มีเรื่องจะถามหน่อยคับ

คือ ผมสงสัยว่า ในสมัยพุทธกาลนั้น วัน,เดือน,ปี เขานับกันอย่างไรจะมี 12 เดือนเหมือนปัจจุบันด้วยไหม ในพุทธประวัติยังมีการบอกเล่าช่วงปีต่างๆของพระองค์เป็นวันเป็นปีอย่างละเอียดตั้งแต่ประสูติตรัสรู้ปรินิพาน แต่ทำไม การนับ พ.ศ.พึ่งจะมีมาหลังจากพระพุทธเจ้าดับขรรปรินิพาน ทั้งที่มันควรมีมาพร้อมกับพระองค์ ตั้งแต่แรก และ ผู้ที่เขียนประวัติ หรือ พระไตรปิฎก เขียนในช่วงไหน ถ้าเขียนช่วงพุทธกาล ก็คงยังไม่มี พ.ศ.ที่ใช้ในการเขียนบอกแบบปัจจุบัน
ผมสงสัยจริงๆนะ มีใคร งง กับที่ผมถามมั่งไหมบอกผมได้นะ

 

พระไตรปิฏกเขียนครั้งแรกหลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธุ์ปรินิพานแล้ว3เดือนและมีการสังคายนาต่อมาอีก แต่ว่าปีพ.ศ.นับหนึ่งหลังจากพระองค์เสด็จดับขันธุ์แล้ว ส่วนเวลาที่พระองค์ประสูติน้้นมิได้มีบอกไว้ แต่ปัจจุบันกลับมีคนบอกว่ารู้เวลาประสูตรของพระองค์ ผมว่าคนนั้นน่าจะเก่งกว่าพระสังฆราชอีกเหตุเพราะพระสังฆราชท่านเองก็ไม่รู้ในพระไตรปิฏกมิได้กล่าวไว้ แต่คนที่อวดรู้นี่เก่งกว่าพระสังฆราชอีกครับเหตุเพราะรู้ในสิ่งที่พระสังฆราชไม่รู้ ส่วนวันสำคัญๆต่างๆนั้นเช่นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพานมีในพระไตรปิฏกครับ สมัยพระพุทธองค์นั้นไม่มีการเขียนครับใช้พุทธวจนะคือพระองค์ตร้สแล้วจำๆกันมาครับ. มาเขียนครั้งแรกก็ตอนที่มีบันทึกครั้งแรกนั้นแหละครับ และเป็นภาษามคตโบราณครับก็ต้องแปลเป็นภาษาต่างๆอีกครั้งครับ พระพุทธวจนะในพระไตรปิฏกคือสิ่งเดียวที่พระองค์ทรงทิ้งไว้ให้พวกเราได้มีแผนที่นำทางให้เราเดินตามพระองค์สู่นิพพาน สาธุ

 

มีคนกล่าวไว้ว่าพุทธศาสนาจะดำเนินอยู่ 5000 ปี แสดงว่า คนที่กล่าวคำนี้ มีความรู้ปฎิทินแล้ว ซึ่งสมัยพระพุทธองค์ยังไม่มี ใช่ไหมครับ แล้วเขารู้ได้อย่างไร หรือ พระพุทธองค์ทรงตรัสให้ฟังในช่วงที่ยังไม่มี การนับ พ.ศ. ผมเพียงคิดว่าบางทีการนับวันเวลา ของสมัยพุทธกาลกับปัจจุบันอาจไม่ตรงกัน
สมมุตินะครับ

สงฆ์:ถามว่า พระองค์ทรงประสูติเมื่อใด (ถ้าสงฆ์ถามแบบนี้แสดงว่าสงฆ์ต้องมีความรู้ปฎิทินแต่สมัยนั้นผมคิดว่าสงฆ์ผู้ถามยังไม่รู้ปฎิทินเหมือนกัน)
พระพุทธองค์ จะตอบว่าอย่างไร ในช่วงนั้น ถ้ายังไม่มีการนับ(บางทีสงฆ์ยุคใหม่อาจตีความกันเอาเอง)
ผมคิดว่าผู้คนในสมัยโบราณคงไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก ซึ่งเกิดจากคนยุคหลังที่นับเป็นทั้งสิ้น ที่บอกแม้กระทั่ง ข้างขึ้นข้างแรม ซึ่งมันก็อาจไม่ตรงกันกับสมัยพุทธกาล
มีใคร งง ไหมครับ

