ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"ข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ"
จากทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน​

โอวาทธรรม ''คัมภีร์กัปป์สุดท้าย" ​

​

องค์พระศรีอาริยเมตไตรย และ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ทรงน้อมสดับฟังพระวจนะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเรื่องการประคับประคองช่วยเหลือเหล่าเวไนยสัตว์ที่ต้องผจญกับสิ่งชั่วร้าย ในช่วงวาระกัปสุดท้ายว่า​

" ฟ้าเบื้องบน(พระเจ้า)จะทรงบัญชาให้เทพยดาผู้คุมเกณฑ์กำหนด ตารางสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อสำรวจดูคัมภีร์กัปป์สุดท้ายนี้ หากพบว่ามีเหล่าสาธุชนเผยแพร่ออกไป ด้วยความเคารพศรัทธา พวกเขาทั้งหลายย่อมสามารถรอดพ้นจากเกณฑ์วาระแห่งมหันตภัยได้ และทุกชีวิตในครอบครัวจะไร้ทุกข์โศก"

ผู้ที่ละเว้นกรรมชั่ว ถือศีลกินเจ ประกอบแต่คุณงามความดี จะไม่ต้องเศร้าสลดวิตกกังวลประสบพบเจอภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการ อันได้แก่

๑. ถูกเพลิงไหม้เผาผลาญ ถูกน้ำไหลบ่าท่วมท้น
๒. ถูกเมฆหมอก ควันพิษ ทำลายล้าง
๓. มึนซึม หลับใหลหมดสติตาย
๔. ถูกสัตว์ร้าย งูพิษ ขบกัด
๕. ถูกประหัดประหารเข่นฆ่า ตายด้วยภัยสงคราม
๖. สามีภรรยา ต้องพลัดพรากหย่าร้าง
๗. ต้องเร่ร่อน อพยพหลบหนี ไม่มีที่อยู่อาศัย
๘. ต้องเผชิญกับอากาศที่ผันแปร ทั้งหนาวเหน็บ ทั้งร้อนและแห้งแล้ง
๙. ต้องเศร้าโศก ต่อภาพของซากศพที่กองเกลื่อนกลาดทั่วแผ่นดิน
๑๐.ไม่ได้พบเห็นความสงบสุขและสันติ

หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้ายต่ำทรามลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน... มีเสื้อก็ไร้คนใส่... มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก็ไร้คนอยู่... มีที่นาก็ไร้คนทำ จวบจนถึงวาระเดือนห้า... เดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้น!

บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่งหมื่นคนตายเก้าพัน! พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองเหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว

ถึงกาลเวไนย์สัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้(พระอินทร์)ผู้เป็นใหญ่ จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์เหนือบรรยากาศโลก เทพยดาที่สัญจรอยู่เหนือโลกมนุษย์จะบัญชาการส่ง หมู่ดาว "อ่านชิง" ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง

องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะปรากฏ... (แต่พระองค์ยังมิใช่พระพุทธเจ้าในยุคนี้)

สองขุนพลจอมทัพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์นับจากปีจอ...เริ่มต้นด้วยโรคระบาด...จนถึงปีกุนประชาราษฎร์... ในเก้าคนรอดตายเพียงหนึ่ง! จะเกิดมหันตภัยใหญ่ ครอบคลุมไปทั่ว อันได้แก่

๑. ภัยจากแรงลมมหาศาล
๒. ภัยจากไฟไหมลุกไหม้
๓. ภัยจากน้ำท่วมใหญ่
๔. ภัยจากการทำศึกสงคราม
๕. ภัยจากโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน
๖. ภัยจากสัตว์ร้ายมีพิษขบกัด
๗. ภัยจากกระแสไฟฟ้า ฟ้าผ่า
๘. ภัยจากอาหารขาดแคลน อดอยาก
๙. ภัยจากการคลอดบุตร ทารกร่างกายผิดปกติ
๑๐.ภัยจากการสูญสิ้นของมวลมนุษยชาติ

องค์สมเด็จพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าทรงครองธรรมกาล ๓,๐๐๐ ปี...ลุถึงปัจจุบันครบบริบูรณ์พระศรีอาริยเมตไตรยทรงสืบทอดครองธรรมกาลต่อ

เริ่มเข้าเกณฑ์ ปีวอก... จนถึงปีชวด พืชพันธุ์ธัญญาหารจะไม่สมบูรณ์ ผู้คนจะอดอยากตาย มีภัยสงครามยากจะหลีกหนี!

หากมีคนนำคัมภีร์นี้เผยแพร่ไปถึงพัน...ถึงหมื่น... จะรอดพ้นจากภัยพิบัติเข้าถึงยุคบรรพกษัตริย์ เหยาและซุ่น(กษัตริย์จีนยุคโบราณ) อันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งโรจน์สังคมมีความยุติธรรม ผู้คนได้ประสบสุขเกษมสันต์อยู่ร่วมกันในโลกดอกบัวแห่งมหาสันติเบ่งบาน

คนพาลสันดานหยาบ แม้ล่วงรู้คัมภีร์กลับลบหลู่ปกปิดทำลาย ย่อมประสบกับเภทภัยทั้งสิบประการ ตายแล้วก็ยากจะได้กลับมาเกิดอีก (เพราะต้องไปตกนรกอย่างยาวนาน)

สาธุชนคนดี... ประกอบด้วยเมตตาจิตตั้งใจเผยแพร่คัมภีร์ออกไป เขาเหล่านั้นย่อมประสบแต่ความเป็นสิริมงคล ทุกคนในครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข สามารถรอดพ้นจากมหันตภัยทั้งหลายได้

​

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(พระโพธิสัตว์กวนอิม)ได้เข้าเฝ้า พระผู้เป็นเจ้าเบื้องบนสูงสุด เพื่อกราบบังคมทูลรายงานถึงความดี ความชั่ว ที่มนุษย์ได้กระทำ ครั้นองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบข่าวสภาพความเลวร้ายบนโลกมนุษย์ ก็ทรงพิโรธยิ่งนักและตรัสบริภาษต่อว่าเหล่าเทพยดาทั้งหลายว่า

" เสียแรงเปล่าที่ชาวโลกพากันจุดธูปเทียนบูชากราบไหว้ แต่กลับไม่ยอมอบรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มาจนบัดนี้... ในโลกมนุษย์จึงเนืองแน่นไปด้วยคนใจบาปหยาบช้า ผู้คนไม่มีมโนธรรมสำนึกหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงต้องมีราชโองการลงโทษทัณฑ์ ให้เกิดภัยพิบัติต่อเนื่องกันหลายปี เพื่อกำหราบคนชั่วช้าสามานย์และเปลี่ยนแปลงจิตใจชาวโลกเสียใหม่!"

ในเวลานั้น...บรรดาเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้กราบทูลวิงวอนแม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลทักษิณถึงกับพระวรกายทรุดหมอบลงกับพื้นพระบรมวิมาน ทรงพร่ำทูลขอให้โปรดกรุณาแก่ชาวโลกซ้ำเป็นหลายครั้งว่า
" ผู้ชั่วร้ายสมควรดับ... ผู้ดีงามควรคัดออก...ๆ...ๆ "
องค์เง็กเซียนฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาชี้ขาดว่า
" ดีชั่ว สองฝ่ายแยกกัน!
ให้สงครามเจาะจงเลือกที่เกิด!
ให้โรคระบาดเจาะจงเลือกคนเป็น!
และให้จอมเทพพิทักษ์ธรรมจงรับราช โองการกวาดล้างมนุษย์ที่กระทำความชั่วร้าย ดังต่อไปนี้

๑. พวกที่กล่าวโทษ ด่าว่าฟ้าดิน
๒. พวกที่ดำเนินชีวิตปฏิบัติตนผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม
๓. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่
๔. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา
๕. พวกที่ลักขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์สมบัติ สิ่งของของผู้อื่น
๖. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ
๗. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมากในตัณหาราคะ
๘. พวกที่ชอบดื่มสุรา ยาเมา สูบบุหรี่ หลงใหลสิ่งเสพติดของมอมเมาสติ
๙. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาดหิริโอตตัปปะ ไม่สำนึกละอายใจในการทำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม
๑๐. พวกที่ทำลายพระศาสนา บิดเบือนหลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
๑๑. พวกที่เหยียบย่ำทำลายคัมภีร์หลักธรรม อักษรหนังสือ
๑๒. พวกที่ใจเหี้ยมโหด เข่นฆ่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
๑๓. พวกที่ทำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลกำไรและความสุขส่วนตน
๑๔. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
๑๕. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน
๑๖. พวกที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายค้าขายเอาเปรียบคนอื่น
๑๗. พวกที่หาประโยชน์จากผู้อื่นด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น
๑๘. พวกที่พูดจาหยาบคาย ชอบทุบตี ด่าว่าบุพพการี ปู่ย่า ตายาย
๑๙. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
๒๐. พวกที่อารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่าคนอื่นไปทั่ว
๒๑. พวกที่ชอบว่ากล่าว ตำหนิโทษผู้อื่น ด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม
๒๒. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
๒๓. พวกที่ชอบยุแหย่ทำลายชีวิตครอบครัวผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย
๒๔. พวกพี่น้องที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แย่งชิงดี ชิงเด่นฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดก
๒๕. พวกวงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีกลมเกลียว
๒๖. พวกที่ชอบยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่น ฟ้องร้องคดีความ
๒๗. พวกที่ไม่มีความจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน
๒๘. พวกหน้าเนื้อใจเสือ ภายนอกแต่งกายให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม
๒๙. พวกที่อาศัยอำนาจหน้าที่ ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด
๓๐. พวกที่กดขี่ราษฏร ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมือง
๓๑. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของตน
๓๒. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี กลับใช้อุบายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่
๓๓. พวกที่ชอบประจบสอพลอ พะเน้าพะนอยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว
๓๔. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนทำงานที่ซื่อสัตว์สุจริต
๓๕. พวกคนพาลสันดานหยาบ ที่คอยก่อกวนให้ผู้คนเดือนร้อน อยู่ไม่เป็นสุข
๓๖. พวกคนร่ำรวย แต่ใจร้ายข่มเหงคนยากไร้
๓๗. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย่ำคนจน
๓๘. พวกที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยากช่วยเหลือ
๓๙. พวกที่พบเห็นคนอยู่ในฐานะลำบาก กลับเมินเฉยแล้งน้ำใจ
๔๐. พวกที่เห็นผู้อื่นร่ำรวย ก็เกิดความอิจฉาริษยา
๔๑. พวกที่เห็นผู้อื่นฐานะสูงส่งด้วยชื่อเสียงเกียรติยศ ก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง
๔๒. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำสาปแช่งผู้อื่น
๔๓. พวกที่ร่ำเรียนคาถาอาคมทำร้ายผู้อื่น ทำเสน่ห์ยาแฝดฝังรูป ฝังรอย
๔๔. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ทำพิธีใช้ภูตผีกลั่นแกล้งทำลายล้างผู้อื่น
๔๕. พวกที่ชอบเผาป่า ทำลายสุสาน บุกรุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
๔๖. พวกที่กินทั้งกินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณข้าว น้ำ อาหาร
๔๗. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วยโทสะข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตนเองได้
๔๘. พวกที่อกตัญญู ไม่รู้คุณคน
๔๙. พวกที่ประพฤติตน คิดแบบอย่างชี้นำ สอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลังกระทำตามจนต้องกลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร
๕๐. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโส สูงอายุ ใครว่ากล่าวไม่ได้ ทำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข
๕๑. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ยึดหลักคุณสัมพันธ์
๕๒. พวกที่ไม่พิจารณาสำรวจดูกรรมดี กรรมชั่วของตนเอง
๕๓. พวกที่เคยตักเตือนให้ทำความดี กลับทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง
๕๔. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทางกระทำชั่วอยู่ไม่ว่างเว้น

" นี่คือ ๕๔ ข้อ กรรมชั่วที่ผู้ใดประพฤติ ผู้นั้นจะต้องถูกตรวจตราควบคุมเก็บกวาดให้เรียบ ไม่ให้เหลือไว้ในโลก! เมื่อตายไปก็ต้องถูกเหวี่ยงเข้าสู่หนทางเปรต สัตว์นรก อสุรกาย ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป สูญพันธ์ทั้งทั้งตระกูล ให้บ้านแตกสาแหรกขาด ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน ให้กระดูกทับถมในพงพี บ้านเรือนของพวกเขาให้ถูกผู้อื่นอยู่อาศัย ที่นาของพวกเขาให้ไร้คนจะเพาะปลูกทำกินได้! หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดี ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน "

ครั้นครบกำหนดเวลา ๓ ปีที่ให้มนุษย์รีบเร่งปฏิบัติแต่ความดีงาม เมื่อกระแสความคิดจิตใจและการกระทำของเหล่าเวไนยสัตว์ ถูกนำขึ้นกราบทูลรายงานเบื้องบน ทันทีที่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบ พระองค์ทรงมีพระราชโองการดังนี้

"ข้าฯ... จะลงมาตระเวนตรวจตราดูทุกแห่งอย่างละเอียดถี่ถ้วน ข้าฯ จะดำเนินการพิพากษาตัดสิน ให้เกิดภัยสงครามอีกระลอกหนึ่ง ภายในเวลาไม่กี่เดือนให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกบางส่วน ทุกหน ทุกแห่งจะถูกกวาดให้หมดสิ้น! ต่อให้วิงวอนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิตอบสนอง ต่อให้กินยารักษาโรค ยาก็ไม่ได้ผล ถึงแม้ตำราเสินหนงยังอยู่ยาวิเศษแค่ไหนดีชั่วมีผลต่างกัน... คนดีมีคุณธรรมกินยารักษาโรค ก็จะสัมฤทธิ์ผล คนชั่วช้าสามานย์ กินยาแล้วก็ไม่อาจรอด

บัดนี้... ข้าฯ เห็นสภาพการณ์ว่า น่าเวทนา... ไม่มีวิธีการใดสามารถช่วยเวไนยสัตว์ได้ทัน ต่อให้จุดธูปบูชาข้าฯ ก็เสียแรงเปล่า ที่เห็นข้าฯ เป็นเทพยดาน่ากราบไหว้สักการะแต่ปัจจุบันมีทุกข์ไม่ยอมช่วย ใช่ว่าข้าฯ จะบิดเบือนต่อเบื้องบน ต่อเบื้องบนข้าฯ ก็ได้กราบบังคมทูลวิงวอนด้วยความรีบเร่งร้อนรนยิ่ง และต่อชาวโลกเบื้องล่าง... ข้าฯ ก็ให้ป่าวประกาศเผยแพร่สัจธรรม ชี้นำย้ำเตือนให้ผู้คนได้รับรู้

บัดนี้ . . . ถึงวาระเข้าสุ่ปลายกัปป์. . . เกณฑ์มหันตภัยยุคสุดท้าย ปุถุชนธรรมดาให้เก้าคนตายเหลือไว้เพียงหนึ่ง ให้เกิดสงครามอาวุธ หอก ดาบ มีขึ้นรอบด้าน โรคระบาดจู่โจมบุกรุกทุกแห่งหน อสุนีบาต สายฟ้าฟาดผ่าดังสนั่นสะเทือนเลื่อนลั่น อุทกภัยใหญ่ น้ำไหลหลากท่วมท้นบ้านเรือน วาตภัยลมพายุผกผัน กวาดไปทุกหนแห่ง ธรรมชาติแห้งแล้ง ชีวิตทั้งหลายยากจะอยู่รอด พญามารมาเคาะประตูบ้านในยามค่ำคืน โรคระบาดเข้าประชิดตัวในเวลากลางวัน เสือร้ายจากป่าเขาออกอาละวาด จะหลบหนีกันอย่างไร อสรพิษเลื้อยเต็มถนนหนทางจนยากจะเดิน!

มหันตภัยทั้งสิบนี้ยากจะหลีกหนีพ้น! หากสามารถผ่านพ้นไปได้จึงจะนับว่าเป็นยอดคน นี่แหละ คือ สิบมหันตภัยอันใหญ่หลวง ข้าฯ มีเพียงคำเตือนให้มนุษย์ทั้งหลายปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจิตใจ ยังพอมีโอกาสจงรีบแก้ไขสำนึกในความผิดบาป

เมื่อได้ยิน ได้รู้ข่าวนี้ ให้เร่งกลับตัวกลับใจโดยทันที! อย่ามัวรีรอจนกระทั่งภัยพิบัติมาประชิดตัว ถึงตอนนั้น จะวิงวอนร่ำร้องไห้ ช่วยเหลืออย่างไรก็ไร้ผล จงสร้างบุญ ทำกุศล สะสมคุณความดีกันเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อหลบหลีกและเป็นเกราะกำบังวิบัติภัย

เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายเอย... จงรีบเร่งตั้งจิตศรัทธาเคารพกตัญญูต่อฟ้าดิน บิดามารดา จังรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประชาราษฎรคนยากจนให้รู้จักเจียมตน ตั้งมั่นอยู่ในความมัธยัสถ์ ผู้มากมั่งมีมั่งคั่งจงรีบเร่งช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ยากไร้ ผู้ปราดเปรื่องเรืองปัญญา จงพยายามตักเตือนชี้แนะผู้ต่ำต้อยด้อยความรู้ ให้ได้ผ่านพ้นโลกโลกีย์ไปด้วยกัน บุคคลใด ไร้บุญบารมีจะตกจมลงสู่ทะเลทุกข์ แต่ผู้มีบุญสัมพันธ์สะสมมาดี ย่อมจะได้พบกับความสงบสุขและสันติในที่สุด

บัดนี้ข้าฯ แฝงธรรมญาณ ยืมปากกาท่านไหว้วานบรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ คัดเขียนถ่ายทอดให้ข้าแม้หนึ่งเล่มจะปกป้องรักษา ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ถ่ายทอดให้ข้าฯ สิบเล่ม ทั้งครอบครัวจะพ้นเคราะห์ภัยอันตรายเผยแพร่ออกไปให้ข้าฯ ร้อยเล่มจะปกปักรักษาให้อายุยืน อีกทั้งโชคลาภวาสนาเพิ่มพูนทวี รีบแจกจ่ายธรรมทานคัมภรีนี้โดยทันทีทันใด จะปกป้องรักษาให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรจน์มียศถา

หากพบผู้ใดไม่รู้หนังสือ จงใช้วาจาเมตตาบอกต่อให้เขาได้ฟังได้เข้าใจ ถ้าแม้นมีคนโฉดเขลาชั่วร้าย ไม่ศรัทธา เคราะห์ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบัติภัย ให้ปวดเศียรเวียนหัว หน้ามือตาลาย เจ็ดทวารเลือดไหล ถึงที่ต้องไปเมืองผีด้วยสิบเหตุเภทภัยร้ายนั้น

ข้าฯ ไม่อาจกล่าวให้ละเอียดมากความไปกว่านี้ คิดอยากจะเผยความลับสวรรค์ ก็เกรงด้วยเบื้องบนจะลงทัณฑ์หากคนทั้งหลายไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา ดูหมิ่น ดูแคลนว่าไม่จริงไม่นาน มหัตภัยที่กล่าวไว้จักมาถึงตัว

"ผู้มีใจศรัทธา น้อมจิตเชื่อฟังตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมความดี ถือศีลกินเจเบื้องบนย่อมทรงโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดมิให้เภทภัยใดๆ เข้าใกล้ถึงตัวได้เลย"

ที่มา http://kuakiddeedee.blogspot.com

 

<TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>● อุปกรณ์เจ๋งๆ สำหรับคนเดินป่า ● </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน 11-15 ก.พ.มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก4-6องศา อีสานโดนก่อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 11-15 กุมภาพันธ์ 2554 จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและ
ลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศที่แปรปรวนในระยะนี้ ไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ทางตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา
ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23-25 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ยันเจรจา 2 ชาติไม่ได้ ร้องนานาประเทศช่วยไกล่เกลี่ย โบ้ยไทยจุดชนวนก่อน
10 ก.พ. 54 รายงานข่าวอ้างจากสำนักข่าวซินหัวของจีน ที่ได้รายงานว่า วานนี้(9 ก.พ.) สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีการประชุมประจำปีกระทรวงพาณิชย์ของประเทศ ถึงกรณีการปะทะระหว่างเขมร-ไทย บริเวณแนวชายแดนเขาพระวิหาร ว่า
“นี่เป็นสงครามที่แท้จริง ไม่ใช่เหตุทหารปะทะกันธรรมดา เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทหารไทยได้ยิงลูกระเบิดดาวกระจายเข้าใส่ทหารกัมพูชาก่อน”
ซึ่งสงครามครั้งนี้ฝ่ายไทยเป็นผู้ก่อขึ้น ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบต่อสงครามที่เกิดขึ้น เพราะกัมพูชามิใช่เป็นผู้เริ่มสงครามครั้งนี้ โดยเชื่อว่าสงครามกับไทยจะเกิดขึ้นเป็นเวลานาน
“และนับแต่นี้ต่อไปจะไม่มีการเจรจาระดับทวิภาคี หากจะมีการเจรจาต่อรองใดๆ ระหว่างทั้ง 2ประเทศก็จะต้องมีประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย” สมเด็จฮุนเซนกล่าว
อย่างไรก็ตามวันจันทร์ที่ 14ก.พ. นี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมจะเดินทางไปชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC โดยจะยืนยันถึงจุดยืนของไทยในการที่จะแก้ปัญหาโดยการเจรจาในระดับทวิภาคี และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถเจรจาหาทางออกได้ โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่งกองกำลังของสหประชาชาติเข้ามาดูแล และหากให้บุคคลภายนอกเข้ามาอาจทำให้เกิดปัญหามากขึ้นก็เป็นได้

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
<LI class=news_src_item>

 

ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน คือ พ.ศ.๒๕๕๙ - พ.ศ.๒๕๖๒​

อ้างอิงข้อมูลจากทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน

หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้ายต่ำทรามลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน... มีเสื้อก็ไร้คนใส่... มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก็ไร้คนอยู่... มีที่นาก็ไร้คนทำ จวบจนถึงวาระเดือนห้า... เดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้น!

บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่งหมื่นคนตายเก้าพัน! พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองเหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว

ถึงกาลเวไนย์สัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้(พระอินทร์)ผู้เป็นใหญ่ จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์เหนือบรรยากาศโลก เทพยดาที่สัญจรอยู่เหนือโลกมนุษย์จะบัญชาการส่ง หมู่ดาว "อ่านชิง" ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง

********************************************************************************
​

เรียนคุณ Lazaza

ช่วยนำข้อมูลเรื่อง วงล้อ 2 วงซ้อนกัน ของคุณอาเค มายืนยันเรื่องภัยพิบัติขั้นสุดท้าย ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ - พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้ผู้อ่านกระทู้นี้ได้ทราบกันอีกครั้งด้วยครับ​

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ท่าข้ามตรวจสินค้าข้ามไปพม่า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เจ้าของท่าข้ามขนส่งสินค้าไปพม่า สั่งตรวจสอบสินค้าที่ไปจากไทย ป้องกันระเบิดปนมา กะเหรี่ยงส่งกำลังโจมตีเมืองกอกาเลกหนัก

<DD>
บรรดาเจ้าของท่าเรือ ที่ส่งสินค้าไปยังฝั่งพม่า ที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยอาศัยตำรวจตระเวนชายแดน และยามที่รักษาการบริเวณท่าขนส่งสินค้า ทั้งนี้เพื่อป้องการนำระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนไปกับสินค้า โดยในเบื้องต้นห้ามรับสินค้าที่ไม่มีเจ้าของ และไม่มีการรับฝากสินค้า โดยเฉพาะสินค้าห่อขนาดเล็ก หรือสินค้าที่ต้องสงสัย มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เกิดระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก บริเวณหน้าร้านเซเว่น สตาร์ ซึ่งเป็นร้านกาแฟ บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย - พม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เจ็บ 6 คน ในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหารพม่า ตำรวจ และพลเรือนด้วย
<DD>
นายเทวฤทธิ์ ปันแก้ว เจ้าของท่าข้ามขนส่งสินค้า บ้านห้วยม่วง ตำบลท่าสายลวด กล่าวว่า แม้มีระเบิดเกิดขึ้น แต่ทางพม่าไม่ปิดท่าเรือ คงให้ประชาชนและสินค้าไปมาได้ตามปกติ แต่ทางท่าเรือได้วางมาตรการดูแลสินค้าให้มากขึ้น โดยจัดเวรยามและมีตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 346 อ.แม่สอด คอยช่วยดูแล และสินค้าที่ผ่านท่าเรือต้องผ่านชิปปิ้ง และผ่านพิธีการของศุลกากรแม่สอดเท่านั้น
<DD>
อย่างไรก็ตาม าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่า ระเบิดน่าจะไปจากฝั่งไทย และเป็นฝีมือของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลพม่า ขณะเดียวกันมีรายงานแจ้งว่า ทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.ได้ไปปะทะกับฝ่ายทหารพม่าที่บริเวณเมืองกอกาเลก และล่าถอยออกไป หลังจากมีแผนการที่จะไปเผาหมู่บ้าน ซึ่งลึกจากชายแดนไทย - พม่า ราว 60 กิโลเมตร

