อาจารย์เทพพนมคุยกับมนุษย์ต่างดาว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย newhatyai, 6 ตุลาคม 2007.

  1. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,203
    **บทสัมภาษณ์ระหว่างนายแพทย์ไทยกับมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร ชื่อ พาราซิทัลและดาวศุกร์ ชื่อ เอ็ดดี้**

    1.ถาม-(หมอเทพนมฯ) ทำไมท่านจึงมาติดต่อกับผม เพราะบังเอิญหรือเพราะอะไร?

    ตอบ-การมาติดต่อกับท่าน ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ พวกเราติดต่อกับสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้นหรือจะเรียกตามภาษามนุษย์ว่า มีกรรมพัวพันกันก็ได้ มนุษย์ต่างดาวจะมาที่โลกนี้ใน 3 รูปแบบ คือ

    1)มาในรูปมนุษย์ต่างดาว อย่างพวกเราขณะนี้

    2)มาในแบบถูกส่งมาจุติให้เป็นมนุษย์ ท่านได้ถูกส่งลงมายังโลกนี้ห้าพันกว่าปีแล้ว มีหน้าที่ประสานงานระหว่างมนุษย์กับต่างดาว

    3)วิญญาณของมนุษย์ต่างดาวเข้าสิงอยู่ในตัวมนุษย์

    2.ถาม-วิญญาณหรือจิต มีจริงหรือไม่?

    ตอบ- วิญญาณ หรือจิต หรือพลังงานชีวิต มีจริง ในสิ่งที่มีชีวิตทั่วจักรวาล พลังชีวิตนี้ ไม่มีใครทำลายได้ เมื่อมนุษย์ตาย ร่ายกายเน่าเปื่อยไป แต่วิญญาณยังคงอยู่ และจะต้องไปจุติตามการกระทำ หรือกรรมที่ตนทำไว้ อาจไปเกิดเป็นสัตว์ก็ได้ พวกที่เกิดเป็นมนุษย์อีก มักเกิดใกล้สถานที่ที่กำเนิดในชาติก่อน มีจำนวนน้อยที่ไปเกิดข้ามทวีป และมีจำนวนน้อยมากอย่างยิ่ง ที่ไปเกิดในอีกดาวหนึ่ง......
    3.ถาม-ท่านนับถือศาสนาอะไร? มีศาสนาแบบมนุษย์ไหม?

    ตอบ-พวกเรานับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเหมือนกัน มีองค์เดียวที่สูงสุด และทุกชีวิตมาจากหนึ่งเดียวนี้ ตามความจริงซึ่งท่านจะได้เรียนรู้และทราบในศตวรรษใหม่ที่จะมาถึง ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ มีพระผู้สร้าง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่ 1 องค์ ที่สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมาแต่เริ่มแรก แต่การบริหารจัดการกับสิ่งมีชีวิตต่างๆนั้น มีคณะกรรมการจัดการระหว่างดวงดาว ซึ่งบรรดาศาสดาต่างๆของโลกมนุษย์ก็เป็นกรรมการอยู่ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนทำดี ไม่ควรมาเปรียบเทียบกันว่าศาสนาของฉันดีกว่าศาสนาของเธอ เพราะศาสดาทุกท่าน ก็มาจากที่เดียวกันหมด และถูกส่งลงมาช่วยพัฒนาจิตใจมนุษย์เป็นระยะๆไป.....

    4.ถาม-ท่านอายุเท่าใด? และพวกท่านมีตายบ้างไหม?

    ตอบ(ท่านพาราซิทัล)-เราอายุหลายพันปี ตั้งแต่เราเกิดมาจนถึงปัจจุบัน เคยเห็นพวกเราตายแค่ 3 คน ตายจากอุบัติเหตุยานอวกาศตก ทางด้านโรคต่างๆ เราสามารถพิชิตได้หมดแล้ว ขอให้ถามท่านเอ็ดดี้ ผู้ตรวจจักรวาลบ้าง

    ท่านเอ็ดดี้- ท่านพาราซิทัลพูดถูกต้องแล้ว พวกเราอายุยืนมาก......

