    แสดงถึงว่า คุณ เป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริง เป็นคนที่มีตัณหามานะสูงเกินไป

    เพราะปรากฎว่า เมื่อผมยกพระธรรมมาให้ดู คุณกลับไปเอาข้อความต่างๆ ที่ตำหนิกันโต้แย้งกัน ขึ้นมาเพื่อพยายามแสดงให้คนอื่นเห็น นายขันธ์ ไปในทางที่ไม่ดี

    ทั้งๆ ที่ข้อธรรมต่างๆ คุณไม่เคยแย้งได้เลยสักข้อ อีกทั้งข้อความที่คุณ ตำหนิคนอื่น ก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ยกมา

    ข้อนี้ เป็นมุสาอีกข้อหนึ่ง ของตัวอันตรายต่อพระศาสนาอย่างนายนิวรณ์
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    .
     
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ที่กระทู้ก่อนที่ไม่พูด เพราะผมบอกไว้ว่าจะพูดโพสเดียว ในกระทู้นั้น มากระทู้นี้ของทวงติงสักหน่อย เรื่อง ท่านขันธ์ที่กล่าวว่า จิตเที่ยง

    หากกล่าวเช่นนั้น ผมขอโต้แย้งว่า ถ้ามีคนอุตริกล่าวต่อว่า งั้นของเดิมมันเที่ยง ในเื่มื่อมันเที่ยงแล้วทำไมมันเกิดมาได้ ทำไมมันมาวนเวียนอยู่ในสงสารวัฎได้นี่ ไม่ทำลายหลักธรรมไปหมดสิ้นเลยเหรอ ในเมื่อจิตเที่ยงแล้วยังจะเกิดได้ ถ้างันเพียรไปจนนิพพานแล้ว ก็มีสิทธิ์จะเกิดได้อีกซิ

    จิตส่วนจิต นิพพานก็นิพพาน ส่วนเรื่องครูอาจารย์รุ่นก่อนจะว่าไงไม่ขอก้าวล่วง เพราะบางทีท่านกล่าว ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างส่วนที่ผู้ฟังติดขัด

    อีกเรื่อง ขอแก้ตัวผมไม่ใช่พวกดูจิต และไม่ได้ยกการดูจิตเป็นเรื่องที่เป็นที่สุด เป็นเรื่องที่ครอบคลุม อย่าเหมา ^-^
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ นิวรณ์ วิชามารแบบนี้ คุณต้องไปยกมาอีก
    เพราะเท่านี้ ผมไม่ได้รู้สึกอะไร
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เป็นผู้รับเหมา..อิอิ
     
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอ....ก็คิดว่าเป็นคำสอนที่ดี...ไม่ใช่หรือ

    กลัวอะไรหละ กับคำพูดที่ดีๆ ของตนที่ทำไปดีแล้ว

    หรือว่ามันไม่ ถ้ามันดี ก็ไม่เห็นจะผิดอะไรที่ผมเอามาแสดง
    ให้สาธารณชนเขาได้ชื่นชมบารมี
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ฉะนั้นการกล่าวเรื่องจิต กรุณาเลี่ยงไปที่เหตุปัจจัย และพึ่งระวังการสุดโต่งทั้งสองข้างด้วย

    จบ จะท้วงติงเท่านี้ ไม่ต้องเถียงล่ะ กรุณารับฟัง กรุณาพิจารณา และกรุณาปฎิบัติตามนี้ด้วย เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง และหมู่สัตว์ ^-^
     
  15. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    โหสินะ ไม่คิดไรมาก แล้วแต่ใครจะเอาไปเป็นหอกเป็นดาบ หรือเอาไปเป็นปัญญา

    เรื่องธรรมดานะ
     
  16. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อ่านตรงที่ว่า "อริยะติดบอร์ด" แม๊..มันโดนตัวเองจริงๆ
    มันก็แล้วแต่เจตนาของแต่ละคนอีกนั่นแหละเนาะ
    คิดในทางดี เขาก็แค่อยากช่วยคนอื่น
    คิดในทางไม่ดี ก็เป็นเรื่องตรงกันข้าม

    ส่วนคนอยากช่วยคนอื่นนี่ก็ถือว่าติดดี เหมือนคนทำบุญมูลนิธิเก็บศพ เขาทำความดีพอดีๆ มันก็จะดี
    แต่บางคนก็บ้าแต่ทำความดีจนตั้งเป้า วันนี้กูจะเก็บศพให้ได้เท่านี้ๆๆ..กูถึงจะได้บุญเปรี่ยม
    จนลืมไปว่าเหตุที่ก่อให้เกิดผลนั้น เราไม่เคยแก้กันเลย เหตุที่คนต้องกลายเป็นศพ ตรงนี้แหละคือต้นเหตุ
    อุปมาไว้อย่างนี้ก็แล้วกัน

    บอร์ดแห่งนี้ก็เช่นเดียว ตัวเราเองก็เช่นกัน ...จิตปรุงแต่ง หรือ ตามปรุงแต่งจิต กันแน่..แปลกจริงหนอ..


    เจริญในธรรมกันครับ
     
  17. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    pity_pig
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อ้อ คุณนิวรณ์ สงสัยคุณจะเข้าใจอะไรผิดไปมาก

    คุณคิดว่า คุณยกมาด้านเดียว เอาแต่คำตอบ มันตรงความไหมหละ

    ผมอยากจะให้คุณแสดงอะไรให้มันครบความ มันจะได้ไม่บิดเบือน
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้ามองแบบมีเมตตากรุณา คือต้องการชี้ให้พิจารณาตัวตน ของตัวเอง
    ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างอารมณ์ เพื่อเตือนสติ

    ถ้ามองแบบไม่มีเมตตากรุณา
    ก็ว่าทำเพราะ โทสะ อาฆาตพยาบาท ต้องการทำร้ายจิตใจกัน กระทำการรุนแรงต่อกัน

    ก็แล้วแต่ความคิดและจิตใจของแต่ละคน จะคิดและพิจารณา
    เพราะพื้นฐานของคนไม่เหมือนกัน

    ถ้าท่านขันธ์ พิจารณาด้วยความเมตตาด้วยจิตใจแห่งพระอริยะ ย่อมมีประโยชน์ต่อทุกคน
    เพราะ พวกเรามาศึกษาธรรม เพื่อธรรม
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ยกพระสูตรมาให้อ่าน แสดงว่ามันโดนใจกันมาก

    เถียงไม่ออก เลยไปควานหา ข้อตำหนิ

    อีกอย่างหนึ่งนะครับ

    ความสกปรกของใจมันอยู่ที่ เล่หเพทุบาย มันไม่ได้อยู่ที่ คำด่าหรอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...