ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ภาพเมฆที่ถ่ายไว้เมื่อ 27 มกราคม 2554
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_5205.JPG
      DSC_5205.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      124
    • DSC_5207.JPG
      DSC_5207.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      99
    • DSC_5212.JPG
      DSC_5212.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      105
    • DSC_5220.JPG
      DSC_5220.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      86
    • DSC_5221.JPG
      DSC_5221.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      93
    • DSC_5229.JPG
      DSC_5229.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      90
    • DSC_5243.JPG
      DSC_5243.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      105
  2. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    เห็นพูดถึงเมฆกัน ขออนุญาตนำมาลง ถ่ายได้ตอนเย็นวันพฤหัสที่27มค53
    สวยงามแปลกตา...แต่อาจมีนัยสำคัญ...ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1951.jpg
      DSC_1951.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59 KB
      เปิดดู:
      99
    • DSC_1952.jpg
      DSC_1952.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      95
    • DSC_1953.jpg
      DSC_1953.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.6 KB
      เปิดดู:
      93
    • DSC_1961.jpg
      DSC_1961.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.8 KB
      เปิดดู:
      92
    • DSC_1977.jpg
      DSC_1977.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      86
    • DSC_1978.jpg
      DSC_1978.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.2 KB
      เปิดดู:
      90
    • DSC_1979.jpg
      DSC_1979.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.5 KB
      เปิดดู:
      92
    • DSC_1980.jpg
      DSC_1980.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      89
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้กันเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ?

    [​IMG]

    คำถามแรกอย่างที่บอกไป จะเป็นเช่นไร ถ้า.. ภายใน 1 อาทิตย์ คุณไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาให้ใช้ ? คำถามที่สอง คือ .....หากรัฐบาลมีประกาศให้ประชาชนงดการใช้พลังงาน เพื่อลดภาวะโลกร้อนด้วยการให้คุณเลือกว่า..ภายในระยะเวลา 1 อาทิตย์ คุณจะเลือกงดอย่างไหน ระหว่าง งดใช้ไฟฟ้า หรือ งดใช้น้ำประปา? ขอเหตุผลด้วยเนอะ

    ป.ล.ขอขอบคุณทุกการแสดงความคิดเห็น

    เอส จัง 13 ส.ค. 2553, 19:47:29

    ..ถ้าให้เลือกจริง...ขอน้ำใว้ก่อนครับ...
    ..ขาดไฟฟ้า.ไม่เท่าใหร่นะผมว่า...
    ..แต่ขาดน้ำเนี้ยะ..ไม่ใหวอ่ะ...
    ..โดยเฉพาะเวลาที่เข้าไปทำธุระ..ส่วนตั๊ว..ส่วนตัว...
    ..จะล้างแล้วไม่มีน้ำ...น้ำ น้ำ....น้ำไม่มี..
    ..ไม่อยากนึกภาพเลยฮิ....แหวะ..

    จัสมินร์ 13 ส.ค. 2553, 19:55:58

    ผมคิดว่า การดำเนินชีวิตประจำวันก็จะลำบากขึ้นมาทันที ยิ่งคนยุคใหม่ที่เติบโตมาบนความเจริญ สะดวกสบาย จะเกิดปัญหาโดยตรง เช่นการไม่มีน้ำมาใช้ในการอุปโภค บริโภค ไม่มีไฟฟ้าเพื่อสร้างความบันเทิง ผ่อนคลาย ไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆได้เลย เว้นเสียแต่เราจะสามารถอยู่กันได้อย่างผู้คนในอดีต ที่อยู่รวมกัน โดยพึ่งพาอาศัยกัน แต่คิดว่าสำหรับคนเมืองนั้น เป็นไปได้ยากมากครับ

    สำหรับผม ถ้าให้เลือกแล้วนั้น ขอเป็นเลือกงดน้ำประปาดีกว่านะครับ เพียง 1 สัปดาห์ น่าจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ได้ไม่ยากนะครับ แต่สำหรับไฟฟ้าแล้วนั้น เราแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยถ้าขาดไป แม้แต่การทำงาน ธนาคาร หน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า และอีกหลายๆอย่างครับ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีพในยุคนี้ (ย้ำว่าในยุคนี้เท่านั้น) โดยเฉพาะยามวิกาล หากไม่มีแสงสว่าง พวกโจร มิจฉาชีพจะฉวยโอกาสปล้น ฆ่า ข่มขืน ยากต่อการรักษาความปลอดภัย ผมจึงคิดว่าหากงดใช้น้ำซัก 1 สัปดาห์น่าจะดีกว่ามากเลยครับ

    zamzaza007 13 ส.ค. 2553, 20:00:08

    เอาเป็นงดน้ำดีกว่าค่ะ แล้วหมกตัวอยู่ในห้องแอร์ อิอิ
    ถ้าไม่มีน้ำและไฟใช้ โหยลำบากน่าดูเลย คงต้องไปหาคลองอาบน้ำแน่เลย

    แวมไพร์น้อย 13 ส.ค. 2553, 19:52:19

    พัทขอเลือกน้ำค่ะ....เพราะน้ำสำคัญกับการดำรงชีวิตค่ะ......
    ขาดน้ำ...ขาดใจค่ะ...และหวังว่าคุณเอสจังคงไม่ขาดน้ำใจ...
    ที่จะแสดงเหตุผลของตัวเองด้วยนะคะ.

