สรีระที่มีวิญญาณนี้เหมือนสรีระที่ตายแล้วนั่น

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 6 มีนาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๒๗๙/๔๑๘
    [๓๑๒] ถ้าว่าบุคคลเที่ยวไป ยืนอยู่ นั่ง นอน คู้เข้าหรือเหยียดออกนั่นเป็น
    ความเคลื่อนไหวของกาย กายประกอบแล้วด้วยกระดูกและเอ็นฉาบด้วย
    หนังและเนื้อ ปกปิดด้วยผิว เต็มด้วยไส้ อาหาร มีก้อนตับ มูตร
    หัวใจ ปอด ม้าม ไตน้ำมูก น้ำลาย เหงื่อ มันข้น เลือด ไขข้อ
    ดี เปลวมันอันปุถุชนผู้เป็นพาล ย่อมไม่เห็นตามความเป็นจริง อนึ่ง
    ของอันไม่สะอาดย่อมไหลออกจากช่องทั้งเก้าของกายนี้ทุกเมื่อ คือขี้ตา
    จากตา ขี้หูจากหู และน้ำมูกจากจมูก บางคราวย่อมสำรอกออกจากปาก
    ดีและเสลดย่อมสำรอกออก เหงื่อและหนองฝีซึมออกจากกาย อนึ่ง
    อวัยวะเบื้องสูงของกายนี้เป็นโพลง เต็มด้วยมันสมอง คนพาลถูก
    อวิชชาหุ้มห่อแล้ว ย่อมสำคัญกายนั้นโดยความเป็นของสวยงาม ก็เมื่อ
    ใด เขาตายขึ้นพอง มีสีเขียว ถูกทิ้งไว้ในป่า เมื่อนั้น ญาติทั้งหลาย
    ย่อมไม่ห่วงใย สุนัขบ้าน สุนัขจิ้งจอก หมาป่า หมู่หนอนกา แร้ง
    และสัตว์เหล่าอื่น ย่อมกัดกินกายนั้น ภิกษุในศาสนานี้ ได้ฟังพระ
    พุทธพจน์แล้ว มีความรู้ชัด เธอย่อมกำหนดรู้กายนี้ ย่อมเห็นตามความ
    เป็นจริงทีเดียว สรีระที่มีวิญญาณนี้เหมือนสรีระที่ตายแล้วนั่น สรีระที่
    ตายแล้วนั้นเหมือนสรีระที่มีวิญญาณนี้ ภิกษุพึงคลายความพอใจในกาย
    เสียทั้งภายในและภายนอก ภิกษุนั้นมีความรู้ชัดในศาสนานี้ ไม่ยินดี
    แล้วด้วยฉันทราคะ ได้บรรลุอมฤตบท สงบดับไม่จุติ กายนี้มีสองเท้า
    ไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น อันบุคคลบริหารอยู่ เต็มไปด้วยซากศพต่างๆ
    ถ่ายของไม่สะอาดมีน้ำลายและน้ำมูกเป็นต้นให้ไหลออกจากทวารทั้ง
    เก้า และขับเหงื่อไคลให้ไหลออกจากขุมขนนั้นๆ ผู้ใดพึงสำคัญเพื่อ
    ยกย่องตัวหรือพึงดูหมิ่นผู้อื่น จักมีอะไร นอกจากการไม่เห็นอริยสัจ ฯ
     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    กราบอนุโมทนา สาธุ ๆ บุญกุศล
    ในการเผยแพร่พระธรรมด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...