ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Hmala

    Hmala สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +6
    อย่าลืมน้ำภาคใต้ เคยเตือนคนที่น้ำท่วมเมืองคอนปลายมีนา 54
    คนหลายคน อายุมากๆ เกือบ 60 ปี นั่งกระดิกเท้า
    บอกว่า เดือนสี่ เดือนห้า (เดือนมีนา -เมษา ) หน้าแล้งสงกรานต์ น้ำไม่ท่วม
    ก็บอกไปว่า น้ำเหนือท่วมบ้านผมไปกว่าครี่งเมตรแล้วเลยเตือนให้เตรียมอพยพ
    ไม่เกิน 12 ชั่วโมงน้ำจะมาที่บ้านเค้าแล้ว
    กูเกิดมาไม่เคยเจอน้ำท่วมหน้าแล้ง เลยไม่ขนย้ายทรัพย์สิน
    ขณะที่ผมเอารถมาจอดรอหน้าบ้าน บอกว่า ขนสิ่งของในบ้านทั้งหมดขึ้นรถไปไว้ที่สูงไวๆ
    กูไม่เชื่อ ไม่ต้องมาสอนกูหรอก น้ำไม่ท่วมถึงบ้านกู กูไม่ขนย้าย
    ต่อมาไม่นาน และแล้ว 8 ชั่วโมงต่อมา น้ำก็เพิ่มระดับจนจมหลังคาบ้านสูง 4 เมตร
    ประมาท คับ คนทัย แก่แล้วก็รู้มาก จำกันที่บรรพบุรุษเล่าต่อๆ กันมาไม่เคยฟัง
    แต่ตอนนี้ เมืองไทยเจอแค่นิดเดียว แต่เมืองอื่นโครตดุ ฟ้าผ่า หิมะตกหน้าแล้ง
    น้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหว ภุเขาไฟระเบิด แล้งกันสุดๆ แต่บางทึ่ฝนตกหนัก ทอร์นาโด
    คลื่นชิมิ และนิวซีแลนด์ไหวได้ไง ปีละ 17,000 ครั้ง
    แต่ไม่นาน เรื่องแปลกๆ นี้ จะเกิดขึ้นในเมืองไทย ภูเก็ต ตรัง ที่ไม่เคยไหว ก็รู้สึกหวยๆ กันแล้ว เมืองกาญจน์อยู่ในแนวเลื่อนก็เตือนกันแล้ว แต่ไทยนี้น้ำก็มากๆ ครับติดตามกันตอนต่อไป
     
  2. Hmala

    Hmala สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +6
    อย่าลืมน้ำภาคใต้ เคยเตือนคนที่น้ำท่วมเมืองคอนปลายมีนา 54
    คนหลายคน อายุมากๆ เกือบ 60 ปี นั่งกระดิกเท้า
    บอกว่า เดือนสี่ เดือนห้า (เดือนมีนา -เมษา ) หน้าแล้งสงกรานต์ น้ำไม่ท่วม
    ก็บอกไปว่า น้ำเหนือท่วมบ้านผมไปกว่าครี่งเมตรแล้วเลยเตือนให้เตรียมอพยพ
    ไม่เกิน 12 ชั่วโมงน้ำจะมาที่บ้านเค้าแล้ว
    กูเกิดมาไม่เคยเจอน้ำท่วมหน้าแล้ง เลยไม่ขนย้ายทรัพย์สิน
    ขณะที่ผมเอารถมาจอดรอหน้าบ้าน บอกว่า ขนสิ่งของในบ้านทั้งหมดขึ้นรถไปไว้ที่สูงไวๆ
    กูไม่เชื่อ ไม่ต้องมาสอนกูหรอก น้ำไม่ท่วมถึงบ้านกู กูไม่ขนย้าย
    ต่อมาไม่นาน และแล้ว 8 ชั่วโมงต่อมา น้ำก็เพิ่มระดับจนจมหลังคาบ้านสูง 4 เมตร
    ประมาท คับ คนทัย แก่แล้วก็รู้มาก จำกันที่บรรพบุรุษเล่าต่อๆ กันมาไม่เคยฟัง
    แต่ตอนนี้ เมืองไทยเจอแค่นิดเดียว แต่เมืองอื่นโครตดุ ฟ้าผ่า หิมะตกหน้าแล้ง
    น้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหว ภุเขาไฟระเบิด แล้งกันสุดๆ แต่บางทึ่ฝนตกหนัก ทอร์นาโด
    คลื่นชิมิ และนิวซีแลนด์ไหวได้ไง ปีละ 17,000 ครั้ง
    แต่ไม่นาน เรื่องแปลกๆ นี้ จะเกิดขึ้นในเมืองไทย ภูเก็ต ตรัง ที่ไม่เคยไหว ก็รู้สึกหวยๆ กันแล้ว เมืองกาญจน์อยู่ในแนวเลื่อนก็เตือนกันแล้ว แต่ไทยนี้น้ำก็มากๆ ครับติดตามกันตอนต่อไป
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ด่วน! เขมรเคลื่อน บีเอ็ม 21 ประชิดชายแดนพระวิหารเพิ่ม ไทยลั่น พร้อมโต้กลับทันที
    18 ก.ค. 54 ผู้สื่อข่าว Mthai News ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงว่า ขณะนี้ ทางทหารฝ่ายกัมพูชาได้มีการเคลื่อนยุทโธปกรณ์คือรถบรรทุกปืนยิงจรวดชนิด 40 ลำกล้อง หรือ BM 21 จำนวน 5 คันขึ้นมาเตรียมการรอคำสั่งปฏิบัติการ ใกล้เขาพระวิหาร ฝั่งตรงกันข้ามกับศรีสะเกษ
    อย่างไรก็ตาม ทางการไทยยังไม่สามารถตรวจจับพิกัดที่ตั้งของรถ BM 21 ได้ชัดเจน แต่เชื่อว่า อยู่ในวิถีปืนใหญ่ของไทย ซึ่งหากมีการเปิดฉากยิงเข้าใส่ฝ่ายไทยก่อน ทางกองบังคับการทหารปืนใหญ่ ก็พร้อมจะจับพิกัด และยิงตอบโต้ได้ในทันที
    ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบรรยากาศบริเวณแนวชายแดนของไทย และกัมพูชาก่อนที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก จะมีคำตัดสินกรณีกัมพูชาร้องขอให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหารในวันนี้
    ขณะเดียวกันทหารไทย ก็ได้ระดมกำลังและตรึงอาวุธ บริเวณฐานที่มั่นปราสาทตาควาย -ปราสาทตาเมือนธม เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ภายหลังทหารกัมพูชา ได้เข้ามาตั้งฐาน สร้างหลุมบังเกอร์ ห่างจากตัวปราสาททั้ง 2 เพียง 70 เมตร
    โดย พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เผยว่า จากกระแสข่าวที่ทหารกัมพูชามีการเสริมกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตามแนวชายแดนนั้น ตนขอยอมรับว่าทางกัมพูชาได้ดำเนินการขึ้นต้นจริงซึ่งตนไม่คิดว่าเป็นการเสริมกำลัง น่าจะเป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังพลของฝั่งกัมพูชาเท่านั้น เพราะเรื่องนี้ตนก็ได้สั่งเฝ้าติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ตามแนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง



    [​IMG] ทหารไทย

    ชี้ ตรึงกำลังก่อน รอคำสั่งรัฐบาล หากถูกโจมตีก็พร้อมตอบโต้รักษาดินแดนไทย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า หากศาลโลกมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวปราสาทเขาพระวิหาร กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทหารไทยจะยังคงต้องรักษาอธิปไตย รักษาพื้นที่ต่อไปเพราะถือเป็นความรับผิดชอบ แม้จะยังไม่มีความชัดเจนหรือมีการปักปันเขตแดนที่แน่ชัดเพราะได้เข้าไปดูแลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
    ทั้งนี้ หากศาลโลกมีคำตัดสินคุ้มครองชั่วคราวปราสาทเขาพระวิหาร และเป็นเหตุให้ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีฝ่ายไทยนั้นทางกองทัพภาคที่ 2 ก็พร้อมที่จะตอบโต้กลับไปอย่างเต็มที่เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ มั่นใจว่า กำลังที่มีอยู่ในพื้นที่ขณะนี้เพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบด้วยอาวุธที่ทันสมัย
    ล่าสุด พลโท ธวัชชัย สมุทรสาคร เปิดเผยหลังศาลโลกออกคำสั่งให้ทหารไทยและเขมรถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทว่า รับได้ แต่ฝ่ายไทยจะยังคงตรึงกำลังทหารต่อไป โดยจะรอดูคำสั่งจากรัฐบาลไทยอีกที
    Mthai News



    [​IMG] ปราสาทพระวิหาร

    มติศาลโลก9ต่อ5สั่ง2ฝ่ายถอนกำลังรอบพื้นที่พระวิหาร ตั้งเขตปลอดทหาร4จุด
    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลกรุงเฮกของสหประชาชาติ หรือศาลโลก ออกนั่งบัลลังค์พิจารณา กรณีข้อพิพาท 4.6 กิโลเมตร พื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร ตามที่ประเทศกัมพูชาร้องขอ ระหว่างพื้นที่ทับซ้อนไทยและกั<WBR>มพูชา กว่า 30 นาทีนั้น ล่าสุดศาลมีมติ 9 ต่อ 5 เสียงมีคำสั่งพิพากษาให้<WBR>ไทยและกัมพู<WBR>ชาถอนทหารออกจากเขาพระวิหารทั้<WBR>งสองฝ่าย จากพื้นที่ขัดแย้งรอบเขาพระวิ<WBR>หาร บริเวณพรมแดนไทยและกัมพูชา</WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    ทั้งนี้ ผู้พิพากษาฮิชาชิ โอวาดะ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายควรจะถอนทหาร วางเขตปลอดทหาร และระงับการประจำการทหารในเขตดั<WBR>งกล่าว </WBR>
    จากพื้นที่ A B C D ตามภาพด้านล่าง โดยครอบคลุมตัวปราสาทพระวิหาร ภูมะเขือ รวมถึงถนนที่กัมพูชาสร้างขึ้น และมีมติ 15 ต่อ 1 ห้ามไทยขัดขวางการส่งกำลังบำรุ<WBR>งของกัมพูชารวมทั้งการเข้าไปพั<WBR>ฒนาพื้นที่ของกัมพูชา </WBR></WBR>
    นอกจากนี้ศาลโลกยังเรียกร้องให้<WBR>ฝ่ายไทยและกัมพูชาเปิดโต๊<WBR>ะเจรจาขจัดขัดแย้งระหว่างกัน นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้ไทยและกัมพู<WBR>ชายอมให้เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์<WBR>จากอาเซียนเข้าไปสังเกตการณ์พื้<WBR>นที่ขัดแย้งดังกล่าวด้วย</WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    …………………………………………………………………………

