ช่วยแนะนำวิธีแผ่เมตตาทีครับ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย au8ust, 16 สิงหาคม 2007.

  1. au8ust

    au8ust สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    คือ มีคนนึงไม่ชอบหน้าผมเอามาก ๆ แบบเห็นก็ไม่อยากทักแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็ได้แต่คิดว่าจะแผ่เมตตาให้มาก ๆ เอาก็แล้วกัน จึงอยากรบกวนถามมิตรสหายธรรมทั้งหลายว่า จะแผ่เมตตาอย่างไรดี ควรใช้คู่กับคาถาใดเป็นพิเศษหรือไม่?

    ขอบคุณครับ
     
  2. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    ลองสวดบทนี้ดู เป็นการแผ่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาให้สรรพสัตว์
    หากจะให้ได้ผลเร็วขึ้นไปอีก ก็ระบุชื่อเขาคนนั้น สัพเพ สัตตา ..(สมชาย ดังระเบิด)....อะเวรา ..เรื่อยไป ทุกบรรทัด ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ
    ---------------------------------------
    พระคาถาเมตตาหลวง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)<o:p></o:p>
    พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    วิธีการสวด
    ให้ไหว้พระ อรหัง สัมมาสัมพพุทโธ , นโม ๓ จบ , พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ฯลฯ เป็นคำเริ่มต้นก่อน
    คำสวดให้เมตตาตน
    อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌ โหมิ, อะนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ,<o:p></o:p>
    ๑.คำสวดแผ่เมตตา (ย่อ)<o:p></o:p>
    ๑.สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
    ๒.สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๓.สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๖.สัพพา อิตถิโย อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๗.สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๘.สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๙.สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๑๐.สัพเพ เทวา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
    ๒.คำสวดแผ่กรุณา (ย่อ)<o:p></o:p>
    ๑.สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ <o:p></o:p>
    ๒.สัพเพ ปาณา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๓.สัพเพ ภูตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๖.สัพพา อิตถิโย สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๗.สัพเพ ปุริสา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๘.สัพเพ อะริยา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๙.สัพเพ อะนะริยา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๑๐.สัพเพ เทวา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๓.คำสวดแผ่มุทิตา (ย่อ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๑.สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ<o:p></o:p>
    ๒.สัพเพ ปาณา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๓.สัพเพ ภูตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๖.สัพพา อิตถิโย ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๗.สัพเพ ปุริสา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๘.สัพเพ อะริยา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๙.สัพเพ อะนะริยา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๑๐.สัพเพ เทวา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ
    <o:p> </o:p>
    ๔.คำสวดแผ่อุเบกขา (ย่อ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๑.สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๒.สัพเพ ปาณากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๓.สัพเพ ภูตากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๖.สัพพา อิตถิโยกัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๗.สัพเพ ปุริสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๘.สัพเพ อะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๙.สัพเพ อะนะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    <o:p> </o:p>
    ๑๐.สัพเพ เทวากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    <o:p> </o:p>
    อานิสงส์เมตตาพระท่านบอกไว้ว่า สุขัง สุปติ หลับตื่นชื่นตา เสวยสุขอนันต์ ไมฝันลามกร้ายกาจ ปีศาจมนุษย์ชื่นชมหฤหรรษ์ เทวาทุกชั้นช่วยชูรักษา หอก ดาบ ยาพิษ ไฟลุก เข้ามา ครั้นถึงองค์พระโยคาย้อนกลับยับเป็นผง ใจร้ายใจบาปสันดานชั่วหยาบ ระงับดับลงด้วยพรหมวิหารา องค์พระโยคาสุกใส ใครเป็นพิศวง เมื่อตายไปไม่หลงเหมือนคนสามานย์ ส่งผลถึงอัครฐานตราบเท่านิพพานแล
     
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,169
    แผ่เมตตาแก่คนที่รู้สึกไม่เป็นมิตร

