เรื่องราว

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 4 มกราคม 2011.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ต่อไปจะกล่าวถึงศีล
    ศีลคือข้อประพฤตืปฏิบัติเพื่อไห้ล่วงละเมิดในการทำความชั่ว
    ศีลนั้นถ้ารักษาศีล 5 บริสุทธิ์ครบ 5 ข้อ ก็สามารถเกิดมาเป็นมนุษย์ได้
    เพราะฉะนั้นศีลนั้นสำคัญมากขนาดไหนศีลนั้น
    มีอานิสงค์มากกว่าการให้ทาน ดังจะมีข้อความอ้างอิงดังนี้
    เมื่อกล่าวถึง ศีล ... ศีล คือ ความเป็นปกติของความเป็นมนุษย์

    ศีล แปลว่า ปกติ ผู้ที่มีศีลจึงหมายถึงผู้ที่เป็นคนปกติ เป็นมนุษย์ที่ปกติ ความปกตินั้นเป็น พื้นฐานของความสงบเรียบร้อยของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต แต่เมื่อใดเกิดความไม่ปกติขึ้น ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนหรือเสียหายย่อมเกิดขึ้นตามมา

    ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ถ้ามีความเป็นปกติ การดำเนินชีวิตก็มีแต่ความสงบสุข สังคมก็อยู่อย่างปกติ เรียบร้อย แต่วันใดที่คนปกติกลายเป็นคนไม่ปกติไป เมื่อนั้นความทุกข์ ความเดือดร้อนย่อมเกิดขึ้น ทั้งต่อ ตนเองและบุคคลที่อยู่รอบข้างด้วย อะไรคือความเป็นปกติของมนุษย์ และอะไรคือความผิดปกติของมนุษย์ ศีล ๕ หรือเบญจศีล/เบญจธรรม คือหลักธรรม ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน มุ่งเน้นให้พุทธศาสนิกชนได้ประพฤติปฏิบัติตาม ว่าด้วยการรักษากาย วาจา ใจ คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ล่วงกาม ไม่พูดปด ไม่เสพดื่มของมึนเมา

    ศีล ๕ ประการนี้ ท่านเรียกว่า มนุษยธรรม แปลว่า ธรรมสำหรับมนุษย์ ธรรมทำให้คนเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์,เป็นธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะ ผู้ที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษยธรรมนี้มาก่อน การเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากแท้ ดังพระพุทธดำรัสว่า "กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ การได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยาก" เมื่อเราได้อัตภาพเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วอย่างนี้ ไม่พยายามรักษาสภาพปกติไว้ ก็จะกลายเป็นผู้ทำลายปกติของตนเอง ผู้ที่ล่วงละเมิดศีล จึงชื่อว่าเป็นผู้ทำลายมนุษยธรรม ผู้ที่ทำลายมนุษย์ธรรมชื่อว่าเป็นผู้ทำลายปกติของตนเอง โดยสรุปแล้ว ศีล จึงเป็นคุณธรรมพื้นฐาน ที่เกิดขึ้นได้จากสามัญสำนึกของมนุษย์

    ศีล ๕ เป็นคุณธรรมพื้นฐาน หมายถึง เป็นเครื่องช่วยควบคุมกายวาจาของมนุษย์ให้เรียบร้อย เพื่อ ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขพอสมควร หากมีผู้ใดทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อแล้ว ก็จะแสดงพฤติกรรม หรือการกระทำที่ผิดปกติของมนุษย์ออกมา ซึ่งจะก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย เกิด ความเดือดร้อนทั้งต่อตนเอง หมู่คณะ และสังคมส่วนรวม

    ศีล ๕ เกิดขึ้นจากสามัญสำนึกของมนุษย์ หมายถึง ที่ปรารถนาจะอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข ปลอดภัย โดยไม่ต้องหวาดระแวงหรือกลัวอันตราย หรือกลัวว่าจะถูกเบียดเบียนทำร้าย ไม่ว่าจากใคร หรือด้วยวิธีใดก็ตาม บุคคลผู้ต้องการความสุขใน ปัจจุบัน พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมสำหรับบุคคลนั้นไว้ ทั้งทาน การประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม ในฐานะฆราวาส เราจึงควรถือศีลห้าเป็นนิจ

