สุดยอดความลับของฟ้า: เรื่องอจินไตย เกี่ยวกับภพภูมิต่างๆ

ทุกอย่างเป็นสุญญตา เป็นความว่าง เป็นภาพลวงตา ภาพลวงตาต่างๆาหลอกเรามันเกิดดังนี้:

1. ในระดับวัตถุที่มองเห็น เช่น ต้นไม้ สัตว์ ดินสอ ปากกา แก้วน้ำ เงิน ฯลฯ มันมีอยู่จริงๆ แม้เราจะแยกมันเป็นชิ้นเล็กๆ มันก็ยังมี เราจึงเรียกมันว่า สสารหรืออัตตา(อุปทาน)

2. ในระดับเล็กกว่าโมเลกุล มันมีอะตอมมหาศาลมาเกาะรวมกันอยู่ในที่ว่าง เรียกว่า อิเลคตรอน โปรตอน นิวตรอน ระดับนี้เราเริ่มรู้แล้วว่า สสารหรืออัตตามันเป็นความว่างกว่า 99.9% นอกนั้นเป็นอนุภาค สามตัว (โปรตอน นิวตรอน และอิเล็คตรอน) ที่ไม่สามารถมองเห็น

3. ในระดับที่เล็กกว่าหน่วยที่เล็ก ที่สุดของสสาร (อะตอม) นักฟิสิกส์ได้ค้นพบว่าหน่วยที่เล็กไปกว่าเจ้าอนุภาคสามตัว (โปรตอน นิวตรอน และอิเล็คตรอน) อีก เรียกว่า ... ควาร์ค

คราวนี้แหละนักวิทยาศาสตร์ฟิสิกซ์ทั่วโลกต้องซูฮกพระพุทธเจ้าเลย เพราะควาร์คเป็นความไม่มีอะไรเลย .... เป็นไปได้อย่างไรวะว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกและในจักรวาลที่เป็นวัตถุ มันจะไม่มีอะไรเลย เป็นความว่างเปล่าเท่านั้น

ควาร์คหรือความว่างเปล่า เป็นเพียงพลังงาน(energy) มันโดนพลังที่ยิ่งใหญ่บางอย่างทำให้พลังงานตัวนี้จับตัวแข็ง และก่อให้เกิดขบวนการอัดกันแน่นแบบเข้มข้น เป็นล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเท่า ควาร์คหรือความว่างเปล่า ซึ่งเป็นพลังงาน หรือเป็นอนัตตา เลยลวงหลอกให้เรารับรู้ว่า มันเป็นอะตอม และลวงหลอกต่อมาว่ามันเป็นโมเลกุล และเป็นสสาร

ผมจะบอกสุดยอดความลับของฟ้าให้

a. ผี วิญญาณ เทวดา พรหม เป็นสิ่งมีชีวิตในระดับอะตอม
b. พกาพรหมทำให้ตัวเอง เล็กลงหรือหายตัวไปอยู่ในระดับส่วนที่เล็กที่สุดของอะตอม
c. พระพุทธเจ้าทำให้ตัวเองเล็กลงไปอยู่ในระดับควาร์ค พกาพรหมจึงไม่อาจมองเห็นได้
d. นิพพานน่าจะเป็นอาณาจักรระดับควาร์ค โลกและจักรวาลที่เรารู้เห็นเป็นอาณาจักร
สสาร โอปาติกะ เช่น เทพ พรหม ฯลฯ เป็นอาณาจักรแห่งอะตอม
e. ความยึดมั่นถือมั่น หรืออุปทาน เป็นเหตุให้จิตต่างๆ ต้องวนเวียนอยู่ในระดับสสารและ
ระดับอะตอม ส่วนความไม่ยึดมั่นถือมั่นเป้นเหตุให้เราลงไปสู่ระดับควาร์ค

 

จริงๆๆ แล้วพระพุทธเจ้าไม่ได้ทำตัวให้เล็กลงเลยครับ พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่บนหัวของท้าวพกาพรหมต่างหากครับ ท้าวพกาพรหมจึงมองไม่เห็นพระพุทธเจ้า