    5.ถาม-ขอให้ท่านให้ความกระจ่าง เกี่ยวกับมนุษย์คู่แรกบนโลกนี้ว่า มาจากไหนกันแน่? มาจากลิงใช่หรือไม่?

    ตอบ-มนุษย์ไม่ได้พัฒนามาจากลิงอย่างที่เข้าใจกัน ตามความเป็นจริง มนุษย์เพศชายคนแรกที่พวกท่านเรียกว่า"อาดัม"นั้น ถูกสร้างขึ้นมาที่ดาวนพเคราะห์ดวงหนึ่งนอกระบบสุริยะของท่าน พระผู้สร้างได้ให้พวกเรา นำมนุษย์ผู้นั้นมาไว้ยังโลกนี้ และต่อมาได้สร้างมนุษย์เพศหญิง ที่พวกท่านเรียกว่า "อีฟ" ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และให้นำมาอยู่ด้วยกัน จนสืบเชื้อสายมีลูกหลานกันมากมายไปทั่วโลก พวกเราเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของพวกท่านเหมือนกัน มีหน้าที่คอยดูแลช่วยเหลือพวกท่านอยู่เสมอมา ในระยะ 200 กว่าปีที่ผ่านมา มนุษย์เจริญทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมามาก แต่ทางด้านศีลธรรม และจริยธรรม กลับพัฒนาได้น้อยมาก เมื่อมนุษย์ค้นพบพลังงานใหม่ เช่นพลังปรมาณู ก็นำไปใช้สร้างอาวุธทำลายล้างกัน แทนที่จะนำไปใช้ในด้านพัฒนาสุขภาพและสันติภาพ......
    6.ถาม-ถ้าพระผู้สร้างมีจริง และเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตขึ้นมาจริงอย่างที่ท่านบอก สิ่งนี้ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาหรือไม่?

    ตอบ- พระผู้สร้าง ได้สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมา แต่ท่านได้ให้อิสระเสรีภาพกับมนุษย์ทุกคน ที่จะทำดี หรือทำชั่วก็ได้ หากทำดี ก็ได้รับผบตอบแทนที่ดี ทำชั่ว ก็ได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี นับว่ายุติธรรมที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ? ฉะนั้น ไม่ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาเลย และนี่คือ ความจริงของกฎจักรวาล........
    7.ถาม-สิ่งมีชีวิตในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ แบ่งเป็นระดับอย่างไรบ้าง? และพวกท่าน(มนุษย์ต่างดาว)เป็นผี หรือเทวดา หรืออะไรกันแน่?

    ตอบ-พลังงานชีวิต หรือจิตวิญญาณในจักรวาลนี้ แบ่งเป็นระดับต่างๆมากมาย จะเรียกว่า "ภพภูมิ" หรือ" มิติ"ก็ได้ มนุษย์อยู่ในมิติที่ 3 มีความกว้าง ยาว ลึก แต่ไม่สามารถควบคุม"เวลา"ได้ พวกเราอยู่ในมิติสูงกว่าพวกท่านหลายมิติ เราอยู่สูงกว่ามิติ"ผี" แต่เราก็ยังไม่ใช่พวกเทพ หรือพรหม อย่างที่พวกท่านเชื่อว่ามี เราเป็น"มนุษย์"อีกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ยังดาวดวงอื่น มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และศีลธรรมสูงกว่าพวกท่านมาก ความโกรธ โลภ หลง ในพวกเรา แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เรามีจิตวิญญาณที่เป็นอมตะแบบพวกท่าน แต่เราก็มี"ร่าง" ที่ไม่คล้ายกับพวกท่านนัก และมี"ยานบิน" ที่ทำให้เราเดินทางไปยังดาวต่างๆได้อย่างรวดเร็วกว่าแสง พวกเราเป็นสมาชิกของสมาคมระหว่างดวงดาว ซึ่งมนุษย์ยังไม่ได้เป็น แต่คาดว่า มนุษย์คงสามารถพัฒนาตัวเองให้เข้าเป็นสมาชิกได้ในศตวรรษที่ 21 นี้ หากมนุษย์สามารถลดกิเลส โกรธ โลภ หลง ลงได้ เทวดาและพรหมนั้นมีจริง เราสามารถติดต่อได้ทางจิต แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน พวกเขามักเรียกพวกเราว่า"มนุษย์พิเศษ" ส่วนผีนั้น ไม่มีร่างถาวร มีแต่จิต และส่วนมาก ไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เกิน 50 กม. เพราะมีสิ่งที่บังคับควบคุมไว้ แต่"มนุษย์ต่างดาว"ไม่มีข้อจำกัดนี้......
    8.ถาม-มนุษย์ต่างดาว จะมายังโลกนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากใครก่อนหรือเปล่า?