    เมื่อสำนึกได้ว่า สิ่งที่ควรจะระลึกไว้เสมอคือความสุขความทุกข์ทั้งหลายที่เราประสพทั้งในอดีต, ปัจจุบันและอนาคต (ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า) ไม่มีใครทำให้เรา, ช่วยเรา, ทำร้ายเรา ฯลฯ หากแต่เป็นผลของการกระทำที่เราทำไว้ทั้งสิ้น ใส่ใจสักนิดเพื่อตัวเราเอง ถึงเวลาแล้วที่จะตระหนักว่าเช่นไรถึงจะเป็น การทำเพื่อตัวเอง อย่างแท้จริง ดังคำที่ท่านว่า <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    คนเข้าถึงสุคติได้ก็เพราะศีล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คนเข้าถึงโภคสมบัติได้ก็เพราะศีล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คนเข้าถึงพระนิพพานได้ก็เพราะศีล<o:p></o:p>
    ศีล ๕ ข้อ คือ
    ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
    ๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
    ๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
    ๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ
    ๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย
    อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพียงรู้จักว่าศีล ๕ ข้อมีอะไรบ้างเท่านั้น ยังไม่พอ ผู้รักษายังต้องรู้เลยไปถึงว่า ท่านวางกฎ
    เกณฑ์ไว้อย่างไรในการวินิจฉัยว่าทำอย่างไรแค่ไหนจึงล่วงศีล คือศีลขาด โดยใช้กฎเกณฑ์ในการวินิจฉัยที่
    ท่านเรียกว่า องค์ของศีล เป็นเครื่องตัดสิน ถ้าครบองค์ของศีลข้อนั้นๆ ศีลข้อนั้นก็ขาด ถ้าไม่ครบองค์ที่
    วางไว้ ขาดไปหนึ่งหรือสองข้อ ถือว่าศีลไม่ขาด แต่ศีลก็เศร้าหมอง องค์ของศีลที่ท่านวางไว้จึงเป็นเครื่อง
    เตือนใจให้สำรวมระวังไม่ประมาท<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลข้อ ๑ มีองค์ ๕ คือ
    ๑. <SUP>*</SUP>ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
    ๔. อุปกฺกโม เพียรเพื่อจะฆ่า
    ๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความเพียรนั้น
    ------------------------------------------------------
    <SUP>*</SUP> อรรถกถาบางแห่งใช้ว่า ปรปาโณ คือสัตว์อื่นที่มีชีวิต มิได้หมายถึงตัวเอง เพราะฉะนั้น
    การฆ่าตัวเองจึงไม่ล่วงกรรมบถ เพราะไม่ครบองค์ของศีลข้อนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าครบองค์ ๕ ศีลข้อ ๑ ก็ขาด ถ้าไม่ครบ ๕ ข้อ ศีลไม่ขาด แต่ก็เศร้าหมอง
    โทษของศีลข้อ ๑ นี้ อย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์
    เดรัจฉาน อย่างเบาทำให้อายุสั้นเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถึงกระนั้นโทษของการล่วงศีลข้อนี้ก็หนักเบาต่างกันด้วยร่างกายของสัตว์ ๑ ด้วยคุณของสัตว์ ๑
    ด้วยเจตนา ๑ และด้วยความพยายาม <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กล่าวคือ ถ้าฆ่าสัตว์ใหญ่ โทษก็มาก ถ้าฆ่าสัตว์เล็ก โทษก็น้อย
    ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณมาก โทษก็หนักมาก ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณน้อย โทษก็น้อยลดหลั่นกันลงไป
    ถ้าเจตนา คือความจงใจแรง โทษก็แรง ถ้าเจตนาคือ ความจงใจอ่อน โทษก็น้อย
    ความพยายามมากโทษก็มาก ความพยายามน้อยโทษก็น้อย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แต่อย่าได้คิดว่าเมื่อท่านฆ่าสัตว์เล็ก ทั้งมีคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName w:st="on" ProductID="น้อย มีความจงใจอ่อน">น้อย มีความจงใจอ่อน</st1:personName> และมีความพยายามน้อย
    โทษก็น้อย คงจะไม่น่ากลัว อย่าลืมว่า บาปอกุศลนั้นถึงแม้จะเล็กน้อยก็ไม่ควรทำ เพราะเมื่อสำเร็จเป็น
    กรรมแล้ว ย่อมพาไปอบายได้เช่นเดียวกับโทษหนักเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจไปอยู่ในอบายชั่วระยะเวลา
    อันสั้น ไม่ยาวนานเหมือนโทษหนัก เพราะฉะนั้นจึงควรสังวรระวังไม่ประมาทแม้โทษเพียงเล็กน้อย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใน อรรถกถาวัมมิกสูตร มัช.มูล. เล่าถึงพวกโจรที่ฆ่าอุบาสกที่เป็นพระอนาคามีว่าทำให้ตา
    บอดทันที เพราะผู้ถูกฆ่าเป็นสัตว์ใหญ่ มีคุณธรรมสูง เจตนาของโจรก็แรง ผลจึงเกิดขึ้นในปัจจุบันทันที
    ยังไม่ต้องกล่าวถึงโทษที่จะเกิดในอนาคตว่าจะร้ายแรงแค่ไหน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลข้อ ๒ มีองค์ ๕ คือ
    ๑. ปรปริคฺคหิตํ ของมีเจ้าของหวงแหน
    ๒. ปรปริคฺคหิตสญฺญิตา รู้ว่ามีเจ้าของหวงแหน
    ๓. เถยฺยจิตฺตํ จิตคิดจะลัก ( ทั้งโดยคิดลักเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นลักแทน )
    ๔. อุปกฺกโม เพียรเพื่อจะลัก
    ๕. เตน หรณํ นำของมาด้วยความเพียรนั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าครบองค์ ๕ ศีลข้อสองนี้ก็ขาด
    โทษของศีลข้อสองนี้ อย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบายเช่นเดียวกับศีลข้อ ๑ อย่างเบาทำให้ทรัพย์
    สมบัติพินาศไปเมื่อเกิดเป็นมนุษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลข้อ ๓ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. อคมนียวตฺถุ วัตถุที่ไม่ควรถึง (คือชาย หรือหญิงที่มีเจ้าของ หรือมีผู้คุ้มครองดูแลรักษา)
    ๒. ตสฺมึ เสวนจิตตํ จิตคิดจะเสพในวัตถุนั้น
    ๓. เสวนปฺปโยโค พยายามที่จะเสพ
    ๔. มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ อธิวาสนํ ทำมรรคต่อมรรคให้ถึงกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อ ๓ นี้ก็ขาด
    ศีลข้อนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา และคุณของผู้ถูกล่วงด้วย กล่าวคือ ถ้าจงใจมากโทษก็หนัก ถ้าจงใจ