    ต้องใช้ปัญญาตัดความ พยาบาท โกรธเกลียด ไม่ชอบหน้า ให้ได้ก่อน
    อาจเป็นกรรมเก่าเห็นหน้าแล้วไม่ถูก ชะตา หรือเราอาจมองคนเพียงรูปภายนอก แต่วิธีที่อาตมาเคยใช้ จะนึกถึงพระพุทธเจ้าที่ทรัพย์และความเป็นเจ้าจักรพรรดิ์ยังทรงสละได้ แล้วความโกรธเกลียดนี้มีค่าแค่ใหนเราถึงสละไม่ได้ ตายไปขึ้นสวรรค์ ไปนิพานก็เจอเขาอีกอยู่ดีแล้วจะมานั่งโกรธเกลียดให้เกิดอกุศลเพื่ออะไร
    เมตตาเป็นคุรุกรรม(กรรมหนักฝ่ายบุญ)หากแผ่เมตตาออกจะเจาะจงหรือแผ่ให้กับตนหรือญาติหรือสรรพสัตว์ทั่วไปในแสนจักรวาลก็มีผล
    ในสุตตันตปิฎกพระพุทธเจ้าทรงสอนอานุภาพของการแผ่เมตตาไว้มาก กว่าอานิสงค์ 11 ประการ มีข้อหนึ่งที่เป็นอานิสงค์สำคัญคือจะบันลุอรหันต์เป็นที่สุดได้บันลุอนาคามีเป็นอย่างน้อยในภพประจุบัน
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
    หากปรารถนาอายุ ให้รักษาศีล
    หากปรารถนาสุข ให้เข้าฌาน 4
    หากปรารถนาโภคะ ให้แผ่เมตตา
    หากนำเมตตามาเปรียบโดยประมาณอย่างรวบบรัด
    หากสังฆทาน มีอานิสงค์มากกว่า 100 เท่าหากได้ถวายทานกับพระพุทธเจ้า (แม้ทรงเล็งด้วยพระญาณก็มีอานิสงค์ไม่สิ้นสุดแม้เข้าพระนิพพานก็ไม่ถึงที่สุดแห่งอานิสงค์)สมมุตเป็น 1 พันล้านเท่าแล้วกัน
    วิหารทาน คือทำบุญสร้างสิ่งปลูกสร้างในวัดมีอานิสงค์ มากกว่า100 เท่าของ สังฆทาน(สมมุตเป็น 1 หมื่นล้านเท่าของบุญ)
    วิหารทานและสังฆทาน ทานทุกชนิดที่มีวัตถุสิงของในการถวายไม่ได้เสี้ยวที่ 16 แห่งเมตตาเจโตวิมุตติคือเอาอานิสงค์ของเมตตามาแบ่งเป็น 16 ส่วน เอา1ส่วนของเมตตามาแบ่ง อีก16 ส่วน 1ส่วนสุดท้าย เท่ากันวิหารทาน 1 ครั้ง
    วิธีแผ่เมตตา
    ให้เข้าใจก่อนว่า เมตตาเป็นอารมณ์ที่แผ่ออกไป ไม่ใช่บทสวดสัพเพสัตตา ฯ หรือคำพูด แต่เป็นอารมร์เช่นพ่อ-แม่ รักลูกโดยไม่หวังอะไรรักโดยบริสุทธิ์ใจ อย่างไรเอาอารมณ์นี้แหละแผ่ออกไป
    หากแผ่อารมณ์นี้ออกได้จากใจให้ตัวเรา พ่อแม่ ญาติ คนไม่เจาะจง ผู้หญิง ผู้ชาย สัตว์ เทวดา พรหม จะมีคำแผ่เมตตาร่วมหรือไม่ก็ได้ ยึดอารมร์เมตตาเป็นเกณฑ์ เช่นนี้ถ้าแผ่ออกได้ปฐมฌานเป็นอย่างน้อย เช่นนี่แลหากตายขณะแผ่เมตตาจึงได้เกิดในพรหมโลกทันทีตามความละเอียดของเมตตาฌาน
    ที่ตรงใหนที่เธอแผ่เมตตาที่ตรงนั้นจะเป็นมงคลทันทีศักดิ์สิทธิ์ได้ครบ2500 ปีจนสิ้น 5พันปี พระศาสนาเป็นอย่างน้อย เช่นที่เขานิมนต์พระมาสวดปริตรต่างๆหากพระไม่ไม่มีจิตเมตตาปริตรที่สวดจะไม่มีเดชไม่มีอานุภาพป้องกันเพราะไม่เมตตาหวังลาภ ไม่คิดสงเคราะห์ เป็นต้น