    [​IMG]
    Photo/ RT: @jomquan
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวการเสียชีวิตของจัสติน บาเน็ก สาวน้อยยวัย 16 ปี จากเมือง ซอลท์ เลคซิตี้ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา หลังจากนั่งรถไปกับพ่อของเธอซึ่งเป็นคนขับรถ บนถนนทางหลวงรัฐยูทาห์ แต่ฝนตกหนักทำให้ถนนพังกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 40 ฟุต (12 ม.) ลึก 30 ฟุต (9 ม.) รถเกิดตกลงไป ซึ่งไมเคิล บาร์เน็ก พ่อของเธอได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
    นอกจากนี้ ในที่เดียวกัน ยังเกิดเหตุ รถยนต์อีกคันตกลงไปด้วย คนขับคือ เฮเลน พอลสันวัย 37 ปี ได้รับบาดเจ็บ
    อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ฝนตกหนักและมีพายุเข้า จนทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดดังกล่าว



    [​IMG]
    รายงานพบหญิง มีหัวนมโผล่ที่ฝ่าเท้า รายแรกของโลก
    Mthai news: สำนักข่าวเดอะซันของอังกฤษรายงานว่า หญิงวัย22ปี ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งพบความผิดปกติในร่างกายคือ มีปุ่มคล้ายหัวนมที่ปลายเท้าด้านซ้าย โดยเธอต้องเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา
    จากรายงานระบุว่า กรณีหัวนมขึ้นบนฝ่าเท้านั้น เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มว่ามีการพบหัวนมขึ้นที่บริเวณรอบเอวด้วย ในนิตยสารทางการแพทย์ออนไลน์เดอร์มาโทโลจี ระบุด้วยว่า เธอไม่อาจทนสภาพได้ ต้องพึ่งการแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาหัวนม ที่ดันไปขึ้นบริเวณฝ่าเท้าด้านซ้ายของเธอ แถมยังมีขนขึ้นให้เห็นด้วย
    [​IMG]
    อย่างเช่น ลิลลี่ แอลเลน นักร้องป็อบสตาร์ชื่อดัง ก็พบว่ามีหัวนมจุดที่สามขึ้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไขมันอาจจะเป็นสาเหตุของโรคประหลาดนี้ แต่ทางการแพทย์จุลพยาธิวิทยา กำลังศึกษาสาเหตุที่แท้จริง และหาวิธีการรักษาภาวะผิดปกติกรณีดังกล่าว ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะ pseudomamma
    [​IMG]
    ลิลลี่ แอลเลน โชว์หัวนมจุดที่สามบนหน้าอกด้านซ้าย
    ในรายงานอ้างคำกล่าวของคนไข้ว่า ภาวะผิดปกติมีมาตั้งแต่กำเนิดและไม่เคยมีรายงานการเจ็บปวดในบริเวณดังกล่าว และมันยังคงสภาพไม่เปลี่ยนรูปไปเป็นแบบอื่น และที่สำคัญไม่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นเหมือนพวกเธอ
    Mthai news


    [​IMG]
    Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บริษัท เทอราฟูเกีย ของอังกฤษได้นำ ต้นแบบรถบินได้ ออกมาอวดโฉมหลังผ่านการประเมินจากรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา คาดว่า จะผลิตออกมาให้คนทั่วไปได้ใช้ในอีก 5 ปี ข้างหน้า
    โดย รถต้นแบบคันนี้มีราคาราว 250,000 ดอลลาร์ มี 2 ที่นั่ง ซึ่งมันสามารถนำจอดในโรงรถได้พอดี ความเร็วเฉลี่ยของรถอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากต้องการนำรถขึ้นบิน ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยอาจต้องใช้เวลาในการฝึกการบินราว 20 ช.ม.
    ทั้งนี้ หากต้องการบิน จะต้องขับรถแล่นไปเป็นทางยาว เหมือนกับการขึ้นของเครื่องบิน จากนั้นใช้เวลาราว 15 วินาทีในการกางปีกออก
    อย่างไรก็ตาม รถบินได้คันนี้ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งขณะนี้มีชาวอังกฤษสนใจเป็นเจ้าของแล้ว 20 คน และ เชอรรี่ กรอบเสตียร์ วิศวกรชาวอเมริกันได้จ่ายเงินมัดจำ 10,0000 ดอลลาร์เพื่อจองรถบินได้ดังกล่าวแล้ว
    Mthai News





     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ฝากประชาสัมพันธ์ พระอาจารย์รัตน์ ท่านมีอบรม เสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ 23-24 กรกฎาคม ตามรายละเอียดด้านบน :cool:
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไต้หวันเพิ่มเขี้ยวเล็บทัพเรือ ป้องปรามภัยคุมคามจากจีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>8 เมษายน 2554 07:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน เป็นประธานในพิธีเปิดกองเรือรบติดขีปนาวุธ เมื่อวันพฤหัส(7 เม.ย.) (ภาพเอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน เป็นประธานในพิธีการเข้าประจำการของฝูงเรือรบติดตั้งขีปนาวุธ เมื่อวันพฤหัส(7 เม.ย.) พร้อมให้คำมั่นขยายกองทัพ เพื่อป้องปรามคุกคามทางทหารจากจีน

    โดยฝูงเรือดังกล่าวเป็นเรือติดตั้งขีปนาวุธผลิตในไต้หวัน จำนวน 10 ลำ ประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือในเมืองซูเอ้า เขตอี๋หลาน ไต้หวัน

    หม่า เผยว่า “นับตั้งแต่ ผมรับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน เมื่อปี 2551 ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ก็ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผมยังยืนกรานว่า ไต้หวันต้องมีระบบป้องปรามภัยคุกคามทางทหารจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่”

    แม้ว่า จีนกับไต้หวันจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากไต้หวันเคลื่อนไหวเอกราช จีนยืนยันที่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดครองดินแดนทันที

    หม่า เผย “เมื่อพิจารณาจากขนาดเศรษฐกิจที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ไต้หวันอาจไม่คิดแข่งขันด้านปริมาณอาวุธกับจีน แต่ไต้หวันยังสามารถสร้างกองกำลังป้องกันประเทศที่เข้มแข็งได้ ด้วยการใช้วิถีทางของสงครามอสมมาตร(asymmetric warfare) ซึ่งฝ่ายที่อ่อนแอกว่า จะใช้ยุทธวิธีการรบที่มีประสิทธิภาพ ทดแทนข้อด้อยด้านกำลัง”

    นอกจากนี้กองทัพเรือไต้หวันกำลังสร้างเรือติดขีปนาวุธอีก 10 ลำ โดยจะมีการส่งมอบก่อนสิ้นปีนี้(2554) ซึ่งจะทำให้นาวีไต้หวันมีฝูงเรือรบติดขีปนาวุธ เพิ่มเป็น 30 ลำ

    ทั้งนี้ เรือรบดังกล่าว มีระวาง 171 ตัน ติดตั้ง ขีปนาวุธนำวิถี รุ่นสงเฟิง2 พัฒนาโดยไต้หวัน จำนวน 4 ลูก และจะประจำการแทนเรือรบติดขีปนาวุธชั้นซีกัล รุ่นเก่า ซึ่งมีระวาง 50 ตัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานธิบดีไต้หวัน (คนที่สาม จากขวา) เดินทางมาถึงฐานทัพเรือ ณ เมืองซูเอ้า เขตอี๋หลาน (ภาพเอเอฟพี) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทหารเรือกำลังทำความเคารพ ระหว่างพิธีการส่งเรือรบเข้าประจำการที่ฐานทัพเรือไต้หวัน ณ เมืองซูเอ้า เขตอี๋หลาน(ภาพเอเอฟพี) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หม่าอิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน (แถวหน้า คนที่สามจากซ้าย) เข้าร่วมถ่ายภาพกับผู้บัญชาการกองทัพเรือไต้หวัน และนายทหารระดับสูง(ภาพเอเอฟพี) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD class=hit height=19 align=left>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD height=19 width=21 align=middle>[​IMG]</TD><TD height=19 align=left>รมต. ต่างประเทศจีนลั่น ต่อต้านมะกันขายอาวุธให้ไต้หวันอีก</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD height=19 width=21 align=middle>[​IMG]</TD><TD height=19 align=left>สหรัฐฯส่งมอบเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำให้ไต้หวันปีหน้า </TD></TR><TR vAlign=baseline><TD height=19 width=21 align=middle>[​IMG]</TD><TD height=19 align=left>ไต้หวันลั่นไม่จับมือจีน ฉลองครบรอบ 100 ปี “ยุคจีนสมัยใหม่” </TD></TR><TR vAlign=baseline><TD height=19 width=21 align=middle>[​IMG]</TD><TD height=19 align=left>ไต้หวัน “เดินหน้าซื้ออาวุธ” ชี้ความมั่นคงไม่ได้ขึ้นกับจีนฝ่ายเดียว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://mgr.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000043940</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไต้หวันนำคณะนักวิชาการเยี่ยมชมเกาะข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

    [​IMG]

    ไทเป 18 ก.ค. - กองทัพเรือไต้หวันเสร็จสิ้นการนำคณะนักวิชาการเยี่ยมชมเกาะที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ แม้ในบริเวณนี้เกิดความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้งเพราะการอ้างกรรมสิทธิ์

    คณะผู้แทนจำนวน 14 คน จากมหาวิทยาลัยเนชั่นแนล ไต้หวัน โอเชียน เสร็จสิ้นการเยือนเป็นเวลา 7 วัน ที่เกาะไท้ผิง ซึ่งเป็นเกาะแห่งใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่ไต้หวันคุมอยู่ ไต้หวันอ้างว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยให้เยาวชนมีความเข้าใจดีขึ้นต่อระบบนิเวศของเกาะดังกล่าว และเป็นการแสดงความพยายามของหน่วยยามฝั่งและกองทัพเรือที่จะปกป้องดินแดนของไต้หวัน

    หลังการเยือนเสร็จสิ้นลง คณะนักวิชาการซึ่งนำโดยผู้อำนวยการของสถาบันกฎหมายทางทะเล และผู้เชี่ยวชาญในประเด็นเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ ได้เข้าพบประธานาธิบดีหม่า อิง จิ่ว ผู้นำไต้หวัน โดยทันที

    ไต้หวันย้ำการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ และ 3 เกาะในทะเลจีนใต้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่ประเทศอื่น ๆ ก็อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงเมื่อเดือนก่อนว่า กำลังพิจารณาส่งเรือติดขีปนาวุธไปยังน่านน้ำดังกล่าว และจะประจำการรถถังบนเกาะที่เป็นกรณีพิพาท ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่ตึงเครียดขึ้น. - สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 18 ก.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จะเกิดสงครามย่อย ๖ แห่งแล้วจึงจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๓ !!!