    น้อยโทษก็น้อย ถ้าผู้ถูกล่วงเป็นผู้มีศีลโทษก็หนัก เช่นในสมัยพุทธกาล นันทมาณพล่วงเกินนาง<st1:personName w:st="on" ProductID="อุบลวรรณา อรหันตเถรี">อุบลวรรณา
    อรหันตเถรี</st1:personName>
    โทษถึงธรณีสูบก่อนแล้วจึงตกนรกอเวจี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    โทษของศีลข้อ ๓ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้มีศัตรู คู่เวร เมื่อเกิดเป็นมนุษย์
    (ในชาดกแสดงว่าทำให้เกิดเป็นกระเทย หรือเมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือมนุษย์แล้วต้องถูกตอน)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลข้อ ๔ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. อตถํ วตฺถุ เรื่องไม่จริง
    ๒. วิสํวาทนจิตฺตํ จิตคิดจะพูดให้ผิด
    ๓. ตชฺโช วายาโม พยายามพูดออกไป
    ๔. ปรสฺส ตทตฺถวิชานนํ คนอื่นเข้าใจเนื้อความนั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อ ๔ ก็ขาด
    โทษของศีลข้อ ๔ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้ถูกกล่าวตู่ด้วยคำที่ไม่เป็น
    จริง ในเมื่อเกิดเป็นมนุษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลข้อ ๕ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. มทนียํ ของทำให้เมามีสุราเป็นต้น
    ๒. ปาตุกมฺยตาจิตฺตํ จิตใคร่จะดื่ม
    ๓. ตชฺโช วายาโม พยายามดื่ม
    ๔. ปีตปฺปเวสนํ ดื่มให้ไหลล่วงลำคอเข้าไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อที่ ๕ ก็ขาด
    <SUP>*</SUP> โทษของศีลข้อ ๕ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้เป็นบ้า ขาดสติ ในเมื่อ
    เกิดเป็นมนุษย์
    ------------------------------------------------------
    <SUP>*</SUP> โทษของศีลทั้ง ๕ ข้อ จากสัพพลหุสสูตร อํ. อัฏฐกนิบาต ข้อ ๑๓๐<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ในปัจจุบันนี้มีสิ่งเสพติดที่มีโทษมากกว่าสุราและเมรัย เช่นกัญชา และยาเสพติดเป็นต้น แม้จะ
    ไม่จัดไว้แต่เดิม แต่ถ้าเสพแล้วก็สงเคราะห์เข้าว่าขาดศีลข้อ ๕ นี้เช่นกัน โดยอาศัยมหาประเทศ ๔
    ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในวินัยเป็นเครื่องตัดสิน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ เมื่อผู้ใดล่วงเข้า ถือว่าล่วงกรรมบถมีโทษมาก จัดเป็นเวร คือก่อให้
    เกิดผลร้ายทั้งในปัจจุบัน และอนาคต<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เช่นเมื่อล่วงศีลข้อ ๑ มีผลทำให้เกิดในอบาย หรือทำให้มีอายุสั้นเป็นต้น ทั้งเป็น โลกวัชชะ คือ
    มีโทษที่ชาวโลกควรเว้น กล่าวคือ ศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ ถึงใครจะรักษาหรือไม่รักษาก็ตาม เมื่อประพฤติล่วงเข้า
    แล้ว ย่อมเกิดโทษแก่ผู้ล่วงนั้นทั้งสิ้น ทำให้ได้รับโทษเกิดในอบายเป็นต้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพราะฉะนั้นจึงควรเว้นสิ่งที่มีเวรมีโทษเสีย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อนึ่ง ผู้ที่ไม่ฆ่าสัตว์ แต่ชอบเบียดเบียนสัตว์ให้เป็นทุกข์เดือดร้อน แม้ศีลข้อที่ ๑ ไม่ขาด แต่ก็
    ขาดธรรม คือเมตตากรุณา ด้วยเหตุนี้ผู้ที่จะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์หมดจดจริงๆ จึงต้องมีธรรมที่คู่กับศีล
    แต่ละข้อกำกับไว้ด้วย คือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๑. เมตตากรุณา คู่กับศีลข้อที่ ๑ เมตตา นั้นได้แก่ ความปรารถนาจะให้ผู้อื่นเป็นสุข ส่วน
    กรุณา นั้นปรารถนาจะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    ๒. สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีวิตชอบ คู่กับศีลข้อที่ ๒ ในที่นี้หมายถึงการประกอบอาชีพที่สุจริต
    ไม่ผิดศีลผิดธรรม เพื่อให้ได้ทรัพย์สินมาใช้สอยเลี้ยงดูตนเองและผู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน
    ๓. ความสำรวมในกาม คือยินดีเฉพาะคู่ครองของตน คู่กับศีลข้อที่
    ๔. ความมีสัจจะ คือพูดจริงทำจริง คู่กับศีลข้อที่ ๔
    ๕. ความมีสติ สำรวมระวังไม่ประมาท คู่กับศีลข้อที่ ๕<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้มีทั้งศีลและธรรมคู่กันไป ย่อมเป็นผู้งามพร้อมไม่มีที่ติ เพราะฉะนั้น ศีล ( ที่ประกอบด้วย
    ธรรม ) จึงเป็นอาภรณ์ หรือเครื่องประดับอันประเสริฐสำหรับมนุษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ที่ปรารถนา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตลอดจนการเกิดในสุคติเป็นมนุษย์ และเทวดา หรือ
    ปรารถนาจะไม่เกิด คือบรรลุนิพพาน ก็ต้องอาศัยศีล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ความปรารถนาของผู้มีศีลเท่านั้นที่จะสำเร็จ หรือความสำเร็จ
    ผลสมความปรารถนาจะเกิดแก่ผู้มีศีลเท่านั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทุกคนปรารถนาของดีทั้งสิ้น ไม่มีใครปรารถนาของไม่ดี เมื่อปรารถนาของดีก็ต้องทำดี ผลที่
    ได้รับจึงจะดีตามการกระทำ แต่ถ้าปรารถนาของดีแล้วทำชั่ว ผลที่ได้รับก็ชั่วตามการกระทำ เมื่อได้รับ
    ผลชั่วมีการเกิดในอบายเป็นต้นแล้ว ความปรารถนาเหล่านั้นจะสำเร็จได้อย่างไร<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้ที่ไม่ทำชั่วจึงต้องมีศีลเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังตรัสว่า ศีล ๕ นี้เป็น มหาทาน<SUP>*</SUP> เป็นทานที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็น
    การให้ความไม่มีเวรไม่มีภัยแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ กล่าวคือ<o:p></o:p>


