บุญ - บาป นรก สวรรค์ นิพพาน หลวงปู่ขาว อนาลโย

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย มองทุกมุม, 13 มีนาคม 2014.

  1. มองทุกมุม

    มองทุกมุม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +1,822
    [​IMG]


    หลวงปู่ขาว ตอบปัญหาธรรม บุญ - บาป นรก สวรรค์ นิพพาน

    ถาม : คนส่วนมากสงสัยเรื่องบุญ - บาป นรก สวรรค์ นิพพาน ว่าจะมีจริงดังธรรมท่านสอนไว้หรือไม่หนอ พระพุทธเจ้าผู้สอนธรรมเหล่านี้ก็เข้าสู่นิพพานไปนานสองพันกว่าปีแล้ว พระวาจาของพระองค์จะยังศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่หนอ ดังนี้มีมากในชาวพุทธเราเองนี่แล สงสัยและพูดกันอยู่ทั่วไป

    ตอบ : ข้อนี้ก็น่าเห็นใจ เมื่อไม่รู้ไม่เห็นประจักษ์กับตัวเองตามที่ท่านบอกไว้ ก็อดสงสัยไม่ได้เป็นธรรมดาของคนมีกิเลสตัวมืดมิดปิดทวาร แต่อย่างไรก็ตามถ้าสนใจในเหตุผลอรรถธรรมอยู่แล้วก็มีทางจะรู้จะเห็นและเชื่อได้ไม่สุดวิสัย ข้อสำคัญเราเป็นลูกชาวพุทธ ที่ทรงประกาศสอนธรรมะไว้ ด้วยความถูกต้องแม่นยำตามหลักแห่งสวากขาตธรรม ที่ตรัสไว้ชอบแล้ว ทุกแง่ทุกมุม ไม่มีผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงแม้แต่น้อย จึงควรยกศาสดาเป็นหลักใจไว้ จะดีกว่ายกความสงสัยไว้ทำลายใจ

    ส่วนความเข้าใจว่า บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพานไม่มี นั้นเป็นเรื่องของกิเลสปิดตั้งใจไว้ ไม่ยอมให้สัตว์โลกรู้เห็นสิ่งมีอยู่นั้นๆ ตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีที่เป็น ไม่ใช่ดินฟ้าอากาศมาปิด เรื่อง บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน เหล่านั้น แม้พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ตลอดพระสาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ไม่มีพระองค์ใด องค์ใดเคยรู้เคยเห็นมาก่อนที่ธรรมยังไม่เข้าสู่พระทัยและสู่ใจ ต้องปฏิบัติลูบๆ คลำๆ กำดำกำขาวไปก่อน

    ดังพระพุทธเจ้าของเราก็เคยทราบในพระประวัติว่า ทรงบำเพ็ญทดลองหลายวิธี จึงทรงพบเงื่อนแห่งความถูกต้อง อันเป็นสายทางที่จะให้ตรัสรู้ธรรม วิธีนั้นคืออานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้าออก โดยมีพระสติปัญญาสังเกตในวิธีการที่ทรงบำเพ็ญ จนปรากฏผลเป็นความสงบเย็นและแน่พระทัยว่าถูกทาง ปฐมยามก็ทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติถอยหลัง ที่ไม่เคยบรรลุมาก่อนได้ ประจักษ์พระทัยหายสงสัยโดยไม่มีใครบอกเล่า มัชฌิมยามก็ทรงบรรลุ จุตูปปาตญาณ ทรงรู้ความจุติและความเกิดของสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณได้โดยไม่มีใครบอกเล่า

    พอปัจฉิมยามก็ทรงบรรลุ อาสวักขยญาณ ญาณความรู้แจ้งความสิ้นไปแห่งอาสวกิเลสทั้งมวล ไม่มีหลงเหลือในพระทัยเลย พร้อมด้วย วิชชา ๓ อภิญญา ๖ เป็นต้น ทะลุถึงโลกวิทู รู้แจ้งโลกในและโลกนอกตลอดทั่วถึง หายสงสัยโดยประการทั้งปวง สิ่งใดมีทั้งดีและชั่วตลอดธรรมอันประเสริฐเลิศเลอเหนือโลกสงสารก็ทรงรู้เห็น และยอมรับว่ามีว่าเป็นไม่ทรงลบล้าง และทรงปฏิบัติตามสิ่งที่มีที่เป็นนั้นๆ ตามที่ทรงเห็นควรว่าจะควรปฏิบัติต่อสิ่งนั้นๆ อย่างไรบ้าง และทรงสั่งสอนมวลสัตว์ด้วยวิธีการที่ทรงปฏิบัติและทรงรู้ทรงเห็นมา เป็นศาสนธรรมที่คงเส้นคงวาด้วยความถูกต้องแม่นยำมาตลอดปัจจุบันคือวันนี้

