ดร.สนอง วรอุไร นั่งสมาธิจนได้เห็นสิ่งละเอียดคือ วิญญาณ เทวดา

ใครพอมีความรู้ด้านนี้บ้างครับ ผมอยากนั่งสมาธิ อยากเห็น อยากเจอ อยากคุยธรรมะ อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร

ขอบคุณนะครับ

 

เห็นแบบ ดร หนอง นี่ไม่เอาหรอกขอรับ
กับไอ้คำ ดร หนองแกยังไม่เห็นกายในของ ไอ้คำเลยว่ามันชั่วแค่ไหน
แกยังบอกเลยว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่เณรคำนี้ ของแท้ทั้งสิ้นเลย
แล้วแกจะไปเห็นเทวดาได้ยังไง แกนึกเอาเดาเอาทั้งนั้นแหละขอรับ

แต่ถ้าอยากเห็นจริงๆนะขอรับ ต้องทำจิตให้เข้าฌาณ แล้วพอได้ฌาณแล้วอธิษฐานเลยขอรับ จะได้เห็น

 

เห็นผีสางเทวดาไปก็เท่านั้นแหละ คุณ sir-pai
สู้เห็นกิเลสในใจไม่ได้หรอก เพราะเห็นกิเลสสักวันก็จะละกิเลสได้

ส่วน เรื่อง Mr. สนอง วรอุไร ลองดูคลิปนี้แล้วใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองละกันนะ

พลังแห่งบุญญฤทธิ์ - YouTube

 

ถ้าอยากก็จะไม่ได้ ถ้าไม่อยากก็จะได้เอง

ฝึกสวดมนต์ สร้างขันติให้ตัวท่านเองก่อน สวดมนต์ + นั่งสมาธิ 20 นาที ก่อนนอน
คอยๆเป็นคอยๆไป อย่าไป " อยากได้ อยากเห็น อยากรู้ "

ถ้าได้มาก็อย่าหลงนิมิต จนเพลิน กลายเป็น นิมิตหลอกๆ

สาธุเจริญธรรม

 

คือผมขอสรุปแต่ละโพสนะครับผม

หมั่นเจริญสติและสวดมนต์ตลอด ไม่ต้องอยากรู้อยากให้ ปฏิบัติเผื่อความหลุดจากกิเลส

คือพอเข้าสมาธิ เข้าฌาณอธิษฐานหรือทำอะไรหรอครับ หรือเพ่งรูปพระพุทธรูปที่เห็น รบกวนผู้รู้บอกเป็นธรรมทานหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

 

เมตตานิสังสะสุตตะปาโฐ รองสวดบทนี้เพิ่มเติมก่อนครับ

.เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง
วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑกัสสะ อาราเม ฯ ตัต์ระ โข
ภะคะวา ภิกขุ อามันเตสิ ภิกขะโวติ ฯ ภะทันเตติ เต ภิกขุ
ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุง ภะคะวา เอตะทะโวจะ


..............เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ
สุสะมารัทธายะ เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขา ฯ กะตะเม เอกาทะสะ ฯ
สุขัง สุปะติ สุขัง ปะฏิพุชฌะติ ฯ นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ ฯ
มะนุสสานัง ปิโย โหติ ฯ อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ ฯ เทวะตา
รักขันติ ฯ นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ ฯ ตุวะฏัง
จิตตัง สะมาธิยะติ ฯ มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ ฯ อะสัมมุฬ์โห กาลัง
กะโรติ ฯ อุตตะริง อัปปะฏิวิชฌันโต พรัหมะโลกูปะโค โหติ ฯ


..............เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ
สุสะมารัทธายะ อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาติ ฯ อิทะมะโวจะ
ภะคะวา ฯ อัตตะมะนา เต ภิกขุ ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุนติ ฯ