    พัท 13 ส.ค. 2553, 20:04:56

    แย่สิค่ะ ไม่สามารถ เลือกอะไรได้ เพราะสำคัญทั้งคู่ค่ะ

    กิ๊สกี้ 13 ส.ค. 2553, 19:48:59

    มึนเลย ไม่ไหวเลยอ่ะ อยากเก็บเอาไว้ทั้งสองอย่างค่ะ

    modjee 13 ส.ค. 2553, 19:51:49

    งดใช้ไฟฟ้า

    1. คิดว่าช่วยลดภาวะโลกร้อนได้มากกว่า ในเวลากลางวันมีแสงสว่างตามธรรมชาติ ในเวลากลางคืนหาทดแทนได้ กิจกรรมอื่น ๆ ไม่สำคัญก็งด หากจำเป็นก็มีระบบสำรอง ซึ่งสะดวกกว่าสำรองน้ำ

    2 น้ำจำเป็นต้องใช้หลายอย่าง ทั้งการหุงต้ม การชำระล้าง จำเป็นต้องใช้ทั้งกลางวันกลางคืน

    วัยกลางคน 13 ส.ค. 2553, 22:41:51

    งดจ่ายน้ำดีกว่า ผมคงนอนไม่ได้แน่ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้

    TheNAt 14 ส.ค. 2553, 0:52:13

    ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=24f573907d895cca
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2011
  4. แน้ว

    แน้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +222
    งดไฟฟ้าดีกว่า เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้ครับ
     
  5. หงษ์

    หงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +821
    ไปดูมาแล้ว สุดยอดค่ะ ขอบคุณกระทู้นี้อย่างสูงนะค่ะ
     
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลวงตาบัว-ทรุด! "ฟ้าหญิง" เสด็จวัดป่าบ้านตาด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เฝ้าอาการ - ลูกศิษย์จำนวนมาก รวมทั้งพระเกจิชื่อดังภาคอีสาน
    เดินทางมายังวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เยี่ยมอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว
    และติด ตามการรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เสด็จวัดป่าบ้านตาด ทรงเข้าเยี่ยม"หลวงตามหาบัว"ที่กำลังอาพาธหนัก

    ขณะที่พระป่าสายหลวงปู่มั่น และศิษยานุศิษย์หลั่งไหลสู่วัดป่าบ้านตาดเนืองแน่น เพื่อเฝ้าอาการพระเกจิอาจารย์ใหญ่แห่งเมืองอุดร คณะแพทย์แถลงอาการอาพาธล่าสุด ภาวะเลือดมีปัญหา ไตทำงานไม่ปกติ ระบบภายในทั้งไต ปอด หัวใจทำงานไม่สอดคล้องกัน แนะนำให้รักษาอุณหภูมิปลายมือ และปลายเท้าให้อบอุ่นตลอดเวลา

    เมื่อเวลา 09.10 น.วันที่ 28 ม.ค.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อทรงเยี่ยมอาการอาพาธของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด โดยช่วงเช้าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเข้าเยี่ยมหลวงตามหาบัวในกุฏิปลอดเชื้อ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเวลา 09.20 น. ครั้งที่ 2 เวลา 10.30 น.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้พระเกจิอาจารย์และพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เดินทางมายังวัดป่าบ้านตาดเป็นจำนวนมาก

    รวมทั้งพระอุดมญาณโมลี หรือหลวงปู่จันทร์ศรี อายุ 99 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี และศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศที่มาเฝ้าอาการของหลวงตามหาบัว จนวัดป่าบ้านตาด เนืองแน่นไปด้วยพระและญาติโยมชนิดไม่เคยมีมาก่อน

    พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี ศิษย์ใกล้ชิดหลวงตามหาบัว นำคำแถลงการณ์ของคณะแพทย์ที่ดูแลรักษาหลวงตามหาบัว ออกมาประกาศให้คณะศิษยานุศิษย์และญาติโยมทราบถึงอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว ว่า เมื่อวานนี้ตอนเช้าหลวงตามีอาการไอเป็นครั้งคราว เสมหะเหลว ไม่มีไข้ แพทย์ได้ดูดน้ำออกจากปอดปริมาณ 500 ซีซี ตอนกลางวันหลวงตามีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น เสมหะมากขึ้แพทย์ดูดเสมหะ และให้ยาขยายหลอดลม ตอนกลางดึกเมื่อคืนนี้ หลวงตามีไข้ต่ำ และยังคงอ่อนเพลีย แพทย์สันนิษฐานว่าหลวงตาน่าจะมีอาการปอดอักเสบติดเชื้อแทรกซ้อน ซึ่งคณะแพทย์ได้ประชุมเพื่อปรึกษาหารือวิธีรักษาหลวงตาต่อไป

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนเที่ยงวันเดียว กันนี้มีแพทย์จีนเข้าตรวจอาการหลวงตามหาบัว ร่วมกับคณะแพทย์ประจำตัวหลวงตามหาบัว ภายหลังการตรวจคณะแพทย์รายงานอาการต่อคณะสงฆ์ว่า

    อาการล่าสุดภาวะเลือดของหลวงตามีปัญหา เกล็ดเลือดแดงลดน้อยลง ไตทำงานไม่ปกติ ระบบภายในทั้งไต ปอด หัวใจทำงานไม่สอดคล้องกัน จึงแนะ นำให้รักษาอุณหภูมิของปลายมือ และปลายเท้าของหลวงตาให้อบอุ่นตลอดเวลา ความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงตาเปลี่ยน แปลงอย่างไร คณะแพทย์จะรายงานให้ทราบเป็นระยะๆ

    สำหรับพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ปัจจุบันอายุ 98 ปี พรรษา 77 สำหรับอาการอาพาธครั้งล่าสุดนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553 หลวงตามหาบัวได้รับอาราธนานิมนต์จากคณะศิษยา นุศิษย์ให้เดินทางด้วยเครื่องบินพิเศษจาก จ.อุดรธานี เพื่อเข้าตรวจสุขภาพที่ร.พ.ศิริ ราช กรุงเทพฯ