    เจริญพร

    พระ12
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2007
  4. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,056
    ................
    ................
    ..........ให้ทุกคนเอากำลังใจ เกาะภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครยกจิตขึ้นพระนิพพานได้ ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้าบนนั้น ตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าหากว่าเราตาย เราขอมาอยู่ที่นี่แห่งเดียว เอาใจจดจ่ออยู่เบื้องพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ถ้ามันยังหายใจ กำหนดรู้ว่ามันหายใจอยู่ ถ้ามันไม่หายใจ กำหนดรู้ว่ามันไม่หายใจ ถ้ามันภาวนาอยู่ กำหนดรู้ว่ามันภาวนาอยู่ ถ้ามันไม่ภาวนา กำหนดรู้ว่ามันไม่ภาวนา เอาจิตจดจ่อมั่นคงอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานนั้น
    ตั้งใจแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกท่านล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งสิ้น เราปรารถนาความสุขอย่างไร เขาทั้งหลายก็ปรารถนาความสุขอย่างนั้น เราปรารถนาที่จะพ้นทุกข์อย่างไร เขาก็ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์อย่างนั้น
    กำหนดภาพพระพุทธเจ้าให้สว่างไสว แผ่กว้างออกไปเรื่อย ๆ คิดว่านั่นคือความเมตตาจากเรา ที่ส่งไปสู่สรรพสัตว์โดยทั่วหน้า
    กำหนดใจกว้างออกไป กว้างออกไป ไปจนถึงทุกจักรวาล ไปทุกดวงดาว ไปทุกภพทุกภูมิ ตั้งแต่สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา มาร พรหม จนกระทั่งพระทั้งหมดบนพระนิพพาน พระเมตตาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแผ่ไปถึงท่านทั้งหลายเหล่านั้น ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ตั้งใจว่า
    “...มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงอย่าได้มีเวร มีกรรมและเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้นพึงเสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตน ให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุข อันสมบูรณ์ด้วยเถิด...”
    ตอนนี้ตัวเรากลมกลืนเป็นอันหนี่งอันเดียวกับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระนิพพาน ตั้งใจว่า วันนี้ถ้าถึงอายุขัยตายไป เราก็ขออยู่ ณ สถานที่นี้ อยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่ คือพระนิพพาน
    ตั้งใจว่า ในวันนี้ เราจะประกอบกิจการงานอะไรก็ตาม ถ้าเกิดอุบัติเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตลง เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่ คือพระนิพพาน กำหนดใจสบาย ๆ เอาไว้ตรงจุดนี้
    แล้วค่อย ๆ คลายสมาธิออกมา โดยกำหนดสติรู้อยู่ตลอดเวลา แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งสัก ๒๐ – ๓๐ เปอร์เซ็นต์ นึกถึงภาพพระ นึกถึงพระนิพพานไว้ดังนี้..........
    ..............
    .............
    ............

    จาก http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83871
     
  5. Aung CapA

    Aung CapA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +275
    ไม่ทราบว่าทำไมคุณ ถึงแคร์คน ๆ นั้น เขาไม่ชอบขี้หน้าคุณแสดงว่าเขาตัดโอกาสตัวเองที่จะได้รู้จักคุณให้ดีขึ้น หรือเกลียดขี้หน้าคุณมากขึ้นไปอีก ก็ 1 ใน 2 นี่แหละค่ะ ถ้าเดินผ่านกันก็อวยพรในใจให้เขาว่า ขอให้คุณเป็นสุข ๆ เถิด แล้วทำใจคุณให้สบาย ไม่เกลียดเขา ก็คงพอแล้ว อย่าให้ความนึกคิดที่ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าเรา มาบั่นทอนความรู้สึกของคุณ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  6. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +751
    ผมมีวิธีมาให้พิจารณาครับง่าย ๆ ได้ผลดี
    ให้นึกภาพหน้าคนนั้นแล้วทำใจให้มีความปราถนาดีอย่างที่สุดแล้วท่องว่า ขอให้มีความสุขนะครับ ๆ ๆ ๆ ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความปรารถนาดีกับรอยยิ้มน้อย ๆ สลับกับ ยินดีด้วยนะครับ ๆ ๆ ๆ และเมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับคน ๆ นั้นก็ให้เราตั้งจิตให้เหมือนตอนที่เราท่องความปรารถนาดีนั้น แรงสะท้อนแห่งความดีความเย็นของเราจะค่อย ๆ เจือความรู้สึกที่ไม่ดีของเขาได้ทีละน้อยครับ
     
