น้ำมนต์ น้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย..."มนต์"

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 29 ธันวาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,894
    [​IMG]


    "น้ำมนต์ คือ น้ำที่ผ่านพิธีน้ำมนต์ ปกติจะสำเร็จด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ในงานพิธีมงคลต่างๆ หรือการเสกของพระภิกษุ หรือ คฤหัสถ์ ผู้ทรงวิทยาคุณ กล่าวคือ ผ่านการทำสมาธิ ที่แน่วแน่ และพระปริตร ที่เป็นมนต์ทางศาสนา มาแล้ว น้ำมนต์ นิยมนำมาอาบ ดื่ม หรือประพรมที่ศีรษะ ภายในบ้าน บริเวณบ้าน ป้ายร้านค้า เป็นต้น"

    นี่เป็นความหมายของน้ำมนต์ จากพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด ของ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต


    อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ ผู้จัดทำส่วนใหญ่จะนำน้ำมนต์จากพระอารามหลวง ๗๕ จังหวัด มาเทผสมรวมกัน


    นอกจากนี้ยังมีน้ำมนต์อีก ๒ แห่ง ที่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ คือ

    ๑.น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากเศียรหลวงพ่อทองสุข วัดตูม (พระอารามหลวง) จ.พระนครศรีอยุธยา มุขปาฐะ ว่า...สมเด็จพระนเรศวรใช้น้ำมนต์วัดตูม ชุบพระแสง และเป็นอารามที่ประกอบพิธีปลุกเสกเครื่องพิชัยสงคราม มาแต่สมัยอยุธยา

    และ

    ๒.น้ำมนต์จากเศียรหลวงพ่ออุ่นเมือง วัดน้ำฮูม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มุขปาฐะ ว่า...พระเกศา พระสุพรรณกัลยา บรรจุอยู่ในสถูปวัดน้ำฮูม



    คติความเชื่อเรื่องน้ำมนต์นั้น นอกจากความเป็นสิริมงคลสำหรับผู้ประพรม อาบ และดื่มแล้ว ยังมีคติความเชื่อด้วยว่า น้ำมนต์ยังนำความสวัสดีมีโชคมาให้ ตลอดถึงกำจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ ได้


    <CENTER></CENTER>อย่างเช่นกรณีของ น้ำมนต์เสือกินน้ำ ซึ่งเป็นตำรับการทำน้ำมนต์ของ พระครูปลัดปริยัติวรวัฒน์ หรือ หลวงพ่อบุญเลิศ เจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โดยได้รับการถ่ายทอดจากพระธุดงค์รูปหนึ่งเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว

    ความแตกต่างของน้ำมนต์ ทำไมจึงศักดิ์สิทธิ์กว่าน้ำปกติธรรมดาทั่วๆ ไปนั้น นายโอฬาร เพียรธรรม ผู้เขียนหนังสือ ตามหาความจริงวิทยาศาสตร์กับพุทธธรรม และถอดกฎพบกรรม บอกว่า

    ในระยะที่ผ่านมา มีการทดลองในญี่ปุ่น เกี่ยวกับน้ำที่ได้รับพลังจิตทั้งทางดีและทางร้าย ซึ่งมีผลทำให้รูปผลึกของน้ำเปลี่ยนแปลงไปในทางสวยงาม หรือน่าเกลียด ได้ทั้ง ๒ ทาง ทั้งนี้ จากการทดลองของ มิสเตอร์มาซารุ เอโมโตะ โดยถ่ายรูปผลึกของน้ำ เมื่อผ่านการฟังเสียงพูด เสียงเพลง ฯลฯ ที่มีเจตนา อารมณ์ ต่างๆ กัน ผลึกของน้ำก็จะแตกต่างกันไปด้วย มีทั้งสวยงามและไม่สวยงาม

    การทดลองนี้ไม่ใช่บังเอิญ เพราะเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่ใช้ตัวอย่างนับร้อยๆ และทำซ้ำๆ กัน ที่สำคัญ คือ ผลงานนี้ก็ได้เผยแพร่ให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้รับ รู้ด้วย

    จึงมีคำถามตามมาว่า ทำไมจึงรับ พลังจิต ได้หลากหลาย จนกลายเป็นน้ำมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีกันทั่วโลกหลายพันปีแล้ว และกลายมาเป็นน้ำรักษาโรค

    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมนต์นั้น คงต้องเริ่มอธิบายด้วยวิชาฟิสิกส์ด้านควอนตัม ซึ่งหมายถึง อนุภาคที่เป็นส่วนย่อยของอะตอมน้ำ ประกอบด้วย อะตอมของไฮโดรเจน และออกซิเจน มาจับตัวกัน (H๒O) โดยอะตอมของธาตุใดก็ตาม ก็จะมีนิวเคลียส (ประกอบด้วยโปรตอน และนิวตรอน) มีอิเล็กตรอนวิ่งอยู่รอบๆ โปรตอนและนิวตรอน แยกเป็นอนุภาคย่อยได้อีก เรียก ควาร์ก (Quark) มีหลายชนิด แต่เรียกรวมๆ กันได้ว่า เป็นอนุภาคควอนตัม