    [​IMG]

    คำเตือนจากสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคาร ผ่านศ.ดร. นพ. เทพนม เมืองแมน บันทึกจากงานมหกรรม ยู เอฟ โอ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ (๑๑/๑๑/๐๗) สรุปได้ดังนี้ว่า เกิดภัยพิบัติในโลกแน่นอน

    ๑) ระวังเขื่อนแตก มนุษย์ต่างดาวบอก (ดูเขื่อนศรีนครินทร์ ถ้าแตก ในเมืองมีเวลาหนี ๑/๒ ชม. น้ำจะสูงเท่าภูเขา)

    ๒) ให้เก็บของมีค่า เงิน ยาประจำตัว อาวุธขนาดเล็กไว้ป้องกันตัวไว้ในรถยนต์ รถเติมน้ำมันไว้เสมอ หรือเอาไปติด แอล พี จี อย่าติด เอ็น จี วี จะไปได้ไม่เกินนครสวรรค์

    ๓) ตอนนี้ขั้วแม่เหล็กโลกวัดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหล่นจาก ๓๕ เป็น ๕ เก๋าจน์แล้ว ถ้าลดลงอีกจะเกิดแผ่นดินไหวได้

    ๔) มนุษย์ต่างดาวบอกว่า จะเกิดเหตุการณ์ลำดับตามนี้ ...แผ่นดินไหว น้ำท่วมใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ ๓ ... แล้วอุกกาบาตวิ่งชน ตายหมดแบบไดโนเสาร์ เหตุการณ์หลังนี้ รุ่น ดร.เทพนมไม่ต้องห่วงเพราะคงตายไปแล้ว เขาบอก

    ๕) ถามมนุษย์ต่างดาวเรื่อง ครอปเซอร์เคิ้ลหน้าทำเนียบขาวที่มี ๖ หย่อม เขาบอกว่าเป็นสัญญานว่าสงครามโลกครั้งที่ ๓ เกิดแน่ เร็วๆนี้ แต่ต้องเกิดภัยพิบัติก่อน จะเกิดสงครามย่อย ๖ แห่งจึงจะเป็นสงครามโลกดังนี้ คือ อิสราเอล(กับอิหร่าน)ในตะวันออกกลาง (จะยุ่งเมื่อจีนเข้าแทรกแซง) ปากีสถานกับอินเดีย จีนกับไต้หวัน เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ ท้ายที่สุดคืออินโดนีเซีย

    คำเตือนจากกลุ่มผู้ติดต่อมนุษย์ต่างดาว จากสหพันธ์ดวงดาวในประเทศไทยกลุ่มเขากะลา จากโน๊ตย่อบันทึกการสนทนาที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ระหว่างคุณสุดใจ ชื่นสำนวน สมาชิกกลุ่มเขากะลา และศ.ดร. นพ. เทพนม เมืองแมน ๓๐ ม.ค. ๒๕๕๓ เวลา ๑๖.๐๐ น.ข้อมูล สื่อสารโทรจิตจากระบบ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CIMG36981.jpg
      CIMG36981.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.3 KB
      เปิดดู:
      143
    • X6873637-5.jpg
      X6873637-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.1 KB
      เปิดดู:
      2,671
    • 630.jpg
      630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.2 KB
      เปิดดู:
      160
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2011
  9. กัลกยาวตาร

    กัลกยาวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +64
    ภัยพิบัติ???.... ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยภาพครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7537 ข่าวสดรายวัน


    หวั่นรังสี-แบนเนื้อฟูกูชิมะ



    บีบีซีรายงานเมื่อ 18 ก.ค. ว่า ทางการญี่ปุ่นเตรียมการสั่งห้ามจำหน่ายเนื้อวัวแช่แข็งที่มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่จังหวัดฟูกูชิมะแล้ว หลังจากเกิดกระแสตื่นกลัวเนื้อวัวปนเปื้อนรังสีไปทั่วประเทศ และพบเนื้อวัวที่ปนเปื้อนวางขายใน ซูเปอร์มาร์เก็ต ด้านนายโคเฮ โอสึกะ รมช. สาธารณสุขญี่ปุ่น กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ขายเนื้อดังกล่าว

    ท่าใหม่

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สงสัยการทำท่าแพลงกิ้งถ่ายรูป จะล้าสมัยเสียแล้ว

    เพราะตอนนี้ท่าเลียนแบบนกฮูกที่เรียกว่า โอว์ลิ่ง กำลังมาแรงแซงโค้ง

    นักเล่นเน็ตทั้งในสหรัฐ ออสเตรเลีย และอังกฤษ ต่างฮิตแอ๊กท่าดังกล่าวกันเอิกเกริก

    บางรายถึงขั้นปีนไปโอว์ลิ่งบนหัวรูปปั้น

    ยังไงก็ระวังตกลงมาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าฮูกไม่เตือน กรู้ๆๆ


    สัมผัสธรรมชาติกับ'โดมโปร่งใส' ทนไฟ-เคลื่อนย้ายสะดวก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ความฝันที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ใกล้ชิดอย่างปลอดภัยใกล้จะเป็นจริงแล้ว หลังปิแอร์ สเตฟาน ดูมาส ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสสร้างกระท่อมโปร่งใสที่สามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้ โดยไอเดียในการสร้างนี้มาจากความต้องการที่จะสร้างที่พักชั่วคราว ที่ให้คนสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด โดยส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมรอบข้างน้อยที่สุด โดยกระท่อมโปร่งใสนี้มีหลายรูปทรง ประกอบด้วย บับเบิ้ล ทรี (BubbleTree), คริสตัลบับเบิ้ล (CristalBubble), บับเบิ้ล ลอดจ์ (BubbleLodge) และบับเบิ้ลรูม BubbleRoom เพื่อผู้ซื้อจะได้เลือกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการ

    นายดูมาส กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ออกแบบที่พักทรงแปลกเหล่านี้ขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ ซึ่งทำให้เราสามารถนอนเอกเขนกดูดาวได้อย่างสบายๆ บนเตียงของเราเอง ยิ่งไปกว่านั้น ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของโดมลูกโป่งนี้ยังช่วยสร้างสุนทรียภาพทางเสียงอีกด้วย เนื่องจากเสียงจากด้านนอกจะไม่เข้ามารบกวนภายในโดม ทำให้ สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบนอก หรือแม้แต่งีบหลับได้อย่างเต็มที่

    โดมลูกโป่งนี้สามารถติดตั้งได้ง่าย และยังมีระบบหมุนเวียนอากาศภายใน ซึ่งจะมีเครื่องเป่าลมที่จะช่วยสร้างแรงดันอากาศบางๆ ไปปะทะกับกำแพงโดม ทำให้โดมคงตัวเป็นทรงกลมอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันปัญหาความชื้น และสร้างอากาศบริสุทธิ์หมุนเวียนภายในโดมอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

    กระท่อมลูกโป่งทุกแบบจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร ผลิตจากพลาสติกที่สามารถป้องกันไฟและรังสีอัลตราไวโอเลตได้ ซึ่งแต่ละกระท่อมจะมาพร้อมกับพื้นไม้ เครื่องเป่าลมขนาดพกพา ถุงคลุมและกระเป๋า โดยคริสตัลบับเบิ้ลและบับเบิ้ลรูมจะมีลักษณะพิเศษ คือสามารถนำเตียงขนาดคิงไซซ์ใส่เข้าไปในกระท่อมได้ พร้อมกับมีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระส่วนตัวอีกด้วย

    สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้แล้วทางเว็บไซต์ของบับเบิ้ลทรี แต่สนนราคานั้นก็ถือว่าสูงไม่น้อย โดยราคาของคริสตัลบับเบิ้ลเริ่มต้นที่ 7,766 ยูโร หรือประมาณ 335,000 บาทไทย

    แล้งจัดประปาภูเขาแห้งขอด



    พิษณุโลก - นายสมนึก รุ่งรัตน์ สมาชิก อบต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านแก่งคันนา หมู่ 7 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จำนวน 150 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีน้ำประปาภูเขาใช้ แม้กรมชลประทานจัดสรรงบประมาณก่อสร้างแท็งก์กักเก็บน้ำขนาด 8 คูณ 10 เมตร สูง 3 เมตรเพื่ออุปโภคและการเกษตรจนเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สามารถเก็บน้ำจากสันเขาก่อนไหลลงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนไว้ในฤดูแล้งได้แล้วตลอดทั้งปีཱ แต่ปรากฏว่าในปีนี้น้ำจากภูเขาไม่สามารถส่งเข้าแท็งก์กักเก็บได้

    นายสมนึก กล่าวว่า จากการตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเกิดจากความแรงของน้ำไม่สามารถดึงขึ้นมายังแท็งก์ปลายทางใน 3 แท็งก์สุดท้าย หรืออาจจะเกิดรอยรั่ว ส่งผลให้น้ำไม่มีแรงดัน แต่จากการสอบถามทราบว่า เมื่อปีที่ผ่านมาน้ำจากภูเขาไหลเข้าเต็มทั้ง 9 แท็งก์ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการทำเรื่องถึงสภา อบต.คันโช้ง เพื่อให้นายก อบต.คันโช้ง ส่งผ่านไปถึงชลประทานจังหวัดพิษณุโลกเพื่อแก้ไข แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ส่วนผลกระทบทำให้ชาวบ้านจำนวน 140-150 หลังคาเรือนต้องรองน้ำฝนไว้ใช้ ส่วนน้ำประปาภูเขาที่ทาง อบต.คันโช้ง ก่อสร้างเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็ไม่พอใช้ ต้องสลับกันใช้คนละซอย ขอฝากถึงหน่วยงานชลประทานช่วยมาดูแลแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญระบบน้ำก็พอแก้ไขได้ เสียดายฝนที่ตกชุกช่วงนี้ แต่ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ในฤดูแล้งหน้าได้เลย

    ดับร้อน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ชายสูงวัยและสุนัขดื่มน้ำร่วมกันจากน้ำพุสาธารณะ ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวของวันแดดจ้าฟ้าใส ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก หลังอุณหภูมิในตอนกลางวันพุ่งแตะ 28 องศา เซลเซียส เมื่อ 12 ก.ค.











