ทาน-ศีล-ภาวนา สามารถรวมกันเป็นจุดเดียวได้หรือไม่

คำถาม ทาน-ศีล-ภาวนา ทั้งสามข้อนี้ ถ้าหากว่าผู้มาพิจารณาเห็นด้วยปัญญาแล้วจะรวมเข้าเป็นจุดอันเดียวได้หรือไม่ครับ

หลวงปู่ตอบ ทาน-ศีล-ภาวนา ที่ท่านบัญญัติไว้ตามลำดับ ท่านพูดถึงเรื่องทานเรื่องศีลเรื่องภาวนาเป็นคนละอันคนละอย่างกันไว้ ถ้าหากผู้ภาวนาพูดถึงเรื่องใจ ไม่ได้พูดถึงเรื่องภายนอก พูดถึงเรื่องใจทำให้สงบ จึงค่อยคิดค้นภาวนาดังอธิบายมาแล้วถึงเรื่องธรรมทั้งหลาย ไม่ว่าของหยาบหรือของละเอียด เมื่อใจสงบแล้วจะมองเห็น
ทานภายนอก ซึ่งเรียกว่า วัตถุทานนั้นเป็นส่วนหนึ่ง คือความสละจาคะ ความมัจฉริยะความตระหนี่เหนียวแน่น ส่วนศีล คือการรักษา กาย วาจา ใจให้สงบ คือให้เว้นเสียจากบาป ส่วนการภาวนา คือการอบรมทำความสงบของใจ เห็นเหมือนกัน เห็นในทำนองนั้นก็ชัดเหมือนกัน แต่มันไม่ชัดเท่าที่มันเห็นด้วยใจของตนเอง
ที่ตนเห็นด้วยใจของตนนั้น ทาน คือการเสียสละ เวลาเราภาวนาเราสละอารมณ์ มีเรื่องต่างๆ ที่มาข้องที่ใจของเรา เรียกว่าจาคะคือการสละทำทานนั่นเอง เข้ากับคำว่า จาโคปฏินิสสัคโค ศีล ในเวลาที่เรานั่งภาวนา เราไม่ได้ทำอะไร กาย วาจาของเราก็สงบเรียบร้อยเป็นศีลในที่นี่แล้ว จึงเรียกว่าศีล การที่ทำเช่นนั้นมันเกิดจากภาวนาเหมือนกัน ภาวนา สงบแล้ว จึงค่อยเห็นชัดในที่เดียวคือเวลาที่นั่งทำความสงบนั้น ทานเราก็ได้ทานอยู่แล้ว ศีลเราก็มีอยู่แล้ว นี่แหละทาน ศีล ภาวนา เลยเป็นอันเดียวกัน นักภาวนาทั้งหลายจึงเห็นชัดลงอย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่หรือดูถูก ทาน ศีล ภาวนา ที่ว่ามาในเบื้องต้นนั้น อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก อันนั้นท่านบัญญัติไว้เพื่อเป็นสาธารณะทั่วไป ที่พูดว่ารวมเป็นอันเดียวอยู่ ณ ที่เดียวนั้น พูดเฉพาะเรื่องการภาวนาต่างหาก

ที่มา หนังสือสนธนาธรรมระหว่างหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี กับ พระบุญตา ปสนฺนจิตฺโต

 

อนุโมทนาค่ะ^ ^~

_______________________________

สุชใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดพิจารณาในทุกขืเห็นดทาของความสุขผู้นั้นชื่อว่าพบความสุขที่แท้จริง

นิพพานนัง ปรมัง สุขัง นิพพานเป้นสุขอย่างยิ่ง

 

อนุโมทนาสาธุยิ่งค่ะ

ทาน ศีล ภาวนา>> เจริญสติ>> ศีล สมาธิ ปัญญา