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

เผยภาพทหารกัมพูชาบนปราสาทพระวิหาร ขนอาวุธ สร้างบังเกอร์
10 ก.พ. รายงานข่าวจากสำนักข่าวเอพีแจ้งว่า ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธกรณีส่งทหารเข้าไปที่ปราสาทพระวิหาร เพื่อใช้เป็นฐานโจมตีทหารฝ่ายไทยหรือใช้เป็นโล่กำบัง นอกจากนี้ยัง กล่าวหาว่าประเทศไทย สร้างความเสียหายให้กับปราสาทพระวิหารนั้น แต่ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเอพี ที่เดินทางเข้าไปในปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. กลับพบทหารกัมพูชาหลายร้อยนายเข้ามาประจำการอยู่ในตัวปราสาท และพื้นที่โดยรอบมีการสร้างบังเกอร์จากกระสอบทรายอีกด้วย
ทั้งนี้ ยังมีรายงานพบกระสุนปืนตกเกลื่อนในพื้นที่ และกำแพงวัดบางส่วนที่แหว่งหายไป แต่ไม่มีพบความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างปราสาท โดยทหารกัมพูชานายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนและทหารนายอื่นๆประจำการในพื้นที่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร แต่ย้ายเข้ามาประจำการในปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาหลังเหตุปะทะรุนแรง
นอกจากนี้ สำนักข่าว เอเอฟพีและรอยเตอร์ ยังได้เผยแพร่ภาพทหารเขมรหลายนายพร้อมอาวุธประจำการอยู่บนปราสาทพระวิหาร


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


เขมร ยันไม่ได้ตั้งฐานบนปราสาทพระวิหาร
<SMALL></SMALL>กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาแถลงการณ์โต้ ไม่ได้ใช้เขาพระวิหารเป็นฐานโจมตีไทย
ไทย เตรียมฟ้องมรดกโลก เขมร ใช้เขาพระวิหารเป็นฐานที่มั่น

<SMALL></SMALL>สุวิทย์ ชี้กัมพูชาทำผิดสัญญากรุงเฮก ตั้งกองกำลังทหารในพื้นที่มรดกโลก


Mthai News : เว็บไซต์ของกัมพูชาเผยแพร่ภาพความเสียหายของปราสาทพระวิหาร ร่องรอยหลุมระเบิดและปลอกกระสุนปืน ซึ่งอ้างว่าเกิดจากการยิงปะทะของทหารไทย โดยก่อนหน้านี้ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการมรดกโลกของกัมพูชา ได้ทำเรื่องฟ้องยูเนสโกว่า ไทยจงใจยิงถล่มปราสาทพระวิหาร และต้องการยึดครองพื้นที่รอบๆ ปราสาท
ซึ่งทางรัฐบาลและทหารไทยยืนยัน เขมรใช้พื้นที่ปราสาทพระวิหารเป็นฐานโจมตีไทย ซึ่งสอดคล้องกับที่สื่อต่างประทศ โดยสำนักข่าวเอพี ที่เดินทางเข้าไปในปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. รายงานว่าพบทหารกัมพูชาหลายร้อยนายเข้ามาประจำการอยู่ในตัวปราสาท และพื้นที่โดยรอบมีการสร้างบังเกอร์จากกระสอบทรายอีกด้วย
โดย Mthai News
แผนที่ความเสียหาย ที่ทางเว็บไซต์กัมพูชาทำขึ้น ระบุจุดเสียหายและชนิดของอาวุธ
(คลิกที่รูป เพื่อดูภาพขยาย)
















MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000

 

Mthainews : บรรยากาศ หลังเกิดการปะทะ ระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้หมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดบริเวณริมแนวชายแดน เงียบเหงา คล้ายเมืองร้างไปถนัดตา หลังชาวบ้านปิดล็อคบ้านอย่างแน่นหนา อีกทั้งเกือบทุกตำบลได้ย้ายอพยพ ไปยังศูนย์อพยพ ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ฉุกเฉิน ถึง 38 ศูนย์อพยพชั่วคราว
ขณะที่ด้านความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากศูนย์อพยพในแต่ละที่นั้น จะเนื่องแน่นไปด้วยผู้อพยพที่เป็นเด็ก คนชรา บางครอบครัวสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ทางรัฐบาลก็ยังสามารถให้การดูแลผู้อพยพ จัดสรรความเป็นอยู่แต่ละครอบครัวได้อย่างเป็นระบบ กว่าในหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านด้วยกันเอง
แต่กระนั้น สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดของชาวบ้านในพื้นที่คือ เมื่อไหร่จะได้กลับเข้าบ้าน รวมไปทั้งการปะทะจะจบลงเมื่อไหร่ พืชไร่ ผืนนา สัตว์เลี้ยงที่ต้องการความดูแลเอาใจใส่ของชาวบ้านนั้น ก็สร้างความวิตกกังวลไม่น้อยให้ผู้อพยพ
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารก็ยังคงปักหลัก ดูแลอธิปไตยไทยอย่างเข้มแข็งและเด็ดขาด เห็นได้จากคำพูดของชาวบ้านหลายครอบครัว ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้กำลังใจทหารเพราะเห็นภาพการทำงานของทหารที่ชาวบ้านได้พบเห็นนั้น แต่ละคนมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาบ้านเมือง และโดยเฉพาะการกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ ชาวบ้านจึงอยากขอให้กำลังใจทหารทุกนายผ่านทาง ผู้สื่อข่าว Mthai News ในครั้งนี้ด้วย
โดย Mthai News





























<LI class=news_src_item>

 

หิมะตกทางตอนเหนือของจีน แต่ภาวะแห้งแล้งยังคงยืดเยื้อ​

​

ปักกิ่ง 10 ก.พ.- หิมะปกคลุมเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่แห้งแล้งทางตอนเหนือของจีนในวันนี้ แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าวิกฤตภัยแล้งจะสิ้นสุดลง หลังสหประชาชาติออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า หิมะเริ่มตกลงมาเมื่อคืนที่ผ่านมาในมณฑลเหอหนาน มณฑลเหอเป่ย์ มณฑลชานตง มณฑลชานซี มณฑลเจียงซูและมณฑลอานฮุย ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญของประเทศ หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของทางการจีนรายงานว่า พบหิมะปกคลุมหนา 3 ซม.ในหลายพื้นที่ หลังจากทางการสั่งใช้วิธีปรับสภาพอากาศ เช่น การทำฝนเทียม อย่างไรก็ตาม รายงานอ้างวิศวกรของสถานีอุตุนิยมวิทยาปักกิ่งระบุว่า หิมะไม่สามารถช่วยบรรเทาภัยแล้งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 100 วันรวมทั้งไม่สามารถยับยั้งผลกระทบที่มีต่อภาคการเกษตรได้

ทั้งนี้ รัฐบาลให้คำมั่นเมื่อวานนี้ว่า จะทุ่มเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) เพื่อต่อสู้กับภัยแล้ง หลังสหประชาชาติเตือนว่า ภาวะแห้งแล้งอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงมากต่อผลผลิตข้าวสาลีในฤดูหนาวของจีน ด้านคณะรัฐมนตรีเตือนว่า สถานการณ์อาจเลวร้ายลง พร้อมระบุว่า ปริมาณฝนที่จะตกลงมาทางตอนเหนือของประเทศในอนาคตนี้ อาจจะต่ำกว่าระดับปกติและแม่น้ำสายสำคัญหลายสายจะแห้งขอดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ก.พ. 2554

ชาวกรุงปักกิ่งเพิ่งได้สัมผัสหิมะครั้งแรกในรอบปี​

​

ปักกิ่ง 10 ก.พ.-ชาวกรุงปักกิ่งเพิ่งได้สัมผัสกับหิมะเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ หลังจากต้องเผชิญสภาพอากาศแห้งแล้งตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

สภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้กรุงปักกิ่งเพิ่งมีหิมะตกเป็นครั้งแรกในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ซึ่งต้องรอนานถึง 108 วัน นับเป็นฤดูหนาวที่หิมะตกช้าที่สุดในรอบ 60 ปี สำหรับนครหลวงแห่งนี้ สำนักงานพยากรณ์อากาศของกรุงปักกิ่งรายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่มีหิมะตกเฉลี่ย 1 มิลลิเมตร ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เมื่อคืนนี้ ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา

หิมะที่ตกลงมาสร้างความตื่นเต้นยินดีให้ผู้คนที่ได้สัมผัสกับอากาศเย็นสดชื่น อย่างไรก็ตาม คาดว่าหิมะจะตกเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้จะมีแดดจัด.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ก.พ. 2554

องค์การอนามัยโลกเผย พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกในกัมพูชา​

​

พนมเปญ 9 ก.พ.- องค์การอนามัยโลกแถลงวันนี้ว่า พบเด็กหญิงชาวกัมพูชาวัย 5 ปีเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกนับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว

รัฐบาลกัมพูชาและหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เด็กหญิงคนดังกล่าว ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญล้มป่วยลงเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการไอและหายใจลำบาก อย่างไรก็ตาม ทั้งที่ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่เด็กหญิงคนดังกล่าวก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ราว 12 ชั่วโมง ทั้งนี้ เด็กหญิงคนดังกล่าวนับเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 คนที่ 11 ของกัมพูชาและเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวรายที่ 9 นับตั้งแต่ปี 2546

รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยว่า กำลังเร่งหาตัวผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กหญิงคนดังกล่าวและให้การป้องกันพื้นฐาน ด้านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแนะนำผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจที่เคยสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ตายหรือป่วย ให้รีบไปพบแพทย์ในทันที ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2546 ถึงขณะนี้ ไข้หวัดนกคร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกไปแล้วกว่า 300 คน. -สำนักข่าวไทย

วันพุธ ที่ 9 ก.พ. 2554

เกาหลีใต้ต้องเทนมทิ้งหลังโรคปากเท้าเปื่อยระบาดหนัก​

​

โซล 10 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า เกษตรกรฟาร์มโคนมของเกาหลีใต้ต้องเทนมทิ้งวันละ 200 ตัน ขณะที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยครั้งเลวร้ายที่สุด

รายงานระบุว่า การขาดแคลนนมกลายเป็นปัญหาล่าสุดที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย ขณะที่เกาหลีใต้ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนพื้นที่ฝังซากปศุสัตว์ที่ถูกกำจัดราว 3.2 ล้านตัว ด้านองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติกล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในเกาหลีใต้เลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี

นับจนถึงขณะนี้ กระทรวงเกษตรของเกาหลีใต้ใช้เงินไปแล้ว 1.9 ล้านล้านวอน (ประมาณ 51,000 ล้านบาท) เพื่อใช้กำจัดปศุสัตว์ หมู แพะ และกวาง รวมถึงจ่ายค่าชดเชยให้แก่เจ้าของฟาร์มและเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรเปิดเผยว่า ปริมาณน้ำนมดิบลดลงถึงร้อยละ 8 และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมอาจเผชิญปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ด้านคณะกรรมการผลิตภัณฑ์นมเกาหลีเปิดเผยว่า มีวัวนมทั่วประเทศราว 36,000 ตัวถูกกำจัด และน้ำนมจากวัวที่อยู่ภายในรัศมี 500 เมตรของพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดต้องถูกเททิ้งในกรณีพบการปนเปื้อน -สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ก.พ. 2554

เกาหลีเหนือเผยไม่จำเป็นต้องเจรจากับเกาหลีใต้อีกต่อไป​

​

โซล 10 ก.พ. – เกาหลีเหนือเปิดเผยวันนี้ว่า ไม่จำเป็นต้องหารือกับเกาหลีใต้อีกต่อไป หลังการเจรจาทางทหารเพื่อหวังบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนล้มเหลว

สำนักข่าวกลางของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คณะผู้แทนของเกาหลีเหนือกล่าวโทษการวางแผนของ “กลุ่มคนทรยศ” ซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหมและกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ว่า เป็นสาเหตุทำให้การเจรจาล้มเหลว เพราะเป็นที่แน่ชัดว่า กลุ่มคนทรยศไม่ต้องการให้มีการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเจรจา ดังนั้นกองทัพและประชาชนของเกาหลีเหนือจึงรู้สึกว่า ไม่มีความจำที่จะต้องเจรจากับเกาหลีใต้อีกแล้ว

