มหาเทวีผู้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน พระนามนี้เป็นใครเอ๋ย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย eddy1965, 8 ธันวาคม 2007.

  1. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    ;) พระนามอวโลกิเตศวร (Avalokitesvara) มาจากภาษาสันกฤตเป็นการสมาสคำ 3 คำ เข้าด้วยกัน ประกอบด้วย คำว่า ava หมายถึง เบื้องต่ำ ส่วนคำว่า Lokita มาจากคำว่า lok (โลก) หมายถึง จ้องมองหรือเฝ้ามอง และคำว่า isvara (อิศวร) หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้รักษากฎ เมื่อนำมาสมาสคำกันเข้า ก็จะได้เป็น ava + lokita + esvara เป็น avalokitesvara หมายถึง พระผู้เป็นเจ้าที่เฝ้ามองดูโลก บ้างก็บอกว่าหมายถึง พระผู้ฟังเสียงจากเบื้องบน เพราะคำว่า svara หมายถึง เสียง อย่างไรก็ตาม พระนาม อวโลกิเตศวร นี้มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นแต่ละที่ไม่เหมือกัน ชาวจีน เรียกชื่อว่า พระแม่กวนอิม (Guan Yin) ส่วนชาวทิเบต เรียกชื่อว่า เซนเรซิก (Chenrezig) สำหรับภูมิประวัติความมาของพระนามอวโลกิเตศวรนี้ มีความสลับซับซ้อนพอสมควร แรกเริ่มเดิมทีนั้นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย ในขณะนั้นทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธมหายานกำลังเฟื่องฟูในประเทศอินเดีย

    หากมองย้อนกลับในอดีตกาล ศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) ซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่เกิดก่อนพุทธกาล เป็นศาสนาเทวนิยมที่นับถือพระเจ้าหรือมหาเทพ (Mahadeva) สำคัญ 3 พระองค์ นั่นก็คือ พระพรหม พระศิวะ และพระวิษณุ (พระนารายณ์) แต่ละพระองค์จะมีพระมเหสีของตนเอง เช่น พระพรหม มีพระชายา คือ พระแม่สุรัสวดี, พระศิวะ มีพระชายา คือ พระแม่ศรีอุมาเทวี และพระแม่คงคา ส่วนพระวิษณุ มีพระชายา คือ พระแม่ลักษมี และพระแม่ภูมิเทวี (พระแม่ธรณี)

    มหาเทพเหล่านี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความเชื่อและความศรัทธาของชาวอินเดีย จนเกิดเป็นนิกายต่างๆ มากมาย ที่สำคัญๆ ได้แก่ 1) นิกายไศวะ (Shaivism) ที่มีการนับถือองค์พระศิวะเป็นเทพสูงสุด 2) นิกายไวษณพ (Vaishnavism) ที่มีการนับถือองค์พระนารายณ์เป็นเทพสูงสุด และ 3) นิกายศักติ (Shaktism) ที่มีการนับถือมหาเทวีที่เป็นชายาของมหาเทพทั้งสามสูงสุด ส่วนลัทธิพระพรหม (Brahmism) ไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน

    นิกายศักติมีความเชื่อในอำนาจของสตรีที่เป็นพระชายาของมหาเทพ ที่จะช่วยดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จได้โดยง่ายกว่าการบูชามหาเทพโดยตรง เพราะความเมตตาสงสารย่อมมีอยู่ในเพศแม่มากกว่าเพศชาย อีกทั้งยังเป็นการช่วยเสริมพลังอำนาจและศักดิ์ศรีแก่เหล่ามหาเทพอีกด้วย ต่อมานิกายนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประชาชนชาวอินเดียที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะนับถือและศรัทธราต่อพระมหาเทวี (Mahadevi) เป็นอันมาก มหาเทวีเหล่านี้เดิมทีมีพระองค์เดียวคือพระแม่ศักติ แต่ต่อมาได้แบ่งภาคอวตารออกมาหลายปางด้วยกัน แต่ที่นับถือกันมากที่สุดในขณะนั่น ก็คือ พระแม่ทุรคาหรือพระแม่กาลี (พระภาคหนึ่งของพระแม่ศรีอุมาเทวี) ซึ่งมีรูปลักษณ์และมีท่าทางที่ดุร้ายและน่ากลัว แต่ก็แฝงไปด้วยความเมตตาสงสาร ช่วยปกปักรักษาธรรมและขจัดอธรรม ทำให้เป็นที่ยำเกรงกลัวแก่มารร้ายและปีศาจทั้งหลาย หากมองในแง่ของปรัชญาย่อมแสดงให้เห็นถึงสภาวะแห่งการรักษาสมดุลเพื่อที่ต้องการให้เกิดความเท่าเทียมกันของเพศชายและเพศหญิงในสังคม

    แม้ว่านิกายศักติจะได้รับนิยมมากก็ตาม แต่ยังคงได้รับอิทธิพลจากนิกายไศวะและนิกายไวษณในเรื่องหลักคำสอน ความเชื่อ การดำเนินชีวิต ศิลปะ ประติมากรรม และพิธีกรรมต่างๆ อยู่ดี มีผู้นับถือนิกายนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มหัวเอียงขวาที่เรียกตนเองว่า จารี กลุ่มนี้ นับถือพระแม่ปางใจดี เช่น พระแม่ปารวตี พระแม่มาตา เป็นต้น ถือเป็นพลังอำนาจฝ่ายดี มีการศึกษาและเข้าถึงปรัชญาธรรมชาติ และ 2) กลุ่มหัวเอียงซ้ายที่เรียกตนเองว่า วามจารี กลุ่มนี้นับถือพระแม่ปางทุรคาและกาลี ชอบปฏิบัติบูชาพระแม่ด้วยวิธีแปลกและพิสดารเพื่อให้เกิดความพึงพอใจ เช่น การระบำเปลื้องผ้าแก้บน ถวายของมึนเมา การบูชายัญด้วยการฆ่าสัตว์เป็นๆ รวมไปถึงการร่วมเพศต่อหน้าเทวรูปพระแม่ พิธีกรรมเหล่านี้เรียกว่า ลัทธิตันตระ (Tantrism) ซึ่งเป็นพิธีกรรมลับเฉพาะกลุ่มเท่านั้น พิธีกรรมพิลึกพิลันเหล่านี้ก็เคยมีปรากฏในสมัยกรีกและสมัยโรมันมาก่อน ลัทธิตันตระนี้ หากรวมกับใครเข้าก็เรียกคำลงท้ายด้วยตันตระ เช่น รวมกับศาสนาฮินดู เรียกว่า ลัทธิฮินดูตันตระ รวมกับศาสนาพุทธ เรียกว่า ลัทธิพุทธตันตระ เป็นต้น

    ลัทธิตันตระนอกจากจะเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมดังกล่าวแล้ว ยังไปเกี่ยวเนื่องไปยังการบูชาความเป็นเพศชายและเพศหญิง ที่เรียกว่า ศิวลึงค์โยนี (Lingam-Yoni) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นการก่อกำเนิดมนุษย์ชาติ ซึ่งได้รับความนิยมบูชากันอย่างแพร่หลายไปทั่วทั้งอินเดีย เนปาล ภูฐาน ทิเบต และตลอดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นตำรับตำราชื่อว่า กามาสูตร (Kamasutra) เพื่อเพิ่มพลังดุลภาพและความสุนทรียภาพแห่งความรักระหว่างกัน