  7. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ผมได้เพลงนี้มาจากเวปนี้ครับ ยังไงว่างๆลองนั่งสมาธิแล้วเปิดเพลงนี้ไปด้วยสิครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • metta.mp3
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      194
  8. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,790
    อนูโมทนาใน ลายเซ็นต์ของคุณ ปราณยาม ฮ่าๆ ๆ ๆ

    แล้วผมจะตามคุณไป
     
  9. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ปกติผมจะอธิษฐานเวลาทำบุญทุกครั้งครับ ที่จริงผมจะขอให้ผมได้เข้าสู่กระแสนิพพานอย่างน้อยขั้นต้นพระโสดาบันและต่อด้วยตรงนี้ครับ
    ลองเอาไปใช้ดูสิครับเราจะได้ไปม่ต้องไปวนเวียนกันอีกหลายชาติครับ

     
  10. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,590
    ขอบารมีคุณพระพุทธเจ้า ขอบารมีคุณของพระธรรมเจ้า ขอบารมีคุณพระสงฆ์เจ้า มาร่วมกับแสงบุญแสงบารมีที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมา กลายเป็นแสงเพชรเกล็ดแก้ว แล้วอธิษฐาน แผ่แสงบุญนี้ไปตามทิศทั้งสิบแล้วกล่าว
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง หน้า จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง หลัง จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ขวา จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ซ้าย จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง บน จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ล่าง จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ตะวันออกเฉียงเหนือ จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ตะวันตกเฉียงใต้ จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ตะวันตกเฉียงเหนือ จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในทิศเบื้อง ตะวันออกเฉียงใต้ จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายในผิวกายและในกายของข้าพเจ้า จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    ขอให้ทุกจิตทุกวิญญาณ จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด
    จากนั้นกล่าวพระคาถาเมตตา
    พุทโธเมตตา นะชาลีติ
    ธัมโมเมตตา นะชาลีติ
    สังโฆเมตตา นะชาลีติ
    สีวะลีเมตตา นะชาลีติ
    เดินทางไปในทิศใดก็จะมีคนเมตตา ช่วยเหลือ เกื้อกูลเรา ต้องทำบ่อยๆให้ซึมลงไปในทุกอณูชองร่างกายเราแล้วจะเห็นผลอันประเสริฐนี้แล
     
  11. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,641
    คำสวดในเสียงสวดด้านบนนะครับ

    อะหัง อะเวโร โหมิ --ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ปราศจากเวร
    อัพยาปัชโฌ โหมิ --ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีโฆ โหมิ --ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ --ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข

    มะมะ มาตาปิตุ --และขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า
    อาจาริยา จะ ญาติมิตตา จะ-- ครูอาจารย์ ปวงญาติ และ มิตร
    สพรหมะ จาริโน จะ --ผู้ประพฤติธรรมทั้งปวง
    อะเวโร โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากเวร
    อัพยาปัชฌา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีฆา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    อิมัสมิง อาราเม สัพเพ โยจิโน --ขอท่านผู้ทรงสมาธิทั้งปวงในเขตนี้
    อะเวรา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากเวร
    อัพยาปัชโฌ โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีโฆ โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหะรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    อิมัสมิง อาราเม สัพเพ ภิกขุ --ขอพระภิกษุผู้อยู่ในเขตนี้
    สามเณรา จะ --และ สามเณร
    อุปาสะกะ อุปาสิกาโยจะ --และทั้งอุบาสก อุบาสิกา
    อะเวรา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากเวร
    อัพยาปัชโฌ โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีฆา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหะรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    อัมหากัง จะตุปัจจายะ ทายะกะ --ขอท่านผู้เป็นทายกแห่งจตุปัจจัยทาน ทั้งสี่
    (
    อันได้แก่ เสื้อผ้า อาหาร ยา และ ที่อยู่อาศัย)
    อะเวรา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากเวร
    อัพพยา ปัชฌา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อนีฆา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหะรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    อัมหากัง อารักขา เทวาตา --ขอเทวาผู้รักษาข้าพเจ้า
    อิมัสมิง วิหาเร --ในวิหารนี้
    อิมัสมิง อาวาเส --ในที่อยู่อาศัย
    อิมัสมิง อาราเม --ในอารามแห่งนี้
    อารักขา เทวาตา --ขอเทวาผู้รักษาสถานที่เหล่านี้
    อะเวรา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากเวร
    อัพพยา ปัชโฌ โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีฆา โหนตุ --ขอท่านจงปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ --ขอท่านทั้งหลายจงเป็นสุข


    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    สัพเพ สัตตา --ขอสัตว์ทั้งหลาย
    สัพเพ ปาณา --ขอผู้มีลมหายใจทั้งปวง
    สัพเพ ภูตา --ขอสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
    สัพเพ ปุกกะลา --ขอสัตว์ทั้งปวง (ทั้งที่มีรูป ไม่มีรูป มีสัญญา ไม่มีสัญญา)
    สัพเพ อัตภวา ปริยะปันนา --ขอสัตว์ผู้มีกายและใจ
    สัพเพ อิตถีโย --ขอปวงสตรีทั้งหลาย
    สัพเพ ปุริสา --ขอปวงบุรุษทั้งหลาย
    สัพเพ อริยา --ขอปวงพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    สัพเพ อนริยา --ขอปวงผู้ยังไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    สัพเพ เทวา --ขอเหล่าเทวา ทั้งหลาย
    สัพเพ มนุสสา --ขอมนุษย์ทั้งหาย
    สัพเพ วินิปาติกา --ขอสัตว์ทั้งหลายอันมีกำเนิด 4
    อะเวรา โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากเวร
    อัพพยา ปัชโฌ โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีฆา โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    ทุกขา มุจจันตุ --ขอสัตว์ทั้งหลายจงปราศจากความทุกข์
    ยัตถา ลัทธา สัมปัตติโต มาวิกัจชันตุ --ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำดี หรือ ทำไม่ดี
    กัมมัสสะกา --ตนย่อมเป็นเจ้าของกรรมนั้น
    ปุรถิมายะ ทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันออก
    ปัจฉิมายะ ทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันตก
    อุตตระ ทิสายะ --ณ เบื้องทิศเหนือ
    ทักขิณายะ ทิสายะ --ณ เบื้องทิศใต้
    ปุรถิมายะ อนุทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันออกเฉียงใต้
    ปัจฉิมายะอนุทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
    อุตตระ อนุทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
    ทักขิณายะ อนุทิสายะ --ณ เบื้องทิศตะวันตกเฉียงใต้
    เหตถิมายะ ทิสายะ --ณ ทิศเบื้องล่าง
    อุปาริมายะ ทิสายะ --ณ ทิศเบื้องบน

    สัพเพ สัตตา --ขอสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
    สัพเพ ปาณา --ขอผู้มีลมหายใจทั้งปวง
    สัพเพ ภูตา --ขอสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
    สัพเพ ปุกกะลา --ขอสัตว์ทั้งปวง (ทั้งที่มีรูป ไม่มีรูป มีสัญญา ไม่มีสัญญา)
    สัพเพ อัตภวา ปริยะปันนา --ขอสัตว์ผู้มีกายและใจ
    สัพเพ อิตถีโย --ขอปวงสตรีทั้งหลาย
    สัพเพ ปุริสา --ขอปวงบุรุษทั้งหลาย
    สัพเพ อริยา --ขอปวงพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    สัพเพ อนริยา --ขอปวงผู้ยังไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    สัพเพ เทวา --ขอเหล่าเทวา ทั้งหลาย
    สัพเพ มนุสสา --ขอมนุษย์ทั้งหาย
    สัพเพ วินิปาติกา --ขอสัตว์ทั้งหลายอันมีกำเนิด 4

