มูลนิธิเด็กบวชเณรภาคฤดูร้อน พัฒนาเด็กตามหลักไตรสิกขา

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 เมษายน 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]นับเป็นปีที่ 15 ของโครงการอาหารเพลเพื่อสามเณรและชุมชน มูลนิธิเด็ก ที่ได้สนับสนุนกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนในวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนนับเป็นกิจกรรมพัฒนาเด็ก โดยประยุกต์พุทธประเพณีบวชเรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย และใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียนให้เด็กได้ฝึกฝนอบรมตนตามแนวพุทธธรรม

    การบรรพชาสามเณรเป็นการพัฒนาเด็กอย่างสมบูรณ์ครบทั้ง 4 มิติ คือ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์สังคม และสติปัญญา ภายในหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

    เด็กและเยาวชนที่เข้ามาบวชเป็นสามเณรจะได้ฝึกฝนตนตามหลักไตรสิกขา คือ "ศีล" การฝึกฝนร่างกายและสังคมหรือพฤติกรรม ผ่านกิจวัตรและงานประจำวัน และอิริยาบถ 4 เดิน ยืน นั่ง นอนอย่างสำรวม และมีสติ "สมาธิ" การฝึกฝนอารมณ์และจิตใจ ผ่านการสวดมนต์เช้า-เย็น นั่งสมาธิ เดินจงกรมทำจิตใจให้สงบและมีสติ "ปัญญา" การฝึกฝนสติปัญญา ผ่านการศึกษาเรียนรู้พระพุทธประวัติ หลักธรรม นิทานชาดก และวิธีคิดแบบพุทธ
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลักไตรสิกขาเป็นกระบวนการฝึกฝนตนอย่างครบทุกมิติในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่จริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจหลักธรรมของพระพุทธศาสนา นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม และพฤติกรรมที่ดีงาม รวมทั้งเป็นการสร้างสามเณรศาสนทายาทที่จะศึกษาต่อในระบบการศึกษาของสงฆ์ต่อไป

    ลองมาฟังความในใจของสามเณรที่เข้าร่วมบรรพชาในปีที่แล้ว และกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เริ่มจาก "สามเณรเจนณรงค์ ทะนะอ้น" ชั้น ม.1 โรงเรียนวัดนิโครธาราม จังหวัดน่าน เล่าถึงคุณค่าของการบวชว่า "การบวชนี้ได้ฝึกฝนตนเองให้อยู่ในหมู่คณะ อยู่แบบไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่เห็นแก่ตัว อยู่อย่างสงบ ทำงานเป็นทีม ไม่เห็นแก่ปากท้อง ยังได้ศึกษาเล่าเรียน สิ่งที่ไม่เคยลืมตลอดทีได้มาบวชก็คือเป็นผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญ เป็นผู้มีธรรมในตัว เป็นที่รักใคร่ของประชาชน"

    "สามเณรวัชรินทร์ ธรรมศิริ" ชั้น ม.1 เล่าความรู้สึกที่ได้มาบวชว่า "ก่อนที่จะบวชมีความรู้สึกว่าไม่อยากบวชเลย แต่พอได้มาบวชก็ได้อะไรหลายๆ อย่าง ได้เพื่อนใหม่ ได้ความรู้จากการศึกษาอะไรใหม่ๆ เช่น การศึกษาภาษาบาลี ภาษาล้านนา และได้รู้จักถึงการดูแลตัวเอง"

    "สามเณรทรัพย์ คำรศ" ชั้น ม.1 บอกเล่าความตั้งใจในการบวชว่า "การบรรพชาเป็นสามเณรนั้นก็ไม่ง่ายเหมือนพวกเราคิด ต้องหมั่นศึกษาเล่าเรียนเพียรเพื่อพระพุทธศาสนาของเรา ขอสัญญาว่าจะทำตัวให้เหมาะสมกับสมณสารูปให้มากยิ่งขึ้น"

    "สามเณรยุทธนา นูทอง" ชั้น ม.1 โรงเรียนวัดศรีสะอาด จังหวัดอุดรธานี เล่าถึงความรู้สึกของการบวชว่า "การบวชนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ใช่นึกอยากจะมาบวชเพื่อความสนุกสนาน แต่ที่ผมมาบวชเรียน ก็เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าได้สั่งสอนมา ผมจะทำให้ดี และนำไปปฏิบัติเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมและพุทธศาสนาต่อไป"

    สุดท้าย "สามเณรณัฐวุฒิ สุทธเขต" ชั้น ม.1 โรงเรียนวัดดอนมงคลสันติสุขวิทยา จังหวัดน่าน บอกถึงความรู้สึกว่า "ดีใจมากที่ได้มาบวช เพราะว่าต้องการที่จะเรียนหนังสือต่อ ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ เพื่อทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ บวชเพื่อศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคน จากคนในพื้นที่ต่างๆ การอยู่ร่วมกันทำให้รู้จักช่วยเหลือตนเองมากยิ่งขึ้น"

    ในปี 2549 นี้ โครงการอาหารเพลเพื่อสามเณรและชุมชน จะจัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนขึ้น เพื่อสนับสนุนการบรรพชาสามเณร จำนวน 1,000 รูป ในวัดจำนวน 22 แห่ง ระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2549 จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมอุปถัมภ์การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเป็นจำนวนเงินรูปละ 999 บาท สนใจติดต่อ มูลนิธิเด็ก โทร.0-2814-1481-7
     

แชร์หน้านี้

Loading...