พระพุทธองค์ทรงอธิบายเรื่อง ปรมาณู, เซลล์ และ จักรวาล

​

พระพุทธองค์ทรงอธิบาย ปรมาณู, เซลล์ และ จักรวาล​

คำอธิบายเรื่อง ปรมาณู
พระพุทธองค์ทรงอธิบายถึงขนาดของปรมาณูไว้ว่า ถ้าเราแบ่งความยาวของเมล็ดข้าวแปลือกออกเป็นประมาณ 82 ล้านส่วนเท่า ๆกัน แต่ละส่วนนั้นจะมีขนาดเท่ากับ 1 ปรมาณู
หลังจากเวลาผ่านมา 2,500 ปี นักฟิสิกส์เพิ่งสามารถวัดขนาด 1 ปรมาณู (ขนาดอะตอมโดยเฉลี่ย) ได้เท่ากับ 1 อังสตรอม สามารถอธิบายได้ว่า ถ้าเราแบ่งความยาว 1 เซนติเมตรเป็นร้อยล้านส่วน เท่า ๆกัน แต่ละส่วนก็คือ 1 อังสตรอม
ดังนั้นขนาดเมล็ดข้าวเปลือกยาวประมาณ 0.8 เซนติเมตรเศษ จะได้ขนาดประมาณเท่ากับ 1 อังสตรอมเช่นเดียวกัน

คำอธิบายเรื่อง เซลล์
ในพระอภิธรรมปิฎกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกที่ได้บันทึกพระพุทธพจน์คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามานานกว่าสองพันห้าร้อยปี ได้มีการกล่าวถึงองค์ประกอบของรูปหรือสังขารว่า เป็นที่ชุมนุมรูปกลาป อ่านว่า “รูปกะลาปะ’’ ซึ่งตรงกับคำว่า “เซลล์” ที่ใช้ในวิชาการแพทย์ปัจจุบัน รูปกลาปนี้จะมีความเจริญเติบโตเสื่อมสลายลงในอัตรปกติขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 4 ประการ

1. อุตุชรูป หมายถึง อากาศ ภาวะสิ่งแวดล้อม
2. อาหารชรูป หมายถึง อาหารที่เสพบริโภคในชีวิตประจำวัน
3. กัมมชรูป หมายถึง การกระทำทางกาย
4. จิตตชรูป หมายถึง การทำงานของจิตใจ

สาเหตุทั้งสี่ประการนี้ตรงกับการค้นพบทางการแพทย์ในเรื่องที่ว่าด้วยสาเหตุการเสื่อมสลายของเซลล์อย่างน่าอัศจรรย์
คำอธิบายเรื่อง จักรวาล
ส่วนในเรื่องของจักรวาล ทรงตรัสไว้ว่า จักรวาลมีการเกิด-ดับเป็นวัฏฏะ โดยมีคาบของการเกิด-ดับ อยู่ที่ 1 มหากัป (ประมาณ 400,000 ล้านล้านปี) ในจักรวาลนี้มีดวงดาวที่มีมนุษย์อยู่เหมือนกับโลกของเราอีก 3 แห่ง คิอ โลกในอุตตรกุรุทวีป, อมรโคยานทวีป และวีเทหะทวีป นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังทรงบอกอีกว่า นอกจากจักรวาลนี้แล้วยังมีจักรวาลอื่น ๆอื่นอีกนับแสนโกฏิ ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฏีของจักรวาลวิทยาในปัจจุบัน

 

อโหพุทโธ พระพุทธเจ้าน่าอรรศจรรย์จริงหนอ
ทรงเปิดภาชนะที่ปิด
หงายภาชนะที่คว่ำ
ชี้ทางแก่คนหลงทาง
จุดเทียนส่องสว่างแก่คนทั้งชมภูทวีป

ทรงเปรียบพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ วิทยาศาตร์คือ การทำขีปนาวุธ ระเบิดปรมนู แต่เมื่อเปรียบเทียบกันเเล้วก็แตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะ
วิทยาศาสตร์ ดีในเบื้องต้น ท่ามกลางทำท่าว่าจะดี และทำลายล้างในที่สุด เหมือนกะบ ระเบิดหรือ สิ่งของที่ทันสมัย ใช้ได้ดีเเค่ประเดียวแต่ก้เสียซะเเล้ว นี่คือวิทยาศาสตร์
แต่พุทธศาสตร์ ดีในเบื้องต้น ดีในท่ามกลาง และดีในท้ายที่สุด นี่และสิ่งที่อัศจรรย์ใจของเราท่านช่าวพุทธทั้งหลาย
จงหลีกเร้นเข้าสู่หลักของการปฏิบัติให้มาก บารมีคุณงามความดีจะบังเกิดมีเเก่เราเสมอ อนุโมทนาสาธุครับ

 

สาธุ ถ้าผมจำไม่ผิดหลวงปู่ดุลย์ กล่าวว่าใน 1 ปรมณู เทวดาอยู่ได้ 8 ตน

 

ดีใจและภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย อยู่ในพุทธศาสนา ขอบคุณค่ะ

 

พระพุทธพจน์ไม่มีผิด ถูกต้องนิรันด์


ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของบทความ ท่านผู้ตั้งกระทู้ และท่านที่อนุโมทนาบุญ ครับ
สาาาาา...ธุ
สาาาาา...ธุ
สาาาาา...ธุ<O</O
นิพพานะ ปัจจโย โหตุ

 

พระองค์ทรงเป็น ผู้รู้แจ้งแทงตลอดในทุกสรรพสิ่ง รู้ทั้งในเบื้องต้น รู้ในท่ามกลาง และรู้ในที่สุด ดังในอิติปิโสบทต้น

 

โมทนาครับ

 

พุทธะ...คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน...ศาสดาเอกของโลก...ไม่มีศาสดาอื่นยิ่งกว่า

 

เขียนตามครู.....

​

จากคำภีร์ อภิปฺปทิปิกา และอภิธานปุปฺทิปิกาสูจิ คาถาที่๑๙๔,๑๙๕​

แบ่งเมล็ดข้าวเปลือกออก 82 ล้านส่วน เท่าๆกันแต่ละส่วนเรียกว่า ปรมณู​

(*) นักวิทยาศาสตร์ปรมณูอัลเบิร์ต ไอสไตน์ ดร.รัทเธอฟอร์ด ได้ช่วยกันวิจัย​

1 อะตอม เท่ากัน 10 ยกกำลัง-8 ซ.ม. หรือ 1ซ.ม.เท่ากับ 100 ล้านอะตอม​

​

 

หากยังต้องเวียนว่ายตายเกิดขอให้ข้าพเจ้าเกิดในศาสนาพุทธและมีศัทธาในพระศาสดามากๆและมีจิตใจที่ดีทำนุบำรุงศาสนาทุกๆชาติด้วยเถิด...สาธุ ส่วนชาตินี้รู้แล้วว่าต้องทำความดีและต้องทำบุญทำกุศลมากๆเพื่อส่วนรวมและส่วนตัว ....ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่างนอกจากบุญกับบาปเท่านั้นที่นำไปได้ ....แม้ไม่ต้องการก็ตาม(บาป)

 

พระพุทธองค์ทรงป็น ผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน

 

สวัดดีครับ

 

คำสอนของพระองค์ท่านเป็ยปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่เคยล้าสมัย

 

อนุโมทนากับผู้ตั้งกระทู้และผู้อนุโมทนาบุญทุกท่านครับ

 

จุดหมายไม่มีสิ้นสุดจริงๆ

 

อนุโมทนาครับ คำสอนของพุทธ ประเสริฐสุด ดีสุด แล้วครับ แต่ทำไมคนไม่ค่อยเห็นคุณค่าครับ ปิติกับบุคคลที่เห็นในธรรมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่จะพยายามให้อยู่ในธรรมให้ได้มากที่สุดครับ เริ่มที่ตัวเราก่อน รับรองว่าโลกนี้จะโคดน่าอยู่เลยครับ

 

น้ำท่วมมามาวิ่งเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