วันพิเศษของคุณ!!ร่วมทำบุญกับเด็กกำพร้าที่ติดเอดส์ที่บ้านเด็กธรรมรักษ์ได้กุศลมาก

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thitapa, 25 เมษายน 2010.

  1. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    วันเกิดปีนี้คุณ ทำบุญแล้วหรือยัง?
    ถ้าคุณอยากที่จะทำบุญกับเด็กกำพร้า ที่ติดเชื้อเอดส์ และด้อยโอกาสด้านการศึกษา

    ร่วมทำบุญกับเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์ ที่
    บ้านเด็ก ธรรมรักษ์ : บ้านเด็กธรรมรักษ์ บ้านหลังเล็กของเด็ก ๆ ด้อยโอกาส — K i d H o m e
    kidhome เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งที่ด้อยโอกาสทางสังคม อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน โดยมีพระรูปหนึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์ ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุข

    บ้านหลังเล็กหลังนี้ ชื่อว่าบ้านเด็กธรรมรักษ์ หลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นหู หรือว่าไม่รู้จัก เป็นบ้านที่สร้างขึ้นมา เพื่อรองรับเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสทางสังคม เด็กที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ติดเชื้อ HIV หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าโรค AIDS เอดส์ นั่นเอง
    เดิมทีวัดพระบาทน้ำพุยังไม่ได้มีบ้านเด็ก ธรรมรักษ์ แต่หลังจากที่มีผู้ขอเข้ารับการดุแลที่วัด อุ้มลูกมาที่วัดด้วย พอพ่อแม่เสียชีวิต ลูกก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน หลวงพ่อ (พระอุดมประชาทร)หรือที่เราเรียกติดปากว่า พระอาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ท่านก็ต้องคิดหาที่ทางเพื่อที่จะสร้างบ้านให้เด็ก ๆ พวกนี้อยู่
    หลังจากที่มีที่มีบ้านแล้ว ปัจจัยพื้นฐานต่อมาก็คือการศึกษา ท่านก็ได้สร้างโรงเรียนขึ้นมา แล้วทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เข้ามาดูแลอีกทีนึง โดยใช้ชื่อว่า
    โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 33 จังหวัดลพบุรี
    บ้านหลังเล็ก ๆ หลังนี้ จากที่มีเด็กอยู่แค่เพียงไม่กี่คน เริ่มเพิ่มเป็นสิบคน และเริ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน ณ วันนี้วันที่ 8 มกราคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 89 คน
    การดูแลเด็ก ๆ ที่ติดเชื้อ
    HIV ไม่ได้แตกต่างจากการดูแลเด็กปกติสักเท่าใด จะต่างกันก็ตรงที่เด็ก ๆ พวกนี้ต้องทานยาต้านไวรัสให้ตรงเวลา และควบคุมเรื่องอาหารการกิน ที่ถูกหลักโภชนาการให้ครบ 5 หมู่ ได้รับการตรวจเลือดสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคฉวยโอกาส

    ที่ตั้งบ้านหลังเล็ก
    บ้านเด็กธรรมรักษ์
    2 หมู่ 5 ต.ดงดินแดง
    อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี 15170
    โทรศัพท์ 036796888, 0818313441
    ร่วมบุญกับบ้านเด็กธรรมรักษ์
    บัญชีบ้านเด็กธรรมรักษ์ ออมทรัพย์
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองม่วง
    เลขที่บัญชี 180-2-49545-1
    ถ้าโอนเงินแล้วต้องการอนุโมทนาบัตร รบกวน FAX ใบโอนเงินมาที่ 036796888 ต่อ 116
    หรือ 036796878
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0818313441
    หรือ E-mail :
    kidhome1@gmail.com
    หรือแวะเยี่ยมชม ที่ http://www.kidhome.org
    หรือ ที่
    http://www.phrabatnampu.org/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • noopao.jpg
      noopao.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.7 KB
      เปิดดู:
      499
  2. namangka

    namangka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +61
    ถ้าอยากจะไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงหรือครูอาสา ต้องทำยังไงบ้างคะ
     
  3. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    วันเกิดปีนี้คุณทำบุญแล้วหรือยัง?

