เลเซอร์ทีวีเทคโนโลยีบันเทิงล่าสุด!

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 1 ธันวาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    'เลเซอร์ทีวี'เทคโนโลยีบันเทิงล่าสุด!

    "เลเซอร์ ทีวี" เทคโนโลยีบันเทิงล่าสุด!

    โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลายคนอาจออกปากว่า อะไรกันเนี่ย! "พลาสม่า ทีวี" กะ "แอลซีดี ทีวี" ออกมายังไม่ทันไร วงการโทรทัศน์มีเครื่องรับที่ใช้เทคโนโลยีใหม่กันอีกแล้วหรือ?

    คำตอบก็อย่างที่รู้ๆ กันนั่นแหละครับว่า เทคโนโลยีทุกวันนี้มันวิ่งเร็วปรู๊ดปร๊าดเหลือหลาย ชนิดจะจับให้มั่นคั้นให้ตายแทบไม่ได้เลย ซื้อรุ่นนี้มาใช้ อีกเพียงไม่ช้าไม่นานรุ่นใหม่ตกเข้ามาแล้ว ดีกว่า ยอดกว่า ประหยัดกว่า ฯลฯ เอาเป็นว่าอย่าไปไล่ตามมันเลยนะครับ พอเพียงตามประสา ให้สมฐานะนั่นแหละสุดยอดแล้ว

    แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะปิดหูปิดตา ไม่รับรู้การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆกันหรอกนะ การได้เรียนรู้และก้าวทันเทคโนโลยีเป็นเรื่องหนึ่ง การซื้อหามาเป็นเจ้าของเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ

    เข้าเรื่องเสียที "เลเซอร์ ทีวี" ที่ว่านี้เพิ่งจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยี พร้อมกับตัวอย่างที่ไม่ใช่ต้นแบบ (เพราะมันยังใช้งานไม่ได้จริง) ไปในงาน แสดงเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค (ซีอีเอส) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตัวต้นแบบจริงๆ คาดว่าจะอวดโฉมกันได้ในต้นปี 2551 ที่จะถึงนี้ ส่วนการวางตลาดก็คงว่ากันต่อไปหลังจากนั้น

    ตอนนี้มีผู้ที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงๆ จังๆ อยู่เจ้าเดียว (เท่าที่ทราบ) คือ มิตซูบิชิ ดิจิตอล อีเลคทรอนิกส์ โดยมีผู้ผลิต "ชิป" ที่เป็นหัวใจของมันอยู่ 2 ราย เป็นบริษัทในออสเตรเลียหนึ่ง (อาเรเซอร์) ในสหรัฐอเมริกาอีกหนึ่ง (โนวาลักซ์) หลังสุดดูเหมือนว่าทั้ง 2 รายจะจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันเรียบร้อยแล้วครับ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ฌ็อง-มิเชล เพลาปราต์ ประธานบริหารของ โนวาลักซ์ ถึงกับบอกว่า เลเซอร์ ทีวี จะเป็นผู้ "ฆ่า" พลาสม่า ทีวี ให้พ้นจากตลาดไปเลยทีเดียว (ซึ่งหลายฝ่าย รวมทั้งผมเองยังไม่เห็นพ้องเท่าใดนัก) เหตุผลของเขามีง่ายๆ ว่า เลเซอร์ ทีวี ให้สีสันที่มีความเข้นข้นมากกว่าทีวีที่ใช้เทคโนโลยีแบบพลาสม่าในเวลานี้ประมาณ 2 เท่าตัว ไม่เพียงเท่านั้นยัง บางกว่า เบากว่า แถมกินไฟน้อยกว่าอีกด้วย

    ความเข้มข้นของสีที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การจำแนกเฉดสีของ เลเซอร์ ทีวี ทำได้มากกว่า ดีกว่า ผลก็คือทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสมจริงมากกว่า คมชัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด ผู้ที่เคยเห็นการแสดงภาพเปรียบเทียบของ 2 เทคโนโลยีนี้ ยอมรับตรงกันว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ

    แล้ว เพลาปราต์ เอา แอลซีดีไปไว้ที่ไหน? คำตอบก็คือ เขาบอกว่าในระยะใกล้ แอลซีดี ทีวี จะยังครองตลาดเครื่องรับในระดับต่ำกว่า 40 นิ้วลงมา ส่วนตลาดเครื่องรับที่ใหญ่โตกว่า 40 นิ้วขึ้นไปนั้น เขาเชื่อว่า เลเซอร์ ทีวี จะตีตลาดพลาสม่ากระจุยได้ไม่ยากนัก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง "เลเซอร์ ทีวี" ยังไม่เป็นที่เปิดเผยกันมากนัก แต่โดยหลักการแล้ว "เลเซอร์ ทีวี" เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่าที่มีอยู่แล้วเข้าด้วยกันกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ ขึ้นมาให้ตาลุกกันเล่น