    ภายหลังคณะแพทย์ตรวจรักษาอาการพบว่า หลวงตามหาบัวมีภาวะปอดอักเสบทั้งสองข้าง ภาวะทางเดินอาหารอุดตัน และขาดสารอาหาร คณะแพทย์ต้องเฝ้ารักษาอาการอย่างใกล้ชิด กระทั่งอาการอาพาธดีขึ้นเป็นลำดับ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะศิษยานุศิษย์ประสานกองทัพอากาศขอเครื่องบิน ซี 130 นำหลวงตามหาบัวเดินทางกลับวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ห่วงใย - คณะศิษยานุศิษย์และพระเกจิชื่อดังจำนวนมาก
    เดินทางมาเฝ้าติดตามอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว ด้วยความห่วงใย
    ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 28 ม.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    กทม. 29 ม.ค. – ที่อยู่อาศัยจำนวน 13 คูหา ย่านเพชรเกษม ทรุดตัวอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ทั้งหมด
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายการโยธา สำนักงานเขตหนองแขม นำประกาศพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลเข้าออก ไปติดที่บ้านเลขที่ 24/98 ถึง 110 รวม 13 คูหา ภายในหมู่บ้านสุชา ซอยเพชรเกษม 112 เขตหนองแขม หลังอาคารทั้งหมดเกิดทรุดตัวลงมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้บ้านเอียงและผนังเกิดรอยร้าวหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้อาศัยออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ผู้พักอาศัยกล่าวว่า เริ่มสังเกตเห็นรอยร้าวของผนังบ้านตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากนั้นสังเกตเห็นรอยร้าวขยายวงกว้างมากขึ้น แต่ไม่ได้เอะใจ จนเกิดเหตุดังกล่าว
    ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากฐานรากของอาคารทรุดตัว เนื่องจากโครงสร้างอาคารเก่าและสร้างมากกว่า 10 ปี อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้สมาคมวิศวกรรมและสถาปนิกแห่งประเทศไทย จะเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อให้เจ้าของบ้านดำเนินการฟ้องร้องผ่านสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป.
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000
     
  8. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    กับ อิเหนาตื่นยูเอฟโอทิ้งวงปริศนากลางนาข้าวในย็อกยาการ์ตา
    น่าจะสัมพันธ์ักัน อาจจะมีเหตุรุนแรงกว่านี้ไม่ช้ารึเปล่านะ
    <table class="A14" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center">
    </td></tr></tbody></table>
     
  9. OmGaneshPornJuntra

    OmGaneshPornJuntra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +51
    ทะเลสาปเรืองแสงสวยจังเลยค่ะ
    ไม่มีสิ่งไหนจะงดงามเท่าธรรมชาติอีกแล้ว และก็ไม่มีสิ่งไหนจะน่าสพรึงกลัวเท่าธรรมชาติอีกแล้ว
     
  10. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    เรียถามท่านผู้รู้ค่ะ
    เมื่อวานนี้คุยกันเรื่องเมฆแปลกๆ ก็เลยขอนำภาพเมฆแปลกมาเสนอด้วยค่ะ เป็นลางบอกเหตุอย่างใดหรือเปล่าคะ??
    ภาพนี้ถ่ายที่ความสูงกว่า 30,000ฟิต เหนือระดับน้ำทะเล พูดง่ายๆคือถ่ายจากเหนือเมฆ คิดว่าเกิดจากอะไร..แปลกมั้<WBR>ย?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    รัฐบาลขยายประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ผู้ประท้วงปักหลักปิดล้อมอาคารสถานที่ราชการ ไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค
    29 ม.ค. รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศแจ้งว่า รัฐบาลประเทศอียิปต์ได้ขยายประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานในกรุงไคโร เมืองท่าอเล็กซานเดรีย และเมืองสุเอซ ไปเป็นทั่วประเทศ
    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค สั่งการให้ทหารกับตำรวจปราบจลาจลเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงนับหมื่นคนที่ประท้วงต่อต้านการปกครองอันนาวนานกว่า 30 ปี ของประธานาธิบดีฮอสนีย์ มูบารัค วัย 82 ปี
    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงยังคงไม่สนใจคำสั่งเคอร์ฟิว โดยออกมารวมตัวประท้วงอย่างต่อเนื่อง พร้อมปิดล้อมสถานที่สำคัญอย่างกระทรวงต่างประเทศ และสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล โดยสำนักงานใหญ่ของพรรคเอ็นพีดี ที่เป็นพรรครัฐบาลที่ถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผารวมถึงบุกเข้าทุบทำลายและปล้น ทรัพย์สินมีค่า
    สำหรับรายงานผู้เสียชีวิตจากการประท้วงในวันนี้(28 ม.ค.)เพิ่มอีก 1 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 8 คน
    ล่าสุด ทางการ อียิปต์ มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ หลังจากที่ผู้ชุมนุมใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์เฟสบุ้ค เป็นช่องทางในการชักชวนประชาชนออกมาชุมนุม
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจากรอยเตอร์
     
  12. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    โห ถ้าไม่บอกว่าเป็นเมฆนึกว่ารอยแยกที่เป็นเหว