    ต้นโพธิ์ 200 ปี คู่เมืองโคราชล้มทับรถ 8 คัน เหตุลมแรง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    วันที่ 19ก.ค. ที่ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สำนักการช่างจากเทศบาลนครนครราชสีมาเร่งนำเลื้อยยนต์และรถเครน ช่วยกันตัดกิ่งต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 5 คนโอบ อายุกว่า 200 ปี ซึ่งล้มทับรถยนต์ของประชาชนที่มาทำบุญและมาจอดไว้ใต้ต้นจนได้รับความเสียหายหลายคัน หลังจากเกิดลมกรรโชกแรงส่งผลให้ต้นโพธิ์ในวัดพระนายรายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต้านทานแรงลมไม่ไหวลำต้นฉีกแยกออกจากกันตั้งแต่โคนต้นแล้วล้มทับรถยนต์และรถตู้รับส่งนักเรียนที่จอดอยู่ในวัด ได้รับความเสียหายทั้งหมด 8 คัน ประกอบด้วยรถยนต์เก๋งจำนวน 3 คัน รถกระบะจำนวน 2 คัน และรถตู้รับส่งนักเรียน จำนวน 3 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนมูลค่าความเสียหายจากการประเมินของช่างซ่อมรถระบุว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 5 แสนบาท

    พระครูเกษม กิจจาทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ต้นโพธิ์ดังกล่าวมีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นต้นโพธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครราชสีมา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางวัดไม่มีส่วนที่จะต้องมารับผิดชอบแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นภัยธรรมชาติส่วนสาเหตุที่ทางวัดต้องเก็บค่าจอดรถคันละ 10 บาทต่อวัน นั้นเพื่อเป็นการนำเงินมาทะนุบำรุงวัด ส่วนสาเหตุที่ต้นโพธิ์ใหญ่หักลม เชื่อว่าเป็นสาเหตุมาจากในช่วงสายของวันนี้มีลมกรรโชกแรงและทำให้ต้นโพธิ์ต้านทานแรงลมไม่ไหวประกอบกับมีอายุมากจึงฉีกแยกออกจากกันและล้มทับรถยนต์ประชาชน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2011
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระนารายณ์ปางที่ 10 คือพระศรีอาริยะเมตไตรยโพธิสัตว์

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ภราดรภาพ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1966618", true); </SCRIPT> สมาชิก

    “พระกัลกี” (บุรุษขี่ม้าขาว) ปราบคนชั่วและสถาปนาธรรมขึ้นในโลกใหม่ ความเดิมย่อมีอยู่ว่า…

    “พระนารายณ์จะอวตารในโลกนี้ก่อนจะสิ้นสุดของกลียุค สภาพของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส ศีลธรรมตกต่ำจนถึงขีดสุด มีแต่ความวุ่นวายสับสน ความมืดมน และความหลงผิดในความชั่ว ประชากรมนุษย์จะเพิ่มขึ้นอย่างไม่สามารถจำกัดและจัดการได้ ความอดอยาก ยากจน และความไม่เทียมทางสังคมจะเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า มีการก่ออาชญากรรมและเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน พิธีกรรมกราบไหว้จะมีอำนาจต่อสังคมอย่างงมงายและรุนแรงมากขึ้น เมื่อนั้น “กาลกี” จะขี่ม้าขาวมาพร้อมกับดาบที่ถืออยู่ในมือไว้ เพื่อขจัดและชำระล้างสิ่งเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป ตราบเท่าจนกว่าจะเริ่มต้นสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง”
    ปางที่ 10 ปางนี้ก็คือ พระศรีอาริยะเมตไตรย (ตามคติพราหมณ์)<!-- google_ad_section_end -->


    [​IMG]

    นารายณ์อวตารปางที่ 10 กัลกยาวตาร อวตารครั้งสุดท้าย

    บังเอิญได้ดูหนัง VCD อินเดียเรื่อง นารายณ์ 10 ปาง เป็นหนังที่เก่ามากและย่อความรวบรัดเนื่องจากต้องเล่าถึง 10 ปาง ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 9 ปางแรก ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ปางที่ชาวไทยเราน่าจะรู้จักกันดี ก็ได้แก่ อวตารปางที่ 7 เป็นพระรามในรามเกียรติ์ ส่วนปางที่ 10 กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ​

    ผมสนใจนารายณ์ปางสุดท้ายนี้เป็นพิเศษ...เพราะเป็นปางที่ยังมาไม่ถึง และมีการ ทำนาย อนาคต !

    ในหนังปางสุดท้ายเป็นฉากการสนทนาระหว่าง...พระนารัท(เทพใกล้ชิดพระนารายณ์) ถามพระนารายณ์ว่า ที่ผ่านมาก็อวตารมาถึง 9 ครั้งแล้ว ถัดจากนี้จะยังมีการอวตารอีกไหมพระนารายณ์ ก็ตอบว่า มีอีก และจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วพระนารายณ์ก็บรรยายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบของการร่ายเพลงยาวตามแบบฉบับของหนังอินเดีย มีเนื้อหาดังนี้...

    "ความจริงกลายเป็นเรื่องโกหก
    ความยุติธรรมจะล่มสลาย

    โลกจะสั่นสะเทือน
    ความไม่ยุติธรรมจะครองเมือง
    เด็กหนุ่มสาวจะหายสาปสูญ
    ผู้คนจะหิวโหย
    จะมีแต่ความยากจนและขาดแคลน
    โลกจะกลายเป็นเหมือนนรก
    นี้คือสัญญาณของการทำลายครั้งสุดท้าย
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กาลกี...
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10
    ในทุกอย่างมีการโกง
    เหตุการณ์ที่กล่าวมาจะเกิดขึ้น
    และเพราะเหตุนี้ เด็กๆ
    จะถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บ
    แต่ยาที่ได้รับก็ไม่ถูกต้องกับอาการ
    และคนที่ทำการค้าและธุรกิจต่างๆ
    จะได้รับผลประโยชน์จากการโกงเหล่านี้
    การบูชาต่างๆ
    ที่สวยงามด้วยดอกไม้และสิ่งต่างๆ
    การบูชาที่ถูกต้อง
    การบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประเสริฐ
    จะกลายเป็นการบูชาผี
    จะกลายเป็นการบูชาต่อเหล่าภูติผีปีศาจ
    เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่วัฒนธรรมใหม่
    เป็นสัญลักษณ์ของกลียุค
    หรือยุคแห่งความมืดมน
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กาลกี...
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10
    คนโกหกขี้โกงจะได้รับความสนุกสนาน
    คนรวยจะได้รับความเพลิดเพลิน
    ส่วนคนดีคนจนและนักบวช โศกเศร้าเสียใจ
    ดาวเคราะห์ทั้งหลายจะรับความหนักไม่ได้
    และเกิดภัยธรรมชาติ
    ส่วนภูติผีปีศาจทั้งหลายจะเต้นด้วยความดีใจ
    ภูเขาโลกทั้งหลายจะเกิดแผ่นดินไหว
    ปีศาจออกมาเต้น
    ไฟแห่งความโกรธจะบดขยี้โลกเป็นเสี่ยงๆ
    พายุฝนจะทำลายป่าและทะเลจะท่วมเมือง
    และจะกลืนโลก
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กาลกี...
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10"
    -----------------------------------------------------------------------

    หนังจบลงแค่นี้ พระนารายณ์ไม่ได้บอกรายละเอียดต่อว่า เมื่ออวตารเป็น อัศวินม้าขาวนามว่า กาลกี แล้วจะมาจัดการกับวิกฤติโลกที่ว่าอย่างไร​

    Posted by Mad , 15:26:46 น. วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน 2551

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/mad/2008/09/12/entry-1<!-- google_ad_section_end -->​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • krishna-arjun.jpg
      krishna-arjun.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.7 KB
      เปิดดู:
      2,544
    • Kalki Avatar.jpg
      Kalki Avatar.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      172
    • 1200645198.jpg
      1200645198.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.1 KB
      เปิดดู:
      2,776
    • PDVD_003.jpg
      PDVD_003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25 KB
      เปิดดู:
      134
    • PDVD_012.jpg
      PDVD_012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.5 KB
      เปิดดู:
      130
    • rama.jpg
      rama.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2011
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "กาลกี" คือพระศรีอาริยะเมตไตรย ?

    [​IMG]


    เมื่อในหนังไม่ได้บอกรายละเอียดว่า"กาลกี" จะมาจัดการกับวิกฤติโลกอย่างไร ผมก็ขออนุญาตจับแพะชนแกะให้เลยก็แล้วกัน โดยการนำเรื่องตำนานพระญาธัมมิกราชโพธิสัตว์ของชาวล้านนา มาปะติดปะต่อเป็นเรื่องเดียวกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้หายสงสัยไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไปดังนี้ครับ

    ตำนานพระญาธัมมิกราช

    ตำนานพระญาธัมมิกราช ซึ่งอ้างว่า"ได้จากเมืองพุก่ำมาแล" ซึ่งศูนย์ส่งเสริมและศึกษาวัฒนธรรมลานนาไทย วิทยาลัยครูเชียงใหม่ได้ปริวรรตไว้เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ มีใจความกล่าวไว้ ดังนี้

    ในตอนต้นเรื่อง กล่าวถึงความเดือดร้อนประการต่างๆ ที่เกิดมีในบริเวณเมืองเชียงใหม่กับลำพูน แล้วจึงกล่าวถึงพญาตนหนึ่งอยู่ทางฟากตะวันออกของน้ำแม่ระมิงคือน้ำแม่ปิง พญาดังกล่าวมีบุตร ๒ คน แล้วทั้ง ๓ ได้รบกันที่เชิงดอยอุจฉุคือดอยสุเทพ บุตรที่เกิดในปีฉลูได้เป็นพญาแทนพ่อ ต่อมาก็ถูกพญากัปปราชแห่งเมืองใต้ยกขึ้นมารบกวน ถัดจากนั้นพญาซึ่งอยู่ด้านตะวันออกและตะวันตกของน้ำแม่ปิงจะรบกัน หลังจากนั้นท้าวพญาทั้งหลายที่อยู่บริเวณขุนน้ำแม่ปิงจะหาศีลธรรมมิได้ ซึ่งเป็นเหตุให้พญาทาง"ฝ่ายสมุทร" หรือทางใต้ ยกรี้พลขึ้นมาตามลำน้ำแม่ระมิงแล้วรบกันที่เชิงดอยคำ เลือดจะตกในที่นั้นมากจนหนูข้ามไม่ได้