    ลองโทรติดต่อสอบถามที่ท่านเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หรือ โทรศัพท์ 036796888, 0818313441 ดูซิคะ:cool:
     
  4. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    ความจริงยังมีที่น่าทำบุญอีกที่หนึ่งค่ะ เคยไปทำบุญมาหลายครั้งแล้ว เด็กน่าสงสารเพราะถูกทอดทิ้ง และพิการด้วยค่ะ วันพิเศษต่างๆ ของคุณลองไปทำบุญเลี้ยงเด็ก หรือโอนเงินร่วมทำบุญก็ได้นะคะเด็กพวกนี้เขาไม่มีโอกาสเหมือนเราๆ ค่ะ

    บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน (อยู่แถวรามอินทราค่ะ )

    เนื่องจากสถานศึกษาหลายแห่งได้
    ปฏิเสธการรับนักเรียนตาบอดพิการซ้ำซ้อน บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน (หมายถึง คนตาบอดที่มีความพิการอย่างอื่นรวมอยู่ด้วยในคนคนเดียว มีการพิการสองอย่างหรือ มากกว่า เช่น ตาบอดและหูหนวก ตาบอดและปัญญาอ่อน หรือ ทั้งตาบอดหูหนวก และปัญญาอ่อน เป็นต้น)
    กรุงเทพมหานคร จึงเป็นสถานที่พักพิงสำหรับ เด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อนผู้ยากไร้ ให้ความช่วยเหลือด้าน ปัจจัย 4จัดการศึกษาและฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นทั้งโรงเรียนและบ้านในบรรยากาศของครอบครัวที่มีครูและเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
    ท่านสามารถช่วยเหลือให้มูลนิธิฯสามารถดำเนินกิจการช่วยเหลือเด็กตาบอดและพิการซ้ำซ้อนเหล่านี้ได้ต่อไป โดยวิธีดังต่อไปนี้
     
  5. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    บริจาคทุนทรัพย
    ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหรือจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
    โดย
    1) ส่งเป็นธนานัติ สั่งจ่ายในนาม “มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยฯ” สั่ง จ่ายปลายทาง ปณ.รามอินทรา และส่งไปที่ เลขที่ 21/13 ซ.รามอินทรา 34 แยก 19 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10230 พร้อมส่งชื่อ และที่อยู่ของผู้บริจาคไปด้วย เพื่อทางมูลนิธิฯ จะได้จัดส่งใบเสร็จรับเงินมายังท่านต่อไป
    2) โอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี “มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยฯ”
    ธนาคารกรุงเทพ สาขารามอินทรา เลขที่บัญชี 187-0-50438-6
    ธนาคารกรุงไทย สาขารามอินทรา เลขที่บัญชี 060-1-10245-2
    ธนาคารไทยพานิชย์ สาขารามอินทรา เลขที่บัญชี 076-1-04908-8
    การเลี้ยงอาหารเด็ก
    มื้อเช้า เวลา 7.00 น. (1,000 บาท)
    มื้อกลางวัน เวลา 11.00 น. (1,500 บาท)
    มื้อเย็น เวลา 16.00 น. (1,500 บาท)
    หมายเหตุ มื้อเช้า ประมาณ 60 ที่ มื้อกลางวันและมื้อเย็น ประมาณ 60 ที่ และหากต้องจองเลี้ยง กรุณาสอบถามตารางล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ เพื่อนัดหมายเวลา
    แวะเยี่ยมชมกิจกรรม บริจาคทุนทรัพย์ บริจาคสิ่งของได้ทุกวัน
    อาหารสด / อาหารแห้ง / ยารักษาโรค
    ของใช้ประขำวัน / เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม
    ของเล่น / สื่อและอุปกรณ์เสริมพัฒนาการเด็ก
    ภารกิจ
    ให้การฟื้นฟูสมรรถภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่เด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือ และดูแลตนเองได้ในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และการดำเนินชีวิตให้พิ่งพาคนอื่นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยเน้นให้เด็กที่ได้รับการฝึกตามศักยภาพของตนเอง
    ลักษณะการทำงาน
    จะเป็นการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ / นักขัตฤกษ์ เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติงานเป็น 2 ช่่วง เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่จะอยู่แบบประจำ เนื่องจากเป็นเด็กกำพร้าและถูกทอดทิ้ง
    การบริการ
    มีทั้งอยู่ประจำ เสาร์-อาทิตย์กลับบ้าน เช้ามา-เย็นกลับ หรือ กลับในช่วงปิดเทอม
    หลักเกณฑ์ผู้พิการซ้ำซ้อน
    จะต้องมีความพิการด้านสายตาเป็นหลัก และมีความพิการด้านอื่นๆด้วย เช่น ตาบอดหูหนวก ตาบอดพิการทางสมอง และรับตั้งแต่อายุแรกเกิด จนถึง 12 ปี
     