    ถ้าผมเดาก็คงเดาตามรูปเมฆเลย คงเกิดรอยแยกตรงนั้น

    ทำให้คลื่นพลังงานส่งออกมาจนทะลุเมฆ
     
  13. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    ถ้าจราจลอย่างที่อียิปต์ จะเกิดที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุอะไร คนไทยเตรียมตัวเตรียมใจแค่ไหน
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    กัมพูชาแถลงปฏิเสธปลดธงชาติที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ อ้างข้อมูลแผนที่สยาม-ฝรั่งเศส ระบุที่ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา ลั่นไทยซ้อมรบอาจทำให้เกิดสงครามในอนาคต
    29 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ลงวันที่ 28 มกราคม 2554 ปฏิเสธความต้องการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ต้องการให้กัมพูชาปลดธงชาติออกจากวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระใกล้กับปราสาทพระ วิหาร เพราะความต้องการดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ โดยะกัมพูชาขอปฏิเสธต่อข้อเรียกร้องที่แสดงถึงการดูถูกเกียรติเช่นนี้
    ทั้งนี้ ข้อความในแถลงการณ์ อ้างข้อมูลจากแผนที่คณะกรรมาธิการสยาม – ฝรั่งเศส ในปี 1905 และ 1908 ที่ระบุว่า วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ สร้างขึ้นโดยคนของประเทศกัมพูชา ในปี 1998 และตั้งอยู่อย่างชัดเจนในประเทศกัมพูชา ดังนั้น ธงชาติของประเทศกัมพูชาจึงมีสิทธิโดยชอบที่จะการปลิวไสวอยู่เหนือตัววัด
    ขณะเดียวกันแถลงการณ์ดังกล่าว ยังระบุถึงการซ้อมรบทางการทหารของไทยในพื้นที่ชายแดนติดประเทศกัมพูชา ว่า เป็นการทำกระที่เป็นการยั่วยุอย่างชัดเจน โดยอาจเป็นเหตุให้เกิดสงครามได้ในอนาคต ซึ่งกัมพูชาขอสงวนสิทธิ์ที่ถูกต้องในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพอาณาเขตของกัมพูชา
    อย่างไรก็ดี ล่าสุด สื่อกัมพูชาตีข่าว นายเขียว กัญญาฤทธิ์ โฆษกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารกัมพูชา เปิดเผยว่า ทางกัมพูชาได้เตรียมกำลังพร้อมรบแล้ว โดยกล่าวหาว่าทางฝ่ายไทยมีเจตนาไม่ดี

    เรียบเรียงข่าวโดยMthainews
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>กต.เตือนคนไทยเลี่ยงไปอียิปต์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>หวั่นถูกลูกหลงม็อบปะทะตำรวจ กระทรวงต่างประเทศเตือนคนไทยเลี่ยงไปอียิปต์

    วันนี้ (29ม.ค.) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงในกรุงไคโร และเมืองสำคัญอื่นๆในประเทศอียิปต์ ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะและใช้ความรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่งว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนคนไทยที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ในระยะนี้ ให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์ชุมนุมจะคลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติ แต่ถ้าจำเป็นต้องการเดินทาง ควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยหลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีการชุมนุม ในส่วนของนักเรียนไทยในอียิปต์มีประมาณ 2,000 คน ทุกคนปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงไคโร ได้แจ้งเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินให้ทุกคนทราบแล้ว



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โจรสลัดโซมาเลียปล่อยเรือประมงไต้หวัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (29 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เรือประมงไถ่หยวน 227 ของไต้หวัน พร้อมกับลูกเรือ 28 คน เป็นอิสระจากการควบคุมของโจรสลัดโซมาเลียแล้ว หลังถูกดักปล้นและควบคุมไว้นาน 8 เดือน

    แถลงการณ์ของกองเรือต่อต้านโจรสลัดของสหภาพยุโรป หรือ อียูนาฟฟอร์ เมื่อวันศุกร์ ระบุว่า เรือไถ่หยวน 227 พร้อมลูกเรือ 28 คน ซึ่งเป็นชาวจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เคนยา และโมซัมบิก กำลังเดินทางมุ่งหน้าออกจากชายฝั่งประเทศโซมาเลีย และได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารและน้ำ จากเรือรบสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดเกี่ยวกับเบื้องหลังการได้รับอิสระ เนื่องจากมีหลักฐานเรือไถ่หยวน 227 ถูกโจรสลัดใช้เป็นเรือแม่ ในการโจมตีเรืออื่นๆ รวมทั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 3 วันก่อน

    เรือไถ่หยวน 227 ถูกกลุ่มจรสลัดโซมาเลียดักปล้น เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ปีที่แล้ว ขณะแล่นผ่านน่านน้ำนอกชายฝั่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะเซเชลส์




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ

    มีเรื่องหนึ่ง----------ต้องพร่ำเตือน------ให้ซ้ำซาก
    กลัวท่านขาด--------เอาใจใส่-----------ในดวงจิต
    แผ่นดินไหว---------ที่จะเกิด------------ผมเฝ้าติด
    คอยสะกิด----------ให้ตื่นตัว------------อยู่เรื่อยมา

    เมื่อคนกลาง----------เก่งการเงิน---------เป็นผู้นำ
    ให้ระวัง---------------แผ่นดินไหว--------ที่จะเกิด
    เตรียมความพร้อม-----ยา น้ำ ท่า----------ก่อนภัยเปิด
    ระวังเถิด--------------อันตราย-----------ใกล้เข้ามา



    29 ม.ค. 54 โลกนี้คือละคร

    โลกนี้------------คือละคร---------โรงใหญ่
    อีกไม่ไกล--------ก็จะหมด---------เวลาเล่น
    เอาเวลา----------ที่เหลือ----------ทำให้เป็น
    อย่าทำเล่น-------เวลาหมด---------หมดเวลา

    ทำความดี---------เข้าไว้--------*--นะเพื่อนเอ่ย
    อย่ามัวเฉย--------ปล่อยเวลา--------ให้สูญเปล่า
    ช่วยคนดี----------มีที่อยู่------------รีบเร่งเอา
    จะไม่เศร้า---------เมื่อภัยมา---------ช้าเป็นภัย

