............เทวดา ทูลถาม พระพุทธเจ้า...........

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 4 พฤษภาคม 2009.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕
    สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
    มัจฉริสูตรที่ ๙


    [๑๔๘] เทวดาทูลถามว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขาทำการกีดขวางคนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่ ฯวิบากของคนพวกนั้นจะเป็นเช่นไร และสัมปรายภพของเขาจะเป็นเช่นไร ฯ ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จึงจะรู้ความข้อนั้น ฯ


    [๑๔๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขาทำการกีดขวางคนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่ ฯ คนเหล่านั้นย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือยมโลก ถ้าหากถึงความเป็นมนุษย์ ก็เกิดในสกุลคนยากจน ซึ่งจะหาท่อนผ้า อาหาร ความร่าเริงและความสนุกสนานได้โดยยาก ฯ คนพาลเหล่านั้นต้องประสงค์สิ่งใดแต่ผู้อื่น เขาย่อมไม่ได้สิ่งนั้น สมความปรารถนา นั่นเป็นผลในภพนี้ และภพหน้าก็ยังเป็นทุคติอีกด้วย ฯ


    [๑๕๐] เทวดาทูลถามว่า ก็ข้อนี้ข้าพระองค์เข้าใจชัดอย่างนี้ (แต่) จะทูลถามข้ออื่นกะพระโคดมอีก ชนเหล่าใดในโลกนี้ได้ความเป็นมนุษย์แล้วรู้ถ้อยคำ ปราศจากความตระหนี่ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าพระธรรมและพระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า วิบากของชนเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร และสัมปรายภพของเขาจะเป็นเช่นไร ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จึงจะรู้ความข้อนั้น ฯ


    [๑๕๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ชนเหล่าใดในโลกนี้ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว รู้ถ้อยคำปราศจากความตระหนี่ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า ชนเหล่านี้ย่อมปรากฏในสวรรค์อันเป็นที่อุบัติ หากถึงความเป็นมนุษย์ ย่อมเกิดในสกุลที่มั่งคั่ง ได้ผ้าอาหารความร่าเริงและความสนุกสนานโดยไม่ยาก มีอำนาจแผ่ไปในโภคทรัพย์ที่ผู้อื่นหาสะสมไว้ บันเทิงใจอยู่ นั่นเป็นวิบากในภพนี้ ทั้งภพหน้าก็เป็นสุคติ ฯ


    ชราวรรคที่ ๖
    ชราสูตรที่ ๑


    [๑๕๘] เทวดาทูลถามว่า อะไรหนอยังประโยชน์ให้สำเร็จ จนกระทั่งชรา อะไรหนอ
    ตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ อะไรหนอเป็นรัตนะของคนทั้งหลาย อะไรหนอโจรลักไปได้ยาก ฯ


    [๑๕๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จจนกระทั่งชรา ศรัทธาตั้งมั่นแล้วยัง
    ประโยชน์ให้สำเร็จ ปัญญาเป็นรัตนะของคนทั้งหลาย บุญอันโจรลักไปได้ยาก ฯ


    อุปปถสูตรที่ ๘

    [๑๗๒] เทวดาทูลถามว่า
    อะไรหนอบัณฑิตกล่าวว่าเป็นทางผิด
    อะไรหนอสิ้นไปตามคืนและวัน
    อะไรหนอเป็นมลทินของพรหมจรรย์
    อะไรหนอมิใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ฯ


    [๑๗๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    ราคะบัณฑิตกล่าวว่าเป็นทางผิด
    วัยสิ้นไปตามคืนและวัน
    หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์
    หมู่สัตว์นี้ย่อมติดอยู่ในหญิงนี้
    ตบะและพรหมจรรย์นั้น มิใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ฯ


    ทุติยสูตรที่ ๙

    [๑๗๔] เทวดาทูลถามว่า
    อะไรหนอเป็นเพื่อนของคน
    อะไรหนอย่อมปกครองคนนั้น
    และสัตว์ยินดีในอะไรจึงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ฯ


    [๑๗๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    ศรัทธาเป็นเพื่อนของคน
    ปัญญาย่อมปกครองคนนั้น
    สัตว์ยินดีในพระนิพพานจึงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ฯ


    ตัณหาสูตรที่ ๓

    [๑๘๒] เทวดาทูลถามว่า
    โลกอันอะไรหนอย่อมนำไป
    อันอะไรหนอย่อมเสือกไสไป
    โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร ฯ


    [๑๘๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    โลกอันตัณหาย่อมนำไป
    อันตัณหาย่อมเสือกไสไป
    โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือตัณหา ฯ


    อิจฉาสูตรที่ ๙

    [๑๙๔] เทวดาทูลถามว่าโลกอันอะไรผูกไว้
    เพราะกำจัดอะไรเสียจึงจะหลุดพ้น
    เพราะละอะไรได้ขาด จึงตัดเครื่องผูกได้ทุกอย่าง ฯ


    [๑๙๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    โลกอันความอยากผูกไว้
    เพราะกำจัดความอยากเสียได้จึงหลุดพ้น
    เพราะละความอยากได้ขาด จึงตัดเครื่องผูกได้ทั้งหมด ฯ


    ฆัตวาสูตรที่ ๑

    [๑๙๘] เทวดานั้น ยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
    ฆ่าอะไรหนอจึงอยู่เป็นสุข
    ฆ่าอะไรหนอจึงไม่เศร้าโศก
    ข้าแต่พระโคดม พระองค์ชอบฆ่าอะไรซึ่งเป็นธรรมอันเดียว ฯ


    [๑๙๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    ฆ่าความโกรธเสียได้จึงอยู่เป็นสุข
    ฆ่าความโกรธเสียจึงไม่เศร้าโศก
    แน่ะ เทวดา พระอริยเจ้าทั้งหลาย สรรเสริญการฆ่าความโกรธ
    ซึ่งมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน เพราะฆ่าความโกรธนั้นเสียแล้วย่อมไม่เศร้าโศก ฯ


    ที่มา ::
     
  2. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    ดีครับ ดี ๆ ๆ
    อ่านข้อความแล้วมาคิดพิจารณา อ่านแล้วดีจริงๆ ครับ
    เป็นจริงทุกประการฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...