    มันตระ/มนตรา (Mantra) ในลัทธิตันตระมีพลังอำนาจที่ลึกลับและชวนให้พิศวงเป็นอันมาก บทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ ล้วนแล้วได้มาจากพระเวทโบราณของฮินดู โดยการผสมผสานคลุกเคล้าไปด้วยบทสวด เพลงสรรเสริญ พิธีกรรม และปรัชรา ซึ่งบรรจุไว้อยู่ในคัมภีร์พระเวท (Veda) แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1) ฤคเวท ใช้สำหรับเพลงสวดมนต์สรรเสริญพระเจ้า ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วยคำว่า โอม (Om / Aum) ประกอบขึ้นด้วยคำ 3 คำ คือ อะ อุ มะ คำว่า อะ. แทนพระวิษณุหรือพระนารายณ์ คำว่า อุ. แทนพระศิวะหรือพระอิศวร และคำว่า มะ. แทนพระพรหม รวมกันเรียกว่า ตรีมูรติ (Trimurti) อันหมายถึง มีรูป 3 ซึ่งก็คือมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ เช่น โอม นมัส ศิวาย เพื่อสรรเสริญบูชาองค์พระศิวะ หรือ โอม มณี ปัทเม ฮูม เพื่อสรรเสริญบูชาองค์พระอวโลกิเตศวร เป็นต้น ซึ่งเป็นพลังที่ศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถนำมาใช้ในการบำบัดรักษาและเจริญสมาธิได้เป็นอย่างดี 2) ยชุรเวท ใช้ในพิธีบูชายัญหรือบวงสรวง เช่น พิธีเทวาภิเษกองค์พระจัตุคามรามเทพ เป็นต้น 3) สามเวท ใช้ในพิธีกล่อมทำนองเสนาะ เช่น กาพย์เห่เรือส่งเสด็จพระศิวะกลับสู่สรวงสวรรค์ในพิธีโล้ชิงช้า เป็นต้น และ 4) อถรวเวท (อาถรรพ์เวท) ใช้สำหรับรักษาโรค ทำเสน่ห์ ทำลายศัตรู และแก้เสนียดจัญไร ฯลฯ เป็นต้น

    พระเวท (Veda) เหล่านี้ หากจะใช้ให้ได้ผลต้องเป็นผู้ที่เข้าใจและได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพิธีกรรมเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และสัมฤทธิ์ผล จะต้องมีองค์ประกอบด้วย 4 อย่าง คือ 1) มันตระ 2) พราหมณะ 3) อารัณยก และ 4) อุปนิษัท กล่าวคือ ต้องสวดมนต์สรรเสริญเทพเจ้าได้อย่างคล่องแคล่วและชำนาญ ต้องเข้าใจระเบียบวิธีบูชาที่ถูกต้อง ต้องเป็นผู้ทรงศีลหรือนักพรต และต้องเข้าใจปรัชญาได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งหมายถึงเจ้าพิธีนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ยังมีพระเวทสำหรับชาวบ้านที่เรียกว่า ปุราณะ เพื่อใช้ในการสวดมนต์ด้วยเช่นกัน อันนี้ไม่สงวน ชอบเทพองค์ไหนก็เลือกคาถาตามใจชอบ

    โยคะ (Yoga) เป็นศาสตร์แห่งการรู้แจ้งและการฝึกฝนกาย-จิตสัมพันธ์ของตนเอง อันมีรากฐานมาจากปรัชญาฮินดูโบราณนานกว่าห้าพันปี เป้าหมายของโยคะคือ พัฒนาตัวมนุษย์ ในทุกๆ มิติ เช่น กาย จิต อารมณ์ บุคลิกภาพ ฯลฯ อย่างเป็นองค์รวม ด้วยวิธีการและเทคนิคต่างๆ โยคะมีหลากหลายประเภท ได้แก่ 1) ราชาโยคะ (Raja-Yoga) 2) กรรมโยคะ (Kamar-Yoga) 3) ภักติโยคะ (Bhakti-Yoga) 4) ญาณโยคะ (Jnana-Yoga) 5) ตันตระโยคะ (Tantra-Yoga) 6) หฐโยคะ (Hatha-Yoga) และ 7) มนตราโยคะ (Montra-Yoga) โดยเฉพาะตันตระโยคะเป็นโยคะที่ชี้นำให้ผู้ปฏิบัติทราบว่าด้านมืดและด้านสว่างของชีวิตนั้นแตกต่างกันอย่างไร เป็นโยคะประเภทเดียวที่รวบรวมเอาข้อดีของโยคะประเภทต่างๆ มาประยุกต์ใช้ มีการทำพิธีบวงสรวงเน้นการทำสมาธิให้ได้ถึงระดับญาณเพื่อปลุกพลังภายในร่างกาย และพลังจิตสามารถทำงานผสานกันได้ในขณะที่ทำท่าอาสนะ

