ดึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเข้าวัดปฏิบัติธรรม

ปลูกฝังจริยธรรมนำพาสังคมให้สงบสุข





จังหวัดอุดรธานี โดย นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี ได้มีนโยบายที่จะจัดการฝึกอบรม “เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม” ให้กับข้าราชการ รวมทั้งกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในทุกท้องที่ทั้ง 20 อำเภอ ในจังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้ เนื่องมาจากสังคมไทยในปัจจุบัน ได้ประสบกับภาวะวิกฤติหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้าน “คุณธรรม จริยธรรม” ทำให้ประชากรจำนวนมาก ขาดความยึดมั่นในหลักธรรมของพุทธศาสนา มีค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ ขาดความสมัครสมานสามัคคีจนนำไปสู่ความวุ่นวายของสังคมไทย ดังนั้น หากข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น โดยทั่วไป ได้ยึดหลักธรรมตามแนวทางของศาสนา ไปถือปฏิบัติ หรือนำไปใช้ในวิถีชีวิตแล้วก็จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดี ในแนวทางการประพฤติปฏิบัติตน โดยมีผู้นำซึ่งเป็นตัวแบบ และแบบอย่างที่ดี ก็จะสามารถนำพาประชาชนในท้องที่ ให้ประพฤติในสิ่งที่ดีงาม จะทำให้สังคมเมืองมีความสงบสุข น่าอยู่ เกิดการพัฒนา จนนำพาไปสู่ความเจริญของบ้านเมือง

เพื่อเป็นการสนองนโยบายดังกล่าว ฝ่ายปกครองจังหวัดอุดรธานีจึงได้จัดทำโครงการ “ฝึกอบรมปฏิบัติธรรม คุณธรรม จริยธรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน” จ.อุดร ธานี ขึ้น โดยร่วมกับทางวัดนาหลวง (วัดอภิญญาเทสิตธรรม) อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ในการนำร่องของโครงการนี้ ทั้งนี้เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจากทุกอำเภอ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักธรรมทางพุทธศาสนา โดยผ่านการ อบรมปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรม ฐาน และเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม ค่านิยม รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมในทางสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนา สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นวิถีชีวิตและหน้าที่รับผิดชอบ โดยมีเป้าหมาย จัดฝึกอบรมเป็น 2 รุ่น คือรุ่นที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 20 อำเภอ จำนวน 500 คน เข้ารับการฝึกอบรม 5 วัน 4 คืน รุ่นที่ 2 เป็นกำนัน ทุกตำบล จำนวน 154 คน อบรม 3 วัน 2 คืน ผลที่คาดว่าจะได้รับในการอบรมของผู้นำท้องถิ่นในครั้งนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สามารถนำเอาแนวทางตามหลักพระพุทธศาสนา ไปสู่การปฏิบัติจริง และนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าเป็นการกระทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้เบิกบาน ผ่องใส โดยผ่านกระบวนการพัฒนาจากศีลและสมาธิไปสู่การมีปัญญา ในทางปฏิบัติจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประกอบสัมมาชีพอยู่ในสังคมด้วยความเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นวิถีชีวิตที่จะ นำไปสู่ความสงบ สมาน สามัคคี เกิดความร่วมมืออันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคม และประเทศชาติในอนาคต

นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า จากสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน มีผู้คนเกิดความแตกแยก และขาดความสามัคคี มีการแบ่งพรรค แบ่งพวกมากขึ้นเป็นลำดับ แต่หากพินิจพิเคราะห์ ให้ดีแล้ว จะเห็นได้ว่าเกิดมาจากผู้คนในสังคม หลง ใหลทางด้านวัตถุนิยมมากเกินไป โดยละเลยการกระทำความดี ความมีคุณธรรม จริยธรรม ขาดการยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนศาสนา มีค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ต้องเบียดเบียนผู้อื่น ไม่เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การแตกความสามัคคีในสังคม สังคมที่มีความสมัครสมานสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อกัน จึงเป็นสังคมที่สงบสุข ซึ่งในทางพุทธศาสนามีหลักธรรม ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้อื่น เป็นหลักการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน คือ สังคหวัตถุ 4 ได้แก่ 1. ทาน คือการให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน 2.ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน 3.อัตถจริยา คือ การสงเคราะห์ทุกชนิด หรือการประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น และ 4.สมานัตตา คือ การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ หรือมีความประพฤติเสมอต้นเสมอปลาย

นายอำนาจกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หลักธรรมสำหรับนักปกครอง ที่ควรยึดถือและนำไปปฏิบัติ คือ หลัก “พรหมวิหาร 4” ได้แก่ เมตตา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข กรุณา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา คือ ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี และ อุเบกขา คือ การรู้จักวาง เฉย จากหลักคำสอนต่าง ๆ นี้ สามารถนำไปส่งเสริมให้ประชาชน ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้ โดยจะเริ่มจากผู้นำ ซึ่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรก ถ้าหากผู้ปกครองท้องที่และผู้นำในท้องถิ่น เป็นผู้มีคุณธรรม มีความน่าเชื่อถือ สามารถเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน ในการประพฤติปฏิบัติดีแล้ว ประชาชนจะให้ความเคารพ นับถือ ศรัทธา สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ หากประชาชนศรัทธาแล้ว จะทำการใดก็จะสัมฤทธิผล



Daily News Online > หน้าภูมิภาค > ดึงกำนัน-ผญบ.เข้าวัดปฏิบัติธรรม
ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ท