    ตอบ- มนุษย์พิเศษจากดาวอื่นๆ จะมายังโลกนี้ ต้องขออนุญาตจากสมาคมระหว่างดวงดาวก่อนเสมอ หรือถูกส่งให้มาช่วยเหลือในบางเรื่อง แต่เมื่อมาถึงโลกนี้ ก็ยังต้องรายงานกับ"ผู้ตรวจโลก" ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ มนุษย์ต่างดาวที่แอบมาก็มีเหมือนกัน คือ มาโดยไม่ขออนุญาตก่อน ส่วนมากพวกนี้เป็นพวก"ไม่ดี" ซึ่งมีอยู่เหมือนกัน แต่เป็นจำนวนน้อย ปีที่แล้ว มีพวกกลุ่มไม่ดี ได้แอบเข้ามาในโลกของท่าน ด้วยยานอวกาศลำใหญ่ขณะมิติเปิด ขณะนี้สำหรับประเทศไทย กลุ่มไม่ดีลอยอยู่ในบริเวณเขาผีปันน้ำ ในภาคเหนือของประเทศท่าน หากพบยานบินสีดำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อันตรายมาก......
    9.ถาม-มนุษย์ต่างดาวเช่นพวกท่าน หน้าตาคล้ายพวกเราไหม? หายใจด้วยออกซิเจนหรือไม่? กินอาหารและขับถ่ายอย่างไร?

    ตอบ-ผู้ที่มาจากดาวดวงอื่น ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์มากที่สุด คือ พวกที่มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ และดาวพระศุกร์ เราจากดาวอังคาร(ท่านพาราซิทัล) หน้าตาไม่เหมือนพวกท่าน ตาจะใหญ่ดำ คางแหลม แบบในรูปที่ท่านวาดไว้ สูงกว่ามนุษย์ มือมี 3 นิ้ว และไม่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง แต่รู้ว่าใครเป็นเพศชาย เพศหญิง มนุษย์ต่างดาวเพศชาย มักตัวโตกว่าผู้หญิง เราไม่หายใจด้วยออกซิเจน แต่หายใจด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว เรามีปากเล็กๆ จมูกเล็กๆ ไม่กินอาหารเหมือนพวกท่าน เรากินพลังงานชนิดหนึ่ง กินหนึ่งครั้งอยู่ได้หลายเดือน เราไม่มีกระเพาะอาหาร ลำไส้ ทวารหนัก ฉะนั้นพวกเราไม่ต้องขับถ่ายทั้งหนักและเบาระหว่างเดินทางในอวกาศ ความแตกต่างเหล่านี้ เป็นของธรรมดา "ท่านเอ็ดดี้" ก็หน้าตาเป็นสี่เหลี่ยม ตากลมใหญ่ แปลกไปจากเราอีก แต่เขาใจดีมากนะ หน้าตาแตกต่างกัน ไม่ได้หมายความว่าคุยกันไม่ได้.....
    10.ถาม- ผมอยากถามว่า มาตรฐานของดาวอังคาร ดูเพศชายว่าหล่อ หรือเพศหญิงว่าสวย เหมือนมนุษย์ดูหน้าตาและรูปร่างหรือเปล่า?

