อบรมการปฏิบัติธรรม เพื่อมรรคผลนิพพาน

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย aum hermit, 11 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. aum hermit

    aum hermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +124
    หลายคนอยากมีความสุขตลอดไป ไม่อยากพบกับความทุกข์ยากลำบาก หลายคนอยากพ้นทุกข์เพราะเห็นว่าชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ยากลำบาก แต่จะมีความสุขตลอดไปได้อย่างไร จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร คิดไม่ออกบอกไม่ได้ มองไม่เห็นแนวทาง เนื่องจากอวิชชาปิดบังเอาไว้ ทำให้มืดบอดอยู่เช่นนั้น ใครๆก็คิดว่าความคิดของตนเองถูก ต่างคนต่างก็ดำเนินชีวิตไปตามแนวคิดที่เป็นความเชื่อของตนเอง ซึ่งบางทีก็ผิดบางทีก็ถูก ไม่เป็นสัมมาทิฐิตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ทั้งหมด ชีวิตก็เลยเป็นไปต่างๆ ตามกรรมวัฏฏะ
    หลายคนคิดว่าการออกบวชเท่านั้น จึงจะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานได้ หลายคนคิดว่านิพพานเป็นเรื่องใหญ่
    เป็นเรื่องยากเย็นเกินกว่าฆราวาสผู้ไม่ได้บวชจะรู้ได้เห็นได้เข้าใจได้ หลายคนคิดว่ามรรคผลนิพพานเป็นเรื่องหมดเขตหมดสมัยแล้ว
    นักบวชในสมัยนี้ไม่สามารถบรรลุเป็นพระอริยะเจ้าได้ ยิ่งคนไม่ได้บวชยิ่งหมดโอกาสรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน
    ความ คิดเหล่านี้เป็นความคิดของคนที่ไม่เจริญในไตรสิกขา คือไม่เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา หรือไม่ได้ปฏิบัติภาวนา หรือปฏิบัติภาวนาแต่ไม่ถึงขนาดที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เป็นต้นว่า
    ไม่พบครูอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงปฏิบัติได้จริง ซึ่งแม้มีอยู่ก็ไม่รู้จักท่านเนื่องจากไม่ได้ทำบุญร่วมกับท่านมาแต่ปางก่อน หรือสะสมบุญบารมียังไม่เต็มรอบ 1 อสงไขย หรือยังไม่พอที่จะบรรลุมรรคผล หรือมีกรรมประมาทต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ หรือครูบาอาจารย์นั้นๆ ในอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ ทำให้ปิดโอกาสในการคบหาสมาคม แม้รู้จักกันเห็นกันอยู่ก็ไม่รู้ว่าท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน ยิ่งอริยบุคคลที่เป็นฆราวาส ยิ่งเป็นการยากยิ่งขึ้นในการที่จะรู้ว่า ท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน มีคุณศีลคุณธรรมเพียงใด เนื่องจากผู้มีศีลจะรู้ได้เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีคุณธรรมจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน
    อนึ่ง ผู้ทรงศีลทรงธรรมทรงปัญญาบรรลุมรรคผลนิพพาน ท่านชอบความสงบวิเวกเกื้อกูลต่อการปฏิบัติบำเพ็ญรักษาศีลภาวนา ทำความเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิ ท่านจะมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญของท่านอยู่เช่นนั้นตามป่า ตามเขา หรือตามบ้านตามเรือน อันเป็นที่อยู่เฉพาะของท่าน โดยไม่ค่อยสนใจเรื่องของทางโลกมากนัก หลายท่านหลายองค์คนจะรู้จักฮือฮาก็ต่อเมื่อท่านละสังขารเสียแล้ว เราหมดโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำสั่งสอนเพื่อการบรรลุมรรคผลนิพพานจากท่านเสีย แล้วจึงรู้
    ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับผู้ไม่มีโอกาสได้พบเห็นท่าน
    นานๆ จะมีผู้รู้จริงเห็นจริงเปิดเผยตัวให้เรารู้จักสักครั้งหนึ่ง ผลงานอันยิ่งใหญ่มักจะเป็นเครื่องชี้ถึงบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ กวีนิพนธ์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านจะเปิดเผยให้เราเห็น ผู้ฉลาดน่าจะไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไป การศึกษาบทประพันธ์ที่น่าศึกษาในโอกาสต่างๆ อาจทำให้เรารู้จักผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมก็ได้ ถ้ามานะทิฐิไม่สูงจนเกินไป การได้เห็นได้รู้ได้พบในครั้งนั้นๆ อาจเป็นบุญมหาศาลสำหรับเรา โอกาสดีมักชักนำให้มีโชคดี ขอให้โอกาสดีโชคดีจงมีแก่ทุกตนทุกคนเทอญ

    อย่าปฎิเสธสิ่งที่คุณยังไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นเอาจเป็นสิ่งที่คุณค้นหามาทั้งชีวิต