    <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    อะเวรา โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากเวร
    อัพพยา ปัชโฌ โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากความทุกข์ใจ
    อะนีฆา โหนตุ --ขอจงเป็นผู้ปราศจากความทุกข์กาย
    สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ --ขอท่านจงมีความสุข

    ทุกขา มุจจันตุ --ขอสัตว์ทั้งหลายจงปราศจากความทุกข์
    ยัตถา ลัทธา สัมปัตติโต มาวิกัจชันตุ --ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำดี หรือ ทำไม่ดี
    กัมมัสสะกา --ตนย่อมเป็นเจ้าของกรรมนั้น
    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคะ จะ --และสัตว์ในโลกธาตุอื่น ที่อยูสูงขึ้นไป
    อโธ ยาวะ อวิจจิโต --และสัตว์ในโลกธาตุอื่นที่อยู่เบื้องล่าง
    สมันตะ จักกะวาเลสุ --สัตว์ทั้งหลายในจักรวาล
    เย สัตตา ปถวิจาระ --ไม่ว่าสัตว์ใดที่อุบัติบนพื้นปฐพี
    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ --ขอจงปราศจากทุกข์ใจ
    นิทุกขา จะ นุปัททวะ --และความทุกข์ทางกาย
    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคะ จะ --และสัตว์ในโลกธาตุอื่น ที่อยูสูงขึ้นไป
    อโธ ยาวะ อวิจจิโต --และสัตว์ในโลกธาตุอื่นที่อยู่เบื้องล่าง
    สมันตะ จักกะวาเลสุ --สัตว์ทั้งหลายในจักรวาล
    เย สัตตา ปถวิจาระ --ไม่ว่าสัตว์ใดที่อุบัติบนพื้นปฐพี
    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ --ขอจงปราศจากทุกข์ใจ
    นิทุกขา จะ นุปัททวะ --และความทุกข์ทางกาย
    เย สัตตา อุทักเขจารา --ขอสัตว์ทั้งหลายผู้เกิดในน้ำ
    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ --ขอจงปราศจากทุกข์ใจ
    นิทุกขา จะ นุปัททวะ --และความทุกข์ทางกาย
    อุทธัง ยาวะ ภะวัคคะ จะ --และสัตว์ในโลกธาตุอื่น ที่อยูสูงขึ้นไป
    อโธ ยาวะ อวิจจิโต --และสัตว์ในโลกธาตุอื่นที่อยู่เบื้องล่าง
    สมันตะ จักกะวาเลสุ --สัตว์ทั้งหลายในจักรวาล
    เย สัตตา ปถวิจาระ --ไม่ว่าสัตว์ใดที่อุบัติบนพื้นปฐพี
    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ --ขอจงปราศจากทุกข์ใจ
    นิทุกขา จะ นุปัททวะ --และความทุกข์ทางกาย
    เย สัตตา อากาเสจารา --ขอสัตว์ผู้อยู่ในอากาศ
    อัพยาปัชฌา นิเวรา จะ --ขอจงปราศจากทุกข์ใจ
    นิทุกขา จะ นุปัททวะ --และความทุกข์ทางกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  12. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,095
    อนุโมทนากับการแผ่เมตตาด้วยนะครับ

    ----------------------------------------------------------
    ทุกสรรพสิ่ง ที่เกิดมาล้วนอนิจจัง ไม่ต้องไปหวังว่าทำแล้ว จะได้ผลอะไร

    ในวันสองวันนี้ ขอให้ตั้งใจ และเพียรทำ สักวันผล ก็จะมาถึงเราเองครับ

    --------------------------------------------------------------
     
  13. gofiro

    gofiro สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +23
    ความเห็นผม เหมือนท่าน คีตเสวี ครับ