 

ถ้าคนยุคก่อนนับพ.ศ ไม่มีปฏิทิน เค้าจะทำการนัดหมายอะไรต่างๆ ได้อย่างไร
อย่างเรื่องสำคัญ เช่น การทำสงครามอะไรต่างๆ
หรือการดูฤกษ์ ยามต่างๆ ของกษัตริย์ ทางโหราศาสตร์
เค้าไม่มีการนับปี พ.ศ แต่ก็มีปฏิทินในแบบของเค้ารึป่าว?

 

อย่างที่คุณหัวมันบอก อะครับ
แล้วทำไมเขาจึงไม่ใช้การนับแบบเดิมที่มีมาก่อน ทั้งที่ช่วงเวลาเกิด พ.ศ. ใหม่แค่เกิดหลังจากพระพุทธองค์แสด็จดับขันธุ์ปรินิพานแค่แปปเดียวเอง
ถ้ามีความแตกต่างจากการนับแบบเดิมมากแน่นอนไม่มีทางคิดปฎิทินมาใช้ได้เร็วขนาดนี้ แสดงว่า การนับแบบ พ.ศ. มีมาก่อน พ.ศ.

 

งั้นก็ขอถามบ้าง ว่า

พ.ศ. เนี่ย ทั่วโลก เขาใช้กันกี่ประเทศ อินเดีย แถวนั้น เขาใช้ พ.ศ. เหมือน เรามั้ย หรือทั้งโลก มีแต่เรา ปท ไทย ที่ใช้ พ.ศ. ครับ

แล้ว ทำไมมีแต่ ไทยเรา ที่ไช้ พ.ศ. ล่ะ อิอิ

 

ถามอีก ว่า ยุค โรมัน เขาใช้ ปี อะไร ก่อน ที่ จะมี ปี คศ
ก็ไหนว่าโลกมี ยุคก่อนๆ ไล่เลียงมา เหมือนรู้ดีมากๆนักประวัติศาตร์ แล้วทำไม ปี คศ มีแค่ สองพันกว่าปีเอง แล้วก่อนหน้านั้น ใช้อะไรนับ ปี

ตกลง โลกเรา จริง มีอายุ ที่นับได้ แค่ สองพันห้าร้อยห้าสิบแปด ปี กับ อายุของพระพุทธเจ้า อีก แปดสิบปี เท่านั้นหรือ (ถ้าไม่มีหลักฐาน ปี ที่นับกัน อิอิ)

ปล ,,, ระวัง พวกบ้าจิตแตก เข้ามาตอบ โดยเฉพาะ พวก มนตด ติงต็อง

 

ตอนเราเรียน เขาเอา วิชา ประหวัดสาด มาให้เราเรียน ยุคหินเก่า หินใหม่ อารยะธรรมเมียชั่วผัวเตะเมีย(เมโสโปเตเมีย) มันเอามาจากไหนมาให้เราเรียนวะ แล้ว ตอนนั้น พวกมัน นับ ปี เป็น อะไรกัน แอตแลนติส อะไรงี้ ....พูดแล้วยังเจ็บใจ แ..่ง ใครวะเอามาให้เรียน ไม่เห็น มันจะได้ประโยชน์อะไรเลย

อิอิ แหง๋มๆ(ตาย)

พูดก็พูดเถอะ เรียนอะไร แ..่ง ทำไมต้องเลียนแบบ พวกฝรั่ง โง่ๆ พวกนั้นด้วยก็ไม่รู้ สมัยนั้นใครวะเป็น ผู้ออก วิชามาให้เราเรียน พึ่งจะมารู้ว่า มันไร้สาระเยอะแยะมากมายเลย แต่ละวิชา

 

ซักหน่อย ปท ไทยเรา ก็ คงจะมีวิชา สื่อสารกับ มนตด(มานุดต่างดาวสมองเสื่อมติงต๊องแห่งอวิชชา)) สื่อสารกับต่างดาว สื่อสารกับพวกนอกโลก สื่อสารกับ สัตว์ในจักรวาลอื่น ๆ เป็นแน่ อิอิ