    <o:p></o:p>

    <SUP>*</SUP>ปุญญาภิสันทสูตร อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ข้อ ๑๒๙<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การรักษาศีลข้อ ๑ คือการงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ทั้งด้วยตนเองและใช้ให้ผู้อื่นฆ่าแทนตน
    เป็นการให้ชีวิตแก่สัตว์ทั้งปวง
    การรักษาศีลข้อ ๒ คืองดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของเขามิได้ให้ เป็นการให้ความ
    ปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ คือการงดเว้นจากการประพฤติผิดในบุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น เป็นการ
    ให้ความบริสุทธิ์แก่บุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ ๔ คือการงดเว้นจากการพูดเท็จ เป็นการให้ความจริงแก่ผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ ๕ คือการงดเว้นจากการดื่มสุราเมรัย และสิ่งเสพติดอันเป็นโทษทุกชนิด
    เป็นการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง คือให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตสัตว์ ให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สิน
    ของผู้อื่น ให้ความบริสุทธิ์แก่บุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น ให้ความจริงแก่ผู้อื่น ทั้งนี้เพราะผู้ที่มึนเมาเพราะ
    สุราเป็นต้น ย่อมขาดสติ สามารถทำความชั่วได้ถึงที่สุด คือฆ่าแม่ฆ่าพ่อก็ได้ เพราะฉะนั้นการงดเว้นจาก
    การเสพสิ่งเสพติด มีโทษเหล่านี้จึงเป็นการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ก็เมื่อเราได้ให้ความไม่มีเวร ไม่มีภัยแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้อย่างนี้แล้ว ย่อมได้รับ
    ความไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่ถูกเบียดเบียน หาประมาณมิได้เช่นกัน เพราะเราทำเหตุอย่างใด ย่อมได้รับ
    ผลเช่นนั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ด้วยเหตุนี้ผู้ไม่มีปัจจัยจะบริจาคทาน จึงไม่ควรเสียใจ เพราะกุศลที่สูงกว่าทานที่ไม่ต้องอาศัย
    ปัจจัยก็สามารถบำเพ็ญได้นั้นมีอยู่ กุศลนั้นคือ ศีลกุศล ที่พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมหาทาน ล้ำเลิศกว่า
    ทานธรรมดา ที่ต้องเสียสละของออกไปเสียอีก<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ควรหรือไม่ที่จะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ดังได้กล่าวแล้วว่า ศีล ๕ เป็นศีลของคฤหัสถ์ ที่คฤหัสถ์ทั้งชายหญิงควรรักษาเป็นปกติ เป็น
    ประจำตลอดชีวิต<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    อานิสงส์ของการรักษาศีล 5 ของพระอาจารย์<st1:personName w:st="on" ProductID="มั่น ภูริทัตตเถระ">มั่น ภูริทัตตเถระ</st1:personName>

    คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติไม่คะนองทางกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทางกาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่าเป็นศีล เป็นธรรม

    เราควรรักษาศีล 5
    1. สิ่งที่มีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียน ข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
    2. สิ่งของของใคร ๆ ก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย ฉกลัก ปล้น จี้ เป็นต้นอันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน
    3. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใคร ๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อม ล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
    4. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
    5. สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดี ๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดีมีสติปกครองตัว อย่างมนุษย์จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน

    อานิสงส์ของการรักษาศีล 5
    1. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
    2. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
    3. ระหว่างลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล้ำกรายต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
    4. พูดอะไร มีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ด้วยศีล
    5. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลกให้ มีแต่ความอบอุ่นไม่เป็นระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า

    ศีล นั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนา คือ จิตใจ คนเราถ้าจิตไม่มี ก็ไม่เรียกว่าตน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่าง ๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอคนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไรยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยาก ยากเข็ญยิ่งไม่มี

    กายกับจิต เราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้จากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล

    ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีล ย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ สมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์ จิตดวงเดียว เป็นศีลเป็นสมาธิ เป็นปัญญา

    ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวรหมดภัย

    ที่มา : คติธรรม คำสอน ของ องค์ท่านพระอาจารย์<st1:personName w:st="on" ProductID="มั่น ภูริทัตตเถร">มั่น ภูริทัตตเถร</st1:personName><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p>เอาบุญมาฝากวันนี้ตั้งใจว่าจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน</o:p>
    <o:p>รักษาศีล อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง กรวดน้ำอุทิศบุญ</o:p>
    <o:p>เมื่อวานนี้ได้ไหว้พระ สวดมนต์ สักการะพระธาตุ ฟังธรรม เจริญเมตตาภาวนา</o:p>
    <o:p>และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีครบ 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย</o:p>




    ขอเชิญร่วมบูรณะหลังคาโบสถ์ วัดชันสูตร จ.สิงห์บุรี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขณะนี้การบูรณะหลังคาพระอุโบสถของวัดชันสูตร อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ยังขาดปัจจัยอีกประมาณ 2 แสนกว่าบาท จึงอยากจะขอรบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อให้การดำเนินการบูรณะหลังคาพระอุโบสถเสร็จสมบูรณ์โดยไว เนื่องจากทางวัดไม่สามารถประกอบศาสนกิจในพระอุโบสถได้