    เริ่มที่ตัวเราก่อน รู้สึกดีกับคนที่เราต้องการแผ่เมตตา ด้วยความตั้งใจดี

    เป็นการฝึกจิตเราเองก่อน จนความรู้สึกที่มีต่อคนที่เราต้องการแผ่เมตตาให้

    เริ่มมีความชัดเจนขึ้น ไม่มีความรู้สึกอื่นมาประกอบ นั่นหมายถึงเราเริ่มมีเมตตา

    ละครับ ต่อไปการ "แผ่" เมตตา ไปถึงคนที่เราต้องการฯ นั้น ก้อจะออกทั้ง กาย

    วาจ ใจ อย่างเป็นธรรมชาติ และจริงใจอย่างที่สุด

    อ่า... แต่ถ้าไม่ทำงาน แล้วเจ้านายไม่ชอบ การแผ่เมตตา จะบังเกิดผล

    เป็นอย่างไรนั้น อันนี้กระผ้ม ก้อไม่สามารถคาดเดาได้นะครับ ^ ^

    ส่วนบทแผ่เมตตานั้น ส่วนตัวใช้แผ่ให้เจ้ากรรมนายเวร เนื่องจากผมจำไม่ได้ว่า

    ได้ทำกรรมอะไรกับท่านนั้นไว้ ก้อใช้วิธีรู้สึกดีถึงท่านฯ ทั้งหลาย แผ่บุญกุศล

    หรือ สิ่งดีๆ ให้แก่ท่านนั้นๆ รอให้ท่านใจอ่อน ละโทษ หรืออภัยให้ครับ

    ปล. เป็นความเห็นส่วนตัว และความคิดส่วนตัวครับ ..สวัสดีมีชัยครับ..
     
  14. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,440
    ผมคิดว่าเราใช้คำภาวนาคำไหนเป็นประจำจนรู้สึกเชี่ยวชาญชำนาญ สามารถทำจิตให้เกิดสมาธิเกิดความสงบได้รวดเร็วและได้ผลดี เราก็อาจจะใช้คำภาวนานั้นมาใช้ในการแผ่เมตตาให้ผู้อื่นได้ครับ เพียงแต่เพิ่มอารมณ์ความรู้สึกปรารถนาดีควบคู่เข้าไปกับคำภาวนานั้นๆไปด้วยครับ

    เช่น ถ้าเราใช้คำว่า "พุทโธ" เป็นประจำ ยามที่แผ่เมตตาให้ผู้อื่นเราก็อาจที่จะใช้คำภาวนาว่า พุทโธ นี่แหละครับ น้อมส่งไปให้กับบุคคลที่เราต้องการจะแผ่เมตตาให้แล้วเราก็ภาวนาส่งกระแสจิตไปให้เขาด้วยอารมณ์ที่มีความปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุขน่ะครับ

    ถ้าเป็นคนที่มีบุญคุณหรือเราเคยไปทำอะไรไม่ดีเอาไว้ ก็เท่ากับเป็นการชดใช้หนี้บุญคุณให้เขา หรือถ้าเป็นคนที่กำลังโกรธหรือไม่พอใจเราอยู่ ก็เท่ากับว่าเรากำลังช่วยเหลือเขาให้ดับความเร่าร้อนในจิตใจของเขาลง เหมือนเราเอาน้ำไปช่วยดับไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ ความเร่าร้อนนั้นก็จะค่อยๆทุเลาลงได้

    แม้แต่พระภิกษุที่รับบิณฑบาตจากชาวบ้านเอง พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสว่า ภิกษุที่เจริญเมตตาแม้เพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียวนั้นก็ได้ชื่อว่าบริโภคอาหารของชาวบ้านโดยไม่สูญเปล่าบริโภคโดยไม่มีหนี้ นับประสาอะไรกับการเจริญเมตตานี้ให้มากเล่า..........^ ^
     
  15. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,790
    ท่านผู้เจริญในธรรม

    ยินดีด้วย ยินดีในธรรม

    สาธุ

    มิควรกล่าวต่อไปให้มากในความนั้นรู้แจ้งแล้ว !
     

แชร์หน้านี้

Loading...