    การปฏิบัติธรรมสำหรับผู้ปรารถนา มรรคผลนิพพานเท่านั้น
    ผู้สนใจ ติดต่อเข้าอบรมปฏิบัติภาวนาวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดดงยางเดี่ยว ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
    จัดอบรมปฏฺิบัติภาวนาในวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 นี้ เท่านั้น
    (ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)
    บรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์แปลง สุวรรณกาญจน์ อบรมบรรยายธรรมะ ตามหัวข้อดังนี้
    วันที่ 1. ปัญหาชีวิต รู้จักตน รู้จักธรรม จึงจะทำชีวิตให้มีความสุขได้
    วันที่ 2. กิเลส วัฏฏะ กรรมวัฏฏะ วิบาก วัฏฏะ กฎแห่งกรรม วิธีแก้กรรม
    วันที่ 3. ภพภูมิอันเป็นที่อยู่ของจิตวิญญาณ 26 ชั้นฟ้า 5 ชั้นดิน
    วันที่ 4. ทาน ศีล สวรรค์ อาทีนพ เนกขัมมะ สิ่งที่เป็นไปตามลำดับ
    วันที่ 5. ไตรสิกขา ( ศีล สมาธิ ปัญญา ) อานิสงค์เลิศทำได้อย่างไร
    วันที่ 6. มหาสติ มหาปัญญา พาให้รู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม บรรลุมรรคผลนิพพาน
    วันที่ 7. อาสวักขยาญาณ และการรักษา บริสุทธิ์แห่งจิต


    ท่านอาจารย์แปลง สุวรรณกาญจน์ผู้แต่งหนังสือ
    - พัฒนาจิตเพื่อความสุขและพ้นทุกข์ (สำหรับผู้ไม่ได้บวช)
    - วัฏฏสงสาร กับ มรรคผลนิพพาน
    - ตายแล้วไปไหน
    - รู้ก่อนตาย สบายถึงชาติหน้า :รู้ทันกรรม นำสุขพ้นทุกข์
    - อยู่บ้านนิพพานได้ :วิธีพัฒนาจิต...เพื่อความสุขและพ้นทุกข์ สำหรับผู้ไม่ได้บวช

    (ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)
    ติดต่อสอบถาม ได้ที่ท่านอาจารย์แปลง สุวรรณกาญจน์ ที่เบอร์ (086-854-8018)
    หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ คุณอั้ม (tourwat@gmail.com) หรือ โทร.08-9447-9506
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2010
  2. aum hermit

    aum hermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +124
    วัฏฏสงสารกับมรรคผลนิพพาน เป็นสาระสำคัญยิ่งของพุทธศาสนาผู้ที่เป็นชาวพุทธน่าจะได้ใส่ใจศึกษา หาความรู้เอาไว้ เพื่อเป็นหลักใจในการดำรงชีวิต ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือให้ถูกต้อง และสามารถที่จะอธิบายขยายความได้ เมื่อมีคนไต่ถาม หรือเมื่อต้องการที่จะสั่งสอนอบรมลูกหลาน ญาติพี่น้องวงศ์ตระกูลของตน ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในสาระอันเป็นแก่นแท้ของพุทธศาสนา เป็นหลักจิตหลักใจ ในการดำรงชีวิต เพื่อบรรลุ สุดยอดปรารถนา คือความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคต
    ปรัชญาชีวิตของผู้เขียนมีว่า “ชีวิตคือความใฝ่ฝัน (ทะเยอทะยาน) สิ่งสำคัญคือการศึกษา สิ่งแสวงหาคือความสุข” ผู้เขียนเห็นว่า ทุกชีวิตที่เกิดมาต้องการความสุข แต่จะมีความสุขได้อย่างไร ยังเป็นปัญหาอยู่มากบางครั้งว่าจะทำให้มีความสุข แต่ก็กลายเป็นความทุกข์เดือนร้อนไปเสียก็มี ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึง ความสุขอันแท้จริงได้โดยง่าย เป็นปัญหาที่ทุกชีวิตจะต้องขบคิดพิจารณา
    การศึกษาเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขปัญหานี้ การศึกษาเป็นกระบวนการทางสังคม ซึ่งมีทั้งเป็นพิธีการคือมีการจัดการเรียนการสอน เป็นระบบมีแบบแผน เหมือนการจัดการเรียนการสอนของรัฐของราษฎร์ ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป และการศึกษาที่ไม่เป็นพิธีการ คือไม่มีรูปแบบแน่นอน เป็นการศึกษาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการได้ยินได้ฟัง ได้สัมผัสจริง ได้ประสบพบเห็น การสังเกต การอ่าน การคิดพินิจพิจารณา
    ความสำเร็จของชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียน เห็นได้ชัดเจนกับการศึกษาทางโลก ส่วนการศึกษาทางธรรม สำเร็จได้โดยการลงมือปฏิบัติ สุภาษิตโบราณมีว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำมากับมือ” อยากประสบความสำเร็จทางธรรมคือได้รับความสุขอันแท้จริง ต้องศึกษาและลงมือปฏิบัติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...