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เปิดการเจรจาทางทหารเป็นเวลา 2 วันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อกำหนดวันที่และวาระการเจรจาทางทหารระดับสูง นับเป็นการเจรจาครั้งแรกนับตั้งแต่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังกล่าวหาเกาหลีเหนือว่า ยิงปืนใหญ่จมเรือรบของเกาหลีใต้เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว แต่เกาหลีเหนือออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือเดินออกจากห้องประชุมที่หมู่บ้านปันมุนจอมเมื่อวานนี้ หลังปฏิเสธข้อเรียกร้องของเกาหลีใต้ที่ต้องการให้เกาหลีเหนือออกมาขอโทษต่อเหตุโจมตีทั้งสองครั้ง แต่เกาหลีใต้กล่าวว่า ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการเจรจาทางทหารระดับสูง หากเกาหลีเหนือยอมรับข้อเสนอของเกาหลีใต้ ด้านแถลงการณ์ของเกาหลีเหนือระบุว่า เป็นประเพณีของเกาหลีเหนือที่จะตอบโต้การเจรจาด้วยการเจรจา และตอบโต้การเผชิญหน้าด้วยการเผชิญหน้า และว่าการโจมตีเกาะยอนพยองนั้นเป็นเพียงการตอบโต้การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของเกาหลีใต้เท่านั้น อีกทั้ง การเจรจาระดับสูงไม่ควรจะเน้นไปที่ประเด็นเหตุโจมตี แต่ควรจะหาทางหลีกเลี่ยงการยั่วยุของอีกฝ่าย -สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ก.พ. 2554

อินโดนีเซียนำเข้าข้าวขนานใหญ่ เพื่อสำรองเพิ่มอีก 1 ใน 3​

​

จาการ์ตา 9 ก.พ.- อินโดนีเซียสั่งนำเข้าข้าวจำนวนมากเพื่อเพิ่มปริมาณข้าวคงคลังอีก 1 ใน 3 ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่กังวลเรื่องสินค้าราคาแพงและมีปริมาณลดลงต่างเร่งกว้านซื้อสินค้าในตลาด และอาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงยิ่งขึ้น

รัฐบาลอินโดนีเซียประชุมเรื่องความมั่นคงด้านอาหารในวันนี้ และสั่งการให้สำนักงานจัดซื้อจัดจ้างของรัฐทยอยนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านตันเป็น 2 ล้านตัน สะท้อนว่าอินโดนีเซียกังวลว่าข้าวจะขาดแคลนและจะทำให้ราคาสูงขึ้น ด้านบังกลาเทศเผยวันนี้ว่า กำลังซื้อข้าว 200,000 ตันจากไทย เป็นการทำข้อตกลงแบบรัฐบาลกับรัฐบาลครั้งแรกของสองประเทศ บรรดานักค้าเกรงว่า รัฐบาลประเทศอื่นอาจเพิ่มการนำเข้าข้าวเพื่อเพิ่มปริมาณข้าวคงคลังเช่นกันแม้ว่าผลผลิตข้าวในไทยและเวียดนามมีมากเพียงพอก็ตาม และอาจมีความเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกสองประเทศนี้อาจสำรองข้าวมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศเพราะเผชิญแรงกดดันเรื่องราคาอาหารแพงเช่นกัน

ราคาข้าวไทยขยับขึ้นจากตันละ 540 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,200 บาท) เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นตันละ 545 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,350 บาท) ในขณะนี้ เป็นผลจากความต้องการส่งออกเพิ่มขึ้นเพราะผู้ส่งออกรับปากเมื่อเดือนก่อนว่าจะขายข้าว 820,000 ตันให้อินโดนีเซีย ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ราคาข้าวร้อยเปอร์เซ็นต์เกรดบีของไทยน่าจะขึ้นเป็นตันละ 550 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,500 บาท) ภายในสิ้นเดือนนี้ และ 567.5 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,025 บาท) ในเดือนมีนาคม เพราะจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากอินโดนีเซีย บังกลาเทศและศรีลังกา.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ก.พ. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

มาร่วมกันสร้างบารมีให้ตัวเราและประเทศไทยสงบสุขกันครับ

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนืออากาศหนาว อีสาน-กลางมีฝนร้อยละ10-20ของพื้นที่ กทม.เย็นสุด23-25องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ทางตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา
ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาคและมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศา
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรังและสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"มูบารัค"ยันไม่ลาออก "ผู้ชุมนุม"โกรธหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮอสนี มูบารัค ประธานาธิบดีอียิปต์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดี(10) ยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง

โดยทันทีตามคำเรียกร้องของผู้ชุมนุม แต่จะมอบหมายอำนาจแก่รองประธานาธิบดี ถ้อยแถลงที่สร้างความโกรธแก่ให้แก่ผู้ประท้วงจำนวนนับแสนที่รวมตัวกัน ณ จตุรัสใจกลางกรุงไคโร

<DD>
นอกจากคำมั่นมอบหมายอำนาจบางส่วนแก่โอมาร์ สุไลมาน รองประธานาธิบดีแล้ว มูบารัค ยังเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญด้วย แต่ขณะเดียวกันผู้นำรายนี้บอกว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่เขายึดครองมานานกว่า 30 ปี จะมีไปจนถึงเดือนกันยายน
<DD>
ถ้อยคำแถลงของเขาก่อความโกรธกริ้วแก่ผู้ชุมนุมกว่า 200,000 คนที่รวมตัวกัน ณ จัตุรัสตอห์รีร์ ในวันที่ 17 ของการประท้วงทั่วประเทศขับไล่ประธานาธิบดีรายนี้ โดยพวกเขาต่างตะโกน "ออกไป ออกไป"





</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คนร้ายยิงครูใต้คนชราน้ำมันราดเผา3ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
คมชัดลึก :คนร้ายสุดเหี้ยมกราดยิงครู-คนชรา ก่อนราดน้ำมันเผาจนดำเป็นตอตะโก 3 ศพ หลังกลับจากงานศพคนไทยพุทธที่ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ส่งตัว ผช.ผญบ.บ้านปัตตานี ให้ศูนย์ซักถามคาดอีก 3 วันรู้ผลเกี่ยวข้องโจรใต้หรือไม่ มส.ขอพระสงฆ์ปัตตานีกว่า 200 แห่ง ทบทวนการงดออกบิณฑบาต




เหตุคนร้ายกระหน่ำยิงครู-คนชราก่อนเผาซ้ำจนเสียชีวิต 3 คน เปิดเผยเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.มานิต ไชยสิทธิ์ ร้อยเวร สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้านพร้อมเผาจนเสียชีวิตคารถ ที่บริเวณเนินเขา ระหว่าง หมู่ 5 บ้านบาเฆะ-หมู่ 6 บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จึงนำกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผก.สภ.ทุ่งยางแดง ซึ่งเข้าทำงานเป็นวันแรก ไปที่เกิดเหตุ



เมื่อไปถึงบริเวณไหล่ทางถนน พบรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ สีแดง ทะเบียน กค 2386 ปัตตานี ถูกเผาไหม้ทั้งคัน มีผู้ถูกเผาพร้อมรถ 3 คน สภาพแต่ละศพเหลือแต่กระดูก บริเวณที่นั่งคนขับเป็นร่างของนายสวัสดิ์ เกื้อกูล อายุ 65 ปี ที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ คือนางอ่ำ เกื้อกูล อายุ 60 ปี ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านเลขที่ 71/2 หมู่ 6 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ส่วนผู้ที่นั่งหลังคือ นางบุญเพียร ยังรักษ์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นหลาน เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.บังนังสตา จ.ยะลา จากการตรวจสอบพบว่า ทั้ง 3 คน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธสงครามบริเวณศีรษะ ลำตัว ร่างกายถูกเผาไหม้จนดำเป็นตอตะโก เป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็น

จากการตรวจสอบบริเวณถนน พบกระสุนปืนอาก้า เอ็ม 16 เอชเค จำนวน 40 กว่าปลอก และบนเนินเขาอีก 20 ปลอก

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้ง 3 คนมาร่วมงานเผาศพในหมู่บ้านไทยพุทธ ซึ่งมีเพียง 16 ครัวเรือน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. ซึ่งภายในงานศพ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้มาร่วมงานศพ กลับไปอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่มีเนินเขา และตลอดเส้นทางจะมี ทหาร ตำรวจ อส.เฝ้าตามเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัย หลังจากพิธีเผาเสร็จ ผู้ร่วมงานศพก็กลับเส้นทางที่เจ้าหน้าที่กำหนด แต่ผู้ตายทั้ง 3 คนกลับขับรถมาอีกเส้นทางหนึ่ง ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ประกอบกับเป็นเนินเขา มีป่ายางและเป็นที่เปลี่ยว

เมื่อรถของผู้ตายมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายประมาณ 5-7 คน ซุ่มอยู่บนเนินเขา ได้จังหวะใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิง จนรถเสียหลักตกคูข้างทาง จากนั้นคนร้ายกรูลงมาจากเนินเขากราดยิงซ้ำจนมั่นใจว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว จึงราดน้ำมันจุดไฟเผาไหม้ทั้งคัน แล้วยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าก่อนพากันหลบหนีไป

ส่วนความคืบหน้า กรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมจับกุมคนร้ายที่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 1 บ้านถนน ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี และมีการยิงต่อสู้กันทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 คน พร้อมเชิญตัวนายมูฮำหมัดอาดัม วาแม็ง อายุ 26 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความปลอดภัย และเป็นเจ้าของบ้าน กับนายตายูดิง นาวา อายุ 26 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปศูนย์ซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ต.ต.พิเชษฐ ปิติเศรฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวว่า ตอนนี้ทั้ง 2 คนเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยที่ถูกเชิญตัวมาซักถามเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ส่วนผลจากการซักถามคาดว่าอีก 3 วัน คงจะรู้ผล

"สำหรับนายมูฮำหมัดอาดัม เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่แต่งตั้งโดยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็ต้องไปดูว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่เสียชีวิตหรือไม่ ส่วนกรณีคนร้ายที่เสียชีวิตที่ยังสับสนระหว่างเจ้าหน้าที่กับญาติผู้เสียชีวิตบอกว่าเป็นคนละคนกัน จึงต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นใครกันแน่ ระหว่างนายฮานาฟี ดาหาแม็ง อายุ 26 ปี มีหมายจับ 3 คดี กับนายมะกอเซ็ง ปะดอ อายุ 29 ปี แนวร่วมอาร์เคเค ที่อยู่ระหว่างหนีการประกันตัว คดีฆ่าและเผาวัดพรหมประสิทธิ์" พล.ต.ต.พิเชษฐกล่าว

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีการพิจารณากรณีที่ พศ.ปัตตานี เสนอขอให้ มส.มีมติให้พระสงฆ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี 200 วัด งดออกบิณฑบาตเป็นเวลา 1 เดือน เช่นเดียวกับที่ มส.เคยมีมติให้พระสงฆ์ 13 วัด ใน จ.นราธิวาส งดการออกบิณฑบาต แต่เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานมายัง มส.ให้พิจารณามติดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะกระทบกับความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน ที่อาจตื่นตระหนกและกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ประชุมจึงให้ พศปัตตานี กลับไปดำเนินการหารือกับหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดอีกครั้ง จากนั้นให้เสนอกลับมาให้ที่ประชุม มส.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ส่วนกรณีที่มีมติให้พระสงฆ์งดออกบิณฑบาตใน จ.นราธิวาสนั้น ขณะนี้พระสงฆ์ได้ออกบิณฑบาตได้ตามปกติแล้ว




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :Supply Chain (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10:22 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา!เอฟ16บินขู่เขมรโผล่ภูมิซรอล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
คมชัดลึก :ฮือฮา ! เอฟ 16 บินขู่เขมรโผล่บ้านภูมิซรอล ทอ.แจงภารกิจปกติ แค่บินลาดตระเวน-ฝึกคอบบร้าโกลด์ ยันไม่เอี่ยวทำศึกเขมร



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 ก.พ.ได้มีผู้พบเห็นและบันทึกภาพเครื่องบินเอฟ 16 ของกองทัพอากาศจำนวน 2 ลำบินลาดตระเวนอยู่เหนือน่านฟ้า บริเวณบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีการบินลาดตระเวนอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนที่เครื่องบินเอฟ 16 ทั้ง 2 ลำจะหายไป



พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เสนาธิการทหารอากาศ กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้กองทัพอากาศมี 2 ภารกิจ คือ ภารกิจที่ 1 คือ การฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 30 ซึ่งมีการฝึกตั้งแต่วันที่ 7-18 ก.พ.นี้ โดยมีพื้นที่การฝึกตั้งแต่ทางใต้ ของจ.นครราชสีมา แต่ขณะนี้พยายามขยับการฝึกขึ้นมาในพื้นที่ตอนเหนือ คือ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ภารกิจที่ 2 คือ ภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ตามปกติ โดยจะใช้เครื่องบินเอฟ 5 และเอฟ 16 บินลาดตระเวน ซึ่งปฏิบัติเพื่อฝึกความพร้อมของนักบิน และให้นักบินเกิดความคุ้นเคยในพื้นที่ ส่วนเครื่องบินที่บินเหนือพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ไม่ยืนยันว่า เป็นเครื่องบินจากภารกิจไหน แต่ยืนยันว่า เป็นภารกิจตามปกติของกองทัพอากาศ ไม่ได้มีเจตนาบินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบินลาดตระเวนของเครื่องเอฟ 16 บริเวณชายแดนนั้น เป็นการบินลาดตระเวนรักษาเขตตามปกติของกองทัพอากาศ ไม่เกี่ยวกับการบินเพื่อโจมตี หรือบินเพื่อแสดงกำลังทางอากาศเพื่อข่มขู่ หรือบินเพื่อยั่วยุแต่อย่างใด เพราะปกติที่ผ่านมาก่อนที่จะมีปัญหาบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางกองทัพอากาศจะบินลาดตระเวนตามแนวชายแดนทุกพื้นที่ ไม่เฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหา แต่บริเวณชายแดนทางภาคเหนือ และภาคใต้ เราก็มีการบินลาดตระเวนเช่นเดียวกัน ซึ่งการบินลาดตระเวนดังกล่าว เป็นการฝึกนักบินให้มีความชำนาญในการบินในพื้นที่ โดยการบินจะไม่มีการล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตาย 3 เจ็บ 22 บ้านพัง 35 อพยพกว่า 3 หมื่นศึกไทยปะทะเขมร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย แถลงเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ว่า

เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพลเรือน 1 ราย ทหาร 2 นาย มีผู้บาดเจ็บ 22 ราย พลเรือน 8 ราย ทหาร 14 นาย บ้านเรือนเสียหายรวม 35 หลัง อาคารเรียนโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เสียหายบางส่วน 2 หลัง หลังคาอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย ได้รับความเสียหายบางส่วน สวนยางพาราเสียหาย 50 ไร่

นายวิบูลย์กล่าวว่า มีการอพยพราษฎรในจังหวัดต่างๆ รวม 31,025 คน แบ่งเป็น จ.ศรีสะเกษ 21,720 คน จ.สุรินทร์ 5,655 คน จ.อุบลราชธานี รวม 3,650 คน

อย่างไรก็ตาม จ.สระแก้ว ได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเป็นเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์ในหมู่บ้าน และเตรียมความพร้อมหลุมหลบภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วน จ.บุรีรัมย์ ได้เตรียมการรองรับการอพยพของราษฎร โดยกำหนดจุดอพยพไว้ 6 จุด และสร้างหลุมหลบภัยตามแนวชายแดน 10 จุด หากเกิดสถานการณ์สู้รบจะได้สามารถอพยพราษฎรได้ทันท่วงที




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รวมข่าวเตือนเรื่องภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือน พฤษภาคม ปี 2554​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ผู้มาใหม่<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4275401", true); </SCRIPT> สมาชิก

เรา นามผู้มาใหม่ จะได้แจ้งข่าวภัยพิบัติเป็นครั้งสุดท้าย ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จะเกิดภัยพิบัติขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่ภาคอิสานตอนบนเชื่อมต่อภาคเหนือบางส่วน ทำให้ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน อะไรที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเกิดก็จะเกิด ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเริ่มขึ้นก่อนเที่ยง ของวันที่ 22 พฤษภาคม 2554 จะมีการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับแผ่นดินไทย ในระหว่างนี้ให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือให้เก็บเสบียงเพียงพอสำหรับเหตุการณ์นี้ เราหวังว่าท่านจะได้เตรียมตัวของท่านให้พร้อมรับมือกับเหตุการ์นี้และบอกคนใกล้ตัวของท่านให้ระวังตัวกันด้วย

ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้วิเศษอะไร แต่ผมสามารถบอก วันเดือนที่เกิดกับเวลาเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติได้ เพราะผมมาครั้งนี้จะมาเตือนท่านในฐานะมนุษย์ด้วยกันและมนุษย์ทั้งหลายต่างหวาดกลัวในความตายกันเป็นส่วนมาก จึงได้นำรายละเอียดทั้งหมดมาแจ้งข่าวให้ทราบ

ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง พระฤาษี ร้อยแปดตน พระแม่ธรณี พระเพลิงพระพลาย พระพิรุณ พระอริยสงฆ์ที่ยังดำรงค์ธาตุขันต์อยู่และดับขันธ์ไปแล้ว และผมขออาราธนาบุญอาราธนาธรรมทั่วสากลจักวาลมาปกป้องพี่น้องคนไทยให้ผ่านพ้นภัยครั้งนี้ด้วยเถิด

อนึ่งผมขอกล่าวอโหสิกรรม กรรมทั้งหลายที่ผมได้กระทำการล่วงเกินสิ่งใดต่อท่านที่อยู่ในเวปนี้และผุ้คนทั่วไป สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายที่เรามีเวรกรรมต่อกันทั้งในชาติภพก่อนและชาตินี้ ผมขออโหสิกรรมต่อท่านเพื่อจะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกัน ขอให้จบสิ้นการก่อเวรถือกรรมกันในชาตินี้ และผมขอให้ทุกท่านได้อโหสิกรรมสิ่งต่างๆที่ผมได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายขอให้ได้โปรดอโหสิกรรมด้วยเถิด

สิ่งที่ผมอยากให้เพื่อนสมาชิกทั้งหลายทำตอนนี้คือ ให้อโหสิกรรมกันให้หมด เมื่อถึงเวลาท่านจะไม่มีเวลาอโหสิให้กันนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ทุกท่านได้มีสติเมื่อเกิดภัยด้วยเถิด

ผมตอบคำถามสำหรับผู้ที่เคยโทรมาสอบถาม

1. มีคนถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าเหตุการณืนี้จะเกิด มีครูบาอาจารย์ไหม ลุกศิษย์ใคร สายไหน ผมบอกว่าเลยว่าผมเป็นคนที่เคารพพระรัตนตรัย และปฎิบัติธรรมบ้างตามสมควร ผมยังไม่มีครูบาอาจารย์ ผมบูชาพระรัตนตรัยเป้นที่พึ่งที่ระลึกเท่านั้น ผมไม่ใช่คนทรงเจ้า ไม่ใช่ร่างทรง และผมรู้เหตุการณ์นี้ได้โดยไม่ต้องนั่งหลับหรือเห็นในสมาธิ แต่ที่ผมเห็นนั้นเกิดขึ้นขณะยังมีสติและตื่นอยุ่คือ เห็นเป็นภาพซ้อนขึ้นมาอีก นอกจากสิ่งที่ผมเห็นในปัจจุบัน คือเห็นแต่ภาพไม่ได้ยินเสียง

2. ภาคอิสานตอนบนกับภาคเหนือบางส่วน บางคนถามว่ามีจังหวัดไหนบ้าง
อันนี้ผมแนะนำให้เปิดแผนที่ดูเองนะครับ เพราะผมก็ไม่รุ้ว่ามีจังหวัดไหนบ้าง

3. สิ่งที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง ผมเแนะนำให้เตรียมน้ำดื่มครับ อาหารเท่าที่จำเป็นและสิ่งสำคัญคือเตรียมใจครับ

4. ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2554 ก่อนเที่ยงให้สังเกตท้องฟ้าดูครับ จะมีสีแปลกๆให้เตรียมตัวได้เลยครับ(เฉพาะอิสานตอนบนกับภาคเหนือบางส่วนนะครับ)<!-- google_ad_section_end -->

รายละเอียดเกี่ยวกับตัวผม เกิดวันที่ 29 กรกฎาคม 2528 วันจันทร์ ปีฉลู ที่อยู่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เบอร์โทร 083 -5482556

18-01-2011, 07:41 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Readome<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4276087", true); </SCRIPT> สมาชิก

ภัยใดเหล่าในปีนี้ ไม่เท่ากับภัยการขัดเคืองใจของคน คนจะตายเพราะความคิด ภัยพิบัติจะฆ่าชีวิตจากคนสู่คน จากหลากหลายอาชีพ จากหมู่คณะของตนเอง มิจฉาทิฐิเกิดขึ้นแล้ว ความดับไม่มี ความแค้นนั้นมี การจองล้างจองผลาญ สงครามเย็นนั้นเกิดขึ้น ข้าวยากหมากแพง ฆราวาสออกหากินเพื่อความอยู่รอดโดยใช้คำว่าอริยะหรือสำเร็จ

ออกมาพาไปปฏิบัติเพื่อเข้าสู่มรรคผลหากินไปวันๆ นี่คือการดำรงชีวิต แต่เป็นมิจฉาทิฐิ เพราะมันมีในใจของตนเอง หมั่นเก็บน้ำ น้ำมัน หาข้าวหาอาหาร เก็บไว้ อะไรไม่จำเป็นอย่าเป็นหนี้ เพราะดอกเบี้ยทวีคูณ คนกู้หนี้ยืมสินระวังโดนทวงฟ้องขึ้นโรงขึ้นศาล ฉะนั้นปีนี้ฟ้าเป็นใจให้คนตายเพราะทิฐิของตนเอง ฉะนั้นปีนี้สงครามคนจราจลนั้นย่อมมี แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาตินี้ มันเป็นของไม่แน่นอน แต่ทุกคนเกิดมาได้นอนแน่ แต่หลังจาก 2555 ไปแล้วนั่นแหล่ะหนังตัวอย่างของภัยพิบัติของโลกนี้ถึงจะเกิดขึ้น หากจะหนักจริงๆ นั่นก็คอยพิจารณาปี 2560 - 2563 ขึ้นไปแล้วนั่นเริ่มจริง สงครามโลกครั้งที่ 3 มันก็ตามมา

ฉะนั้นต่อไปคนจะตายเหลือเพียงร่มโพธิ์เป็นที่พักอาศัย ภัยพิบัติก็ไล่ล้างตามมาเหลือเพียงสุญตาในธรรมจริง ของเล็กเป็นของใหญ่อยู่ดีๆเขาให้เป็น ฉะนั้นเรื่องภัยพิบัติของประเทศไทย 2555 เป็นต้นไป หนังตัวอย่างของไทยมีแน่นอนและไม่คาดคิดแน่นอน เกิดจากคนหลับ เกิดจาคนหลง ว่าคงไม่ใช่คนจะล้มตายทั่วโลก เพราะโรคร้าย ภัยจากน้ำ อาหารเป็นพิษ สัตว์ล้มตาย อากาศเป็นมลพิษ โรคจากน้ำ โรคจากเลือด โรคจากสัตว์ จะรู้แจ้งเห็นจริงไปเรื่อยๆ สลับกันไปพร้อมภัยพิบัติ คนดวงชงอย่าไปคิดมากเพราะชงไม่ชง หนีไม่พ้นไตรลักษณ์ คือ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เท่านั้นเอง

หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เพราะต่อไปไม่มีอะไรเท่าพุทธธรรม และไม่มีอะไรใหญ่เกินกว่ากรรม เพราะคนเหลือน้อย มารเหลือน้อย ของที่ตั้งไว้ดับศูนย์เข้าสู่ความว่างเปล่่่าแค่นั้นเอง อนุโมทนา ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่ผู้มีอภิญญา แต่รู้แค่ว่าคนเราเกิดมาต้องชดใช้กรรม (อนุโมทนา)
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>

18-01-2011, 10:18 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4276174", true); </SCRIPT> สมาชิก

ดาวเรียงตัว 8-16 พฤษภาคม 2554 เรียงตัวระหว่าง โลก พุธ ศุกร์ อังคาร พฤหัส

<LEGEND></LEGEND>

ไฟล์แนบข้อความ<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>Space Weather and Potential Impact on Earth’s Climate Dec 19 10 V2.pdf</TD></TR></TBODY></TABLE>

18-01-2011, 10:38 AM

เกษม สมาชิก

น่าแปลกใจที่ทางศาสนาคริสต์ เขาก็มีคำเตือนเรื่องภัยพิบัติ ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ.2011 นี้เหมือนกันครับ

วันพิพากษา! 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011; วันสิ้นโลก 21 ตุลาคม ค.ศ. 2011 ...