    ลัทธิตันตระได้มีการผนวกรวมหรือจับขั้วไว้เป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธมหายาน แล้วเรียกลัทธิใหม่นี้ว่า วัชรยาน (Vajrayana) ซึ่งถือว่ามีหลักปรัชญาสูงเหนือธรรมชาติ มีความแข็งเหมือนเพชร ใสเหมือนอากาศ ไม่มีใครต้านได้เหมือนสายฟ้า จึงเรียกปรัชญานั้นว่า วัชระ (สายฟ้า) ซึ่งเป็นลัทธิที่กำลังมาแรงแซงระเบิดในขณะนี้ และไม่เน้นพิธีสวดก๋งเต๊ก

    อาจจะกล่าวได้ว่าลัทธิตันตระของนิกายศักติได้มีแผ่อิทธิพลกระจายไปทั่วโลก ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องสิทธิสตรีเพศ เพื่อต้องการยกระดับอำนาจและศักดิ์ศรีให้เท่าเทียมกับเพศชาย มีตำรับตำราสมรสสมรักที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจจนหาที่ใดเท่าเทียมมิได้ มีเวทมนต์คาถาที่ลึกลับและมีมนต์ขลัง มีราชโยคะศาสตร์เพื่อการรู้แจ้งและบำบัดเพื่อผ่อนคลาย มีปรัชญา ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่ชวนให้หลงไหลและทึ่งในความอัศจรรย์ เป็นบ่อเกิดลัทธิต่างๆ ที่สำคัญคือ ลัทธิวัชรยาน ที่สำคัญลัทธิตันตระนี้ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม อย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะขอกล่าวสรรเสริญพระเกรียติคุณแห่งองค์มหาเทวีผู้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินพระองค์นี้

    มหาเทวีผู้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน พระนามนี้เป็นใครเอ๋ย?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2007
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    หนึ่ง....ความจริง
    หนึ่ง...หลักสัจจะธรรม
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์....เดียวกัน
    ชื่อเรียก...มากมาย
    คน....เถียงความเชื่อ
    ไม่จบ
    ทะเลาะ...ตีกัน
    โลกวุ่นวาย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    ท่านหนุมาน ผู้นำสาร เมื่อไรท่านจะร้อยเรียงสัจจะธรรมของท่านให้เป็นกิจลักษณะเสียที อย่างน้อยที่สุดก็เขียนบทความที่น่าสนใจให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่านทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ใช่จินตนาอย่างเลือนลอย และไร้ทิศทาง ดูจากประวัติกระทู้ของท่านแล้ว ก็น่าเห็นใจท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่านควรนำข้อความที่ท่านส่งสารสัจจะธรรมไปทั่วให้บังเกิดเป็นรูปธรรมเสียทีเถิด จะได้ประเสริฐยิ่ง ดั่งหนุมานชาญสมรผู้เกรียงไกร
     
  4. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    ลอยกระทงนี้ บูชา มหาเทวีกันเถอะ...แล้วตกลง มหาเทวี คือ ใคร...
     