    ทำอย่างไร--------ไปเมื่อไร----------เวลาไหน?
    ขอเปิดไต๋---------ให้รีบขึ้น-----------เมื่อกวาดใต้
    หาที่สูง-----------ที่ปลอดภัย---------เตรียมของใช้
    มีเอาไว้-----------กินกับอยู่-----------คู่ครอบครัว

    เมื่อสัญญาณ--------จากหน่วยเหนือ--------เริ่มนับหนึ่ง
    ให้รีบขึ้น------------ไปรออยู่--------------อย่าประมาท
    ทั้งครอบครัว---------และตัวเอง-----------อีกทั้งญาติ
    เพื่อแคล้วคลาด------ยามภัยมา------------พาอับจน

    ส่วนหลานจิ๊บ--------อติกานต์(หนุนภักดี)-----ท่านแจ้งบอก
    ต้องแช่จอด---------อยู่กับที่------+++++--ที่ปลอดภัย
    สามสี่เดือน----------ภัยจึงเกิด---------------ระเบิดไว
    เตรียมเอาไว้---------แต่เนิ่นๆ----------------อบอุ่นใจ

    พื้นที่ไป----------ต้องแน่ใจ----------ว่าปลอดภัย
    อย่าไว้ใจ---------พื้นที่สูง------------นั้นหลบได้
    ขอให้มี----------รอยพระบาท--------ที่กราบไหว้
    จะได้ให้----------สิ่งศักดิืสิทธิ์--------คุ้มครองตน

    อีกสิ่งหนึ่ง----------ที่ต้องมี-----------ของครอบครัว
    คือความชัวร์--------คุณความดี--------ของตัวเอง
    ทำเป็นเกราะ--------คอยป้องกัน-------เพื่อหลีกเร้น
    เป็นเส้นเอ็น---------ร้อยรวมรัด--------ปัดเพศภัย




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น. </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top> คมชัดลึก :"หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น.สิริมายุรวม 98 ปี ทีมแพทย์แถลงอีกครั้งเช้านี้




    รายงานข่าวจากวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าเมื่อเวลา 03.53 น.

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ละสังขาร แล้ว สิริอายุรวม 98 ปี ซึ่งคณะแพทย์เตรียมแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งเช้านี้




    สำหรับ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นั้น

    นาม บัว โลหิตดี ชาติภูมิ ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี เกิดเมื่อ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน๙ ปีฉลู ณ บ้านตาด อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี บิดา นายทองดี โลหิตดี มารดา นางแพงศรี โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน สถานภาพ


    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

    โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวงคู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น วันบวช ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี


    พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ

    โดยมีท่านพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า "ถึงพร้อมแล้วด้วยการหยั่งรู้" เคารพพระวินัย ด้วยเดิมมีนิสัยจริงจัง จึงบวชเพื่อเอาบุญกุศลจริง ๆ และตั้งใจรักษาสิกขาบทวินัยน้อยใหญ่ ่อย่างเคร่งครัด ในพรรษาแรกท่านได้ตั้งสัจอธิษฐานว่า ในการทำวัตรเช้า-เย็นรวมและการบิณฑบาต จะไม่ให้มีวันใดขาดเลย และท่านก็ทำได้ตามที่ตั้งคำสัตย์ไว้ เรียนปริยัติ เมื่อได้เรียนหนังสือทางธรรม ตั้งแต่นวโกวาท พุทธประวัติ ประวัติพระสาวกอรหันต์ ที่ท่านมาจากสกุลต่างๆตั้งแต่พระราชา เศรษฐี พ่อค้า จนถึงประชาชน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>หลังจากฟังพระพุทธโอวาทแล้วต่างก็เข้าบำเพ็ญเพียร ในป่าเขาอย่างจริงจัง

    เดี๋ยวองค์นั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในป่า เดี๋ยวองค์นี้สำเร็จในเขา ในเงื้อมผาในที่สงบสงัด ท่านก็เกิดความเชื่อเลื่อมใสขึ้นมา อยากจะเป็นพระอรหันต์ พ้นจากทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้อย่างพระสาวกท่านบ้าง สงสัย ช่วงเรียนปริยัติอยู่นี้ มีความลังเลสงสัยในใจว่า หากท่านดำเนินและปฏิบัติตามพระสาวกเหล่านั้นจะบรรลุถึงจุดที่พระสาวกท่านบรรลุหรือไม่ และบัดนี้จะยังมีมรรคผลนิพพานอยู่ เหมือนในครั้งพุทธกาลหรือไม่ ตั้งสัจจะ ด้วยความมุ่งมั่นอยากเป็นพระอรหันต์บ้าง ท่านจึงตั้งสัจจะไว้ว่า จะขอเรียนบาลีให้จบแค่เปรียญ ๓ ประโยคเท่านั้น ส่วนนักธรรมแม้จะไม่จบชั้นก็ไม่เป็นไร จากนั้นจะออกปฏิบัติกรรมฐานโดยถ่ายเดียว จะไม่ยอมศึกษาและสอบประโยคต่อไปเป็นอันขาด เรียนจบ ท่านสอบได้ทั้งนักธรรมเอก และเปรียญ ๓ ประโยคในปีที่ท่านบวชได้ ๗ พรรษา ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่แห่งนี้เอง เป็นที่แรกที่ท่านได้มีโอกาสพบเห็นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    ต่อมา ได้กลายเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญที่สุดในชีวิตของท่าน