19-01-2011, 02:07 AM ​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->karan20<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4291968", true); </SCRIPT> สมาชิก

อ่านเจอในหนังสือ ศาสตร์แห่งโหร ฉบับพิเศษ 'รู้ทันดวงกับโหรดัง 2554'
โหรชื่อว่า โสรัจจะ นวลอยู่ ทำนายว่าเดือนพฤษภาคม จะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน สร้างความเสียหายมากกว่าเมื่อครั้งปี 2547<!-- google_ad_section_end -->

'โสรัจจะ นวลอยู่'...คำทำนายปี 2554 กระต่ายไฟ

22-01-2011, 09:19 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/แจ้งข่าวภัยพิบัติที่จะมาถึงในเดือน-พฤษภาคม-2554-a.276184/​

 

น้ำท่วมทั่วประเทศโบลิเวีย​

​

ฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ทั่วประเทศโบลิเวีย ทำให้พื้นที่หลายส่วนของประเทศจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากแม่น้ำสายต่างๆ ไหลท้นฝั่ง ขณะที่ดินบริเวณเชิงเขาที่อ่อนตัวก็พังถล่มลงมาทับบ้านเรือนของประชาชน หน่วยพยากรณ์อากาศโบลิเวีย คาดหมายว่าฝนจะตกหนักต่อไปจนถึงวันที่ 15 เดือนนี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ประชาชนหลายพันคนได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนในเขตล่อแหลมต่างๆ ไปยังที่ปลอดภัย หนึ่งในเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเมืองเอลชาปาเร ของจังหวัดโกชาบัมบา ทางภาคกลาง ฝนยังคงตกหนักและระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นถึง 2 เมตร หรือ 6.5 ฟุต ในบางเขต เนื่องจากแม่น้ำชาปาเรไหลท้นฝั่ง

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องบินเล็กตกในคอร์ก ไอร์แลนด์ เสียชีวิต 6 คน​

​

เครื่องบินที่ใช้เดินทางไปมาระหว่างบ้านกับสำนักงานขนาดเล็กลำหนึ่งพร้อมคน 12 คนบนเครื่อง พุ่งตกและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะพยายามร่อนลงจอดท่ามกลางหมอกหนา ที่สนามบินคอร์ก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน อีก 6 คนบาดเจ็บ

องค์การการบินไอริชซึ่งรับผิดชอบดำเนินงานสนามบินคอร์กกล่าวว่า หมอกลงจัดมากจนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรอากาศในหอข้างเคียงแห่งหนึ่งไม่สามารถมองเห็นเครื่องบินตกได้ ได้ยินเพียงเสียงเครื่องบินตกเท่านั้น

เครื่องบินเดินทางมาจากนครเบลฟัสต์ เมืองเอกของเขตการปกครองไอร์แลนด์เหนือ ของสหราชอาณาจักร รันเวย์ของสนามบินคอร์กถูกปิด และเที่ยวบินขาเข้าทั้งหมดถูกเปลี่ยนเส้นทางไปลงยังสนามบินแชนนอน ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่กว่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์

นับเป็นเหตุเครื่องบินตกที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในการบินของไอร์แลนด์ นับตั้งแต่ปี 2511 เมื่อเที่ยวบินของสายการบินแห่งชาติแอร์ลิงกัสของไอร์แลนด์จากเมืองคอร์กมุ่งสู่กรุงลอนดอน พุ่งตกในทะเลไอริชทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 61 คนบนเครื่องเสียชีวิต

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กัมพูชา..เร่งช่วยผู้อพยพและทหาร​

​

เจ้าหน้าที่กัมพูชา นำข้าวสารและบะหมี่สำเร็จรูปไปแจกจ่ายให้กับผู้อพยพตามค่ายผู้อพยพต่างๆ ตามแนวชายแดนด้านที่ติดกับประเทศไทย โดยมีสถานีโทรทัศน์ 2 แห่งของกัมพูชาเป็นผู้ระดมความช่วยเหลือ

แม้สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นเท่ากับเป็นสงคราม แต่ทั้งกัมพูชาและไทย ก็ให้คำมั่นว่าจะใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างเต็มที่ และปฏิเสธว่าไม่มีการเสริมกำลังตามแนวชายแดน แต่สำนักข่าวรอยเตอร์สของอังกฤษรายงานว่า ผู้เห็นเหตุการณ์ในฝั่งไทยเห็นมีการเคลื่อนขบวนรถถัง ยานยนต์หุ้มเกราะ และเครื่องบินขับไล่

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ 2 แห่งของกัมพูชา คือ บายน และ CTV ได้ตั้งมูลนิธิขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมสิ่งของความช่วยเหลือส่งไปยังประชาชนตามบริเวณชายแดน ขณะนี้ผู้ลี้ภัยชาวเขมรกว่า 1 พันคน ต้องหนีออกจากบ้านเรือนเข้ามาพักอาศัยตามค่ายผู้อพยพต่างๆ ที่อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารประมาณ 30 กิโลเมตร นับแต่การสู้รบเพิ่มขึ้น มัม ซีลา ผู้อพยพกล่าวว่า เธอกับลูกๆ ขึ้นไปหลบซ่อนบนที่สูง และเห็นเศษกระสุนปืนใหญ่ประมาณ 80-90 ชิ้น ตกลงบนบ้านของเธอแต่เคราะห์ดีที่รอดชีวิตมาได้

สมเด็จฮุนเซน ได้ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทุกคนดูแลผู้ลี้ภัย และทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ขณะที่ในเขตพรมแดนทางตอนเหนือของกัมพูชา โรงเรียนและวัดถูกเปลี่ยนเป็นที่หลบภัยสำหรับประชาชนที่พลัดถิ่นหลายพันคน ขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชา คือ นายกษิต ภิรมย์ และนายฮอร์ นัม ฮง กำลังมุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ก โดยมีกำหนดจะเข้าบรรยายสรุปสถานการณ์ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กองทัพเรือสั่งเตรียมพร้อม 100% รับมือเขมรเคลื่อนพลประชิดชายแดน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 15:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>กองทัพเรือสั่งกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด เตรียมพร้อม 100% รับมือเขมร หลังพบเคลื่อนกำลังมายังพื้นที่ชายแดนเกือบ 100% ยันไม่ใช้อาวุธก่อน แต่พร้อมตอบโต้ในอัตราเท่าเทียมกัน

พล.ร.อ.เถกิงศักดิ์ วังแก้ว เสนาธิการทหารเรือ กล่าวถึงมาตรการดูแลตามแนวชายแดน จ.จันทบุรี-ตราด ติดชายแดนไทย-กัมพูชาว่า กองทัพเรือได้สั่งให้กองกำลังป้องกันชายแดน เตรียมพร้อม 100% รักษาอธิปไตยของไทย ถึงแม้เหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาจะผ่อนคลายลง แต่กองทัพเรือไม่ได้ประมาท โดยเฉพาะได้รับรายงานข่าวว่าทางกัมพูชามีการเตรียมพร้อมเคลื่อนกำลังมาที่จุดนั้นเกือบ 100% ดังนั้น กองทัพเรือจึงใช้กองกำลังที่เรามีทั้งหมดตามแผนที่ป้องกันชายแดนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังมีเรือที่ลาดตระเวนเป็นปกติในน่านน้ำทะเล และได้สั่งให้เรือตรวจการณ์ปืน ที่จอดพักทั้งหมด ที่ท่าจอดกองทัพเรือภาคที่ 1 ออกไปอยู่ในพื้นที่ เพื่อหาข่าว และป้องกันเรือฝ่ายตรงข้าม และป้องกันการแทรกซึม และสนับสนุนกำลังทหารบนภาคพื้นดิน โดยเรือจะทำการสนับสนุนด้วยปืนใหญ่บนเรือ รวมถึงใช้ในภารกิจถอนตัว อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราก็จะไม่ใช้อาวุธเช่นเดียวกัน หากมี เราจะโต้ตอบเท่าเทียมกัน

“กำลังทางเรือกัมพูชามีกำลังที่ค่อนข้างกำจัด แต่เราไม่ประมาท โดยมีเรือตรวจการณ์ที่เกาะกูด แต่หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เรือฟรีเกต (ติดอาวุธปล่อยนำวีถี) สามารถเดินทางไปได้ภายใน 1 ชั่วโมง”

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000018745
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ่านข้อความข้างบนแล้วก็ไม่รู้จะขอความช่วยเหลือดีหรือเปล่า ขอความรู้เผื่อไว้แล้วกัน
ใครพอจะทราบบ้างว่า เวปที่สามารถดูข้อมูลแหล่งน้ำและทราบปริมาณหรือระดับน้ำในประเทศไทยได้ แบบเป็นปัจจุบัน เหมือนการพยากรณ์อากาศบ้างไหม เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการน้ำของประเทศบ้าง

 

น้ำโขงแห้งแล้ว-เรือสินค้าแห่ปรับค่าระวาง ลดน้ำหนักบรรทุก-หนีดอนทราย​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 13:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เชียงราย - น้ำโขงเริ่มแห้งหนักแล้ว แม้ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต แต่หลายจุด
ผู้ประกอบการเดินเรือต้องปรับระวางบรรทุก เพื่อให้ท้องเรือรอดพ้น
สันดอนทราย พร้อมปรับราคาค่าบริการขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 25%
หวังเมษาฯนี้ หิมะละลายทำระดับน้ำเพิ่มขึ้นบ้าง​

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้สภาพแม่น้ำโขงชายแดน
ไทย-สปป.ลาว แห้งลงทำให้เกิดหาดทรายกว้างขวาง โดยเฉพาะที่เมือง
ต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้ามที่ว่าการ อ.เชียงแสน พบว่า กลายสภาพ
เป็นหาดทรายกว้าง ทำให้เอกชนจีนโดยกลุ่มดอกงิ้วคำ ซึ่งเข้าไปสร้าง
โครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism
Development Zone ที่เมืองต้นผึ้ง นำรถแมคโฮเข้าไปขุดตักทราย
เพื่อนำไปก่อสร้างถนน - สิ่งปลูกสร้างในโครงการอย่างคึกคัก
สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากฝั่งไทย​

ขณะเดียวกันระดับน้ำโขงที่แห้งลง จนเกิดเกาะทรายเป็นบริเวณกว้าง
ได้เริ่มก่อให้เกิดปัญหากับเรือสินค้าในแม่น้ำโขงแล้ว โดยเรือส่วนใหญ่
ซึ่งเป็นเรือสินค้าสัญชาติจีนเกือบทั้งหมดและบางส่วนเป็นเรือลาว
ไม่สามารถแล่นด้วยระวางบรรทุกปกติผ่านเขตบริเวณโขงโค้ง หรือ
แถบเมืองป่าเหลียว-เชียงลาบ ที่เขต จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
ไปทางทิศเหนือห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ประมาณ
82 กิโลเมตรได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นหาดทรายกว้าง
มีความโค้งคล้ายสามเหลี่ยมทองคำ​

จึงทำให้ตะกอนทรายจำนวนมากไปทับถมกันจนทำให้ท้องน้ำตื้นเขิน
ทำให้เจ้าของเรือสินค้าเริ่มขึ้นค่าบรรทุกสินค้าจากเดิมคิดในราคา
ต่ำกว่า 200 หยวนต่อตันหรือประมาณ 1,000 บาทขึ้นเป็นตั้งแต่
250 หยวนหรือประมาณ 1,250 บาทขึ้นไปแล้ว​

​

นายประธาน อินทรียงค์ ผู้จัดการบริษัทสยามเซ้าท์ไชน่า จำกัด ซึ่ง
ประกอบกิจการท่าเรือขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขง กล่าวว่า
แม้ว่าช่วงนี้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ซึ่งมักจะทำให้แม่น้ำโขงแห้ง
จนเป็นปัญหาต่อการเดินเรือแต่ปีนี้ยังดีกว่าทุกปี เนื่องจากจนถึงขณะนี้
แม้น้ำจะแห้ง แต่ก็ไม่ถึงกับวิกฤติ ยังสามารถใช้เพื่อการเดินเรือสินค้า
ได้อย่างต่อเนื่อง แต่อาจต้องปรับระวางบรรทุกให้น้อยลงบ้างเท่านั้น
สำหรับบริเวณโขงโค้งดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ที่มีหาดทรายมากอยู่แล้ว
และมักจะมีตะกอนทรายทลายลงไปทับถมทุกปี​

