ทำบุญกับทานเหมือนกันหรือไม่

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 27 กันยายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    คำถามคือ ทำบุญ กับ ทำทานเหมือนกันรึเปล่า? ต่างกันยังไง?
    คำตอบคือ ไม่เหมือนกัน.. ทานเป็นเพียงหนึ่งในการกระทำที่ทำให้เกิดบุญ

    [​IMG]คำถาม: อ้าว! ถ้าการทำทานเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง แล้วที่เหลือมีอะไรบ้างล่ะที่ทำแล้วได้ชื่อว่าเป็นการทำบุญ?
    คำตอบ: มาดูบุญกริยาวัตถุ๑๐กัน..

    อย่า! อย่าเพิ่งตกใจกับชื่อนะ.. ไม่ยากอย่างที่คิดหรอก.. :)
    มาดูดีกว่าว่าการกระทำแบบไหนที่เรียกว่าทำบุญบ้าง..

    [​IMG]๑. ทานมัย การให้สิ่งที่เป็นประโยชน์สุขแก่ผู้รับ ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- เป็นที่มาของทรัพย์สมบัติทั้งหลาย
    ๒- เป็นที่ตั้งของโภคทรัพย์ทั้งปวง
    ๓- ผู้ให้ย่อมได้รับความสุข
    ๔- ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนหมู่มาก
    ๕- ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีผู้อื่นไว้ได้
    ๖- ทำให้เป็นผู้มีเสน่ห์น่านับถือ
    ๗- ทำให้เป็นที่น่าคบหาของคนดี
    ๘- ทำให้เข้ากับสังคมอื่นได้คล่องแคล่ว
    ๙- มีบุคลิกองอาจ สง่าผ่าเผย
    ๑๐- ทำให้มีชื่อเสียงเกียรติคุณดี
    ๑๑- ตายแล้วเกิดในสุคติภูมิ

    [​IMG]๒. สีลมัย บุญที่สำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- ทำให้มีความสุขกาย สุขใจ
    ๒- ทำให้เกิดโภคทรัพย์ได้
    ๓- ทำให้สามารถใช้สอยทรัพย์นั้นได้เต็มอิ่ม โดยไม่หวาดระแวง
    ๔-ทำให้ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะมีใครมาทวงทรัพย์คืน
    ๕- ทำให้เกียรติคุณฟุ้งขจรไป ทำให้ผู้อื่นเกิดความเชื่อถือ
    ๖- ทำให้ชีวิตนั้นแกล้วกล้าองอาจท่ามกลางชุมชน
    ๗- ทำให้ไม่เป็นคนหลงลืมสติ
    ๘- ตายแล้วไปเกิดในสุคตภูมิ

    [​IMG]๓. ภาวนามัย บุญที่สำเร็จได้ด้วยการเจริญสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา ย่อมต้องได้รับอานิสงส์
    ๑- มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
    ๒- มีผิวพรรณผ่องใส
    ๓- มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
    ๔- มีความจำดี และกำลังปัญญาว่องไว
    ๕- เป็นคนใจคอเยือกเย็น
    ๖- เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น
    ๗- มีบุคลิกอันน่าศรัทธา
    ๘- เกิดในตระกูลดี
    ๙- มีบุคลิกสง่างาม
    ๑๐- มีมิตรสหายมาก
    ๑๑- เป็นที่เคารพยำเกรงของคนทั่วไป
    ๑๒- เป็นที่ชื่นชอบของบัณฑิต
    ๑๓- สมบูรณ์ด้วยปัจจัย ๔
    ๑๔- ปราศจากอกุศลทั้งปวง
    ๑๕- ปลอดภัยจากศาสตราวุธ
    ๑๖- มีอายุยืน
    ๑๗- ตายแล้วเกิดในสุคติภูมิ