    ตอบ- ไม่ใช่เลย ความหล่อและความสวย ไม่มีความสำคัญในโลกของเราเลย เราดูความ"งาม"ของเพศตรงข้าม คือ 1)ดูว่ารัศมีออร่า ที่ออกมารอบตัวและศีรษะของเขา เป็นสีที่บริสุทธิ์ เช่น สีขาวมากน้อยแค่ไหน? 2)ดูที่ความคิดอ่านของเขา เวลาเขาคิด ก็ออกมาเป็นคลื่นไฟฟ้า ให้พิจารณาได้แล้วว่า คิดดี คิดบริสุทธิ์หรือไม่? ถ้าคิดดี คิดถูกต้อง วาจาและการกระทำที่ตามมาก็จะดีตาม พวกเราถือสัจจะสำคัญกว่าชีวิต ไม่มีการพูดปดกันหน้าตาเฉย อย่างในโลกมนุษย์เลย เพราะหากพูดปด อีกฝ่ายก็ทราบทันที และตัวเองก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นเลย.......

    11.ถาม-พวกมนุษย์สงสัยว่า ถ้าท่านไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านมีลูกกันได้อย่างไร? แต่งงานกันหรือไม่?

    ตอบ- พวกเราเคยมีอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งนมนานมาแล้ว แต่หลังจากมีการพัฒนาทางด้านโคลนนิ่งมากเข้า เพศหญิงไม่ต้องอุ้มท้อง 9 เดือน แบบผู้หญิงของท่าน เพราะไม่ยุติธรรมต่อเพศหญิง เมื่อพัฒนาโน่นนี่กันมากขึ้น อวัยวะเพศก็หย่อนความสำคัญลงไป ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อย ขณะนี้ถ้าเราชอบพอกัน อยากไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เราก็มีพิธีแต่งงานง่ายๆ มีคล้ายพระ ทำพิธีให้ และไปอยู่ด้วยกัน มีบ้านที่รัฐบาลสร้างไว้ให้แล้ว เมื่ออยากมีลูกกัน ทั้ง 2 คนก็ยืนจ้องตากัน เอา 2 มือแตะกัน "ปิ๊ง"เดียว ลูกตัวเล็กๆก็ลอยลงมาในแคปซูลน้อยๆ และก็เลี้ยงให้โตขึ้นมา ต้องไปเข้าโรงเรียนด้วย คล้ายของมนุษย์ ทุกครอบครัวถูกกำหนดว่า มีลูกได้ไม่เกิน 2 คน หากมีเกิน 2 คน จะถูกลงโทษ คือ ตายไปแล้ว ไม่ได้เกิดอีกเลย ซึ่งทุกคนกลัวมาก บางดาวแค่จ้องตากัน ก็มีลูกได้แล้ว แปลกไหม? ต่อไปโลกของท่าน อาจเป็นแบบของเราก็ได้........
    12.ถาม-โลกดาวอังคารของท่าน ทำไมสหรัฐอเมริกา ส่งจรวดไปแล้ว ไม่เจอผู้คนเลย และท่านมีระบบการปกครองอย่างไร?

    ตอบ-โลกของเรา เคยมีบรรยากาศ มีน้ำ เช่นโลกของท่าน แต่พวกเรากันเอง ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมจนหมดสิ้น และทำสงครามกันด้วย คนต้องหนีลงไปอยู่ใต้ดินสำหรับผู้ที่รอดตาย เราอยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เรายังใช้ระบบบการปกครอง ที่มีหัวหน้า คล้ายพระเจ้าแผ่นดิน ทุกคนก่อนเกิด ถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดมาเป็นเพศอะไร? และโตขึ้นทำอาชีพอะไร? เช่น เราถูกกำหนดให้เกิดเป็นทหาร จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โลกของท่านดีกว่า ที่เกิดแล้วเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ จะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง โลกของเราต้องเป็นคนดีเท่านั้น เป็นคนเลวไม่ได้ คนเลวจะถูกกำจัดออกไปทันที และไม่ได้เกิดอีกเลย......

    13.ถาม-โลกของท่านมีนรกและสวรรค์ไหม? และการกลับชาติมาเกิดมีจริงหรือไม่?