​

นายประธาน กล่าวอีกว่า เชื่อว่าเมื่อเข้าถึงเดือน เม.ย.อากาศจะร้อน
และทำให้หิมะที่เทือกเขาหิมาลัยอันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำโขงที่มณฑลชิงไห่
ประเทศจีน ละลายตัวและกลายเป็นน้ำลงไปเติมเต็มแม่น้ำโขงให้มีมากขึ้น
อาจทำให้ปัญหาความแห้งแล้งหมดลดลง ทั้งนี้ตนไม่อยากให้หลายฝ่าย
มองว่าปัญหาแม่น้ำโขงแห้งเกิดจากการก่อสร้างเขื่อนในประเทศจีน
เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงทั้งหมดมาจากประเทศจีนเพียงประมาณ
16% จากลาวกว่า 35% ที่เหลือเป็นของประเทศอื่นๆ คือไทย กัมพูชา เวียดนาม​

ด้าน จ.อ.อนิรุต จำรูญ หัวหน้าขนส่งทางน้ำที่ 1 สาขาเชียงราย
กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวว่าที่จีนตอนใต้กำลังประสบปัญหาเรื่องภัยแล้ง
อย่างไรก็ตามช่วงนี้ระดับน้ำตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำถึงท่าเรือเชียงแสน
หรือติดเขตแดนประเทศไทย ยังสามารถใช้เพื่อการขนส่งสินค้าทางเรือ
ได้อยู่ โดยระดับน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร ทำให้เรือสินค้าที่เคยบรรทุก
ได้ด้วยระวางประมาณ 300 ตัน ต้องลดระวางลงเหลือประมาณ 250 ตัน​

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะวิกฤติมากในปีนี้
และเรือสินค้าคงจะสามารถปรับตัวได้ตามระดับน้ำที่ขึ้นลงโดย
คาดว่าจะไม่ห่างจากระดับปัจจุบันมากนักไปจนถึงฤดูฝน​

Local - Manager Online -

 

ข้อมูลแหล่งน้ำและปริมาณหรือระดับน้ำในประเทศไทยแบบเป็นปัจจุบัน เข้าไปดูได้ที่เว็บข้างล่างนี้ครับ

คลังข้อมูลสภาพน้ำของประเทศไทย

 

จีนพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว 20 คนในปีนี้​

​

ปักกิ่ง 11 ก.พ. – กระทรวงสาธารณสุขจีนแถลงวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) แล้วอย่างน้อย 20 คนในปีนี้ แต่ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกแม้อยู่ในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดสูงสุดก็ตาม

รายงานระบุว่า นับตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (เอช1เอ็น1) อย่างน้อยใน 9 พื้นที่ ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานพบผู้เสียชีวิตอีกคนหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 21 คนแล้วหรือไม่ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 18,400 คน และระบาดไปทุกพื้นที่ทั่วโลก นับตั้งแต่พบโรคดังกล่าวเป็นครั้งแรกในเม็กซิโกและสหรัฐเมื่อเดือน เม.ย. 2552 ด้านกระทรวงสาธารณสุขจีนรายงานว่า นับจนถึงเดือน เม.ย. 2553 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตประชาชนในจีนแล้วอย่างน้อย 800 คน

องค์การอนามัยโลกออกแถลงการณ์เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้วว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สิ้นสุดลงแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ หลายประเทศยังคงมีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (เอช1เอ็น1) เพราะเป็นฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาดสูงสุด แต่มีจำนวนน้อยกว่าเมื่อครั้งที่พบการระบาดครั้งแรก โดยเป็นผลจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ ด้านผู้อำนวยการศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติจีนเปิดเผยว่า แม้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะเพิ่มขึ้น แต่การแพร่ระบาดดังกล่าวไม่ได้เลวร้ายเหมือนสถานการณ์ในปี 2552 ด้านโฆษกศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคในปักกิ่งกล่าวว่า ประชาชนไม่ควรประเมินภัยคุกคามจากไวรัส ชนิดเอ (เอช1เอ็น1) มากจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก -สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

เผยในปีนี้ไข้เลือดออกคร่าชีวิตชาวละตินอเมริกาแล้ว 31 คน​

​

มอนเตวิเดโอ 11 ก.พ. - การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในหลายประเทศแถบละตินอเมริกาคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 31 คน นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบสัญญาณบ่งบอกว่าสถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย

รายงานอ้างสถิติอย่างเป็นทางการระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ มีการยืนยันหรือสงสัยว่าพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วเกือบ 46,600 คนในภูมิภาคละตินอเมริกา ในจำนวนดังกล่าวอย่างน้อย 14 คนอาศัยอยู่ในเขตป่าอเมซอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเปรู 8 คนในโคลอมเบีย 5 คนในปารากวัย และอีก 4 คนในโบลิเวีย

องค์การอนามัยแพนอเมริกาเปิดเผยว่า ในปี 2553 โรคไข้เลือดออกคร่าชีวิตประชาชนทั่วภูมิภาคละตินอเมริกาไป 1,187 คน ขณะที่พบผู้ป่วยถึง 1.8 ล้านคน โดยมีรายงานพบผู้ป่วยไข้เลือดออก 125,000 คนในเวเนซุเอลาเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากสถิติของปี 2552 ส่วนในเปรู เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ประกาศเตือนภัยระดับสีแดงในเขตป่าอเมซอน ทางตอนเหนือของประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก รัฐมนตรีสาธารณสุขเปรูเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเผชิญกับไวรัสไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งยังไม่มีใครรู้จัก โดยโรคดังกล่าวอาจแพร่ระบาดมาจากบราซิลผ่านทางป่าอเมซอน

นอกจากนี้ เปรู ปารากวัย และคิวบายังเริ่มโครงการรมควันเพื่อลดจำนวนยุง ขณะที่โคลอมเบียเฝ้าสังเกตการณ์ผู้ป่วยไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด หลังเกิดฝนตกหนักในเดือน ธ.ค. และเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเปิดเผยสถิติว่า โรคไข้เลือดออกคร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกมากถึงปีละ 50 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

เกาหลีเหนือยืนยันพบการแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย​

​

โซล 11 ก.พ. - เกาหลีเหนือแถลงว่า โรคปากเท้าเปื่อยได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศแล้ว หลังพบการระบาดครั้งแรกในกรุงเปียงยางเมื่อปลายปีที่แล้ว

สำนักข่าวกลางของทางการเกาหลีเหนือรายงานวานนี้ว่า พบสัตว์หลายพันตัวซึ่งรวมถึงวัวและหมูล้มตาย เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กักกันโรคกำลังเร่งดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว การยืนยันดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เกาหลีใต้กำลังเร่งยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งเลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยนับจนถึงขณะนี้เกาหลีใต้ต้องฆ่ากำจัดสัตว์ไปแล้วกว่า 3.2 ล้านตัว ส่วนใหญ่เป็นหมู ทั้งนี้ โรคปากเท้าเปื่อยเกิดขึ้นกับสัตว์เท้ากีบ ทำให้เกิดตุ่มพองบริเวณปากและเท้า. - สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

เกิดหิมะตกหนักตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น​

​

โตเกียว 11 ก.พ. – บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า อิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดหิมะตกหนักเป็นบริเวณกว้างตามแนวชายฝั่งของญี่ปุ่นด้านมหาสมุทรแปซิฟิก

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกิดหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น วัดความหนาได้ถึง 7 ซม. เมื่อนับถึงเวลา 10.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่กรุงโตเกียวมีหิมะปกคลุมเบาบาง และจะยังคงตกไปตลอดทั้งวัน พยากรณ์อากาศคาดว่า หย่อมความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก และจะทำให้เกิดหิมะตกอย่างต่อเนื่องจนถึงวันพรุ่งนี้ในพื้นที่ทางตะวันตกและตะวันออกของประเทศ -สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

ส.ส.เวเนซุเอลาตะลุมบอนกลางสภา​

​

เวเนซุเอลา 11 ก.พ. - ส.ส.เวเนซุเอลายกพวกตะลุมบอนกันกลางสภา จากเหตุขัดแย้งเรื่อง การจัดสรรอำนาจในสภาระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล

เหตุชุลมุนเกิดขึ้นขณะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเวเนซุเอลา เมื่อ นายอัลฟองโซ มาร์กิน่า รองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เดินเข้าไปยังบริเวณโพเดียมเพื่อประท้วงกลุ่มผู้สนับสนุน ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ที่พากันส่งเสียงอึกทึก จากนั้น นายเฮนรี เวนทูร่า รองหัวหน้าพรรคฝ่ายรัฐบาล ก็เกิดปะทะคารมกับ นายมาร์กินา และกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายหนึ่ง ก่อนจะผลัก นายมาร์กินา ลงไปนั่งกับเก้าอี้

ขณะที่ บรรดาส.ส.ต่างเข้ามากลุ้มรุมทำให้ทหารต้องเข้ามายุติเหตุการณ์ เป็นเหตุให้การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ต้องระงับลงชั่วคราวก่อนจะกลับมาถ่ายทอดสดอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดีไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

ผู้นำอิหร่านเชื่อตะวันออกกลางจะเป็นอิสระจากสหรัฐในเร็ววันนี้​

​

เตหะราน 11 ก.พ.- ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ผู้นำของอิหร่านกล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 32 ปีการปฏิวัติอิสลามอิหร่านว่า ตะวันออกกลางจะเป็นอิสระจากสหรัฐและอิสราเอลในเร็วๆ นี้

ผู้นำอิหร่านบอกว่า จะได้เห็นตะวันออกกลางโฉมใหม่ที่ไม่มีอเมริกาและระบอบไซออนนิสต์ที่ส่งเสริมการกลับคืนสู่มาตุภูมิของชนชาวยิว นอกจากนี้ตะวันออกกลางจะไม่มีที่ว่างให้กับการหยิ่งผยองของชาติตะวันตกอีกต่อไป

ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด คาดว่าพลังการลุกฮือของประชาชนอียิปต์จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะและเตือนชาวอียิปต์ให้ระวังความหน้าเนื้อใจเสือของสหรัฐที่บอกว่าเป็นมิตรกับประเทศอาหรับและแอฟริกาเหนือ ผู้นำอิหร่านยังได้ประกาศสนับสนุนเสรีภาพของประชาชนที่จะเลือกอนาคตของตนเอง และเห็นพ้องกับคำเรียกร้องของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านที่ให้สถาปนาระบอบการปกครองอิสลามขึ้นในประเทศอาหรับ

ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัดกล่าวไปถึงสหรัฐว่า ถ้าต้องการให้ประชาชนไว้วางใจ ก็ต้องเลิกแทรกแซงกิจการในตะวันออกกลางเช่นที่ตูนิเซียและอียิปต์ และปล่อยให้ประชาชนของประเทศเหล่านั้นตัดสินใจเลือกอนาคตของตนเอง.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 ก.พ. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

12 ก.พ. 54 รายงานข่าวอ้างจากสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย รองประธานาธิบดีโอมาร์ สุไลมาน รองประธานาธิบดีอียิปต์
ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอียิปต์ว่า ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามข้อเรียกร้องของประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่เขาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 18 วันติดต่อกัน
โดยมูบารัคได้ส่งมอบอำนาจในการปกครองประเทศให้แก่คณะผู้บัญชาการกองทัพ ซึ่งมี นายโมฮาเหม็ด ฮุสเซ็น ตันตาวี รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ ทำให้ทั่วเมืองอียิปต์ต่างมีประชาชนออกมาร่วมกันเฉลิมฉลองตามท้องถนนเป็นจำนวนมากหลังทราบข่าวดังกล่าว

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>กองทัพอียิปต์ยาหอม เตรียมยกเลิก"สถานการณ์ฉุกเฉิน" หากเหตุความวุ่นวายสิ้นสุด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คณะกรรมาธิการทหารอียิปต์กล่าวสัญญาที่จะยกเลิก"สถานการณ์ฉุกเฉิน" ที่ถูกบังคับใช้มากว่า 30 ปี หากว่า "สถานการณ์ในปัจจุบันสิ้นสุดลง"

ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในกรุงไคโร หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงได้ฟังคำแถลงการณ์ของนายฮอสนี มูบารัค เมื่อคืนวานนี้ (10 กพ.) ว่าเขายืนยันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ และได้เดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล จัตุรัสทาห์รีร์ และสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล

กองทัพอียิปต์ กล่าวในแถลงการณ์ที่เรียกว่า "Communique No 2" หรือ "การสื่อสารหมายเลข 2" เพื่อยืนยันถึงการยกเลิกสถานกาณ์ฉุกเฉิน ตราบเท่าที่สถานการณ์ในปัจจุบันสิ้นสุดลง

นอกจากนั้นกองทัพให้การรับรองอย่างเป็นทางการต่อการที่นายมูบารัค มอบอำนาจให้แก่นายพลโอมาร์ สุไลมาน รองประธานาธิบดีอียิปต์ และรับรองว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งที่เป็นอิสระและเป็นธรรม การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และ"ปกป้องประเทศ"

กองทัพยังได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการแต่งตั้งในรัฐบาลอย่างเป็นระบบระเบียบเช่นเดิม เพื่อรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินของประชาชนชาวอียิปต์

อย่างไรก็ดี การประท้วงครั้งล่าสุดในวันนี้ (11 กพ.) อาจทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนและกองทัพขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และอาจถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากที่สุดช่วงหนึ่งนับตั้งแต่การเริ่มประท้วงเมื่อกว่าสองสัปดาห์ก่อน

นายมูบารัคได้กล่าวแถลงการณ์ในคืนวันพฤหัสฯใจความว่า เขายังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป กระทั่งถึงการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายน และสัญญาว่าจะถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายสุไลมาน แต่รายละเอียดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

สถานทูตอียิปต์ ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หมายความว่านายสุไลมาน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีโดยพฤตินัย



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้อพยพ มีเฮ หลังได้ข่าวได้กลับบ้านพรุ่งนี้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
บรรยากาศทั่วไปที่หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังคงเงียบ บ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงถูกปิดตายมาตั้งแต่วันเกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้

ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ย้ายกลับเข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใดส่งผลให้บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงาเป็นอย่างมากขณะเดียวกันทหารช่าง จากกองกำลังสุรนารีได้เข้ารื้อถอนบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจากเหตุปะทะ โดยทางจังหวัดได้อนุมัติงบสร้างบ้านหลังใหม่ให้แทนจำนวนทั้งสิ้น 7 หลัง งบประมาณเฉพาะจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์รวมหลังละ 200,000 บาท ส่วนช่างและแรงงานที่จะมาช่วยในการก่อสร้างบ้านนั้นทางวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และวิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ สนับสนุน ครู และนักศึกษามาช่วยในการก่อสร้างบ้านที่เสียหาย ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วนก็จะชดเชยให้ตามจริงแต่ไม่เกินหลังละ 30,000 บาท สำหรับผู้เสียชีวิตจะได้ค่าจัดงานศพจำนวน 50,000 บาท

<DD>
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีชาวบ้านส่วนหนึ่งพากันออกจากศูนย์อพยพกลับเข้าไปอยู่บ้านเรือนของตนเองตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่หมู่บ้านไม่ได้อยู่ติดตามแนวชายแดนจริง ๆ แต่มีความตระหนกตกใจ ในห้วงที่มีการปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย แต่เมื่อเหตุการณ์สงบจึงได้อพยพกลับไปบ้านเรือนของตนเองบ้างแล้ว ทำให้ยอดจำนวนผู้อพยพลดลงจากรอบหลังสุดจำนวน 21,000 คน เหลือเพียง 12,413 คน
<DD>
“ได้ประชุมหารือกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ข้อสรุปว่าจะรอดูสถานการณ์ในวันนี้ก่อน หากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในวันนี้ไปถึงช่วงเช้า ก็จะให้ชาวบ้านเก็บข้าวของสัมภาระเดินทางกลับบ้านได้ในวันรุ่งเช้าหลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว” ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าว




</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>การค้าขายชายแดนไทย-กัมพูชากลับสู่ภาวะปกติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เสียงปืน จากเหตุการณ์ปะทะกันที่บริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สงบลงรวมประมาณ 5 วันแล้ว

ประชาชนชาวกัมพูชามั่นใจเรื่องความปลอดภัยนระดับหนึ่ง ช่วงเวลากลางคืน นำแสงไฟออกล่าหาอาหาร อาทิ กบ เขียด จิ้งหรีด บริเวณทุ่งนา ด้วยความอุดมสมบูณ์ของพื้นที่ทรัพยากรจึงยังมีมาก เพื่อนำไปประกอบอาหารกินเองในครอบครัว ส่วนที่เหลือนำข้ามพรมแดนขายฝั่งไทยที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนการค้าการท่องเที่ยวการแลกเปลี่ยนสินค้าสนราคาการซื้อขายตกกิโลกรัมละ 50บาท นำขายให้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทย พ่อค้าเมืองไทยนำขายต่อตลาดฝั่งไทยตกสนนรคาขีดละ10- 15 บาท ซึ่งคนไทยนิยมนำไปประกอบอาหารเมนูจานเด็ดด้วยการนำไปต้มส้มผักติ้ว ใบกระเพรา บ้างก็ตากเขียดแห้งแดดเดียวทอดกรอบ รสชาติเลิศ กอรปกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกนี้เมืองไทยหายาก

นางโซน ซึม อายุ 58 ปี อยู่บ้านสระเจือม ตำบลตะเปียงไปร อำเภออัลองเวง จังวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า

ตนและครอบครัวเห็นว่าการปะทะของไทยเขมร เสียงปืนสงบลง จึงพาบุตรหลาน เพื่อนบ้านออกล่าจับเขียดที่กลางทุ่งนาของหมู่บ้าน ซึ่งที่หมู่บ้านมีจำนวนมาก หากอากาศร้อนจัดเขียดจะออกมาหาน้ำกินหรือกินน้ำค้าง พวกตนก็จะออกไปจับนำไปประกอบอาหารกินในครอบครัว ส่วนที่เหลือก็รวบรวมนำขึ้นไปขายที่ประเทศไทย วันนี้ได้มารวมกับของเพื่อนบ้านประมาณ 20 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 50 บาท วันนี้มีรายได้ประมาณ 1,000บาท คิดเป็นเงินเขมร 138,000 รีล

นายดาย โพธิ์คา อายุ 56 ปี ชาวบ้านโอทะลัน หมู่ที่ 10 ตำบลจรัส อำเภอบัวเชดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า

มารับซื้อสินค้าอาหารจากประเทศเขมรเป็นประจำ อาทิเห็ด ผักป่า เห็ด กบ และเขียดวันนี้รับซื้อได้รวม 20 กิโลกรัม นำไปขายต่อตลาดฝั่งไทยขีดละ 15 บาท เพราะถือเป็นอาหารหายากแล้วของเมืองไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กิจกรรมที่เขากะลา กับ คำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล​

​

กลุ่มผู้สนใจฝึกจิต จำนวน 39 บุคคล ได้ร่วมปฏิบัติสมาธิจิต ณ เขากะลา ซึ่งมีการฝึกปฏิบัติทางจิตต่อเนื่องในทุก ๆ วัน โดยมี จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นประธานของกลุ่มเขากะลา ซึ่งการปฏิบัติจะมีการฝึกสมาธิจิต พิจารณาธรรม และปฏิบัติกิจกรรรมอื่น ๆ ร่วมกัน ​

​

สัญญลักษณ์ของจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกอง เมื่อฝึกสื่อสารกับคลื่นจิตจากจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกอง จะใช้สัญญลักษณ์นี้ ในการฝึกฯ​

ที่มา http://reocities.com/westhollywood/3698/memorial/memo8.html

​

การประทับตรากางเขนที่หน้าผากของธรรมิกชน (มาคกางเขนของพระเจ้าในระยะช่วงเวลาประกาศของธรรมิกชนขอบจะเป็นสีแดงข้างในจะเป็นสีออร่าฉายแสง)​

ธรรมิกชน 144,000 คน จะทำการเทศนาพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ และเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อ (ความคิดของ) พวกเขาผู้ซึ่งเรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยงบนสวรรค์ ผู้ซึ่งยังคงอยู่บนโลก เพราะจำนวนคนที่ได้เรบเจอร์รอบแรกจากคนทั้งโลก น้อยมาก จะมีผู้ใหญ่ประมาณ 800,000 คนที่มีอายุมากกว่า ยี่สิบ ปี และจำนวนเด็ก 9,600,000 ที่ต่ำกว่า ยี่สิบ ปี ผู้ซึ่งได้รับเรบเจอร์รอบแรก

พวกเขาจะถูกรับไปกลางอากาศ ท่ามกลางคนที่หลงเหลืออยู่บนโลกเพื่อไปอยู่ในสถานที่ป้องกันและหลีกเลี่ยงจากภัยพิบัติ พวกเขาผู้ซึ่งยังคงเหลือหลงอยู่บนโลกที่จะประสบกับความยากลำบากในช่วงเวลาของวันแห่งความทุกข์ยากที่ไม่เคยมีมาก่อนบนแผ่นดินโลก ที่ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเสียงแตรครั้งที่หนึ่งได้เป่าเสียงสัญญาณออกไป

ในบทที่เจ็ดของหนังสือวิวรณ์ได้กล่าวถึงทูตสวรรค์ที่อยู่ทั้งสี่มุมของโลกและได้ถือสิทธิอำนาจอยู่ทั้งสี่ทิศทาง แต่นิมิตที่ได้มอบแก่ยอห์นได้เห็นการแกะตราที่เจ็ด การเป่าแตรครั้งที่เจ็ดและการเทขันธ์พระพิโรธนั้นเรียงกันตามลำดับอย่างต่อเนื่องและเหตุการณ์ต่างๆ ได้เกิดขึ้นอย่างพร้อมเพียงกันตามความเป็นจริงท่านได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของเหตุการณ์ในวันแห่งความทุกข์ยากลำบาก

ที่ได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ นั้นได้เกิดขึ้นภายในเจ็ดปีและแต่ละตราภัยพิบัติที่ผนึกจารึกไว้ได้ถูกแกะในช่วงระยะเวลาเจ็ดปี แต่ละตราผนึกนั้นได้แกะออกนั้นได้เริ่มต้นขึ้นในแต่ละปี ภัยพิบัติอย่างร้ายแรงแบบที่ไม่เคยมีมาบนแผ่นดินโลกนั้น ได้เกิดขึ้นหลังจากสามปีครึ่ง (สี่สิบสองเดือน) ของระยะเวลาเจ็ดปี ช่วงภัยพิบัตินั้นได้เกิดขึ้นหลังจากการเป่าแตรที่หนึ่งที่ซึ่งได้เป่าแตรระหว่าง การแกะตราที่สามและตราที่สี่

นี้หมายความว่า ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นเริ่มต้นระหว่างช่วงปีที่สามและปีที่สี่ของเจ็ดปีแห่งความทุกข์ยากลำบาก การเทขันธ์พระพิโรธของพระเจ้านั้นได้เทลงมาสู่โลกระหว่างยี่สิบเอ็ดเดือนของเจ็ดปีแห่งความทุกข์ยากลำบาก การเทขันธ์พระพิโรธลงมาสู่โลกนั้นเริ่มต้นระหว่างการเป่าแตรที่สามและการเป่าแตรที่สี่ หรือปีที่ห้าและสามเดือนหลังจากการแกะตราที่หนึ่ง หรือยี่สิบเอ็ดเดือนหลังจากการเป่าแตรครั้งที่หนึ่ง

ดังนั้นสิ่งที่บอกกล่าวเหตุการณ์ของการแกะตราทั้งเจ็ด เสียงสัญญาณของการเป่าแตรทั้งเจ็ดและการเทขันธ์พระพิโรธทั้งเจ็ดนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อนกัน เหตุการณ์ทั้งหมดได้ เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสุดท้ายของวันสิ้นโลกและวันสิ้นโลกนั้นได้เกิดขึ้นหลังจากการครองราชย์ของพระเยซูคริสต์หนึ่งพันปี ให้เราได้นำพระคำภีร์ขึ้นมาทบทวนท่านจะสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผลลัพธ์ของการแกะตราทั้งเจ็ด เสียแตรเป่าทั้งเจ็ดครั้ง และการเทขันธ์พระพิโรธทั้งเจ็ดในช่วงระยะเหตุการณ์เดียวกันและได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเจ็ดปีนี้เหมือนกัน

ที่มา http://purifysoul.com/index.php?option=com_content&view=category&id=35&Itemid=50&lang=th