นิพพานธาตุ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ปาปิปผลิ, 26 สิงหาคม 2012.

  1. ปาปิปผลิ

    ปาปิปผลิ พระอุโบสถเจดีย์7ชั้น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +1,801
    นิพพานธาตุ



    <HR align=center color=white SIZE=1 width="100%" noShade>

    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT> พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๑๙๒/๔๑๘
    ๗.ธาตุสูตร



    [๒๒๒] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว
    พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว
    เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ ๒ประการเป็นไฉน


    คือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ อนุปาทิเสสนิพพาน ธาตุ ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สอุปาทิเสสนิพพานธาตุเป็นไฉน
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นพระอรหันตขีณาสพอยู่จบพรหมจรรย์
    ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้วมีประโยชน์ของตน
    อันบรรลุแล้ว



    มีสังโยชน์ในภพนี้ สิ้นรอบแล้วหลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ
    ภิกษุนั้นย่อมเสวยอารมณ์ ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจยังเสวยสุขและทุกข์อยู่
    เพราะความที่อินทรีย์ ๕เหล่าใด เป็นธรรมชาติไม่บุบสลาย
    อินทรีย์ ๕ เหล่านั้นของเธอยังตั้งอยู่นั่นเทียว ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ
    ของภิกษุนั้นนี้เราเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
    ดูกรภิกษุทั้งหลายก็อนุปาทิเสสนิพพานธาตุเป็นไฉน
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นพระอรหันตขีณาสพอยู่จบพรหมจรรย์
    ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2012
  2. ปาปิปผลิ

    ปาปิปผลิ พระอุโบสถเจดีย์7ชั้น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +1,801
    มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นรอบแล้ว
    หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ
    เวทนาทั้งปวงในอัตภาพนี้แหละของภิกษุนั้นเป็นธรรมชาติอันกิเลสทั้งหลาย
    มีตัณหาเป็นต้นให้เพลิดเพลินมิได้แล้ว จัก (ดับ)เย็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    นี้เราเรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ




    ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้แล ฯ
    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว
    ในพระสูตรนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
    นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้พระตถาคตผู้มีจักษุผู้อันตัณหา
    และทิฐิไม่อาศัยแล้ว ผู้คงที่ประกาศไว้แล้วอันนิพพานธาตุอย่างหนึ่ง
    มีในปัจจุบันนี้ ชื่อว่าสอุปาทิเสสเพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ



    ส่วนนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง)
    เป็นที่ดับสนิทแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวงอันมีในเบื้องหน้า
    ชื่อว่าอนุปาทิเสสชนเหล่าใดรู้บทอันปัจจัยไม่ปรุงแต่งแล้วนี้มีจิตหลุด<INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px">พ้นแล้ว
    เพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px">ชนเหล่านั้นยินดีแล้วในนิพพานเป็นที่สิ้นกิเลส เพราะบรรลุธรรมอันเป็นสาระเป็นผู้คงที่ละภพได้ทั้งหมด ฯ</INS><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px">เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้วเพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ
    </INS><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px">จบสูตรที่ ๗
    </INS></INS>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...