    หลักการทำงานของ "เลเซอร์ ทีวี" ก็เป็นแบบเดียวกับโทรทัศน์ในแบบ "เรียร์ โปรเจ็คชั่น" (ทีวีขนาดใหญ่ หนาๆ หนักๆ ที่เราเคยเห็นกันก่อนหน้าที่จะถูกพลาสม่า ทีวี ตีกระจุยนั่นแหละครับ) คือใช้หลักการสร้างภาพแบบเดียวกัน แต่ใช้ "แหล่งที่มาของแสง" แตกต่างกันเท่านั้นเอง เทคโนโลยีที่ว่านี้คือเทคโนโลยีที่เรียกว่า "ดีแอลพี" (ดิจิตอล ไลท์ โปรเซสซิ่ง) ที่บริษัทอเมริกัน เท็กซัส อินสตรูว์เมนท์ (ทีไอ) คิดค้นขึ้นเมื่อราว 20 ปีก่อน

    แต่แทนที่ "เลเซอร์ ทีวี" จะใช้ หลอดไฟฉาบปรอท ที่เรียกกันว่า เมอร์คิวรี่ บัลบ์ เป็นแหล่งกำเนิดแสง กลับใช้เป็น เซมิคอนดัคเตอร์ เลเซอร์ แยกกันสร้างแสง เลเซอร์ สีแดง เขียว และน้ำเงิน แทน เซมิคอนดัคเตอร์ เลเซอร์ ทั้ง 3 สี รวมตัวอยู่ใน "ชิป" ระดับ "เอชดี" (เขาเรียกมันว่า ดิจิตอล ไมโครมิร์เรอร์ ดีไวซ์ ครับ) ที่ให้สีและความละเอียดสูง เป็นแหล่งกำเนิดแสงแทนครับ สีที่ได้จึงมีความสมจริง เข้มข้น และมีความซับซ้อน ไล่ระดับ ไล่โทนได้ถี่ยิบ จนให้ภาพที่ คม เนียนและชัดเจนกว่า ระบบการแสดงภาพที่มีอยู่ในเวลานี้อย่างน้อยขั้นหนึ่งหรือมากกว่า

    บางคนเปรียบเปรยมันว่าให้คุณภาพเท่ากับภาพที่ได้จากการฉายฟิล์มภาพยนตร์ 35 มม.หรือสูงกว่าเลยทีเดียว

    แฟรงก์ เดอมาร์ติน รองประธานของมิตซูบิชิ ดิจิตอล อีเลคทรอนิกส์ เชื่อว่า เลเซอร์ ทีวี จะเป็นการปฏิวัติวงการโทรทัศน์ที่มีจอขนาดใหญ่ และสร้างเซกเมนต์ตลาดใหม่ขึ้นมา เขาเชื่อว่ามันจะยิ่งนิยมกันมากขึ้นเมื่อภาพยนตร์ 3 มิติ มีการผลิตกันแพร่หลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้

    ตอนนี้มีโรงภาพยนตร์ 3 ดี หรือ สามมิติ ที่ว่านี้อยู่มากกว่า 700 โรงในสหรัฐอเมริกา มีนักสร้างและผู้กำกับฯมือทองอย่าง สตีเว่น สปิลเบิร์ก,เจมส์ คาเมรอน และ จอร์จ ลูคัส ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าจะสร้างภาพยนตร์ 3 มิติต่อเนื่อง

    ที่ผมจงใจละเว้นไม่เอ่ยถึงราคาไว้ตลอดมา ก็เพราะกะเก็งกันว่า "เลเซอร์ ทีวี" ที่ว่านี้ จะออกมาเจาะตลาดระดับ "บน" โดยเฉพาะ หรืออย่างน้อยก็เป็นเช่นนั้นในระยะแรกของการผลิต

    ฟังแค่นี้แล้ว ก็ต้องบอกว่า "เลเซอร์ ทีวี" คงเป็นของเล่นเศรษฐีอยู่พักใหญ่ละ

    ราคาคงไม่ต้องพูดถึงละมังครับ!

    --------------
    ที่มา:มติชน
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01tec01011250&day=2007-12-01&sectionid=0143
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...