    ออกปฏิบัติ เมื่อเรียนจบมหาเปรียญแล้ว แม้จะมีพระมหาเถระในกรุงเทพฯ สนับสนุนให้ท่านเรียนต่อในชั้นสูง ๆ ขึ้นไปก็ตาม แต่ด้วยท่านเป็นคนรักคำสัตย์ยิ่งกว่าชีวิต ดังนั้นเมื่อมีโอกาส ท่านจึงเข้ากราบลาพระผู้ใหญ่ และออกปฏิบัติกรรมฐานอย่างจริงจัง โดยมุ่งหน้าไปทางป่าเขาแถบจังหวัดนครราชสีมา แล้วเข้าจำพรรษาที่ อำเภอจักราช นับเป็นพรรษาที่ ๘ ของการบวช พากเพียร ท่านเร่งความเพียรตลอดทั้งพรรษา ไม่ทำการงานอื่นใดทั้งนั้น มีแต่ทำสมาธิภาวนา-เดินจงกรมอย่างเดียวทั้งวันทั้งคืน จนจิตได้รับความสงบจากสมาธิธรรม มุ่งมั่น แม้พระเถระผู้ใหญ่ท่านอุตส่าห์เมตตาตามมาสั่งให้กลับเข้าเรียนบาลีต่อที่กรุงเทพฯอีก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ที่จะพ้นทุกข์ให้ได้ภายในชาตินี้ ท่านจึงหาโอกาสปลีกตัวออกปฏิบัติได้อีกวาระหนึ่ง จิตเสื่อม


    จากนั้นท่านกลับไปบ้านเกิดของท่าน เพื่อทำกลดไว้ใช้ในการออกวิเวกตามป่าเขาจิตที่เคยสงบร่มเย็น จึงกลับเริ่มเสื่อมลง ๆ เพราะเหตุที่ทำกลดคันนี้นี่เอง

    เสาะหา..อาจารย์ เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๕ เดินทางไปขออยู่ศึกษากับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เหตุการณ์บังเอิญกุฏิที่พักเพิ่งจะว่างลงพอดี ท่านพระอาจารย์มั่นจึงเมตตารับไว้ และเทศน์สอนตรงกับปัญหาที่เก็บความสงสัยฝังใจมานานให้คลี่คลายไปได้ว่า ดินฟ้าอากาศแร่ธาตุต่างๆ เขาเป็นของเขาเอง เขาไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เขาไม่ได้เป็นกิเลส กิเลสจริง ๆ มรรคผลนิพพานจริง ๆ อยู่ที่ใจ หากกำหนดจิตจ่อด้วยสติที่ใจแล้ว จะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรม ทั้งกิเลสในใจ


    ขณะเดียวกันจะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ ปริยัติ..ไม่เพียงพอ

    จากนั้นท่านพระอาจารย์มั่นเมตตาแนะต่อว่า ธรรมที่เรียนมาถึงขั้นมหาเปรียญมากน้อยเพียงใด ยังไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้ได้ แต่กลับจะเป็นอุปสรรคต่อการภาวนา เพราะอดจะเป็นกังวล และนำธรรมที่เรียนมานั้น มาเทียบเคียงไม่ได้ในขณะที่ทำใจให้สงบ และยังจะกลายเป็นสัญญาอารมณ์ คาดคะเนไปที่อื่น จนกลายเป็นคนไม่มีหลักได้ ดังนั้น เพื่อให้สะดวกในเวลาทำความสงบหรือจะใช้ปัญญาคิดค้น ให้ยกธรรมที่เรียนมานั้นขึ้นบูชาไว้ก่อน ต่อเมื่อถึงกาลอันสมควร ธรรมที่เรียนมาทั้งหมด จะวิ่งเข้ามา ประสานกันกับด้านปฏิบัติ และกลมกลืนกันได้อย่างสนิท

    การศึกษาและปฏิบัติ ท่านได้ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพเป็นระยะเวลา ๘ ปี และถึงที่สุดแห่งธรรมที่วัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร ประวัติศาสตร์ช่วยชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นวันเปิดโครงการช่วยชาติ โดยมีเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เสด็จไปเป็นประธานเปิดที่สวนแสงธรรม หลวงตาพูดว่า

    "(เวลานี้) น่าจะเป็นประวัติศาสตร์ก็ได้ในเมืองไทยของเรา ที่ว่าพระเป็นผู้นำนี่ไม่เคยมีนะ เริ่มมีหลวงตาบัวคนเดียวนี้แหละออกประกาศตนทีเดียว โดยไม่มีใครชักชวน ไม่มีโครบอกเล่า ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาชักชวนเอง ดูสภาพของเมืองไทยแล้วพี่น้องชาวไทยทั้งหลายต่างคนต่างมีความทุกข์ร้อนทุกหย่อมหญ้ากันไปโดยลำดับลำดาไม่ว่าสถานที่ใด ก็ทนใจอยู่ไม่ได้ จึงต้องออกความคิด ความเห็นในแง่ต่าง ๆ ที่จะนำชาติไทยของเราให้เป็นไปด้วยความแคล้วคลาด ปลอดภัย หาทางใดก็ไม่เจอ ตามความสามารถความคิดอ่านของตัวเอง หาแล้วหาเล่า หาไม่เจอ สุดท้ายก็เลยต้องเอาหลวงตาบัวเป็นตัวประกัน นำพี่น้องทั้งหลายเพื่อจะบริจาคทรัพย์ที่มีอยู่ของตนเข้าช่วยชาติของเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ นี้แหละเริ่มต้นเหตุเป็นอย่างนี้จึงได้ออกประกาศตน"


