เอกภพ จักรวาล สุริยะ ดาวเคราะห์ ดาวเทียม ดวงจันทร์ ยานอพอลโล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ทูต, 8 มกราคม 2010.

  1. ทูต

    ทูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +466
    [ความรู้สงวนไว้เฉพาะชื่อในนามคุณทูต เพราะเป็นอจินไตยข้อที่ 4กับ3]​
    เพื่อความเป็นกลางที่จะไม่ใช้ดาวเคราะห์ที่เราได้มาเกิดนี้เป็นศูนย์
    มาทำความเข้าใจหน่วยเรียก ดาราศาสตร์ต่างๆกัน
    ทั้งคำศัพท์โบราณ และ คำศัพท์วิทยาศาสตร์
    เริ่มด้วยคำว่า
    จักรวาล [ภาษาบาลี]
    กาแลกซี่ [ภาษาวิทยาศาสตร์]
    ยูนิเฝิซ [ภาษาวิทยาศาสตร์]
    ความหมายเหมือนกัน
    ในบทความนี้จะใช้คำว่าจักรวาลในการเรียกชื่อ

    ระบบสุริยะจักรวาล
    ระบบดวงอาทิตย์จักรวาล
    ระบบดาวฤกษ์จักรวาล
    กล่าวถึง สุริยะจำนวนหลายล้านดวงโคจรเป็นจักรวาล
    สุริยะ [ภาษาบาลี]
    อาทิตย์ [ภาษาบาลี]
    ฤกษ์ [ภาษาบาลี]
    ความหมายเหมือนกัน


    ภูเขาสิเนรุ
    มีลักษณะกลมรูปจาน [ก็คือจักรวาล]
    มีภูเขาจักรวาลอยู่รอบเรียงกันเป็นรูปจักร
    ยอดสุดมีหลุมดำเป็นแกน [ใจกลาง]
    ที่อยู่ของพรหมตามลำดับภพภูมิ [หลุมดำทำให้เกิดความยืดของเวลา]
    แบ่งเขตทวีปเป็น สี่ ส่วน
    ในที่นี้จะกล่าวเพียง ชมพูทวีป คือ ระบบดาวเคราะห์สุริยะ กับ สุริยะ
    ในเขตใต้ของสิเนรุ ทั้งหมด [คร่าวนี้ก็จะได้รูปทรงตัด แบบสามเหลี่ยมในมุมแบบภูเขา]


    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ
    ที่เรามาเกิดกัน [แล้วจะเรียกว่าอะไร ? ชื่อเรียก ไม่มี งั้นมาตั้งชื่อเดียวนี้เลย]
    สุริยะชื่อ28/26/5/36/11/29
    มีระบบดาวเคราะห์ 8 ดวง
    ดาวเคราะห์ใดที่มีสภาพแวดล้อมก่อเกิดสารอินทรีย์
    [ชื่อเรียก ไม่มี งั้นมาตั้งชื่อเดียวนี้เลย]

    ดาวเคราะห์ชื่อ ดิน มีโลกอาศัยอยู่ได้

    โลก คำศัพท์นี้ควรใช้ให้ถูกต้อง
    หมายถึง อารยธรรม วัฒนธรรม บุคคล
    ไม่ควรนำมาใช้เรียกตั้งชื่อดาวเคราะห์ เพราะจะทำให้สับสนกับความหมายเดิม
    [ใช้ผิดกันทั้งประเทศไทย]
    map fo the World แผนที่โลก แสดงเส้นแบ่งการปกครองของสิ่งมีชีวิต
    map fo the Earth แผนที่พื้นดิน แสดงภูมิประเทศไม่มีการแบ่งเขตของสิ่งมีชีวิต

    ระบบดวงจันทร์ดาวเคราะห์ดิน [ชื่อเรียก ไม่มี งั้นมาตั้งชื่อเดียวนี้เลย]
    ชื่อ ดวงจันทร์มอน [ชื่ออื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมความเชื่อในแต่ละภูมิประเทศ]

    ส่วนสุริยะที่ไม่มีระบบดาวเคราะห์ ก็ไม่มีเรื่องราวให้ได้รู้

    เราไม่จำเป็นต้องเรียนเรื่อง จักรวาลอื่นมากนัก เพราะเหมือนๆกัน
    จำนวนของจักรวาลทั้งหมด เรียก เอกภพ [สิ้นสุดที่คำศัพท์สมมุตินี้]