  6. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    สิ่งของที่ต้องการรับบริจาค
    เครื่องแต่งกาย
    กางเกงขาสั้นเอวหูรูด / ยางยืด / กางเกงวอร์มขายาว
    การเกงชั้นในชาย และ หญิง ขนาด M และ L
    เสื้อชั้นในเด็กหญิง (เฟริสบรา แบบครึ่งตัว)
    ชุดว่ายน้ำผู้ใหญ่ / ชุดว่ายน้ำเด็ก 6 ขวบ
    ถุงเท้า นักเรียน อนุบาล จนถึง 20 ปี สีขาว และสีน้ำตาล
    รองเท้าหุ้มส้นเด็ก และ ผู้ใหญ่
    ยารักษาโรค
    ถุงมือยาง (แพทย์)
    ฮีรูดอยด์ ครีม
    เคาน์เตอร์แพนท์เจล (ทั้งแบบร้อน และเย็น)
    Amonxycillin
    Cloxacillin
    สบู่ โลชั่น
    แชมพูสระผม (ขนาด 400มล)
    สบู่อาบน้ำเดทตอล (ก้อน/ขวด)
    โลชั่นทาผิว
    โรลออน
    น้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาด
    น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เดทตอล
    ยาฉีดยุง แบบสเปย์
    ชีลด์ท้อกซ์ อัลตร้า ลิควิด
    ผงซักฟอกเครื่อง
    น้ำยาปรับผ้านุ่ม
    น้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์
    น้ำยาถูพื้น
    น้ำยาล้างห้องน้ำ
    อาหาร
    ไข่ไก่สด
    นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม
    น้ำมันพืช
    น้ำปลา
    ซอส
    ของเล่น
    ของเล่นชนิดมีเสียงดนตรี และเสียงสัตว์ต่างๆ
    อื่นๆ
    ผ้าอนามัย(สำหรับเด็กผู้หญิง)
    ถุงขยะ ขนาด 30x40
    ถุงขยะ ขนาด 36x45
    ถุงขยะ ขนาดเล็ก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. thitapa

    thitapa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +77
    บทความนี้คัดลอกมาอีกทีค่ะ