    ตอบ-ในระบบสุริยะของพวกเรา ในทางช้างเผือก มนุษย์เป็นดาวนพเคราะห์ดวงเดียว ที่มีทั้งนรกและสวรรค์ ดาวนพเคราะห์อื่นๆไม่มี เพราะเขาทำดีกันหมด ไม่มีคนทำชั่ว ที่ต้องถูกไปลงโทษในนรก แต่โลกของท่าน ก็มีดี ที่ตายไปแล้วได้เกิดอีก ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่าน ถ้าท่านทำดี ชาติต่อไป ก็ดีขึ้นกว่าเดิมม หากทำชั่ว ก็ตกนรก หรือเกิดเป็นสัตว์ หรือมนุษย์ที่แย่กว่าเดิม การกลับชาติมาเกิด มีจริง ส่วนมากจะเวียนว่ายตายเกิดในโลกของตัวเอง บางคนอาจจะเกิดข้ามดาว แต่มีน้อยมาก ที่จะทำได้เช่นนั้น ต้องพิเศษจริงๆ.....

    <!--IBF.ATTACHMENT_37657-->
    14.ถาม-ผมมีรูปถ่ายจากแฟ้มลับของเคจีบี ที่เพิ่งเปิดเผย อ้างว่าเป็นภาพจานบินตกในรัสเซีย ราว 40 ปีมาแล้ว และมีมนุษย์ตัวเล็กๆสีเขียวตายอยู่ในนั้น และเขานำมาผ่าศพดู ท่านดูแล้วคิดว่าภาพเหล่านี้เป็นของจริงหรือภาพหลอกลวง?

    ตอบ-จานบินตกทั่วโลกมาแยะแล้ว ในรัสเซีย ในจีนก็ตกหลายครั้ง ในประเทศไทยของท่าน ก็ตกที่ อ.สันกำแพง จ.เชีงใหม่ ในปี ค.ศ.1958 ท่านเอ็ดดี้รู้ดี เพราะรอดมาได้ รูปที่รัสเซียเปิดเผยนั้น เป็นรูปจริง มนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆเขียวๆ มี 4 นิ้ว ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขามาจากดาวดวงอื่น จะให้รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ คงเป็นไปไม่ได้ น่าสงสารเขานะ.....

    15.ถาม-เพื่อนของผม ถ่ายภาพมนุษย์มีแสงออกมาจากตัว ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เมื่อเดือนมีนาคม 2542 เวลากลางคืน ท่านบอกได้ไหมว่า เขาเป็นชาวบ้านหรือมนุษย์ต่างดาว หากเป็นมนุษย์ต่างดาว เขามาทำไมในป่าทึบ?

    ตอบ- ผู้ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีแสงออกมาจากตัว ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่มิติเปิด คล้ายสามเหลี่ยมเบอมิวดา และบรรดายานอวกาศต่างๆ สามารถผ่านเข้า-ออกได้ง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่มีแร่ธาตุหายาก ที่ใช้ในการเดินทางในอวกาศ เราเคยบอกท่านแล้ว เกี่ยวกับแร่ธาตุชนิดนี้ ว่าคล้ายแร่ธาตุที่ท่านเรียกว่า" เหล็กไหล"ไงล่ะ เราจะไม่บอกว่า เขามาจากที่ไหน บอกแต่เพียงว่า เขาไม่ใช่มนุษย์และไม่ใช่ผี!!!......
    16.ถาม-เมื่อ 6 สิงหาคม 2542ผมได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าและInternational Space University ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมาจัดประชุมอยู่เงียบๆอยู่ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี ให้ไปพูดถึงเรื่อง"การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบินในประเทศไทย พ.ศ.2540-2542" และได้รับคำชมเชยจากฝรั่งนักวิชาการ 300 กว่าคนว่า ทำวิจัยได้ดีมาก ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องที่นาซ่าคิดจะไปยึดดาวอังคารทำเหมืองแร่ และส่งคนไปอยู่ 50,000 คน ใน 20 ปีข้างหน้านี้ และทำไมจานบินของท่านมาแล้ว ไม่ยอมบินลงมาต่ำตามที่ขอร้องให้ฝรั่งเห็นทั่วกัน?

