เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 17 สิงหาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔


     
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    วันนี้ตรงวันอังคารที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ก็มีสารพัดเรื่องประดังกันเข้ามา มีอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ ค่าเทอมของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ที่บรรดานิสิตเข้าไปตรวจสอบรายชื่อตนเอง เพื่อรับสิทธิ์ในการลดค่าเทอม

    เมื่อกระผม/อาตมภาพถามไปถึงตารางค่าเทอมใหม่ที่ลดแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาคิดเปอร์เซ็นต์เอง ปรากฏว่าได้รับคำตอบกลับมาว่า เป็นแค่นโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเท่านั้น ยังไม่ได้มีคำสั่งลงมาถึงทางมหาวิทยาลัยเลย

    ก็คือในลักษณะของการ "เคาะกะลาให้หมาดีใจ" ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นงานถนัดของนักการเมืองเขา อย่างเช่นว่า ช่วยขอเงินเยียวยาเนื่องในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถวายพระรูปละ ๑๐๐ บาท ท้ายสุดออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี ลดลงเหลือรูปละ ๖๐ บาท แต่จนป่านนี้ก็ไม่ได้เห็นสักบาท นี่ก็เป็นลักษณะของการ "เคาะกะลาให้หมาดีใจ"เช่นกัน

    กระผม/อาตมภาพก็เลยตัดสินใจว่า พระภิกษุสามเณรของทองผาภูมิทั้ง ๒๖ รูปที่จะต้องจ่ายค่าเทอม กระผมจะช่วยจ่ายให้เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็คือลด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไปเลย ไม่ใช่ลด ๕๐ เปอร์เซ็นต์อย่างที่ อว. ประกาศมา ในเมื่อรัฐบาลทำไม่ได้ พระจะทำให้ดูเอง...! แต่สำหรับพระนิสิตของอำเภออื่น ๆ ก็คงต้องทนรอกันต่อไป ว่าจะได้รับการเยียวยากันเมื่อไร

     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เรื่องที่สองก็คือ โรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน ไม่พอที่จะรองรับผู้ป่วยแล้ว แม้ว่ามีการจำหน่ายออก ๒ ครั้ง รวมแล้ว ๘ คน ก็คือตรวจสอบแล้วว่าหายดี ส่งกลับไปกักตัวที่บ้านต่ออีก ๑๔ วัน แต่กลับพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสามสี่สิบคน..! วันนี้ตอนบิณฑบาต โรงน้ำแข็งก็ปิดแล้ว ร้านขายข้าวสารของโรงสีกิตติ์ปวรก็ปิดเรียบร้อย ผู้ติดเชื้อมากขึ้นทุกที

    กระผม/อาตมภาพถึงต้องรีบสั่งซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต (ATK) ที่ใช้สำหรับโรคซาร์สหรือโรคโควิดโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาแพงมาก แต่ว่าได้รับความกรุณาจากทางร้านชาลิสาเภสัช จำหน่ายให้ในราคาต้นทุน ไม่เอากำไร ไม่มีแวต (VAT) แถมยังไม่มีค่าขนส่งอีก ที่ตั้งใจซื้อมาเพื่อที่จะให้คณะ อสม.ของตำบลท่าขนุน ทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกสำหรับบุคคลในชุมชนของเรา ซึ่งถ้าหากว่ามัวแต่รองบประมาณของรัฐ ก็อาจจะป่วยตายกันหมดเสียก่อน..!