    เรื่องการทำบุญทำกุศลให้อานิสงส์แรงสุดนี้ ได้มีญาติมิตรผู้คุ้นเคยได้สอบถามผมอยู่บ่อยครั้งว่า จะทำบุญอย่างไรจึงจะได้ผลบุญหรืออานิสงส์มากที่สุด? เมื่อผมเริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ๆ ได้เคยนมัสการสอบถามท่านหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา พระอาจารย์ของผม เกี่ยวกับเรื่องวิธีการทำบุญ และกฎของกรรม ท่านได้กรุณาตอบว่า "ให้หมั่นทำบุญบ่อยๆ กรรมเก่าจะได้ติดตามไม่ทัน" ในชั้นแรก ผมเองก็ไม่สู้จะเข้าใจกระจ่างชัดในคำตอบของท่านนัก เพราะจำได้ว่า พระมหาโมคัลลานะ อัครสาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้บรรลุพระอรหัตผลแล้ว เมื่อก่อนจะนิพพานยังต้องยอมชดใช้กรรมเก่าที่ท่านได้เคยฆ่าบิดามารดาใน อดีตชาติติดตามมาทัน แต่เมื่อผมได้เจริญวิปัสสนากรรมฐานมาถึงระดับหนึ่ง ก็ได้เกิดปัญญาหาคำตอบในเชิงอุปมาอุปมัยที่ตนเองเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถมาถ่ายทอดเป็นความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ที่สนใจได้ในระดับหนึ่งดังจะ กล่าวต่อไปนี้
    สมมุติว่า เรามีคนโทหรือเหยือกแก้วใสบรรจุน้ำไว้ น้ำที่บรรจุอยู่ในภาชนะดังกล่าวมีปริมาณเป็นน้ำสะอาดอยู่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือเป็นปริมาณสิ่งสกปรกตะกอนประกอบด้วยแบคทีเรีย จุลินทรีย์ เชื้อโรคต่างๆ อีก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ หากถึงวาระที่จำเป็นต้องดื่มน้ำในภาชนะนั้นทันที ผู้ดื่มน้ำนั้นก็จะต้องบริโภคเชื้อโรคเข้าไปพร้อมๆกันด้วย จึงมีโอกาสที่จะบังเกิดโรคาพยาธิ เช่น อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ ขึ้นได้ทันตาเห็น อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถึงวาระถึงเวลาที่จะต้องดื่มนั้น และผู้ที่มีหน้าที่บริโภคน้ำนั้นมีสติตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นเติมน้ำสะอาดลงไปในภาชนะนั้นให้มากๆ อยู่เป็นประจำ ปริมาณน้ำบริสุทธิ์จะเพิ่มมากขึ้นโดยลำดับ ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบเป็นสัดส่วนกับสิ่งสกปรกที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว น้ำบริสุทธิ์จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากกว่าสิ่งสกปรกโดยลำดับ เมื่อถึงวาระเวลาที่ผู้ดื่มจำเป็นต้องดื่มน้ำจากภาชนะนั้น ปริมาณน้ำบริสุทธิ์อาจเพิ่มเป็น ๙๐ เปอร์เซ็นต์ และสิ่งสกปรกจะมีปริมาณเหลือเพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ก็ได้ เชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในน้ำจึงไม่สามารถสร้างทุกข์โทษเป็นโรคาพยาธิภัยแก่ผู้ ที่ดื่มน้ำนั้นได้ หรืออย่างแรงสักหน่อยก็เพียงแต่ทำให้เกิดการระบายท้องอ่อนๆ แก่ผู้ดื่มน้ำเท่านั้น

    ปริมาณ น้ำบริสุทธิ์ และสิ่งสกปรกที่เจือปนอยู่ในน้ำที่ได้กล่าวไว้ในตอนแรกก็ คือ กรรมเก่า วาระเวลาที่ต้องบริโภคน้ำนั้น ก็คือ กำหนดเวลาที่กรรมเก่าได้ติดตามมาถึง การหมั่นเติมน้ำบริสุทธิ์ลงไปในภาชนะก่อนที่จะถึงวาระเวลาที่จะต้องบริโภค น้ำก็คือ การหมั่นทำบุญทำกุศลบ่อยๆ ตามที่ท่านหลวงพ่อพุธฯ ได้กรุณาแนะนำนั่นเอง


    ความ เข้าใจ และวิธีอุปมาอุปมัยดังกล่าวข้างต้น ผมได้นมัสการกราบเรียนถามท่านหลวงพ่อพุธฯ แล้ว ได้รับคำยืนยันจากท่านว่า เป็นการอุปมาอุปมัยที่ถูกต้อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...