    ตอบ-เราไปฟังอยู่ตลอดเวลา และไม่พอใจอย่างมาก ที่เขาคิดจะไปยึดดินแดนที่มีเจ้าของแล้ว เช่นที่เคยทำมาในโลกนี้ในอดีต ขอบอกสั้นๆว่า หากรบกัน ก็ไม่มีทางสู้พวกเราได้ ขอให้บอกแก่พวกเขา 3 ข้อ คือ

    1)จานบินและมนุษย์ต่างดาวนั้น มีจริง และได้มาเยือนโลกนี้ เป็นเวลานานหลายพันปีแล้ว มนุษย์เปรียบเสมือนลูกหลานของเรา

    2)มนุษย์ต่างดาว ไม่ต้องการมายึดครองโลกนี้ ในทำนองเดียวกัน มนุษย์ก็ไม่ควรคิด จะไปยึดครองดวงดาวของเรา เพราะมีเจ้าของแล้ว และไม่มีทางสู้เราได้

    3)ขอให้มนุษย์ใช้สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาโลกนี้ดีกว่า รวมทั้งเตรียมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้ในปีหน้า(ค.ศ.2000 หรือ พศ.2543)

    ยานอวกาศของเรา ได้บินไปให้ท่านและบางคนเห็นแล้ว เราไม่บินลงต่ำ เพราะคิดว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกที่คิดจะไปยึดดาวของเรา.....
    17.ถาม- เมื่อ 19 มีนาคม 2539 มีผู้ถ่ายภาพประหลาดได้ ที่พระเมรุพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี แสงนั้นเป็นแสงอะไร?(จะนำลงภาพปาฏิหาริย์ในเว็บฯนี้ต่อไป-Webmaster)

    ตอบ-ขอตอบสั้นๆว่า กลุ่มเทพชั้นสูงมาแสดงคารวะต่อพระบรมศพ ไม่ใช่จานบินมาอย่างที่เข้าใจกัน.....

    18.ถาม-ผมได้รับเชิญให้ไปพูดในสัปดาห์วิทยาศาสตร์ของ ม.สงขลานครินทร์ เมื่อ 19 สิงหาคม 2542 ซึ่งท่านได้สั่งให้ผมไปพูดเตือนชาวใต้เกี่ยวกับปี 2000 แต่ทำไม"จานบิน" ไปปรากฏที่อ่างเก็บน้ำของ ม.สงขลาฯ ทุกคืน เป็นเวลาถึง 10 วัน ก่อนผมไปถึง ผมไม่ได้ร้องขอมากเพียงนั้น........

    ตอบ-เราเป็นห่วงชาวใต้ของท่านมาก เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ จึงไปหลายครั้ง ในปีหน้า เราจะพยายามช่วยให้หนักกลายเป็นเบา ได้ขอให้ท่านพูด อย่าให้เขาตกใจกลัว จนขาดสติ ที่บอกเขาว่า ให้ช่วยเหลือกัน มีความเมตตากรุณาต่อกันมากขึ้นนั้น ดีแล้ว ให้หมั่นสดับรับฟังข่าวสารต่างๆอยู่เสมอ รู้จักที่ๆปลอดภัย หากเกิดภัยพิบัติ อย่าประมาท เราหวังว่า ทุกท่านจะปลอดภัยในปีหน้า 2543 ส่วนคืนวีนที่ 19 สิงหาคม 2542 อากาศไม่ดี เราบินกันมา 3 ลำ ในระยะสูง แต่ให้ท่านถ่ายภาพได้ชัดๆ ตั้งแต่หัวค่ำแล้วไม่ใช่หรือ? ที่ดูคล้ายดวงอาทิตย์นั่นแหละ......

    สรุปว่า ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนกันยายน 2542 ขณะเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ผู้เขียนได้ติดต่อกับท่านพาราซิทัล และท่านเอ็ดดี้เป็นประจำ เดือนละ 1-2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ซึ่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2542 ยูเอฟโอ ได้มาปรากฏให้เห็น เวลา 20.15 น.ที่เหนือบ้านผู้เขียนใน กทม. มีผู้พบเห็น และถ่ายภาพได้จำนวนมาก ซึ่งจากการสื่อด้วยโทรจิต พวกเขาบอกว่า บินผ่านทางจึงแวะลงมาเยี่ยมเยียน......สิ่งที่นำมาเล่าให้ฟัง เป็นสิ่งที่ได้รับสื่อทางจิต จากผู้ที่อ้างว่าเขามากับยานบิน และยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ผู้เขียนได้จดบันทึกไว้