    แต่ละจักรวาล มีเรื่องราวต่างๆกันไป
    ทำให้รูปทรงของจักรวาลแตกต่างไปด้วย
    เป็นผลจากแรงกรรมของวิญญาณทุกๆดวง ที่มีผลต่อมวลสาร ที่ใช้ในการประกอบร่างกาย เป็นเวลานานไม่ต้องคิด[อจินไตยข้อที่3]

    วิญญาณไม่สามารถอยู่เดี่ยวๆได้ มีเพียง อรูปพรหมเท่านั้น ที่ไร้ร่างกาย
    วิญญาณจะมีร่างกายเสมอ เกิดกับตาย มีความหมายเหมือนกันแต่ต่างทิศทาง
    เกิด วิญญาณหลุดจากสสารหนึ่งไปยังอีกสสารหนึ่ง ซึ่งก็เป็นความตายด้วย


    ตาย > เกิด
    ตายแล้วก็เกิดทันที
    เวทย์มนต์ ที่หมอผีมีคือ [ชื่อก็บอกอยู่แล้ว] เวทย์มนต์ในการจับขังโอปาติกะ


    ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโอปาติกะ ก่อน เริ่มเรื่อง​
    โอปาติกะ คือ ชื่อเรียกร่างกายของวิญญาณ ที่ตายแล้วเกิดสู่สสารทิพย์
    สสารทิพย์ ก่อตัวเข้ากับวิญญาณเป็น โอปาติกะ
    วิญญาณอยู่ในโอปาติกะ
    ร่างกายก่อตัวจากแรงกรรม

    ภูติ มีเฉพาะสิ่งมีชีวิตพลังงาน เช่น ปอบ เหล็กไหล และภูติอื่นๆ มีเท่านี้ที่สำรวจ[ลงวันที่ทูต 2553] ถ้าชนิดอื่นไม่มีที่ดาวเคราะห์ดิน
    ผี มีเฉพาะโอปาติกะ
    ปีศาจ มีทั้ง2 โอปาติกะ กับ เซลล์
    อสุรกาย มีทั้ง2 โอปาติกะ กับ เซลล์

    เซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นองค์ประกอบสิ่งมีชีวิต
    สัตว์ < เป็นเซลล์หลายเซลล์ที่ก่อเกิดเซลล์สมองและเซลล์กระแสประสาทให้วิญญาณจุติ
    พืช < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    ฟังไจ < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    โพรทิสตา < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    โครมาลวีโอลาตา < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    เอกซ์คาวาตา < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    ไรซาเรีย < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    อะมีโบซัว < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    อาร์คีแบคทีเรีย < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
    ยูแบคทีเรีย < เป็นเซลล์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

    สัตว์เซลล์เดี่ยว
    ปะการัง เป็นเซลล์สัตว์ชนิดเดียวกันทั้งหมดและไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

    เข้าเรื่องกัน หมอผี มีเวทย์มนต์ในการจับขังโอปาติกะผี สั่งให้ทำงานตามที่ต้องการ
    และคนที่สติแตกหรือสติฟั่นเฟือน ก็เกิดจากการเรียนคาถาเวทย์มนต์สายนี้
    แล้วเวทย์มนต์เสื่อม ผีหลุดโดนหลอกหลอน

    สมมุติฐาน จักรวาล
    จักรวาลชื่อM104 มีมวลสารรอบฐานสิเนรุสูงมากเป็นที่อยู่ของมหานรก8ขุม
    ส่วนแกนกลางมีมวลน้อยเป็นที่อยู่พรหมโลก

    จักรวาลชื่อCrab Pulsar แกนกลางเปล่งแสงออกเป็นแนวตรงทั้ง2ด้านปริมาณมาก เป็นที่อยู่พรหมโลก
    รอบฐานสิเนรุมีมวลน้อยเป็นที่อยู่ของมหานรก8ขุม

    จักรวาลชื่อCrab Pulsar สันนิฐานว่ามีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติขึ้น
    ทำให้โลกจำนวนทั้งหมดในจักรวาลแห่งนั้นมีแต่ความสว่างไม่มีความมืดเลย

    สรุป การใช้คำศัพท์หน่วยเรียกดาราศาสตร์ที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างนี้
    เอกภพ [จักรวาลต่างๆทั้งหมดไม่มีเหนือหรือนอกอีก]
    จักรวาล
    ระบบสุริยะจักรวาลทางช้างเผือก
    สุริยะ28/26/5/36/11/29
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ28/26/5/36/11/29
    ดาวเคราะห์วงโคจรที่3 ดิน
    ระบบดาวเทียมดาวเคราะห์ดิน
    ระบบดวงจันทร์ดาวเคราะห์ดิน
    ยานอวกาศอพอลโล
    ดวงจันทร์มอน
    ระบบก้อนดินดวงจันทร์มอน
    ขนาดเท่ารถยนต์1ก้อน
    ขนาดเท่ากำมือ1ก้อน