เนี่ย เมือง แห่ง พุทธศาสนา เริ่มจะเพี้ยนๆ บ้าเรื่อง พระเจ้า กับพวกฝรั่งไปแล้ว อิอิแหง๋มๆ(ตายเรียบ)

 

ผมเห็นด้วย กับ เจ้าของกระทู้นะครับ ที่ท่าน ถาม
อิอิ เพราะ ถามแล้ว พวกที่ ถอดจิตได้ ไปดูนั่นดูนี่ ดู อดีต ดูอนาคตได้ ช่วยเข้ามาตอบหน่อยเถอะ หรือ มีแต่ พวกเพ้อฝัน ละเมอลมๆแล้งๆ ไปวันๆ อวดตนว่าเก่ง ทั้งนั้น
ว่า ตกลง โลกเราเนี่ย มนุษย์เราเนี่ย มันเป็นมาอย่างไร ถ้ารู้คำตอบแล้ว เกิดประโยชน์อะไรมั้ย หรือ มีแต่ทำให้ โลกร้อนขึ้น ความอยากมากขึ้น ความหลงมากขึ้น อิอิ แหง๋มๆ(ตายเรียบ)

 

จำเป็นไหมว่าจะต้องมี12เดือน มี1วันเท่ากับโลกหมุน1รอบ

ใครเก่งๆลองมาจัดสรรตัวเลขปฎิทินแบบใหม่กันดูนะ จะให้มันมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการจัดสรรตัวเลขตรงนี้แหละ

บางทีถ้าคิดได้แล้วทฎษฎีต่างๆอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

 

ลองศึกษาประวัติของชาวมายัญรึอัไรนี่แหละเค้าเป็นมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยอมรับกัน เค้ามีการนับปีกันมานานแล้วครับ ลองค้นหาดู ส่วนพุทธศาสนาจะอยู่ได้5000ปีนั้นพระองค์ทรงตรัสเองครับแล้วจะว่างจากพระศาสนาและต่อไปจะถึงยุคของพระศรีอารยเมตรัย. แต่น่าจะมีคนอียิปโบราณที่ใช้การนับปฏิทินนะไม่แน่ใจลองค้นดูครับ. ยังมีชนเผ่าอื่นที่นับตามดวงจันทร์มีมืดมีสว่างจึงเป็นข้างขึ้นข้างแรมแต่เค้านับเป็นวันครับมีมานานแล้ว ก่อนพุทธกาลอีก ยุคศาสนาพรามห์ และฮินดู ก่อนพระพุทธเจ้าจะประสูติอีกครับ ต้องค้นจากประวัติศาสตร์โบราณน่าจะมีบอกไว้ครับ แต่ว่าการนับแล้วแต่ความเชื่อของคนในยุคนั้นๆจะไม่เหมือนกันครับตามแต่วัฒนธรรมของชนเผ่านั้นๆ ครับ

 

หัดโล๊ะทิ้งของเก่าซะบ้าง แล้วจะมีของใหม่เข้ามาในชีวิต

 

งงทำไมครับ ถ้าถามว่าพระพุทธองค์ประสูติเมื่อไร
เขาจะตอบว่า วันเพ็ญ เดือน ๖ ก่อน พ.ศ. แปดสิปีครับ
ไม่ได้ระบุว่าวันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิทินอาจคำนวนย้อนหลังได้

การตอบว่า ประสูติก่อนพ.ศ. แปดสิบปี ก็มาจากข้อมูลที่ว่า
พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานขณะมีพระชนมายุแปดสิบปีนั่นเอง

 

อย่าไปสงสัยเลย ปฏิบัติไปเถอะแล้วจะรู้เอง

 

ส่วนมากปีเขานับตามรัชกาลของผู้ครองเมืองในยุคนั้นๆ
ตัวอย่าง สมัยสุโขทัย อยุธยา แม้ รัตนโกสินทร์ ก็มีปีนับของตนเอง