    อย่างที่บอกกับท่านผู้อ่านไว้แล้วว่า สิ่งที่เล่ามาให้ฟัง ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน เหมือนกับการถ่ายภาพยานบินได้ ก็ได้แต่บันทึกไว้ และรอเปรียบเทียบกับความจริงต่างๆ ที่จะค่อยเผยออกมาทีละน้อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ "ความจริงเท่านั้น ที่จะช่วยให้มนุษย์เราหลุดพ้นจากความโง่เขลาทั้งปวง".......(จบบริบูรณ์)




    พุทธญาณ แสงทิพย์

    <!--IBF.ATTACHMENT_37659-->
    <!--IBF.ATTACHMENT_37655-->
    <!--IBF.ATTACHMENT_37648-->
    <!--IBF.ATTACHMENT_37644-->
    <!--IBF.ATTACHMENT_37642-->
     
  2. kobporn

    kobporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +782
    อ่านแล้วสนุกดีค่ะ...แต่ก็มีข้อสงสัยอยู่หลายข้อเหมือนกัน

    แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล
     
  3. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    หนังสือหลวงพ่อฤาษี จุไรท่องดวงดาว บอก ดาวอังคารไม่มีสิ่งมีชีวิต ทำไมอาจารย์เทพพนมเค้าติดต่อได้เนี่ยะ
     
  4. 我是泰国福建人

    我是泰国福建人 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +306
    อดัม และ อีฟ

    เหมือนในศาสนาอิสลามเลย
     
  5. ziang

    ziang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +12
    :boo:ใครกล้าพอที่จะพิสูจน์หาความจริงในเรื่องนี้ด้วยตัวเองผมมีวิธีมาแนะนำครับ.....
    ...ปรากฏการ “ตื่นมนุษย์ต่างดาว” ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมทั้งที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตนั้น ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่มันก็ “ไม่ใช้ความจริง" แต่อย่างใด กล่าวคือปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติทุกรูปแบบ ซึ่งมันเกิดขึ้นมาจากการที่สภาวะที่ "จิต" ของมนุษย์เข้าสู่ขั้น "ญาณสมาธิขั้นต้น" ตามธรรมชาติ โดยมีสาเหตุมาจากการที่คนๆนั้นให้ความสนใจหรือหมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเป็นพิเศษ เมื่อ "จิต" ของเขาเกิดสมาธิจนเข้าสู่ขั้น "ญาณสมาธิขั้นต้น" สมองของเขาจะสร้าง "ความฝัน" ที่มีความเหมือนจริงอย่างมาก(Lucid dreaming)ขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของเขา ซึ้งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เกิดอาการนี้ขึ้น เขาจะไม่คิดว่ามันเป็นแค่ความฝันธรรมดา แต่จะคิดว่ามันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่หนักไปกว่านั้นคือ ในบางคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าเกิดขึ้นกับคนที่เชื่อในเรื่อง "ไสยศาสตร์" พวกเขาก็จะคิดว่าเกิดมาจากอำนาจของ ภูติ ผี เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หรือ องค์เทพ ต่างๆ ในทางตรงกันข้ามถ้าเกิดกับคนที่ไม่เชื่อในเรื่อง "ไสยศาสตร์" ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะรู้ว่ามันไม่ใช้เรื่องจริง แต่ก็มีบางคนที่เมื่อเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆ เขาก็จะหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบาย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในความฝันบ่อยครั้งที่มันจะไม่สามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้ ดังนั้นเขาจึงสรุปว่า นี้ต้องเป็นการติดต่อจากผู้ที่มีวิทยาการสูงจากนอกโลก หรือก็คือ "มนุษย์ต่างดาว" แน่นอน ถ้ายิ่งใครเชื่อในเรื่องที่ตนฝันมากเท่าไหร่ ความฝันดังกล่าวก็จะเกิดได้ชัดเจนขึ้น และบ่อยครั้งขึ้น แต่ที่มหัศจรรย์ไปกว่านั้นก็คือ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ผู้ฝันเชื่อในความฝันของตนสูงสุด สูงจนเกิดความ "ศรัทธาที่บริสุทธิ์" เขาจะสามารถสร้าง ปาฏิหาริย์เล็กๆให้เกิดขึ้นได้ ส่งผลให้เขายิ่งเชื่อในปรากฏการณ์นี้มากขึ้นไปอีก ถ้าเป็นคนที่เชื่อใน "ไสยศาสตร์" ก็จะพัฒนาตัวเองจนกลายเป็น "คนทรงเจ้าเข้าผี" ไปในที่สุด ส่วนในคนที่ไม่เชื่อใน "ไสยศาสตร์" ก็จะคิดว่าตัวเองติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้จริงๆ อย่างไรก็ตามนี้ก็ยังไม่ใช้ผลเสียสูงสุดของการเกิด Luciddreaming เพราะที่ยกตัวอย่างมาก็จะแค่ทำให้เกิดการหลงผิดขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าสภาวะนี้เกิดขึ้นกับคนที่มีจิตใต้สำนึกด้านร้ายมากๆ มันก็จะส่งผลถึงขั้นทำให้คนๆนั้น “เสียสติ” หรือ “บ้า” ไปเลยก็ได้ ผู้เขียนรู้จักคนๆหนึ่งที่ “เสียสติ” เพราะฝันว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาดูดสมองเขาไป และเขาก็ทนกับสภาพฝันร้ายนั้นไม่ได้จนต้องฆ่าตัวตายไปแล้ว ข้อมูลที่กล่าวมานี้ไม่ได้กล่าวอ้างขึ้นมาเท่ๆโดยที่ไม่สามารถพิสูจน์หาความจริงอะไรได้ เพราะปัจจุบันนี้เราสามารถ "ใช้วิธีการฝึกง่ายๆ" ก็สามารถทำให้ Luciddreaming เกิดขึ้นกับเราได้ โดยเรียกวิธีการนี้ว่า "เทคนิคการควบคุมความฝัน" ถ้าใครที่ฝึกเทคนิคนี้ได้สำเร็จ เขาจะสามารถควบคุมความฝันของตัวเองได้ในแบบเรียวไทม์ ซึ่งจะทำให้เขาได้รับประสบการณ์แบบเดียวกันกับพระเอกในหนังเรื่อง INCEPTION หรือ AVATAN ซึ่งถ้าผู้อ่านท่านใดสนใจในเรื่องนี้ ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ถึงเวลาที่ทุกความฝันจะกลายเป็นจริง
     