    คราวนี้รายจ่ายพวกนี้ก็เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย เพราะว่าคนป่วยเต็มโรงพยาบาลสนามจนต้องขยับขยาย ตอนนี้ทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ มองไปที่โรงยิมหรือหอประชุมของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ว่าจะต้องทำเป็นศูนย์พักคอย หรือว่าโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง

    ที่ต้องแจ้งให้ญาติโยมได้ทราบ เพราะว่าจะโยกย้ายเหรียญพญาเต่าเรือนเปิดโลกพลิกชีวิต (เต่าจิ๋ว) รุ่น ชนะจน พ้นภัย ไร้โรค โชคดี จากกระทู้กฐินปลดหนี้ ไปไว้ที่กระทู้สร้างโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุนแทน เพื่อให้ญาติโยมที่ตั้งใจบูชาวัตถุมงคล แต่มีปัจจัยน้อยหน่อย ก็จะได้ร่วมทำบุญกับทางโรงพยาบาลสนามของเราได้

    ซึ่งตรงนี้ ส่วนใหญ่แล้วทางวัดท่าขนุนที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ ก็เพราะว่าได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมผู้มีใจบุญ มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาค ไม่ว่าจะบริจาคโดยไม่ขอรับวัตถุมงคล หรือว่าบริจาคเพื่อได้รับวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกก็ตาม ถ้าหากว่าไม่มีท่านทั้งหลายเหล่านี้ ทางวัดท่าขนุนก็ไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เลย


    ก็ขอโอกาสตรงนี้เจริญพรขอบพระคุณทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือว่าคฤหัสถ์ ที่ได้ร่วมกันสนับสนุนทางวัดมาโดยตลอด แม้กระทั่งท่านที่อยู่ต่างประเทศ ก็ยังให้การสนับสนุนด้วยการเข้ากระทู้ไปบูชาวัตถุมงคล ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่กำลังคุกคามคนทั้งโลกอยู่ในขณะนี้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เรื่องที่สามก็คือ มีผู้ถามมาว่า มีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญหรือมีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์ สามารถนำออกจากฝัก วางไว้บนหิ้งพระได้หรือไม่ ? แล้วมีผู้ที่เอากฎเกณฑ์กติกาของมีดหมอชาตรี วัดท่าซุงมาตอบแทนว่า ห้ามชักมีดหมอออกจากฝัก เพราะว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงตกลงกับท้าวมหาราชทั้ง ๔ ว่า ถ้าลูกศิษย์ชักมีดหมอออกจากฝัก แปลว่าฉุกเฉินแล้ว ต้องการความช่วยเหลือด่วน ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่

    มีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญหรือมีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์ อาตมภาพตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อเป็นมีดใช้งาน ท่านจะใช้หัวหกก้นขวิดขนาดไหนก็ยังได้ แล้วทำไมจะชักออกจากฝักมาเพื่อป้องกันสนิม วางไว้บนหิ้งพระเฉย ๆ ไม่ได้ ?


    เพียงแต่ว่าท่านจะทำอะไร ก็ยกมีดจบเหนือหัว นึกขออนุญาตเทวดาหรือพรหมที่ท่านรักษา ขอทำอย่างไรก็บอกกับท่านไป ใช้เสร็จเรียบร้อย ทำความสะอาด เช็ดแห้งแล้ว จะเก็บกลับคืนเข้าฝัก หรือถ้ากลัวว่าทิ้งไว้นาน ๆ สนิมจะกินง่าย เพราะว่าฝักมีดมักจะอมความชื้น ก็สามารถที่จะไว้บนหิ้งพระ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ฝักก็ได้

    แต่ว่าด้วยความที่มีดคมมาก ต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กตะกายขึ้นไปหยิบเล่น เพราะว่าในเรื่องของมีดหมอ ถ้าหากว่าบาดแล้ว ก็ต้องเอาด้ามมีดฝน แล้วเอาน้ำตรงนั้นมาทา ถึงจะรักษาแผลให้หายได้ ไม่อย่างนั้นจะมีลักษณะเหมือนกับแผลกลาย ก็คือรักษาไม่หายสักที

     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าการเสกมีดหมอนั้นต้องอาศัยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม อย่างเช่นว่า ใบมีดจะมีธาตุดินเป็นแกน มีธาตุไฟหุ้มอยู่ เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย หรือว่าเพื่อที่จะให้ภูติผีปีศาจกลัวเกรง