    ท่านสามารถโอนเงินทำบุญเข้าบัญชี
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดชันสูตร
    ชื่อบัญชี พระครูพิมลธรรมประยุต
    เลขที่บัญชี 304-2-25529-6
    หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ 08 6148 5075 (พระอาจารย์เบี้ยว) เจ้าอาวาส วัดชันสูตร
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ช่วยกันบูรณะองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง น่าน

    ทอง จังโกหุ้มพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง จ.น่านร่วงหล่นเหลือแต่อิฐกับปูน คาดเกิดจากสภาพที่ฝนตกหนัก ทำให้น้ำซึม ตะปูที่ยึดติดเกิดหลุดออก ด้านกรมศิลป์เร่งหาทางซ่อม การสำรวจเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ ทองจังโกหุ้มองค์พระธาตุร่วงหลุดลงมาเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนัก จนทำให้น้ำซึมเข้าองค์พระธาตุ และตะปูที่ตอกเย็บแผ่นโลหะที่หุ้มอยู่หลวม ทำให้หลุดออกมา และดึงกันร่วงลงทั้งแถบ นอกจากนี้ ยังพบว่าทองจังโกที่หุ้มองค์พระธาตุด้านทิศใต้ และที่หุ้มอยู่ด้านบนอีกหลายจุดก็สั่นคลอน ใกล้จะหลุดร่วงลงมา ขณะที่พระครูวิสิฐนันทวุฒิ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง กล่าวว่า พระธาตุเคยได้รับการบูรณะ หุ้มทองจังโก โดยนาย<st1:personName w:st="on" ProductID="สุจริต นันทมนตรี">สุจริต นันทมนตรี</st1:personName> อดีต ผวจ.น่าน เมื่อปี 2536 เป็นต้นมา ซึ่งพระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้เกิดปีกระต่าย หรือปีเถาะ ผู้ใจบุญท่านใดประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพ

    โอนเงินผ่านทาง
    บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาน่าน
    หมายเลข 114 – 2 – 49949 - 1
    ชื่อบัญชี โครงการบูรณะเสนาสนะ วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน



    บัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาน่าน ประเภทออมทรัพย์
    ชื่อบ/ช วัดพระธาตุแช่แห้ง(วัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่น)
    เลขที่บัญชี: 507-0-31974-4

    - พระครูวิสิฐนันทวุฒิ โทร. 089 432 7801
    - ฝ่ายประชาสัมพันธ์(ศูนย์รับบริจาค) โทร.054 751 846
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เนื่องด้วย วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น
    ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 45120 โทร0860152130 ปัจจุบันมีหลวงปู่ดี คัมภีโร อายุ65 พรรษา44 เป็นเจ้าอาวาส ได้ดำเนินงานก่อสร้างเมรุขึ้นใหม่ เเทนเมรุที่ชำรุด ตอนนี้งานก่อสร้างได้คืบหน้าไปมาก เเละได้ดำเนินก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงวันที่1มกราคม2554 งบในการก่อสร้างได้หมดลง งานก่อสร้างเมรุ จึงได้หยุดชะงักไปด้วยเนื้องไม่มีงบในการก่อสร้างต่อ ด้วยเหตุดังกล่าว จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ที่ขอบอกบุญ ญาติโยม ที่ต้องการทำบุญขอเชิญร่วมบริจาคสร้างเมรุ ตามกำลังทรัพย์เเละศรัทธากับทางวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น เพื่อให้เเล้วเสร็จสมบูรณ์ เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ ที่จำเป็นจริงๆ (เจ้าภาพมุงหลังคากระเบื้องเเผ่นละ20บาท)
    อาตมาภาพ พระจิรวัฒน์ ญาณนวโร ปัจจุบันพักจำพรรษาที่วัดต้นไทรย์ ซ.อ่อนนุช 29 เเขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กกกรุงเทพ 10250 ซึ้งเป็นลูกศิษย์ ของหลวงปู่ดี คัมภีโร จึงได้จัดให้มีงานบุญ ทอดผ้าป่าสามัคคี ในครั้งนี้นีขึ้น
    กำหนดงานทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันที่5-6 มีนาคม 2554 (ร่วมเป็นประธาน ร่วมทำบุญ1000บาท รองประธานร่วมทำบุญ500บาท กรรมการร่วมทำบุญ100<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมบูรณะพระเจดีย์อายุประมาณ ๒๐๐ ปี<O<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    วัดใหม่ยายแป้น เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐ <O<v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    สันนิฐานว่าสร้างเมื่อสมัยต้นกรุงธนบุรี เดิมมี ๒ องค์ แต่ถูกทำลาย เหลือเพียง ๑ องค์ พระอุโบสถเดิมหลังเก่าที่ถูกลูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่ไม่ระเบิด ลูกระเบิดไปอยู่ใต้ฐานพระประธาน เมื่อหลังคาพังลง จึงสร้างพระอุโบสถแทนหลังเดิม <O<v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    ทางวัดใหม่ยายแป้น จึงบูรณะพระเจดีย์ไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา<O<v:shape id=_x0000_i1031 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1032 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    จึงเรียนผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมในการบูรณะในครั้งนี้<O<v:shape id=_x0000_i1033 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1034 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    ติดต่อได้ที่ พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ ผศ.ดร.<O<v:shape id=_x0000_i1035 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1036 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>
    โทร ๐๘๙-๙๖๓-๔๕๐๕ <O<v:shape id=_x0000_i1037 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1038 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เรียนเชิญทุกท่านร่วมบุญจัดทำหนังสือ
    พระวิปัสสนาจารย์สภาวะณาน 16 และ
    คู่มือการกำหนดเบื้องต้นสำหรับผู้ปฎิบัติใหม่(ฝึกวิปัสนากรรมฐาน)

