เรื่องเด่น สัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก พระสุนทรธรรมากร(หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธีระนะโม, 17 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ธีระนะโม

    ธีระนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,700
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,237
    ?temp_hash=06f3b07db531cdb7563956aaec6791bf.jpg
    สัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก


    - คำว่า “ สัทธิวิหาริก ” กับ “ อันเตวาสิก ” นั้น ผู้ที่เคยผ่านการบวชเรียนมาแล้วคงจะคุ้นเคยกับสองคำนี้มากกว่าคนทั่วๆ ไป แต่ก็ยังมีหลายท่านที่เข้าใจสับสนกันในระหว่างสองคำนี้ ในหนังสือ “ พูดจาภาษาวัด ” โดย กรมการศาสนา ปี พ.ศ. 2544 และหนังสือ “ คำวัด ” โดย พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร รวมทั้ง “ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ” โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙) ได้อธิบายความหมายของทั้งสองคำนี้ไว้ว่า...

    - “ สัทธิวิหาริก ” แปลว่า ผู้อยู่ด้วย เป็นคำเรียกผู้ที่ได้รับอุปสมบท คือ ถ้าอุปสมบทต่อพระอุปัชฌาย์รูปใด ก็เป็นสัทธิวิหาริกของพระอุปัชฌาย์รูปนั้น ผู้สมัครใจขออุปสมบทต้องปฏิญญาว่ามีศรัทธาเลื่อมใส ขอสมัครอุปสมบทในพระพุทธศาสนา จึงขอมอบตัวเป็นสัทธิวิหาริกในพระอุปัชฌาย์ และเมื่อได้อุปสมบทแล้ว จะเคารพนับถือเชื่อฟัง ตั้งอยู่ในโอวาทของพระอุปัชฌาย์ และจะประพฤติดี ปฏิบัติชอบตามพระวินัย ระเบียบแบบแผนของวัด และคณะสงฆ์ตลอดไป เมื่ออุปสมบทแล้ว พระอุปัชฌาย์จะออกหนังสือสุทธิให้แก่สัทธิวิหาริก พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนไว้ และจัดทำบัญชีสัทธิวิหาริกที่อุปสมบทในปีหนึ่ง ๆ ส่งพระสังฆาธิการผู้บังคับบัญชาตามลำดับ

    - ที่เรียกว่า สัทธิวิหาริก นั้น เพราะพระวินัยกำหนดไว้ว่า ภิกษุผู้บวชใหม่จะต้องถือนิสสัยโดยอยู่กับพระอุปัชฌาย์อย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้พระอุปัชฌาย์อบรมแนะนำสั่งสอนเหมือนบิดาสอนบุตร ภิกษุผู้มีพรรษาพ้น 5 แล้ว ไม่ต้องถือนิสสัยต่อไป เรียกภิกษุนั้นว่า นิสสัยมุตตกะ ( ผู้พ้นนิสสัยแล้ว) ธรรมเนียมหรือข้อปฏิบัติ ที่สัทธิวิหาริกพึงกระทำต่อพระอุปัชฌาย์ของตนโดยย่อ คือ เอาใจใส่ ปรนนิบัติรับใช้ คอยศึกษาเล่าเรียนจากท่าน ขวนขวายป้องกันหรือระงับความเสื่อมเสีย เช่น ความคิดจะสึก ความเห็นผิด เป็นต้น รักษาน้ำใจของท่าน มีความเคารพ จะไปไหนก็บอกลา ไม่เที่ยวตามอำเภอใจ และเอาใจใส่พยาบาลเมื่อท่านอาพาธ เรียกข้อปฏิบัติเหล่านี้ว่า... “ อุปัชฌายวัตร ”
    ส่วนหน้าที่หรือข้อควรปฏิบัติอันพระอุปัชฌาย์จะพึงกระทำแก่สัทธิวิหาริก คือ
    1. เอาธุระในการศึกษา
    2. สงเคราะห์ด้วยบาตร จีวร และบริขารอื่น ๆ
    3. ขวนขวาย ป้องกัน หรือระงับความเสื่อมเสีย เช่น ระงับความคิดจะสึก เปลื้องความเห็นผิด ฯลฯ
    4. พยาบาลเมื่ออาพาธ
    เรียกข้อปฏิบัติเหล่านี้ว่า “ สัทธิวิหาริกวัตร ”
    - สำหรับ “ อันเตวาสิก ” แปลว่า ผู้อยู่ภายใน ใช้เรียกภิกษุผู้อาศัยอยู่กับอาจารย์ หรือภิกษุผู้มิใช่พระอุปัชฌาย์ของตน เช่น บวชจากวัดนี้ไปอาศัยอยู่กับอาจารย์อีกวัดหนึ่งเพื่อเล่าเรียน ดังนี้เรียกว่าเป็นอันเตวาสิกของวัดนั้น
    อันเตวาสิก มี ๔ ประเภท คือ
    1. ปัพพชันเตวาสิก คือ อันเตวาสิกในบรรพชา
    2. อุปสัมปทันเตวาสิก คือ อันเตวาสิกในอุปสมบท
    3. นิสสยันเตวาสิก คือ อันเตวาสิกผู้ถือนิสสัย
    4. ธัมมันเตวาสิก คือ อันเตวาสิกผู้เรียนธรรม

    ดังนั้น “ สัทธิวิหาริก ” จึงคู่กับ “ อุปัชฌาย์ ” ส่วน “ อันเตวาสิก ” คู่กับ “ อาจารย์ ”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...