    พญาธัมมิกราชจะปรากฏที่ "นาไร่หลวงแห่งเมืองหริภุญชัย" แล้วพญาธัมมมิกราชหรือพญาธัมม์จะเป็นผู้ห้ามการรบต่างๆ ครั้งนั้นจะเกิดมีปราสาทเกิดที่ผาก้อนใหญ่นอกเมือง พระอินทร์จะมาสรงน้ำและเป่าหอยสังข์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดา ผีเสื้อ(อารักษ์) จะเอาของดีวิเศษต่าง ๆ ไปมอบให้เนื่องในการอภิเษกให้เป็นพญาธัมม์ พระวิษณุกัมม์จะมาเป็นสารถี พระอินทร์จะนำนางแก้วจากอุตตรกุรุทวีปมาให้ รวมทั้งธิดากษัตริย์ต่างๆ ในชมพูทวีปอีก ๑๘,๐๐๐ นาง

    แล้วพญาธัมมิกราชและพระอินทร์จะช่วยกันสร้างเมืองลำพูนให้เป็นมหานคร ให้ชื่อว่า"อินทาปราการ"และสร้างเครื่องประดับถวายพระธาตุหริภุญชัย แล้วขุมทรัพย์ทั้งหลายจะปรากฏขึ้น ซึ่งพญาธัมมิกราชจะได้แจกจ่ายแก่คนทั้งปวง

    ที่มาhttp://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonfleet&month=12-01-2010&group=113&gblog=157
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 531109p5.jpg
      531109p5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.1 KB
      เปิดดู:
      2,271
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2011
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ประเทศไทยตอนบนมีฝนกระจายและตกหนักในบางแห่ง กทม.มีฝน 60% ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 20 กรกฏาคม 2554
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.


    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนกระจายกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย เนื่องจากพายุไต้ฝุ่น”หมาง้อน” อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนองและพังงาอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สหรัฐอเมริการ้อนระอุตายแล้ว13ราย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อวันที่ 20 ก.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า

    คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคกลางของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สภาพอากาศในเขต 17 รัฐร้อนอบอ้าว ผสมกับความชื้นสูงเกือบทำลายสถิติ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 รายทั่วประเทศ จากอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 37.7 องศาเซลเซียสติดต่อกันหลายวัน

    ขณะที่สำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นโอเอเอ) ทำนายว่า อุณหภูมิที่รัฐอิลลินอยส์ และรัฐอินเดียนา อาจสูงถึง 46 องศาเซลเซียสในวันพฤหัสบดี ความร้อนระอุและความชื้นในภาคกลาง จะคงอยู่ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า และอาจจะลามไปสู่ภาคตะวันออกในสัปดาห์นี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG] แบล็คฮอว์ค (รูปจากแฟ้มภาพ ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

    อัพเดต ฮ.แบล็คฮอว์ค ตก ป่าแก่งกระจาน



    ความคืบหน้าล่าสุด
    15.13 : แม่ทัพภาค 1 เรียกประชุมนายทหารระดับสูงหารือแบล็คฮอว์คตก
    พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่1 ได้เรียกประชุมนายทหารระดับสูงเป็นการด่วน เพื่อหารือหลังจากเกิดเหตุเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ค ที่จะเข้าไปลำเลียงศพ 5 นายทหารที่เสียชีวิตจากเฮลิคอปเตอร์ตกก่อนหน้านี้ ไม่สามารถติดต่อได้

    14 .41 : โฆษกกองทัพบกชี้แบล๊กฮอว์กตกเครื่องยังใหม่ คาดเกิดจากอากาศแปรปรวน
    พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กที่ตกซ้ำในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวีดเพชรบุรี ขณะเข้าไปลำเลียงทหารที่เสียชีวิต 5นาย เชื่อว่า อาจเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยขอยืนยันว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กรุ่นนี้เป็นเครื่องใหม่ สาเหตุที่ตกจึงน่าจะมาจากสภาพอากาศมากกว่า

    14.05 น. : กองทัพบก เร่ง ค้นหาแบล็คฮอว์ก
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ขณะนี้ รับรายงานเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-60L แบล็กฮอว์กของกองทัพบก ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจกู้ศพ 5 นายทหารจากป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขาดการติดต่อ 1 ลำ ล่าสุด อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังไม่มีรายงานข้อมูลผู้อยู่บนเครื่องก่อนหน้านี้
    ทั้งนี้มีรายงานจากพื้นที่ว่า ขณะกำลังจากหลายฝ่ายปฏิบัติภารกิจกู้ศพ 5 นายทหารจากป่าแก่งกระจานท่ามกลางสภาวะอากาศแปรปรวนนั้น เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กได้ขาดการติดต่อไปเป็นนานเกือบชั่วโมง
    ขณะที่กำลังบางส่วนอ้างว่า ได้ยินเสียงคล้ายการระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณไม่ไกลจากจุดเดิมที่เฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมามากนัก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกค้นหา
    สำหรับชื่อผู้ที่อยู่บน ฮ.แบล็คฮอว์กลำดังกล่าว ประกอบด้วย
    1.พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน (นักบิน1)
    2.พ.ต.ชูพันธ์ พลวรรณ (นักบิน2)
    3.จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง (ช่างเครื่อง)
    4.ส.อ.อร่าม พงษ์สิงห์
    5.พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 9
    6.ร้อยเอกเจษ สุขใจ
    7.ร้อยเอกจักรพันธ์ บำรุงพืช
    8.สิบตรีอิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์ และ
    9. นายศรวิชัย คงตันนิกูล (ช่างภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5)
    ……………………………………………………………………………………………………………….
    13.00 น. : Mthai News : ฮ.แบบเบล็คฮอร์ค ที่ไปปฏิบัติภารกิจกู้ศพ 5 ทหารในป่าแก่งกระจาน ได้เกิดอุบัติเหตุตกซ้ำอีก หลังจากการติดต่อขาดหายไป
    ทั้งนี้มีผู้โดยสารอยู่ใน ฮ. ลำดังกล่าว 9 คน ประกอบด้วย ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ช่างภาพของ ททบ.5 นักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 2 นาย และนายทหารติดตามอีก 3 นาย ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะตกพบว่าสัญญาณของเครื่องบินได้หายออกไปจากจอเรดาร์
    โดยคาดว่า น่าจะตกลงไปยังบริเวณป่าเขาที่ประเทศพม่า บริเวณใกล้เคียงกับ ฮ.ที่ตกวันที่ 16 ก.ค.
    Mthai News


    [​IMG]
    เว็บไซต์ GlobalFirepower.com จัดอันดับความเข้มแข็งทางการทหารของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปี 2554 โดยคำนวณจาก 45 ปัจจัย ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยไม่นับรวมความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่เลือกเปรียบเทียบด้านต่างๆ เช่น
    - ความพร้อมและความสามารถในการรบเมื่อต้องทำสงครามตามแบบทั้งภาคพื้นดิน ในทะเลและในอากาศ
    - ความสามารถการส่งกำลังบำรุง ปัจจัยทางการเงินในการทำสงคราม
    ตัวเลขเหล่านี้อาศัยข้อมูลจริงและการประเมินตามหลักสถิติ พบว่า กองทัพไทยอยู่อันดับ 19 สูงขึ้นกว่าปีก่อนซึ่งอยู่อันดับ 28 ของโลก และครองอันดับ 8 ของเอเชียโดยเป็นรองจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิหร่าน ไต้หวันและอินโดนีเซีย
    [​IMG]
    เว็บไซด์ดังกล่าว อ้างตัวเลขจากห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน และสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ ระบุว่า
    - ไทยมีงบประมาณกลาโหม 5,200ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - ไทยมีกำลังทหารที่พร้อมรบ 305,860นาย
    - กำลังสำรองที่พร้อมรบ 245,000 นาย
    แยกเป็นรายกองทัพ
    - กองทัพบก
    รถถัง 542 คัน
    ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ 1,005 คัน
    ปืนใหญ่ชนิดลากจูง 741 กระบอก
    ปืนใหญ่อัตตาจร 26 กระบอก
    ระบบจรวดหลายลำกล้อง 60 ชุด
    ปืน ค. 1,200 กระบอก
    อาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง 818 ชุด
    อาวุธต่อสู้อากาศยาน 378 หน่วย
    และยานยนต์ส่งกำลังบำรุง 4,600 คัน
    - กองทัพอากาศ
    เครื่องบินแบบต่าง ๆ 913ลำ
    เฮลิคอปเตอร์ 443ลำ
    เครื่องบินบริการ 105ลำ
    - กองทัพเรือ
    เรือบรรทุกอากาศยาน 1ลำ
    เรือฟริเกต 6ลำ
    เรือยามฝั่งและเรือตรวจการณ์ 109ลำ
    เรือทำสงครามทุ่นระเบิด 7 ลำ
    และเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก 9ลำ
    นอกจากนี้ไทยมีกองเรือพาณิชย์นาวี ประกอบด้วยเรือทั้งสิ้น 382ลำ และท่าเรือสำคัญ 5แห่ง
    ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก MCOT , มติชน
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    กองทัพบก รถถังหุ้มเกราะยูเครน
    [​IMG]
    กองทัพเรือ
    [​IMG]
    กองทัพอากาศ


    [​IMG]
    18 ก.ค. 54 สำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยแพร่คลิปสุดโหดขณะกลุ่มกองกำลังตาลีบัน ได้ทำการประหารหมู่ตำรวจ และทหารปากีสถานที่ถูกจับตัวได้
    โดยเหยื่อที่ถูกปลิดชีพประมาณ 16คนถูกนำมายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดาน ก่อนจะสาดกระสุนเข้าใส่จนล้มลง และเดินไปยิงซ้ำจนเสียชีวิตทั้งหมด
    โดยหัวหน้ามือสังหารของตาลีบัน บอกว่าการประหารชีวิตครั้งนี้เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับเด็กๆ 6 คนที่ถูกสังหารที่เมืองสวัตเมื่อไม่นานมานี้
    [​IMG]
    Mthai News