    เพื่อเป็นธรรมทาน ถวายพระสงฆ์ และผู้สนใจปฎิบัติฝึกทั่วไป
    เพื่อเอื้อประโยชน์แด่ชาวพุทธที่เข้าใจธรรมอันดีแล้วและยังไม่เข้าใจ
    เพื่อเป็นกุศลในการประกอบแก่พุทธบริษัททั้งหลาย



    สนใจสามารถร่วมบุญร่วมจัดพิมพ์หนังสือ แล้วแต่จิตศรัทธา ได้ที่
    บัญชี พระมหาณัชพล นราวงษ์
    (วัดพิชยญาติการาม วรวิาร)

    ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 006-257897-1สาขาธนบุรี

    ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 044-0-12941-9สาขาท่าดินแดง


    ทั้งนี้ จะนำ รายชื่อผู้ที่ร่วมบริจาค พิมพ์๑๐ เล่มขึ้นไปในรายนามผู้บริจาคท้ายเล่ม
    ของหนังสือพระวิปัสสนาจารย์สภาวะณาน 16หนังสือจัดพิมพ์เล่มล่ะ 175 บาท

    และรายชื่อผู้ที่ร่วมบริจาค พิมพ์20 เล่มขึ้นไปในรายนามผู้บริจาคท้ายเล่มสำรับผู้ร่วมบริจาค
    คู่มือการกำหนดเบื้องต้นสำหรับผู้ปฎิบัติใหม่(ฝึกวิปัสนากรรมฐาน)หนังสือจัดพิมพ์เล่มล่ะ 60 บาท
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เชิญตักบาตรพระกัมมัฏฐานวัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร ประจำปี ๒๕๕๔
    รายละเอียดที่พระวิมลศีลาจาร ๐๒ ๒๑๖ ๘๑๗๖
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผ้าปูที่นอนเก่าแลกผ้าปูที่นอนใหม่
    ชุดเครื่องนอนโตโต้ จัดกิจกรรมผ้าปูที่นอนเก่า (ยี่ห้อใดก็ได้) แลกซื้อผ้าปูที่นอนใหม่รุ่นไร้รอยต่อยี่ห้อโตโต้ขนาด 3.5 ฟุตได้ในราคา 200 บาท และขนาด 5-6 ฟุตในราคา 300 บาท ตั้งแต่วันนี้หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
    ทางบริษัทจะนำผ้าปูที่นอนเก่าทั้งหมดไปบริจาคให้แก่ สถานพยาบาลผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ ณ วัดพระบาทน้ำพุ
    ดาวโหลดแบบฟอร์มแลกซื้อได้ที่ Please Wait.... หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 08-6311-7659


    คอมนี้พี่ซ่อมให้
    โครงการคอมนี้พี่ซ่อมให้ต้องการรับบริจาคคอมพิวเตอร์มือสองจำนวนมาก เพื่อนำไปเพิ่มศักยภาพในการศึกษา และเปิดโลกกว้างให้น้องๆ ตามโรงเรียนในชนบทที่ยังขาดแคลน
    นอกจากนี้ ทางโครงการยังต้องการอาสาสมัครที่มีความรู้ความสามารถในการซ่อมคอมพิวเตอร์ มาร่วมงานทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 -14.00 น.
    สอบถามรายละเอียดได้ที่ โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อน้อง มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 41 อาคารเลิศปัญญา ห้อง 907 ชั้น 9 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400 โทรศัพท์ 02-642- 7991 ต่อ 17


    มอบไออุ่น สู่พี่น้องบนดอยสูง
    โครงการ มอบไออุ่น จากอุ่นไอรัก สู่พี่น้องบนดอยสูง" ขอเชิญผู้ใจดีร่วมกันแบ่งปันน้ำใจ บริจาคผ้าห่ม จำนวน 2,000 ผืน และ เสื้อกันหนาวสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 ตัว สำหรับพี่น้องชาวไทยชาวภูเขาผู้ประสบภัยหนาว ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง
    เชิญร่วมบริจาคได้ที่โครงการกองทุนเสื้อผ้ามือสอง มูลนิธิกระจกเงา 106 หมู่ 1 บ้านห้วยขม ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100 หรือ โทรศัพท์ 053-737412 ถึง 3 ต่อ 113


    ความดีต้องเพียงพอ ชีวิตต้องพอเพียง
    ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญเยาวชนร่วมประกวดเรียงความ ชีวิตดีเพราะมีวินัย ... แรงบันดาลใจจากคำพ่อสอนทำความดี และดำรงชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
    ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณ<st1:personName w:st="on" ProductID="อภิดล โทรศัพท์">อภิดล โทรศัพท์</st1:personName> 0-2940-9946 หรือ 081-810-250 เว็บไซต์at 8kondee.com


    สานฝันเด็กป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
    มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง “Wishing well” ก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะต่อเติมความฝันของเด็กซึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และไม่สามารถรักษาได้ ให้มีโอกาสเลือกแนวทางการรักษา เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายให้มีคุณภาพและมีคุณค่าทางจิตใจ โดยการทำฝันครั้งสุดท้ายให้เป็นความจริง
    ร่วมสบทบทุนเข้ามูลนิธิสายธารแห่งความหวัง ได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-95999-4 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง 25 สาทรใต้ ตึกกรุงเทพประกันภัย ชั้น 9 ถนนสาทร กรุงเทพ 10120 โทรศัพท์ 0-2677-4117 เว็บไซต์สานฝัน มะเร็งในเด็ก มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง Wishing Well Thailand