  6. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ...เขาถึงให้ระมัดระวัง "อุปาทาน" หรือพวก "องค์ปลอม"
    อ่านก็สนุกดีนะ แต่ส่วนตัวผมไม่เชื่อท่านหรอก
     
  7. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    อ่านแล้วผมเชื่อ(ตามแบบของผม)คือ มนุษย์ต่างดาวนี่ น่าจะอยู่ในภพภูมิ31 ภพภูมินี่แหละ ไม่ใช่มาจากต่างดาวใดๆ เพราะเห็นมีกรรม มีวิญญาน มีการจุติ พวกนี้(ตามหลักกฏแห่งกรรม)
    ดังนั้นสรุปได้อย่างเคร่าๆว่า มนุษย์ต่างดาวที่ติดต่อกับคุณหมอนั้น น่าจะเป็นเทวดาในสวรรค์6ชั้นนั้นเอง หรือไม่ก็เป็นพรหม(รูปพรหม)ก็อาจเป็นได้....นี่ เข้ากันกับหมอเทพพนมได้เนียนเลย...ฮ่า
     
  8. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาว (สิ่งมีชีวิตนอกโลก) มีจริงครับ แต่ผมไม่เชื่อว่าอาจารย์แกติดต่อได้จริง ผมว่าแกหลุดมาหลายรอบละ ยิ่งไปเข้าร่วมลัทธิปิระมิดหลอกลวงคนยิ่งไปกันใหญ่ ไม่มีมนุษย์ต่างดาวซักตนฉุดแกเลยหรอครับว่า การเข้าร่วมลัทธิปิระมิดหากินกับศาสนามันไร้สมองและบาปหนาขนาดไหนน่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...