อันซีนบุญวัดพุทธนิมิตแหล่งธรรมศิลปะถ้ำภูค่าว

อันซีนบุญ'วัดพุทธนิมิต'แหล่งธรรมศิลปะถ้ำภูค่าว



"วัดพุทธนิมิต" (ภูค่าว) ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2539 กำหนดเขตความกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 18 ลว.29 ก.พ.2539

"พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงฺคโล" เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้พัฒนาปรับปรุงและปลูกสร้างถาวรวัตถุขึ้นหลายหลัง อาทิ ศาลาพุทธนิมิต เป็นศาลาสำหรับใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา, วิหารสังฆนิมิต ซึ่งภายในวิหารจะมีพระพุทธรูปปางต่างๆ พระพิมพ์จากกรุต่างๆ ทั่วประเทศประดับอยู่บนผนัง ภายในวิหารงดงามมากเป็นที่ประทับใจแก่ผู้เยี่ยมชม มีหอกลองที่สร้างได้อย่างสวยงาม

พระอาจารย์ณรงค์ ได้มีความคิดอยากสร้างอุโบสถขึ้น 1 หลัง เพื่อให้กุลบุตรที่ประสงค์จัดบรรพชาอุปสมบท เข้ามาสืบทอดพระพุทธศาสนาและศึกษาพระธรรมวินัย

จึงได้มีโครงการก่อสร้างอุโบสถขึ้นในวันที่ 10 มกราคม 2540 ได้เริ่มวางเขตวิสุงคามสีมา โดยพระครูวิจิตรสหัสคุณ (ปัจจุบัน คือพระราชญาณวิสารเถร), พระครูสิทธิวราคาม เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์, นายสำรวย ลาชโรจน์ นายอำเภอสหัสขันธ์ ตลอดจนพระภิกษุสงฆ์อีกจำนวนหนึ่ง

ได้ทำการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2540 โดยมีพระสุเมธีธรรมญาณ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายประมวล รุจนเสรี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (ตำแหน่งขณะนั้น) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

ส่วนการก่อสร้างอุโบสถ ได้ไม้ส่วนหนึ่งมาจากไม่ใต้เขื่อนลำปาว โดยพระอาจารย์ณรงค์ได้ธุดงค์ไปทั่วทุกภาค ได้พบเห็นศิลปะการก่อสร้างจากภาคเหนือ ซึ่งจะมีการแกะสลักลวดลายไม้ที่อ่อนช้อยวิจิตรงดงาม ท่านจึงสร้างอุโบสถไม้แกะสลักทั้งหลังไว้ให้ลูกหลานชาวอีสานได้ชื่นชม

อุโบสถหลังนี้เป็นอุโบสถแบบเปิดผสมผสานสถาปัตยกรรมภาคกลางและภาคเหนือ ประยุกต์กันได้กลมกลืนสวยงามมาก ระเบียงปูด้วยศิลาแลง โดยรอบตัวอุโบสถทั้งหมดก่อสร้างด้วยไม้ แกะสลักลวดลายไทยเป็นภาพ 3 มิติ จากฝีมือตระกูลช่างเมืองเหนือ

ภาพหลักที่ปรากฏให้เห็นจะเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ บานประตูหน้า ด้านทิศตะวันออกแกะสลักเป็นภาพมหาชาติเวสสันดรชาดกกัณฑ์ต่าง

16 ภาพด้านทิศเหนือและใต้เป็นภาพทศชาติ หัวบันไดแกะสลักเป็นเทพเจ้าประจำทิศทั้ง 8 บริเวณสวนโดยรอบอุโบสถ จัดเป็นสวนไม้ไทย มีซุ้มเรือนแก้ว 4 ทิศ การก่อสร้างใช้เวลา 2 ปีเศษ

จุดประสงค์หลักของการสร้างอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ

ทำการยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2542 และทำพิธีเฉลิมฉลองตัดลูกนิมิต ในวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2542 มีการอุปสมบทหมู่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สภาพปัจจุบัน กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนแหล่งศิลปะถ้ำภูค่าว ภายในวัดพุทธนิมิต ให้เป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 65 ตอนที่ 43 วันที่ 25 กรกฎาคม 2491 โดยให้อยู่ในความดูแลรักษาของสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 8 จ.อุบลราชธานี ซึ่งส่งพนักงานดูแลรักษาโบราณสถานเป็นประจำ

