"เสธ.หนั่น-สุวิทย์"หนุนมมร.เอาผิด

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 2 กันยายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    คดีสร้าง"พระไตรปิฎก-พระพุทธโสธร" พระเทพวิสุทธิกวีเล็งฟ้องเรียก200ล.



    ความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) และเจ้าหน้าที่ 4 ราย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำชื่อ และตราสัญลักษณ์ของ มมร. ไปเรี่ยไรเงินเข้าโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์ และโครงการจัดสร้างและเชิญชวนเช่าบูชาวัตถุมงคลพระพุทธโสธร "รุ่นเจริญสุข" ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้น

    พระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผน มมร.ในฐานะประธานกรรมการโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์ เปิดเผยว่า กรณีการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์ของบริษัทเอกชนที่ได้นำชื่อและตราสัญลักษณ์ของ มมร.ไปแอบอ้าง เพื่อขอรับบริจาคเงินจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งพบว่ามีบุคลากรของ มมร.เข้าไปเกี่ยวข้อง และสภา มมร.มีมติให้พักงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้วนั้น ที่มีข่าวว่าอาตมาโดนสั่งพักงาน เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์นั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งให้พักงานจาก มมร. ส่วนการตั้งกรรมการสอบวินัยนั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่ควรเป็นพระผู้ใหญ่ที่อาวุโสกว่าอาตมา เพราะหากตั้งใครก็ไม่รู้มาเป็นคณะกรรมการ อาตมาก็ไม่ยอมรับ ขณะเดียวกันได้เตรียมข้อมูลที่จะฟ้องกลับกลุ่มบุคคลที่ออกมาให้ข่าว ทำให้อาตมาเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจะเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท

    "การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาทนั้น จะรอผลการสอบของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากนั้นจะฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมาของอาตมาโปร่งใส ไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย และพร้อมจะพิสูจน์ความจริงต่อคณะกรรมการ" พระเทพวิสุทธิกวีกล่าว

    นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย มมร.กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำเสนอเอกสารในคดีนี้ให้พระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม (มส.) ทุกรูปแล้ว เชื่อว่าหากทราบข้อมูลดังกล่าวจะเข้าใจเหตุผลที่ มมร.ต้องดำเนินคดี ส่วนการแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์นั้น ตนจะเดินทางไปแจ้งความเพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วันที่ 7 หรือ 8 กันยายนนี้ และยืนยันว่าจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่

    "เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะที่หน่วยงานในสังกัดเคยถูกขอรับบริจาค ให้ดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่กระทำผิดอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะช่วยเหลือหากมีใครมาข่มขู่ให้ยุติการดำเนินคดีดังกล่าว"

    นายสงกรานต์กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ มมร.จะส่งหนังสือแจ้งมติของที่ประชุมสภา มมร.กรณีเห็นชอบสั่งพักงาน และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงให้ผู้บริหาร มมร.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 โครงการรับทราบ เมื่อได้รับหนังสือแล้ว ทั้ง 4 ราย ต้องพักงานทันที เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงดำเนินการ ซึ่งพระเทพปริยัติวิมล อธิการบดี มมร.ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว 6 ราย ประเด็นที่สอบวินัย เช่น กรณีลงนามแทนอธิการบดีโดยไม่ได้รับอนุญาต การนำชื่อและตราสัญลักษณ์ของ มมร.ไปเรี่ยไรเงิน รวมทั้งจำนวนเงินบริจาค และเส้นทางการเงิน เป็นต้น คาดว่าจะใช้เวลาในการสอบสวน 1 เดือน

    "ส่วนที่ผู้บริหารระดับสูงของ มมร.ออกมาตอบโต้ และขู่ฟ้องกลับผมและคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและศึกษารายละเอียดการดำเนินการโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์ โดยจะเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท ข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ผมมองว่าฟ้องเพื่อแก้เกี้ยวเท่านั้น แต่ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ผมและคณะกรรมการพร้อมชี้แจง และต่อสู้ในชั้นศาล ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการดำเนินการคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว พิจารณาตามเอกสารและหลักฐาน ไม่มีเจตนาในการกลั่นแกล้ง หรือต้องการทำให้บุคคลใดเสื่อมเสียชื่อเสียง" นายสงกรานต์กล่าว

    ˹ѧ
     

แชร์หน้านี้

Loading...