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พลิกปูมประวัติ“หลวงตามหาบัว”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระราชญาณวิสุทธิโสภณ หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    เกิดเมื่อวันอังคารที่ 12 ส.ค.2456 ชื่อบัว โลหิตดี บิดาชื่อนายทองดี มารดาชื่อนางแพง โลหิตดี อยู่ที่บ้านตาด โดยหลวงตาบัวเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 16 คน ที่เกิดมาในตระกูลชาวนาผู้มีฐานะดี ในสมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่นั้น หลวงตาบัวได้เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ เมื่ออายุครบ 20 ปี พ่อแม่จึงอยากจะให้บวชตามประเพณี แต่หลวงตามีท่าทีเฉยๆ ทำให้พ่อแม่ถึงกับน้ำตาร่วง จนหลวงตารู้สึกสะเทือนใจ และเห็นใจพ่อแม่เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจจะยอมบวชตามที่พ่อแม่ต้องการ และให้เป็นไปตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจในตอนแรกว่าจะบวชให้เพียงระยะสั้นเท่านั้น

    เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2477 เป็นวันที่หลวงตามหาบัวได้บวช ณ วัดโยธานิมิตร บ้านหนองขอนกว้าง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี

    โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากได้บวชเพื่อทดแทนพระคุณบิดรและมารดาแล้ว หลวงตาบัวได้ตั้งใจเอาบุญเอากุศลอย่างจริงจัง เมื่อก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยใฝ่ภาวนา และตั้งจุดมุ่งหมายของชีวิต

    ต่อมาได้ออกจากบ้านตาดไปศึกษาเล่าเรียนในที่ต่างๆ กระทั่งได้ตั้งสัจอธิษฐานไว้ว่า “เมื่อจบเปรียญ 3 ประโยคแล้ว จะออกปฏิบัติโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ไม่มีข้อแม้ไม่มีเงื่อนไข เพราะอยากพ้นทุกข์เหลือกำลังอยากเป็นพระอรหันต์นั่นเอง” ทำให้การศึกษาทางโลกของหลวงตาบัว จบประถม 3 ทางบาลีจบเปรียญ 3 และทางนักธรรมก็จบนักธรรมเอก เป็น 3 ตรงกันหมด 3 วาระ

    ขณะเรียนปริยัติอยู่นั้น เมื่อว่างจากการเรียนหลวงตา พยายามหลบหลีกจากหมู่เพื่อนที่เรียนหนังสือด้วยกัน แอบไปนั่งสมาธิในกุฏิคนเดียว หรือเดินจงกรมในช่วงเวลาดึกๆอยู่เสมอ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติกรรมฐาน ก่อนออกไปแสวงหาครูบาอาจารย์ทางธรรมะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ช่วงหนึ่ง ได้ออกเดินทางจาก จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี

    ตั้งใจไว้ว่าจะไปจำพรรษากับอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ทางฝ่ายวิปัสสนา ที่วัดป่าโนนนิเวศน์แต่ไม่พบ เลยจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งสว่าง จ.หนองคาย ประมาณ 3 เดือน ก่อนที่จะเดินทางไปหาอาจารย์มั่น ที่ บ้านโคก ต.หนองโขบ อ.เมือง จ.สกลนครในเวลาต่อมา และก็มีโอกาสได้พบกับอาจารย์มั่นสมใจ พร้อมกับได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์มั่น และได้อยู่ปรนนิบัติให้กับอาจารย์มั่น พร้อมปฏิธรรม บำเพ็ญเพียรตามป่าเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    นอกจากจะเป็นพระนักปฏิบัติธรรมแล้ว หลวงตาบัวยังเป็นพระนักสงเคราะห์ ในการบริจาคทุนทรัพย์ช่วยเหลือแก่หน่วยงานราชการต่างๆมาโดยตลอด อาทิเช่น การช่วยเหลือบริจาคอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ก่อสร้างโรงพยาบาล สถานีอนามัย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทั่วประเทศ รวมทั้งต่างประเทศ คือประเทศ สปป.ลาว

    ความเมตตาสงเคราะห์โลกของหลวงตาบัว มิใช่ว่าจะสิ้นสุดเพียงที่กล่าวมา

    ท่านยังให้ความเมตตาเผื่อแผ่ไปช่วยเหลือหน่วยงานอื่นๆอีกมากมาย เช่น กก.ตชด.24 อุดรธานี สถานีรถไฟอุดรธานี ตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธร รพช. เรือนจำ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านเด็กแสงตะวัน ศูนย์เลี้ยงเด็ก โรงเรียนต่างๆ บ้านเลี้ยงสุนัข บ้านสงเคราะห์เด็กปากเกร็ด บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ฯลฯ ซึ่งในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินมหาศาล

    ในปี พ.ศ.2540 ประเทศไทยประสบกับปัญหา “วิกฤต” ทางเศรษฐกิจและความสับสนทางสังคม ที่ขยายวงกว้างขึ้นไปจนกลายเป็นความทุกข์

    โดยรวมของคนทั้งชาติ ด้วยความเมตตาสงสารอย่างบริสุทธิ์ใจต่อพี่น้องชาวไทย หลวงตามหาบัวจึงได้ปรารภขึ้นด้วยความห่วงใยว่า “จำเป็นต้องอาศัยความสามัคคีของพี่น้องไทยทุกคน ให้ต่างเสียสละช่วยกันอย่างจริงจัง” เมื่อคำปรารภดังกล่าวกระจายออกไปสู่สังคมกว้างขึ้น ผู้ที่เคารพศรัทธาในหลวงตามหาบัว และผู้มีความรักชาติเป็นพื้นฐานเดิมในใจอยู่แล้ว ต่างออกมาแสดงน้ำใจสละเงินทองช่วยกัน เมื่อคนไทยทั้งในและต่างประเทศรับรู้เรื่องมากขึ้น น้ำใจแห่งความ “รักชาติ” จึงเริ่มหลั่งไหลมาช่วยเหลือไม่ขาดสาย กลายเป็นที่มาของ “โครงการผ้าป่าช่วยชาติ” ที่หลวงตามหาบัวต้องฝืนสังขารไปแสดงธรรมเทศนาเพื่อรับบริจาคในการช่วยชาติ แล้วหลวงตามหาบัวก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 เม.ย.41 โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นประธานและเงินทองที่ได้มาจากการบริจาคนี้ หลวงตามหาบัวจะยกให้กับคลังหลวงทั้งหมด ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของหลวงตามหาบัว ที่ช่วยโลกอย่างเต็มหัวใจ