    <OBJECT id=mthai_player codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=480 height=372>
























    <embed id="mthai_player" width="480" height="372" type="application/x-shockwave-flash" src="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf" allowFullScreen="true" flashvars="config=http://video.mthai.com/get_config_event.php?id=1311044363" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT></P>
    [​IMG]
    เผยภาพสลด! ฆ่าหมู ด้วยวิธีพิสดารในประเทศจีน
    Mthai news: 18 ก.ค.สื่อของจีนมีการเผยแพร่ภาพสุดสลด ที่หมู ถูกจับจากกลุ่มชายแต่งกายคล้ายทหาร ใช้เชือกแขวนคอ แล้วทุบตีอย่างโหดเหี้ยม จนมันตายอย่างทรมาน ในนครหนานหนิง ผู้ที่เห็นภาพดังกล่าวต่างประณามการกระทำเหล่านี้ว่า นี่คือด้านมืดของความเป็นมนุษย์ที่ทำกับสัตว์ที่มีชีวิตจิตใจเหมือนกันได้ลงคอ
    [​IMG]
    ขณะที่มีสมาชิกคนหนึ่งมาอธิบายว่า ชายเหล่านี้เป็นนักเรียนตำรวจ ภาพที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเกี่ยวกับเวชศาสตร์ ไม่ใช่การทรมานสัตว์อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นวิธีการทดลองเพื่อศึกษาการตายในหลายๆรูปแบบ ซึ่งลักษณะการตายของมนุษย์ก็มีความคล้ายคลึงกัน
    [​IMG]
    [​IMG]
    อย่างไรก็ตาม ภาพชุดนี้ถูกเผยแพร่ไปอย่างแพร่หลายในเว็บไซต์ต่างๆในจีน เป็นที่ถกเถียงกันว่า การกระทำเช่นนี้ เหมาะสมหรือไม่
    Mthai news


    [​IMG]
    MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว สาหร่ายลอยเกลื่อนปกคลุมชายหาดที่เมืองชิงเต่า มณฑลชานตงชองจีน จนเจ้าหน้าที่, ชาวประมง, อาสาสมัครและนักท่องเที่ยวต้องร่วมมือกันเก็บกวาดสาหร่ายเหล่านี้
    ทั้งนี้ สาหร่ายได้ปกคลุมชายฝั่งหาดชิงเต่ายาวถึง 400 เมตร กว้าง 30 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินลุยฝ่าสาหร่ายลงไปว่ายน้ำ ซึ่งก็เป็นไปอย่างทุลักทุเลและยากลำบาก นอกจากนี้สาหร่ายยังได้ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั้งชายหาด
    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้สาหร่ายมีปริมาณมากขนาดนี้ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนช่วยทำให้สาหร่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสาหร่ายจะไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่สาหร่ายปริมาณมากก็ยิ่งใช้ออกซิเจนมาก ซึ่งจะไปแย่งออกซิเจน และเป็นภัยคุกคามจากสัตว์ทะเลได้
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]

    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=480 height=390>
























    <embed width="480" height="390" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/RFd_jadmaR4?version=3&hl=en_US" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT></P>[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงกิจการพลเรือนของประเทศจีนเปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประเทศจีนมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมใหญ่และเหตุดินถล่มแล้วทั้งสิ้น 355 คน หายสาบสูญอีก 112 คน และประชาชนกว่า 2.3 ล้านคน ต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย
    อย่างไรก็ตาม จีนต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ซึ่งในปีที่แล้วถือเป็นปีที่น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี มียอดผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 4,300 คน
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    ข่าวที่เี่กี่ยวข้อง
    [​IMG] เผยภาพน้ำท่วมจีน หลังฝนตกหนัก ทำเขื่อนแตก
    ————————————————————————————————————
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผมลองนับดูแล้วยังขาดไปอีก 1 แห่ง นั่นก็คือประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเรานั่นเอง เพราะประเทศไทยก็เป็นชนวนของสงครามโลกครั้งที่ 3 นี้เช่นเดียวกัน(จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์หลายๆท่าน และจากตำนานพระศรีอาริย์จุติ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2011
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    <HR><CENTER>ขอย้อนอ่านคำแปล "คัมภีร์เทวดา" เป็นสำนวนไทยภาคกลาง

    </CENTER><DD>ในตอนนี้ ผู้เขียน "เว็บตามรอยฯ" จะขอขยายความจาก "พระคัมภีร์โบราณ" ส่วนที่ ๒ คำอ่านหน้าที่ ๖ - ๑๑ มีดังนี้

    <DD>“...เผ่ยย่ำห่วง ฮองย็อกฉ่าย ยำว็อกไห่ กิดีมี ลัดฝ่อ ต่างมุเย่า เวว็อดห่ากีดิ พุทธาวดิ เมื่อศตวรรษโลกจักได้เสื่อมพระศาสนา มีราชา องค์น้อย หายใจบ่ทั่วท้อง มาเข้าเชิดชู คนจัก มรณาม้วน สูญพันธ์เมิดเผ่า..เป็นต้น..”

    <DD>ผู้เขียนไม่คุ้นกับภาษาอีสาน จึงมอบให้ คุณนิภา (น้อย) เมืองไทย อยู่ที่ประเทศอิตาลี เป็นคนอีสานแต่กำเนิดช่วยแปลเป็นสำนวนภาคกลางให้อีกทีหนึ่งว่า...

    <DD>“...เมื่อพระราชาองค์น้อยเริ่มเจริญวัยขึ้นแล้ว เมืองไทยเริ่มเปลี่ยนแปลง ต่อจากปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นี้ มีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกัน เกิดโลกใหม่ ยุคศิวิไลซ์ พระสีส้มโยมสีเหลืองทั่ว ทั้งประเทศ ยกย่องสรรเสริญก้องขึ้นใน สุวรรณภูมิ คงความเห็นเป็นคำเดียวกันหมด ดั่งพระองค์ลงมาโปรดดูแลโลกใหม่ ผู้คนพากันไหลหลั่งมาเฝ้าต่อพระองค์...”

    <CENTER>[​IMG]</CENTER><DD><CENTER> </CENTER><DD>ต่อไปก็เป็นการบอกลายแทงขุมทรัพย์ มีค่าต่างๆ ๑๑ แห่ง ที่เคยเป็นเมืองล่มจมบาดาล หลายแห่ง สิ่งของเหล่านี้มีทองคำ เป็นต้น

    <DD>“..จะโผล่ขึ้นมาเป็นสมบัติของราชวงศ์ ถ้าผู้ใดมีบุญให้ไปทำพิธีขอดู ท่านจะให้ไหม ถ้าได้แล้วนะ จะเอาไปทำอย่างที่พูดหรือคิดจริงไหม เทวดาชื่อ เทวจักร รู้อยู่แล้วว่า ใครจะเอาสมบัติ ไปบูรณะพระศาสนาและประเทศชาติบ้านเมืองจริง ถ้าใครมีบุญบารมีท่านจะให้

    <DD>ดูรา..เจ้าองค์เอกสัพพัญญู ปูทางไว้ให้บุคลากรสานต่อ ถ้าหากไม่มีวาสนาจะได้พบ หมายมั่นพึ่งบุญ ทรัพย์มรดกที่พระองค์แบ่งให้ผสมกันหลายอย่าง ถ้าต่างคนต่างตั้งใจปรองดอง ตั้งมั่นรวมใจเป็นหนึ่ง เชื้อพระองค์แบ่งให้รักษา ไว้ซึ่งธรรมะประเพณีที่ดีงาม

    <DD>จึงขอให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวพึ่งพากัน เปรียบเสมือนรากไผ่และกำแพง คำนี้คือคำของ “เมตตาหลวง” วัดโกสัมพี อยู่เมืองสาวัตถีโน้น นี่อีกวรรคหนึ่งที่พระองค์ทรงบันทึกไว้ ณ สาวัตถี”

    <DD>คำทำนายนี้ต้นฉบับเดิมเป็นบทกลอน ถึงแม้จะเรียบเรียงใหม่ แต่ก็อ่านไม่ง่ายเลย จึงคิดว่าผู้อ่านคงจะจำได้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเคยเล่าไว้ว่า ต่อไปจะเข้ายุคศรีวิไล ในสมัย รัชกาลที่ ๑๐ ไปแล้ว แร่ธาตุทองคำที่ซุกซ่อนไว้ จะปรากฏขึ้นในสมัยนั้นมากมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

    <DD>"ในราวปลายรัชกาลที่ ๙ หรือรัชกาลที่ ๑๐ นี้ ประเทศไทยจะขุดพบแร่สำคัญชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกำลังคล้ายแร่ "ยูเรเนียม" แต่ทว่ามีกำลังสูงกว่า ถ้าใช้ทางด้านสันติจะมีความเย็นสามารถเผาโรคได้ด้วยอำนาจของความเย็น ถ้าใช้ทางด้านพลังงาน ก็จะมีพลังงานสูงมาก ถ้าใช้ฆ่าฟันกันก็จะมีพลังงานมากยิ่งกว่าแร่ที่เขาใช้กันในปัจจุบัน

    <DD>เวลานี้ขุดมาได้ก็เหนื่อยเปล่า ๆ ไม่มีประโยชน์ ถึงเวลามันจะปรากฎเอง และเมืองไทยจะมีทรัพยากรต่าง ๆ ปรากฎขึ้นมาอีกมากมาย เริ่มตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นต้นไป และจะค่อยๆ มีมากขึ้นอย่างเต็มที่ เมื่อกลางสมัยรัชกาลที่ ๑๐ ต่อไป ประเทศไทยจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์ ประเทศชาติจะร่ำรวยมาก"

    <DD>เรื่องนี้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพราะในขณะนี้มี "พระราชาองค์น้อย" ที่เริ่มทรงพระเจริญวัยจริงๆ ในวันทำพิธีสำคัญที่ผ่านมามีพระอาทิตย์ทรงกลดด้วย แล้วได้รับการขนานตามพระนาม “พระพุทธเจ้า” องค์ต้นๆ ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หากอนาคตต่อไปข้างหน้า ถ้าคำทำนายเป็นจริงแล้วไซร้ ชาวไทยคงมีความสุขกันถ้วนหน้า...! </DD><DD> </DD><DD>ที่มา คำแปล "คำทำนายโบราณ" (คัมภีร์เทวดา) (Update 05/11/52) 18.</DD>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ช่วงนี้เขาเตือนให้ระวังดินถล่ม


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผอ.สำนักธรณีฯ ห่วง ภูเก็ตฝั่งตะวันตก เสี่ยงดินถล่ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>20 กรกฎาคม 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในการมอบแผนที่เสี่ยงภัยดินถล่ม รายละเอียดระดับชุมชน ให้กับนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ว่า

    กรมทรัพยากรธรณีได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ในการดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยทางธรณี บริเวณ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ตั้งแต่ปี 2549 แต่ในครั้งนั้น มีเพียงการกำหนดจุดพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังไม่มีความตื่นตัวกับเหตุการณ์ดินถล่ม

    ทั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณี ได้ทำการสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม พบฝั่งตะวันตกของ จ.ภูเก็ต ตลอดแนว อาทิ หาดป่าตอง หาดกมลา หาดกะตะ หาดกะรน มีความเสี่ยงเกิดดินถล่มในพื้นที่สูง และชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และผู้ใช้แรงงาน มีความตื่นตัวในเรื่องดินถล่มน้อย ซึ่งทางกรมฯ ได้มีการใช้วิธีวัดปริมาณน้ำฝน และการสื่อสารในพื้นที่แทนการอบรมอาสาสมัคร

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ดินถล่มคืออะไร?