    คุณครูริมคลอง
    กลุ่มอาสาอิสระและกลุ่ม ซ.โซ่อาสา ขอชวนหนุ่มสาวชาวกรุงร่วมแบ่งปันความรู้สู่น้องๆ ผู้ยากไร้กับ ครูอาสาใจกลางเมือง โครงการดีๆ ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขอเพียงมีใจที่จะร่วมแบ่งปันก็พอ พร้อมเปิดการเรียนการสอนแล้วทุกเสาร์-อาทิตย์ที่ชุมชนตึกแดง บางซื่อ (เสาร์ 09.00-12.00น.) , ครูริมคลองข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์ (อาทิตย์ 09.00-12.00 น.) และครูใต้สะพานอรุณอมรินทร์ (อาทิตย์ 14.00-16.30 น.) สอบถามโทร 081-515-8564
    ด่วน! รับจำนวนไม่จำกัด


    กล่องของพี่ เพื่อสมุดของน้อง
    กล่องใครว่าไม่สำคัญ เพราะนอกจากจะมีไว้บรรจุของแล้ว กล่องยังสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้งกับ โครงการกล่องของพี่ เพื่อสมุดของน้อง ที่เชิญชวนผู้มีน้ำใจร่วมบริจาคกล่องเครื่องดื่มประเภทกล่องนม กล่องน้ำผลไม้ และกล่องชาเขียวต่าง ๆ เพื่อนำมารีไซเคิลเป็นสมุดเรียนส่งตรงยังน้องๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
    ส่วนวิธีการร่วมบริจาคก็ไม่ยาก แค่ดื่มน้ำให้หมด แกะมุมกล่อง พับให้แบน แล้วส่งใส่ตู้รับบริจาคที่ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งร้านค้าสะดวกซื้อที่เข้าร่วมโครงการฯ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น, คาร์ฟูร์, โรบินสัน, สยามพารากอน ฯลฯ ข้อมูลเพิ่มเติม ชมรมผู้ผลิตกล่องเครื่องดื่ม : Thai Beverage Carton Group


    ธรรมะ Mobile
    ธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ได้เปิดตัวสื่อธรรมะนวัตกรรมใหม่ ธรรมะ Mobile” เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้คนที่ไม่มีเวลาเข้าวัดฟังธรรม ได้เสพธรรมะสั้นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือในรูปแบบ SMS ทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร ในอัตราค่าสมาชิกเพียงเดือนละ 29 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อลดทุกข์ สร้างสุข และสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในใจของทุกคนอย่างไร้ขีดจำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-502-0428


    Reuse me, please.
    ของเหลือใช้สำหรับบางคน อาจเป็นของมีค่าที่สุดสำหรับอีกคนหนึ่งก็ได้ ใครที่กำลังจะโละของเหลือใช้ทิ้งลงถังขยะ ทางมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ขอรับบริจาคของเหล่านั้น เพื่อนำมาสร้างใหม่เป็นสื่อการสอนสำหรับน้องในถิ่นทุรกันดาร ไม่ว่าจะเป็นปฎิทินเก่า แก้ว เสื้อผ้า ต่างหู เข็มกลัด เศษกระดาษ กระดุม ลูกปัด ฯลฯ ก็สามารถนำมาบริจาคเป็นสื่อการสอนที่อัดแน่นด้วยสาระได้
    นอกจากจะบริจาคของแล้ว หากใครมีเวลาว่างยังสามารถมาร่วมออกแรงสร้างสื่อการสอนให้น้องๆ ที่มูลนิธิฯได้อีกด้วย สนใจติดต่อ 02-691-0437-9 (ก่อนเวลา 18.00 น.)


    เพียง 1 บาทก็ช่วยงานอาสาได้
    เชื่อหรือไม่ว่า เงิน 1 บาทสามารถช่วยเหลือผู้คนนับร้อยนับพันได้ ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุน กองทุน V Fund” เพียงอาทิตย์ละ 1 บาท ตลอด 1 ปี ผ่านบัญชี มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย เพื่อกองทุนจิตอาสา ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บัญชีเลขที่ 043-2-66606-6 จากนั้นกองทุนจะรวมเงินส่งต่อให้กับมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการจิตอาสาคลองใส โครงการศิลปะในสวน การจัดทำแผนที่ทำดีออนไลน์ ฯลฯ
    เพียงแค่ 1 บาทก็สามารถสร้างสรรค์สังคมให้ดีงามได้ สนใจสอบถามที่โทร 02-319-5017


    สมทบทุนสร้างพระอุโบสถธรรมชาติ
    วัดป่าสันติธรรม ประเทศออสเตรเลีย ขอชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุโมทนาบุญสมทบทุนสร้างพระอุโบสถธรรมชาติแห่งแรกในออสเตรเล
    ีย ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบในถ้ำของเขตอุทยาน Morton National Park ซึ่งพระอุโบสถแห่งนี้จะใช้เป็นสถานที่ในการอุปสมบทภิกษุ ภิกษุณี รวมทั้งบรรยายธรรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พลังจิต เว็บพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism


    หนูหิว-หนูอยากเรียน
    เชื่อหรือไม่ว่า ร้อยละ 35 ของเด็กในพม่าเรียนจบไม่เกินชั้น ป. 5 แถมจำนวนทหารเด็กในพม่ายังสูงที่สุดในโลกถึง 70,000 คน! ไม่นับรวมปัญหาความยากจน ภาวะทุโภชนาการและเด็กกำพร้า
    ปัจจุบันพม่ามีโรงเรียนวัดที่ช่วยโอบอุ้มเด็กเหล่านี้ให้ได้เรียนและไม่อดอยากถึง 1,400 แห่ง แต่ด้วยสภาพสังคมปิดและเศรษฐกิจถดถอยโดยเฉพาะหลังเกิดไซโคลนนาร์กิส ทำให้โรงเรียนวัดเหล่านี้ขาดแคลนเงินทุนสำหรับอุปกรณ์การเรียน อาหาร และจ้างครู อย่างหนัก
    เครือข่ายพุทธิกา และองค์กรด้านเด็กของไทยรวม 18 องค์กร รวมทั้งภาคีอื่นๆ จึงจัดทำ ผ้าป่าเพื่อการศึกษาของเด็กยากไร้ในพม่า เพื่อนำเงินบริจาคทั้งหมดมอบให้โรงเรียนวัดในพม่าแห่งละ 50,000 บาท หลังทอดผ้าป่าเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมานี้สามารถรวบรวมปัจจัยได้ถึง 2.4 ล้านบาท แต่เนื่องจากโรงเรียนวัดในพม่ามีจำนวนมากดังกล่าวแล้ว การบริจาคสมทบทุนจึงยังคงทำได้ต่อไปผ่านทาง มูลนิธิเด็ก 3 ช่องทาง คือ ทางธนาณัติ สั่งจ่าย ปณ.กระทุ่มล้ม 73220, ทางตั๋วแลกเงิน สั่งจ่าย มูลนิธิเด็ก หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม มูลนิธิเด็ก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรเกษม ซอย 114 เลขที่บัญชี 115-2-14733-0 (กรณีโอนเงิน ให้ส่งสำเนาใบโอนทางโทรสารหรือแฟ็กซ์ 0-2814-0369 หรือโทร. 0-2814-1481-7)
    คนไทยเรามีน้ำใจต่อผู้ทุกข์ยากและเดือดร้อนเสมอไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน
    ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ เครือข่ายพุทธิกา โทร. 0-2883-0592, 0-2886-9881 หรือ FX<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระพุทธกิติสิริชัย
    คณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้าน สร้างถวายสมเด็จนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประทานถวายนามว่า พระพุทธกิติสิริชัยเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันนธาระ มีริ้วจีวร และพระพักตร์ที่สวยงาม องค์พระก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทองมีขนาดใหญ่สูงเด่นเป็นสง่า หน้าตักกว้าง
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top><st1:metricconverter w:st="on" ProductID="10 เมตร">10 เมตร</st1:metricconverter> สูง <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="13.82 เมตร">13.82 เมตร</st1:metricconverter> ฐานสูง <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="4.18 เมตร">4.18 เมตร</st1:metricconverter> หันพระพักตร์ ออกสู่ทะเล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระผงที่หลังองค์พระ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2539 บริเวณโดยรอบพระพุทธกิติสิริชัย จะทำการบูรณะปิดทองใหม่จีงขอแจ้งผู้มีจิตศัทธาร่วมทำบุญที่ วัดสาย ประจวบคีรีขันธ์
    ติดต่อ วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์ 032-695019<o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เจริญพร ท่านพุทธศาสนิกชนที่ใจบุญทุกท่าน
    เรื่อง ขอเชิญร่วมถวายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวแด่พระสงฆ์ในถิ่นทุระกันดาน
    ในหน้าหนาวนี้ทางวัดสองเปยและวัดใกล้เคียงประสบปัญหาเรื่องของเครื่อนุ่งห่ม (จีวร+ผ้าห่ึม)และปัจจัย๔ ที่ใชในการดำรงชีวิต ทั้งนี้เพราะอยู่ในถิ่นทุระกันดานห่างใกลความเจริญ จึงลำบากในเรื่องเหล่านี้ อาตมาภาพในนามตัวแทนของคณะสงฆ์ตำบลน้ำไผ่ พระภิกษุวัดสองเปย และใกล้เคียงจึงขอเรียนเชิญเจริญพร ท่านพุทธศาสนิกชนท่านที่ใจบุญ มาร่วมสร้างบุญกุศลในการร่วมทำบุญถวาย จีวร อังสะใหมพรม ผ้าห่ม ข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค กาต้มน้ำร้อน หนังสือเรียนนักธรรม จตุปัจจัยไทยธรรม ฯลฯ ที่จะทำให้พระภิกษุสามเณรดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางความลำบาก โดยร่วมบริจาคได้โดยวิธีการต่อไปนี้
    ๑.รวบรวมแล้วแจ้งมาทางวัดทางวัดจะจัดหารถไปรับถึงที่(หากไม่ใกลจนเกินไป)
    ๒.รวบรวมแล้วเดินทางมาที่วัดเพื่อมอบให้ด้วยตนเอง(มีที่พักให้หากต้องการ)
    ๓.ส่งไปรษณีย์ธนาณัต/พัสดุมาที่วัดได้โดยตรง
    ที่อยู่ วัดสองเปย หมู่๘ ชุมชนสองเปย
    บ้านปางขามป้อม ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ๕๓๑๑๐
    โทร ๐๘๕-๖๐๔๔๘๔๙ หลวงปู่เณรพุทธชินเรศ (สามเณร บัญชา สิงห์ตา)
    ๔. โอนเงินมาที่บัญชี ทางวัด ชื่อบัญชี สามเณร บัญชา สิงห์ตา
    เลขที่บัญชี ๕๓๗-๐-๐๗๒๖๕-๕ ธนาคารกรุงไทย สาขา น้ำปาด
    สุด ท้ายนี้อาตมภาพในนามตัวแทนของผู้รับ ฯ ขออำนาจของพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอำนาจแห่งบุญกุศล จงส่งผลดลบันดาล ให้ท่านทั้งหลายจงได้สมบัติจักรพรรดิ อัศจรรย์ทันใช้กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด ทั้งลาภยศหลั่งไหล ไพรีพินาศ ปราศจากโรคภัย สว่างไสวในธรรมาสมัย เจริญด้วยจตุรพิตรพรชัยทั้ง๔ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ทุกท่านเทอญฯ
    เจริญพร
    หลวงปู่เณรพุทธชินเรศ
    ประธานกรมการศูนย์ช่วยเหลือพระสงฆ์ในถิ่นทุรกันดาน ผู้ดูแลวัดสองเปย
    อีเมล์รับข้อมูล แจ้งการบริจาค
    bhancha211@yahoo.co.th<o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...