พิธี5ธันวากระหึ่ม ถวายพร! สงฆ์ทั่วประเทศสวด

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 2 ธันวาคม 2007.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd055MHhNaTB3TWc9PQ==

    วันที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6212 ข่าวสดรายวัน


    พิธี5ธันวากระหึ่ม ถวายพร! สงฆ์ทั่วประเทศสวด


    งานฉลองทุกมุมเมือง! "89ตุลาการ"บวชถวาย จัดโชว์"ว"ส่วนพระองค์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พระพุทธมนต์-สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามโบราณราชประเพณี ภายในพระอุโบสถวัดสระเกศ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>งานฉลอง 5 ธันวากระหึ่มทุกมุมเมือง สมเด็จพระพุฒาจารย์ คณะสงฆ์ สวดเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศฯถวายในหลวง ที่โบสถ์วัดสระเกศ โดยยึดแบบโบราณราชประเพณีพร้อมกับวัดเทพศิรินทร์-วัดปากน้ำ เปิดนิทรรศการแสดงวิทยุสื่อสารส่วนพระ องค์ของชมรมวิทยุสมัครเล่น ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติให้วัดทั่วประเทศ สวดเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้อง กลองระฆัง เพื่อเป็นการเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 5 ธ.ค. เวลา 10.30 น.

    เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่วัดสระเกศ สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่ หนตะวันออก ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ และพุทธศาสนิกชน ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ โดยเวลา 17.09 น. นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ถวายเทียน ชนวน แด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เพื่อนำไปจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ 89 รูป เจริญชัยมงคลคาถา

    ต่อมาพระครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ ประจำสำนักพระราชวัง ประกอบพิธีบวงสรวงเทพยาดาเสริมดวงพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามโบราณราชประเพณี โดยมีพระสงฆ์ 89 รูป พระเถรานุเถระ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมเจริญจิตภาวนาถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผ้าไตรถวายคณะสงฆ์ที่มาเจริญพระพุทธมนต์ด้วย

    วันเดียวกันยังมีการประกอบพิธีดังกล่าวที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่ หนเหนือ เป็นประธาน และที่วัดเทพศิรินทราวาส สายธรรมยุต มีสมเด็จพระญาณวโรดม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นประธาน นอกจากนี้วันที่ 3 ธ.ค. จะประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศเฉลิมพระเกียรติ ณ วัดชนะสงคราม เวลา 08.30 น. โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่ หนกลาง เป็นประธาน เวลา 14.00 น. ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พระธรรมรัตนากร รักษาการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ เป็นประ ธาน และเวลา 17.00 น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ของคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทั้ง 2 นิกาย ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อย่าง ไรก็ตาม มส.ยังมีมติให้ทุกวัดทั่วประเทศ สวดเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้อง กลองระฆัง พร้อมกันวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 10.30 น. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาอีกด้วย

    พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคมเปิดเผยว่า การสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์หรือการสวดมนต์ภาวนา นับเป็นอุบายวิธีอย่างหนึ่งในการชักจูงจิตให้รู้จักและเข้าถึงพระพุทธศาสนาในเบื้องต้น ประโยชน์ของการเจริญพระพุทธมนต์ที่ประจักษ์ชัด คือภาวะจิตของผู้เจริญ หรือผู้สวดที่สงบปราศจากนิวรณ์กิเลสในขณะบริกรรมบทพุทธมนต์ เมื่อหมั่นเจริญหรือสวด จิตสงบเป็นสมาธิมากขึ้น จิตสงบพบความสุขที่เยือกเย็น ก่อให้เกิดเป็นพลานุภาพ ควรแก่การงานและมีอิทธิพลส่งผลให้มีพลังอดทน พัฒนาสติปัญญาแกล้วกล้า สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือประกอบ สัมมาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในวาระกาลมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา มหาเถรสมาคมมีมติให้คณะสงฆ์ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศเฉลิม พระเกียรติ ตามประเพณีไทยโบราณ เพื่อเฉลิมสิริมงคลดวงพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ ดำเนินการ ด้วยการปกครองคณะสงฆ์ แบ่งเป็นสายมหานิกาย แบ่งเป็น 4 หน คือ หนเหนือ หนใต้ หนตะวันออก หนกลาง และคณะธรรมยุต ดังนั้น พิธีเจริญพระพุทธมนต์จตุรทิศเฉลิมพระเกียรติ จึงมีการจัดด้วยกัน 5 แห่ง โดยในวันนี้ จัดทั้งหมด 3 แห่ง คือ วัดสระเกศ วัดเทพศิรินทราวาส และวัดปากน้ำภาษีเจริญ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    เฉลิมพระเกียรติ- กรุงเทพมหานครจัดสร้างซุ้มและประดับไฟแสงสีสวยงามอลังการ บนถนนราชดำเนินตลอดทั้งสาย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระพรหมสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ กล่าวว่า นับเป็นพระมหา กรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผ้าไตรจำนวน 16 ผืน ถวายพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มาสวดพิธีเฉลิมสิริมงคลดวงพระบรมราชสมภพตามประเพณีไทยโบราณ ตามแบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการนี้ มีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จำนวน 81 รูป สวดเฉลิมสิริมงคลดวงพระบรมราชสมภพ

    ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. 50 เวลา 08.30 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จะเป็นผู้ดำเนินการพิธีเฉลิมสิริมงคลดวงพระราชสมภพ ตามประเพณีไทยโบราณภาคกลาง ณ พระอุโบสถวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ และเวลา 14.00 น. พระธรรมรัตนากร รักษาการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ เป็นผู้ดำเนินการพิธีเฉลิมสิริมงคลดวงพระบรมราชสมภาพ ตามประเพณีไทยโบราณภาคใต้ ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน ในวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติให้วัดทั่วประเทศ สวดเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้อง กลองระฆัง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

    วันเดียวกันนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานพิธีอุปสมบทหมู่พระภิกษุ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสเฉลิมพระชนม พรรษา ครบ 80 พรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร สำหรับโครงการดังกล่าว สำนักงานศาล ยุติธรรมจัดขึ้นเพื่อเปิดให้ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมและลูกจ้างสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ตลอดจนประชาชนชาวไทยได้แสดงมุทิตาจิตและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเข้าอุปสม บทเพื่อศึกษาพระธรรม และบำเพ็ญคุณความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเดียว กันก็ถือเป็นการทดแทนพระคุณบุพการีด้วย

    เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาลงนามถวายพระพร พร้อมกันนี้สำนักพระราชวังอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ และนำปฏิทิน ส.ค.ส. ปีพ.ศ.2551 แบบพกพา ด้านหน้ามีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ แจกให้ประชาชนด้วย รวมทั้งหนังสือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนสวมเสื้อเหลืองและเสื้อชมพู ทยอยเดินทางมาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยวันนี้ประชาชนหนาแน่นกว่าทุกวันเนื่องจากเป็นวันหยุด จากนั้นต่างพากันไปจุดธูปบูชาที่ลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนคริน ทราบรมราชชนนี โดยขอพรให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ของโรงพยาบาลศิริราช ส่วนหนึ่งร่วมเดินเทิดพระเกียรติในชื่อโครงการ "ศิริราชร่วมใจเดิน 80 รอบ ถวาย 80 พรรษา พาสุขภาพดี" เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้จะเปิดให้เดินระหว่างวันที่ 26 พ.ย.-7 ธ.ค. เฉพาะเจ้าหน้าที่ของร.พ. ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.00-08.00 น. และ 16.00-16.30 น.

    กระทั่งเวลา 17.00 น. สำนักพระราชวัง ปิดลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ สรุปยอดของผู้มาลงนามวันที่ 1 ธ.ค. จำนวนทั้งสิ้น 6,549 รายชื่อ

    เวลา 10.30 น.วันเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "มหานิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550" ที่ฮอลล์ 1-4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งรัฐบาลจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ธ.ค.นี้ โดยในงานนำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ผ่านสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เขียนคำปฏิญาณลงบนใบโพธิ์ทอง เพื่อแสดงความจงรักภักดี ด้วยข้อความว่า "จะถือศีล 5 ตลอดชีวิต" นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญชวนคนไทยร่วมกันเดินทางมาชมนิทรรศการและกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในปีมหามงคลนี้

    สำหรับงานมหานิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จัดมาแล้ว 4 ครั้ง ในรูปแบบสัญจรเป็นครั้งแรกในส่วนภูมิภาค 4 จังหวัด คือ ขอนแก่น สงขลา เชียงใหม่ และชลบุรี ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ นำเสนอด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสร้างความรู้สึกเสมือนจริงให้กับผู้เข้าชม ผ่านพื้นที่การจัด นิทรรศการทั้งหมด 9 ห้องโถง ประกอบด้วย โถงที่ 1 มหาจักรีบรมราชวงศ์ โถงที่ 2 พระราชประวัติ โถงที่ 3 พระอัจฉริยภาพ โถงที่ 4 แนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โถงที่ 5 ปรัชญาเศรษฐ กิจพอเพียง โถงที่ 6 เสด็จฯ เยี่ยมเหล่าทหารหาญ โถงที่ 7 เสด็จฯ เจริญสัมพันธไมตรีต่างประเทศ โถงที่ 8 สถิตในดวงใจ ไทยทั้งผอง และโถงที่ 9 80 พรรษา ถวายพระภูมินทร์