ส่วน พ.ศ. ก็แปลว่า พุทธศักราช ก็คือ เพื่อนับอายุพุทธศาสนา ซึ่งอันที่จริง
จะใช้กันภายในพระภิกษุสงฆ์เท่านั้นก็ได้
แต่ประเทศไทย เป็นประเทศพุทธเต็มตัว จึงใช้พุทธศักราช
ซึ่งจะทำให้ดูมีประวัติศาสตร์ยาวนาน

เพราะฝรั่งที่เข้ามาติดต่อค้าขาย เขาก็นับอายุศาสนาตามพระคริสต์อยู่แล้วด้วย

 

งงได้น่าอัศจรรย์มาก
ไปเรียนประถมใหม่เถอะ เดี๋ยวก็รู้เรื่อง
เรียนศึกษาผู้ใหญ่น่ะ

 

อียิป ครับ เค้านับจากดวงดาว และ ฤดูกาล นับเดือน ปี มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนมันมี ค.ศ. พ.ศ. นั้นแหละ แต่สมัยพุทธกาลไม่รู้เค้านับยังไง แต่มีปฏิทินใช่แน่นอนครับ

 

จันทรคติ,สุริยะคติ

ขออนุญาตครับ

ศาสนาพราห์ม มีมาก่อนพุทธศาสนา เพราะพระพุทธองค์ก็เกิดเป็นพราห์ม
ศาสนาพราห์มเขานับวันเดือนปีแบบจันทร์คติ คือนับตามการมองเห็นลักษณะของดวงจันทร์
พระจันทร์มืดสุด เรียกว่าพระจันทร์ดับ เรียกว่า แรม 14 หรือ 15 ค่ำ
พระจันทร์สว่างสุด เรียกว่า พระจันทร์เพ็ญ คือวันเพ็ญ 14 หรือ 15 ค่า
การนับเดือนก็ตั้งแต่ วันแรม 1 ค่ำ ไปจนถึง วันแรม 14/15 ค่ำ แล้วต่อด้วย วันขึ้น 1 ค่ำ ไปจนถึง วันขึ้น 14/15 ค่ำ
ดังนั้นใน 1 เดือน ก็จะมี 28 วัน ไปจนถึงมากสุด 30 วัน
ส่วนชื่อของเดือน ก็ตั้งแต่เดือน 1 ไปจนถึงเดือน 12
ส่วนปีก็นับ เป็นรอบๆละ 12 ปี คือปีชวด ปีฉลู ปีขาล .......ไปจนถึงปีกุล
พ.ศ ค.ศ ยังไม่มีเขาก็นับ ปีที่กษัตริย์แต่ละประเทศ แต่ละพระองค์ คารองราชเป็นปีที่ เท่านั้นเท่านี้
หรือนับปีตั้งประเทศ ตั้งเมืองหลวงแทน เช่น ร.ศ คือรัตน์โกสินธุ์ศก นับปีที่ตั้งกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวง เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีวอก ร.ศ ๑๑๒ เป็นปีที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๔เป็นต้น
นอกจากนี้ก็มีการกำหนด ฤดู เช่น ร้อน ฝน หนาว เป็นต้น

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ตามลุงมหาครับ

จริงๆเค้านับตามกาลของศาสนากันเป็นส่วนมาก
ทางฝรั่งนับ ค.ศ. คริสต์ศตวรรษ
ของไทยเรา พ.ศ. เมื่อก่อนไทยเรานับ ร.ศ. รัตนโกสิทน์ศก ด้วยซ้ำ

แต่ก่อนหน้านั้นย่อมมีวิธีนับที่แตกต่างกันบ้าง เนื่องจากสมัยก่อนอาณาจักรต่างๆ เกิดขึ้น รุ่งเรือง ตั้งอยู่ ดับไป การติดต่อข้ามอาณาจักรไม่สะดวก ช่วงไหนอาณาจักรไหนใหญ่ก็กำหนดการนับวันเดือนปีของตน จึงมีหลายวิธีนับ หลังๆฝรั่งเค้าเลยนับ BC. ---- คือเก่ากว่าการเกิดของศานาคริสต์ นับเป็น บีฟอร์ไคร์ส หมด จะก่อน ค.ศ กี่ปี ก็ว่าไป

ดูที่นี่ได้ครับ https://th.wikipedia.org/wiki/ปฏิทิน