  5. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    เจ้าแม่กวนอิมเป็นผู้ชาย ท่านคือพระรูปงามรูปนึง เลยจำแรงตัวให้กายเป็นหญิงสาว เพราะเหตุๆนึง

    คล้ายๆกับพระสังกัจจายที่เป็นพระรูปงาม เลยจำแรงตัวให้อ้วน เพราะเป็นเหตุผลคล้ายๆเจ้าแม่กวนอิมอ่ะแล่ะ

    มหาเทวี คือ ก็คือ มหาเทวี ถ้าอยากรู้พระรวมๆก็คือ พระแม่ศักติ ที่ปรากฎอยู่สรรพชีวิตทั้งมวล
    และทุกๆอย่าง เทพ มนุษย์ อสูร และสรรพสัตว์ ถ้าเราไม่มีเราจะไม่มีชีวิตอยู่ เอายิ่งพูดยิ่งงง

    เช่นสมัยของพระคเณชยังเยาวัย มีแมวตัวนึง ไล่ทำร้าย ราชาหนู พระคเณชก็ช่วย ราชาหนูแล้วสั่งสอนแมวซะอ่วมเลย พอพระคเณชกลับบ้าน(เขาไกรลาศ)ก็เจอผู้คนนึงนอนบาดเจ็บโทรมอยู่ที่นอนของพระแม่ปารวตี(พระแม่ศักติอวตาร) พระคเณชทรงตกใจและทำใครทำร้ายพระแม่ได้ พระแม่ก็เล่าประมาณว่า พระแม่ปรากฎอยู่ทุกๆชีวิตรวมทั้งแมวตัวนั้น 1การเบียดเบียนสัตว์ เท่ากับได้เบียดเบียนพระแม่ปารวตี(พระแม่ศักติอวตาร)ด้วย ประมาณนี้ครับขอเล่าแบบรวบๆนะครับ
     
  6. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ต้องศึกษาเรื่องตรีกายต่อนะ ท่านไม่มีเพศ อยู่ที่ว่าท่านจักแสดงเป็เพศอันใดเพื่ออันใด

    อันที่จริงท่าน มีลักษณะเป็น ธรรมกาย อย่าว่าแต่เพศเสียเลย จิตยังไม่มีเลย
    ไม่มีอะไรเลย แต่ลักษณะ เป็น ศูนยตา
     
  7. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    นั้นหน่ะสิ ข้า นับถือสายวัชรยาน สายท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งมหาเถระ ยังไม่รู้เลย
    ว่าเทวี นั้นคือใคร ..........................
     
  8. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    อย่ายุ่งกับผมครับ คุณ ขจรฯ หลายครั้งแล้ว

    ผมเตือนแล้วนะ
     
  9. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    "ความเมตตา สงสาร มีอยู่ในเพศแม่ มากว่าเพศชาย"...เห็นด้วยอย่างยิ่งครับบ..
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    องค์ศักติ ก็คือพระแม่แห่งจักรวาล ส่วนพระแม่มหากาลี เป็นเทพธรรมบาลพระองค์หนึ่ง มีหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนาในทุกยุคทุกสมัย ภาพที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้น ได้มาจากนิมิตที่ถูกส่งลงมาจากเบื้องบน แต่แฝงไ้ว้ด้วยธรรมะ ดูดีๆ มีอุบายธรรมมากมายอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณะที่หลากหลาย อิริยาบถต่างๆ อาวุธต่างๆ
     
  11. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    อีกคนละ ข้าออกมาต้าน ขจรศักดิ์ แต่ทำไมเข้าใจว่าข้าคือขจรศักดิ์
    ข้านับถือวัชรยาน วันนี้ยังไปเข้าพิธีตันตระมาเลย ที่สมุทรปราการ
    เอ็งนำวัชรยานมา โพส ข้าก็สนใจ ข้าผิดไหม ใจกว้างหน่อย

    จักบอกให้นะเฟ้ย คนที่มีหลักฐานพยานฟ้องนายขจรศักดิ์ มีข้าคนเดียวเท่านั้น
    เพราะทีมงานธรรมบาล ให้ข้าตามข้อมูลหลักฐานเอ็งจักเอาอันใดหล่ะ
    .......

    เอ็งนี่ก็แปลก เอ็งยังไปตอบกระทู้ข้่ในอีก User เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...