    ยังมีหลายคนในเว็บไซพลังจิต ที่ยังใช้คำศัพท์ผิดอยู่เยอะเพราะไปสับสนกับคำว่าโลกด้วยดาวเคราะห์ สุริยะด้วย จักรวาลด้วย หรือหน่ยวเรียกจากพระไตรปิฎก ชื่อทวีปของจักรวาล พระไตรปิฎก เขียนถึงจักรวาลทางช้างเผือกมากที่สุด 98%
    จักรวาลอื่นๆมีกล่าวถึงเพียง 2%
    ยกตัวอย่าง
    ที่ที่เราอยู่คือดาวเคราะห์ซึ่งมีองค์ประกอบในการก่อเซลล์จุติของตัวตนผู้รับรู้
    เราไม่สามารถมองเห็นเส้นแนวโคจรของดาวเคราะห์ที่เรียกว่า พุธ ศุกร์ อังคารได้ หรือ ดิน ต้องลากเส้นกำกับไว้ในแบบจำลองกราฟฟิก
    แล้วไปเรียกหลงเอาว่า ระบบสุริยะจักรวาล คำคำนี้ เป็นคำเดียวกันกับจักรวาล
    แต่คำนี้ระบบสุริยะจักรวาลกำลังจะกล่าวถึงหน่วยย่อยลงไปในจักรวาลเรียกว่าสุริยะหรือฤกษ์ นั้นเหละ จำนวนเป็นล้านๆๆๆๆดวงอาทิตย์
    โดยมีชื่อเรียกต่อท้ายว่า ระบบสุริยะจักรวาลทางช้างเผือก
    แต่ถ้ากล่าวแบบ เอกภพ ก็จะใช้คำว่า จักรวาลทางช้างเผือก
    จักรวาลแอนโดรเมด้า จักรวาลM104 จักรวาลCrab Pulsar อื่นๆอีกมากนับไม่ได้ นับเท่าที่นับได้
    มันคือเรื่องของมุมมองอีกด้วย
    หากเราเป็นมนุษย์มีชีวิตดำรงอยู่ใน จักรวาลM104
    ระบบสุริยะจักรวาลM104 มีจำนวนดวงอาทิตย์ หลายล้านดวง
    ไปสักแห่งหนึ่ง ระบบดาวเคราะห์สุริยะA1 มีดาวเคราะห์ 3ดวง
    ดาวเคราะห์ซึ่งมีองค์ประกอบในการก่อเซลล์จุติของตัวตนผู้รับรู้
    ดาวเคราะห์โคจรที่2 มีโลกมนุษย์ดำรงอยู่
    หรือไม่ต้องไปกล่าวถึงไกลขนาดนั้น กลับมายงมุมมองง่ายของเราอีกครั้ง
    ระบบสุริยะจักรวาลทางช้างเผือก ก็มีระบบดาวเคราะห์สุริยะอยู่มากมาย
    ไปที่
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ 28/26/5/36/11/29
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E1
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E2
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E3
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E4
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E5
    สุริยะ E6
    ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E7
    สุริยะ E8

    กล่าวถึง ระบบดาวเคราะห์สุริยะ E4 มีดาวเคราะห์ 2ดวง แต่ไม่มีดาวเคราะห์ที่มีองค์ประกอบในการก่อเซลล์จุติของตัวตนผู้รับรู้ ทั้ง2เป็น ก๊ดาวแก๊ส
    กล่าวถึง สุริยะ E6 ไม่มีดาวเคราะห์เลย


    สุริยะ อาทิตย์ ตะวัน ฤกษ์ เหมือนกัน มองไปที่แสงจ้านอกบ้านโน้น อย่าอยู่แต่กับคำศัพท์สมมุติของสถานะวัตถุ มวลวัตถุ ชื่อเรียกต่างๆให้บ้าตาย


    [ความรู้สงวนไว้เฉพาะชื่อในนามคุณทูต เพราะเป็นอจินไตยข้อที่ 4กับ3]
    ห้ามคัดลอกเก็บไว้หรือเผยแพร่ไปที่อื่น ดูได้เฉพาะเว็บไซพลังจิตเท่านั้น​
     

แชร์หน้านี้

Loading...