ภาพพระนอนที่ภูค่าว เป็นโบราณสถานที่ยังทำหน้าที่เป็นพุทธสถาน เนื่องจากชาวท้องถิ่นและพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่นเดินทางมาสักการบูชาอยู่เนืองๆ และกำหนดให้มีงานประจำปี ในเดือน 5 (เมษายน) หลังจากงานประเพณีสงกรานต์ มีกรรมการวัดพุทธนิมิต ใกล้แหล่งภาพพระนอน เป็นผู้ดำเนินการ

เมื่อมีความศรัทธาว่าเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำพุทธสถานเก่าแก่ จึงผู้นำเครื่องสักการะประกอบพิธีบนบาน ตลอดจนปิดทองบนองค์พระ ทำให้ปิดทับเนื้อหินและรายละเอียดของภาพสลักหลายส่วน

แม้ว่าจะมีป้ายห้ามปิดทองและพนักงานดูแล แต่ก็ยังมีผู้แอบมาปิดทอง จนทำให้ภาพสลักพระนอนบนหินทรายมองเห็นเป็นสีทอง

ผู้ที่สนใจเดินทางมาท่องเที่ยววัดพุทธนิมิต ให้ไปตามทางหลวง หมายเลข 227 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 37-38 มีป้ายบอกทางเข้า "พระไสยาสน์ภูค่าว" ผ่านบ้านโนนสมบูรณ์ ถึงทางแยกเล็กเข้าวัดพุทธนิมิต ไต่ขึ้นทางบนหลังภูค่าวจนถึงลานวัด ซึ่งอยู่บนยอดภู มีป้ายบอกเดินลงมาเลียบผาประมาณ 100 เมตร



ที่มา ข่าวสด

 

<TABLE id=table1 cellSpacing=0 width=580 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=table58 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>






</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=table52 cellSpacing=0 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD>วัดพุทธนิมิต ( ถ้ำวัดภู่ค่าว )
อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

นายนิค อุดรเว็บ ...เรียบเรียง ,Recmert...ภาพ


วัดพุทธนิมิต หรือ ถ้ำวัดภูค่าว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์อันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกาฬสินธุ์ทีเดียว ลำพังพระพุทธไสยาสน์องค์ที่สลักในถ้ำภู่ค่าวก็ว่าแปลกมหัศจรรย์แล้ว จำหลักอยู่ในแผ่นหินผนังถ้ำโปร่งเหมือนหน้าผา สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยทวารวดี มีอักษรจารึกคาถาปัลลวะ หรือภาษาขอมบนใบเสมา 1 หลัก สันนิษฐานว่าคงสร้างราว พ.ศ. 1300 - 1500 ทั้งยังต่างกับพระพุทธไสยาสน์ทั่วไป เพราะพระพุทธรูปไสยาสน์ตะแคงซ้าย มิใช่ตะแคงขวาแบบพระพุทธไสยาสน์อื่น และไม่มีเกตุมาลา ความยาวประมาณ 2 เมตร กว้าง 25 ซม. เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป





</TD><TD vAlign=top>






</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=table54 cellSpacing=0 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=4>ตามประวัติกล่าวว่าพระโมคัลลานะ พระสาวกของพระพุทธเจ้าสร้างขึ้นเมื่อ 2,000 กว่าปีมาแล้ว และทางวัดจะจัดให้มีงานสรงน้ำพระพุทธรูปไสยาสน์ในวันที่ 19 เมษายนของทุกปี ปัจจุบันกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุของชาตินอกจากนี้บริเวณวัดพุทธนิมิตบนภูค่างยังมีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระเครื่องพระบูชาบรมครูพระเทพโลกอุดรและสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ความแปลกในการตกแต่งพิพิธภัณฑ์ฯ นี้ก็คือการนำพระพิมพ์จำนวนนับหมื่นองค์มาประดับประดาในพิพิธภัณฑ์ฯ "ให้ตาดีอย่างไรก็นับไม่ถ้วน"</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD>
ทางที่ราบเบื้องล่างของภูค่างซึ้งจะเห็นก่อนขึ้นไปข้างบนถ้ำพระและพิพิธภัณฑ์ฯมีพระอุโบสถหลังใหม่ตั้งอยู่ พระอุโบสถนี้มองเผิน ๆ จากข้างนอกดูธรรมดา ต้องเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นความสวยงามความประณีตทางด้านสถาปัตยกรรม ภายในมรเสาไม้จำนวน 40 ต้น ที่มีตัวหนังสือเขียนติดไว้ให้เห็นชัดเจนทุกต้นว่า "ไม้ใต้น้ำเขื่อนลำปาว" ส่วนผนังของพระอุโบสถมีภาพแกะสลักไม้เกี่ยวพุทธประวัติทศชาติชาดก เดินดูหลายภาพมาสะดุดที่ภาพทศชาติของ
พระมหาชนกชาดก อันเป็นชาดกที่กล่าวถึงความเพียรรูปที่นางมณีเมขลากำลังช่วยพระมหาชนกขึ้นมาจากมหาสมุทรหลักจากที่แหวกว่ายในน้ำถึง 7 วัน 7 คืน เพราะเรือโดนพายุพัดอับปางขณะที่อยู่ในมหาสมุทรมีสัตว์น้อยใหญ่แหวกว่ายอยู่ด้วยแต่ภาพแกะสลักที่นี่ในมหาสมุทรมีไดโนเสาร์เข้ามาว่ายน้ำกับเพื่อนด้วย





</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=table55 cellSpacing=0 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD>
คงจะเป็นเพราะแรงบันดาลใจของช่างชาวกาฬสินธุ์ อยากให้มีไดโนเสาร์แหล่งพื้นที่ตัวเองเข้าไปด้วยและคิดว่าสมัยยุคไดโนเสาร์นั้นเป็นยุคที่พื้นที่อีสานเคยเป็นทะเล พระมหาชนกอาจจะนั่งเรืออับปางอยู่แถวนี้เลยมีไดโนเสาร์ในทะเลด้วย





</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE id=table56 cellSpacing=0 cellPadding=3 width=379 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>

พิพิธภัณฑ์พระเครื่อง​

</TD><TD>

พระอุโบสถหลังใหม่​

</TD><TD>

เจ้าถิ่นเมื่อร้อยล้านปี​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE id=table57 cellSpacing=0 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD>

ขอเชิญไปดูพระมหาชนกที่วัดพุทธนิมิต แล้วจะเห็นว่าของเขาแปลกแต่จริง น่าสนใจดี อีหลี่เด้อ?? ไม่ได้ลงรูปให้อยากให้ไปพิสูจน์กันเองครับ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table35 cellSpacing=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=table39 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left width=3 bgColor=#ffffff></TD><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE id=table40 height=43 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#7ba31f border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#669999 height=14></TD><TD vAlign=top align=middle bgColor=#669999 height=14></TD><TD vAlign=top align=right bgColor=#669999 height=14></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left width=4 bgColor=#669999 height=16></TD><TD class=fontHeader bgColor=#669999 height=16>คู่มือนักเดินทาง</TD><TD vAlign=center align=right width=4 bgColor=#669999 height=16></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left width=4 bgColor=#eaf9ff height=16></TD><TD class=fontHeader bgColor=#eaf9ff height=16>ที่ตั้ง : ตั้งอยู่บ้านนาสีนวล ตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
ขับรถเที่ยว : ห่างจากตัวอำเภอ สหัสขันธ์ประมาณ 7 กิโลเมตร ห่างจากภูสิงห์ประมาณ 4 กิโลเมตร





</TD><TD vAlign=center align=right width=4 bgColor=#eaf9ff height=16></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left width=4 bgColor=#eaf9ff height=16></TD><TD class=fontHeader bgColor=#eaf9ff height=16></TD><TD vAlign=center align=right width=4 bgColor=#eaf9ff height=16></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=left width=4 bgColor=#eaf9ff height=16></TD><TD class=fontHeader bgColor=#eaf9ff height=16>ติดต่อสอบถาม
สำนักงาน ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 (ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์)
15/5 ถนนประชาสโมสร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
โทร. 0 - 4324 - 4498-9 โทรสาร. 0 - 4324 - 4497
E-mail : tatkhkn@tat.or.th





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา travel.udonweb.com




</TD></TR></TBODY></TABLE>