    [​IMG]๔. อปจายนะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อผู้ที่ควรเคารพนบนอบ (คุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาติวุฒิ) ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- เกิดในตระกูลสูง
    ๒- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
    ๓- มีมิตรสหายดี
    ๔- ได้รับคำชมเชยอยู่เสมอ
    ๕- มีความสมบูรณ์ในทรัพย์
    ๖- ได้พบเห็นแต่สิ่งที่ตนปรารถนา

    [​IMG]๕. เวยยาวัจจะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการช่วยเหลือกิจการงานที่ชอบ ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- มีความเป็นอยู่ดี สุขกายสุขใจ
    ๒- มีมิตรสหายมาก
    ๓- มีไหวพริบความจำดี
    ๔- มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง

    [​IMG]๖. ปัตติทานะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้อื่น (การแผ่เมตตา) ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- ไม่มีความอดอยาก ยากจน
    ๒- ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน
    ๓- มีบริวารดี
    ๔- เป็นที่รักของผู้พบเห็น
    ๕- มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
    ๖- มีอายุยืน

    [​IMG]๗. ปัตตานุโมทนา บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- มีสุขภาพสมบูรณ์
    ๒- มีฐานะดี
    ๓- มากไปด้วยลาภสักการะ
    ๔- พบเห็นแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสบายใจ

    [​IMG]๘. ธัมมสวนะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- เกิดในตระกูลสูง
    ๒- มีสติปัญญาดี
    ๓- มีมิตรสหายดี
    ๔- มีความเชื่อมั่นในตนเอง

    [​IMG]๙. ธัมมเทสนา บุญที่สำเร็จได้ด้วยการแสดงธรรม ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- ไม่มีกลิ่นปาก
    ๒- มีฟันขาวเรียบ
    ๓- บุตรบริวารมีความเชื่อฟัง
    ๔- มีบุคลิกสง่างาม
    ๕- มีความจำดี
    ๖- เป็นที่ไว้วางใจแก่ผุ้พบเห็น

    [​IMG]๑๐.ทิฏฐุชุกรรม บุญที่สำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้
    ๑- มีปัญญาดี
    ๒- ไม่อดอยาก
    ๓- ไม่ยากจน
    ๔- มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
    ๕- มีบุคลิกสง่างาม
    ๖- พบเห็นแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสบายใจ
    ๗- มีฐานะความเป็นอยู่ดี
    ๘- มีบริวารมาก
    ๙- มีความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่มีชีวิตเนื่องด้วยผู้อื่น

    บุญกริยาวัตถุ ๑๐ เมื่อสงเคราะห์ลงในทาน ศีล ภาวนา ได้ดังนี้คือ


    <CENTER>[​IMG]ทาน ปัตติทานะ ปัตตานุโมทนา สงเคราะห์ใน ทาน[​IMG]
    [​IMG]ศีล อปจายะ เวยยาวัจจะ สงเคราะห์ใน ศีล[​IMG]
    [​IMG]ภาวนา ธัมมสวนะ ธัมมเทสนา ทิฏฐุชุกรรม สงเคราะห์ใน ภาวนา[​IMG]
    </CENTER>

    ภาวนามัย อานิสงค์ ๑๗ ข้อดังกล่าว จะสรุปได้ว่า บุญที่สำเร็จได้ด้วยการเจริญสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา ได้บุญ เพราะจิต ได้ ข่ม ลด ละ เลิก ตัด กิเลส เป็น ชั้นๆ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือ พระนิพพาน



    <CENTER>[​IMG]ในจำนวน ๑๐ ข้อ ภาวนามัย จึงสำคัญ ที่ สุด เพราะเป็น ปฏิบัติบูชา [​IMG]</CENTER>

    มาทำบุญให้ครบสิบข้อกันดีกว่า :D

    ...........................
    อ้างอิงจาก
    http://larndham.net/index.php?showtopic=15763&st=1
    http://larndham.net/index.php?showtopic=16056&st=5
    http://larnbuddhism.net/buddha/shadok/shadok17.html<!-- Signature -->
     
  2. nutnun_k

    nutnun_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +1,021
    ภาวนามัย ดีจังตังค์ไม่เสียด้วย
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...