    เพราะความจริงไม่ขึ้นอยู่กับกาลสถานที่ ไม่เกี่ยวกับการยังทรงพระชนม์อยู่และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแลสาวกทั้งหลาย แต่ขึ้นอยู่กับความจริงที่เคยมีเคยเป็นอย่างไร ก็มีอยู่เป็นอยู่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าแลสาวกทั้งหลายได้ทรงปฏิบัติและรู้เห็นบาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน มาแล้วอย่างเต็มพระทัย จึงทรงนำความจริงนั้นๆ มาประกาศธรรมสอนโลก และทรงเป็นศาสดาเต็มองค์ รู้เห็นธรรมเต็มพระทัย มิได้มีอะไรปลอมแปลงแฝงอยู่ในพระทัยบ้างเลยแม้น้อย ดังนั้นสิ่งที่รู้ที่เห็นและที่สั่งสอนจึงเป็นของจริงเต็มส่วน ควรแก่การปฏิบัติตามด้วยความหายสงสัยกังวลอย่างยิ่ง

    ถ้าลงพระพุทธเจ้าเป็นที่ลงใจเชื่อไม่ได้แล้ว จะไปเชื่อใครได้ในไตรภพ คนๆ นั้นก็นับว่าหมดหวังและหมดทางเยียวยารักษา ถ้าเป็นโรคก็สุดวิสัย คอยแต่ลมหายใจเท่านั้น ถ้าจะเตรียมหีบเตรียมโลงก็ควรแล้ว เดี๋ยวจะเน่าเฟะเต็มบ้าน ที่กล่าวมาเหล่านี้คือข้อยืนยันของพระพุทธเจ้าที่เป็นศาสดาและนำธรรมมาสอนโลก

    ส่วนกิเลสตัวพาสัตว์โลกให้สวมแว่นตาดำมองอะไรเป็นหลังหมีไปทั้งตัวนั้น มันมีคุณสมบัติอะไร สัตว์โลกจึงเชื่อมันเอานักหนา ถึงกับไม่ยอมรับความจริงอะไรจากธรรมบ้างเลย กิเลสหมดทั้งโคตรแซ่พ่อแม่ลูกเต้าเหล่าหลานเหลนของมันมีกิเลสตัวใดโคตรแซ่ใดบ้างอุตริเกิดไปเห็น สวรรค์ นิพพาน แม้เพียงขณะสายฟ้าแลบ พอจะมีแก่ใจมาบอกและชักชวนสัตว์โลกให้ไปสวรรค์ นิพพาน กันบ้าง มีแต่มันหลอกมันต้มตุ๋นสัตว์โลก ฉุดลากสัตว์โลกให้ไปตกนรกทั้งเป็นทั้งตายเรื่อยมาแต่ต้นกำเนิดของมันโน่น ทั้งที่มันปฏิเสธว่านรกไม่มี แต่แล้วก็มันนั่นแลจับสัตว์โยนลงหม้อนรกทั้งเป็นทั้งตายด้วยความใจดำน้ำโสโครกที่สุด ไม่มีอะไรจะเป็นจอมหลอกลวงสัตว์โลกอย่างแยบยลยิ่งกว่ากิเลสชนิดต่างๆ

    ความมุ่งหมายของกิเลสเป็นอย่างนี้ คือ ถ้ามันจะบอกสัตว์โลกตามความจริงว่าบาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน มี สัตว์โลกก็จะตะเกียกตะกายละบาป บำเพ็ญบุญเพื่อหลีกนรก ไปสวรรค์ นิพพานจากมันเสียหมด มันก็จะขาดผลรายได้จากสัตว์โลกอย่างพินาศขาดสูญ ฉะนั้น มันจึงปิดหูปิดตาปิดใจสัตว์โลกไว้อย่างมิดตัว ไม่ให้มองเห็น บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพานนั้นได้เลย มันปิดไว้หมด ดังนั้นแม้สิ่งเหล่านี้จะตั้งขวางหน้าอยู่ก็ตามสัตว์โลกจึงไมมีทางรู้เห็นได้ เช่นเดียวกับคนที่ถูกมัดตาไว้อย่างมิดชิด แม้จะนำวัตถุหรือสีแสงต่างๆ มาวางขวางหน้าไว้ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ฉะนั้น กิเลสมันผูกมัดตาใจของสัตว์โลกไว้ก็เช่นเดียวกัน