พระสูตรบทนี้ นับได้ว่าเป็นพระสูตร หรือพระคาถาเมตตามหานิยม ผู้ใดนำบทนี้ไปเจริญภ าวนา จะเป็นที่รักใคร่ของ เทวดาและมนุษย์ หรือแม้กระทั่งอมนุษย์สัตว์เดรัจฉาน ไปแห่งหนตำบลใดก็จะมี แต่คนนิยมชมชอบ ไม่มีศัตรู ถึงแม้ยามนอนก็ฝันดี ไม่ฝันร้าย ตื่นมาก็เป็นสุข ผิวพรรณผุดผ่อง ใบหน้าแจ่มใส จิตใจไม่วอกแวก ไม่ขี้หลงขี้ลืม ถ้าเจริญภาวนาเป็นประ จำจะเป้นอุปการะหนุนส่งให้ไปบังเกิดในพรหม โลก

สาธุเจริญธรรม

 

ขอบพระคุณมากนะครับ

 

ผมก็เห็นอยู่นะครับ เห็นเองโดยการฝึกสมาธิตามธรรมดานี่แหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
แต่คุยไม่ได้ เพราะไม่ได้ยิน

เคยอ่านหนังสือเจอว่า
ถ้าอยากได้ยิน ต้องฝึกทิพยโสตด้วย ซึ่งวิธีการฝึกก็มีในหนังสือนั่นแหละ

แต่แก่แล้ว ตัวขึ้ีเกียจ กับข้ออ้างในใจที่จะไม่ฝึกต่อ เกาะเต็มตัวไปหมด
ก็เลยไม่ได้ขวนขวายอะไร

คุยได้เดี๋ยวเรื่องเยอะอีก ทั้งผีทั้งคน

 

ไม่คิดลบหลู่หรือปรามาสใครผมขอออกตัวก่อน แต่ผมก็สงสัยนะว่า เทวดารู้เห็นการกระทำรู้จิตใจเราได้ ซึ่งหลวงปู่เณรคำถ้าทำผิด เทวดาก็ต้องรู้เห็น แล้วถ้าดร.สนองติดต่อกับเทวดาได้ ก็ไม่น่าจะพลาพูดอย่างนั้นออกมา แต่ก็เป็นแค่ข้อสงสัยเท่านั้น หากผิดพลาดประการใดขออโหสิกรรมครับ

 

ตอนพี่หนอง แกพูดหน้าตาจริงจังมาก วางท่าแบบผู้รู้จริง แกบอกว่า พวกเรานี่โชคดีมากนะ ที่ได้มาเจอมาทำบุญกับหลวงปู่เณรคำ หมดห่วงจริงๆ ที่หลวงปู่มารับช่วง
พอถึงตอนนี้ ผมเหลือบไปเห็นไอ้คำมันอมยิ้ม นิดๆ แล้วพยายามเก็บอาการ ไอ้คำนี่แสดงละครเมพขิงๆ

 

ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ..เป็นกำลังใจให้ครับ..
ประเด็นสำคัญนะครับ..การเห็นได้.
ไม่เท่ากับวัตถุประสงค์ในการเห็นนะครับ.​

 

อุปาทาน
เกิดระหว่างฌาน เพราะความไม่บริสุทธิ์ของจิต
เกิดหลังฌานเสื่อม เพราะยึดเอาว่าเคยมีเคยเป็น

แม้เป็นจริง ก็เข้าไปยึดเอาไม่ได้.. เพราะโลกไม่มีสิ่งใดเที่ยงทนแท้

 

มีคาถาของพระสังฆราชสุกไก่เถื่อนว่า
เวทาสากุ กุสาทาเว
ทายะสาตะ ตะสายะทา
สาสาทิกุ กุทิสาสา
กุตะกุภู ภูกุตะกุ
ท่านเคยเมตตาแปลไว้ว่า
โลกธรรม 8
มีลาภ ก็มีหมดลาภ
มียศ ก็มีหมดยศ
มีสรรเสริญ ก็ย่อมมีนินทา
มีสุข ก็ย่อมมีทุกข์
สิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวน มีดีและมีชั่ว ไม่แน่นอน ไม่ควรยึดถือ มีหยาบ มีละเอียด

 

หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยกล่าวไว้สั้นๆว่า "เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็นนั้นไม่จริง" อันนี้ว่ากันด้วยเรื่องของนิมิต

สู้เราพัฒนาจิตให้เกิดความรู้แจ้งไม่ได้ เพราะเมื่อ"รู้แจ้งก็จะเห็นจริง!"