    ดินถล่มหรือโคลนถล่ม คือ การเคลื่อนที่ของมวลดินและหินลงมาตามลาดเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลก และจะมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในการ ทำให้มวลดินและหินเคลื่อนตัวด้วยเสมอ ดินถล่มมักเกิดตามมาหลังจากน้ำป่าไหลหลาก ในขณะที่เกิดพายุฝนตกหนักรุนแรงต่อเนื่อง หรือหลังการเกิดแผ่นดินไหว

    กระบวนการเกิดดินถล่ม
    ** เมื่อฝนตกหนัด น้ำจะซึมลงไปในดินอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ดินอุ้มน้ำจนอิ่มตัว แรงยึดเกาะระหว่างมวลดินจะลดลง ระดับน้ำใต้ผิวดินสูงขึ้นจะทำให้แรงต้านทานการเลื่อนไหลของดินลดลง


    ** เมื่อน้ำใต้ผิวดินมีระดับสูงก็จะไหลภายในช่องว่างของดิน ลงมาตามความชันของลาดเขา

    ** เมื่อมีการเปลี่ยนความชัน ก็จะเกิดเป็นน้ำผุดและเป็นจุดแรกที่มีการเลื่อนไหลของดิน

    ** เมื่อเกิดดินเลื่อนไหลแล้ว ก็จะเกิดต่อเนื่องขึ้นไปตามลาดเขา


    <TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TD>รูปแบบของดินถล่ม
    1. หินแตกไหล
    2. ดินถล่มเนื่องจากการสร้างถนน
    3. ดินถล่มใต้น้ำ
    4. หินร่วง หรือหินหล่น
    5. เศษตะกอนไหลเลื่อนตามทางน้ำ
    6. หน้าผาผุกร่อน
    7. ตลิ่งพัง
    8. ดินถล่ม
    </TD><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TD>ปัจจัยที่ทำให้เกิดดินถล่ม
    ** พื้นที่เป็นหินแข็งเนื้อแน่นแต่ผุง่าย

    ** มีชั้นดินสะสมตัวหนาบนภูเขา

    ** ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ที่ลาดเชิงเขา หุบเขาและหน้าผา

    ** ป่าไม้ถูกทำลาย

    ** มีฝนตกหนักต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน

    ** ภัยธรรมชาติอื่นๆ เช่น พายุ, แผ่นดินไหว และไฟป่า
    </TD><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG] ลักษณะพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม

    ลักษณะของพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม มักเป็นพื้นที่ที่อยู่ตามลาดเชิงเขา หรือบริเวณที่ลุ่มที่ติดอยู่กับภูเขาสูงที่มีการพังทลายของดินสูง หรือสภาพพื้นที่ต้นน้ำที่มีการทำลายป่าไม้สูง

    นอกจากนั้น ในบางพื้นที่อาจเป็นบริเวณภูเขาหรือหน้าผาที่เป็นหินผุพังง่าย ซึ่งมักก่อให้เกิดเป็นชั้นดินหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่หินรองรับชั้นดินนั้นมีความเอียงเทสูง และเป็นชั้นหินที่ไม่ยอมให้น้ำซึมผ่านได้สะดวก

    ลักษณะดังกล่าวทั้งหมด พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กรมทรัพยากรธรณีกำลังทำการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล สำรวจเก็บข้อมูลทางธรณีวิทยาและสภาพแวดล้อมของพื้นที่เบื้องต้น และรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่น พบว่าใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีลักษณะพื้นที่เสี่ยงภัยต่อดินถล่มอยู่บริเวณลาดเชิงเขาและที่ลุ่มใกล้เขา

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว มีความเสี่ยงภัยต่อดินถล่มมาก เนื่องจากเมื่อมีพายุฝนตกหนักต่อเนื่องจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มตามมาได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน

    ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจึงควรให้ความสนใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ


    บันทึกเหตุการณ์ดินถล่มในประเทศไทย

    [​IMG]
    <TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]
    </TD><TD>

    ลักษณะที่ตั้งของหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่มมีข้อสังเกตดังต่อไปนี้

    ** อยู่ติดภูเขาและใกล้ลำห้วย

    ** มีร่องรอยดินไหลหรือดินเลื่อนบนภูเขา

    ** มีรอยแยกของพื้นดินบนภูเขา

    ** อยู่บนเนินหน้าหุบเขาและเคยมีโคลนถล่มมาบ้าง

    ** ถูกน้ำป่าไหลหลากและท่วมบ่อย

    ** มีกองหิน เนินทรายปนโคลนและต้นไม้ ในห้วยใกล้หมู่บ้าน

    ** พื้นห้วยจะมีก้อนหินขนาดเล็กใหญ่อยู่ปนกันตลอดท้องน้ำ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE style="WIDTH: 100%" border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TD>ข้อสังเกตุหรือสิ่งบอกเหตุ

    ** มีฝนตกหนักถึงหนักมาก มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน

    ** ระดับน้ำในห้วยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ** สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีของดินบนภูเขา

    ** มีเสียงดัง อื้ออึง ผิดปกติดังมาจากภูเขาและลำห้วย

    ** น้ำท่วมหมู่บ้าน และเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว

    </TD><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    (ข้อมูลกรมทรัพยากรธรณี:2547)
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สงครามในอินโดนีเซีย

    อินโดนีเซีย (Indonesia) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างคาบสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปออสเตรเลีย และระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว (อินโดนีเซีย: กาลิมันตัน) ประเทศปาปัวนิวกินีบนเกาะนิวกินี (อินโดนีเซีย: อิเรียน) และ ประเทศติมอร์ตะวันออกบนเกาะติมอร์ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก

    ประเทศนี้มีเกาะอยู่มากกว่า 13,000 แห่ง มีกลุ่มชนพื้นเมืองราว 300 กลุ่ม และมีภาษาที่ใช้ 365 ภาษา เมื่อถูกแย่งชิงมาจากอำนาจของดัชต์ในปี 1949 จังหวัดอาเจ๊ะในเกาะสุมาตราเหนือ และจังหวัดอีเรียนชยาก็เริ่มเรียกร้องอยากปกครองตัวเอง เช่นเดียวกับติมอร์ตะวันออก ซึ่งหลังจากที่โปรตุเกสได้ละทิ้งดินแดนนี้ออกไปในปี 1975 ก็ได้มีกองกำลังอื่นเคลื่อนเข้าไปควบคุมแทน และความรู้สึกเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นในบอร์เนียวและแอมบอนด้วย หลังจากที่ชาวติมอร์ตะวันออกได้ลงคะแนนเสียงท่วมท้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1999 สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราช กลุ่มต่อต้านการแยกดินแดนซึ่งมีรัฐบาลจาการ์ตาหนุนหลังอยู่ก็เริ่มการโจมตี เป็นเหตุให้องค์การสหประชาชาติต้องส่งกองกำลังเข้ามาดูแลในช่วงที่ติมอร์ตะวันจะแยกตัวออกเป็นอิสระ

    ประธานาธิบดีซูฮาร์โตซึ่งปกครองอินโดนีเซียมาเป็นเวลา 32 ปี ได้ส่งข้าราชการพลเรือนจากจาการ์ตาและกองทัพเพื่อปราบปรามฝ่ายกบฏแยกดินแดน รัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียถือว่ารัฐเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการครอบครองที่ดินสืบทอดกันมาอย่างไรก็ตาม ภูมิภาคต่างๆ ต้องยอมแบ่งรายได้ส่วนใหญ่ไปจ่ายภาษีแก่รัฐบาล ซูฮาร์โตลาออกไปภายใต้แรงกดดันในปี 1998 ผู้ที่ขึ้นแท่นรับตำแหน่งแทนคือบีเจ ฮาบิบี ซึ่งรับปากที่จะนำประชาธิปไตยมาสู่อินโดนีเซีย แต่ฮาบีบีก็ถูกโหวตให้ออกจากตำแหน่งในปี 1999 ส่วนผู้นำคนใหม่ตั้งแต่ อับดุล ราห์มาน วาฮิด, เมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี และซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ต่างก็ต้องแบกรับภาระความยุ่งยากของประเทศมาโดยตลอด การสู้รบบนหมู่เกาะอินโดนีเซียนั้นวุ่นวายยุ่งเหยิงเพราะบรรดาผู้นำของกลุ่มสนับสนุนและต่อต้านการแยกดินแดน รวมถึงความขัดแย้งทางศาสนา

    ในช่วงหกปีที่ผ่านมา มีโบสถ์คริสต์มากกว่า 500 แห่งถูกเผาหรือเสียหายโดยฝีมือชาวมุสลิม ชาวคริสต์และมุสลิมต่างก็กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ก่อความรุนแรง ขณะที่ความพยายามในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก็คืบหน้าไปได้เล็กน้อยมาก ภายหลังการต่อสู้ที่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อไปมากมาย ติมอร์ตะวันออกก็ได้อิสรภาพใน ค.ศ.1999 แต่ความขัดแย้งในเกาะอื่นๆ ยังคงมีอยู่และได้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากจนดูเหมือนว่า อินโดนีเซียจะใกล้ถึงจุดแห่งการแตกแยกเข้าไปทุกขณะ

    ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/global_community/02_4_9.html

    ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน

    มุสลิมกว่าพันคนบุกเผาโบสถ์คริส 2 แห่งในอินโดฯ - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ศาลเยอรมันสั่งถอนอายัดเครื่องบินราชพาหนะ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อ 20 ก.ค. เอเอฟพีรายงานจากนครมิวนิก เยอรมนี ว่าศาลเยอรมันมีคำสั่งถอนอายัดเครื่องบินราชพาหนะ โบอิ้ง 737 แล้ว หลังฝ่ายไทยวางแบงก์การันตี 20 ล้านยูโร
    คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่ศาลประเทศเยอรมนี มีคำสั่งอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 เครื่องบินส่วนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขณะจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเมืองมิวนิก เมื่อวันที่ 12 ก.ค. โดยอ้างถึงความขัดแย้งสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์ เมื่อปีพ.ศ.2548 ที่บริษัทวาลเทอร์ เบา จำกัด ฟ้องร้องรัฐบาลไทยให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินประมาณ 30 ล้านยูโร

    ฝ่ายบริษัทเยอรมันอ้างว่าเครื่องบินเป็นสมบัติของรัฐบาลไทย จึงต้องอายัดไว้เพื่อชำระหนี้

    ต่อมารัฐบาลไทยส่งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด พร้อมทีมกฎหมายนำหลักฐานไปชี้แจงต่อศาลเยอรมนี เพื่อคัดค้านคำสั่งอายัด ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศไทยก็นำหลักฐานยืนยันด้วยว่า ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินลำดังกล่าวไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2550 ดังนั้น จึงไม่ใช่สมบัติของรัฐบาลไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ชี้แบล๊กฮอว์กไม่ได้ระเบิด แค่ตกระแทกพื้น หาสัญญาณมือถือ"ทหาร-สื่อ"หวังมีคนรอดชีวิต </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ส่งสัญญาณมือถือ9ทหาร-สื่อ "แบล๊กฮอว์ก"พิสูจน์หวังมีคนรอด ชี้เครื่องไม่ระเบิด


    เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองร้อยพิเศษแก่งกระจาน ถึงความคืบหน้าในการค้นหาแบล๊กฮอร์ก ที่ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า ทางกองทัพไทยได้มีการประสานผู้ใหญ่ของกองทัพพม่า เพื่อขออำนวยความสะดวกให้ทางทหารไทยเข้าไปค้นหาในเขตพม่า โดยได้รับความร่วมมือทางพม่าเป็นอย่างดีในการร่วมกันค้นหาอย่างเต็มที่

    โดยล่าสุดมีรายงานข่าวว่า จุดที่เครื่องแบล๊กฮอว์กตก ใกล้เคียงกับจุดตกของเฮลิคอปเตอร์ก่อนหน้านี้

    จากการตรวจสอบแล้วคาดว่าน่าจะเป็นเขตแนวเขาตะนาวศรี เบื้องต้นมีชั้นความสูงที่ 1,100 ฟุต อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขาตะนาวศรี แต่ยังไม่ยืนยันร้อยเปอร์เซนต์ว่าผู้โดยสารในเครื่องจะเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากผู้ที่ได้ยินเสียงระบุว่า เป็นเสียงของเครื่องที่ตกกระแทกพื้น แต่ไม่มีเสียงระเบิด จึงมีการวิเคราะห์ประกอบกันว่า หากมีการระเบิดจริง ก็ต้องมีการส่งสัญญาณมาจากเครื่อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาจากตัวเครื่องถึงการระเบิด แสดงว่า อาจเป็นการตกกระแทกพื้นเท่านั้น


    นอกจากนี้ทางกองทัพยังได้นำเบอร์โทรศัพท์มือถือ 9 เบอร์ของผู้ที่อยู่ในเครื่องแบล๊กฮอว์ก ไปให้บริษัทเครื่อข่ายโทรศัพท์มือถือเพื่อพิสูจน์หาสัญญาณของทั้ง 9 คนว่าจะติดต่อได้แค่ไหนอย่างไร และสัญญาณสุดท้ายอยู่ที่บริเวณใด ซึ่งหลายฝ่ายยังมีความหวังให้ผู้ประสบเหตุทั้ง 9 ราย ปลอดภัย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>พิสูจน์อัตลักษณ์ ศพ"พ.ต.เกียรติศักดิ์"นักบินที่ 1 ฮ.ตกแก่งกระจานได้แล้ว

    พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้อำนวยการกองยุทธการกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยกับคลื่นข่าว FM 100.5 ภายหลังเจ้าหน้าที่ทยอยลำเลียงศพ เจ้าหน้าที่ ทหาร ทั้ง 5 ราย ซึ่งประสบอุบัตุิเหตุเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ ตก ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า แพทย์พิสูจน์อัตลักษณ์ศพนายทหารได้ 1 รายคือ พ.ต.เกียรติศักดิ์ จีนเอี่ยม นักบินที่ 1 ส่วนอีก 4 ราย กำลังเร่งพิสูจน์ต่อไป


    ลำเลียง5ศพทหารถึงหน่วยรบพิเศษแก่งกระจานแล้ว!

    เมื่อเวลาประมาณ 15.50 น. วันที่ 20 กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์ ของเจ้าหน้าที่ทหารได้ลำเลียงศพของเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 5 นายที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ ตกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม มาถึงหน่วยรบพิเศษแก่งกระจานแล้ว และจากนี้ไปจะมีการนำศพทั้ง 5 ไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

    กองพลฯ9 ส่งกำลังสมทบช่วยระดมค้นหา "พล.ต.ตะวัน" และคณะ เตรียมฮ.ขึ้นบินอีกชุด


    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์แบบแบล๊กฮอว์กหายสาบสูญ ขณะบินขึ้นจากบริเวณศูนย์ฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมี พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ขึ้นไปพร้อมกับนายทหาร และช่างภาพของ ททบ.5 รวมทั้งนักบิน และช่างเครื่อง รวม 9 คน เพื่อบินไปนำศพทหารทั้ง 5 นาย ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ตกก่อนหน้านี้ว่า ช่วงสาย เวลา 09.00 น. ที่บ้านพักประจำตำแหน่งของ พล.ต.ตะวัน ซึ่งอยู่ภายในบริเวณกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี บรรดาญาติพี่น้องเข้าปลอบและให้กำลังใจ พ.อ.หญิง ปรีญานุช เรืองศรี ภรรยา ผบ.พล.ร.9

    ขณะที่บริเวณสนามหน้ากองบังคับการกองพลทหารราบที่ 9 กำลังทหารจากหน่วยต่างๆ ของกองพลทหารราบที่ 9

    ซึ่งได้ตั้งขึ้นมาเป็นชุดเฉพาะกิจจำนวน 10 ชุด ชุดละ 6 นาย ต่างเร่งตระเตรียมอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยจะทำหน้าที่เป็นกำลังเสริม ซึ่งแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 5 ชุด โดยชุดที่ 1 จะเป็นชุดที่เตรียมขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากอากาศเปิด


    ส่วนชุดที่ 2 จะเป็นชุดเดินเท้าเข้าค้นหา โดยใช้ฬ่อในการขนอุปกรณ์และสัมภาระที่จำเป็น ซึ่งกำลังดังกล่าวจะเดินทางไปสบทบกับชุดเฉพาะกิจซึ่งเดินทางไปก่อนแล้วหน้านี้ จำนวน 10 ชุด ชุดละ 6 นาย ซึ่งมี พ.อ.มนตรี ช้างพลายแก้ว รอง ผบ.พล.ร.9 เป็น ทก.ส่วนหน้า โดยชุดดังกล่าวได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในการเดินเท้าเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแล้ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>หมอกควันอินโดฯลอยฟุ้งสตูลกระทบเรือประมง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กลุ่มประมงเมืองสตูล ผลหมอกควันอินโดฯลอยฟุ้งเข้าพื้นที่ ทำเอาแสบตา มองไม่เห็นเกาะแก่ง เช่นเดียวกับผู้ใช้จยย.ครวญตาระคายเคือง มึนหัว


    เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์สภาพหมอกควันไฟไหม้ป่า บนเกาะบอร์เนียว และเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซียที่ลอยเข้ามาปกคลุมในพื้นที่จ.สตูล ระลอกสองว่า ทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ขี่จยย.และกลุ่มชาวเรือประมงในทะเลอันดามัน ประสบกับปัญหาการมองเห็นต่ำ แม้จะไม่ถึงขั้นวิกฤติก็ตาม โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืด และช่วงค่ำหมอกควัน จะปกคลุมทำให้ท้องฟ้ามัวทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


    ด้านนายอับดุลล๊ะ ยาลัน อายุ 50 ปี นายท้ายเรือตะเพียนทอง กล่าวว่า

    สภาพหมอกควันระลอกที่สองนี้ แม้ว่าจะไม่หนักเหมือนระลอกแรก แต่ยังคงเป็นปัญหาในเรื่องทัศนวิสัยการมองเห็น โดยเฉพาะร่องน้ำเส้นทางเดินเรือ ในช่วงเช้าวันนี้ หมอกควันเข้ามาปกคลุมจนมืดไปทั่วบริเวณทะเลอันดามันจนมองเกาะแก่งไม่เห็นเลย โดยขณะเดินเรือตนรู้สึกแสบร้อนดวงตา เชื่อว่าสาเหตุเนื่องมาจากหมอกควันไฟไหม้ประเทศอินโดนีเซีย

    เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ขี่จยย.จำนวนมากบ่นว่า ระหว่างขี่รถจยย.บนถนนนั้น ตามัวปวดแสบในดวงตา และวิงเวียนศีรษะ น่าจะสาเหตุได้รับผลกระทบมาจากหมอกควันไฟไหม้ป่าฯ.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    19 ก.ค. 54


    เขียนงงบอกตรงต้องกั๊กไว้-------เป็นภัยบอกไปตามเป็นจริง
    เรื่องลงเคยได้ยิน---------------เรื่องจริงอาจไม่ใช่ที่รู้มา
    เรื่องจริงคนลงมักตายก่อน-------ไม่ช่วยผ่อนชีวิตข้าฯ
    เรื่องลงบางทีต้องปิดนา---------เปิดให้รู้เป็นนัยๆ




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     

แชร์หน้านี้

Loading...