    ดังนั้นชาวพุทธเราจงพยายามแก้สิ่งมัดตาของมันออกด้วยการปฏิบัติจิตภาวนาเป็นสำคัญ ให้สติปัญญาเกิดภายในใจ จะพังม่านหรือกำแพงแห่งความมืดบอดที่มันปิดให้ออกได้โดยลำดับจนหมดสิ้นไป มองเห็น บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพานอย่างทะลุปรุโปร่งประจักษ์ใจหายสงสัยโดยไม่ต้องมีใครมาบอกแหละ หลังจากนั้นจะได้เห็นกลหลอกลวงของกิเลส วิชาต้มตุ๋นของกิเลสได้อย่างชัดเจนหายสงสัย

    ฟังซิ หลานๆ อยากฟัง ปู่พูดให้ฟังอย่างเปิดใจ ใครจะว่าบ้า ปู่ก็ไม่โกรธให้เขา เพราะทราบแล้วว่าเขาคนนั้นคือเครื่องมือทำลายของกิเลส ที่มันพาทำลายศาสนธรรม และทำลายจิตใจสัตว์โลกมามากต่อมากแล้ว ปู่จึงไม่หลงกลมัน ไม่ตื่นมัน แม้มันจะยกมาทั้งโคตรแซ่ มาด่าปู่ ปู่ก็ไม่โกรธ นอกจากจะหัวเราะขบขันเพลงกล่อมของมันที่ร่ายออกมาเพียงตื้นๆ ผิวเผินนิดเดียวเท่านั้น มิได้ลืกซึ้งกว้างขวางและไพเราะจับใจเหมือนศาสนธรรมอันประเสริฐเลิศเลอเหนือโลกทั้งสามเลย ทั้งเป็นธรรมรื้อขนสัตว์โลกขึ้นจากนรกเมืองคนและนรกเมืองผีที่กิเลสตบตาปิดใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีมามากต่อมากแล้ว บาป บุญ นรก สวรรค์นิพพาน เหล่านี้เป็นของมีมาดั้งเดิม กิเลสทุกประเภทจะเสกสรรให้มีขึ้นและจะลบล้างทำลายให้ฉิบหายไปไม่ได้ เพราะเป็นของธรรมชาติและมีอยู่ดั้งเดิม ปราศจากสิ่งใด ผู้ใดไปก่อไปสร้างไปปรุงไปแต่งไปลบล้างทำลาย

    บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน อยู่เหนืออำนาจกิเลสที่จะไปอาจเอื้อมทำลายได้ แต่อยู่ตามหลักธรรมชาติของตน หลานๆ และชาวพุทธผู้เรียนและปฏิบัติธรรมอันเป็นธรรมมีอำนาจและสว่างกระจ่างแจ้ง เหนือกิเลสทั้งปวง จงเรียนและปฏิบัติให้ถึงใจ ถึงธรรม อย่ามัวมั่วสุมอยู่ในห้องขังของกิเลสให้มันกดขี่บังคับและร้องเพลงขับกล่อมให้เราเคลิ้มหลับไม่มีวันตื่นจากหลับจากหลงอยู่ร่ำไปนัก จะเสียใจให้ตัวเองภายหลัง จะว่าปู่ไม่บอก

    ปู่น่ะเห็นทุกข์ที่มันโยนให้แบกหามอย่างล้นหัวใจไม่มีที่เก็บมาแล้ว กลัวหลาน ๆ และชาวพุทธทั้งหลายจะแบกหามทุกข์ที่มันโยนมาให้แบกหามไม่มีวันปลงวางต่อไปได้ตลอดอนันตกาลและไม่มีวันจบสิ้นลงได้ จึงได้เตือนแล้วเตือนเล่า ราวกับว่าตะโกนบอกว่าอันตรายอันใหญ่หลวงมาแล้ว รีบพากันหาที่หลบภัยโดยด่วน เดี๋ยวอันตรายจะเข้าถึงตัว ที่หลบภัย คือ ศีล ทาน การกุศลทุกประเภทจงจับให้มั่น ถ้าอยากแคล้วคลาดปลอดภัย อย่าดื้อรั้นเชื่อกิเลสจนไม่ยอมฟังเสียงธรรมตะโกนบอก จงรีบฟังรีบตั้งตัวด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรมเสียแต่บัดนี้จะไม่สียกาลเวลาไปเปล่า


    เครดิต...https://www.facebook.com/photo.php?fbid=275637309264700&set=a.105766246251808.12844.100004552991588&type=1&theater
     
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    อยากให้กคนไทยเรามาอ่านคำสอนของหลวงปู่และนำไปคิดและปฎิบัติ ก็จะช่วยให้ประเทศชาติสงบ และตัวเราก็จะเข้าใจว่าชีวิตของเรามีสิ่งที่สำคัญและควรค่ามากกว่าการทะเลาะกัน ทำลายกันทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม มีเมตตาต่อกันให้อภัยทานซึ่งกันและกัน ก็เป็นการสร้างกุศล โมทนากับทุกท่านที่ร่วมเดินทางสวนกระแสกิเลสเพื่อพระนิพพานค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...