    การช่วยชาติครั้งนี้ หลวงตามหาบัวมีความมุ่งหมายไว้ ที่ทองคำน้ำหนัก 10 ตัน และดอลล่าร์ 10 ล้านดอลล่าร์

    นี่คือโครงการแห่งคุณค่าแห่งความรักชาติ คุณค่าแห่งความเสียสละ คุณค่าแห่งความสามัคคีของพี่น้องชาวไทย รวมตัวกันเข้าอุ้มชาติไทยทั้งชาติขึ้นได้ มีหลวงตามหาบัวเป็นผู้นำทาง ชี้แสงสว่าง โดยใช้ธรรมะเป็นสื่อให้คนไทยลุกขึ้นมาช่วยชาติ จนประสบความสำเร็จ ที่จะต้องจดจำและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนคลื่นลมแรงอ่าวไทย-อันดามัน2-4เมตรเรือเล็กงดออกฝั่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"คลื่นลมแรงในทะเลจีนใต้และอ่าวไทยตอนล่าง "ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 30 มกราคม

    มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมทะเลจีนใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ ส่วนประชาชนที่อาศัยตามบริเวณชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย

    <DD>
    สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังแผ่เสริมลงมา ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปโดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา
    <DD>
    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    <DD>
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    <DD>
    ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    <DD>
    ภาคตะวันออก อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
    <DD>
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
    <DD>
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
    <DD>
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“อียิปต์” มิคสัญญี! นักโทษแหกคุกทั่วเมือง-โจรปล้นสมบัติ “ตุตันคามุน”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>30 มกราคม 2554 16:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000012885&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=298><TBODY><TR><TD vAlign=top width=298 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคามุน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซีส์ - ความวุ่นวายทางการเมืองทำอียิปต์โกลาหลทั้งประเทศ ล่าสุดเกิดเหตุนักโทษแหกคุกหลายพันคน

    ทั้งยังมีกลุ่มโจรบุกเข้าพิพิธภัณฑ์กรุงไคโรเพื่อขโมยทรัพย์สินมีค่าของฟาโรห์ “ตุตันคามุน” และทำลายมัมมี่อายุกว่า 2,000 ปี เจ้าหน้าที่เผยวันนี้ (30)

    นักโทษหลายพันคนพากันหลบหนีออกจากเรือนจำ วาดี นัตรุน ทางตอนเหนือของกรุงไคโรในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

    ส่วนที่เรือนจำ อาบู ซาบา ทางตะวันออกของกรุงไคโร ก็มีเหตุนักโทษก่อการจลาจลจนถูกเจ้าหน้าที่สังหารไป 8 ราย

    นอกจากนี้ นักโทษหลายสิบคนในเรือนจำเมืองฟายุมทางตอนใต้ของกรุงไคโรก็พยายามหลบหนีจนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ส่วนนักโทษในเรือนจำตามเขตปกครองต่างๆ ทั่วอียิปต์ก็พากันแหกคุกเช่นกัน

    เหตุนักโทษหลบหนีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ซึ่งความวุ่นวายทางการเมืองยังเปิดช่องทางให้เหล่าหัวขโมยเข้าปล้นชิงทรัพย์สิน แม้รัฐบาลจะส่งทหารเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยแล้วก็ตาม

    ช่วงกลางดึกของวันเสาร์ (29) มีกลุ่มโจรบุกปล้นพิพิธภัณฑ์กรุงไคโร ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาหน้ากากทองคำและทรัพย์สมบัติล้ำค่าอื่นๆ ของฟาห์โรตุตันตามุน ทำให้รูปปั้นและมัมมี่อายุกว่า 2,000 ปีได้รับความเสียหาย

    ชายฉกรรจ์ 9 คนอาศัยเหตุเพลิงไหม้บริเวณที่ทำการพรรคเนชันแนล เดโมแครติก ปาร์ตี้ ซึ่งส่งผลให้ระบบรักษาความปลอดภัยในพิพิธภัณฑ์ขัดข้อง บุกเข้าไปขโมยของมีค่า ทั้งหมดถูกตำรวจและประชาชนช่วยกันจับไว้ได้ขณะพยายามหลบหนีไปพร้อมกับหัวของมัมมี่และรูปปั้น ซึ่งคาดว่ามีอายุกว่า 2,000 ปี

    สถานีโทรทัศน์อาราบิยาเผยแพร่ภาพทหารพร้อมอาวุธกำลังเดินคุ้มกันรอบๆ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งเก็บรักษาโบราณวัตถุยุคอียิปต์โบราณหลายพันชิ้น กระจกตู้แสดงบางส่วนถูกทุบแตก และมีเศษชิ้นส่วนรูปปั้นตกกระจายอยู่ตามพื้น

    ซาฮี ฮาวาส ประธานสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ กล่าวประณามกลุ่มโจรว่า “พวกเขาพยายามจะปล้นของมีค่าจากห้องแสดงสมบัติของฟาโรห์ตุตันคามุนแต่ก็ไม่สำเร็จ คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ไม่ใช่ชาวอียิปต์ที่แท้จริง”


    </TD></TR></TBODY></TABLE>--------------------------------------------------------------------------------

    ที่อียิปต์ตอนนี้ร้องโอ้ ได้คำเดียวจริงๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...