    ส่วนไฮไลต์ของนิทรรศการ อยู่ที่โถงที่ 2 แสดงพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ มีการใช้เทคนิคพิเศษจำลองบรรยากาศที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีหิมะเทียมตกลงมาเสมือนหิมะจริง สร้างความตื่นตาตื่นใจกับผู้เข้าชมงาน ส่วนโถงที่ 3 นำเสนอด้วยเทคนิคซาวด์โดม เมื่อเดินเข้าไปอยู่ภายใต้โดม บทเพลงพระราชนิพนธ์จะดังขึ้นโดยอัตโนมัติ ขณะที่โถงที่ 4 มีการนำเครื่องบินทำฝนเทียมมาสาธิตการทำฝนเทียม ใช้เทคนิค 4 มิติ ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนที่เข้าชมงานพร้อม ใจกันเขียนคำปฏิญาณลงบนใบโพธิ์ทอง ประกาศความตั้งใจที่จะทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายคนบอกว่าตื้นตันใจที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    นอกจากนี้ที่ ฮอลล์ 9 มีการจัดงาน "นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานติ์" จัดโดย 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานพิเศษเพื่อประสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) มูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงบประมาณ และกรุงเทพมหา นคร (กทม.) โดยงานจะจัดตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค.นี้ มีประชาชนทยอยเดินทางมาเข้าแถวรอเข้าชมก่อนเวลา 09.30 น. งานนี้มีหนังสือประมวลภาพเฉลิมพระเกียรติ 8 ทศวรรษแห่งการพัฒนา แผ่นภาพชุด 81 พรรษาปวงประชาเป็นสุขศานติ์ หนังสือตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และหลักการทรงงาน มาแจกเป็นที่ระลึกกับผู้เข้าชมงานด้วย

    ด้านไฮไลต์ของงานคือ นิทรรศการ 8 ทศวรรษแห่งการพัฒนา ที่ประมวลภาพถ่ายและพระราชกรณีย กิจตั้งแต่พระบรมราชสมภพในทศวรรษที่ 1 จนถึงทศวรรษที่ 8 ส่วนซุ้มนิทรรศการอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจคือ ระบบนิเวศปะการังจำลอง ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ. จันทบุรี หลังจากทรงเห็นปัญหาการทำลายทรัพยากร ป่าชายเลน และพื้นที่น้ำทะเลท่วม ตั้งแต่ปี 2524 จนนำไปสู่การแก้ปัญหาได้สำเร็จ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดกว่า 1,000 ไร่

    ต่อมาเวลา 19.00 น. ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "รวมพลังทำดีเพื่อพ่อ" ภายใต้การดำเนินงานของโครงการ "ทำดีเพื่อพ่อ" จัดโดยคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรม ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งมีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน สถาบันการศึกษา อาสาสมัครภาคีทำความดี และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

    เวลา 18.00 น.วันเดียวกัน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธ.ค.50 "ทรงเป็นแรงบันดาลใจ" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 ธ.ค.50 บริเวณสนามหลวง ถนนราชดำเนิน และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ นำเสนอพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ "แบบอย่าง" ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย จัดนิทรรศการสะท้อนผ่านพระราชประวัติ พระราชจริยวัตรในทุกช่วง 10 พระชนมพรรษา จำนวน 9 ซุ้ม เช่น ซุ้มที่ 1 พระราชประวัติในภาพรวม และภาพรวมของงาน และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวกรุงเทพฯ และจัดฉายสารคดีเฉลิมพระเกียรติเรื่อง "หัวใจไทยใต้ร่มพระบารมี" เป็นต้น

    วันเดียวกันนี้ที่กองพันที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถ.วิภาวดี พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานกรรม การโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน "กทช.รวมใจนักวิทยุสมัครเล่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน" และกล่าวว่า เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรร ษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2550 นี้ คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จึงร่วมกับกลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทยจัดงานเฉลิมพระเกียรติ "กทช.รวมใจนักวิทยุสมัครเล่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน" เพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพรแด่พระองค์ท่าน ในฐานะพระบิดาแห่งโทรคม นาคมไทย

    "นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการแสดงพระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสาธิตการใช้เครือข่ายติดต่อฉุกเฉินของวิทยุสมัครเล่น โดยจําลองสถานการณ์กรณีเกิดภัยพิบัติ เพื่อเป็นการโชว์ศักย ภาพของเหล่านักวิทยุสมัครเล่นที่มีบทบาทสําคัญในการช่วยเหลือในยามที่ระบบสื่อสารปกติเกิดความเสียหายจนสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้" พล.อ.ชูชาติกล่าว
     

แชร์หน้านี้

Loading...