    ในส่วนของฝักมีดจะเป็นธาตุลม หุ้มด้วยธาตุดิน เหตุที่เป็นธาตุลม ก็เพื่อว่าได้ช่วยให้ไฟสามารถลุกติดได้อยู่ตลอดเวลา

    ในส่วนของด้ามนั้น เป็นธาตุดินหุ้มด้วยธาตุน้ำ ในเมื่อท่านทั้งหลายโดนใบมีดที่เป็นธาตุไฟบาดเข้า จึงต้องเอาธาตุน้ำมาดับ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตำราสร้างมีดหมอของครูบาอาจารย์ท่านอื่นมีอย่างไร แต่ตำราสร้างมีดหมอ ตามสายครูบาอาจารย์ก็คือหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ ที่ลงมาจนกระทั่งถึงหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ศึกษาและทำกัน
    มาแบบนี้

    ดังนั้น...ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า มีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญก็ดี มีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์ก็ตาม ท่านสามารถทำความสะอาดแล้ว ไม่ต้องสวมกลับคืนฝักก็ได้ หรือว่าแม้กระทั่งมีดหมออื่น ๆ ก็ใช้กฎเกณฑ์กติกาเดียวกัน ก็คือบอกกล่าวให้เทวดาหรือพรหมที่ท่านรักษาได้รู้ว่า เราจะทำอะไร แล้วค่อยทำอย่างนั้น

    ไม่เช่นนั้นอย่างการปลุกเสกมีดหมอชาตรีรอบแรกที่วัดท่าซุง ท้าวมหาราชท่านฟ้องหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า ลูกศิษย์ของท่านชักมีดหมอเล่นกันเป็นของสนุก ก็ในเมื่อท่านให้พรไว้ว่า ถ้าชักมีดแล้วท่านต้องเตรียมพร้อม ซึ่งต้องบอกว่าเตรียมกองทัพเทวดาไว้ช่วยเหลือ คราวนี้พอไปชักกันเล่นสนุก ก็เหมือนอย่างกับเรามีสัญญาณภัยอยู่ในมือ แล้วไปกดเล่นอยู่ตลอดเวลา อย่าว่าแต่มนุษย์เลย เทวดาก็ประสาทกลับได้เหมือนกัน..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    อย่างอาตมภาพ ถึงเวลาจะชักมีดหมอชาตรีออกมาทำความสะอาด ก็บอกกล่าวท่านก่อนว่า "นี่เป็นการทำความสะอาดเท่านั้น ตอนนี้ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไร" ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร

    ในเรื่องของคำสั่งครูบาอาจารย์ หรือว่าอะไรก็ตาม ท่านทั้งหลายปฏิบัติตามได้เป็นการดี แต่บางท่านก็ปฏิบัติตามแบบเถรตรง มีดหมอชาตรีของอาตมภาพพกมา ๓๐ กว่าปีแล้ว สนิมสักจุดก็ไม่มี แต่หลายท่านชักมีดออกจากฝักไม่ได้ เพราะว่าสนิมกินติดตายคาฝักไปแล้ว..! เรื่องพวกนี้ก็ต้องบอกว่า แล้วแต่ประสบการณ์และปัญญาของแต่ละท่าน ว่าจะพลิกแพลงทำอย่างไร ที่ให้เกิดผลดีแก่ตนให้มากที่สุด

    ดังนั้น...ในส่วนที่ได้บอกกล่าวแก่พวกเราในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโยกย้ายวัตถุมงคล จากกระทู้หนึ่งไปยังอีกกระทู้หนึ่ง เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมบุญสนับสนุนโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน แล้วก็เท่ากับสนับสนุนศูนย์พักคอยที่อื่น ๆ ที่เราจะไปร่วมด้วยช่วยกันกับเขา หรือว่าในเรื่องของผู้ที่ถามมาในปัญหาข้อนี้ ก็จะได้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติต่อมีดหมอได้ถูกต้องกันต่อไป

    จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...