เรื่องนิมิตและแสงสว่าง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย upanya, 28 สิงหาคม 2009.

  1. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    <!--/coloro-->
    สมัยใด เราไม่ใส่ใจนิมิตคือรูป ใส่ใจแต่นิมิตคือแสงสว่าง
    สมัยนั้น เราย่อมรู้สึกแสงสว่างอย่างเดียวแล แต่ไม่เห็นรูป


    ส่วนสมัยใดเราไม่ใส่ใจนิมิตคือแสงสว่าง ใส่ใจแต่นิมิตคือรูป
    สมัยนั้น เราย่อมเห็นรูปอย่างเดียวแล แต่ไม่รู้สึกแสงสว่าง ตลอดกลางคืนบ้าง ตลอดกลางวันบ้าง ตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันบ้าง


    ผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่ ย่อมรู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย
    และรู้สึกแสงสว่างอย่างหาประมาณมิได้ เห็นรูปอย่างหาประมาณมิได้
    ตลอดกลางคืนบ้างตลอดกลางวันบ้าง
    ตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันบ้าง...

    อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
    ให้เรารู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย
    และรู้สึกแสงสว่างอย่างหาประมาณมิได้
    เห็นรูปอย่างหาประมาณมิได้
    ตลอดกลางคืนบ้าง
    ตลอดกลางวันบ้าง
    ตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันบ้าง...


    สมัยใด เรามีสมาธินิดหน่อย
    สมัยนั้นเราก็มีจักษุนิดหน่อย ด้วยจักษุนิดหน่อย
    เรานั้นจึงรู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย


    ส่วนสมัยใด เรามีสมาธิหาประมาณมิได้
    สมัยนั้น เราก็มีจักษุหาประมาณมิได้

    ด้วยจักษุหาประมาณมิได้
    เรานั้นจึงรู้สึกแสงสว่างหาประมาณมิได้
    และเห็นรูปหาประมาณมิได้
    ตลอดกลางคืนบ้าง ตลอดกลางวันบ้าง
    ตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันบ้าง​

    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    อ้างอิง : อุปักกิเลสสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔
     

แชร์หน้านี้

Loading...