    สรุปว่า อนุภาคควอนตัมนี้ มีอยู่ในอะตอมของทุกๆ ธาตุในโลก ไม่ว่าของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ และอนุภาคควอนตัมนี้ มีคุณสมบัติแปลกๆ ที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น

    ๑.อนุภาคควอนตัม อาจแสดงตัวเป็นมวล (สสาร) หรือเป็นคลื่น (พลังงาน) ก็ได้ แล้วแต่สิ่งแวดล้อม (เช่น เมื่อคนส่งจิตไปดูมัน มันจะเปลี่ยนสภาพจาก คลื่น เป็น มวล ได้)

    ๒.อนุภาคควอนตัมตัวเดียว อาจแสดงพฤติกรรมเสมือนว่า มันอยู่ได้หลายๆ ที่ในเวลาเดียวกัน (เช่น วิ่งลอดช่องที่เจาะไว้ ๒ ช่อง หรือหลายๆ ช่องได้พร้อมๆ กัน

    ๓.อนุภาคควอนตัมที่มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน เมื่อถูกจับแยกให้อยู่ห่างกัน แม้จะไกลเท่าใดก็ตาม (ห่างกันระยะเป็นปีแสง หรือ สุดขอบจักรวาล) มันก็จะรับส่งข้อมูลติดต่อกันได้ ด้วยความเร็วมากกว่าแสง อาจกล่าวได้ว่า อนุภาคควอนตัมเสมือน มีจิต หรือตัวรู้ ( วิญญาณ) ที่ติดต่อกันได้ ด้วยความเร็วของจิต (ซึ่งมากกว่าแสง)

    จากผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ผสมจากความเชื่อและประสบการณ์แต่โบราณของชาวไทยเรา เชื่อว่า น้ำ ที่กลายเป็น น้ำมนต์ นั้น มี พลัง ที่จะรักษาโรคภัยไข้เจ็บ สร้างความสุขสวัสดีแก่ผู้ที่นำไปใช้

    นอกจากนี้แล้ว ในเมืองไทย พระภิกษุผู้ปฏิบัติกรรมฐานได้ฌานระดับต่างๆ ก็ย่อมมีพลังจิตสูงแน่วแน่กว่าบุคคลธรรมดามาก สามารถส่งพลังจิตในแนวทางที่ต้องการ เพื่อบรรจุไว้ในน้ำ (หรือวัตถุมงคลอื่นๆ)

    ในการสวดมนต์บทต่างๆ ในพิธีกรรมนั้น เมื่อแปลดูก็จะเห็นได้ว่า บทสวดมนต์แต่ละบทมีจุดมุ่งหมายต่างๆ กันไป เช่น บทสวดชินบัญชร ก็เป็นการอาราธนาพระพุทธเจ้าและสาวก ให้มาคุ้มครองให้มีความสวัสดี เหมือนมีเกราะแก้วป้องกันภัย

    ในขณะที่บทสวดโพชฌังคปริตร ก็น้อมนำเอาองค์แห่งการรู้แจ้ง ๗ ประการ มาช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

    ส่วนบทสวดมงคลปริตร ก็เป็นการน้อมนำเอามงคลทั้ง ๓๘ ประการ จิตที่มีความเมตตากรุณา จิตที่อยากให้ผู้รับ ปราศจากทุกข์โศกทั้งปวง จิตที่อยากให้ผู้รับพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ หรืออยากให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง มาก่อให้เกิดความเจริญความสวัสดีแก่ตน เป็นต้น

    "เมื่อพระภิกษุ หรือใครก็ตาม ที่มีพลังจิตสูง ส่งพลังจิตอย่างใดอย่างหนึ่งโดยผ่านการสวดมนต์ พลังจิตชนิดนั้นๆ ก็จะไปบันทึกไว้ในน้ำ (หรือวัตถุมงคลอื่นๆ) และสามารถถ่ายทอดออกมา นำเอาไปใช้ในโอกาสที่ต้องการ คือ ผู้ใช้ต้องตั้งจิตแน่วแน่ ขอรับเอาพลังในสิ่งนั้นๆ มาใช้ให้เกิดผลดีกับตนก็คงเป็นคำอธิบายโดยสั้นที่สุด ที่จะเป็นได้ว่า ทำไมน้ำมนต์ และวัตถุมงคลอื่นๆ จึงศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้หลักการทั้งจากพุทธศาสนา และวิทยาศาสตร์ มาผสมกันครับ"



    http://www.komchadluek.net/2009/01/0...news_id=330195
     
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ....
     
  4. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ ๆ กับ ท่านที่ได้นำธรรมะมาเผยแพร่ พระพุทธรูปศักดิสิทธิ์ของ ประเทศไทย ที่มีน้ำไหลออกจากพระเศียร มีอย่างน้อยก็ สององค์ ที่เราได้รับรู้ อยากให้ชาวต่างชาติ ต่างประเทศ ได้รับรุ้กันบ้าง จะได้มานมัสการกันมาก ๆ ได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของ พุทธศาสนา ได้บุญและได้การท่องเที่ยว และความศรัทธาใน ประเทศไทย ด้วย รัฐบาล รมต.การท่องเที่ยวและการกีฬาน่าจะลองเอาไป โปรโมทดูนะครับ ก็จะเกิดผลดีกับประเทศไทยและพุทธศาสนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...